6
หลังจากวันที่ไปนั่งดูอีกคนซ้อมแข่ง ผ่านมาแล้ว2สัปดาห์...
และอีก2วัน จะถึงวันแข่งจริง
อิงยืนรอคนที่ตัวเองส่งข้อความนัดหมายให้มาพบ
ร่างสูงใหญ่บุคลิกโดดเด่น เดินแผ่ออร่ามาตั้งแต่ลงจากรถยนต์คันงาม แม้จะอยู่ในชุดลำลองสบายๆก็ตาม
ปี3ไม่ค่อยได้มาม.มากนักในเทอมนี้ ส่วนมากสุมหัวกันทำงานมากกว่า
“ รอนานไหม?”
“ ไม่นานครับ เพิ่งมาเหมือนกัน” ส่ายหัวช้าๆประกอบคำ
หยิบของในกระเป๋าสะพายที่มีถุงกระดาษใบเล็กสีน้ำตาลเข้มดูค่อนข้างหรูหรา ยื่นส่งให้คนตรงหน้า
“ ฝากให้พี่เขาหน่อยนะครับ ไม่ต้องบอกว่าจากใคร แล้วอิงจะเลี้ยงข้าวตอบแทนนะครับ”
บอกกับรุ่นพี่อย่างเกรงใจ สายหมอกรับถุงใบเล็กมาไว้ในมือ เขาไม่รู้ว่าของข้างในคืออะไร
“ แม้ว่าผลมันจะออกมายังไงอย่างนั้นเหรอ?” เขาไม่ได้อยากตัดกำลังใจรุ่นน้อง แค่พูดให้เผื่อใจไว้บ้างเท่านั้น
ในเมื่อเลือกจะเป็นเงา ก็ต้องอยู่อย่างเงา...
อิงก้มหน้าลง
“ครับ ขอแค่พี่เขารับมันไว้เท่านั้น” แค่นั้นจริงๆที่ต้องการ
“ เกียร์มันไม่ใจร้าย ขนาดโยนทิ้งถังขยะหรอกน่า สบายใจได้”
มือใหญ่วางลงบนไหล่รุ่นน้อง แล้วตบลงเบาๆอย่างให้กำลังใจ
“ ขอโทษที่รบกวนเวลาพี่นะครับ” ไม่รู้ว่ารุ่นพี่ต้องแบ่งเวลานอนมาหาเขาหรือเปล่า
.....แถมยังอยู่ในช่วงกีฬามหาลัยอย่างนี้ด้วยแล้ว
“ ไม่เป็นไรๆ อย่าลืมเลี้ยงข้าวพี่ตอบแทนแล้วกัน” สายหมอกบอกทีเล่นทีจริง เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าต้องรู้สึกเกรงใจเขาไปมากกว่านี้
.... อีกอย่างเป็นเขาเองด้วยที่เต็มใจในการช่วยรุ่นน้องคนนี้
แต่อิงกลับคิดว่ายังไงก็ต้องทำ เพราะอย่างน้อยคนตรงหน้าก็คอยส่งข่าวของอีกคนให้เขาอยู่เรื่อยๆ
...มีทั้งรูปภาพแนบคำบรรยายขำๆตลกๆ
....คลิปเสียงเวลาพวกพี่ๆเขาอยู่ด้วยกัน วันนี้เหนื่อย....วันนี้กินข้าวกับอะไร วันไหนไม่ได้นอน
วันไหนไม่ได้อาบน้ำ อิงรู้หมดแทบจะทุกอย่าง
เพราะสายหมอกคอยส่งข่าวพวกนี้ มาทางโซเชียลให้เขาในทุกๆวัน 3เวลาหลังอาหารจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเลยก็ว่าได้
อิงก็ตอบแทนบ้างเป็นขนมกับเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆที่พร้อมกับฝากไปให้ใครอีกคนในตัวด้วย
งานพาร์ทไทม์ที่ทำหลังเลิกเรียนวันล่ะ2-3ชม. ทำให้เขาไม่เดือดร้อนอะไรมากนักในส่วนนี้
... และนี่เป็นของชิ้นแรกนอกจากของกินที่อิงฝากถึงอีกคน
นึกอยากทำให้เพราะตอนไปดูพวกรุ่นพี่ซ้อมคราวก่อน คนตัวใหญ่หัวตั้งวิ่งปาดเหงื่อบ่อย ดึงเสื้อกีฬาขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตา
จนเนื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่ออยู่แล้วยิ่งชุ่มขึ้นไปอีก
อิงกล่าวขอบคุณอีกครั้งก่อนทั้งสองจะแยกจากกัน
โดยไม่รู้ตัวว่าถูกแอบถ่ายภาพพวกเขาทั้งสองเอาไว้....
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานกีฬามหาลัย.....
ซึ่งพิธีเปิดได้จัดขึ้นเมื่อวาน แล้ววันนี้ก็เป็นวันปิดพิธีนั้น
แต่ก่อนจะถึงช่วงปิดงาน วันนี้ทั้งวันจะมีการแข่งขันกีฬาต่างๆ ที่แข่งรอบคัดเลือกมาแล้ว แล้วแข่งเฉพาะรอบชิงเท่านั้น
อิงใจเต้นตึกๆ เมื่อเข้าไปในโรงยิมที่เวลาการแข่งขันบาสเก็ตบอลชาย ระหว่างคณะวิศวะกรรมศาสตร์กับเกษตรศาสตร์ กำลังจะใกล้เข้ามาในอีกไม่กี่นาทีนี้
เพราะเป็นเด็กปีหนึ่งทำให้อิงกับเพื่อนได้รับมอบหมายหน้าที่นั่นนี่ จนไม่มีเวลาได้ไปดูการแข่งของคณะวิศวะในทุกๆรอบที่ผ่านมา
คณะอักษรที่พวกเขาเรียนอยู่นั้น ตกรอบแรกไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวอชิรวิชณ์เองได้รับเกียรติจากรุ่นพี่ (บังคับ) ให้ถือป้ายคณะ เขาต้องวุ่นวายหลายอย่าง
ทั้งเตรียมตัวแต่งตัว ทั้งช่วยจัดแสตนด์เชียร์ และอีกสารพัดอย่างที่จะต้องช่วยกันทำกับเพื่อนๆ
แต่บาสรอบชิงนี้ยังไงเขาก็ต้องมาดูให้ได้
“กรี๊ดดดด!!..”
“เฮฮฮฮ!!!!...”
“กรี๊ดดด! พี่หมอกค๊า!...พี่เกียร์ขา!..โอ๊ยฉันจะเป็นลม ทำไมหล่ออะไรอย่างนี้!”
“กรี๊ดดด!..พี่ไฟ ทางนี้ค่ะ”
“พี่เขื่อน พี่ไม้ สามีค๊า ทางนี้ค่า!!”
เสียงกรีดร้องดัง ขึ้นเมื่อนักกีฬาของทางฝั่งเกษตรเดินลงไปในสนามเพื่อวอร์มร่างกาย
แต่เสียงร้องเฮที่ดังกว่า เมื่อฝั่งคู่แข่งอย่างวิศวะ ที่นำทีมโดยอดีตเดือนมหาลัย เดินเข้ามา ยังสนามฝั่งตรงข้าม
เสียงเรียกชื่อบุคคลที่ตนหลงใหลดังไม่ขาดสาย สายหมอกโบกมือให้แฟนสาวคณะนิเทศศาสตร์
ก่อนจะหันมาโบกมือทักทายกับอชิรวิชณ์
เมื่อยกมือทักทายกับอีกคนเสร็จ จะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่
มีช่วงเวลาหนึ่งที่อิงสบตาเข้ากับร่างสูงเบอร์11 เข้าอย่างจัง
สายตาที่มองผ่านกรอบเลนส์นั้นคล้ายกำลังไม่ชอบใจอะไรสักอย่างในตัวเขา
แม้จะเพียงไม่กี่วินาทีที่เกิดขึ้น...
แต่สำหรับอิงแล้วชั่วระยะเวลาแค่นั้น ทำเอาหัวใจของเขามันทั้งตื่นเต้น ทั้งตื่นตระหนก
ทำไมอีกคนมองเขาด้วยสายตาอย่างนั้น!?
ไล่สายตาลงไปตามลำแขนล่ำสันของคนที่เพิ่งเบือนสายตาไปอีกทาง
ข้อมือตลอดทั้งลำแขนแกร่งนั้นมัน... ว่างเปล่า
หรือเพราะรู้ว่า เป็นเขาที่ให้ของสิ่งนั้น อีกฝ่ายถึงไม่พอใจเขาอย่างนี้
ที่ผ่านมาต่อให้เดินสวนกันพวกเขาก็ไม่เคยแม้แต่จะสบตากันด้วยซ้ำ
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่... มันต่างออกไป คล้ายว่าอีกคนตั้งใจมองสบตาเขาเสียเองอย่างนั้น
จะสื่ออะไร? พี่จะสื่ออะไรเหรอครับ? หรือจะบอกกันทางสายตาว่า
“อย่ามายุ่งกับกู” อย่างนั้นหรือเปล่า
ใจของคนเฝ้าแอบรักเริ่มปวดร้าว แค่จะรักยังไม่ได้อย่างนั้นหรือ
ร่างโปร่งบางนั่งก้มหน้าซ่อนดวงตาแห่งความผิดหวัง ไม่ให้ใครได้เห็น
ตอนนี้ไม่ใช่แค่มือ กับแข้งขาที่กำลังสั่นไหว แต่หัวใจเขามันยิ่งกว่าความหนักหน่วงทั้งหมดที่เคยมี
...รังเกียจกันจนต้องมองด้วยสายตาอย่างนั้นเลยเหรอครับพี่เกียร์?
... แค่รักข้างเดียวยังไม่ได้หรือครับ?
.... เกย์อย่างผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ?
ยังไม่จบควอเตอร์แรกด้วยซ้ำ ที่อิงทนนั่งกลั้นหยดน้ำตาเอาไว้ต่อไปอีกแทบไม่ได้
และเขาดูการแข่งนั่นไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าใครนำใครตาม ไม่ใช่ว่าดูไม่เป็น แต่ไม่มีกะจิตกะใจจะดูต่างหากเล่า
“ ฟ้ากูปวดท้อง ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะเว้ย ”
ข่มเสียงที่สั่นเครือ บอกกับหนุ่มร่างโปร่งที่ตัวพอๆกันกับเขาเพราะนั่งชิดเขาที่สุด
“ เออๆ รีบมาล่ะ”
โชคดีที่อีกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาดูการแข่งขันตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ เพราะคนรักของมันก็กำลังวิ่งพล่านในสนามอยู่
บวกกับเสียงที่ดังขึ้นไม่ขาดสายทำให้กลบเสียงสั่นๆของเขาได้เป็นอย่างดี
“ ฮึก..”
ไม่ได้ตรงไปห้องน้ำอย่างที่บอกเพื่อน แต่ตรงกลับห้องพักอย่างรวดเร็ว
....เขาขอเวลาสักหน่อย
แค่อีกไม่ถึง2ชม.ที่จะต้องไปเตรียมตัวถือป้ายคณะในพิธีปิด เขามีเวลาให้ร่ำร้องเสียใจเพียงเท่านั้นในตอนนี้
“ เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ฮึก...”
ซบหน้ากับพุงเจ้าหมีดุตัวใหญ่แล้วพร่ำตัดพ้ออีกคน ที่ป่านนี้เสียงเชียร์เสียงเรียกชื่อก็คงจะยังไม่เบาบางลง
ปล่อยหยดน้ำให้รินรดกับเสื้อตัวเล็กๆนั่น ไม่รู้กี่หยดต่อกี่หยด.... จนสาแก่ใจ
ถึงได้ไลน์บอกเพื่อนว่า พวกพี่ๆเรียกไปแต่งตัวไม่ต้องห่วง ทั้งที่กำลังเอาน้ำแข็งประคบดวงตาบวมช้ำนั้นอยู่
ต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อให้เสียใจยังไงก็ต้องข่มเก็บมันเอาไว้ข้างใน
จากนั้นม.หยุดอีกหลายวัน จะร่ำร้องให้สาแก่ใจยิ่งกว่านี้สักกี่วันก็ทำได้
ถ้ามันทำให้เขาตัดใจจากคนๆนั้นได้สักที.....