เด็กผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดจะครองโลก by「aonair ( จบแล้ว)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กผู้ชาย เป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดจะครองโลก by「aonair ( จบแล้ว)  (อ่าน 132222 ครั้ง)

ออฟไลน์ VICcy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดูเหมือนพี่เกต์จะมีจุดประสงค์แอบแฝง
แล้วมันคืออะไร?

mooaiir

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะได้มาอัพอีกทีวันศุกร์น้า
ตอนนี้งานล้น ท่วมหัวมากๆ
ไม่ได้แต่งต่อเลย เศร้า TT
รอเค้าหน่อยเน่อออ~~ <3

ป.ล. พี่เกต์ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรหนิ 5555 มันแค่อยากไปทะเล ;w;

mooaiir

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 17

 

“นอนไหม?”

เสียงทุ้มดังขึ้นภายในเครื่องบินส่วนตัว ขนาด 18 ที่นั่ง หลังจากเหลือบเห็นรุ่นน้องตัวเองอ้าปากหาวหวอดได้สองสามที ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่หันมอง ศิลป์กำลังเอื้อมมือไปกดหัวของนิวลงซบกับไหล่กว้างของตัวเองอย่างไม่สนใจใคร ทั้งที่คนตัวเล็กข้างๆแทบจะส่งเสียงร้องตกใจออกมา

“ผมไม่เป็นไรครับ เมื่อคืนนอนดึกนิดหน่อยเอง” นิวในชุดไปรเวทโทนน้ำเงินรีบขยับตัวออกห่าง บนที่นั่งแบบโซฟายาว พลางยกมือขึ้นโบกไปมาพัลวัน สายตากลมโตกลอกทางซ้ายทีขวาทีอย่างลนลาน

“ตื่นเต้นหรอวะนิว” เสียงกวนตีนจากเบาะตรงข้ามดังขึ้น สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้จากผู้ชายหัวชี้ฟูในเสื้อเชิ้ตสีกรมท่า

“ผมอยู่เล่นเกมต่างหากพี่ผา!”

“อะไร? นี่มึงเล่นกูอ่อ?” ทันทีที่นิวให้คำตอบรุ่นพี่ตรงหน้า เพื่อนข้างๆก็ชิงพูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางกวนประสาทไม่แพ้กัน เด็กม.4ห้องใกล้เคียงพยายามเล่นมุกกับชื่อตัวเอง พลางตรงเข้ายีผมย้อมสีของนิวอย่างนึกสนุก

“ไอ้เชี่ยเกม!” คนโดนแกล้งโวยวาย ก่อนจะปัดแขนบนหัวออกอย่างหงุดหงิด ความง่วงเมื่อครู่พลันหายไปซะเฉยๆ

“เฮ้ย ไอ้เกม..มึงหุบปากดิ๊ กูรำคาญ” ศิลป์เอื้อมมือผ่านคนตรงกลางไปผลักหัวของเกมออกห่าง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูน่ากลัวชอบกล ทำเอาเด็กขี้เล่นไม่กล้าแม้แต่จะขยับปาก ก่อนจะควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดเล่นแทนอย่างเซ็งๆ

ส่วนผาเอง เมื่อเห็นท่าทีไม่สบอารมณ์ของศิลป์ ก็กลับมานั่งสงบปากสงบคำเหมือนเดิม แต่ยังไม่วายหันไปส่งยิ้มหวานให้คนตัวบางบนเบาะเดียวกัน ถือเป็นการท้าทายอำนาจหัวหน้ากลุ่มที่นั่งส่งสายตามาดร้ายอยู่ระหว่างกลางเป็นอันมาก

“มึงยิ้มอะไร?” ติกระชากเสียง พร้อมกดตัวพะภูลงจนตัวแทบจะกลืนเข้าไปในเบาะ พยายามใช้ร่างกายสูงใหญ่ของเขาเป็นฉากกำบัง ไม่ให้สายตาน่าเกลียดของรุ่นน้องม.5คนนี้ผ่านไปถึงคนรักของตนได้

“พี่ติ ขี้หวงว่ะ”

“ไอ้นี่ วอนตีนและ”

ติว่าพลางชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศ จนคนตัวเล็กข้างๆต้องรีบรั้งเอาไว้ สายตาดุๆถูกส่งไปให้ ติเลยต้องยอมปล่อยผาไปโดยไม่ได้สั่งสอนอะไร ขณะที่คนรอดตัวยังคงนั่งกลั้นหัวเราะกับท่าทีหมดสภาพของหัวหน้ากลุ่มตัวเอง

“หิวเปล่า?” ติพยายามเลิกสนใจไอ้เด็กเวรด้านซ้าย ก่อนจะหันไปตั้งคำถามกับพะภูแทน คนตัวเล็กส่ายหน้าสองสามที พลางเอนศีรษะลงไปกับไหล่กว้าง คนโตกว่ามองการกระทำของเด็กข้างๆยิ้มๆ มือขวาเอื้อมออกไปกดหัวพะภูให้โน้มเข้ามา

สายตาทุกคู่บนเครื่องค่อยๆลอบมองคู่รักสดใหม่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย จะว่าต้องขอบคุณพะภูก็อาจจะใช่ เพราะเขาทำให้ติอ่อนโยนขึ้นได้มากขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน หรือใครทำได้มาก่อน ราวกับเป็นชิ้นส่วนสำคัญซึ่งถูกนำพามาพบกันเพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ติที่เคยร้ายกาจ เด็ดขาด และผยอง วันนี้กลายเป็นผู้ชายที่ยิ้มออกมาได้ไม่อายใคร และกลายเป็นฝ่ายที่ยอม

ถึงจะดูแปลกไปจนน่าตกใจ แต่นี่แหละ คือตัวตนแท้จริงของติที่พวกเขาทุกคนต่างศรัทธาและหลงใหล ถึงได้ติดตามคนคนนี้มาโดยตลอด กาลเวลา อำนาจ ชื่อเสียง ทุกอย่างต่างหลอมให้กีรติต้องกลายมาเป็นคุณชายอันธพาลจอมโหดในสายตาของคนอื่น

ได้แต่รอคอยใครสักคน ที่จะเดินเข้ามากะเทาะเปลือกนอกพวกนั้นให้หายไป... และพะภู ก็คือคนคนนั้น

“กัส อีกนานไหม?” เกต์ถามรุ่นน้องม.5ที่กำลังก้มหน้าอ่านวรรณคดีอังกฤษเล่มหนาอย่างใช้สมาธิ คนชื่อกัสลดหนังสือในมือลง ก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมอง

“น่าจะไม่เกิน 20 นาทีครับ”

“รอลงน้ำไม่ไหวแล้วว”

“พี่เกต์ชอบเล่นน้ำหรอครับ?” นิวถาม เมื่อเห็นท่าทางเร่าร้อนของรุ่นพี่ที่ดูใจดีที่สุด แววตาเปล่งประกายถูกส่งกลับมา พร้อมน้ำเสียงมีความสุข

“ฉันชอบทะเล! แต่ไอ้เวรสองตัวนี้เสือกไม่ชอบ เราเลยไม่เคยได้มาเลยจนคราวนี้เนี่ยแหละ” เกต์ทำปากยื่นไม่พอใจไปทางเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เอาแต่นิ่งเฉย ติก้มมองเด็กข้างๆเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ปลุกเขาเข้า ก่อนจะหันไปต่อบทสนทนากับเกต์

“ที่ได้มา ก็เพราะพะภูอยากมาหรอก”

“เออ กูรู้! แต่ใครวะเป็นคนทำให้มึงรู้ใจตัวเอง จนได้รักกับพะภู มึงต้องตอบแทนกูบ้างนะเว้ย”

เกต์พูดเป็นเชิงแซว พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ที่สุด กีรติเอ๊ย ไม่ได้รู้อะไรเลย ที่ได้มาเที่ยวทะเลครั้งนี้ก็เพราะเขาเตี๊ยมกับสุดที่รักของตัวเองไว้แล้วต่างหากเล่า!...ไม่คิดมาก่อนว่า พอติยอมรับว่ารักแล้วจะกลายเป็นทาสขนาดนี้ ชักสงสัยแล้วสิ ว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่เป็นลูกหมาน่ะ

 “ถึงโรงแรมแล้วมึงก็โดดลงน้ำไปเลยดิ”

“กูทำแน่ แต่พวกมึงต้องไปกับกูด้วยนะ กูจะได้เห็นหุ่นพะภูกับนิวด้วยอะ”

เกต์พูดจาติดตลก หวังจะแหย่เล่นเพื่อสร้างบรรยากาศครื้นเครง เพราะพะภูกับนิวเป็นสองคนในนี้ที่เขาไม่เคยเห็นตอนถอดเสื้อเลยก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนคำพูดที่หลุดออกมา จะไปกระตุกต่อมอารมณ์ของคนแถวนี้เข้าให้

“กูขอให้คลื่นซัดมึงออกไป ไม่ต้องกลับมาอีกตลอดชีวิต” ติว่าท่าทางเรียบเฉย แต่กลับส่งสายตามาดร้ายออกไปอย่างโจ่งแจ้ง ตามมาด้วยเสียงคำรามจากในลำคอของศิลป์ ซึ่งดังขึ้นเป็นการสนับสนุน

“ไอ้เกต์ ไปตายไป” เจ้าของผมชี้สั้นสีดำสนิทออกปากเสียงโหด ก่อนจะวาดมือไปโอบรอบตัวนิวไว้เหมือนต้องการปกป้อง ไม่ทันที่ใครจะได้สงสัย คนตัวเล็กก็รีบดันแขนแกร่งออกห่างจากตัวซะก่อน

ไม่นานนัก เครื่องบินภายใต้ชื่อ อัครโภคิน ก็แล่นลงจอดเทียบพื้น ผู้โดยสารทั้งแปดคนพากันย้ายไปขึ้นเรือเร็วที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ อีกไม่กี่นาทีก็มาถึงสรวงสวรรค์ที่เรียกกันว่า เกาะกูด

โรงแรมกว้างขวาง ติดอันดับท็อปของเกาะ การันตีความหรูหราระดับห้าดาว ตั้งตระหง่านอยู่ต่อหน้า ดูเหมือนพะภูจะเป็นคนเดียวที่มีอาการเหงื่อตกด้วยว่าแพ้ความโอ่อ่าของสถานที่นี้ คนตัวเล็กพยายามหุบปากที่อ้าค้าง ก่อนจะหันไปดึงชายเสื้อของติให้เข้ามาใกล้

“พะ พี่ติ...โรงแรมหรูจังครับ แพงแย่เลย”

“ไม่นะ ฉันได้ส่วนลดด้วย” คนตัวสูงฉีกยิ้ม มือข้างหนึ่งตรงเข้าลูบหัวเด็กข้างๆอย่างเอ็นดู

“แล้วเหลือคืนละเท่าไรครับ?”

“อืม...เฮ้ยกัส มึงจองได้เท่าไรนะ?” ติทำท่าครุ่นคิด สักพักจึงหันไปถามรุ่นน้องซึ่งยังหลบหน้าอยู่หลังหนังสือเล่มเดิม กัสชูนิ้วโป้งขึ้นกลางอากาศแทนคำตอบ ทำเอาพะภูถึงกับตาโต

“6 พัน!? นี่ลดแล้..”

“6 หมื่นต่างหาก”

เกมที่ยืนฟังทุกอย่างอยู่พูดขึ้น จนคนได้ยินถึงกับลมจับ พะภูยืนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับเพิ่งถูกกระชากวิญญาณออกไปจากร่างก็ไม่ปาน จำนวนตัวเลขบอกราคาห้องพักต่อคืนมันมากเกินกว่าที่คนระดับเขาจะรับไหว ไม่อยากคิดว่าเหล่าคุณชายทั้งหมดตรงหน้า จะควักเอาเงินหลักนั้นออกมาพลาญเล่นง่ายๆแบบนี้

“เอาน่า นานๆที” เกมเดินเข้ามาผลักให้พะภูเดินต่อ มีติคอยส่งยิ้มหายากมาให้เป็นการปลอบประโลมไม่ให้สติแตกไปซะก่อน สังคมคนรวยนี่มันน่ากลัวจริงๆ ให้ตายเถอะ!

“เตียงเดี่ยว 4 หลัง หลังละ 2 คน” กุญแจสี่ดอกถูกแผ่ออกในมือของกัส หลังจากที่เราเข้ามาถึงส่วนของล็อบบี้

“อ้าวเฮ้ย เตียงเดี่ยวเนี่ยนะ มึงเห็นพวกกูเป็นคู่แต่งงานรึไงวะ?” ร่างสูงในเสื้อสีกรมท่ารีบโวยขึ้นมาก่อนเพื่อน แต่คำตอบที่ได้รับ กลับทำเอาเขาไปต่อไม่เป็น สาบานเลยว่าครั้งหน้าจะไม่ให้ไอ้หนอนหนังสือนี่เป็นคนจองที่พักอีกแล้ว

“ก็โรงแรมนี้ดังในหมู่คู่รักหนิ”

สิ้นเสียงของกัส ทุกคนต่างก็หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา จนติต้องเป็นฝ่ายตัดสินใจเป็นคนแรก พลางดึงกุญแจดอกหนึ่งมาไว้กับตัว

“กูจะนอนกับพะภู”

“พี่ติ จะทำอะไรพะภูปะเนี่ย?” เกมโพล่งออกมาอย่างจงใจแหย่เล่น ทำให้บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่ค่อยๆคลายลงได้บ้าง

“แล้วมึงจะทำไม?”

ติเอื้อมมือไปผลักหัวคนพูดแรงๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะจากผู้ชายที่เหลือ ยกเว้นแค่บุคคลผู้ถูกพูดถึง ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นหินไปแล้ว ใบหน้าสองข้างร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างคุมไม่ได้ บทสนทนาเมื่อครู่ฟังดูกำกวมมากไปจนชักใจไม่ดี เขาต้องนอนร่วมเตียงกับผู้ชายชื่อกีรติจริงๆเหรอเนี่ย!?

“กัสกับเกมคงนอนด้วยกันสินะ” เกต์ส่งเสียงขึ้นมา สายตาคำถามพยักเพยิดไปทางพี่น้องคู่ที่ว่า ทั้งสองคนหันมองหน้ากันแวบหนึ่งเหมือนเบื่อขี้หน้าเต็มที

“ก็คงต้องเป็นงั้นอะ” เกมว่าท่าทางหน่ายใจ ก่อนจะดึงกุญแจอีกดอกมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง อีกสี่คนที่เหลือเริ่มทำตัวไม่ถูก จนเกต์ต้องเป็นฝ่ายออกปากสรุปให้เอง

“งั้นมึงก็นอนกับกู แล้วให้ผานอนกับนิว โอเคปะ?”

“ไม่!/ไม่ครับ!”

ผากับเกต์ที่กำลังยื่นมือออกไปหยิบกุญแจ ชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงคัดค้านจากอีกสองคน สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังศิลป์กับนิวด้วยท่าทางสงสัย ก่อนที่ผู้ชายร่างกำยำต้องเป็นฝ่ายออกตัวเสียงแข็ง

“ไปไหนๆ กูก็ต้องนอนกับมึง เบื่อจะตายชัก” สิ้นเสียงศิลป์ เกต์ก็ตั้งท่าจะเถียงกลับ แต่ไม่ทันได้โวยอะไร นิวก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“ผมก็ไม่อยากนอนกับพี่ผาเหมือนกัน”

“อ้าววว”

“เอาเป็นว่ากูกับนิวนอนด้วยกัน”

ศิลป์ดึงกุญแจหนึ่งดอกออกมาจากมือกัส และดันไหล่นิวให้เดินตามพนักงานคนหนึ่งออกไปแบบไม่รีรอ ท่ามกลางความงุนงงของสมาชิกที่เหลือ กัสก็จัดการยัดกุญแจดอกสุดท้ายเข้าไปในมือผา ก่อนจะพยักหน้าให้เกมออกเดิน มีติกับพะภูก้าวขาขนาบข้างไปด้วย โดยทิ้งให้เกต์กับผาได้แต่กอดคอวิ่งตามไปเป็นคู่สุดท้าย ตลอดทางเดินก็เอาแต่ฮัมเพลงเบาๆกันอยู่สองคน

“แต่คนถูกทิ้งก็เป็นอย่างเนี้ยะ จะมีทางไหนให้ฉันหลีกหนี ให้ดีไปกว่า จมอยู่กับน้ำตา~~”

เดินต่อได้แค่พักเดียว ก็มาถึงหน้าบ้านพักหลังใหญ่ แบบโอเชี่ยนวิว ดูไฮโซสมราคาอันแพงหูฉี่ แต่ละคู่แยกย้ายกันไปตามหมายเลขบนกุญแจ มีคนยกสัมภาระทั้งหมดมาวางเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว

ติยื่นกุญแจให้พนักงานในชุดผ้าไหมรับไปเปิดประตูห้อง ข้าวของถูกนำไปเรียงบนชั้นไม้สำหรับวางกระเป๋าโดยเฉพาะ ก่อนจะหันกลับมารับทิปหนักๆตามวิสัย ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะอึ้งในความหรูหราของที่พักจนแทบเป็นลม แต่ก็อดตื่นเต้นและตื่นตาไปกับทิวทัศน์ระดับพรีเมี่ยม บวกกับความสะดวกสบายอันดับหนึ่งไม่ได้ พะภูรีบตรงดิ่งเข้าไปสำรวจภายในบ้านพักกว้างขวาง หยุดสายตาอยู่กับประตูกระจกซึ่งฉายให้เห็นวิวทะเลสวยงาม เกินกว่าที่เคยจินตนาการถึง ขณะที่กำลังจมลงไปในห้วงความรู้สึกอิ่มเอม เสียงล็อคประตูหลักที่ด้านหน้าก็ดังขึ้นเรียกสติเอาไว้

กริ๊ก

เกือบลืมไปแล้ว ว่าตอนนี้มีเพียงแค่เขากับติสองคนเท่านั้น...

--------------------------------------

ฮือออ มาอัพช้ามาก ขอโทษทีน้า
ช่วงนี้จะสอบแล้ว งานรุมเร้ามาก
ดองด้วยประเด็น 555 ตอนนี้เคลียร์หัวหมุนเลยจ้า
เดี๋ยวจะสอบ 2 อาทิตย์ (ที่จะถึงนี้แล้ว)
ไม่แน่ใจว่าจะมาต่อได้อีกทีเมื่อไร
แต่จะพยายามมมม หาเวลามาแต่งต่อให้ได้ TT
ถ้ายังไงฝากนักอ่านทุกคนติดตามไปเรื่อยๆด้วยน้า
อย่าทิ้งเราไป~ 555
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่เป็นกำลังใจอย่างดีเช่นเคยค่า  :กอด1:

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อุต๊ะ
พี่ติ ถึงบรรยากาศจะพาไปยังไงก้อ...เบาๆนะ :hao7:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
บรรยากาศ อย่างนี้ จะเกิดอะไรขึ้น ............

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
อุ๊ก ล็อคประตูแล้วจะทำอะไรน้อ
แค่ป้องกันขโมยเข้าห้องใช่มั้ย
(ขโมยพะภูน่ะ ^^)

ออฟไลน์ MZter

  • ~ใครหาว่าผมอินดี้...ผมเกรียนจะตาย(•`^`•)~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
กริ้ก!! คำเดียวที่ทำร้ายจิตใจ  :ling3:

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:น้องพระภูกับพี่ติเข้าห้องแล้ว :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
อยู่กันสองต่อสองงงง :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






คนจากต่างดาว

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ยยยยยย~~ อยู่ด้วยกันแล้วไง~~

*ซับเลือดๆ* จินตนาการมันไปไกลเหลือเกิน! ว๊าก!  :pighaun:

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
น้านนน อยู่ด้วยกันต่อแล้วเป็นไงน้อออ รออ่านจ้าา  :z1:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
อั๊ยย่ะ เสร็จแน่ๆ  :haun4:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
พะภูต้องการใช้ติเป็นเครื่องมือใช้ป่ะ
พอติรู้เข้าก็ดราม่าใส่กันใช่ป่าว
อิอิ เรามั่วแระ

รอตอนต่อไปจร้า

mooaiir

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 18

 

“จุ๊บ”

แขนแกร่งตรงเข้าโอบรอบเอวบางของพะภูไว้จากทางด้านหลัง ติค่อยๆโน้มหน้าลงมา ฝากรอยจูบลงบนซอกคอขาว ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง แต่แม้อยากหนียังไง ก็ต้านทานเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายไม่ได้เลย

“พะ..พี่ติ!?”

พะภูร้องเรียกเมื่อคนตัวสูงกระชับอ้อมกอดแน่นยิ่งขึ้น สันจมูกลากไล้ตั้งแต่พวงแก้มเนียนไปจนถึงใบหู ออกแรงขบเบาๆอย่างหยอกล้อ ก่อนจะจับตัวคนเด็กกว่าให้หันกลับไปเผชิญหน้ากัน

“ชอบไหม?” ติถามขึ้นพลางกวาดสายตาไปรอบๆห้อง กระจกและหน้าต่างทุกบานฉายให้เห็นวิวทะเลสีใส คนโดนกอดพยักหน้าสองสามที พยายามดันตัวออกห่าง

ติก้มลงมองเด็กที่กำลังตีสีหน้าซีดเผือดภายในอ้อมแขนของตัวเองอย่างไม่พอใจนัก ทั้งที่ใจตรงกันแล้ว ก็ยังมีท่าทีขัดขืน ราวกับรังเกียจนักหนา ปากบอกว่าชอบแต่ร่างกายเอาแต่ปฏิเสธกันแบบนี้มันน่านักนะ...

“เหวออ!!”

คนตัวใหญ่พ่นลมหายใจออกมาทางปาก แขนสองข้างอุ้มร่างทั้งร่างของพะภูขึ้นพาดบ่าอย่างง่ายดาย คนตัวเล็กที่ไม่กล้าดิ้นได้แต่ตะโกนโวยวายด้วยความตกใจ ก่อนจะถูกโยนลงบนเตียงขนาดใหญ่ของโรงแรม ตามด้วยร่างกำยำของติที่คลานขึ้นมาคร่อมตัวเขาไว้

“พี่ติจะทำอะไรครับ!?”

“แล้วคนรักกัน เขาทำอะไรล่ะ?”

“พะ..อุบ!”

คำตอบที่ได้รับกลับกลายเป็นคำถามกำกวมจนฟังดูน่ากลัว ไม่รอให้ตั้งตัว กีรติก็ตรงเข้าครอบครองริมฝีปากบางของอีกฝ่ายแทบจะทันที มือใหญ่รวบข้อมือเล็กๆเอาไว้อย่างที่เคย ก่อนจะปล่อยให้มืออีกข้างทำหน้าที่ปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนตัวของคนด้านล่างออก ท่าทางชำนิชำนาญเป็นพิเศษ

“อื้ออ..พ..”

“อืม..ม”

เสื้อเชิ้ตสีครีมถูกดึงแยกออก เผยให้เห็นแผ่นอกขาวๆ กำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการเต้นของหัวใจ นิ้วเรียวของคนด้านบนเลื่อนขึ้นไปเขี่ยติ่งไตสีหวานเล่นได้พักหนึ่ง จึงค่อยถอนจูบออกมา เพราะดูท่าว่าคนโดนแกล้งจะเริ่มปั่นป่วนจนแทบสำลักซะแล้ว

“ฮ..ฮ้า พี่ติ...”

“ก็บอกไปแล้วไง ว่านายเป็นของฉัน”

“มะ..อ๊ะ!”

กีรติเปิดปากพูดได้ไม่กี่คำ ก็กลับมาลากลิ้นสากๆไปกับแผงอกตรงหน้าอย่างจงใจแกล้ง คนด้านล่างสะดุ้งจนตัวลอย ทันทีที่ริมฝีปากของคนตัวใหญ่ครอบลงไปกับหัวนมของตัวเอง ค่อยๆดูดดันอย่างมีชั้นเชิง ส่งให้อารมณ์ภายในตัวของพะภูค่อยๆปะทุขึ้นทีละน้อย

“อ๊ะ! พ..พี่ อื้ออ”

จุกทับทิมทั้งสองข้างถูกละเลงลิ้นจนเปียกชื้น เนื้อขาวๆเกิดร่องรอยสีชมพูขึ้นทั่วบริเวณ เสียงร้องครางด้วยความอายผนวกกับความรู้สึกแปลกๆจากภายในยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ร่างกายด้านใต้บิดไปมา พร้อมๆกับใบหน้าที่เริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำ

“พี่ติ ยะ..อย่า...”

ความรู้สึกมากมายตีกันจนวุ่นไปหมด พะภูรู้ดีว่าควรต้องหยุดการกระทำล้ำเส้นเหล่านี้ แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้เขาไม่สามารถแม้แต่จะขัดขืน ความร้อนภายในตัวพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนแทบระเบิดออกมา... ขณะที่คนตัวใหญ่กำลังสนุกกับการได้เห็นร่างบางตีสีหน้าทรมานด้วยว่าเขินอาย เสียงจากด้านนอกประตูก็ดังขึ้นรบกวนเสียก่อน

“ไอ้ติ! พะภู!”

เกต์ในชุดว่ายน้ำเตรียมพร้อม เดินมาเคาะประตูห้องของเพื่อนสนิทได้พักหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนคนด้านในจะไม่สนใจเขาเลย ถึงต้องเพิ่มระดับเสียงจนแทบจะเป็นการรบกวนแขกคนอื่นๆ ตลอดเวลาที่ยืนอยู่หน้าประตูสีน้ำตาลไม้ ได้ยินเพียงแต่เสียงร้องแปลกๆที่เขาเองก็ไม่นึกอยากจะรู้ว่าเป็นเสียงอะไร ตอนนี้คงมีแค่คลื่นทะเลกับสายลมที่ดังก้องอยู่ในสมองเท่านั้น

“ไอ้เชี่ยเกต์...”

ติสบถเสียงทุ้มต่ำจนน่ากลัว เขาก้มมองใบหน้าขึ้นสีเบื้องล่างครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวเยียด และยอมผละตัวออกจากร่างเล็กบนเตียง ปล่อยให้พะภูมีเวลาหอบหายใจได้อย่างเต็มปอด พลางจัดเสื้อผ้าให้กลับเข้าที่เหมือนเดิม ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูห้องก็เปิดขึ้น พร้อมเสียงเจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญจากคนขัดจังหวะ

“ไปว่ายน้ำกันนน”

“ถ้ามึงอยากว่ายมาก มึงก็ไป!”

“เอะอะไรวะ?” ศิลป์ตะโกนตามมา ก่อนที่ร่างสูงจะปรากฏตัวพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ

“ไอ้ติเป็นบ้า แม่งตะคอกใส่หน้ากู”

เกต์รีบโวยพลางยกนิ้วขึ้นชี้หน้าติอย่างหาเรื่อง ไม่ทันที่ใครจะได้โต้กลับ ร่างบางจากในห้องก็เดินพ้นประตูไม้ออกมา หยุดอยู่ท่ามกลางสายตาแปลกๆจากทุกคน เกิดความกระอักกระอ่วนขึ้นทันที พร้อมกับที่นิวและศิลป์ต่างเบือนหน้าหนีไปอีกทาง กัสค่อยๆยกหนังสือในมือขึ้นสูง ขณะที่อีกสามคนเริ่มหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ

“ปะ..ไปเหอะ”

เกต์ว่าเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะตรงไปล็อคคอผากับเกมให้รีบก้าวเท้าออกจากบริเวณนี้ คนที่เหลือทยอยเดินตามกันไปอย่างเงียบเชียบ จนพะภูอดสงสัยในท่าทีของพวกนี้ไม่ได้ ส่วนตินั้นดูเหมือนจะพอเข้าใจอยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมา

“เอ่อ...จู่ๆเป็นอะไรกัน?” เด็กธารวิทยาสาวเท้าเข้าไปขนาบข้างนิว พลางถามขึ้นสีหน้างุงงง อีกฝ่ายได้แต่อึกอักอยู่นานกว่าจะยอมส่งเสียงออกมา

“ที่คอ..”

“หือ?”

พะภูรีบยกมือขึ้นทาบลำคอตัวเอง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ยังคงหลงเหลือบางเบา พอก้มลงสำรวจทั่วทั้งตัวก็พบว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ ตอนนี้มันปรากฏรอยยับชัดเจนจากเหตุการณ์เมื่อครู่

บ้าจริง รอยแดงที่คอ !!!

“อ..อะ..////”

“ไม่ว่ายน้ำเหรอ?” นิวพยายามเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นท่าทีหลุกหลิกของคนข้างๆ พร้อมใบหน้าที่ขึ้นสีแดงชัดเจน ไอ้เหตุการณ์แบบนี้เขาเข้าใจดีสุดๆเลยล่ะ เพราะงั้นถึงรู้ว่าควรตอบสนองยังไง ไม่ให้เจ้าตัวลนมากไปกว่านี้

“ม..ไม่อะ แล้วนายล่ะ?”

“ฉันก็ไม่ มีแค่พี่เกต์ พี่ผา กับเกมล่ะมั้ง” คนหลังเลนส์แว่นว่า พลางส่งสายตาไปทางผู้ชายในกางเกงว่ายน้ำสามคนด้านหน้า

ไม่เท่าไรก็มาถึงโซนทะเล พะภูจัดการถอดรองเท้าออก ก่อนจะเหยียบย่ำลงไปบนหาดทรายขาว เหล่าคนที่ไม่คิดจะแตะน้ำทะเลพากันไปหลบอยู่รอบโต๊ะตัวเล็ก ภายในร่มผ้าใบขนาดใหญ่ของทางโรงแรม ติกับศิลป์เป็นคนประเดิมสั่งเครื่องดื่มมาดับกระหาย ก่อนที่บทสนทนาจะเริ่มก่อตัวขึ้น

“เป็นคนบอกอยากมาทะเลไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่เล่นน้ำล่ะ?” น้ำมะพร้าวถูกเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าพะภู พร้อมกับคำถามจากคนรักตน จะให้แก้ตัวอีกสักกี่ครั้งกัน ไอ้คนที่อยากมาน่ะกระโจนลงน้ำไปโน้นแล้วต่างหาก

“เอ่อ..ผ ผมแค่อยากมาเห็นวิวน่ะครับ”

“เหรอ..”

“เรา..เรามาเล่นเกมต่อประโยคกันไหมครับ?” คนถูกจี้รีบโพล่งออกมาเพื่อเบนความสนใจ และดูเหมือนจะเห็นผลเกินคาด เมื่อสมาชิกที่เหลือต่างพยักหน้าตอบรับ ด้วยว่าไม่อยากนั่งกร่อยเฉยๆ และรอเจ้าสามหน่อเล่นน้ำเป็นผู้ปกครองแบบนี้

“เอาสิ งั้นฉันก่อนนะ..อืม พวกเรามาทะเล” ศิลป์เป็นคนแรกที่เริ่มเกม ท่ามกลางสายตาเรียบเฉย ประหนึ่งจะบอกว่า ‘คิดได้แค่นี้เหรอไง?’

“เลกาซี่ แปลว่ามรดก ในภาษาไทย” กัสวางหนังสือในมือลง ก่อนจะเอ่ยปากต่อประโยคที่ฟังดูจริงจังเหลือเกิน ตามมาด้วยติ ซึ่งยิ่งเพิ่มระดับความจริงจังของเกมให้เพิ่มขึ้นไปอีก

“ไทยเป็นหนึ่งในประชาคมอาเซียน”

“ยากอะพี่ติ!” นิวบ่นขึ้นทันทีที่จบประโยคเมื่อครู่ เจ้าของผมสีน้ำตาลตั้งท่าครุ่นคิดอยู่สักพัก กว่าจะเปิดปากออกมาได้ “เซียนกำลังทำสวน”

“อะไรของมึงวะ?” ติรีบโวย แต่ก็ถูกรุ่นน้องเถียงกลับขึ้นมาทันควัน

“ก็คนชื่อเซียน กำลังทำสวนไงครับ”

“ฮ่าๆ เอาเหอะครับ ผมต่อนะ...เอ่อ สวนสยามมีเครื่องเล่นมากมาย” พะภูเล่นต่อ ก่อนที่ศิลป์จะเริ่มบังคับให้เกมดำเนินไปเร็วกว่าเดิม คนในวงมีท่าทีสนุกสนานกับการต่อประโยคมากขึ้นเรื่อยๆ จนวนกลับมาถึงตาของกัสอีกครั้ง

“ภาพวาดโมนาลิซ่าจัดแสดงอยู่ที่หอศิลป์”

ติยกมือขึ้นลูบคางตัวเองไปมาพลางตีสีหน้าคิดหนัก ทำเอาคนในวงอดกลั้นยิ้มในความจริงจังเกิดเหตุของหัวหน้ากลุ่มตัวเองไม่ได้ ดวงตาสีน้ำตาลเริ่มกลอกไปรอบๆบริเวณ จนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของศิลป์ซึ่งกำลังตั้งตาคอยคำตอบ ติเผยยิ้มบางเบาออกมา ก่อนจะต่อประโยคถัดไป

“ศิลป์เป็นผัวเฟย์”

ทั้งวงเงียบลงทันควันทันทีที่ได้ยิน ใบหน้าของศิลป์ซีดเผือด ทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าเพื่อนสนิทเสียให้ได้ ในขณะที่นิวกลับก้มหน้านิ่งผิดปกติ พอถูกสะกิดให้เล่นเกมต่อ กลับพรวดพราดลุกขึ้นท่ามกลางสายตาแปลกใจจากทุกคน

“ผม...ผมไปเข้าห้องน้ำแป็บนึงนะครับ” คนตัวเล็กพูดขึ้นรัวเร็ว ก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไปทางโรงแรม ไม่รอให้ใครพูดอะไร ศิลป์ก็รีบวิ่งตามออกไปทันทีโดยไม่สนใจท่าทางงุนงงจากคนที่เหลือเลยแม้แต่น้อย

“นิว!” คนตัวใหญ่เร่งสาวเท้ายาวๆของตัวเองให้ไวขึ้น จนสามารถอ้อมไปดักอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังเดินหนีได้ทัน “อย่าสนใจคำพูดไอ้ติ”

“ผมทำไม่ได้!” นิวตวาดกลับไปอย่างลืมระแวง หยดน้ำใสๆเริ่มคลอขึ้นมาตรงเบ้าตาทั้งสองข้าง โชคดีที่ยังไม่มีใครเดินผ่านมาทางนี้

“นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเฟย์”

“ผมรู้ แต่มันก็ยังเสียใจ”

“นิว... จะไม่ให้เขาหรือใครมาขัดขวางความรักของเรา ฉันพูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ” ศิลป์ขยับเข้าไปประชิดร่างของเด็กตรงหน้าซึ่งเริ่มสั่นเทิ้ม ก่อนจะคว้าตัวของนิวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแน่น น้ำเสียงจริงจังแต่ทว่าแหบพร่าถูกเปล่งออกไป ไม่ทันไรน้ำตาจากคนตัวเล็กก็ร่วงหล่นอย่างห้ามไม่ได้

“ฮึก...”

“ฉันแค่ขอให้นายรอ..”

นิวพยักหน้าช้าๆอยู่ภายในวงแขนแกร่ง พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ให้มากที่สุด เขารู้ดีว่าศิลป์รักเขามากกว่าใคร แต่ความจริงที่คนรักของตนไม่ใช่แค่ของตน มันก็ทำร้ายจนเขาท้อแท้เหลือเกิน หลายครั้งที่ต้องหลบมุมร้องไห้อยู่เพียงลำพังเพราะความเจ็บช้ำแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาทนอยู่เฉยๆโดยไม่รู้สึกเสียใจเลยไม่ได้

แม้ความรักของเขาและศิลป์จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาไม่นาน แต่มันก็หยั่งรากลงไปข้างในจิตใจ ลึกเกินกว่าจะหาคำใดมาอธิบาย ทุกอย่างเป็นเหมือนของขวัญจากฟากฟ้าและกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี จนถึงวันที่เฟย์กลับมาจากเมืองนอก ประกาศตัวว่าเป็นคู่หมั้นของศิลป์อย่างออกนอกหน้าท่ามกลางการรับรู้จากทุกคน วินาทีนั้น...เขาก็กลายเป็นคนนอกไปโดยปริยาย กลายเป็นที่สอง เป็นคนมาทีหลัง ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจเลย

ทั้งที่ศิลป์ให้คำมั่นสัญญาหนักแน่น ว่าจะจัดการเรื่องเฟย์ให้จบให้ได้ แต่ดูเหมือนหนทางนั้นมันยากเย็นจนเขาเริ่มหมดศรัทธาลงเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ความร้ายกาจของผู้หญิงที่ชื่อเฟย์ ครอบครัวของศิลป์เองก็คงไม่มีทางเปิดรับความสัมพันธ์ครั้งนี้ง่ายๆ และถึงแม้ว่าศิลป์จะคอยย้ำอยู่เสมอ ว่ากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อความรักของเรา

แต่ความรู้สึกน้อยใจ มันดูจะมากเกิน...มากเกินจนเขาเริ่มท้อที่จะรอต่อไป...

“ฉันรักนายนะ”

“ผ..ผมก็รัก พี่...”

ศิลป์ผละตัวออกเล็กน้อยพอให้ทั้งคู่ได้สบตากันชัดเจน ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ทาบริมฝีปากอุ่นลงกับพวงแก้มขาวซีด ก่อนจะลากต่อไปยังริมฝีปากบางสีส้ม นิวยกแขนขึ้นโอบรอบคอของศิลป์ไว้หลวมๆ ขณะที่คนตัวสูงกำลังเค้นคลึงสะโพกมนอย่างโหยหา ลีลาการจูบของทั้งสองคนเริ่มร้อนแรงขึ้นตามลำดับ โดยที่ลืมสนใจทุกสิ่งรอบตัวไปชั่วขณะ เพียงแค่ต้องการกอบโกยช่วงเวลานี้ไว้ให้ได้มากที่สุด

“พี่ศิลป์!...นิว!?”

เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้คนถูกเรียกต้องรีบผละตัวออกจากกันทันที ดวงตาสองคู่เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าซีดเผือดของผู้มาเยือน ความอึดอัดกดดันบางอย่างตรงเข้าจู่โจมไปทั่วบริเวณแห่งนี้

“พะภู!!”

----------------------------------------

อยากจะเพิ่มบทของ ศิลป์กับนิว ให้มากขึ้นนะ ;w;
แอบอวยส่วนตัวเบาๆ
นี่คือหนีกองหนังสือมาอัพให้ หลังจากนี้น่าจะหายยาว
ประมาณ 7 วันขึ้นไป  :hao5:
แต่อย่าเพิ่งทิ้งเราไปน้า รอด้วยๆ เดี๋ยวจะกลับมาาา
ทริปทะเลหน้าหนาวยังมีอะไรอีกเยอะ !
แล้วก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นเช่นเดิมค่า มีกำลังใจมากเลย  :3123:
จะรีบมาต่อหลังจากสอบเสร็จเลยน้า  :mew2:
แอบทิ้งท้ายไว้ว่า จะมีตัวละครปริศนาโผล่ออกมาในตอนหน้าด้วยล่ะ
(แต่ยังไม่ได้แต่งเลย คิดไว้เฉยๆ 5555)

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
อยากให้มีฉากของพะภูกับพี่ติอีกเยอะ ๆ จ้า

ออฟไลน์ MZter

  • ~ใครหาว่าผมอินดี้...ผมเกรียนจะตาย(•`^`•)~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
 อยากจับเกต์ไปถ่วงทะเลพร้อมกับคนชื่อเฟย์ซะจริงๆ :katai1:
คนแรก ข้อหาขัดขวางฉาก NC
คนที่สอง ข้อหาโผล่มาไม่ถูกที่ถูกเวลา ทำให้เกิดอุปสรรคระหว่างศิลป์กับนิว
ฆ่า มานนนนนนนน  :m31:

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
พะภูเห็นของดีซะแล้ว

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :m15: สงสารนิว
 :beat:  :z6: แค่ยัยเฟย์

ออฟไลน์ fiixtion

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สงสารคู่ศิลป์ กับ นิว  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:พระภูมาเห็นพอดีเลย :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
สนุกดีอะ พึ่งอ่าน พระเอกเราน่ารักนะเนี่ย  ถึงแรกๆจะเถื่อนไปนิดก็อภัยได้

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
ตายละความแตก แต่กับพะภูคงไม่เป็นไรมั้ง

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
สงสารนิวอ่ะ

พะภู ปิดตาไม่ทันแล้วสินะ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
พะภูกะพี่ติกะลังน่ารัก o13
ขอฉากสวีทยาวๆๆๆเลยนะคะ  :impress2:

ส่วนคู่พี่ศิลป์กะนิวกะลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียด เฮ้อ สงสารนิว  :mew6:

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
สงสารนิวจัง


แต่ตะกี้ ถ้าพวกพี่เกต์ไม่เคาะประตูก่อน พระภูเสร็จพี่ติไปแล้ววววว  :hao7: :hao7: :hao7:

คนจากต่างดาว

  • บุคคลทั่วไป
เอ่ม...พี่ติกะพะภู  :pighaun:

5555 ขอฉากสวีทเยอะๆๆๆๆ

ปล. เอาแล้วไงพะภู เห็นของดีแล้วไงลูก อิๆ :haun4:

mooaiir

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 19

 

7 เดือนก่อน

“ไอ้เวร!!”

ผลัวะ!

ตุ้บ!

เสียงเอะอะจากหน้าประตูโรงเรียนนักเลงอย่างวิไลวิทย์ดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคน เด็กผู้ชายม.ปลายสองกลุ่มกำลังเข้าตะลุมบอนกันยกใหญ่ และค่อยๆขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ นักเรียนหลายคนที่ยืนรอรถโดยสารบนฟุตบาทต้องรีบอพยพไปทางอื่นเกือบหมด

“ไอ้เหี้ยศิลป์!”

ชายร่างใหญ่ตะคอกอย่างสุดกลั้น ก่อนจะปราดเข้าหามือซ้ายจอมโหดแห่งกลุ่มอันธพาลที่ใหญ่ที่สุดของโรงเรียน ในขณะที่คนโดนท้ากลับยืนรออยู่แล้วด้วยท่าท่างสนุกสนานเต็มที เมื่อคู่อริพุ่งเข้าใส่ เขาก็ยกเท้าขึ้นถีบอีกฝ่ายออกไปอย่างแรง

“อั่ก!?”

ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ เด็กผู้ชายตัวเล็กในชุดม.ต้นบนขอบฟุตบาท ท่าทางจืดจางจนแทบไม่รู้สึกถึง กำลังเซไถลลงไปยังถนนด้านหน้า ด้วยว่าถูกกระแทกจากร่างที่ลอยมาตามแรงถีบเมื่อครู่ พอดีกับเสียงบิดมอเตอร์ไซค์ซึ่งกำลังตรงเข้ามา เร็วเกินกว่าจะหยุดได้ทัน

โครมมม!

นักเรียนตัวผอมกลิ้งลงไปนอนแหมะเกือบกลางถนนสายเล็กๆ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเหล่าผู้หญิงทันทีที่เลือดสีแดงข้นเริ่มไหลออกมาจากศีรษะ คนที่เพิ่งโดนถีบมาชนเด็กบนพื้นรีบยันตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะกวักมือเรียกลูกน้องคนอื่นๆให้หนีออกจากบริเวณกันจ้าละหวั่น

“เชี่ยแล้ว..”

ศิลป์สบถคำโต มองหน้าคนในกลุ่มเลิ่กลั่ก สักพักก็ตัดสินใจก้าวเข้าไปช้อนร่างบนถนนขึ้นมา สีหน้าซีดเผือด มีเพื่อนอีกคนตามมาเก็บกระเป๋าและแว่นตาบนพื้น แน่นอนว่าไอ้มอเตอร์ไซค์คันเมื่อครู่ ได้หนีหายเข้ากลีบเมฆไปเรียบร้อยแล้ว

รถเก๋งสีเงินวาวของรุ่นน้องคนหนึ่งขับมาจอดใกล้ๆ ไวยิ่งกว่าคำสั่ง ก่อนที่ทั้งกลุ่มจะรีบกระโจนเข้าไปด้านใน พร้อมพยุงร่างอาบเลือดของเด็กโรงเรียนตัวเองไว้ด้วย ทุกคนเอาแต่นั่งทำหน้าไม่ถูก มือไม้สั่นตลอดทางไปโรงพยาบาล แต่คนที่ต้องคิดหนักสุดก็เห็นจะเป็นมือซ้ายจอมหาเรื่อง ซึ่งกำลังก้มมองใบหน้าขาวซีดของเด็กบนตักอย่างเครียดจัด ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นฝ่ายถีบไอ้เวรนั่นไปชนหมอนี่ ถือเป็นเรื่องราวซวยๆในวันสุดท้ายของการสอบจบชั้นม.5

รถยนต์จอดตัวลงหน้าโรงพยาบาลเอกชนใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าใครกำลังเปิดประตูออกมา เหล่าพยาบาลทั้งหลายก็รีบรุดเข้าหากันแทบไม่ทัน ร่างสลบไสลของนักเรียนหน้าไม่คุ้นตาถูกยกขึ้นเตียง ตรงไปยังห้องฉุกเฉิน หนึ่งในกลุ่มรับอาสาเจรจากับทางคุณหมอ ปล่อยให้ตินั่งสงบจิตใจอยู่บนเก้าอี้ ได้แต่กำมือแน่นจนเส้นเลือดปรากฏเด่นชัด ในหัวภาวนาให้คนไม่รู้จักปลอดภัยด้วยเถอะ หลายคนอาจไม่รู้ว่าผู้ชายจอมหาเรื่องคนนี้มีพ่อจอมโหดเป็นนายตำรวจยศสูง ซึ่งพร้อมจะฆ่าลูกตัวเองได้ทุกเมื่อหากไปก่อคดีร้ายแรงเข้า และถ้าเกิดอะไรกับเด็กนี่ขึ้นมา เชื่อเลยว่านั่นหมายถึงชะตาของเขาเช่นกัน

นานพอดูกว่าที่คุณหมอร่างท้วมจะเดินซับเหงื่อออกมา คำพูดที่ว่า ‘คนไข้ปลอดภัยดีครับ’ แทบทำให้ศิลป์เกือบร้องตะโกนด้วยความโล่งอก พอจบปัญหาไปหนึ่งเปลาะ ก็หันกลับไปไล่พวกเด็กในกลุ่มคนอื่นๆให้แยกย้ายกลับบ้าน ไม่อยากต้องดึงไอ้พวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับปัญหาที่เขาสร้างเอง ก่อนจะจบตัวลงบนเก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ ภายในห้องพิเศษขนาดกว้าง ได้แต่ไล่สายตามองร่างเล็กๆบนเตียงอย่างพิจารณา ผิวขาวอย่างกับกระดาษดูน่ากลัว ยิ่งกับทรงผมยาวๆปิดหน้าปิดตานั่นแล้ว ก็แทบไม่จับสายตาใครเลย บนหน้าผากตอนนี้มีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ เช่นเดียวกับแขนข้างขวาซึ่งถูกจับเข้าเฝือกชิ้นหนา สาบานได้ว่าเขาไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าผู้ชายคนนี้ในรั้ววิไลวิทย์

“ใครวะเนี่ย..” พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงบนเตียง ปล่อยให้จิตใจค่อยๆจมลงไปในห้วงนิทรา นานเท่าไรไม่รู้ที่ศิลป์มัวแต่พักผ่อนจนเกือบลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ไหน กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกที ฟ้าด้านนอกก็กลายเป็นสีดำสนิทแล้ว

“ท..โทษที ฉันหลับไป” คนตัวใหญ่เอ่ยปากพลางขยี้ตาตัวเองสองสามที พอให้เห็นภาพตรงหน้าชัดขึ้น คนเจ็บบนเตียงกำลังนั่งกดมือถืออยู่อย่างเงียบๆ มีแว่นตากรอบสีเหลี่ยมสีน้ำตาลคาดอยู่บนหน้า

“นาย...เป็นอะไรไหม?” คำถามเบสิคที่สุดถูกถามออกไป ทำให้คนตัวเล็กต้องเก็บมือถือเข้ากระเป๋า ก่อนจะหันมาคุยกับศิลป์เป็นเรื่องเป็นราว ใบหน้าเรียบเฉยที่แสดงออกมา ทำให้เดาไม่ถูกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ไม่แล้วครับ ขอบคุณ”

“คือ ฉันขอโทษจริงๆนะ ทำให้โดนลูกหลงแบบนี้..”

“ไม่เป็นไรครับ”

“แล้ว.. นายชื่ออะไร?”

“ผมชื่อนิวครับพี่ศิลป์”

คนตั้งคำถามเมื่อครู่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เหมือนกำลังตกใจที่เด็กนี่รู้ชื่อของเขาด้วย แต่ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อีกฝ่ายก็พูดขึ้นก่อนอย่างรู้ทัน

“ใครๆในโรงเรียนก็รู้จักพี่ทั้งนั้นแหละครับ”

จริงสินะ...ก็เกือบลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร หนึ่งในหัวขบวนของกลุ่มกีรติ กลุ่มนักเรียนนักเลงที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ แหม ฟังดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆน่ะแค่แหล่งรวมตัวพวกบ้าชวนตีเท่านั้นเอง แต่ไม่ว่าหน้าไหนก็เอาแต่กลัวพวกเขาจนหัวหด โอเวอร์เสียจนน่าหมั่นไส้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อแท้ของกลุ่มกีรติ มันไร้สาระสิ้นดี

“อ่า แล้วนายเป็นเด็กม.1เหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”

“เปล่าครับ ผมม.3แล้ว” ดวงตาของศิลป์เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหู เด็กตัวกะเปี๊ยกเดียว จะขึ้นม.ปลายแล้วเนี่ยนะ หลอกกันหรือเปล่า

“ไม่ได้หลอกนะครับ ผมอยู่ม.3 จะขึ้นม.4แล้ว”

เดี๋ยวนะๆ พูดเหมือนอ่านความคิดกันออกแบบนี้ ชาติที่แล้วทำอาชีพหมอดูหรอครับ!

“แต่พี่คงไม่รู้จักผมหรอก ผมหลืบจะตาย”

“ก็นั่นน่ะสิ ปล่อยให้ผมยาวรุงรังแบบนี้ แค่หน้าชัดๆของนายฉันยังไม่เห็นเลย” คนตัวสูงเริ่มพูดคุยด้วยอย่างผ่อนคลายมากขึ้น เขาพรวดพราดลุกออกจากเก้าอี้และตรงเข้าไปคว้าหัวไหล่ของเด็กบนเตียงเอาไว้ ทำท่าทำทางอย่างกับคุณพี่ที่กำลังหงุดหงิดน้องชายก็ไม่ปาน

“พะ..พี่ศิลป์!?”

“นี่ไง...ก็...”

มือข้างหนึ่งกดไหล่คนบนเตียงไว้ไม่ยอมให้หนี อีกด้านยกขึ้นเสยผมรุงรังของนิวออกไป เป็นวินาทีแรกที่เขาได้หยุดมองดูใบหน้าขาวซีดนี้ให้ชัดเจน เพิ่งสังเกตเห็นว่ามันดูดีขนาดไหนยามไม่มีเส้นผมใดๆมาบดบัง โครงหน้าเรียว เกลี้ยงเกลา เบื้องหลังเลนส์แว่น บัดนี้กลับขึ้นสีเลือดฝาดอย่างที่อยากเห็น แก้มแดงๆบนผิวขาวเผือดไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไปแล้ว

“ดูดีออก...”

สิ้นสุดคำพูด ศิลป์ก็รีบผละตัวลงมานั่งบนเก้าอี้ตามเดิม อารมณ์ชะงักงันเมื่อครู่ถูกไล่ออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่คนตัวเล็กเริ่มยีหัวตัวเองให้กลับมาเป็นทรงเดิม ก้มหน้างุดเสียยิ่งกว่าเก่า บรรยากาศภายในห้องเริ่มเข้าสู่ความเงียบสงัด ก่อนที่พยาบาลจะเปิดประตูเข้ามา ศิลป์ได้จังหวะปลีกตัว แต่ก็ไม่ลืมสัญญาว่าจะคอยดูแลคนเจ็บจนกว่าจะหายดี แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาต้องรับผิดชอบ

คนตัวสูงเดินพ้นประตูห้องพิเศษออกไปด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งที่ไม่ควรรู้สึกแบบนี้โดยที่ไปสร้างเรื่องเดือดร้อนไว้ แต่อะไรบางอย่างกำลังตะโกนบอกเขาว่า ‘โชคดีจริงๆ’

วันแรกของการปิดเทอมฤดูร้อน ถูกประเดิมด้วยการแวะเยี่ยมผู้ป่วยรุ่นน้อง เค้กช็อกโกแลตจากร้านเบเกอรี่ชื่อดังตั้งตระหง่านอยู่บนโต๊ะเลื่อนของทางโรงพยาบาล ในขณะที่คนบนเตียงดูไม่ตื่นเต้นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้

“เป็นอะไร ไม่ชอบเหรอ?” คนตัวเล็กส่ายหน้าน้อยๆ ทำเอาศิลป์ถึงกับหน้าเสีย สายตาจ้องมองก้อนเค้กตรงหน้าด้วยสายตาผิดหวัง น้ำเสียงเหมือนเด็กเอาแต่ใจดังขึ้นงืมงำ “แล้วชอบอะไรอะ..?”

“อืม...สตรอเบอรี่ มั้ง”

พรึ่บ!

นิวเกือบหลุดส่งเสียงร้อง เมื่ออยู่ดีๆคนข้างเตียงก็พรวดพราดลุกขึ้นยืน ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องอย่างไร้คำบอกกล่าว เกือบ 10 นาทีผ่านไป ก็กลับมาพร้อมสตรอเบอรี่ ช็อตเค้กชิ้นใหญ่ในถุงของร้านกาแฟใต้โรงพยาบาล เรียกรอยยิ้มจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี

“ไม่เห็นต้องไปซื้อมาเลย” พูดไปแบบนั้น ทั้งที่ข้างในก็ดีใจจนซ่อนไม่อยู่ คนกำลังยืนหอบไม่ตอบอะไร เพียงแต่เดินเอาเค้กมาวางบนโต๊ะแทนที่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แค่รู้สึกว่าอยากให้เด็กคนนี้ดีใจ อยากเห็นเขายิ้ม...

มันแปลกมาก เขากับนิวสนิทกันได้ภายในระยะเวลาแสนสั้น ทุกครั้งที่เริ่มพูดคุยกันมักทำให้เขารู้สึกสบายใจได้อย่างน่าประหลาด บรรยากาศชวนหดหู่ยามต้องสนทนากับเด็กคนอื่นๆ แทบไม่มีอยู่เลย

“ไม่คิดว่าพี่ศิลป์จะใจดีขนาดนี้” นิวว่า มือซ้ายหยิบส้อมตักชิ้นเค้กตรงหน้าอย่างเก้ๆกังๆ จนคนนั่งมองแทบอยากจะดึงเค้กมาป้อนให้เอง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำ เพราะกลัวว่าจะดูผิดปกติมากไปหน่อยหรือเปล่า

“ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ คนอื่นแค่ไม่รู้จักกันจริง แล้วก็ตัดสินไปเรื่อย” พอพูดประเด็นนี้ทีไร ก็อดใส่อารมณ์หงุดหงิดไม่ได้ “ชอบมองว่าน่ากลัวไว้ก่อนตลอด ทั้งที่ไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ ไม่รู้อะไรเลยแล้วพูดแบบนั้น..”

เสียงของคนพูดเริ่มแผ่วลง มีมือเล็กๆเอื้อมเข้ามากุมมือเข้าไว้หลวมๆเหมือนต้องการส่งผ่านกำลังใจ ซึ่งเจ้าตัวคงไม่รู้หรอก ว่าสัมผัสเล็กน้อยนี้มันช่วยให้จิตใจเขาโปร่งขึ้นมากขนาดไหน ให้ตายสิ.. มันชักจะแปลกกันเข้าไปใหญ่ ทำไมถึงรู้สึกดีที่ได้อยู่กับเด็กนี่จัง

“แล้วนายล่ะ กลัวฉันรึเปล่า?” คำถามลองใจถูกส่งออกไปด้วยน้ำเสียงคาดหวังบางอย่าง นิวไม่ได้หลบสายตาไปทางไหน แต่กลับตอบออกมาตรงๆ ทำเอาคนฟังใจชื้นขึ้นมากโข

“ไม่ครับ”

รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้น ทำเอาใจอีกคนกระตุกวูบ ถึงแม้จะมีกลุ่มเส้นผมปรกหน้าปรกตา แต่ก็ไม่สามารถซ่อนความน่ารักน่าหยิกที่แผ่ออกมาได้เลยสักนิดเดียว ถ้าแค่มองผ่านไปก็จะไม่รู้สึกถึงหมอนี่เลย แต่ถ้าได้ตั้งใจมองสักครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะละสายตาออกไปไม่ได้เช่นกัน

บ้าชะมัดที่เผลอยิ้มตามอย่างห้ามไม่ได้ และคงบ้ากว่ามากที่เผลอคิดว่า อยากย้อนเวลากลับไปป้อนเค้กให้เด็กคนนี้จริงๆเลย

 

เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ศิลป์แวะเวียนมาเยี่ยมนิวไม่ได้ขาด ข่าวลือเรื่องมือซ้ายแห่งกลุ่มกีรติที่คอยตามปรนนิบัติเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ถูกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จนทำเอาเขาเกือบสูญเสียภาพลักษณ์นักเลงหน้าโหด ถึงอย่างนั้น การมาโรงพยาบาลทุกวัน ก็ดูจะกลายเป็นเรื่องเคยชินสำหรับเขาไปเสียแล้ว และคงจะดูน่าขนลุกไม่น้อยทีเดียว ถ้าต้องสารภาพตามตรงว่าเหตุผลหลัก ก็คือการมาพบหน้ารุ่นน้องตัวเองคนนี้

“พี่ศิลป์!” นิวร้องขึ้น ไม่มีการปกปิดความดีใจแต่อย่างใด ตอนนี้ที่หน้าผากหลงเหลือไว้แค่ผ้าก๊อซแผ่นเล็กๆ ส่วนเฝือกรอบแขนก็โดนถอดออกไปแล้ว คนตัวสูงยิ้มกว้างเป็นการตอบกลับ สายตาเหลือบมองผู้ชายในสุดชูทซึ่งกำลังก้มตัวผ่านเขาออกไปด้านนอก

“ลูกน้องของบ้านผมเองครับ ผมขอให้เอาหนังมาให้” คนบนเตียงรีบบอกเหมือนรู้ความคิด ก่อนจะชูกล่อง DVD ภาพยนตร์ฝรั่งเรื่องหนึ่งขึ้น หนังผีเนี่ยนะ..

ศิลป์ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่เดินไปเปิดทีวีจอใหญ่ของห้องพิเศษให้ ก่อนจะสอดแผ่นดิสก์เข้าไป เดินกลับมานั่งประจำที่เก้าอี้ข้างเตียง เนื้อเรื่องน่ากลัวจนแม้แต่เขายังอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ แถมดันเป็นเรื่องราวสยองขวัญในโรงพยาบาลร้างอีกต่างหาก ไอ้เด็กนี่ก็ช่างคิดดีเหลือเกิน ตัวเองกลัวจนแทบมุดหายเข้าไปในหมอนอยู่แล้ว ก็ยังจะเลือกหนังแนวนี้มาดูเอาในเวลาแบบนี้อีกนะ

ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มเปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีกรมท่า สักพักก็มืดสนิท ทอประกายแสงดาวนับล้าน เคียงคู่พระจันทร์เสี้ยวสวย หนังจบแล้วแต่คนอยากดูยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาควานหาสร้อยพระอยู่เลย แบบนี้จะไหวไหมให้ทาย

“ฉันกลับแล้วนะ”

“เดี๋ยว!”

“หืม..?” คนตัวสูงพยายามกลั้นยิ้ม ยื่นใบหน้าเจ้าเล่ห์เข้าไปใกล้เด็กที่ยังเอาแต่กำหมอนในมือแน่น ดวงตากลมโตหลังเลนส์แว่นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวจนเห็นได้ชัด...น่ารักดีแฮะ

“เอ่อ...คืนนี้อยู่นอนเป็นเพื่อนผมได้ไหม?”

“นี่นายกำลังเชิญชวนฉันอยู่รึเปล่า?” ถูกตั้งถามคำกวนตีนกลับ ทำเอาใบหน้าเล็กชาแดงไปทั่วจนถึงใบหูทั้งสองข้าง หมอนในมือถูกปาออกไปปะทะแผ่นอกแกร่งซึ่งกำลังกระเพื่อมตามแรงหัวเราะ

“พี่ศิลป์!!”

ต้องเรียกว่าหมดสภาพนักเลงนาม ศรศิลป์ อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าเวลาไหนที่อยู่ต่อหน้าเด็กชื่อนิว ก็ทำให้เขาหลุดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาได้อย่างง่ายๆ รู้สึกเหมือนไม่ต้องกลัวอะไร สบายใจที่จะทำลายกำแพงสูงใหญ่ลง ซ้ำร้าย ยังมีความสุขอย่างน่าประหลาด ‘อยากอยู่อย่างนี้’ นั่นคือความคิดในหัวของเขา

ไม่นานนัก คุณพยาบาลก็เอาชุดคนไข้ตัวใหม่มาเปลี่ยนให้คนตัวเล็ก ซึ่งวันนี้ยิ่งดูน่ารักเป็นพิเศษ เพราะกลัวจนขึ้นสมอง เลยยอมให้เขาขึ้นมาเบียดนอนบนเตียงเดียวกัน ทั้งที่พูดออกไปเล่นๆเท่านั้น ไฟในห้องถูกปิดตัวลงจนหมดแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแสงสลัวที่ลอดผ่านออกมาจากประตูห้องน้ำ ท่าทางว่านิวจะกลัวจริงๆ ถึงได้ไม่ยอมปล่อยมือจากเสื้อเขาเลย

เสียงเครื่องปรับอากาศในห้องคือเสียงที่ดังที่สุดในตอนนี้ เวลาผ่านไปนานจนร่างบางข้างๆจมเข้าสู่ดินแดนความฝัน ทิ้งให้เขาได้แต่แอบมองใบหน้าสว่างอยู่เพียงลำพัง นอกจากครอบครัว กับเพื่อนสนิทสองคนแล้ว เขาไม่เคยนึกอยากจะเปิดเผยตัวตนให้ใครได้รู้จัก เพราะไม่เคยเชื่อว่าจะมีใครคนไหนสามารถเข้าใจตัวตนเหล่านั้นของเขาได้อย่างแท้จริง หากคนทั้งโลกจะมองว่าเขาร้ายก็ไม่สน จนเกิดเป็นกำแพงขนาดใหญ่ที่มีเพียงแค่ประตูบานเล็กๆ ล็อกกุญแจแน่นหนาเอาไว้เท่านั้น แต่ทำไมไม่รู้ นิวถึงได้เดินเข้ามาสะเดาะกุญแจนั้นออกอย่างง่ายดาย เปิดประตูเข้ามาในชีวิตของเขา และมอบสัมผัสอันแสนอ่อนโยนให้ ภายใต้ใบหน้าน่ารักที่ถูกซ่อนไว้เบื้องหลังแว่นตากับเส้นผมสีนิล

มันแปลกมากจริงๆ กับช่วงเวลาเพียงไม่นาน... กลับทำให้เขารู้สึกเชื่อใจเด็กคนนี้อย่างไร้ข้อกังขา แบบนี้มันเหมือนกับตัวต่อชิ้นสุดท้ายที่หายไป เมื่อไรก็ตามที่ได้พบพาน ชิ้นงานตรงหน้าก็คงสมบูรณ์ได้ในทันที

สงสัยเหลือเกิน...ว่าตอนนี้ชีวิตของศรศิลป์ที่แหว่งหาย มันถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์แล้วหรือยัง?

ใบหน้าเรียวค่อยๆเลื่อนเข้าหาเด็กในห้วงนิทรา มือใหญ่โอบรอบเอวบางอย่างระวังที่สุด ค่อยๆยกตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากบางจะจรดลงบนแก้มใส อวัยวะภายในปั่นป่วนไปหมดด้วยเหตุผลบางอย่าง กลับกลายเป็นว่าหัวใจ ส่งเสียงดังยิ่งกว่าอะไรในห้อง...

ศิลป์ลากริมฝีปากเข้าแนบกับเรียวปากอิ่ม แช่ไว้อย่างนั้นสักพัก ก็ค่อยถอนตัวออกมา นิวยังคงหลับใหลไม่รู้เรื่องอะไร ขณะที่อีกคนกำลังจะเสียสติไปเพราะการกระทำเมื่อครู่ มือที่เคยจับเอวอีกฝ่ายไว้ยกขึ้นครอบปากร้อนผ่าวของตัวเอง ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างที่ไม่เคยมาก่อน

บ้าไปแล้ว ศรศิลป์...

-----------------------------------------

โอ้ยย สอบเสร็จแล้วคือนิพพาน TT
ตอนนี้นึกว่าจะสั้นๆ ทำไปทำมา แต่งเพลินเลย
ตัวละครปริศนาที่บอกเลยยังไม่ได้ออก
แต่ตอนหน้ามาแน่นอน พร้อม ติ-พะภู
ส่วนตอนนี้ฟินกับ ศิลป์-นิว ไปก่อนนะ
น่ารักไม่แพ้เลย เราชอบมากอะ 55555
ถ้ายังไงขอคอมเม้นให้คู่นี้ด้วยน้า~
ขอบคุณนักอ่านทุกคนเลยค่า <3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2013 22:05:33 โดย mooaiir »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด