คาถาที่ ๑ [100%]“อ้ากกก! ไอ้มอส! ฮึ่ยๆๆ” เรียวจันทร์เตะเข้าที่ล้อรถเก๋งแคมรี่สีฟ้าสุดหรูที่เก็บเงินซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แล้วก็เกือบต้องเข้าไฟแนนซ์อยู่บ่อยครั้ง
ปึก! ปึก!
“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ก่อนเรียว คู่นั้นไนกี้ลิมิเต็ดอีดิชั่นเชียวนะ กว่าแกจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายนะยะ” เรียวจันทร์ชะงักกึก หันไปมองเพื่อนด้วยใบหน้างอง้ำ พอนึกตามที่เพื่อนพูดก็เลยค่อยๆ ดึงเท้าออกจากล้อรถ ก่อนจะกระแทกก้นลงนั่งบนพื้นสนามหญ้าเล็กๆ ที่อยู่ตรงใกล้ประตูทางเข้าไปในอาคารคอนโด พ่นลมหายใจอย่างเซ็งจัด สีหน้านั้นทั้งคับแค้นใจ ทั้งผิดหวังปนกันไปหมด
“นี่แกจะครายรึเปล่าเนี่ย” พ่อหนุ่มหน้าผ่องรีบเบะปากส่ายหน้าทันที
“ฉันเฟล ฉันนอยด์ ฉันดิสสัพพอยท์มากกว่าที่มอสมันเป็นแบบนี้ ฉันดูไม่ออกจริงๆ ว่ามันเป็นรับ คือแกก็รู้ ฉันสาวแล้ว ฉันก็อยากได้คนแมนๆ มาปกป้องฉัน ถึงมอสมันจะแมน แต่โห แกก็เห็น ตอนมันนั่งเทียนเมื่อกี้ ลีลาพลิ้วไหวอย่างกับสายน้ำ” ยกมือขวาปาดแก้มขวาหนึ่งที น้ำตาไม่มีสักหยด ทั้งที่จริงอยากจะร้องไห้อยู่นะ แต่ร้องไม่ออกเลย นางไม่ได้มองว่ามันเป็นการนอกกายหรือนอกใจใดๆ นางมองว่ามันเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในชีวิต
“แต่เอาจริงๆ นะแก มอสมันก็ดูแมนดีนะ ก็แค่นั่งเทียนเก่งไปหน่อย”
“นั่นแหละ มันบอกมันอยากลอง เกิดมันติดใจแล้วขอนั่งของฉัน โอ๊ย อีแม่ขนลุกขนพอง!” เป็ดนั่งลงข้างๆ เพื่อน เรียวจันทร์ถอนหายใจ ใบหน้าหมดอารมณ์จะทำใดๆ ต่อ แหวกกระเป๋าออก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดเครื่อง รอสักพักให้เครื่องได้เริ่มการทำงาน ก็เปิดเข้าไปเช็กโซเชียล มีสายไม่ได้รับจากแม่เป็นครึ่งร้อยมิสคอล แล้วยังมีข้อความแจ้งเตือนตอนปิดเครื่องอีก นางกดลบทิ้งไม่สนใจ กะว่าเดี๋ยวคงจะปิดเสียงเอาไว้ ช่วงเวลานี้อย่าได้คุยกับแม่จะเป็นการดีที่สุดสำหรับชีวิต เพราะไม่งั้นเลเวลการอาละวาดจะมีมากขึ้น
“เฮ้ย ฉันว่าที่แกควรรู้สึกด้วยอะ คือเรื่องที่มันมีคนอื่นนะ” คนที่กำลังก้มมองมือถืออยู่หันไปมองเพื่อนสาวด้วยใบหน้ากำลังครุ่นคิด
“เออ ก็จริงเนอะ เหอะ! ดีนะที่ความรู้สึกฉันไม่ได้ลงลึกไปกับมันมาก” พอตั้งสติได้ขึ้นมาบ้าง ก็มองเห็นถึงความจริงในข้อนี้ว่าอีกฝ่ายไม่ซื่อสัตย์
“ร้องไห้ก็ได้วะ…” แล้วเรียวจันทร์ก็ปล่อยโฮ น้ำตาที่ตอนแรกจะไม่ไหล จู่ๆ ก็ไหลออกมา พอบอกกับตัวเองได้ว่าโดนแฟนหักหลัง เป็ดที่รู้นิสัยเพื่อนดีเลยได้แต่นั่งตบหลังเพื่อนเบาๆ อย่างเป็นกำลังใจให้ เรียวจันทร์นั่งสะอึกสะอื้น มือซ้ายเช็ดน้ำตาไป มือขวาก็เลื่อนเช็กฟีดข่าวในเฟซบุ๊คไปด้วย
“…ฉันรักมันมั้ย ฉันว่าก็ยังไม่ได้รักอะไรมาก แต่ก็จะเริ่มรักแล้วอะ แล้วมันก็มาเป็นแบบเนี้ย ฮื่อ ฮื่อ” ชายหนุ่มสะอื้นเบาๆ มือซ้ายก็ป้ายน้ำตาทิ้งรัวๆ มือขวาก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นภาพของแจเร็ดไปปาร์ตี้กับเพื่อน ตอนนั้นเองที่หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบฉับพลันแล้วหันไปหาเป็ดทั้งที่ยังมีน้ำตาเปรอะแก้มอยู่
“เป็ด แกไปส่งฉันที่ RCA ที” ศิริประภาขมวดคิ้วฉับแล้วหันไปมองเพื่อนด้วยความงง
“แกจะไปทำไมวะ” เรียวจันทร์วางโทรศัพท์ลงบนตัก ใช้สองมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้มจนเหือดแห้ง กระแอมคอให้โล่งแล้วปรับทีท่าให้กลับมาสง่าผ่าเผย
“ฉันจะไปปาร์ตี้กับแจเร็ด”
“ฮะ?!” สาวผิวเข้มอ้าปากค้างหน่อยๆ จ้องมองเพื่อนอย่างเหลือเชื่อเล็กๆ อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม ยักคิ้วหนึ่งทีแล้วพยักหน้าตอบกลับมา
“แกเพิ่งบอกเลิกผู้ชายอีกคน แล้วแกจะโผเข้าหาอีกคนเลยงั้นเหรอ” เรียวจันทร์ทำหน้าว่า แล้วไง หยิบมือถือขึ้นมากดพิมพ์รัวๆ สักพักแล้วก็เงยหน้าขึ้นไปพูดกับเพื่อนอีกรอบ
“จะให้ฉันเศร้านานทำไม ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันไม่ชอบแจเร็ด แค่ฉันยังมีมอสอยู่ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีมอสแล้ว”
“โอ้โห ฉันล่ะบูชาความแรดของแกจริงๆ” คนโดนด่าว่าแรดไม่ได้สนใจ ลุกขึ้นยืนแล้วกวักมือเรียกให้เป็ดลุกขึ้นยืนตาม สายตาก็ยังคงจับจ้องมองที่จอมือถือตามเดิม
“เดี๋ยวแกไปส่งฉันแล้วแกเอารถกลับไปได้เลย พรุ่งนี้เช้าเจอกันที่บ้าน” เป็ดทำหน้าอึ้งเข้าไปอีก
“นี่แกกะเสียตัวให้แจเร็ดคืนนี้เลยเหรอ” เรียวจันทร์ถลึงตามองกลับ
“เปล่า แต่แจเร็ดบอกว่าอาจจะอยู่โต้รุ่ง เดี๋ยวเขาไปส่งฉันเอง” พอพูดจบ พ่อนายแบบก็เปิดประตูเข้าไปประจำที่อย่างรวดเร็ว ทิ้งความทึ่งปนความนับถือ (ในความแรด) ไว้ให้กับศิริประภา ประภาศิริไว้เต็มเหนี่ยว
เรียวจันทร์สอดส่องมองหาตำแหน่งของโต๊ะนั่งที่แจเร็ดบอก เสียงเพลงดังจนหูอื้อหลังจากก้าวเข้ามาข้างในร้านได้สักพัก นางพยายามมองหาแจเร็ดท่ามกลางลำแสงไฟสีเขียวสีแดงสีเหลืองที่ปัดผ่านความมืดมิดในร้าน ใบหน้าของผู้คนด้านในเห็นได้ลางๆ จากแสงไฟวิบวับของในผับ ขาเรียวยาวก้าวเดินไปตามทางเดินช้าๆ เบียดเสียดผู้คนเข้าไปด้านใน ยืนชะเง้อมองหาพ่อหนุ่มอิตาลีด้วยใบหน้ามู่ทู่ เพราะหายังไงก็หาไม่เจอ กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์วอทสแอพหาก็โดนสะกิดที่ไหล่ พอหันไปก็กรีดยิ้มกว้าง
“ฉันมองหาเธอตั้งนานแน่ะแจเร็ด” เสียงอ่อนเสียงหวานราวกับกินน้ำตาลไปสิบช้อน แถมสร้างเสน่ห์ด้วยการสวมกอดด้วยความดีใจสักนิดเพื่อพิชิตใจชาย แจเร็ดยกแขนกอดตอบหลวมๆ แต่ยังไม่ทันได้โอบรัดเรียวจันทร์ก็ผละออกมายิ้มให้
“นั่งอยู่ตรงไหนกัน” แจเร็ดยิ้มกับท่าทางสดใสของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเรียวจันทร์ปั้นหน้ามาตั้งแต่ในรถ จะให้เห็นร่องรอยความเศร้าหรือร่องรอยน้ำตาไม่ได้ เดี๋ยวไม่เฟรช
“ตามไอมาสิ” แจเร็ดถือโอกาสจูงมือเรียวจันทร์ไปที่โต๊ะของเขากับเพื่อนๆ ที่อยู่ติดกับผนัง เพื่อนของเขาคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับสาวไทยที่เข้ามาพูดคุยด้วยนานแล้ว
“Hey dude! Riewjan!” แจเร็ดตะโกนบอกเพื่อน ทุกคนหันมามองหนุ่มหน้าสวยที่ยิ้มสดใสกลับไปให้ เรียวจันทร์ถือว่าเป็นคนโดดเด่นลำดับต้นๆ ของวงการนายแบบ ฉะนั้นถ้าหนุ่มหน้าหวานจะเป็นที่จดจำและเป็นที่พูดถึงของเพื่อนร่วมอาชีพก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“Hi, Riew!!”
“Hi!!!!” เรียวจันทร์ส่งเสียงดังแข่งกับเพลง ผสานความสดใสเริงร่าเข้าไปยิ่งกว่าขบวนการเทเลทับบี้ นางเข้าไปสวมกอดกับหนุ่มหล่ออีกสามคนที่แค่หน้าตาก็กินขาดผู้ชายโต๊ะรอบๆ แหม ก็เป็นนายแบบนี่นะ จะไม่ให้ชวนมองได้ยังไง
“What do you want? I will get it for you!” แจเร็ดถามเสียงดังที่ข้างหูพลางชี้ไปยังเครื่องดื่มที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะกลมสีดำเล็กๆ เรียวจันทร์ตะโกนตอบว่าขอแบบที่พวกเขากำลังดื่มอยู่ แจเร็ดพยักหน้ารับแล้วเอื้อมไปหยิบเครื่องดื่มจากโต๊ะมาให้เรียวจันทร์หนึ่งขวด
“ไม่คิดเลยว่ายูจะมา!!” แจเร็ดกระซิบบอกเสียงดังที่ข้างหู เรียวจันทร์ยกเบียร์ดื่มก่อนที่จะหันไปตอบ
“พอดีแพลนที่มีล่ม ฉันเห็นคุณอัพรูปในไอจีพอดีเลยอยากมาสนุกด้วย!!” แจเร็ดยิ้มหล่อ ส่วนเรียวจันทร์ก็ยิ้มมีเสน่ห์กลับไปให้ ทั้งสองคนกระซิบคุยกันข้างหูกันสองคน ทำอย่างกับเพื่อนที่เหลือไม่ได้มาด้วย แต่ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นเวลาดีๆ ของแจเร็ดเลยทีเดียว เพราะเขาชวนอีกฝ่ายเที่ยวมาหลายครั้งแล้วแต่ได้รับการปฏิเสธมาตลอด
หลังจากผ่านไปได้สองชั่วโมง เรียวจันทร์ก็เริ่มมีอาการมึน นางไม่ใช่คนคอแข็ง แต่จะรู้ลิมิตของตัวเองดีว่าดื่มได้เท่าไหร่ อย่างตอนนี้กำลังดื่มเบียร์ขวดที่ห้า ซึ่งยังเป็นระดับที่ยังรับไหว ไม่เมา แต่ก็ครึกครื้นกว่าเดิมเยอะมาก พูดอะไรนิดอะไรหน่อยแม่นางก็ขำทำอย่างกับว่ามันตลกนักหนา ทั้งที่จริงบางครั้งเพื่อนแจเร็ดบางคนแค่บอกว่าฉี่จะแตก ก็ขำอย่างกับว่าเขาฉี่แตกไปแล้ว
“ไหวมั้ย!?” แจเร็ดก้มลงถามจนจมูกเฉียดแก้มหอมๆ ของเรียวจันทร์ไปหลายครั้งแล้ว
“แอมโอเค ยังโอเคอยู่ ยูไม่ต้องกังวลกับไอเลย!!” คนมึนยังคงพูดเสียงปกติ แต่แค่มีเอนเนอร์จีมากกว่าปกติ แจเร็ดยิ้มขำกับความเพี้ยนของอีกฝ่าย เรียวจันทร์เห็นหนุ่มหล่อยิ้มมาให้ก็เลยแสร้งยิ้มเขินอาย ตอนนี้สองคนยืนแยกออกมาจากโต๊ะอยู่ในมุมของผับ ยืนคุยกันราวกับโลกไม่มีใครอื่น
“ไอดีใจจริงๆ นะที่ยูมาคืนนี้” หนุ่มหน้าสวยหวานยิ้มกว้างคล้ายจะเขิน แต่ถ้าใครตามนางไม่ทันก็ไม่รู้หรอกว่านั่นน่ะแสร้งทำทั้งนั้น แจเร็ดยิ้มละมุน มองเรียวจันทร์ด้วยสายตาเจ้าตัวก็พอจะเดาออกว่าเป็นสายตาแบบไหน แต่มีหรือเรียวจันทร์จะหลบสายตา มองมาก็มองกลับ ใส่ความยั่วเข้าไปด้วยนิดหน่อย
“จูบได้มั้ย” แจเร็ดกระซิบเสียงเข้มข้างหู เรียวจันทร์ไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่กลับโน้มหน้าไปจูบแจเร็ดแทน หนุ่มอิตาลีตอบรับอย่างรวดเร็วและดูท่าจะโชกโชนมากด้วย มือขวาของเขายกขึ้นมาจับใบหน้าหวาน มือซ้ายรั้งเอวบางเข้ามาชิดร่างตัวเอง ทั้งคู่ยืนจูบกันดูดดื่ม ไม่สนสายตาของคนอื่นที่มองมา เรียวจันทร์หยอกล้อด้วยการยกมือขวาไปลูบๆ บีบๆ ตรงเป้าแจเร็ดจนสิ่งที่มันกำลังขยายตัวช้าๆ เปลี่ยนเป็นโป่งพองอย่างเร็ว
“ไปห้องไอเถอะ” เรียวจันทร์พยักหน้าตอบด้วยอาการหอบน้อยๆ แจเร็ดจูบเก่งมาก นี่ถ้านางอินโนเซ้นต์หรือด้อยประสบการณ์ละก็ มีหวังขาดใจตายแน่ๆ
“Hey! I’m gonna go back. Tell me later about money. See you!” แจเร็ดเข้าไปบอกเพื่อน มือซ้ายจับมือเรียวจันทร์ไว้แน่น เจ้าของมือนิ่มยืนมึนแต่ไม่ถึงขั้นประคองตัวไม่รอด ใบหน้าแดงก่ำเริ่มมีความรู้สึกร้อนจากการจูบเมื่อครู่นี้
หลังจากตกลงกับเพื่อนๆ แจเร็ดก็พาเรียวจันทร์เดินฝ่าฝูงชนออกจากผับ ก่อนออกมาเพื่อนแจเร็ดแซวเรียวจันทร์ว่าให้เตรียมถุงยางไว้สักสิบกล่องถึงจะพอกับความต้องการของแจเร็ดที่อยากปู้ยี้ปู้ยำนางมานานแล้ว เรียวจันทร์เลยหยอกกลับไปว่าในกระเป๋ามีอยู่สองกล่อง ถ้าไม่พอค่อยซื้อเพิ่มก็แล้วกัน เล่นเอาเพื่อนของแจเร็ดขอแท็กมือกันเป็นแถว
“Could you suck it? I don’t want to let it down. (อมมันไว้ได้มั้ย ไม่อยากให้มันหดเลย)” แจเร็ดถามหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามานั่งในรถมินิคูเปอร์ของพ่อหนุ่มอิตาลี แจเร็ดมองด้วยสายตาแผดเผา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอแล้วพยักหน้า หนุ่มอิตาลีปลดตะขอกางเกงแล้วควักอาวุธคู่กายออกมา เรียวจันทร์กลืนน้ำลายลงคอดังอึกกับการผงาดของหนุ่มเมืองโรมิโอแอนด์จูเลียต
“ยูขับรถได้ใช่มั้ย” แจเร็ดพยักหน้าเร็วๆ มือซ้ายรูดรั้งแก่นกายตัวเองเบาๆ
“คอนโดไออยู่ไม่ไกลมาก ขับแปบเดียว อย่าเพิ่งทำจนเสร็จแล้วกัน” เรียวจันทร์เม้มปากหนึ่งที บอกใจให้สงบนิ่ง ใช่ว่าไม่เคย แม้กับของต่างชาติจะผ่านมือ ผ่านปากมาไม่มาก แต่ก็ไม่ยากเย็นอะไรนักหรอก ก็แค่ได้เพิ่มอีกประเทศไง คิดดังนั้นก็โน้มตัวเข้าไปหาแจเร็ด ใช้ปากปรนเปรอให้หนุ่มอิตาลีที่ส่งเสียงร้องอู้ว~ อ้า~ ในขณะที่ขับรถไปบนท้องถนน
“Fuck. Very nice.” แจเร็ดครางเสียงกระเส่า เขาอยากจะหลับตาพริ้มแต่ก็ทำไม่ได้ มือซ้ายยกมาจับหัวเรียวจันทร์กดเข้ากดออกช้าๆ สายตาก็มองถนนไปด้วย หน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกส์แพ็คหดเข้าหดออกยามเรียวจันทร์กดเข้าไปจนลึกสุดลำคอหรือใช้ลิ้นละเลงส่วนปลายจนแทบแตกซ่าน แต่ดีที่เรียวจันทร์เบรกไว้ให้
“ยูเก่งมากเลยเรียว” คนถูกชมช้อนสายตามอง แจเร็ดก้มลงมองแล้วยิ้มให้ เรียวจันทร์ยิ้มตอบกลับไปนิดหน่อยแล้วก้มหน้าก้มตาใช้ปากให้แจเร็ดไปเรื่อยๆ เสียงครางทุ้มน่าฟังดังไปทั่วรถ แม้ของแจเร็ดจะใหญ่และแสนอวบอั๋น แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของคนอย่างเรียวจันทร์เลยสักนิด
“เฮ้ เรียว ถึงคอนโดไอแล้ว” เรียวจันทร์ดันตัวลุกขึ้น ส่งยิ้มยั่วให้แจเร็ดที่ซี๊ดปากกลับมา หนุ่มหน้าหวานใช้ลิ้นเลียไปรอบปาก ทำเอาอีกฝ่ายต้องโน้มหน้ามาจูบปากหนึ่งทีก่อนที่จะเก็บอาวุธเข้าไปด้านในกางเกง
“กำลังสนุกเลย” เรียวจันทร์บอกเสียงยั่ว หนุ่มอิตาลียิ้มหล่อ
“เดี๋ยวไปสนุกต่อบนห้องนะ” ทั้งคู่จัดการตัวเองแล้วเดินลงจากรถไปพร้อมกัน แจเร็ดจูงมือเรียวจันทร์ไปขึ้นลิฟต์ กดเลขแปดที่เป็นชั้นของห้องเขา ระหว่างที่รอลิฟต์ขึ้นไป ความร้อนในกายของแจเร็ดก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่าง นางเองก็ใจเต้นระทึกไม่น้อยเช่นกัน
พอลิฟต์เปิดออกที่ชั้นแปด แจแร็ดก็จูงมือเรียวจันทร์ไปตามทางเดินที่มุ่งตรงไปยังห้องพัก เขาดึงคีย์การ์ดออกมาทาบกับที่เปิดประตู เสียงสัญญาณดังขึ้น แจเร็ดเปิดประตูเข้าไปด้านใน ดึงร่างบางกว่าให้ตามเข้ามา วินาทีที่ประตูปิดลงดังปัง หนุ่มต่างชาติก็พุ่งเข้าจูบเรียวจันทร์อย่างเร่าร้อน
“อา… อา…” ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวไล้กันอย่างรุนแรง สองมือแจเร็ดดึงเสื้อยืดของเรียวจันทร์ออกแล้วขว้างทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ เรียวจันทร์ปลดกระดุมกางเกงของร่างหนาออกอย่างรวดเร็ว แจเร็ดผละออกจากริมฝีปากนุ่มนิ่มของร่างบาง ก้มลงถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว ความเป็นชายของหนุ่มอิตาลีดีดผึงผงาดออกมาอีกครั้ง เขาจัดการถอดกางเกงให้เรียวจันทร์ ร่างโปร่งบางที่มีกล้ามเนื้อสวยงามเปลือยเปล่าน่ามอง
“ยูมีถุงยางมั้ย”
“มีอยู่ที่เตียง” ร่างบางพยักหน้ากับคำตอบนั้น แจเร็ดอุ้มช้อนก้นของเรียวจันทร์ขึ้นมา คนถูกอุ้มใช้สองมือจับไหล่หนา สองขาเกี่ยวสะโพกหนาของคนตัวหนาไว้แน่น เรียวจันทร์จูบโลมเลียแผ่วเบา อีกฝ่ายจูบตอบกลับมาเพียงริมฝีปากแตะเช่นกัน พอถึงเตียงแจเร็ดก็วางร่างบางลงบนขอบเตียง เอื้อมตัวไปหยิบถุงยางจากลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงมาหนึ่งอัน วินาทีนั้นเรียวจันทร์รับรู้ได้เลยว่าแจเร็ดต้องพาคนมานอนที่ห้องบ่อยพอสมควร
“มีคนมานอนเป็นเพื่อนบ่อยล่ะสิ” แจเร็ดยิ้มในขณะที่กำลังสวมถุงยาง เขาโยนห่อถุงยางทิ้งลงบนพื้น จับเรียวจันทร์นอนแยกอ้าขากว้างๆ แล้วก็ค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปในตัวร่างบางโดยอาศัยเจลหล่อลื่นบนถุงยางเป็นตัวช่วย เรียวจันทร์เผยอปากขึ้น รู้สึกถึงความคับแน่น อึดอัดแต่ก็เสียวซ่าน นานมากแล้วที่ไม่ได้มีเซ็กส์กับใคร
“วันไนท์สแตนด์ทั้งนั้น” แจเร็ดก้มลงไปจูบพวงแก้มเนียนละเอียดของเรียวจันทร์ อีกฝ่ายยกสองมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ดจนหมดแต่ไม่ยอมถอดออก ทำเพียงแหวกแล้วใช้มือลูบไล้นมโตๆ แบบคนเล่นกล้ามทั้งสองข้าง
“แล้วไอล่ะ” ถามพลางส่งสายตายั่วยวนชวนหลงใหลไปให้ แจเร็ดยิ้มแล้วเริ่มขยับสะโพก ทำเอาเรียวจันทร์จิกเล็บลงบนอกแน่นๆ ของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยหวานแหงนขึ้น
“ถ้ายูตกลงเป็นแฟนไอ จะไม่ใช่แค่คืนนี้คืนเดียว” เรียวจันทร์กัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้ม โน้มคอแจเร็ดลงมาจูบด้วยความดูดดื่ม เขาจูบตอบในขณะที่สะโพกก็ซอยเข้าออกไปอย่างเชื่องช้าเพื่อทำให้เรียวจันทร์คุ้นเคยกับขนาดใหญ่โตของตัวเอง
“อือ… อืม… ดีจัง ขอแรงๆ ได้มั้ย” ร่างบางร้องขอด้วยสายตาอ้อนวอน แจเร็ดเลื่อนสองมือไปค้ำไว้ข้างเอวกิ่วคอดพอประมาณทั้งสองข้างของเรียวจันทร์ สองขายืดตรง ใช้เท้ายันพื้นห้องไว้ แล้วก็กระแทกเข้าหาคนข้างใต้อย่างแรงตามที่อีกฝ่ายต้องการ
“โอ้ว เยส!!” เรียวจันทร์สบถเสียงดัง ร่างหนากระแทกสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายด้วยจังหวะที่หนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นลั่นห้องนอน แจเร็ดหอบกระเส่า เขาเสียวสูบวาบไปหมดเพราะร่างบางขมิบตอดรับเขาอย่างชำนาญ
“อู้ววว! เรียว ยูเก่งมากเลย ไอจะแตกแล้ว” เรียวจันทร์ส่งยิ้มขี้เล่นให้ ใช้ศอกทั้งสองข้างยันตัวขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลา ร่างบางๆ เลื่อนขึ้นลงตามจังหวะกระแทก แจเร็ดเริ่มออกแรงซอยถี่ขึ้นจนเรียวจันทร์ร้องเสียงเพี้ยนแล้วแหงนหน้าขึ้น
“อ๊า! อ๊า! โอ้ว! ดีมากเลยแจเร็ด” คนข้างใต้เอ่ยชมเสียงสั่น มือขวายกไปลูบกล้ามท้องที่หดเกร็งด้วยความเสียว ก่อนจะเลื่อนมาขยับแก่นกายตัวเองเพื่อเร่งเร้าอารมณ์ร้อน นางอยากจะไปถึงแล้ว มือบางรูดขึ้นรูดลงตรงกลางลำตัว ทิ้งตัวลงนอนกับเตียง มือซ้ายรั้งให้ใบหน้าหล่อโน้มลงมารับจูบแลกลิ้นนัวเนียจนน้ำลายเยิ้ม ใบหน้าทั้งสองคนชิดกัน ปลายจมูกเกลี่ยกันไปมา สายตาประสานจ้องมองกันอย่างหลงใหล แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของทั้งสอง
“ไอจะถึงแล้ว” แจเร็ดหลับตาปี๋ สูดปากด้วยความเสียว จังหวะสะโพกเริ่มเร่งเร็วขึ้น พอๆ กับมือของเรียวจันทร์ที่เร่งไปตามแรงซอยถี่ แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ไปถึงฝั่งฝันพร้อมกัน
“อ้า!!!”
“อ๊ะ!!!”
เสียงร้องของทั้งสองคนผสมปนเปกัน เรียวจันทร์นอนหอบแผ่หลา แจเร็ดนอนทิ้งตัวใหญ่หนาทาบทับลงบนร่างบาง เขาขยับพาร่างเรียวจันทร์ให้ขึ้นไปกลางเตียง ถอนแก่นกายออก ถอดถุงยางทิ้งลงบนพื้น แล้วนอนทับนอนกอดเรียวจันทร์เอาไว้ ร่างบางนอนหอบอกกระเพื่อมอยู่บนเตียง
“ยูจะคบกับไอมั้ยเรียว” คนถูกถามกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพลิกให้ร่างตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนตัวแจเร็ด สองมือลูบไล้หัวนมของคนตัวหนาเบาๆ
“ตกลงกันตอนเช้าได้มั้ย ตอนนี้อยากได้อีกรอบ” แวบแรกแจเร็ดทำหน้าอึ้ง แต่สักพักก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“หยิบถุงยางมาสิ”
ข้อตกลงใดๆ ค่อยคุยกันอีกครั้งหลังจากนี้แล้วกันนะ เพราะเวลานี้เรียวจันทร์ติดใจในรสชาติของอิมพอร์ตจากอิตาลีเหลือเกิน ไม่ต้องตีตั๋วบินไปถึงนู่น ก็รู้สึกถึงความเป็นอิตาลีแท้ๆ ได้อย่างดี
ใครจะไปฟินเท่านางตอนนี้อีกล่ะ ไม่มี๊!
TBC.
ขุ่นแม่เรียวจันทร์ แซ่บมั้ยคะ กลัวว่าจะไม่แซ่บมากๆ -.,- พยายามประคองนางไปให้ดีที่สุด ตอนแรกๆ อาจจะยังเบลอๆ มึนๆ จับทางไม่ถูก แต่คิดว่าอยู่ด้วยกันไปสักพักคงจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น
เปิดมาก็ได้กับใครอื่นที่ไม่ใช่พระเอกซะแล้ว 55555 เอาน่ะ เป็นนายเอกผู้มากประสบการณ์
ขอบคุณคนอ่านที่แวะเข้ามามากเลยค่ะ ดีใจนะคะที่มีคนอ่านด้วย
แอบหวั่นใจนะ เพราะเรียวจันทร์นางสาวมาก เปรี้ยวมาก คิดว่าคนอ่านนิยายชายชายหลายคนคงไม่ชอบนางเท่าไหร่ ได้แต่หวังว่าคงจะมีคนที่รักนางบ้าง ฝากเรียวจันทร์ไว้ด้วยนะคะ ^__^