เสื้อกาวน์เก่า.....กับเราสองคน
ตอนที่ 84
... ทุกสิ่ง ...ช่วงพลบค่ำผมกับติ๊บก็เดินทางมาถึงบ้านสวนหลังงามที่ตอนนี้มีป้าและย่ายืนรออยู่หน้าบ้าน
ติ๊บวิ่งเข้าไปกอดย่าและป้าด้วยความคิดถึง และทั้งป้าและย่าเองก็กอดรับขวัญหลานด้วยความยินดี
ติ๊บนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านก่อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ย่าและป้าฟัง รวมถึงผมที่แม้จะอยู่ด้วยกันกับติ๊บแต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราว
อะไรเท่าไหร่นักเพราะเจ้าตัวไม่ค่อยจะเปิดปากเล่าอะไรให้ผมฟังเท่าไหร่
เรื่องราวต่างๆก็ถูกถ่ายทอดมาจากหมอจ๊ะโอ๋หน้าเข้มนั่นซะมากกว่า
'' ติ๊บเขาเป็นแบบนี้ทุกทีแหละ เวลาเป็นอะไรมักจะไม่บอกใครคิดแต่ว่าคนอื่นเค้าจะเป็นห่วง แต่ลืมคิดไปว่าถ้าไม่บอกอะไรคนรอบตัวบางครั้งเราก็ไม่มีทางรู้ '' ป้าบอกและผมก็เห็นด้วยกับป้าอย่างที่สุด
'' มาถึงเหนื่อยๆ อาบน้ำอาบท่ากันก่อน เดี๋ยวค่อยมากินข้าวกินปลากัน ''
ค่ำสั่งจากผู้เป็นย่าให้เราสองคนอาบน้ำอาบท่าก่อนออกมาทานข้าวเย็นกันในตอนค่ำของวัน
หลังจากผมและติ๊บอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ออกมาจัดการอาหารเย็นที่สุดแสนจะอร่อยฝีมือย่าและป้าของติ๊บ
และวันนี้ผมก็รู้สึกว่าติ๊บจะทานได้เยอะกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะรสชาติทำกับข้าวฝีมือย่า
หรือว่าจะเป็นอาหารมื้อเย็นนี้มีแต่ของโปรดติ๊บทั้งนั้นเพราะหลายเมนูมาจากฟักทองทั้งนั้นเลย
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ถ้ามันทำให้ติ๊บทานข้าวได้เยอะแบบนี้
มันก็ทำให้ผมอุ่นใจได้เลยว่าเจ้าตัวเล็กของผมคงจะกลับมาเป็นปกติในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
สี่ทุ่มกว่าๆ เราออกมานั่งเล่นที่แคร่ใต้ต้นมะปรางหน้าบ้าน แม้ตอนนี้จะไม่ใช่หน้าหนาวแบบที่ผมมาคราวก่อน
แต่ที่นี่ก็อากาศดีทีเดียวแม้จะไม่ใช่ฤดูหนาวแต่น้ำค้างตอนดึกก็ทำให้อากาศที่นี่เย็นสบายทีเดียว
ทุกสิ่งที่ใจฉันเคยใฝ่หา กับวันเวลาที่ผ่านพ้นมา เธอทำให้ฉันได้มีเวลาที่ดี
ยิ่งอยากให้รู้ในใจฉันมี มีเธอเอาไว้อยู่ตลอดทุกที่
(ในตอน/เวลา)ที่ฉันไม่เหลือใคร ก็ยังมีเธอปลอบโยนหัวใจ
(ก็เพราะ)ทุกอย่างที่เธอเคยได้ทำ นั้นเปลี่ยนใจที่เคยบอบช้ำ
ความอ่อนโยนทุกๆถ้อยคำ คอยเติมและทำให้ความหวังของฉัน(กลับมา)
ฉันอยากให้เธอได้รู้สักครั้ง ให้ใจของเธอได้ฟัง เธอทำให้ฉันได้มีเวลาแสนดี
ยิ่งอยากให้รู้ในใจฉันมี มีเธอเอาไว้อยู่ตลอดทุกที่
(ในตอน/เวลา)ที่ฉันไม่เหลือใคร ก็ยังมีเธอปลอบโยนหัวใจ
ก็เพราะทุกอย่างที่เธอเคยได้ทำ นั้นเปลี่ยนใจที่เคยบอบช้ำ
ความอ่อนโยนทุกๆถ้อยคำ คอยเติมและทำให้ความหวังของฉันกลับมา
แม้โลกจะเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ แม้ว่าความสดใสจะจางหาย
ถึงฉันจะต้องเจอแม้ความตาย และจากนี้ต่อจากนี้จากวันนี้
เพราะทุกอย่างที่เธอเคยได้ทำ นั้นเปลี่ยนใจที่เคยบอบช้ำ
ความอ่อนโยนทุกๆถ้อยคำ คอยเติมและทำให้ความหวังของฉันกลับมา
เพราะทุกอย่างที่เธอเคยได้ทำ นั้นเปลี่ยนใจที่เคยบอบช้ำ
ความอ่อนโยนทุกๆถ้อยคำ คอยเติมและทำให้ความหวังของฉันกลับมา
หนึ่งบทเพลงความหมายดีๆที่ผมชื่นชอบ แล้วก็มอบมันให้ติ๊บในคืนนี้
ก่อนเจ้าตัวจะเผลอหลับใหลไปในอ้อมกอดผม ภายใต้ดวงดาวที่ส่องแสงสกาวอยู่เต็มท้องฟ้าเวลานี้
ถึงเวลาผมรับบทหนักอีกแล้วซิน่า ค่อยๆช้อนร่างบางขึ้นอุ้มเข้าไปในบ้านก่อนวางเจ้าตัวเล็กลงบนฟูกที่นอน
หน้าทีวีในมุมที่ผมคุ้นเคย
'' ถึงบ้านเราแล้วหลับให้สบายนะ พี่รักติ๊บนะ '' ผมบอกก่อนก้มลงไปจูบเบาๆที่เปลือกตาเจ้าตัวเล็กเป็นความหมายให้หลับฝันดี
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวเล็กที่นอนขดซุกเข้าหาอกอุ่นๆของผมหนักขึ้นไปอีก
เพราะตอนนี้อากาศข้างนอกฝนตก เป็นบรรยากาศที่น่านอนยิ่งนักและตอนนี้ผมก็เข้าใจความรู้สึกของบ้านในต่างจังหวัดที่
มุงด้วยหลังคาสังกะสีซะจริงๆ พอฝนตกนี่มันเสียงดังมากเลยแฮะ
ฝนตกหนักแต่ผมก็ได้ยินเสียงป้าตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารในตอนเช้าตรู่ของวัน เช่นเดียวกับย่าที่ตื่นมาตำหมากแต่เช้าตรู่
ผมตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยก่อนมานั่งดูย่าตำหมากด้วยความสนอกสนใจเพราะผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นซักเท่า
ไหร่ ก่อนคุยกับย่าเรื่อยเปื่อยจนสายแต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด
พอผมจะคลานเข้าไปปลุกเจ้าตัวเล็กในมุ้ง ปรากฏว่าเจ้าตัวก็ไม่อยู่ซะแล้ว
ผมจึงเดินไปหลังบ้านจึงพบว่าตอนนี้เจ้าตัวเล็กง่วนอยู่กับการช่วยป้าทำกับข้าวอยู่หลังบ้านนั่นเอง
'' วันนี้ฝนตกไม่ได้ไปไหน เดี๋ยวย่าจะทำข้าวต้มมัดให้กิน '' ย่าบอกก่อนสั่งให้ติ๊บไปแช่ข้าวเหนียว
ส่วนผมก็รับหน้าที่ไปเอากล้วยที่แขวนอยู่ที่หลังบ้านมาปอกแล้วก็เตรียมผ่าทำเป็นไส้ข้าวต้มมัด
หลังจากวัตถุดิบถูกเตรียมจนครบเรียบร้อยแล้ว ย่าก็นำพับใบตองที่ให้ป้าเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มาให้ผมกับติ๊บเช็ดและฉีก
เตรียมพร้อม ก่อนผมจะทำหน้าที่เป็นผู้ชมที่ดี เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ คือการห่อข้าวต้ม
ผมนั่งดูย่าและติ๊บห่อข้าวต้มมัด จนเสร็จเรียบร้อยจึงช่วยติ๊บขนห่อข้าวต้มมัดนั้นไปต้มในน้ำเดือดๆ นานกว่าจะสุก
ย่าบอกว่าอันนี้แหละที่เขาเรียกว่าข้าวต้มมัดจริงๆ ที่ผมเคยกินนั้นเป็นข้าวต้มผัดมากกว่าที่จะมีการใส่กะทิลงไปในข้าวก่อน
นำไปนึ่ง แต่ถ้าข้าวต้มมัดจริงๆจะไม่มีการใส่กะทิลงไปในข้าว และไม่นิยมนำไปนึ่งจะใช้การต้มตามภูมิปัญญาแบบโบราณ
มากกว่า ผมจึงเข้าใจที่ไปที่มาของข้าวต้มที่เหนี่ยวนุ่ม และหอมใบตอง แถมยังอร่อยๆแบบนี้คงหากินยากน่าดู