{ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าหากจัดพิมพ์นิยายเรื่อง Not fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้ (ฉบับรีไรท์+ตอนพิเศษ)

อุดหนุนแน่นอน
19 (26.8%)
ขอดูราคาก่อน
51 (71.8%)
ไม่อุดหนุน
1 (1.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 71

ผู้เขียน หัวข้อ: {ปิดพรีออเดอร์}º●Not Fat อ้วนไม่รักงั้นผอมก็ได้!!!●º 13/08/59 P.63 END  (อ่าน 523020 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
มีภาค2ด้วยก็ดีค่ะ o13

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
แฮปปี้กันไป~ดีใจกับปังและพี่ใหญ่ด้วย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ AllStaRK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น่ารักง่าๆๆๆ สู้ๆนะ :mew3: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
{CH 48 เสือใหญ่พาน้องเที่ยว}






   “พี่ใหญ่เราจะไปไหนกันเหรอครับ” ผมกรอกเสียงลงไปที่ปลายสาย มือก็เก็บเสื้อผ้า 2-3 ชุดตามที่พี่ใหญ่สั่ง พอรู้ว่าอาจารย์งดคลาสวันพรุ่งนี้และประจวบเหมาะกับมะรืนเป็นวันอาทิตย์มหาลัยเลยหยุด เค้าบอกจะพาผมไปเที่ยวแต่ก็ไม่บอกว่าไปที่ไหน 


   “เก็บๆไปเถอะน้าไอ้หมู”


   “มันจะสัปดาห์แล้วนะ” ผมแกล้งบ่น ก็เค้ารับปากกับผมว่าอีกสัปดาห์เค้าจะมารับผมนี้น่า หลังจากวันที่เค้ามาคุยกับพี่อลันวันนั้น เอ่อ… ผมก็ไม่ได้ไปมหาลัย 2 วันเต็ม ไม่ใช่อะไรหรอกแต่มันเจ็บกว่าครั้งแรกของเรานี้แถมยังหลายรอบด้วย คนบ้าอะไรถึกได้ขนาดพี่ใหญ่ เฮ้อ ถึงเค้าจะเทียวไปเทียวมาตลอด แต่ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงอยู่แบบนี้จะดูเค้าใส่ใจผมมากกว่าเดิม แต่แบบเก่าก็คงดีกว่า …. คงจะดีกว่าจริงๆนะ


   “หึหึ รู้น้า  งอแงอยากกลับมาอยู่กับผัวหรือไง”


   “…”


   “อ้าวเงียบๆ งั้นแค่นี้แหละไอ้หมู เดี๋ยว ตี 4 ไปรับ” ที่ไม่ตอบเพราะมัวแต่เขินคนไม่มียางอายต่างหาก ก่อนจะขานรับก่อนที่เราจะคุยกันอีกสองสามคำก็วางสายกันไป ผมก็นั่งเก็บเสื้อผ้าไปเรื่อย จนตัวเล็กทักไลน์มาพอดีกับที่เก็บของเสร็จ ผมเลยย้ายมานั่งคุยที่โต๊ะทำงานของตัวเอง พลางคิดแบบโมเดลที่ต้องส่งประกวดไปด้วย


ก๊อก ก๊อก ก๊อก



   “เข้ามาเลยครับ อ้าว พ่อมีอะไรครับ”


   “ข้าเอาทุรียนมาให้ อร่อยนะชะนีกรอบนอกนุ่มใน รับรองเอ็งจะร้องฟินนนนนน”


   “เดี๋ยวนี้มีศัพท์วัยรุ่นซะด้วย” เสียงหัวเราะครืนของพ่อผมดังลั่น ทำเอาผมหัวเราะตามไปด้วยก่อนจะรับถุงทุเรียนฟูอวบๆมาวางไว้ อ๊า ผลไม้ที่มีแคลลอรี่สูงที่ปีนึงได้กินทีนี้มันช่างยั่วยวนใจผมชะมัด


   “เอ็งจะกลับไปอยู่กับไอ้ใหญ่เมื่อไหร่” พ่อลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผมยกมือลูบเอาผมเหมือนตอนเด็กๆ ถึงผมจะนิสัยไม่ดีหรือขี้เหร่แค่ไหน เขาก็ไม่เคยทิ้งผม เพราะพ่อรักผมมากกว่าใครและผมไม่เคยสงสัยในความรักของเขาแม้แต่ครั้งเดียว


   “ยังไม่รู้เลยพ่อ …. พ่อไปหนูนะ” ผมจับแขนเล็กแต่แกร่งของแกบีบนิดๆ เพื่อให้พ่อเข้าใจว่าถึงผมจะยังไม่สามารถดูแลแกได้เต็ม 100 แต่ผมก็รักแก และในวันที่ผมมีงานมีการมีทุกอย่าง พ่อของผมจะสบายไม่ต้องย้ายไปไหนมาไหนอีกแล้ว


   “หึ ไม่เอาด้วยหรอก”


   “ทำไมละพ่อ”


   “ไอ้ปัง เอ็งฟังข้านะ ข้ารู้ว่าเอ็งเป็นห่วงข้าเพราะข้าแก่แล้ว แต่ข้าก็ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านคุณหญิงถึงจะใหญ่โตมีอะไรให้ข้าทำและคุณหญิงก็ใจดี แต่ข้ามันคนบ้านนอกไอ้ปัง แล้วข้าก็คุยกับไอ้อลันแล้ว ข้าจะอยู่บ้านหลังนี้ ดูแลแทนมันเพราะถ้าไอ้ลันมันกลับไปที่โน้นแล้วก็จะไม่มีใครดูแลที่นี้ และอย่างน้อยไอ้ลันก็ญาติเรา ไม่ใช่คนอื่นคนไกล” พ่อพูดออกมาพร้อมกับตบที่มือผมบนแขนเขาเบาๆ


   ผมเข้าใจครับ ผมรู้นิสัยพ่อผมดี ความที่เขาขี้เกรงใจและเป็นคนถ่อมตัว ทำให้เขาลำบากใจที่จะไปอยู่บ้านของคุณแม่พี่ใหญ่ … ที่ตอนนั้นยอมไปอยู่ก็เพราะว่าผมกับพี่ใหญ่เองที่อยากให้เขาไปอยู่ที่นั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเราสองคน พ่อก็คงอยู่บ้านหลังเก่าของเราที่ห่างไกลสายตาเรา


   “หนูไม่อยากให้พ่ออยู่คนเดียว”


   “ฮ่าๆๆๆๆ เอ็งก็เห็นว่าไอ้หนูปาล์มมันปล่อยให้ข้าเหงาที่ไหนมันเทียวไปเทียวมาตลอด และไหนจะเอ็งที่มาเยี่ยมข้าบ่อยๆด้วย อีกอย่างข้ายังแข็งแรง ฟิตปั๊งขนาดนี้ แค่เอ็งดูแลตัวเองได้ข้าก็ดีใจแล้ว ออกไปใช้ชีวิตเถอะไอ้ปัง มีความสุขด้วยตัวเองสักที แค่มีไอ้ใหญ่อยู่ข้างๆเอ็งข้าก็ไม่ห่วงอะไรอีกแล้ว”


   “พ่อเหมือนหนูจะแต่งงาน” ผมพึมพำก้มหน้าเก็บอาการหน้าร้อนผ่าว โชคดีที่พ่อของผมเป็นคนเข้าใจโลก และพร้อมจะเปิดโอกาสให้ผมได้ใช่ชีวิต โดยไม่มีการบังคับเลยสักครั้ง โชคดีที่ท่านเข้าใจในสิ่งที่ผมเป็น … ผมรู้สึกโชคดีในความโชคร้ายหลายๆเรื่อง


   “ฮ่าๆๆๆๆ ก็คงทำนองนั้น ว่าแต่เอ็งเข้าหอไปแล้วไม่ใช่เหรอไง”


   “อะ ทะ ทำไมวันนี้หนูเจอแต่คนลามกนะ” พี่ใหญ่ก็คนนึง นี้พ่อก็อีกคนนึง อะไรกันนะ


   “เอาเป็นว่าตกลงตามนี้แหละกัน ส่วนเอ็งก็ไม่ต้องห่วงข้า อยู่ที่นี้สบายกว่าเยอะ”


   “แล้วหนูจะมาเยี่ยมบ่อยๆนะ” พ่อผมหัวเราะออกมาอีกอย่างอารมณ์ดี


   เราคุยกันอีกสองสามคำเขาก็เดินออกจากห้องไป ผมหันกลับมาจ้องทุเรียนที่วางอยู่บนโต๊ะ หึหึ มาม่ะ มาหาปัง ขอกินชิ้นนึงน้า แคลอรี่สูงก็อร่อยมากขนาดนี้ ปังยอมเดี๋ยวค่อยเบรินออกก็ได้ คิกๆ ก่อนอื่นต้องส่งไลน์ไปอวดพี่ใหญ่ก่อนถึงเค้าจะไม่ชอบกลิ่นมันแต่ก็ต้องอิจฉาผมบ้างแหละ


แชะ!


   ปังปัง : (รูปทุเรียน)

   ปังปัง : เนียนๆใสๆ กินละนะคร้าบบบบบบ

   ปังปัง : สติกเกอร์หมีถือช้อน



ติ๊ง!


   เสือจอมโหดอ้วน : จะนอนแล้วยังกิน (ชื่อไลน์พี่ใหญ่เพราะปังปังเมมชื่อว่างั้น Pa_Pa)


   เสือจอมโหด : กินเสร็จแล้วรีบนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้เดินทางแต่เช้า



   ผมยิ้มให้กับข้อความของพี่ใหญ่ก่อนจะส่งสติกเกอร์กลับไป พรุ่งนี้ผมจะคุยกับพี่ใหญ่เรื่องพ่อด้วย เอาละได้เวลากินแล้วน้องชะนีกรอบนอกนุ่มใน เนียนใส


   “งั้มมมมมมมมมมม ฟินนนนนนนนนนนน” รู้ตัวอีกที … ผมก็กินหมดแล้ว นี้ผมกินคนเดียวลูกนึงเลยเหรอเนี้ยแถมตอน 3 ทุ่มด้วย  … แต่มันก็อร่อยนะ ลงไปหาน้ำกินแก้ร้อนท้องหน่อยดีกว่า


   “พี่อลัน” ผมเรียกพี่อลันขึ้นเมื่อออกไปทันเวลาที่เขากำลังจะเข้าห้องนอนพอดี เขาหันมามองผมด้วยตาสีฟ้าสว่างของเขาก่อนจะเหยียดยิ้มและเดินเข้ามาหาผมที่ยืนยิ้มกว้างให้เขาอยู่


   “ยิ้มแป้นเลยนะเรา” มือใหญ่วางลงบนศีรษะผมอย่างเอ็นดู


   หลังจากที่พี่อลันยอมอ่อนข้อก็กลับมาเป็นพี่ที่ใจดีและอ่อนโยนเหมือนเดิม เวลาเขาโมโหจริงๆพอๆกับพี่ใหญ่เลย แตกต่างกันที่เวลาพี่อลันโมโหเขาจะโวยวาย แต่ถ้าโกรธจริงๆจะเงียบ แต่ถ้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่ว่าเวลาเค้าโมโหหรือโกรธนั้นคือ เงียบ เงียบ เงียบ แต่จะแสดงออกทางการกระทำที่ป่าเถื่อนแทน มีสิบแขนก็ถูกหักทิ้งทั้ง 10 แขนนั้นแหละ ผมเคยคิดว่าพี่อลันคือน้ำส่วนพี่ใหญ่คือไฟนะ แต่ทุกคนล้วนมีทั้งไฟและน้ำอยู่ในตัวทั้งนั้นละ นี้ผมพูดอะไรอยู่กันแน่ ฮ่าๆๆๆ


   “พ่อมาคุยเรื่องบ้านกับพี่อลันแล้วใช่ไหมครับ” 


   “ใช่แล้วละ พี่เป็นคนเสนอให้ลุงผดุงอยู่ที่นี้เอง ปังไม่ว่าอะไรพี่ใช่ไหม ?”


   “ฮึ ปังจะไปว่าทำไมละครับ ปังต้องขอบคุณพี่ต่างหาก” ผมส่ายหัวไปมา หัวเราะนิดๆ ผมจะไปว่าอะไรเขาละพี่อลันที่ทำไปก็หวังดีกับเราสองคนทั้งนั้น


   “หึหึ เราพี่น้องกันนี้ ดีซะอีกที่พี่ห้ามปังให้ไปไม่ได้ แต่พี่ห้ามลุงผดุงไม่ไปได้”


   “… ผม”


   “ฮ่าๆๆๆๆ พี่ล้อเล่น ว่าแต่เราเถอะพรุ่งนี้จะไปไหน” มือใหญ่หยิกแก้มผมอย่างหยอกล้อ … ตกใจหมดเลย เอ๊ะ ว่าแต่พี่อลันรู้ที่ผมจะไปเที่ยวด้วยเหรอ


   “เอ๊ะ … พี่รู้ได้ไงครับ”


   “ก็ไอ้ใหญ่มันโทรมาบอกน่ะสิ”


   “พี่ใหญ่นะหรือครับ” เขาไปโทรหากันตอนไหน


   “ครับ โทรมาขออนุญาต แต่ถึงพี่จะไม่อนุญาตมันก็มาลักพาตัวน้องพี่ไปอยู่ดี ว่าแต่ … ทุเรียนยังติดปากอยู่เลยน้องปัง หึหึ”


   “อ่ะ … เอ่อ แหะๆ พอดีมันอร่อยไปหน่อย ปังกินซะเรียบเลย” ผมรีบตะครุบแก้มที่พี่อลันชี้มาก่อนที่จะเอาเข้าปากทันที … ขนาดอันจึ๊งนึงยังอร่อยเลย …เริ่มร้อนท้องแล้วแฮะ


   “ดีแล้ว เป็นตัวของตัวเอง อยากกินอะไรก็กิน แต่อย่าลืมออกกำลังกายจะได้แข็งแรงนะ ตกลงไหม” ผมพยักหน้ายิ้มๆ เดี๋ยวก่อนนอนจะทำแพลงกิ้งสักหน่อย กลิ้งมาตั้งแต่เกิดแล้ว คิกๆ 


   “พี่อลันมีกำหนดกลับหรือยังครับ”


   “ไล่พี่หรอ ?”


   “ปะ เปล่านะครับ ปังแค่อยากรู้”


   “พี่ว่าจะเปิดบริษัทที่ไทยแล้วละ ดีไหม ?”


   “จริงเหรอครับ บริษัทอะไรครับ แล้ว แล้ว” ผมเข้าไปจับแขนพี่อลันเขย่าเบาๆ ดีจังเลย พี่อลันจะอยู่ไทยแล้ว


   “หึหึ เราไว้เป็นรูปเป็นร่างแล้วพี่จะบอกอีกทีนะตกลงไหม ?”


   “ตกลงครับ” พี่อลันหัวเราะก่อนจะบอกก้มลงมาจุ๊บเบาๆที่ศีรษะผมเป็นการกู๊ทไนท์และเดินเข้าห้องไป ส่วนผมก็เดินลงมาหาน้ำกินด้านล่างกระดกเต็มๆไปหนึ่งขวดแก้ดับร้อยภายใน ถึงจะไม่ค่อยได้ผลแต่ก็ยังพอโอเคนะ


ครืดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดด



   “ครับพี่ใหญ่” ผมรีบกระโดดไปรับโทรศัพท์ที่วางนิ่งอยู่บนเตียง


   “ทำอะไรทำไมไม่นอน แล้วไม่รับคอลไลน์” ผมมองไปที่นาฬิกาปรากฏว่า 4 ทุ่มกว่าแล้ว อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงพี่ใหญ่ก็จะมาแล้ว จะนอนดีไหมหรือจะไปนอนบนรถดีนะ


   “ผมลงมากินน้ำอ่ะ”


   “หึ กินหมดเลยสิ ถึงได้ร้อนท้องน่ะ” อ่ะ! รู้ด้วย ก็มันอร่อยนี้หน่า จะให้ผมทำยังไงได้ละในเมื่อน้องชะนีเนื้อเนียนร้องเรียกผมอยู่หย๊อยๆ


   “ครับ ร้อนมากเลย แต่กินน้ำไปก็โอเคแล้ว”


   “อือ จะนอนหรือยังไอ้หมู” เสียงของเขาเหมือนคนกำลังจะหลับ สงสัยเขากำลังจะพักผ่อนแล้วแน่ๆ


   “ยังครับ เดี๋ยวปังขอแพลงก่อน”


   “เดี๋ยวจะโดน” เค้าขู่ ผมย่นหน้า ชิ ถ้าผมไม่สบายเพราะอ้วนขึ้นมาจะทำยังไงต้องออกกำลังสิ อย่างน้อยก็เป็นหมูที่แข็งแรงไง


   “พี่ใหญ่นอนก่อนก็ได้ครับพรุ่งนี้ขับรถ”


   “เปิดคอลไลน์” เค้าพูดจบก็กดตัดสายไป และคอลไลน์ก็เด้งขึ้นมาแทบจะทันที ไว้แท้คนโหดของปัง


   “พี่ใหญ่หลับแล้วจะคอลมาทำไมครับ” ผมถามในทันทีที่หน้าของพี่ใหญ่ที่นอนตะแคงตาจะคมกำลังจะปิดรอบข้างปิดไฟแล้วแต่มีแสงสลัวๆจากโคมไฟหัวเตียงทำให้ผมมองเห็นเขาชัดดี มองไปด้านหลังก็เห็นว่าเป็นห้องของบ้านใหญ่ไม่ใช่ที่หอพัก


   “คิดถึง” เสียงแหบพร่านตอบกลับมา ทำเอาผมเขินไปด้วยอีกแล้ว


   “นอนเถอะครับพี่ใหญ่”


   “นายยังไม่นอน” เขาลืมตามามองผมแวบนึงก่อนจะหลับไปอีก


   “ผมขอออกกำลังกายแปปนึงนะ” ผมเอาคางเท้าหมอนจ้องหน้าซีกซ้ายของพี่ใหญ่ … เค้าหล่อนะ ไม่ว่าจะผ่านเวลาไปนานแค่ไหน ผมก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะเป็นแฟนกันได้เลย แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้ผมมั่นใจ มีแต่ผมคนเดียวที่บ้าบอไปคนเดียว ทำให้เขาต้องปวดหัวนับครั้งไม่ถ้วนเลย


   “หึ แล้วพรุ่งนี้นายก็ไปหลับบนรถ ไม่อยู่เป็นเพื่อนฉัน”


   “น่านะ แปปเดียวเดี๋ยวผมนอนแล้ว”


   “อ้อน ?” เขาเหยียดยิ้มออกมานิดๆ ผมหัวเราะและดึงเอาตุ๊กตาหมูที่เขาซื้อมาให้มากอดเอาไว้


   “คะ ครับ อ้อนก็อ้อน นอนนะครับ ฝันดีพี่เสือร้าย”


   “เออก็ได้ ฝันดีไอ้หมูแดง เจอกันพรุ่งนี้นะ”


   “ครับ เจอกันพรุ่งนี้ ปะ ปังรักพี่ใหญ่นะ”


   ผมรีบกดวางสายทันทีก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงสักพัก และลงไปแพลงกิ้งที่ด้านล่างเตียงนอนออกกำลังกายบริหารเป็นระยะเวลา 30 นาที ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำใหม่อีกรอบ และกลับมาเข้านอนตามพี่ใหญ่ไปทันที เฮ้อ ตื่นเต้นจังพรุ่งนี้พี่ใหญ่จะพาเราไปเที่ยวไหนนะ


.


.


.


   ตี 3 . 30 ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวด้วยความห่อเหี่ยวร่างกาย … ง่วง ง่วงมากๆเลย รู้งี้นอนแต่หัวค่ำก็ดีไม่น่าซ่าเลย ยาสีฟัน ยาสีฟัน อ่ะ อันนี้โฟมล้างหน้านิ ไม่ใช่ยาสีฟัน เกือบใช้โฟมล้างหน้าแปรงฟันแล้วไหมละ ตื่นสิปัง ตื่นก่อนที่จะใช้ยาสระผมฟอกตัวซะก่อน


   น้ำ ไม่ได้ช่วยทำให้ผมตื่นเท่าไหร่นักเดินสะโหลสะเหลเดินผ้าขนหนูพันเอวออกมาจากห้องน้ำ อากาศกำลังเย็นสบายเลยละครับ ผมเดินไปนั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่วางของสารพัดทั้งเครื่องเวชภัณฑ์และยาสมุนไพรต่างๆที่ตัวเล็กจัดให้เอาไว้ ก่อนจะหยิบครีมทาตัวขึ้นมาทาทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ งืม เดี๋ยวอีกสักพักพี่ใหญ่ก็จะมาแล้วสินะ


หมับ!



   “อะ พะ พี่ใหญ่ มาได้ไงครับ”


   แรงกอดจากด้านหลังทำให้ผมลืมตาโผล่งขึ้นตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่พอเห็นใบหน้าคมที่ซุกไซ้กับต้นคอผมอยู่ก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ พี่ใหญ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเงยหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมามองผมผ่านกระจก ก่อนจะหอมฟอดใหญ่ที่แก้มของผมจนหน้าผมบู้บี้ไปหมด งื้อ ทำไมไม่โกนหนวดเนี้ย เจ็บนะ


   “หึหึ มาตั้งแต่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว จะยั่วกันหรือไง เพิ่งสังเกตว่าผิวละเอียดขาวขึ้นขนาดนี้” ลิ้นสากหนาเลียเบาๆที่ไหล่ของผม หะ หื่นชะมัด


   “พะ พี่ใหญ่ งื้อ เดี๋ยวเราจะไปเที่ยวกันไม่ใช่หรือครับ อ่ะ ผมจะแต่งตัว พี่ใหญ่” ผมดันหน้าเขาออก แต่เขาไม่ยอมจับคางผมหันไปทั้งๆที่มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปทั่วร่างของผม มือปลาไหลจะปลดผ้าผมออกแล้ว ฮืออออ ที่หลังผมจะล็อกห้อง


   “ทันนะครับ” สิ้นเสียงแหบพร่านที่กระซิบผม เขาก็จูบผมอย่างดุดันตามภาษาเสือทันที … แล้วงี้ผมจะทำยังไงดีละ นอกจากตามเกมส์เขาไปไม่ให้เขาโมโห และพาผมไปเที่ยว คอยดูนะ ผมจะเอาแต่ใจให้หนักเลย


   “หึหึ เดี้ยงเลย”


   พี่ใหญ่ที่อยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมแล้วเรียบร้อยทันทีที่เสร็จกิจกรรมที่เสี่ยงต่อสภาพร่างกายของผมเป็นอย่างมาก ผมหรี่ตามองเห็นเค้าเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของผมก่อนจะเดินกลับมาพร้อมเสื้อผ้าของผมและจัดการสวมใส่ให้ทันทีผมไม่ได้ว่าอะไรยอมให้เขายกขายกแขนตามแต่ใจ เนื่องจากร่างกายผมก็อ่อนปวกเปียกไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายเองได้ จากที่ตื่นแล้วก็งัวเงียเพราะหมดแรงไปอีก ส่วนร่างสอดเสียดจนไม่อยากไปเที่ยวแล้ว ไม่ชินสักทีต่อให้อ่อนโยนแค่ไหน ก็ไม่ชิน ฮืออออออ


   “คนหื่น” ผมมองตาขวางใส่อย่างเคืองๆ คนบ้า ผมงอนแล้ว


ฟอดดดดด


   “ขอโทษครับ” เขาเหยียดยิ้มและก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ กระซิบบอกผมเบาๆ


   ก่อนจะอุ้มผมขึ้นมาด้วยท่าเจ้าหญิงจะโวยวายก็หมดแรงเลยทำได้แค่เกาะบ่าเค้าไว้กันตก เพราะตัวผมเองก็ไม่ใช่เบา ๆ เขาเดินมาวางผมในรถเก๋งคันเดิมที่คุ้นเคย ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าผมรวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้บางอย่างที่ผมบอกให้เขาหยิบมาด้วย เราออกเดินทางกันเวลา ตี 4.45 แล้วผมก็หลับไปในเวลาไม่กี่นาทีที่พี่ใหญ่เอนเบาะให้ผมนอน


   “ปัง ตื่นขึ้นมากินข้าวก่อน”


   “กี่โมงแล้วครับ” ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที่ปรากฏว่าอยู่ที่พักรถแล้วและคนก็ค่อนข้างเยอะเพราะเป็นวันหยุด ผมลองขยับร่างกายนิดนึงก็รู้สึกเสียดนิดหน่อยเลยนอนลงนิ่งมองหน้าพี่ใหญ่ที่จ้องอยู่แบบนั้น


   “10 โมงเช้าแล้ว ปะ เดี๋ยวค่อยกลับมานอนต่อ เป็นอะไรหืม ?” เขาก้มลงมาถามผมใกล้ๆเมื่อเห็นผมจ้องอยู่ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมก็หลบสายตาเขาไม่กล้าที่จะสบตาคมของเสือร้ายที่ชอบรังแกผม


   “ผมเดินไม่ไหว” ผมกระซิบบอก เสียงหัวเราะในลำคอยิ่งทำให้ผมอาบเข้าไปใหญ่


   “งั้นกินข้าวเซเว่นก่อนเนอะ เดี๋ยวกลางวันจะพาไปกินร้านที่โซฟานิ่มๆ”


   “พี่ใหญ่อ่ะ!” ผมย่นหน้าใส่เขาอย่างเสียมิได้ รู้ว่าเขาไม่อาย แต่ผมอายนี้หน่า


   พี่ใหญ่ลงไปซื้อของด้านล่างโดยมีรออยู่ภายในรถ และเผลอหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลียกับอากาศของต่างจังหวัดที่เย็นนิดๆในตอนเช้า 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2016 20:49:11 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
“หลับอีกแล้ว ตื่นสักทีสิ”


   “ก็ผมง่วงนี้หน่า” ผมลืมตาบอกเขาที่ขึ้นมาบนรถพร้อมอาหารจากเซเว่นน้ำเสียงติดงอนนิดๆ ทำไมผมได้กลิ่นหมูปิ้งนะ


   “ตื่นมากินข้าวก่อน” เขาว่าก่อนจะปรับเก้าอี้ให้ผมลุกขึ้นนั่งดีๆ ผมก็ทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะรับถุงหมูย่างกว่า 10 ไม้มาถือเอาไว้


   “กินรองท้องไปก่อนนะครับ”


   “ครับ” ผมรับคำ ก่อนจะหยิบหมูขึ้นมากินสลับกับที่ป้อนพี่ใหญ่ที่ขับรถออกในทันทีที่จัดของในรถแล้วเรียบร้อน อร่อยจัง


   “เราถึงไหนกันแล้วครับ” ผมถามขึ้นในขณะที่ยื่นหมูพร้อมข้ามเหนียวหมูไปให้พี่ใหญ่ที่เอี้ยวตัวมาใช้ปากรับเพราะผมขยับได้ไม่ถนัดนัก


   “กำแพงเพชร”


   “มาไกลจัง สรุปเราจะไปไหนกันเหรอ” ผมถามอีก พร้อมกับเคี้ยวหมูคำโต เจ็บฟันนิดหน่อยเนื่องจากเพิ่งไปเปลี่ยนเหล็กมา แต่ก็พอทน


   “หึหึ จะพาไปเที่ยวน่าน”


   “น่าน เกือบออกลาวเลยนะพี่ใหญ่” ตื่นเต้นอ่ะ ไม่เคยมาไกลขนาดนี้


   “นั้นแหละ ไม่อยากไปเหรอ”


   “อยากสิครับ ไปกันนะ”


   “หึหึ ไม่เจียมสังขาน” เขาหันมาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ เหลือเกิ๊นนนนน


   “ก็เพราะใครละ” ผมพูดพึมพำแต่เขาก็ยกมือมาหยิกแก้มผมหมับใหญ่ เจ็บนะคนบ้า!


   “กินเสร็จแล้ว กินยาในเก๊ะหน้ารถด้วย” ผมพยักหน้าหยิบชิทชู่เปียกเช็ดที่ปากของพี่ใหญ่ก่อนจะทำความสะอาดมือและปากของตัวเองบ้างเอี้ยวตัวไปหยิบกระติกน้ำที่วางอยู่บนตักขึ้นมาบริการพี่ใหญ่ก่อนจะเอื้อมตัวไปเปิดเก๊ะ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับสิ่งที่ไม่ใช่ยา


   “พี่ใหญ่ …”


   “ฮืม”เขาขานรับหันมามองผมและยิ้มนิดๆ … ยิ้มที่เจ้าเล่ห์


   “ทำไมเยอะแบบนี้ละ”ผมหยิบถุงยางขึ้นมาหนึ่งกล่องให้เขาดู เพราะในเก๊ะมีอีกกว่า 5 กล่อง รวมไปถึงหลอดสารหล่อลื่นด้วย โอ้ย ทำไมพี่ใหญ่ลามกขึ้นทุกวันแบบนี้นะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะหื่นแท้ๆ


   “หึหึ ก็ยืดอกพกถุงนี้ทำไมละ”


   “หึ” ปังย่นจมูกก่อนจะวางกล่องถุงยางเอาไว้ที่เดิม นอนหันหลังให้พี่ใหญ่ไม่สนใจเสียงหัวเราะของเขาอีก 


   “จะหลับอีกแล้วเหรอไง”


   “เปล่า ผมแค่พักสายตา” พูดโดยไม่หันกลับไปมอง หึ


   “งอนอะไร ก็ไม่ได้เอาไปใช้กับใครนี้”


   “ก็พี่ใหญ่ลามก” เขาหัวเราะก่อนจะเบียดรถจอดข้างทาง ผมกำลังจะหันกลับไปถามก็โดนจูบเลย หื่นอีกแล้วแต่นี้บนรถแล้วก็มีรถผ่านไปผ่านมาเยอะแยะเลยนะ ขะ เขาจะทำจริงๆเหรอ


   “หึหึ อย่างอนพี่เลยเรามาเที่ยวกันนะครับ ก็เพราะรักและหลงไงถึงห้ามตัวเองไม่ได้สักที เป็นการเซฟตี้ไม่ให้ปังปังลำบากแบบเมื่อเช้า ไม่ดีเหรอครับ”


   “กะ ก็ดี แต่ … ผมอาย”


   “อายก็บอกอายสิไม่ใช่ตีงอน จุ๊บ” เขากดจูบลงมาที่ปากผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้ล่วงล้ำแต่อย่างใด ผมก้มหน้าอยู่แบบนั้นไม่กล้าสบตากับเขาอีก


   “เช้านี้ยังไม่บอกรักพี่เลยนะ ถ้าไม่งอนไหนบอกรักหน่อยสิครับ” ผมเหลือบมองเขานิดๆ แต่ก็ต้องหลบวูบลงไปอีก กะ ก็เพราะแววตาแบบนี้แหละ ผมถึงปฎิเสธไม่ได้สักที


   “ระ รักนะครับ”


   “อะไรนะที่รัก” ทะ ทำไมต้องเสียงกระเส่าแบบนั้นด้วยละ …


   “ผมรักพี่ใหญ่ อื้ออออ” เอะอะจูบ เอะอะงับปาก ปากผมจะแตกเข้าสักวันเหอะ


   “หึหึ เดินทางกันต่อนะ” ผมไม่ได้ตอบพี่ใหญ่หัวเราะและกลับไปประจำที่เหมือนเดิม


   เราออกเดินทางกันต่อ ในระหว่างทางผมคอยดู google maps และบอกทางเขาไปด้วย ผมบอกพี่ใหญ่เรื่องของพ่อพี่ใหญ่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่บอกว่าจะพาผมกลับไปเยี่ยมบ่อยๆ เรื่องงานที่ผมกำลังคิดโมเดลส่งประกวด รวมไปถึงได้รู้ว่างานของพี่ใหญ่ในตอนนี้ก็กำลังจะเริ่มต้นในบริษัทสถาปนิกแห่งหนึ่งในหน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเขาผมดีใจกับเขาด้วยจากใจจริง จากนั้นเราเดินทาง


   “พี่ใหญ่ปังหิว” ผมบ่นนิดๆเมื่อเข้าเมืองแพร่มาได้สักระยะในเวลาเที่ยงกว่าๆ และผมก็เมื่อยแล้วด้วยนั่งมา 7 ชั่วโมงกว่าแล้ว พี่ใหญ่พยักหน้ารับ


   ด้วยความที่อยากจะสัมผัสกับอากาศเย็นๆด้านนอกเลยค่อยๆเปิดกระจกรับลมนิดๆ พี่ใหญ่เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ปิดแอร์และเปิดกระจกฝั่งตัวเองบ้าง เพราะนานๆทีเราจะได้ออกมาจากเมื่อกรุงที่มีแต่ความวุ่นวาย รถราเต็มไปหมด ไม่เหมือนกับที่นี้พอออกจากตัวเมืองมาแล้วก็มีแค่ต้นไม้กับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่หาปลาหรือขายตามทาง ผมแวะซื้อกล้วยทอด นาแหลม ของขึ้นชื่อของเมืองแพร่ มากินก่อนหาร้านข้าวเจอ ร่างกายผมเองก็เริ่มเข้าที่แล้วเลยไม่หงุดหงิดเหมื่อนเมื่อเช้า แถมขนมก็อร่อยคนพามาก็ใจดีผมจะโมโหไปทำไมละ


   “ได้ขนมแล้วยิ้ม ทำเป็นเด็กๆไปได้นะน้องหมูอ้วน” พี่ใหญ่ที่จ่ายเงินกับคนขายเสร็จหันมามองผมยิ้มๆ ผมหันไปยิ้มก่อนจะหวักมือเรียกเขามาใกล้ๆ


   “กินๆ ลำขนาดเลยจ้าว” ผมพูดภาษาเหนือผิดๆถูกๆเพราะตอนนี้เรามาเหนือกันนี้ครับ จนเขาหัวเราะก่อนจะก้มลงมากินจากมือผมไป


   “ผัวเมียคู่นี้น่ารักดีนะลุง”


   “จริงด้วยป้ามึง”


   “หึหึ พูดขนาดนี้ผมเอาเผือกทอดอีก 50 แล้วกัน”


   “อ่ะ พี่ใหญ่ … ผมชอบกินกล้วยทอดมากกว่า” พี่ใหญ่หัวเราะผมที่หน้าร้อนผาว ก่อนที่ลุงคนขายจะยื่นถุงขนมให้อีกรอบ เราจ่ายเงินกันเสร็จก็ขึ้นรถออกเดินทางหาข้าวกลางวันกินกันในอากาศที่ครึ้มๆไม่มีแดด เหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ตก เป็นอากาศที่ผมชอบมากที่สุดเลย


   เราแวะทานข้าวกันที่ร้านริมทางริมน้ำ โดยเป็นโต๊ะที่นั่งทานกับพื้นฟูกโดยมีโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ผมสั่งขนมเส้นน้ำใสที่ไม่เคยรู้จัก ส่วนพี่ใหญ่ก็สั่งข้าวกั้นจิ้นมากิน ปรากฏว่าผมแย่งพี่ใหญ่กินเกือบหมด เพราะขนมเส้นของผมก็คือขนมจีนดีๆนี้เองต่างจากของพี่ใหญ่ที่เป็นข้าวห่อมาในใบตองหอมดูแปลกประหลาดดี แถมทั้งสองอย่างก็อร่อยด้วย เราสองคนทานกันอิ่มตบด้วยของหวานนิดหน่อยจ่ายไปในราคาที่ถูกเกินคาด ผมจะออกเงินบ้างพี่ใหญ่ก็ดื้อ ไม่ยอมให้ผมออก ทั้งๆที่มีแฟร์จะตาย


   “เมียคนเดียวถ้าพี่ยังเลี้ยงไม่ได้ แม่กับน้องพี่ก็คงเลี้ยงไม่ได้เหมือนกัน”ผมเขินตัวแดงและยอมเก็บเงินลงกระเป๋าก่อนที่กระเป๋าเงินของพี่ใหญ่จะถูกส่งมาให้ผมเป็นคนถือเอาไว้โดยเหตุผลที่ว่าขี้เกียจถือ ผมก็รับมาไม่ได้คิดอะไร


   พี่ใหญ่พาผมเดินทางต่อโดยแวะไหว้พระในสถานที่ดังๆมาเรื่อยๆ โดยที่ผมเพิ่งรู้ว่าเขาซื้อกล้อง DSLR ใหม่มาด้วย จากนั้นเด็กบ้ากล้องอย่างเขาก็ถ่ายระรัวเลย ส่วนมากก็ระหว่างที่ผมเผลอนั้นแหละครับ เราเข้าสู่เมืองน่านสุดแดนสยามกันในเวลาบ่าย 2 กว่าๆ เพราะแวะนั้นแวะนี้ไม่ได้รีบร้อนอะไร


   “คืนนี้นอนบ้านนะ พรุ่งนี้ค่อยไปนอนไปเที่ยวกันที่อุทยานขุนน่าน”


   “มีน้ำตกไหมครับ”


   “เล่นให้ช่ำปอดเลยที่รัก” ผมหัวเราะ และไม่ได้พูดอะไรอีก ที่ใหญ่คงเห็นว่ามันเย็นแล้วขึ้นเขาตอนนี้คงไปไม่ปลอดภัยเลยจะพาผมไปเที่ยวและหาบ้านพักแถวนี้อีกแน่ๆ ฮืออออ ที่นี้อากาศดีชะมัดชักติดใจแล้วสิ


   “แล้ววันนี้เราจะไปไหนกันต่อ”

   “หึหึ เอาไว้เซอร์ไพร์ท”


เย้ พี่ใหญ่น่ารักที่สุด


   เราแวะเที่ยวซื้อของกินและของใข้น่ารักๆกันจน 4 โมงเย็น พี่ใหญ่ก็ให้ผมขึ้นรถ และพาขับเรียบขันนามา ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยที่เหมือนมีแต่บ้านสวนที่ปลูกห่างกันดูสงบเอาซะมากๆ สงสัยจะเป็นรีสอร์ทในสวนแน่ๆ คงสวยน่าดูแล้วก็ต้องแพงมากๆแน่ๆ


   “พี่ใหญ่เอาเงินที่ไหนมาครับ ไปทำงานพิเศษมาอีกเหรอ”   


   “ได้จากงานฟรีแลนซ์น่ะ เหนื่อยหน่อยแต่เงินดี ก็คุ้มพาเมียมาเที่ยว”  ผมไม่ถามอะไรต่ออีกทันที ไม่ชินกับคำว่าเมียเลยสักครั้ง แต่ก็ดีใจที่เขารับผมให้อยู่ในฐานะนั้นสะ ส่วนพี่ใหญ่ขะ เขาก็ต้อง ผะ ผัว ผมใช่ไหมละ … เขินเป็นบ้า -////-


   “หลังนี้เหรอครับ เหมือนมีคนอยู่เลย”


   พี่ใหญ่หัวเราะไม่พูดอะไร แต่ขับรถมุ่งเข้าซอยที่ตรงหน้าเราเป็นบ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นสร้างด้วยไม้สักทั้งหลังลักษณะยกพื้นสูง มีระเบียงขนาดใหญ่ยื่นออกมาอยู่ท่ามกลางสวนและสนามที่เรียบเตียนมีเรือนหลังเล็กที่ปลูกในลักษณะเดียวกัน อยู่ข้างๆแต่เล็กกว่า ด้านหลังเป็นผาสูงที่ติดกับภูเขาลูกใหญ่ … ดูอลังการงานสร้างและสวยมากๆ ผมได้กลิ่นดอกอะไรสักอย่างลอยมาในขณะที่รถเลื่อนเข้าไปใกล้บ้านหลังนั้นทุกที


   “เรามาแบ่งเช่าเค้าหรอครับ มีรถอยู่ด้วย” รถเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านในขณะที่ผมจ้องมองรถกะบะสีส้มเคลือบสีจนเงาที่จอดเทียบอยู่ในพื้นบ้านที่ยกสูงขึ้นไป พี่ใหญ่ไม่พูดอะไรเปิดประตูลงไปผมเลยตามลงไปด้วย


   “อาใหญ่ค้า!!!!” เสียงแจ๋วแววของเด็กผู้หญิงดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้งเล็กๆก่อนจะเห็นเด็กชายวัยไม่เกิด 6 ขวบวิ่งลงบันไดมา
ในชุดเสื้อสีขาวกับเอี้ยมยีนต์ไว้ผมยาวรวบเป็นทรงซาลาเปาอยู่กลางศีรษะมักด้วยริบบิ้นสีชมพู ดูน่ารักมากๆเพราะแก้มของน้องแดงและดูสวยแต่เด็กปรั่งจนผมอยากจะเข้าไปหอม


   “ว่ายังไงครับน้องสุดใจ เจอกันต้องทำยังไงครับ” พี่ใหญ่ก้มลงไปอุ้มเด็กหญิงคนนั้นขึ้นมาก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะคิกคัก


   “สวัสดีคะอาใหญ่ พี่คนนี้ใครเหรอคะ” เด็กน้อยพนมมือไหว้พี่ใหญ่ก่อนจะหันมามองผมตาแป๋วเสียงที่ยังพูดไม่ชัดนักทำให้ผมเอ็ดดูมาก


   “พื่ชื่อปังครับ”


   “เป็นแฟนพี่เอง”


   “พี่ใหญ่ เดี๋ยวน้องสับสน” พี่ใหญ่หัวเราะแต่ไม่พูดอะไร หันไปคุยกับน้องสุดใจสองคนจนน้องสุดใจพยักหน้าและหันมายิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนจะอ้าแขนทั้งสองออก


   “อุ้มสุดใจหน่อยสิคะพี่ปัง” ผมรับน้องมาอุ้มอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่เด็กน้อยจะพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อยสุดใจเป็นเด็กดีน่ารักสอนง่ายสุดๆ ผมรักน้องสุดใจมากๆ


   “เจ้าใหญ่มาแล้วรึ” ผมเงยหน้ามองตามเสียงก่อนจะเห็นคุณตากับคุณยายคู่หนึ่งท่าทางใจดีทั้งคู่เดินลงมาจากบันได โดยมีคุณน้าผู้หญิงหน้าตาสวยอ่อนกว่าวัย เดินประคองพวกท่านลงมาด้วย


   “สวัสดีครับปู่ สวัสดีครับย่า สวัสดีครับอาหนิง” ผมมองเลิกลั่กก่อนจะก้มหัวให้พวกเขาเพราะแขนทั้งสองโอบอุ้มน้องสุดใจตัวน้อยที่ยิ้มกว้างจนตาหยีอยู่ 


   “เป็นไงมาไงกันละ ไหนมาถึงเย็นกันขนาดนี้ เจ้าเล็กไม่มาด้วยรึ ?”  คุณปู่เคี้ยวหมากไปถามไป


   “พอดีแวะพอคนเมืองเที่ยวหน่อยนะครับปู่ ส่วนเล็กติดธุระกับที่บ้านครับ ปังนี้ปู่ชัยกับย่าน้ำ เป็นปู่กับย่าพี่เอง และนั้นอาหนิง อาสาวน้องของพ่อพี่ ทุกคนครับนี้ปัง แฟนผมครับ”


   “โอ้ คนนี้หรือที่แม่เราบอก ดูน่ารักดีนะและดูนิสัยดีด้วย ว่าแต่ตุ้ยนุ้ยไปไหมคะหนูปัง” ผมยิ้มแหยะๆให้กับอาหนิงที่มายืนกระเส้าอยู่ข้างๆไม่กล้าสบตาปู่กับย่าที่ยืนมองเราอยู่ ก็ผมยังไม่ทันเตรียมตัวนี้หน่า พี่ใหญ่นั้นแหละไม่ยอมบอกอะไรผมเลย


   “เอาละเข้าบ้านกันดีกว่ายืนตากลมมากจะไม่ดี ย่ากับยายหนิงเองก็กำลังทำอาหารอยู่เหมือนกัน หนูปังมาช่วยย่าทำแล้วกันนะจ๊ะ”


   “ครับ” ผมพยักหน้ายิ้มเกร็งๆส่งไปให้คุณย่าก่อนที่น้องสุดใจจะตบแก้มผมเบาผมเงยหน้ามองน้องสุดใจก็พยักหน้าให้ทำท่าฮึดฮัดให้กำลังใจ แม้แต่เด็กยังมองผมออกเลย แงงงงงงงง


   พี่ใหญ่โอบผมเดินขึ้นไปบนบ้าน ขณะที่คนสวนอีกสองสามคนที่ผมยังไม่รู้จักชื่อก็พากันเดินมาขนของเราสองคนขึ้นไปบนบ้าน พอขึ้นมาบนบ้านแล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายและผมพอรู้แล้วว่ากลิ่นอะไรที่ผมได้กลิ่น เป็นกลิ่นของดอกวาสนาที่ไม่พบบ่อยนักและอยู่ข้างบ้านนั้นเอง


   “เดี๋ยวตาใหญ่กับแฟนเราคืนนี้นอนที่เรือนรับรองแล้วกันนะ ว่าแต่เราสองคนมาคุยกับปู่หน่อยสิ” ปู่พูดขึ้นก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้หวายขนาดเคื่องที่ปูด้วยฟูกสีขาวลายดอกเล็กๆ ก่อนที่ท่านจะนั่งลงเอามือทั้งสองข้างวางบนเข่ายิ้มกรุ้มกริ้มมองผมสองคน


   ผมปล่อยให้น้องสุดใจลงกับพื้นก่อนที่เด็กน้อยจะวิ่งไปหาน้าหนิงที่ยืนรออยู่ก่อนจะลงไปทำอาหารที่ใต้ถุนบ้านในพื้นที่ของครัวเหลือเพียงผมพี่ใหญ่และคุณปู่ พี่ใหญ่หันมาพยักหน้าให้ผมก่อนจะพากันเดินไปคุกเข่าตรงหน้าของปู่ชัย ผมเองก็กายสั่นไปด้วยความตื่นเต้นน้อยๆ


   “ชื่อปังนี้ย่อมาจากอะไร” ผมสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะกลื่นน้ำลายเหนียวลงคอและเงยหน้าพูดกับท่านด้วยน้ำเสียงเบาหวิว … ผมตื่นเต้นจนใจจะออกมาเต้นด้านนอกแล้วอ่ะ


   “ขนมปังครับ ตะ ตอนที่ผมอยู่ในท้องแม่ผมชอบกินขนมปัง”


   “แล้วพ่อแม่เราทำงานอะไรละ”


   “พ่อผมตอนนี้เป็นพ่อบ้าน แต่ก่อนเป็นภารโรงครับ ส่วนแม่ … ท่านเสียไปแล้วครับ”


   “หึหึ คบกันมากี่ปีแล้วละ”


   “ปีครึ่งครับปู่” พี่ใหญ่ตอบบ้างก่อนจะเอามือผมไปจับ


   “ฮ่าๆๆๆ กลัวปู่หรือไงเจ้าปัง ปู่ไม่ใช่คนแก่หัวโบราณนะ ไม่ต้องกลัวปู่หรอก แค่หลานสองคนรักกัน ทำไมต้องไปทำอะไรให้ยุ่งยากละ ไม่ใช่ไอ้ใหญ่ไปเอาวัวเอาควายมาทำเมียสักหน่อยนะลูก แต่ถ้าไอ้นุ พ่อไอ้ใหญ่อยู่รับรองงานใหญ่แน่ๆ”


   ปู่ชัยหัวเราะเสียงดังและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ ผมเงยหน้าก่อนจะยิ้มแหยะๆไปให้ ผมรู้ ผมรู้ว่าท่านใจดี แต่ผมก็อดเกร็งไม่ได้ แต่ก็ยอมรับนะครับว่าเมื่อปู่ออกปากมาแบบนั้น ผมก็เบาใจลงไปเยอะเลย อย่างน้อยเขาก็ไม่รังเกียจผม ซึ่งนั้นถือเป็นเรื่องที่โชคดีเอาซะมากๆ ในบางคนที่เขาพาไปเปิดตัวกับผู้ใหญ่กลับโดนรังเกียจกีดกัน สั่งให้เลิกให้แยกจากกัน ถ้าเป็นอย่างงั้นเราสองคนจะเป็นยังไงนะ


   “เราก็รู้พี่ไม่ยอม” เสียงกระซิบของพี่ใหญ่ที่ดังขึ้นริมหู ทำให้ผมสะดุ้งเพราะพี่ใหญ่รู้ความในใจของผมไปซะทุกเรื่อง นั้นคือสกิลที่น่ากลัวของแฟนผมเลยละ


   “คุยเสร็จหรือยัง ปังมาหาย่าสิลูก”


   “ครับ” ผมขานรับก่อนจะค่อยๆคลานออกมาและเดินลงไปที่ครัว โดยที่ให้พี่ใหญ่อยู่คุยกับปู่ไปก่อน


   พอลงมาถึงน้องสุดใจก็วิ่งเข้ามาหาผมทันที ย่ากับน้าหนิงเองก็ใจดีสอนให้ผมทำอาหารสารพัดเค้าบอกเอาไว้มัดใจสามี ทำเอาผมเขินไปกันใหญ่  ทุกคนต่างสนุกสนานเฮฮาเมื่อผมมาอาการแบบนั้น โชคดีจริงๆที่พวกเขาเอ็นดู จะว่าไปพี่ใหญ่เคยบอกนี้นะ ว่าพ่อของเขาเสียไปแล้ว … พ่อนุหรือครับ


โฮ่ง ๆๆๆๆ


   “เจ้าเจ๋ง เจ้าทอง เจ้าตุ่น หยุดเห่า นี้หนูปังญาติของย่าเอง”  ผมที่ตกใจจนลุกขึ้นวิ่งมายืนบนแคร่อีกด้านเพราะสุนัขบางแก้วจากไหนไม่รู้วิ่งมา และมันก็หยุดเมื่อย่าน้ำพูดเตือนอย่างฉลาด ครางหงิงๆหมอบอยู่ที่พื้น


   “อาปังมานี้ๆ พี่เจ็ง พี่ทอง พี่ตุ่น ไม่ทำอะไรหรอก พี่ๆแค่หวงบ้าน” ผมพยักหน้าก่อนจะค่อยๆเดินลงไปนั่งที่เดิม เจ้าหมาสามตัวก็คลอเคลียอยู่ที่เท้าของผมอย่างรู้สึกผิด


   “สงสัยจะไปล่ากบกันในสวนส้มของปู่เพิ่งกลับมาละสินะไอ้เจ๊ง!” น้าหนิงถามขึ้น ผมหัวเราะทันที ก่อนจะก้มลงไปลูบหัวของมันสามตัวอย่างรักใคร่ คิดถึงเนียร์ วัว กับบ๊อบแอนโทนี่เลย …


   มื้อเย็น กับข้าวง่ายๆแต่น่าตาน่าทานถูกจัดวางบนเสื่อข้างบ้านใกล้ๆต้นวาสนาที่มีสระน้ำสะอาดที่มีปลาคารฟหลากสีว่ายวนไปมาดูมีความสุขดี ด้วยอากาศหัวค่ำที่เย็นและมีลมพัดตลอดเวลาทำให้ยุ่งในบริเวณนั้นไม่มี มื้ออาหารมื้อนี้จึงเป็นมื้อที่น่าจดจำ ผมเริ่มปรับตัวกับทุกคนได้ คุยได้มากขึ้น และส่วนมากน้องสุดใจก็เป็นฝ่ายแจ๋วๆพูดด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธ์ และนั่งเคี้ยวตุ้ยๆ โดยมีผมดูแลข้างๆ พี่ใหญ่ก็นั่งขนาบข้างผมอยู่อีกข้าง ถัดไปเป็นปู่ชัย ย่าน้ำ และน้าหนิงที่นั่งล้อมวงกินอาหารเหนือรสชาติอร่อยกันสนุกสนาน โดยมีน้องหมา 3 ตัวที่กินอาหารเย็นพุงกลางกันแล้วอารักขาอยู่นอกวง


   “พรุ่งนี้ก่อนไปก็มาลาปู่ก่อนนะรู้ไหม”   ปู่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก้มลงมาพูดกับผมที่นั่งนวดขาให้ท่านอยู่ที่พื้น หลังอาหารมื้อเย็น
ผ่านไปและก็ขึ้นไปนั่งดู TV กับท่านบนเรือนจนเป็นเวลาอันสมควรที่พวกท่านจะพักผ่อนแล้ว น้องสุดใจเองก็หลับแล้วน้าหนิงจึงพาหลานขึ้นไปนอนบนห้อง


   “ครับปู่ เอาไว้ครั้งหน้าผมจะมาอยู่หลายๆคืนเลยนะครับ แล้วปังก็ขอโทษด้วยที่มาไม่บอกไม่กล่าวก่อน ไม่ได้ซื้ออะไรมาฝากปู่กับย่าและน้าหนิงเลย” ผมพูดและยิ้มตาหยี พี่ใหญ่ที่นั่งอยู่กับคุณย่าหัวเราะนิดๆ


   “โอ้ย ไม่เป็นไรลูก แค่ปังมาหาย่าก็ดีใจแล้ว มาให้ย่าหอมทีสิ” ผมคลานเจ้าไปหาคุณย่าก่อนจะลุกขึ้นกอดที่ตักของท่าน ย่าก้มตัวมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ด้วยความเอ็นดู


   หลังจากที่เราสองคนส่งท่านสองคนขึ้นพักผ่อนแล้ว ก็พากันลงมาจากเรือนหลังใหญ่ เดินมายังเรือนหลังเล็กโดยมีเจ้าสามตัวเดินตามมาด้วย เสียงจิ้งรีดเรไรทำให้ผมรู้สึกสดชื่นกับอากาศที่เย็นขึ้นตามเวลาที่มืดลงไปทุกที


   “เข้าเรือนกันเถอะ ดึกแล้วมันหนาว เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวกัน” พี่ใหญ่จูงมือผมและเปิดประตูเข้าไปในเรือนหลังเล็กที่ถูกขนย้ายข้าวของมาวางไว้แล้วอย่างเป็นระเบียบ


   กลางห้องเป็นเตียงที่ปูด้วยผ้าฝ้ายขึ้นดีมีมุ้งสีขาวปลิวสไลตามลมที่เข้ามาจากหน้าต่าง มีเฟอร์นิเจอร์ที่ย้อนยุคนิดๆอยู่ครบครันและห้องน้ำในตัว ผมถูกไล่มาอาบน้ำก่อน แต่คราวนี้ผมเอาเสื้อผ้าเข้ามาเปลี่ยนเลย ไม่อยากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก ชิๆ


   “สูบบุหรี่เหรอครับ” พอออกมาจากห้องน้ำได้ผมก็เห็นพี่ใหญ่พ่นควันฉุยๆอยู่ที่ริมระเบียงห้อง


   “นานๆทีนะ”


   “ไหนบอกเลิกแล้ว” ผมถามอย่างไม่พอใจนัก ไม่อยากให้พี่ใหญ่สูบไหนบอกเป็นของขวัญให้ผมไง


   “ก็ไม่สูบก็ได้ แต่เด็กที่ไหนไม่รู้มาเห็นช็อตเด็ด” ปาขยี้บุหรี่กับที่เขี่ยและหันมายิ้มให้ผมที่อยู่ในชุดเสื้อยืนกางเกงขายาวเพราะอากาศหนาว


   “ไม่สูบไม่ได้เหรอครับ” ผมพูดไม่ได้บังคับแต่อยากขอร้องเป็นผลดีกับตัวของพี่ใหญ่เองไม่ใช่ใครเลย


   “โอเคๆ ขอโทษครับ” พี่ใหญ่เดินเข้ามากอดผมเอาไว้


   ผมยิ้มนิดๆและกอดตอบ เขาผละออกจากผม ก่อนจะก้มมองที่คอ สร้อยที่แขวนแหวนของพี่ใหญ่ให้ไว้คราวก่อนส่องประกายวับกับแสงไฟที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะล้วงเอาสร้อยของตัวเองออกมาจากคอเสื้อบ้าง ผมยิ้มและจุ๊บเบาๆที่แหวนวงนั้น เขาหัวเราะเสียงดังก่อนจะรวบผมเข้าไปกอดอีก


   “ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้บอกว่าจะพามาปู่น่ะ”


   “เซอร์ไพร์ทมากๆเลยครับ แต่คุณปู่กับคุณย่าใจดี น้าหนิงกับน้องสุดใจก็ด้วย ผมรักน้องสุดใจสุดๆเลย ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มให้เขาก่อนที่ริมฝีปากหนาจะก้มลงมาจูบเบาๆที่ริมฝีปากผม ไม่ได้ลุกล้ำอะไร


   “งั้นคืนนี้ขออีกนะ”


   “มะ ไม่เอานะครับพรุ่งนี้ต้องเดินเขาไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวปังเดินไม่ไหว อีกอย่างเมื่อเช้าก็ทำแล้ว”


   “หึหึ งั้นไปทำในเต้นท์บนภูเขาเนอะ” เขากระซิบ


   “บะ บ้า อายเจ้าป่าเจ้าเขาบ้างเถอะ” ผมพึมพำ


   ก่อนที่เขาจะก้มลงมารวบตัวผมเข้าไปจูบอีกครั้ง ในครั้งนี้มันช่างแสนหอมหวานเหลือเกิน … ขอบคุณนะครับพี่ใหญ่ … ในทุกๆเรื่องที่เอ็นดูผม ในทุกๆเรื่องที่ทำเพื่อผม … รวมอุปสรรค์ทั้งหลาย ทั้งพี่กาจพล สุชาดา มิ้นต์ที่หายตัวไป กับพี่อลัน ที่ทำให้รู้ว่าผมรักคนๆนี้แค่ไหน
   
   




======================

พาพี่เสือร้ายกับน้องหนูแดงไปเที่ยวต่างจังหวัดพักผ่อนความตึงเครียดกันสักหน่อย

หวานๆ เลี่ยนๆ ปวงๆ 555555 ไม่สนุกขอโทษนะคะ

คนเขียนไม่เคยไปน่าน แต่เป็นจังหวัดที่อยากไปมาก ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ

อิมเมจน้องสุดใจ



รูปตัวอย่างห้องพักเรือนเล็กบ้านปู่



เจอกันตอนหน้าคะ

ฝากเพจนะคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:


ขอบคุณอิมเมจจากกูลเกิ้ลคะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2016 20:49:26 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สวีทกันซะเราอิจฉาเลยนะ

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
ปังน่ารักใครก็รัก
ปังนะ  ขอให้รัก
กันนานๆ ตลอดไป

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
อ่านรวดเลยยยยย 55555
ขอฉาก NC ได้ไหมค้า รอพี่เสือกับน้องหมูมานาน อยากอ่านอ่า คริๆๆ :hao7:

ตอนแรกรำคาญอลันค่ะ แต่มีปาล์มมาช่วยกู้สถานการณ์
ขอให้โดนปาล์มจับปล้ำไปเลย  :laugh:

คิดถึงน้องเล็กเหมือนกันน้า :impress2:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ปังน่ารัก พี่ใหญ่อ่อนโยนขึ้นเยอะเลย
แต่ก็หื่นด้วย 555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่เสือใหญ่กับน้องปังน่ารักจัง :กอด1:

ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
{CH 49 สุดดวงใจเสือร้าย}




เช้าวันรุ่งขึ้น ผมถูกปลุกขึ้นมาตอน ตี 4 อากาศเมืองน่านหนาวจับใจทำให้ผมหนาวสั่นไปหมด แถมบ้านที่ใหญ่ยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นจึงต้องกลั้นใจกว่าจะอาบเสร็จตัวผมเกือบแข็งตายอนาถคาห้องน้ำไปแล้ว พอออกมาพี่ใหญ่นี้ขำลั่นเลย แถมยังแกล้งผมด้วยการเอาผ้านวมมาห่มให้อีก … มันเปียกหมดแล้วเห็นไหมคนบ้า


   “พี่ใหญ่จะกอดปังทำไม ปังจะแต่งตัว แล้วมันอึดอัดเอาผ้าออกไป ปังไม่ใช่ซูชินะ!!!” ผมพูดไปปากคอก็สั่นไป ยิ่งเห็นผมดิ้นเค้าก็ยิ่งกอดผมแน่น ทำไมชอบแกล้งตอนผมอาบน้ำเสร็จไม่เข้าใจ ไม่แกล้งอย่างงั้นก็จะแกล้งแบบนี้ ไม่แกล้งแบบนี้ก็แกล้งแบบนั้น ฮึ!


   “แล้วมีที่ไหนซูชิใส่หมู” เค้าว่าแล้วฟัดแก้มผมไปฟอดใหญ่


   “อย่านะครับไม่งั้นผมโกรธ” ผมหันไปชี้หน้าที่ใหญ่เพราะมือปลาไหลเริ่มทำงาน


   “หึหึ งั้นปีนเขาเอาไว้คราวหน้าดีไหม วันนี้เราพักอยู่บ้านปู่ก่อน จะได้ ….”


   “ไม่เอาปังอยากปีนเขา” ผมพูดและพยายามแกะตัวเองออกจากผ้านวมผืนโต ถึงผมจะหนาวแต่นี้ก็อึดอัดไป ไม่ได้ห่มธรรมดานี้แต่พันอย่างกับซูชิ


   “งั้นก็เลิกขาวขึ้นแล้วก็ผอมลงซะ ไม่อย่างงั้น ….โดนทุกวัน” แกล้งผมด้วยการทำใจผมแหว่งเสร็จก็หัวเราะเดินเข้าห้องน้ำ
ไป … ถ้าเขามีอะไรกับผมทุกวันก็แปลว่าเค้ารักผมไม่ใช่เหรอไง … ฮืออออ อย่างงั้นผมก็ใช่ชีวิตลำบากเหมือนกันนะ


   “อาบน้ำเสร็จก่อนยังช้าเลย” พี่ใหญ่ที่แต่งตัวเสร็จแล้วนอนเล่นอยู่บนเตียงมองผมที่กำลังค้นเสื้อผ้าอยู่ในกระเป๋า แต่ผมสวมเสื้อกล้ามสีดำไปแล้วนะ ไม่อยากเสี่ยงกับเสือหื่น ไม่รู้ทำไมหลังจากกลับมาจากออสซี่นี้พี่ใหญ่ หื๊นหื่น   


   “พี่ใหญ่ปังลืมเอาเสื้อแขนยาวหนาๆมา มีแค่ตัวนี้เอง แต่บางจ๋อยเลย”  ผมชูเสื้อคลุมตัวบางให้พี่ใหญ่ดู


   “ก็ไม่เตรียมไง”


   “แล้วผมจะรู้ไหมว่าจะมาเขา”


   “เถียงเหรอ” ผมย่นหน้า ทำไมต้องดุด้วยเล่า


   “งอนเก่งจัง” เขาพูดในขณะที่นอนอยู่บนเตียงและมองมาทางผม ชิ


   ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องงอน แต่สมควรงอนไหมคนอะไรแข็งกระด่าง แต่ก็แปลกนะครับเมื่อก่อนต่อให้เค้าว่าเค้าบ่นเค้าตะคอกยังไงผมก็เอาแต่กลัว แต่ครั้งนี้เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นงอนแทน … ประหลาดนะครับว่าไหม ผมก็ไม่อยากงอนหรอก แต่อารมณ์มันไปเองนี้หน่า


พรึบ !


   “เลิกงอนและแต่งตัวจะได้ออกเดินทางกัน เก็บของให้หมดนะเราจะไม่เข้ามานี้แล้ว ลงเขาพรุ่งนี้แล้วกลับเลย”


   เขาพูดและเดินไปหยิบกระเป๋าของผมและของเขาออกจากห้องไป ในขณะที่ผมหยิบเอาเสื้อเนื้อผ้าหนาออกจากหัวผมและปรากฎว่ามันเป็นเสื้อกันหนาของผมที่ผมทิ้งไว้ที่หอพัก … เขาหยิบมาด้วยเหรอ … ชิ ถ้าจะใส่ใจก็บอกกันดีๆไม่ได้เหรอไง รุนแรงตลอด คิกๆ น่ารัก


   “พี่ใหญ่รอผมด้วย” ผมรีบตะโกนออกไปเรียกใส่เสื้อกันหนาวให้เรียบร้อย และรีบหยิบของที่ยังเหลืออยู่ในห้องอีกเล็กน้อยและวิ่งตามพี่ใหญ่ที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน


   “ใส่เอาไว้ซะ” ผ้าพันคอสีฟ้าถูกบรรจงพันรอบคอผมเอาไว้


   “เตรียมมาพร้อมเลยนะครับ” ผมแกล้งเย้า แต่ตัวเขาเองกลับใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินเข้มบางๆ กับกางเกงยีนต์ แต่ผมก็พอจะรู้ว่าพี่ใหญ่ขี้ร้อนมาก อากาศหนาวจึงไม่ทำให้เขาลำบากเท่าไหร่ ไม่เหมือนผมที่ไขมันพอกเต็มตัวแต่ก็ยังขี้หนาวไม่เลิก


   “คราวหลังต้องเป็นคนแพ็คของเองบ้างแล้วนะ รู้ไหม ?” เขาพูดพร้อมกับเดินนำหน้าผมไปทางเรือนใหญ่ ที่มีแสงสว่างจากไปทำให้รู้ว่าคนในบ้านตื่นแล้ว ให้ผมเดาคงจะเป็นคุณปู่กับคุณย่าเพราะคนเฒ่าคนแก่ท่านตื่นเช้ากันทุกบ้านอยู่แล้ว ตี 3 ตี 4 นี้ลุกมาวิ่งกันป๋อ


   “เอ๊ะ ? ” ผมอุทานขึ้นอย่างงงๆ


   “ทำหน้าที่เมียที่ดีไงครับเมีย” เขาพูดหน้าตาเฉย ทำเอาผมหน้าร้อนวูบวาบไปหมด


   “อ้าวตาใหญ่ ตาปัง จะไปกันแล้วรึ” ย่าที่กำลังก่อฟืนอยู่หลังบ้านเดินออกมาเจอเราสองคนที่หน้าบ้านและถามขึ้นทันที


   “ครับย่า ปู่ตื่นหรือยังคะ”


   “โอ้ยยยยยยย! รายนั้นเค้าออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งที่สวนโน้นแหนะ พอดีด้านหลังมีลำธารอยู่ ปู่เค้าชอบไปออกกำลังกายเช้าๆตรงนั้น ย่านี้กลัวว่าแกจะเป็นอะไรไปต้องติดไฟให้  แหมก็อายุเยอะแล้วนี้นะ ก็ดีขึ้นหน่อยตรงที่มีเจ้าพวกไอ้เจ๋งไปดูแลนั้นแหละ”


   “งั้นผมฝากลาด้วยนะครับย่า”


   “โว้ยๆ อะไรกัน จะไปไม่บอกไม่กล่าว เดี๋ยวเถอะไอ้หลานคนนี้” เสียงโวยวายพร้อมกับเสียงสุนัขเห่าดังมาแต่ไกล ผมรีบ
หันไปหัวเราะให้คุณปู่ที่อยู่ในชุดวิ่งจ๊อกกิ้งออกมาจากความมืด พร้อมเจ้า 3 สหายจอมอารักขา


   “เปล่านะปู่ นี้ผมบอกว่าจะรอปู่กลับมาก่อนต่างหาก” ผมกับย่าเหลือตามองคนเจ้าเล่ห์ยิ้ม ๆ


   “เออๆ กินข้าวกินปลาก่อนสิ นี้เดี๋ยวย่าเอ็งทำเสร็จค่อยไป 6 โมงพอดีก็ทันเค้าเปิดไม่ใช่เหรอวะ”


   “พาเด็กไปเปิดโลกตอนเช้าน่ะปู่กว่าจะถึงอีก เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะ” พี่ใหญ่ว่าพร้อมเดินไปยกมือไหว้ปู่


   ผมเองก็พุ่งเข้าหาย่า กอดท่านเอาไว้หลวมๆ คุณย่าใจดีเหมือนญาติผู้ใหญ่ผมคนนึง ผมเองก็ไม่เคยเห็นญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง เพราะท่านเสียไปหมดแล้ว ก็เลยขอฝากตัวเป็นหลานอีกคนของท่านและดูท่านจะต้อนรับผมเป็นอย่างดี


   “เออๆ ตามใจเอ็ง โชคดี อ้อ! มานี้ๆ ข้าเพิ่งนึกอะไรดีๆได้ เจ้าปังตามปู่มาด้วยนะ” ผมขานรับมองตามปู่ที่กอดคอพี่ใหญ่เดินนำไปที่แคร่หน้าบ้านที่อยู่ไม่ไกลนัก


   “ไปสิลูก ตามปู่เค้าไป”


   ย่าจูงมือผมเดินไปด้วยกัน อากาศยามเช้าต่างจังหวัดหนาวครับลมแรงด้วยเลยไม่มียุง ผมชอบตรงนี้แหละ บรรยากาศดีด้วยเพราะบ้านของปู่กับย่าเปิดไฟทั่วหมด ไม่มืดจนเกินไปนัก ย่าและปู่นั่งลงบนแคร่ ก่อนที่พี่ใหญ่จะนั่งลงข้างๆปู่ ส่วนผมเองก็นั่งลงข้างๆคุณย่า กอดท่านไว้ ตัวท่านถึงแม้จะไม่ได้เต็งตึงเหมือนสาวแรกรุ่นแต่ก็อบอุ่นมากๆเลยครับ


   “ก่อนที่เอ็งสองคนจะไป ข้าอยากให้ทั้งคู่รู้ว่าคนบ้านนี้ยินดีต้อนรับเราเสมอ ร้อนใจ ร้อนกายอะไร ก็มาหาปู่กับย่าได้” ปู่พูดพร้อมกับมือผมสองคนไปวางไว้ตรงกลางระหว่างปู่กับย่า ผมผลอสบตาพี่ใหญ่ที่มองมาก่อนจะยิ้มเขินๆและก้มหน้าหลบ เลือดสูบฉีดแต่เช้าเลย


   “ใช่ลูก ไม่ใช่แค่ตาใหญ่ ถ้าวันไหนตาปังของย่าทะเลาะกับตาใหญ่แล้วไม่รู้จะไปไหน โทรหาย่าเลยนะ ย่าจะลงไปรับหนูที่กรุงเทพเอง” คุณย่าหันมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่จนหน้าผมบี้ตามแรงเลย ตอนนี้แก้มผมคงเย็นจืดแน่ๆ


   “คิกๆ ได้เลยครับย่า”


   “หึ คิดว่าหนีพ้นก็เอา”


   “เดี๋ยวเถอะไอ้ใหญ่ เอ็งนี้เหมือนเสือจริงๆไล่แต่จะต้อนจะงับไอ้หนูนี้ให้ได้ ว่าไงวะ หิวรึ!?” พี่ใหญ่หัวเราะขึ้นเสียงดังแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ผมว่าพี่ใหญ่ไม่หิวหรอก หื่น!


   “นี้ก็เป็นของแทนใจเล็กๆน้อย ที่ปู่กับย่าเก็บไว้นานแล้ว ส่วนของไอ้เล็กไว้มันพาสามีมันมา ปู่ก็จะให้มันเหมือนกัน เห็นแม่เราบอกว่าหล่อเชียวไม่ใช่รึ ชื่ออะไรนะย่ามึง”


   “เสาร์ไงตา”


   “แล้วปู่กับย่าไม่คิดว่ามันประหลาดหรือครับ เอ่อ ที่ ทั้งสองพี่น้องรวมทั้งผมด้วย เอ่อ …” ผมถามขึ้นอย่างตะกุกตะกัก … พี่ใหญ่บีบมือผมเบาๆ


   “ย่ามึงหนักหัวไหม ?”


   “ไม่นี้ตา ย่าไม่หนัก แล้วปู่มึงละ”


   “เฮ้ย ปู่ก็ไม่หนัก ฮ่าๆๆๆๆ เอ็งสองคนคบกันแค่สองคน ไม่ได้มาคบกันบนหัวปู่หรือหัวใครนี้ … สิ่งที่เอ็งรัก เอ็งชอบกัน มันไม่ใช่เรื่องหน้าอายหรอก เห็นค่านิยมสมัยนี้เค้าเหยียดเพศ เหยียดสีผิว เหยียดชนชั้นกัน ปู่ก็ไม่รู้ว่าจิตใจเค้าทำด้วยอะไร คนแต่ละคนมีรสนิยม มีทางเลือก มีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง จะไปเสือกเรื่องคนอื่นแล้วมาเปรียบเทียบกับชีวิตของตัวเองทำไมก็ไม่รู้ ไร้สาระ ” ปู่ว่าแล้วก็คล่ำหาของในกระเป๋ากางเกง


   “จำไว้นะลูก ต่อจากนี้ เราสองคน จะต้องเจออะไรอีกเยอะ ในสังคมเบื้องหน้า ก็อย่าท้อ อย่าปล่อยมือกันถ้ายังรักกัน จงเชื่อใจและเชื่อมั่นกันเอาไว้ ” ย่าน้ำพูดต่อ ผมยิ้มให้ท่านรู้สึกกรอบตาร้อนผ่าว …


   “เออนี้เจอแล้ว” สร้องข้อมือทองประดับด้วยพระองค์เล็กๆสองเส้นถูกวางบนฝ่ามือของปู่ ก่อนที่จะปู่จะยื่นให้ย่า ย่าก็ใส่ข้อมือให้ผมส่วนปู่ก็สวมให้พี่ใหญ่ ผมไม่อาจพูดอะไรออกได้ นอกจากขอบคุณ ทุกอย่างมันตื้นตันไปหมด


   “รักษากายใจของกันไว้ดีๆนะลูก” ปู่พูดพร้อมกับก้มลงมาหอมกระหม่อมผมกับพี่ใหญ่คนละทีถึงจะแรงไปหน่อยก็ไม่เป็นไรครับ


   “หากทะเลาะกันให้คนนึงทำตัวเป็นน้ำ อีกคนทำตัวเป็นไฟ แล้วพูดคุยกันด้วยเหตุและผลนะลูกนะ” เช่นเดียวกับย่าที่บรรจงหอมเราทั้งสองคน


   “แหะๆๆๆๆๆ”


   เสียงเจ้าเจ๋งร้องขึ้นก่อนจะพาพวกลูกสมุนวิ่งตรงไปที่บันไดบ้าน ผมมองตามไปก่อนจะยิ้มกว้างออกมาและค่อยๆผละเดินขึ้นไปหาหนูน้อยที่ดูท่าทางจะงัวเงียมากๆในชุดนอนน่ารัก พอผมเดินไปถึงแกก็อ้าแขนให้ทันที ผมอุ้มแกขึ้นมาแก้มใสเองก็ซบลงกับไหล่ของผมเหมือนจะหลับไปอีกรอบ


   “แกตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้น่ะ เป็นเด็กฉลาดใช่ไหมละ” อาหนิงที่อยู่ในชุดนอนเหมือนกันพูดขึ้นพร้อมกับห้าววอดใหญ่


   “มากๆเลยครับ” ผมว่าก่อนจะเขย่าตัวเองเป็นการกล่อมหนูน้อย


   “สุดใจไปด้วยได้ไหมค่ะ” เสียงเล็กถามผมขึ้น ตามภาษาเด็กงัวเงีย


   “สุดใจต้องเรียนพิเศษนะคะ แล้ววันหลังพี่ปังจะมารับไปเที่ยวนะตกลงไหม ?”


   “งั้นสุดใจโทรหาได้ไหมคะ”


   “ได้ครับ” พี่ใหญ่ที่มายืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้นเบาๆ น้องสุดใจพยักหน้า ก่อนจะหอมแก้มผมเบาๆ ยื่นมือไปจับมือของพี่ใหญ่
และค่อยๆผล่อยหลับไป อาหนิงก็เลยต้องมาอุ้มน้องสุดใจกลับไปนอนบนห้องเหมือนเดิม ก่อนจะออกมาส่งเราสองคน ที่หน้าบ้าน


   “งั้นผมไปนะครับทุกคน ดูแลบ้านด้วยไอ้เจ๋ง” พี่ใหญ่ยกมือไหว้ทุกคนก่อนจะขึ้นรถไป ส่วนผมก็ยังยืนอยู่ตรงหน้าของทุกๆในขณะที่ฟ้าเริ่มสางแล้ว


   “ขอบคุณมากนะครับ ปู่ ย่า อาหนิง แล้วปังจะกลับมาใหม่นะครับ”


   “โทรหาย่าบ้างนะปัง” ย่าพูดเสียงสั่นๆ ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเข้าไปยกมือไหล่แนบอกของทั้งปู่และย่า ก่อนจะหันมายกมือไว้อาหนิงและขึ้นรถตามพี่ใหญ่มา ผะ ผมอยากอยู่ที่นี้ตลอดไปจัง อบอุ่น … ผมอยากพาพ่อมาอยู่ด้วย พ่อคงจะมีความสุข …


   “เอาไว้มีเงินจะมาซื้อที่ที่นี้ปลูกบ้านอยู่ตอนบั่นปลายชีวิตกันนะ”




   “ครับ ” ผมหันไปบอกพี่ใหญ่ยิ้มๆ ก่อนจะหันไปโบกมือให้ทุกคนที่ยังยืนอยู่ที่เดิมในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกไปช้า ๆ แล้วปังจะมาเยี่ยมบ่อยๆนะครับ ทุกคน 


   “พี่ใหญ่น้ำพริกปลาดุกของคุณย่า ปังอยากกิน” ผมชูถุงน้ำพริกในหลายๆอย่างที่เป็นของฝากจากบ้านคุณย่าให้พพี่ใหญ่ดูหลังจากที่ออกเดินทางมาได้แล้วสักพัก


   จนเวลาล่วงเลยมา 6 โมงเช้า อากาศก็ยังหนาวเย็นเหมือนเดิม แมทัศนียภาพก็สวยด้วย ภูเขา แปลงปลูกผัก สวน พื้นที่นาที่สุดลูกหูลูกทาสองข้างทาง ทำให้ผมปลอดโปร่งและชื่นชอบธรรมชาติที่นี้มาก อีกอย่างการใช้ชีวิตที่นี้ทำให้เราลืมเทคโนโลยีไปเพราะในบางจุดสัญญาณอินเตอร์เนตยังเข้าไม่ถึง เหมาะกับคนที่สโลว์ไลฟ์สุดๆ


   “หิวแล้ว ?”



   “ก็ปังตื่นเช้านี้ พอตื่นเช้าแล้วไม่ได้นอนต่อมันก็หิว” ผมพูดเบาๆเขาหัวเราะมองซ้ายทีขวาที


   “เช้าไปยังไม่มีร้านเปิดเลย … แต่รู้สึกว่าจะมีตลาดอยู่ด้านหน้า อาจจะมีร้านอาหารเปิดแล้ว”


   “ฮะ ถ้าไม่มีก็ซื้อข้าวเปล่ามาก็ได้ ปังกินบนรถได้ครับ”


   “หึหึ กินหมูกระทะนะเย็นนี้?” พี่ใหญ่วางมือบนหัวผมและถามขึ้น


   “เอาผักด้วยนะครับ” เขาพยักหน้าและกลับไปขับรถต่อ จนถึงตลาดที่พี่ใหญ่ว่า เป็นตลาดที่ค่อยข้างใหญ่ มีทั้งกินของใช้ธรรมดา ตลอดจนอาหารป่าประหลาดๆ ผมโดนพี่ใหญ่หลอกให้กินของแปลกๆตั้งหลายอย่าง หึ ! จนแล้วจนรอดผมก็ได้ของสดมาพอสมควรและจับใส่กล่องโฟมใส่น้ำแข็งเอาไว้ อากาศแบบนี้คงไม่ละลายหรอก และผมก็ได้ข้าวเปล่าพร้อมไก่ย่างมานั่งกินบนรถ ผมคำพี่ใหญ่คำ ไปจนอิ่ม


   “หยิบน้ำตาลสดให้หน่อย”


   “กินเยอะระวังอ้วนนะพี่ใหญ่ อิอิ”


   “หึหึ ก็รอดูว่าจะมีสาวมาติดไหม”


   “กล้าเหรอ!” ผมแกล้งทำท่าฮึกเฮิม ป้อนหลอดน้ำตาลสดทิ่มปากเค้าไปที เค้าขมวดคิ้วและก้มลงไปกินน้ำจากหลอด


   “ไม่น่าให้กินหรอก” ผมว่าขำๆก่อนจะวางน้ำตาลสดไว้ตรงช่องใส่แก้วน้ำ


   “ไม่เหมาะ” คำพึมพำเบาๆ ผมหันขวับไปมองแกล้งทำตาดุใส่ จนต้องร้องออกมาเมื่อเขายื่นมือมาลูบหน้าผมจนผมต้องย่นคอ


   “หมูขู่ไม่เป็นไม่ต้องพยายาม” เขาว่าจนผมหัวเราะออกมา


   เราเดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติขุนน่านกันในเวลา 7 โมงเช้า บรรยากาศในยามเข้ามีนักท่องเที่ยวไม่เยอะมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ายังเช้าหรือว่าไม่ใช่หน้าท่องเที่ยวก็ได้ แต่ในความจริงที่นี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเรื่องความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวนะครับ ผมลองหาในอินเตอร์เน็ตตอนอยู่บนรถ ถึงแม้สัญญาณจะน้อยนิดจนภาพไม่ขึ้นแต่ก็ยังพยายาม ที่นี้มีทั้ง สวนชา สวนผัก น้ำตกและภูเขา จุดชมวิว ร้านอาหารที่พักน่ารักๆ บ่อเกลือสินเธาว์ 9 บ่อ เยอะแยะไปหมด โดยตลอดเส้นทางรถยนต์สามารถขึ้นไปถึงได้ แต่อาจจะมีช่วงที่เราจะไปกางเต้นท์ ที่ต้องเดินขึ้นไปเล็กน้อย


   “สวัสดีครับ”


   เจ้าหน้าที่ในชุดลายพรางเดินออกมาหาพวกเราพร้อมทักทายขึ้นหลังจากผมและพี่ใหญ่ที่เดินลงมาจากรถพอดีหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พี่ใหญ่จะคุยกับเจ้าหน้าที่เองโดยหันมาถามความคิดเห็นผมเป็นระยะๆจากนั้นผมและพี่ใหญ่ก็ขับรถมาตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่นำไป จนมาถึงจุดกางเต้นท์ที่เป็นพื้นที่กว้างมีเขียวขจี ล้อมรอบด้วยป่าและเขามีหลังคาเป็นท้องฟ้า โดยมีนักท่องเที่ยวอยู่พอสมควร แต่กางเต้นท์อยู่ค่อนข้างห่างกัน จึงดูเป็นส่วนตัวมาก ผมและพี่ใหญ่เลือกที่จะกางเต้นท์ใกล้ๆสายธารเล็กๆ  พี่ใหญ่ลากเต้นท์ที่ใหญ่พอสมควรลงมาจากรถ ก่อนที่ผมจะช่วยกันกางเอาไว้ก่อนที่จะไปเที่ยวเพื่อเอาไว้เก็บของ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าของจะหายเพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ตามจุดต่างๆ แถมสถานที่แบบนี้คงไม่มีขโมยคนไหนดั้นดนจะมาขโมยของหรอก อ๊า บรรยากาศดีจังเลย ถึงจะไม่หนาวเหมือนตอนเช้าแล้ว แต่ลมเย็นๆก็เข้ามาปะทะหน้าผมอย่างไม่หยุดพัก


   “เอ่อ ขอโทษนะคะ”


   “ครับ ?” ผมหันไปมองตามเสียงหวาน ก่อนจะพบว่าคนที่ยืนยิ้มให้ผมอยู่ พี่ใหญ่ที่กำลังตอกพื้นเต้นท์อยู่ ก็หันมามองแต่ไม่ได้สนใจอะไร


   “มาเที่ยวกันสองคนเหรอคะ ?” ผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้าผมถามขึ้น เธอเป็นคนน่ารักเลยละครับ    


   “ครับผม” ผมขานรับ ก่อนจะรับเอาค้อนพี่ใหญ่ที่ใช้ตอกเมื่อกี้มาถือไว้ ส่วนเค้าก็เดินไปเอาของที่รถ … แล้วค้อนเก็บไหมละ ?


   “คือ เราชื่อโอปอล์นะคะ เรียกเราว่าปอก็ได้ เพื่อนเราที่อยู่ตรงนั้นอยากชวนเที่ยวด้วยกันน่ะคะ ได้ไหมค่ะ ?”


   “เอ่อ …” ผมมองตามมือเธอไปเห็นกลุ่มชายหญิง 4 คนยืนโบกมือยิ้มมาให้ผมอยู่ ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะพี่ใหญ่เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมเองก็มีนิสัยไม่ค่อยถูกกับคนแปลกหน้าด้วย


   “นะคะ จะได้ไม่เหงาไง”  เธอเข้ามาจับแขนผมเขย่า ผมมองซ้ายมองขวา ก็เห็นพี่ใหญ่เดินมาพร้อมกระเป๋าใหญ่ที่ใส่อะไรไว้ไม่รู้ นี้เค้าเตรียมอะไรมาบ้างผมยังไม่รู้เลย


   “ตะ แต่ผมมากับพี่ใหญ่น่ะครับ ต้องรอถามเขาก่อน” ผมรีบพูดขึ้น พี่ใหญ่หันมามองนิดๆ


   “อ่อ คนนั้นชื่อใหญ่เหรอคะ แล้วคุณละ”


   “อ่อ ผมชื่อปังครับ” ผมแนะนำตัวเองทันที

 
   “คะ ผู้หญิงคนที่ดำๆหน่อยคนนั้นชื่อ หลิวนะคะ ส่วนคนที่อยู่ข้างกันชื่อฟรังก์เป็นแฟนกัน สองคนด้านหลังคนขวาชื่อ สิน ส่วนอีกคนชื่อดิว  ยังไงเจอกันที่น้ำตกนะคะปัง … พี่ใหญ่ด้วยนะคะ”


   โอปอล์เริ่มแนะนำเพื่อนที่อยู่ห่างออกไป คนชื่อหลิวที่เธอว่าไม่ได้ดำขนาดนั้นหรอกครับแต่เป็นผิวสีแทนมากกว่าส่วนแฟนของเขาก็เป็นฝรั่งตาน้ำข้าวท้วมๆหน่อย คนชื่อสินเป็นผู้ชายตัวสูงพอๆกับพี่ใหญ่เลย ส่วนคนชื่อดิวก็ดูท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครเหมือนกัน เพราะเค้าไม่ยิ้มให้ผมอยู่คนเดียว


   “จะไปเล่นที่ไหนกัน” พี่ใหญ่ถามขึ้นหน้าดุได้อีก … โมโหอะไรละคร้าบบบ


   “อ่อ ที่น้ำตกสะปันคะ” ผู้หญิงคนนี้ตอบพร้อมยิ้มกว้าง


   “อืม” พี่ใหญ่ขานรับก่อนจะเดินไปที่รถอีกครั้ง


   “งั้นเจอกันนะคะ” แล้วโอปอล์ก็วิ่งกลับไป ผมค่อนข้างงงๆนิดหน่อย แต่ก็หันหลังกลับมาจัดของนิดๆ อ่ะ มีโต๊ะเล็กๆ กับเตาหมูกระทะด้วยน่ารักจังเลย เตรียมมาขนาดนี้เลยเหรอ  นี้กะจะมาอยู่เป็นเดือนเลยหรือไงดีนะที่รถพี่ใหญ่ค่อยข้างกว้างและเก็บของได้เยอะไม่งั้นทริปนี้พี่ใหญ่คงเอากระบะมาแน่ๆ 
   


   “ โอ้ว่า โอ้ว่าอกเอ่ย โอ้พระรามแพ้รัก ไม่หวั่นจะรบสยมยักษ์ จะหักเอากรุงลงกา แต่ว่าความรักกลับโดยอุบาย ไม่เชื่อใจสีดา วาดรูปยักษ์ ดั่งแทงใจสั่งให้วายชีวา” (เพลงสีดา-The Rube)
 

   “หึ”


   ผมหันไปค้อนพี่ใหญ่ที่นอนอยู่ข้างๆบนเสื่อข้างลำธาร เพราะอากาศดีมากผมกับพี่ใหญ่ที่เพลียกับการตื่นเช้าเลยถือโอกาสพักสายตาอยู่ด้วยกัน ก่อนนอนผมก็เลยเปิดเพลงฟังด้วยกัน ไหนบอกตามใจผมไงอยากฟังอะไรก็ฟังมาหัวเราะแบบนี้ได้ไง เดี๋ยวก็ปล่อยเสือกลับเข้าป่าเลยนี้


   “หัวเราะปังงั้นพี่ใหญ่ร้องให้ผมฟังสิ” ผมดึงสายหูฟังออกลุกขึ้นนั่ง เขาที่นอนหลับตาหนุนแขนอยู่ลืมตามองผมและหัวเราะในลำคอออกมาอีก 


   “ร้องไม่เป็น ลงมานอนต่อสิ เดี๋ยวบ่ายไม่มีแรงเล่นน้ำนะ” ผมย่นจมูกแต่ก็ยอมนอนลงข้างๆพี่ใหญ่


   เอาหูฟังเสียบหูต่อเงียบๆ มือข้างนึงวางบนพุงอีกข้างก็จุมลงบนลำธารที่น้ำใสแจ๋วปลาเล็กปลาน้อยตอดมือผมกันสนุก อะไรก็ได้ขออย่างเดียวอย่ามางูลอยตามน้ำมา ไม่งั้นมือผมช็อกแน่ๆ ตาผมมองฟ้าสีหม่นที่เหมือนฝนจะตก แต่ก็ไม่ตก อากาศเมืองเหนือที่ผมชอบมากที่สุด


หมับ   


แขนหนักๆของคนข้างๆพาดกอดมาบนท้องผมและดึงผมเข้าไปใกล้ ใบหน้าซุกเกยกับซอกคอของผมที่นอนหงานอยู่ ทำ
ให้มือที่จุมลงไปในน้ำเกยขึ้นมาบนเสื่อ เปียกไปหมดเลย 


   “เดี๋ยวมีคนเห็นนะครับ” ผมบอกเบาๆ ยกมือจับแขนของพี่ใหญ่เอาไว้เบาๆ ถึงแถวนี้จะไม่มีใครเห็นหากไม่เดินมา แต่ก็มีคนอยู่ใกล้ๆเหมือนกัน ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนอนกอดกัน ใครเห็นก็อาจจะช็อกได้นะ


   “งั้นไม่กอด”



   “ไม่เอา” ผมพึมพำเบาๆกอดจะกอดแขนเค้าเอาไว้แน่น พลิกตัวเข้าหาพี่ใหญ่และซุกตัวอยู่แบบนั้น เขาเองก็กอดผมเอาไว้ สบายเค้าละ ทั้งกอดทั้งก่าย ดูไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ก็อบอุ่นนะครับ รักปัง หลงปัง อย่านอกใจปัง แล้วก็ใจดีกับปังให้มากๆ 
เพี๊ยง!!!



   … หลับดีกว่า


.


.


.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2016 20:49:45 โดย pa_pa »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pa_pa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +414/-4
   “ปัง!!!! พี่ใหญ่!!!!”ผมสะดุ้งลุกขึ้นนั่งพรวดเมื่ออยู่ๆเสียงเรียกพร้อมกับเสียงเดินเข้ามาใกล้ ทำให้พี่ใหญ่ก็พลอยผวาตื่นขึ้นมาด้วย แต่แขนแกร่งก็ยังรัดพุงผมเอาไว้แน่น


   “พี่ใหญ่พวกเขา …” เขามองหน้าผมนิ่ง ก่อนจะยอมพลิกตัวนอนหงายและลุดขึ้นนั่ง ประจวบเหมาะกับที่พวกโอปอล์เดินเข้ามาพอดี เค้ามากันครบแก๊งเลย ผมกำลังหลับสบายๆเลยแท้ๆ


   “ทานข้าวด้วยกันไหมค่ะ แล้วไปเล่นกันนะ”คนชื่อหลิวพูดยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาจูงมือผมลุกขึ้น ผมเองที่สะลืมสะลือลุกตามพวกเขาอย่างงงๆ มารู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่ในวงส้มตำไก่ย่างที่เต้นท์พวกเขาแล้ว หันไปมองข้างๆก็เจอกับคนชื่อดิวแล้วก็หลิว


   “นั่งนี้เลยค่ะนั่งนี้” ผมขมวดคิ้วนิดๆเมื่อพี่ใหญ่ถูกลากไปนั่งตรงข้างๆโอปอล์ โดยที่อีกข้างเป็นฟรังก์แฟนของหลิว ผู้หญิงคนนี้ประหลาดอ่ะ ยังไงก็ไม่รู้


   “กินสิ”


   ผมตกใจเมื่ออยู่ๆน่องไก่ใหญ่ๆก็มาอยู่ในจาน หันไปมองเจอดิวก็กำลังมองผมอยู่ …. ดิวก็หล่อนะครับขาวตี๋ แต่พี่ใหญ่ของผมหล่อกว่า แหะๆ เค้าทำตัวดีก็ชมเขาหน่อยสิเนอะ ผมเหลือบมองพี่ใหญ่ที่มองมาที่ผมนิ่ง ก่อนที่จะหันไปคุยกับโอปอล์ที่อยู่ข้างๆ … ใจร้าย


   บรรยากาศในวงดูสดใสร่าเริงดูครับแต่ผมกลับไม่รู้สึกสงบด้วย กลับรู้สึกอึดอัดซะมากกว่า แต่ไหนแต่ไรแล้วที่ผมมักเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ เพราะนิสัยผมเป็นแบบนี้ละมั่งครับเลยทำให้ผมเลือกที่จะอยู่เงียบๆถามคำตอบคำมากกว่า ถึงได้รู้ว่าพวกของโอปอล์เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาลัยชื่อดังเมืองน่าน อายุเท่าๆกับผม พี่ใหญ่เลยเป็นคนที่อายุเยอะที่สุดในกลุ่ม ใครจะไปเหมือนพี่ใหญ่ละ หัวเราะต่อกระซิกกันอยู่นั้นละ เมื่อกี้ยังกอดผมอยู่แท้ ๆ เป็นแบบนี้ตลอดอ่ะ ใจดีกับคนอื่นแต่ชอบโหดใส่ผม


   “ปังเป็นอะไรหรือเปล่า” หลิวถามผมขึ้น


   “ปะเปล่าครับ ไก่มันเหนียว” ผมเงยหน้าจากจานโฟมขึ้นมาพูดเบาๆ กินไก่ชิ้นเดิมขึ้นมาฉีกกิน


   “ไม่อร่อยเหรอ”


   “อร่อยสิ” ผมหันไปตอบดิวอีกคน


   “อร่อยงั้นก็กินเยอะๆ เห็นเล็มแต่ผัก ไม่ยอมกิน” ดิวพูดพร้อมกับตักส้มตำมาใส่จานผมอีก ผมก้มหัวขอบคคุณนิดๆ


   “ขอตัวแปปนะ” เสียงพี่ใหญ่ดังขึ้น ก่อนจะลุกจากวงไป ผมมองตามแต่ไม่ได้เดินตามไปดูด้วย หันมาก้มหน้ากินส้มตำในจานต่อเงียบๆ


   “ปังกับพี่ใหญ่เป็นอะไรกันเหรอ”


พรึบ!


   “อ่ะ ขอโทษนะดิว เลอะหมดเลย” ผมที่ซุ่มซามเพราะไม่ทันตั้งตัวกับคำถามของนายสินที่พูดออกมาซะเฉยๆ จนส้มตำทั้งจานหล่นคว่ำลงบนขากางเกงของดิวเต็มไปหมด


   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปล้างเอง”


   “ดะ เดี๋ยวปังไปช่วยล่างไหม”


   “เอาสิ” ผมลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับดิวก่อนจะพากันออกมาที่ก๊อกน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลนัก


   “ผมขอโทษนะ เลอะเทอะหมดเลย”


   “แค่นี้เอง” ดิวหัวเราะและพูดขึ้นเบาๆ เขานิสัยเหมือนพี่ใหญ่จัง ไม่ค่อยพูดอะไรสีหน้าชอบเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา


   “งั้นยืนนิ่งๆนะ เดี๋ยวผมล้างให้” ผมว่าและก้มลงไปนั่งยองๆจะล้างขากางเกงที่เปื้อนให้ดิวเขาชะงักนิดๆเตรียมจะร้องห้าม แต่ไม่ทันมือหนาก็จับแขนให้ผมลุกขึ้นยืน … ไม่ครับ ไม่ใช่ของดิวแต่เป็นของพี่ใหญ่


   “ทำอะไร ?”


   “…” ผมไม่ตอบแต่ถอยหลังหนี แรงบีบที่แขนทำให้ผมเจ็บ พี่ใหญ่กำลังโมโห


   “กูถามว่าทำอะไรกัน” เขาหันไปถามรอดลายฟันกับดิว


   “พี่ใหญ่ฟังปังก่อนคือปังทำน้ำส้มตำตกใส่ดิว แล้วปังก็แค่จะล้างให้”


   “ต้องก้มไปล้างให้มันเยอะไปหรือเปล่า และทำไมต้องมายืนอี๊อ๋อกันขนาดนี้” พี่ใหญ่พูดสวนผมขึ้นอย่างหงุดหงิด เพิ่มแรงบีบที่แขนและจ้องไปที่ดิวเหมือนพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาตลอดเวลา … อย่ามีเรื่องกันเพราะเรื่องแค่นี้ได้ไหม !


   “แล้วคุณกับปังเป็นอะไรกันละผมสองคนถึงจะไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ ถ้าแค่เพื่อนก็ไม่น่าจะห่วงขนาดนี้”


   “ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องพูดกับคนที่เพิ่งรู้จัก แต่ถ้ามึงอยากรู้มากนัก กูเป็นผัวของมัน ชัดเจนไหม ถ้ารู้เรื่องแล้วก็เลิกยุ่งกับมันสักที ถ้ายังอยากที่จะอยู่กันสงบสุขอ่ะนะ” ผมก้มหน้านิ่งสะดุ้งเป็นพักๆกับคำพูดพี่ใหญ่ … ฮืออออออออออออออออ


   “เอ่อ มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” บรรยากาศ มาคุถูกทำลายลงเพราะสินที่วิ่งเข้ามาดูพวกเราในขณะที่ทั้งวงก็นั่งมองเราสามคนอยู่


   “ขอตัว” พี่ใหญ่พูดและดึงผมออกมาจากตรงนั้นกลับมาที่เต้นท์ของเราทันทีไม่ทันได้บอกลาใครเลย …


   “เก็บของ” เขาสะบัดข้อมือที่กุมผมแน่นที่หน้าเต้นท์


   ผมยืนทำอะไรไม่ถูกมองพี่ใหญ่ที่คลานเข้าไปในเต้นท์ สักพักเขาก็ออกมาเลิกคิ้วมองผมที่ยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ ผมไม่อยากกลับนี้ ผมยังอยากเที่ยว นานๆทีผมกับพี่ใหญ่จะมาเที่ยวกันสักที … ทำไมบรรยากาศต้องเป็นอย่างงี้ด้วย


   “ผมยังไม่อยากกลับ”


   “กลับอะไร”


   “ผมไม่อยากกลับบ้าน  อยากเที่ยวก่อน นานๆทีเราจะได้เที่ยวด้วยกัน”


   อยู่ๆน้ำตาก็ไหลจนผมต้องเช็ดออกโดยเร็ว ไม่อยากให้พี่ใหญ่หงุดหงิดไปมากกว่านี้ตะแต่ อากาศตอนกลางคืนต้องดีมากๆ พี่ใหญ่เป็นคนชอบภูเขา ผมก็เหมือนกัน ละ แล้ว จะกลับตอนนี้มันน่าเสียดาย ฮึก


   “ไร้สาระ จะร้องไห้ทำไมวะ” เค้าพูดกอดจะจับหัวผมเข้าไปซบที่ไหล่แกร่ง ผมคว้าเอวเขาทันที


   “ก็ผมไม่อยากกลับนี้ แล้วเรื่องดิวก็ไม่มีอะไรด้วย พี่กับโอปอล์นั้นแหละที่มี ฮึก”


   “อะไร?” เขาดันหัวผมออก


   “ก็พี่นั้นแหละ ชอบเค้าใช่ไหมละ เห็นคุยกันถูกคอนี้”


   “พูดอะไรของมึง”


   “แล้วทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย!” ผมตะโกนออกมานิดๆ กะ ก็เขารังแกผมอ่ะ พูดเพราะๆสิ ทำไมต้องพูดกูมึงด้วย เกิดในสมัยพ่อขุนรามหรือไง! 


   “ขอโทษ … พี่กับโอปอล์ก็ไม่มีอะไร เมียนั่งอยู่ตรงนั้นใครจะกล้าวะ เห็นพี่แบบนี้พี่ก็รักเมียนะ”


   “ฮึก กะ ก็ …” น้ำตาแหมะใหญ่ไหลหลากออกมาอีก คนบ้า! เขินนะ


   “เออๆ เลิกร้องได้ละยิ่งพูดยิ่งร้องเป็นเด็กหรือไง เก็บของและไปน้ำตกกัน” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนกางเกงในเต้นท์ให้เป็นแบบที่สบายๆกว่านี้ แสบจมูกหมดเลย ทำไมต้องแกล้งกันด้วย


   “พวกนั้นไปน้ำตกสะปันใช่ไหม ?”


   “ฮะ” ผมพยักหน้าระหว่างที่รถยนต์ที่จอดเอาไว้ ตอนแรกจะเดินไปแต่พอศึกษาเส้นทางจากเจ้าหน้าที่แล้วผมว่านั่งรถเถอะก่อนที่ผมจะหมดแรง


   “งั้นเราไปน้ำตกห้วยห้ากัน ไกลหน่อยแต่ปลอดภัย”


   “ปลอดภัย ?”


   “ก็ปลอดภัยจากไอ้เด็กห่านั้นแหละ”


   “ขี้หึง นั้นเพื่อนใหม่ปังนะ” ผมงอแง


   “หึ ไม่หึงเลยสินะ” เขาหยิกจมูกผมอย่างหมั่นไส้ หึ ใครหึง ไม่ได้หึงนะแค่ไม่ชอบ


   “ลำพังคนอื่นถ้าเข้ามาดีๆนี้ไม่เคยว่าหรอกนะ แต่เห็นเงาก็รู้ว่าเสป็กเหมือนกู สาด จะแย่งหมูกูแดกฝันไปเถอะ” พี่ใหญ่บ่นอะไรไม่รู้ง๊องแง๊งๆ มือก็ขับรถไปเรื่อยๆ ผมหัวเราะออกมาเพราะพี่ใหญ่พูดจาตลก


   “แล้วงี้ปังจะมีเพื่อนผู้ชายได้ยังไง”


   “ก็ไม่ต้องมี”


   “แต่ปังเป็นผู้ชายนะ”


   “หึ งั้นนายเป็นผู้หญิงซะ”


   “บ้าเหรอ พี่นั้นแหละดึงดูดผู้หญิงจัง”


   “ถ้าฉันไม่เอาใครจะบังคับ ? มีหมูอยู่หนึ่งตัวแล้วจะไปหาแรดมาเพิ่มอีกทำไม”


   “ว่าผู้หญิงอย่างงั้นไม่ได้นะพี่ใหญ่”


   “เอานมถูขนาดนั้นจะให้เรียกว่าอะไร กระต่าย ?” ผมเผลอหัวเราะออกมา


   จริงครับโอปอล์เอาหน้าอกถูแขนพี่ใหญ่อย่างสนิทสนมเลย ผมเห็นแล้วแต่พยายามไม่ทำอะไร คิดนะ แต่ไม่อยากทำให้ตัวเองและพี่ใหญ่มีปัญหากลัวว่าจะถูกมองประหลาด คิก ผมก็มีเสืออยู่ตัวนึงแล้วเหมือนกัน โหดด้วยไม่เอาใครมาทำให้เสือกัดผมหรอก       



   “สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


   น้ำตกห้วยห้า ! น้ำตกที่สวยที่สุดในโลกที่ผมเคยเจอ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ น้ำใสเห็นตัวปลา อากาศบริสุทธิ์ แถมคนไม่เยอะด้วย แบ่งเป็นห้าชั้น แต่เจ้าหน้าที่บอกชั้นที่ 3 นั้นสวยงามที่สุด ผมเลยให้พี่ใหญ่พาผมไปชั้นที่ 3 แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย น้ำตกไหลแรงสุดๆ แอ่งน้ำที่สำหรับเล่นดูเย็นสบายล้อมรอบด้วยพืชไม้นานาพันธ์น้อยใหญ่ดูเป็นธรรมชาติโอโซนที่แท้จริง ถ้าผมได้ผมกรี๊ดไปแล้ววววววววววววววววววววววววว!!!!


   “ลงมาสิ” ผมยิ้มเขินๆเมื่อพี่ใหญ่ลงไปอยู่บนน้ำและยื่นมือกลับมาให้ผมจับ


   “แม๊นแมน อ๊ะ!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อกำลังเดินไปหาพี่ใหญ่แต่กลับลื่นหินจนถลาเข้าไปกอดพี่ใหญ่เอาไว้แน่น ฮืออออออออออออ สะเทือนใจ นึกว่าหัวจะพาดซะแล้ว


   “หึหึ อ่อย ?”


   “บะ บ้า” ว่าเขาเบาๆก่อนจะผละออกจากอกแกร่งและเดินไปที่กลางลานน้ำตก อ๊า น้ำเย็นชื้นใจปังปังจริงๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ป่ากับน้ำใสๆ โชคดีที่ชั้นนี้ไม่มีคนเลยนะ คิกๆ น้ำตกของปัง!


   ผมเล่นน้ำกับพี่ใหญ่สักพัก ก็มานอนให้น้ำไหลผ่านตัวไปอย่างสบายอารมณ์โดยจับมือพี่ใหญ่ที่นั่งอยู่บนโขดหินเอาไว้แน่น อย่าปล่อยปังนะถ้าปล่อยปังไปอาจจะไหลตกน้ำตกไปเลยก็ได้ … แต่ผมเชื่อว่าพี่ใหญ่ไม่ปล่อยผมหรอก เพราะเค้าเป็นเสือร้ายที่ชอบแกล้งหมูไงละ


   “อ่ะ! พี่ใหญ่เม่น!!!!!!” ด้วยความที่ตื่นเต้นผมเลยเผลอตะโกนออกมาเสียงดังทำให้เจ้าตัวนั้นวิ่งลุ่นๆเข้าป่าไป … เม่น ๆๆๆๆๆๆ เม่นป่า!!!


   “เม่นอะไรออกมาตอนนี้” ผมลุกขึ้นไปยืนหน้างออยู่ข้างๆพี่ใหญ่และพยายามอธิบายลักษณะของเม้นที่ผมเจอให้ฟัง


   “มันขนแหล่มตัวเท่าแมว ถ้าไม่ใช่เม่นแล้วจะตัวอะไร ปังเห็นจริงๆ”


   “เออเม่นก็เม่น หึหึ น่ารัก”


   “เม่นหรอครับ”


   “มึงนี้แหละ” พะ พูดจาไม่เพราะ ผมก้มหน้าซ่อนเขินก่อนจะหันไปหอมแก้มเขาโดยเร็วและทำท่าจะเดินหนี แต่ก็ถูกดึงคอเสื้อเอาไว้


ผุบ


   “หนีหรอไอ้หมู บังอาจนะเดี๋ยวนี้ ได้ทีแล้วคึกใหญ่” เขากระซิบก่อนจะหอมซอกคอผมเบาๆ จะ จั๊กกะจี้อ่ะ


   “ปังทำไม่ได้เหรอครับ” ผมถามเศร้า ๆ … จะไปเศร้าอะไรละครับผมล้อเล่น หยอกพี่ใหญ่ไปงั้น


   “ได้ทุกอย่างนั้นแหละ” มือแกร่งของเขาค่อยๆหันผมไปเผชิญหน้าก่อนจะก้มลงมาจูบที่แก้มผมทั้งสองข้างอย่างหนักหน่วง … ขะเขิน …


   “แต่ตอนนี้ขอชิมหมูแดงหน่อยนะครับ” ผมยิ้มและพยักหน้าเบาๆ และก็ต้องตกใจเมื่อเขาจับหลังศีรษะของผมให้อยู่นิ่งและก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากชื้นของผม มืออีกข้างก็โอบเอวผมเอาไว้ ลิ้นร้อนๆค่อยๆไล่ต้อนผมช้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบที่เร้าร้อนและรุนแรงในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา


   “อื้อพะ พี่ใหญ่” อดร้องท้วงขึ้นไม่ได้จริงๆครับก็ตอนนี้มือปลาไหลของเสือหื่นเริ่มถกเสื้อของผมขึ้นและชอนไชเข้าไปลูบหลังของผมเบาๆ  เขาไม่ปล่อยให้ผมประท้วงอีกเลื่อนริมฝีปากจากซอกคอขึ้นมาจูบปิดปากผมไว้อีกรอบ


   “อื้อ!” เสือหื่นเริ่มบีบสะโพกผมล๊าวววววววว! แกะออกไปเล่นเลยไหมถ้าจะบีบขนาดนี้ ฮืออออออออ


   “พะพี่ใหญ่ ดะ เดี๋ยวครับ ผะ ผมอยากเล่นน้ำอ่ะ”


   “หึหึ ก็ได้” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะขย่ำก้นผมอีกทีถึงปล่อยผมที่หน้าร้อนฉ่าไปหมดให้เป็นอิสระ และก็ต้องหลบตาวูบเมื่อตาเจ้ากรรมดันไปเห็นน้องเสือน้อยของพี่ใหญ่ปูดออกมาจากกางเกงนิดๆ … หะ หื่นเกินไปไหมเนี้ย !


   “อย่างน้อยก็ช่วยกันหน่อยไม่ได้เหรอครับ” เขากระซิบที่ริมหูของผมมือทั้งสองข้างกอดเอวผมไว้หลวมๆ จมูกซอกไซไปตามลำคอจนผมจั๊กกะจี้


   “ไม่ครับ เห็นไหมมันที่แจ้งเป็นที่สาธารณะ อย่าน้องก็ให้เกียรติสถานที่เขาหน่อยนะครับ” ผมพูดเสียงดุนิดๆ จริงๆผมเขินมากเท่านั้นเอง เขาหัวเราะก่อนจะแนบปากลงมาจุ๊บผมอีกรอบโดยไม่ล่วงเกินอะไรปล่อยให้ผมได้เล่นน้ำตามเดิม


   ผมและพี่ใหญ่เล่นน้ำจนบ่ายแก่ๆ จึงพากันไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำรวมก่อนจะเดินทางกลับจุดกางเต้นท์ในเวลา 4 โมงเย็น ผมก็สังเกตเห็นว่าพวกของดิวยังไม่กลับมา พี่ใหญ่จึงชวนผมหั่นหมูหั่นผักจุดไฟถ่านที่เจ้าหน้าที่เตรียมเอาไว้ให้แล้ว กว่าจะจุดได้นี้แทบตาย ดีนะที่พี่ใหญ่เอาเหล้าที่อยู่ในรถมาสาดทีเดียวไฟติดพรึบเลย … วิชาลูกเสือพี่ใหญ่ใช้เหล้าด้วยหรือเปล่าเนี้ย …


   จนเสร็จสรรพพร้อมจะปิ้งกันในเวลา 5 โมงเย็นเป็นเวลาช่วงที่ฟ้าเริ่มคลายเป็นสีส้มอ่อนๆ อากาศเริ่มเย็นขึ้นมาอีก ผมจึงนั่งห่อตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนามองพี่ใหญ่ที่กำลังตั้งกระทะบนไฟที่กำลังแรงได้ที่ มีบางทีที่ครอบครัวเต้นท์อื่นเดินมาคุยมาถามบ้างทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเพราะที่นี้มีแต่คนที่จิตใจดีสุด ๆ


   “เอ่อ … ขะ ขอโทษค่ะ”


   “อ้าวหลิว” ผมพูดทักขึ้นเมื่อเห็นหลิวมาทำท่ายงโย่ยงหยกมองผมสองคนอยู่ด้านหลังของพี่ใหญ่ที่นั่งหันหลังอยู่


   “คืองี้นะคะ พวกเรา เอ่อ … มึงออกมานี้ไอ้2 ตัวดี” หลิวพูดพร้อมกับหันไปกระชากดิวกับโอปอล์ออกมาจากหลังเต้นท์ของผมที่บังอยู่และก็ตามออกมาด้วยสินและฟรังก์ที่ยืนเกาหัวแกรกๆยิ้มแหยะๆมาให้ผมและพี่ใหญ่


   “ขอโทษเขา 2 คนซะ พวกมึงนี้นะ” หลิวพูดเสียงดังนิดๆ โอปอล์เงยหน้ามองผมกับพี่ใหญ่สลับกันก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ


   “ปอขอโทษ คือปอ … ปอคิดว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ปอเลย … ขอโทษนะคะ”


   “ไม่เป็นไรครับ แต่ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ น้องยังเด็กและเป็นผู้หญิงด้วย มันดูไม่งาม ถึงสมัยนี้ผู้หญิงและผู้ชายจะเท่าเทียมกัน แต่เราก็ยังเป็นผู้หญิงคนที่เสียหายคือเราไม่ใช่เขา พี่เตือนด้วยความหวังดีและพี่ก็ไม่ได้โกรธอะไร”พี่ใหญ่พูดพร้อมกับยิ้มออกมานิดๆ โอปอล์สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พยักหน้ารับปากกับพี่ใหญ่ ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาขอร้อง


   “ผมก็ไม่ได้โกรธ” ผมว่าก่อนจะยิ้มออกมา … แต่ถ้าเอาหน้าอกมาถูพี่ใหญ่อีกที ผมเอาหมูยัดปากนะ ฮึ!


   “มึงละไอ้ดิว”


   “พี่ใหญ่!” ผมเอ็ดพี่ใหญ่ออกมานิดๆ ไปเรียกเขาแบบนั้นได้ยังไง พี่ใหญ่ไม่สนใจยืนขึ้นเต็มสัดส่วนทำให้เขาสูงกว่าดิวอีก ก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ ผมรีบลุกขึ้นไปยืนตรงกลางทันทีส่วนคนอื่นก็พอกันมาอยู่ด้านหลังผม


   “พี่ใหญ่นี้เวลาโมโหน่ากลัวนะครับ” ฟรังก์พูดขึ้นเบาๆ ผมละอยากพยักหน้าตอบแต่ไม่ใช่เวลาที่มาคุแบบนี้


   “ผมชอบปัง” ฉิบ…หาย …. ดิว!!!! ทำไมพูดแบบนั้น


   “เฮ้ย! มึง เดี๋ยวพี่เค้าก็ต่อยมึงหรอก” นายสินพูดออกมา


   “ผมชอบเขา แต่ผมไม่ได้คิดจะแย่ง พี่มองหน้าแฟนพี่ดิ ตาคมออกหวานจมูกโด่ง ริมฝีปากสีชมพู ดัดฟันอีก ผิวขาวด้วย แล้วไหนจะหุ่นที่ไม่ผอมไม่อ้วนแบบนั้นอีก เป็นใครใครจะไม่ชอบวะพี่ กระตุ้นต่อมหื่นฉิบขนาดนั้น” ดิวชี้มาที่ผม อะ … เอ่อ นั้นผมหรือ


   “ของกู!” พี่ใหญ่ตะคอกทำเอาผมสะดุ้งกันเป็นแถว


   “ผมรู้ว่าของพี่ก็ผมบอกแล้วผมแค่ชอบ แต่ไม่คิดจะแย่งไง”


   “ปวดหัวโว้ย มึงจะไปไหนก็ไปไป๊!!!!” พี่ใหญ่พูดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินมานั่งดูเตาที่เริ่มเดือดแล้วอย่างหงุดหงิด


พรึบ!


   “ผมจะกินหมูกระทะ” ดิวที่นั่งลงไปแล้วพูดขึ้น ทำเอาทุกคนค้างนิ่งสงัด … เอ่อ คือ… กวนตีนใช่ไหมดิว


   “สัด มึงนี้แม่ง” พี่ใหญ่บ่นเบาๆ ก่อนจะหันไปเอาหมูที่หมักอยู่ในหม้อลงปิ้งด้วยอารมณ์กรุ่นๆ


   “เอ่อ … แหะๆ ทุกคนมากินหมูกระทะกันนะ” ผมเอ่ยชวนทุกคนก่อนที่จะนั่งลงข้างๆพี่ใหญ่


   หลังจากนั้นวงหมูกระทะของเราก็มีสมาชิกเหมือนเมื่อตอนกลางวันซึ่งฝั่งของดิวเองก็เอาของสดที่มีมาร่วมกระทะด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างครื้นเครง ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก มีแค่พี่ใหญ่ที่ทำท่าจะฮึมๆใส่ดิว เราคุยกันถูกคอมากขึ้นเพราะปอเองก็ไม่ทำท่าที่เบี่ยงไปทางชู้สาวกับพี่ใหญ่แล้ว  ผมจึงสบายใจขึ้น ตกดึกประมาน 3 ทุ่มพวกเขาก็กลับที่พักไปและนัดกันไว้ว่าช่วงเช้าจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ที่ช่องเขาด้วยกัน เพราะอากาศที่เริ่มหนาวหนักขึ้นเรื่อยๆผมกับพี่ใหญ่เดินเล่นตามลำธารกันสักพักก็ชวนกันเข้าเต้นท์เหมือนกัน   


   “ในเต้นท์นี้อุ่นนะครับพี่ใหญ่” ผมมองเพดานเต้นท์และหันไปบอกกับพี่ใหญ่ที่นอนอยู่ข้างๆ เขาหัวเราะนิดๆก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง 


   “งั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ” ผมพูดและหันหน้าเข้าหาเข้า หลังจะซุกกายและหลับไปในคืนนี้ เขาเองก็สอดแขนแกร่งเข้ามาให้ผมหนุนก่อนจะหอมหน้าผากผมหนึ่งทีกอดผมเอาไว้เหมือนในทุกๆคืน


.


.


.



NC ไม่ไหวโปรดมองข้าม




   “อื้อ พะ พี่ใหญ่”


   ร่างอวบของปังบิดไปมาใต้ร่างแกร่งที่อยู่ด้านบน เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นหลังจากหลับไปได้สักพักเพราะสัมผัสเปียกชื้นที่หน้าท้องของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวเสื้อผ้าทั้งหมดของปังก็ถูกปลดพันธนาการออกแล้วหมดสิ้น เสือร้ายในยามนี้หิวโหยจนกว่าจะเอาอะไรมาฉุดรั้งไว้ได้ เสียงลำธารดังคลอขึ้นไปกับเสียงครางน้อยๆในลำคอของปังปัง


   “อะ ฮะ อื้อ ผะ ผม”


   เสียงขาดห้วนของปังปังถูกปิดด้วยริมฝีปากหนาที่ซุกซนและซอกซอนในโผล่งปากอุ่นหอมหวานของเจ้าหมูน้อยที่กำลังจะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของเสือหิว มือหนาไล่ละไปตามร่างกายขาวโพนอวบอั้นเต็มไม้เต็มมือของเจ้าปังในความมืดของพงไพร ก่อนจะดูดซับไปตามต้นคอปลุกอารมณ์ให้กับเจ้าปังที่นอนทรมานไปด้วยความเสี่ยวซ่านไปทั้งร่างกาย


   “ทำให้พี่หน่อยนะครับ”


   เสียงแหบพร่านกระซิบก่อนจะพลิกตัวให้ปังขึ้นไปอยู่ด้านบน ใบหน้าหวานแดงซ่านด้วยความเขินอาย ก่อนจะก้มลงที่ริมฝีปากหนาไล่ละไปตามลำคอแกร่งเสียงครางทรงเสน่ห์ทำให้เจ้าปังได้ใจจูบไล่ไปตามหน้าปกเปลือยเปล่าสีแทนเนียนแข็งไปด้วยกล้ามเนื้อที่แสดงถึงการชอบออกกำลังกายของร่างสูง ริมฝีปากน้อยๆไล่มาจนถึงลอนที่ท้องแกร่ง จนพี่ใหญ่กระตุกนิดๆก่อนที่เจ้าปังจอมซุกซนจะล่นตัวจนลงไปถึงแก่นกายที่ในตอนนี้ขึงขังใหญ่โตจนน่ากลัว มือสั่นน้อยๆบรรจงจับท่อนแกนนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ และค่อยๆทำตามที่พี่ใหญ่คอยสั่งสอนมาตลอด


   “อืม ดีครับที่รัก เก่งมาก”

มือแกร่งจับที่หัวทุยของเจ้าปังก่อนที่เจ้าปังจะค่อยๆผงกหัวขึ้นลงช้าๆ ตามที่มือของเขากำกับจากช้ากลายเป็นเร็ว เสียงครางแหบต่ำในลำคอแสดงถึงความพึงพอใจเป็นอย่างมาก และเมื่อริมฝีปากเล็กๆของปังละออกมาจากแกนกลางนั้นด้วยความเหนื่อยหอบ แขนแกร่งก็ดึงร่างอวบอั๋นขึ้นมาให้เสมอกันและจูบหยอกล้อกับริมฝีปากน้อยๆนั้นอย่างขี้เล่น


   “ขอบคุณครับปังของพี่”


   ร่างแกร่งพลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบนก่อนจะบรรจงจูบที่ขมับอันเต็มไปด้วยเหงื่อ และทำแบบเดียวกับที่เจ้าปังทำให้เมื่อกี้ แขนแกร่งยกขาของปังขึ้นมาแนบสีข้างเอาไว้ ก่อนจะล่นตัวลงไปด้านล่างในขณะที่เจ้าปังกำลังเคลิบเคลิ้มกับการเล้าโลมที่แสน
อ่อนโยน    



   “อ่ะ พี่ใหญ่ ฮึก มะ มันสกปรก ฮะ อ่ะ อื้อ”


   ลิ้นอุ่นๆหยอกล้อกับช่องทางด้านหลังของคนรักอย่างชำนาญจนเจ้าปังต้องหยิบเอาผ้าห่มมากัดเพื่อระงับเสียงครางที่กลังจะดังรอดไปให้ใครได้ยิน เมื่อพี่ใหญ่พอใจแล้วก็ยืดตัวขึ้นมาจูบเบาๆที่ริมฝีปากอวบอิ่มของปังๆ ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปใน
ช่องทางด้านหลังจนเจ้าปังสะดุ้งพรวด แต่ไม่มีโอกาสจะได้ท้วงติงเพราะพี่ใหญ่ไม่ปล่อยให้ริมฝีปากน่ารักๆนั้นออกห่างเขี้ยวเล็บแม้แต่น้อย


   “ผ่อนคลายนะครับ” เสียงกระซิบแหบพร่านนั้นทำให้ร่างอวบที่นอนอยู่ด้านใต้รู้ชะตากรรมดี เพราะบัดนี้พี่ใหญ่ได้ทำงานเบิกทางด้านหลังเอาไว้ด้วยนิ้วสากแล้วถึงสามนิ้ว


   “บะ เบาๆนะครับ”


   รู้ว่าไม่มีทางหลีกหนีได้แล้วการขอร้องจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ร่างหนาลุกผละออกจากร่างที่บิดไปมาอย่างเสียวซ่านก่อนจะเอื้อมตัวไปหยิบอุปกรณ์ช่วยต่างๆมาสวมใส่ สัมผัสเย็นๆถูกบรรจงป้ายไปถามด้านช่องทางหลังของเจ้าปังเพียงไม่นานก็ต้องสะดุ้งเมื่อความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่ากำลังสอดใส่เข้ามาด้วยความปรารถณาที่มากล้น


   “อ่ะ อืม ผมเจ็บ”


   “จะสุดแล้วครับทนอีกนิดนะ”


   “มะ มันลึกมาก ฮึก พะ พี่ใหญ่ อะ อ๊า!”


   แก่นกายใหญ่ถูกร่างแกร่งกระแทกเข้าไปจนสุดอย่างลืมตัว ทำให้เจ้าปังผวากอดบ่าแกร่งเอาไว้แน่น ริมฝีปากชื้นจูบซับไปตามแก้ม ซอกคอและบ่าลาดเนียนของเจ้าปังและจะวกกลับมาจูบเป็นการปลอบใจหมูน้อยของเขา


พรึบ


   สะโพกหนาเริ่มบรรจงเข้าออกอย่างฝืดเคือง เพราะถึงแม้จะมีตัวช่วยถูกตามหลังแล้วความแน่นและตอดรัดทำให้เขาขยับตัวลำบากไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ได้สัมผัสก็ตาม


   “ผ่อนคลายนะครับที่รัก” ร่างแกร่งกระซิบก่อนที่จะโฉยโอกาสที่เจ้าปังผ่อนลมหายใจทิ่มสวนเข้าไปอีกนิด เสียงร้องครางนั้นทำให้พี่ใหญ่ต้องรีบลงไปจูบเอาไว้แน่น ก่อนที่ใครจะเอาร่วมแบ่งปันเสียงหวานนี้กับเสือร้าย ทุกอย่างที่เกี่ยวกับปัง เขาคนนี้แสนห่วงแสนรัก ไม่เสียทั้งหมด


   “อื้อ ฮะ ฮะ อื้อ อ่า อะ อะ”


   เจ้าปังครางต่ำอย่างไม่เป็นคำเมื่อร่างแกร่งเริ่มขยับสะโพกจากช้าเป็นเร็ว และร้อนแรงขึ้นจนต้องใช้มือดันหน้าท้องแกร่งเอาไว้ทั้งสองข้าง แต่ก็ไม่ทำให้พี่ใหญ่เบาแรงลงเลยแม้แต่น้อย มือหนาจับขาทั้งสองข้างของปังปังฟาดบนบ่าและจับมือทั้งสองข้างกอดคอเขาเอาไว้แน่น  ก่อนจะเริ่มขยับอีกครั้ง


   “อ่ะ จะเจ็บ อื้ออ อื้อ อ่ะ”


   “ดีครับ อื้ม ปะ ปังของพี่”


   “อะ พะ พี่ใหญ่ ฮึก ปะปังจะเสร็จแล้ว อะ ปะ ปัง”


   “แปปเดียวครับ พี่จะเหมือนกัน อื้อ”


   “อ๊า อ่ะ อ่ะ อื้ออออออออออ” เสียงร้องในลำคอของปังดังขึ้นพร้อมกับความสุขที่ปล่อยออกมาพร้อมๆกัน เมื่อร่างแกร่งเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆอย่างพอใจและเริ่มเดินเครื่องแรงขึ้นต่อต้านกับความตอดที่เพิ่มขึ้น


   “เสร็จแล้วครับ อืมมม ” เสียงครางต่ำของพี่ใหญ่ทำให้เจ้าปังรีบผงกหัวขึ้นไปจูบอย่างแรง 


    หลังจากเสร็จกิจ พี่ใหญ่ก็โหมตัวกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้ลูบไล้ไปตามลำตัวอุ่นๆ ที่เต็มไปด้วยเหงื่อของสุดที่รักก่อนจะจูบไล้ละไปทั่วบริเวณซอกคอ


   “ขอบคุณครับที่รักพี่มีความสุขมากๆ”


   “พะ พอนะครับพี่ใหญ่เดี๋ยวพรุ่งนี้ปังไม่ไหว” เจ้าปังจับมือหนาที่กำลังเป็นปลาไหลรอบสองอยู่ ก่อนที่พี่ใหญ่จะหัวเราะออกมาและลุกขึ้นมาหยิบทิชชู่เปียกมาทำความสะอาดให้เจ้าปังและตัวเองเพราะดึกมากแล้วเค้าไม่อยากให้ปังออกไปด้านนอก ถึงจะอยู่ในอุทยานแต่ก็เป็นป่า อยู่ด้านในเต้นท์ยังคงปลอดภัยในระดับหนึ่ง


   หลังจากใส่เสื้อผ้าและเก็บเศษซากต่างๆลงถุงพลาสติกเรียบร้อยแล้ว เจ้าปังก็ที่หลับไปในทันทีที่พูดห้ามเขาก็พึมพำละเมออะไรออกมาไม่ได้ศัพษ์ ร่างหนามองคนรักอย่างเอ็นดู ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงคู่ ดึงเจ้าปังเข้ามากอดแนบอกเอาไว้อย่างห่วงแหน …


   “พี่จะทำให้ปังมีความสุข และมีทุกอย่าง พี่สัญญา” เสียงแหบพร่านพึมพำออกมาก่อนจะบรรจงจูบที่ขมับใสค่อยๆม่อยหลับไปตามคนรัก …





===========================

มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว  :katai5:

หวานๆ จบลงด้วย NC ป่วงๆ ฮ่าๆๆๆ เค้าเพิ่งหัดแต่ง NC นะคะ

เอาใจคนอยากให้พี่ใหญ่สมหวังเลยนะเนี้ย


ตอนหน้าปังปังจะจบแล้วนะคะ 50 ตอนพอดีเลย แล้วจะแจ้งตอนพิเศษ + เรื่องของพี่อลัน VS ปาล์มให้อีกทีนะคะ

เจอกันตอนหน้าคะ ตอนสุดท้ายของเรื่องหลักของปังปัง

ฝากเพจนะคะ

ห้องเก็บนิยาย pa_pa

 :bye2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-06-2016 00:31:51 โดย pa_pa »

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวานละมุนพี่ใหญ่โคตรน่ารักเลยอ่ะ โคตรถนอมปังปังเลย อิจฉาเลยเนี่ย

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รักเรื่องนึงเลยแหละในงานของคนเขียนน่ะ ถ้าเป็นไปได้อยากให้จัดทำเป็นเล่มจังเลย อยากอ่านอีกรอบนึงแต่ไม่อยากอ่านในเวปแล้วน่ะ  :กอด1: ยังไงขอให้ผู้เขียนพิจารณาให้ด้วยน่ะจ้ะ

ออฟไลน์ Dolamon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านไปยิ้มไป พี่ใหญ่กับน้องปังทำไมน่ารักอย่างนี้ 555555
 :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :-[ หวานกันจริงคู่นี้

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด