✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
“น้ำเหนือยังไม่ได้ตอบตกลงหรอก แต่น้ำเหนือคงไม่คิดที่จะปฏิเสธการมาอยู่บ้านหลังนี้ใช่ไหมจ๊ะ ทุกคนที่นี่ต้อนรับแล้วก็รอเราย้ายเข้ามากันทุกคนเลยนะ”อย่าถามเลยว่าตอนนี้สีหน้าของน้ำเหนือเป็นยังไงเพราะเจ้าตัวเองก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน อารมณ์ประมาณว่า... กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วยิ่งน้ำเหนือทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ ยิ้มๆ แบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางคุณหญิงแม่เขาละ
“วิรัชว่ายังไงถ้าน้ำเหนือจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหญ่นี้” คุณหญิงมรกตหันไปถามน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ
หมอวิรัชหันมามองหน้าน้ำเหนือแล้วก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ “ถ้าพูดอย่างเอาใจคนไข้ผมก็คงต้องแล้วแต่น้ำเหนือครับ”
น้ำเหนือได้แต่ยิ้มอย่างชอบใจ อย่างน้อยก็มีคุณหมอคนหนึ่งละที่พอจะเข้าข้างแล้วอาจจะช่วยพูดได้แต่ยิ้มได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อได้ยินประโยคถัดไปของคนเป็นหมอ “แต่ถ้าพูดถึงความเป็นจริงหมอคิดว่าน้ำเหนือย้ายเข้ามาที่บ้านนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ เพื่อความสะดวกสบายหลายๆ อย่างแล้วก็ความปลอดภัยด้วย”
คนที่กำลังจะโดนหว่านล้อมให้ตอบตกลงหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ อย่างขอความช่วยเหลือแบบไม่รู้ตัว ซึ่งควอตซ์เองก็มองมาอยู่พอดีพอเห็นสายตาที่เหมือนจะติดอ้อนปนขอร้องมานิดๆ เขาก็หันกลับไปมองคนเป็นแม่
“เดี๋ยวเรื่องนี้ค่อยคุยกันแล้วกันครับคุณแม่ น้าหมอทานข้าวกันก่อนดีกว่าครับ” ควอตซ์พูดซึ่งพอเจ้าตัวพูดแบบนั้นคนเป็นแม่ก็ยอมพยักหน้ารับก่อนที่จะเริ่มลงมือทานอาหารมื้อเย็น
“พี่น้ำเหนือทานเยอะๆ เลยนะคะ พิสไปหาข้อมูลมาเขาบอกว่าคนท้องต้องทานเยอะๆ จะได้แข็งแรงทั้งคุณแม่แล้วก็คุณลูก” ลาพิสหันมาหาน้ำเหนือพร้อมกับตักผัดผักมาใส่จานให้
“ขอบคุณนะครับคุณลาพิส”
“ไม่เอาไม่เรียกคุณสิคะพิสเคยบอกแล้วไง เรียกพิสว่าพิสเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยังไงพี่น้ำเหนือก็ต้องมาเป็นพี่สะใภ้ของพิสอยู่แล้วนี่คะ” หญิงสาวยิ้มกว้าง
“ยัยพิส...” ควอตซ์ส่งเสียงเรียกน้องสาวก่อนจะส่งสายตาดุๆ ไปให้เพราะเจ้าตัวกำลังจะทำให้น้ำเหนือรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอีกรอบ
ลาพิสได้แต่ยิ้มแหยแต่ก็ยอมหยุดพูดเรื่องพี่สะใภ้แต่โดยดีแล้วก็หันกลับไปสนใจกับอาหารตรงหน้าแทน พอบนโต๊ะอาหารหมดเรื่องคุยไปหนึ่งเรื่องคุณโทมัสก็ยกเรื่องอื่นขึ้นมาพูดแทน ท่านประธานบริษัทจิลเวล บริสตันก็หยิบยกเรื่องหัวข้องานขึ้นมาคุยกับลูกชายของตนแต่คุยไปได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนคุณหญิงของบ้านขัดเสียก่อน
“ทานข้าวก็อย่าเอาเรื่องงานมาคุยสิคะ เดี๋ยวก็พาลทำคนอื่นเครียดตามกันไปหมดหรอก”
“จ๊ะ” คุณโทมัสได้แต่รับคำสั้นๆ แล้วก็เป็นอันว่าหัวข้อเรื่องงานเป็นอันตกไป
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหัวข้ออื่นๆ ยกขึ้นมาพูดได้เรื่อยๆ พอไม่ให้บนโต๊ะนั้นเงียบเกินไปแต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเอาใจใส่สะใภ้ของตระกูลเสียมากกว่าไม่ว่าจะเป็นทั้งเมนูสารพัดประโยชน์หรือรวมไปถึงวิธีการดูแลตัวเองต่างๆ จากหมอวิรัช และนั่นก็ทำให้น้ำเหนือหายเกร็งไปได้เยอะเพราะความใจดีและความเป็นกันเองของทุกคนในตระกูลบริสตัน
หลังจากหมดของคาวขนมหวานก็ถูกยกมาวางตรงหน้าทุกคน ลอดช่องน้ำกะทิที่ใส่น้ำแข็งแบบเกร็ดหิมะดูน่าทานไม่น้อย แต่ไม่ใช่สำหรับน้ำเหนือในตอนนี้เพราะวันนี้ทั้งวันเขารู้สึกว่าทานเข้าไปเยอะมากแล้ว ไหนจะอาหารก่อนหน้าที่คุณหญิงขยันบอกให้ควอตซ์ตักใส่จานของเขา ตอนนี้เขาอิ่มมากจนไม่อยากจะตักอะไรใส่ปากอีกแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปฏิเสธตอนที่ป้ายุพินให้เด็กยกขนมไทยมาเสิร์ฟ
เลยได้นั่งมองลอดช่องน้ำกะทิในถ้วย ตักขึ้นชิมบ้างนิดหน่อยรสชาติอร่อยถูกปากแต่ทานไม่ลงแล้วจริงๆ
“ถ้าอิ่มก็ไม่ต้องกิน” เสียงทุ้มที่ดังอยู่ข้างๆ ดังขึ้นให้น้ำเหนือหันไปมองก็พบกบคนที่นั่งข้างๆ หันมามองอยู่ก่อนแล้ว “ฝืนกินไปเยอะๆ เดี๋ยวก็อาเจียนออกมาหมด”
“หือ... ไม่อร่อยเหรอลูก” คุณหญิงมรกตที่ผละจากการคุยกับคุณโทมัสแล้วก็หมอวิรัชหันมามอง
“เปล่าครับคุณหญิง” น้ำเหนือรีบเอ่ยปฏิเสธทันที
“น้ำเหนือทานไม่ไหวแล้วครับ ป้ายุพินครับขอน้ำผลไม้ให้น้ำเหนือแก้วหนึ่งนะครับส่วนถ้วยนี้ยกไปเก็บได้เลยครับ” ควอตซ์เป็นฝ่ายตอบคุณหญิงแล้วจึงหันไปหาป้ายุพินที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนนะน้ำเหนือเดี๋ยวอาเจียนออกมาหมด” คุณหญิงมรกตหันกลับมาพูดด้วย น้ำเหนือได้แต่ยิ้มรับแล้วยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นดื่มแทน
เมื่ออาหารมื้อเย็นจบลงทุกคนก็ย้ายเข้าไปในห้องนั่งเล่นแทน คุณโทมัสนั่งคุยกับควอตซ์อยู่ที่มุมหนึ่งของห้องเพราะมีเรื่องงานจะคุยด้วย ที่เหลืออีกสี่คนจึงนั่งคุยเล่นกันที่โซฟาหน้าทีวีโดยที่น้ำเหนือนั่งอยู่ข้างๆ คุณหญิง ลาพิสและหมอวิรัชนั่งที่โซฟาเดี่ยวกันคนละตัว
“ตอนนี้ยังแพ้ท้องหนักอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าน้ำเหนือ” คุณหมอวิรัชหันไปถามคนไข้ของตน “แล้วยาบำรุงหมดหรือยังนี่ใกล้ถึงวันไปตรวจกับหมอที่โรงพยาบาลอีกรอบแล้วนะอย่าลืมไปหล่ะ”
“ครับคุณหมอ” น้ำเหนือตอบรับ “ตอนเช้าๆ ก็ยังแพ้อยู่ตลอดครับเป็นเวลาเดียวกันทุกวันเลย ส่วนเวลาอื่นถ้าไม่เจอกลิ่นเหม็นๆ ก็ไม่ค่อยมีอาการเท่าไหร่ครับ”
“น้ำเหนือ... ฉันรู้นะว่าเราอาจจะยังไม่อยากที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเรากับตาควอตซ์ หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่น้ำเหนือรู้ใช่ไหมจ๊ะว่าฉันน่ะอยากให้เราย้ายเข้ามาอยู่” คุณหญิงมรกตเอื้อมมือมาจับมือของน้ำเหนือก่อนจะเริ่มพูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง “ต่อไปท้องของเราก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ ไปอยู่คนเดียวแบบนั้นมันอันตรายเกินไป ไม่มีคนอยู่ดูแลเพราะตาควอตซ์ก็คงอยู่ดูแลตลอดไม่ได้ แล้วอย่าบอกเลยว่าดูแลตัวเองได้เพราะเวลาท้องเราใหญ่ขึ้นจะลุกจะเดินจะนั่งจะยืนทุกอย่างมันลำบากไปหมดนะ”
“ครับ...” น้ำเหนือได้แต่รับคำเท่านั้นแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“จริงอย่างที่พี่หญิงว่านั่นแหละน้ำเหนือ อยู่คนเดียวอันตรายอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ มันอาจจะส่งผลใหญ่ต่อตัวน้ำเหนือแล้วก็ลูกในท้องได้นะ มาอยู่ที่นี่มีคนคอยดูแล หมอก็อยู่ใกล้ๆ เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยกันดูแลได้ทัน” หมอวิรัชพูด
“เราไม่ได้ตัวคนเดียวนะน้ำเหนือ เรายังมีเขาอยู่ในท้องอีกคนต้องระวังตัวแล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ เข้าใจที่ฉันกับหมอบอกใช่ไหม”
น้ำเหนือได้แต่นิ่งก่อนจะพยักหน้ารับในที่สุด เขาเข้าใจในสิ่งที่ทั้งคุณหญิงมรกตและหมอวิรัชพูด เขายอมรับว่าหลายๆ ครั้งเขาคิดและตัดสินใจตามแต่ใจตัวเองโดยลืมนึกไปว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้วแต่กำลังมีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเติบโตอยู่กับเขา
“น้ำเหนือไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไรหรอกรู้ไหมจ๊ะ พวกเราทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างก็รักแล้วก็เอ็นดูเรามาก ครั้งแรกที่เจอบอกตรงๆ เลยว่าฉันรู้สึกถูกชะตากับน้ำเหนือมาก” คุณหญิงมรกตพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าน้ำเหนือยังคงนิ่งเงียบ
“ใช่ค่ะพี่น้ำเหนือ ไม่ต้องกังวลเลยนะคะ”
เขารู้และรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ทุกๆ รักแล้วก็เอ็นดูเขา แต่กับ...
สายตาของน้ำเหนือเหลือบไปมองคนที่นั่งคุยอยู่กับคุณโทมัสอย่างไม่แน่ใจ และนั่นก็คงทำให้ทั้งคุณหญิงมรกตและหมอวิรัชเข้าใจ
“ตาควอตซ์นะ แม้จะดูเจ้าชู้ไปบ้างอารมณ์ร้อนโมโหร้ายแล้วก็เอาแต่ใจไปบ้าง แต่ควอตซ์เป็นคนที่จะไม่ยอมทำอะไรที่เป็นการฝืนใจตัวเองเด็ดขาดจ๊ะ ถ้าเจ้าตัวเขาบอกว่าไม่ ต่อให้ใครมีข้ออ้างหรือเหตุผลที่ดียังไงเขาก็ไม่คิดจะสนใจหรือทำมัน” คุณหญิงมรกตว่า “เราอยู่กับพี่เขามาทั้งอาทิตย์... พี่เขาก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียใช่ไหม ฉันไม่ได้ขอให้เราลืมหรือยกโทษหรอกแต่อยากจะให้มองไปในอนาคตมากกว่านะน้ำเหนือ”
ใช่... ควอตซ์ไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่คิดแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่หนึ่งอาทิตย์มานี้น้ำเหนือก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้แย่เหมือนกับครั้งแรกที่เจอ
“ผม... อยากทำเพื่อลูกแล้วก็เพื่อความสบายใจของทุกคน ผมขอบคุณคุณหญิงแล้วก็คุณหมอที่เอ็นดูแล้วก็มีพระคุณกับผม ผมไม่อยากเป็นภาระหรือสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้มีพระคุณของผม” น้ำเหนือพูด เจ้าตัวหันไปมองคุณหญิงมรกตที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มออกมา
“ผม... จะย้ายมาอยู่ที่นี่ครับ”“เย้! ดีจังค่ะ พิสจะได้มีเพื่อนคุยด้วยเพิ่มกับพี่ควอตซ์นะชอบเอาแต่ทำหน้านิ่งๆ คุยด้วยไม่สนุกเลย พี่น้ำเหนือมาอยู่ด้วยแบบนี้พิสดีใจสุดๆ เลยค่ะ” ลาพิสร้องออกมาอย่างดีใจ ส่วนคุณหญิงมรกตะและหมอวิรัชก็ทำเพียงแค่ยิ้มอย่างยินดีแล้วก็พอใจในคำตอบนั้น
น้ำเหนือส่งยิ้มให้ทั้งสามคน เขาไม่รู้หรอกว่าการตัดสินใจแบบนี้มันถูกหรือผิดมันจะเปลี่ยนอนาคตและความรู้สึกของเขาไหม สิ่งสำคัญที่ทำให้น้ำเหนือตอบตกลงก็คงเป็นเพราะลูกในท้องของเขา...
จากนี้ไปเขาจะนึกถึงเด็กคนนี้ให้มากกว่าเดิม
“ของครบหมดแล้วใช่ไหม” อชิตพลส่งเสียงถามคนที่ยืนมองคนงานที่บ้านของเขาช่วยกันขนข้าวของใส่รถ
“ครับ ครบหมดแล้วละครับของผมไม่เยอะเท่าไหร่” น้ำเหนือหันกลับมาตอบ
“อย่างนั้นเอากุญแจไปคืนเจ้าของหอเถอะจะได้เข้าไปที่บ้านคุณแม่ลุกขึ้นมาเตรียมต้อนรับเธอแต่เช้าแล้วละ”
น้ำเหนือพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปยังห้องดูแลของหอพักนี้เพื่อคืนกุญแจให้กับเจ้าของหอ หลังจากวันนั้นที่น้ำเหนือตอบตกลงจะเข้าไปอยู่ที่บ้านของบริสตันนี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้ว และวันนี้เป็นวันที่น้ำเหนือจะย้ายเข้าไปที่บ้านหลังนั้น
“น้ำเหนือ” เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้น้ำเหนือที่เดินกลับมาที่รถเงยหน้ามองก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่นับถือเหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆ กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงจากรถมาหาเขา
“พี่โอ๊ต” น้ำเหนือร้องเรียกอย่างดีใจพร้อมกับโผกอดพี่ชายเอาไว้ ไม่ได้เจอกันสักพักแล้วสำหรับพี่ชายคนนี้
“สวัสดีครับคุณอชิตพล” โอ๊ตหันมาทักทายเจ้านายของตนแล้วจึงหันกลับไปยกมือขึ้นยีผมคนที่พุ่งเข้ามากอดด้วยความคิดถึง
“คุณอชิตพล... ผมขอคุยกับพี่โอ๊ตแปบนึงนะครับ” น้ำเหนือหันมาบอกคนที่ยืนรออยู่ ซึ่งพออีกฝ่ายพนักหน้าก็ลากแขนโอ๊ตไปนั่งคุยที่โต๊ะหินอ่อนที่ตั้งอยู่หน้าหอพักทันที
“คิดถึงพี่โอ๊ต... งานยุ่งมากเลยใช่ไหมครับผมอยากกลับไปช่วยงาน”
“ก็ยุ่งนะแต่ทำยังไงได้ละเราไปทำที่ร้านไม่ได้นี่นา เห็นผู้จัดการบอกว่าเรากำลังออกแบบเครื่องประดับโปรเจ็คใหม่ของคุณอชิตพลอยู่สินะ”
น้ำเหนือพยักหน้ารับ “ใช่ครับ”
“ตั้งใจทำงานให้เต็มที่ละเข้าใจไหม ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยเอาไว้ถ้าพี่ว่างๆ จะแวะเข้าไปหาหรือไม่ก็นัดเจอกันดีไหม ช่วงนี้ใกล้จะมีงานเลี้ยงใหญ่งานเลยเข้ามาค่อนข้างเยอะพองานเลี้ยงไฮโซจบก็มีเวลาว่างแล้วละ” โอ๊ตยกมือไปยีผมน้ำเหนือเล่นอย่างที่ชอบทำ
“ครับผม ได้เลย แล้วนี่พี่โอ๊ตไปส่งผมด้วยไหม... เอาจริงๆ ผมก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่เลยที่ย้ายไปบ้านคุณอชิตพลแต่คุณหมอบอกว่าผมไปอยู่ที่นั่นจะดีกว่า”
“ดีแล้วละ ไปอยู่บ้านคุณเขาก็ทำตัวดีๆ รู้ไหมส่วนวันนี้พี่คงไม่ได้ไปเพราะต้องไปคุยกับลูกค้าต่อนี่แวะมาหาแล้วก็ซื้อหนังสือมาฝาก” โอ๊ตส่งถุงหนังสือที่ถือติดมือมาด้วยตลอดให้กับน้ำเหนือซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับไป
โอ๊ตคุยต่อได้อีกแค่แปบเดียวก็ต้องรีบไปพบลูกค้าต่อน้ำเหนือจึงได้แต่บอกลาทั้งๆ ที่ยังอยากคุยด้วยต่อ แต่อีกฝ่ายก็สัญญาว่าจะโทรหาแล้วก็จะนัดเจอบ่อยๆ ตอนนี้ทั้งน้ำเหนือและควอตซ์ต่างก็ขึ้นมาอยู่บนรถที่มุ่งหน้าไปยังบ้านของตระกูลบริสตันแล้วเรียบร้อย
และทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้านน้ำเหนือก็เห็นคนในบ้านต่างพากันออกมายืนรอรับรวมไปถึงคุณหญิงมรกตด้วยเช่นกัน
“สวัสดีครับคุณหญิง ป้ายุพิน” น้ำเหนือยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนซึ่งป้ายุพินก็ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
“จ๊ะ เข้าไปนั่งข้างในดีกว่าข้างนอกแดดแรงเดี๋ยวเป็นลมไป ส่วนของเดี๋ยวให้พวกเด็กๆ ยกขึ้นไปให้” คุณหญิงมรกตยิ้มก่อนจะเดินมาจับแขนน้ำเหนือแล้วพาเข้าไปในบ้านโดยมีควอตซ์เดินตามเข้าไป
“คุณแม่ครับเดี๋ยวผมเข้าไปที่บริษัทก่อนนะครับ” ควอตซ์หันมาหาคนเป็นแม่หลังจากรับเสื้อสูทมาจากสาวใช้ในบ้าน
“อ้าว... แล้วจะกลับมาทานกลางวันด้วยกันกับแม่กับน้องหรือเปล่าลูก”
ควอตซ์หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คนเป็นแม่ ดวงตากลมโตนั้นกำลังมองตรงมาที่เขาอยู่เช่นเดียวกัน “เดี๋ยวผมขอดูงานก่อนแล้วกันนะครับแล้วจะโทรมาบอก ผมไปก่อนนะครับ”
“แทนที่จะอยู่พักที่บ้านก่อนจะรีบไปทำงานทำไมก็ไม่รู้ลูกคนนี้” คุณหญิงบ่นพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“คุณอชิตพลคงมีงานด่วนละมั้งครับ” น้ำเหนือว่า และคำพูดนั้นก็ทำให้คุณหญิงหันมามองพร้อมขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจทำให้คนพูดถึงกับพูดไม่ถูกได้แต่ละล่ำละลักบอกต่อ “ผมหมายถึง... เอ่อ...”
“เมื่อกี้เราเรียกพี่เขาว่าอะไรนะ” คุณหญิงมรกตถาม
“ครับ... ค คุณอชิตพล”
คุณหญิงมรกตส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น “ก่อนอื่น... เรามาทำความเข้าใจกันใหม่ก่อนดีกว่านะจ๊ะ”
“ครับคุณหญิง? ทำความเข้าใจ... อะไรเหรอครับ” น้ำเหนือถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ
“นี่แหละสิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจ น้ำเหนือ... เราน่ะเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะลูกสะใภ้ของบริสตัส เมียของตาควอตซ์เพราะฉะนั้นสิ่งแรกเลยที่ต้องเปลี่ยนก็คือคำเรียก เรียกแม่ว่าแม่เหมือนที่ตาควอตซ์เรียก แล้วก็เลิกเรียกพี่เขาว่าคุณอชิตพลได้แล้ว เรียกพี่ควอตซ์แทนเข้าใจไหม”
น้ำเหนือได้แต่ยิ้มแหย “แต่... ผมไม่ชินนิครับ เรียกแบบเดิมไม่ได้เหรอครับ”
“มีใครเรียกแม่สามีตัวเองว่าคุณหญิงกันบ้างหือ”
“ผมกับคุณอชิตพลไม่ได้เป็น...” น้ำเหนือรีบพูดทันทีแต่ก็โดนคุณหญิงยกมือห้ามเสียก่อน
“เอาเป็นว่าต่อไปนี้ก็เรียกอย่างที่แม่บอกนะ เรียกบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเองนั่นแหละเรายังต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน” คุณหญิงมรกตพูดก่อนจะยิ้มให้น้ำเหนือ รอยยิ้มอย่างคนใจดีเหมือนกับที่น้ำเหนือเคยได้เห็นจากแม่ของตนเมื่อนานมาแล้ว
“ตอนนี้น้ำเหนือก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของแม่แล้วนะลูก”น้ำเหนือมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนบ่อน้ำตาตื้นแต่ไม่รู้ทำไมเพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของคุณหญิงมรกตน้ำตาก็เออคลอที่ดวงตากลมโตคู่นั้นก่อนจะค่อยๆ ไหลออกมาให้คนมองตกใจที่อยู่ๆ น้ำเหนือก็ร้องไห้
“ร้องไห้ทำไมหือ เป็นอะไรไปไหนบอกมาสิ”
“อึก... ผ ผมแค่ดีใจ... ท ที่คุณหญิงเอ็นดูผม ฮือ... ผมดีใจ...” น้ำเหนือพูดไปก็สะอื้นไปเหมือนกับเด็กๆ “น นานแล้วที่ อึก... ที่ผมไม่ได้รู้สึกถึงคำว่าครอบครัว ผมเลยดีใจ ดีใจมากๆ จนน้ำตามันไหลออกมา อึก... เอง”
คุณหญิงมรกตยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของน้ำเหนือก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าใสนั้นให้แล้วเลื่อนไปลูบกลุ่มผมนุ่มๆ นั้น “ไม่ต้องร้องนะไม่ต้องร้อง จากนี้ไปก็อยู่ด้วยกันนะน้ำเหนือ แม่จะเป็นแม่ให้เราเอง”
คนร้องไห้แต่ได้ยกมือไหว้พูดเสียงสั่นไม่หยุดว่าขอบคุณครับ ขอบคุณครับ คุณหญิงมรกตได้แต่นึกเอ็นดูกับท่าทางนั้นก่อนจะดึงคนที่อยู่ๆ ก็กลายเป็นเด็กขี้แยมากอดเอาไว้พร้อมกับลูบผมปลอบให้หยุดร้องไห้ไปด้วย
“ไม่ร้องแล้วเด็กดี เดี๋ยวเหนื่อยแล้วจะเป็นลมไปนะ”
“ค ครับ... ผม ผมไม่ร้องแล้วครับ” น้ำเหนือกลั้นสะอื้นผละตัวออกจากคุณหญิงแล้วยกมือขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อย
“ดีมากจ๊ะ อย่างนั้นเราไปนั่งเล่นในสวนกันดีไหม แม่ทำขนมไว้หลายอย่างเลยนะไม่รู้น้ำเหนือจะชอบหรือเปล่า” คุณหญิงมรกตเอ่ยชวน
“ครับ...
... คุณแม่”************************************************
สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน ขอให้ทุกคนที่อ่านนิยายของฟางมีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง มีแต่เรื่องดีๆ เข้ามานะคะ ปีนี้ฟางขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนอีกปีนะคะ อยู่เป็นกำลังใจให้ฟางแต่งนิยายไปเรื่อยๆ นะคะ ^^
น้องย้ายเข้าบ้านแล้ววววววว เฮ้ ดีใจในที่สุดก็เข้าบ้านแล้ว คุณหญิงน่ารัก... ดูเหมือนทุกคนจะหันไปรักคุณหญิงกันหมดแล้ว อิอิ ตอนหน้ารอดูน้องเรียกพี่ว่า “พี่ควอตซ์” นะคะ คงน่ารักน่าเอ็นดูอะ >< นึกเองแล้วเขินเอง แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย ฟิน ในหัวนี่มีฉากฟินๆ ของคู่นี้หลายฉากเลยค่ะจะค่อยๆ เอามาใส่นะคะ อดใจรอกันหน่อยเนอะ
อ๋อ... อีกเรื่องนะคะ คือ... ฟางไม่รู้ว่าแต่ละครั้งที่ลงมันสั้นไหม แต่สำหรับฟาง ฟางว่ามันก็ไม่สั้นนะ 1 ตอนความยาวนิยายเรื่องนี้ของฟางไม่ต่ำกว่า 17 หน้า 50% ก็เข้าไป 9 หน้าแล้ว มันไม่สั้นเลยนะคะ คือคนอ่านเวลาอ่านเลยอาจจะรู้สึกว่าสั้น แต่กว่าฟางจะแต่งได้นี่... ไม่ง่ายเลย ไม่เอาเนอะไม่บอกว่าสั้นนะ เห็นแล้วฟางใจไม่ดีค่ะรู้สึกเป็นกังวลจริงๆ ค่ะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ