วังสวาท
ตอนที่34
วันนี้ผมกับวินเราออกจากคอนโดแต่เช้าเพราะท่านหญิงเรียกให้เข้าไปหาที่วัง
“มากันแล้วเหรอคะ เชิญด้านในเลยคะ ท่านหญิงรออยู่”
พี่แตงออกมาต้อนรับผมกับวิน ผมยิ้มให้กับพี่แตงที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ผมกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยได้เจอพี่แตงเนื่องจากพี่แตงจะรับใช้ในวังซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยออกไปในครัว
ผมกับวินเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งมีท่านหญิงพจนีย์ คุณชายบวรพจน์ คุณชายบวรพัตร และคุณชายบวรพิธย์ ซึ่งคุณชายบวรพิธย์นั้นดูแลงานของบริษัทอยู่ที่อังกฤษนานๆจะกลับมาเมืองไทย แล้วก็ยังมีคุณหญิงนีรนุชเจ้าเดิมที่สะบัดหน้าใส่ผมตั้งแต่เดินเข้ามา และข้างๆคุณชายบวรพิธย์ก็ยังมีคุณหญิงดารกา ภรรยาของท่านมาด้วย
“อาชายเล็กมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
วินหันไปถามคุณชายบวรพิธย์ ขณะที่เราสองคนนั่งลงที่โซฟาที่ว่างอยู่
“อามาได้2วันแล้วละ”
คุณชายบวรพิธย์หันมาตอบวิน
“อาทิตย์กลับมาด้วยรึเปล่าครับ”
คำถามของวินทำเอาผมอดที่จะสนใจไม่ได้
“เปล่าหรอก ตาอาทิตย์ติดสอบนะ คงอีก3เดือนจะได้กลับมา”
ผมนั่งฟังเงียบๆ เป็นอย่างที่พี่อาทิตย์บอกจริงๆสินะ
“เอาละ ที่ฉันเรียกทุกคนมาในวันนี้ฉันจะมาพูดเรื่องของนีรนุช ที่เธอทำลงไปจนเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์”
ท่านหญิงพจนีย์พูดไม่ทันจบ คุณหญิงนีรนุชก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“แต่คุณแม่คะ”
“เงียบนีรนุช ฉันไม่ชอบให้ใครมาขัดเวลาที่ฉันยังพูดไม่จบ”
ท่านหญิงหันไปดุคุณหญิงนีรนุชจนต้องหุบปาก
“ฉันเลยมีเรื่องต้องคุยกับทุกคน นีรนุช เธอจะยอมหยุดยุ่งกับตาวินและเพชรไหม”
ท่านหญิงหันไปถามคาดคั้นคุณหญิงนีรนุช คุณหญิงหันมามองผมด้วยสายตาเกลียดชังแล้วตอบว่า
“ทำไมนุชต้องหยุดคะ ในเมื่อนังนี้ไม่มีอะไรเหมาะสมกับตาวินสักอย่าง”
“หยุดกิริยาต่ำๆของเธอซะนีรนุช”
“แต่คุณแม่คะ”
คุณหญิงนีรนุชยังไม่ยอมแพ้
“เธอจะไม่ยอมหยุดใช่ไหม ได้ งั้นเซ็นใบหย่ากับชายใหญ่ซะ แล้วหลังจากนี้ฉันจะดำเนินเรื่องทางกฎหมายกับเธอเองในคดีพยายามฆ่าเพชรเมื่อเดือนก่อน ฉันมีหลักฐาน ฉันมีพยานมากพอ”
ท่านหญิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ทำเอาคนในห้องตกตะลึงเพราะไม่ใครคิดว่าท่านหญิงจะทำแบบนี้
“นี้ใบหย่า เซ็นซะ”
ท่านหญิงโยนใบหย่าพร้อมปากกาไปข้างหน้าคุณหญิงนีรนุชทำเอาคุณหญิงนีรนุชหน้าซีดเผือดไปไม่เป็นทีเดียว
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าตอนนี้บ้านของเธอก็แทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว เอาสิ เธอจะหยุดรึเปล่า”
ท่านหญิงยังกดดันต่อเนื่อง
“คุณแม่อยากให้ตระกูลวาริชกานต์มีข่าวหย่าร้างเหรอคะ”
คุณหญิงนีรนุชยังกล้าเถียงต่อไป
“เธอยังกล้าพูดอีกนะนีรนุช ข่าวหย่าร้างสมัยนี้ปกติมาก ดีซะอีก ลูกชายฉันจะได้หลุดพ้นจากผู้หญิงอย่างเธอ”
“ผู้หญิงอย่างนุชมันทำไมเหรอคะ ไม่ใช่เพราะท่านหญิงเหรอคะที่อยากให้นุชแต่งงานนักแต่งงานหนา”
คุณหญิงนีรนุชยังเสียดสีอย่างไม่ยอมแพ้ ตอนนี้คุณชายบวรพจน์หันมามองคุณหญิงนีรนุชตาเขียวแล้ว
“ใช่เมื่อก่อนอาจจะเป็นอย่างนั้น ฉันเป็นคนเอาเธอเข้ามาอยู่ในวังนี้ได้ แต่เธออย่าลืม ฉันก็สามารถเอาเธออกจากวังนี้ไปได้เหมือนกัน”
ท่านหญิงพูดจบเดินเข้ามาหาคุณหญิงนีรนุชก่อนพูดต่อ
“ตอนแรกฉันกะว่าจะให้เธออยู่ที่นี้ต่อเพราะเห็นแก่หลานของฉัน แต่ตอนนี้ฉันชักจะอยากให้เธอออกไปพ้นๆจากวังฉันแล้วสิ เซ็นอย่าซะ”
“ไม่ นุชไม่เซ็น ถ้านุชยอมหยุด นุชก็ไม่ต้องเซ็นไม่ใช่เหรอคะ”
คุณหญิงนีรนุชเริ่มกลัว เพราะตอนนี้ท่านหญิงน่ากลัวมาก มายืนกดดันคุณหญิงนีรนุชเลย
“ได้ งั้นเธอพูดต่อหน้าทุกคนที่นี้สิว่าเธอจะไม่ไปยุ่งกับตาวินแล้วก็เพชรอีก ถ้าเธอยุ่งเธอจะยอมหย่าโดยไม่เอาสินสมรสสักบาท”
คุณหญิงเงียบไปพักใหญ่ แต่โดนสายตากดดันจากทุกคนเลยยอมพูด
“ก็ได้คะ ถ้านุชไปยุ่งกับตาวินและนัง เอ่อ เพชรอีก นุชจะยอมอย่าโดยไม่เอาสินสมรสสักบาท”
คุณหญิงนีรนุชพูดจบแล้วสะบัดหน้าหนีทันที ท่านหญิงเลยเดินไปกดอะไรสักอย่างที่โคมไฟ ผมเห็นเป็นกล้องวิดิโอ
“ฉันอัดคลิปคำพูดของเธอไว้แล้ว ถ้าเธอไม่ทำตามที่พูดละก็เจอกันในศาลแน่”
ท่านหญิงร้ายมาก ตลบหลังซะคุณหญิงนีรนุชอ้าปากค้างเลยทีเดียว
คุณหญิงนีรนุชหันมามองหน้าผมแล้วเดินออกจากห้องไปเลย ผมแอบยิ้มสะใจเล็กน้อย
“เอาละ ปัญหาทุกอย่างก็จบลงแล้ว วินไม่โกรธย่าใช่ไหมลูกที่ทำแบบนี้”
ท่านหญิงหันมาถามวิน ท่านคงกลัววินหนักใจเพราะนั้นก็แม่
“ไม่หรอกครับคุณย่า คุณแม่ต้องเจอแบบนี้บ้างครับ ทำผมกับเพชรไว้เยอะ”
คำพูดของวินทำเอาผมแอบยิ้ม
“งั้นเราไปทานอาหารที่ห้องอารหารกันเถอะ ตาชายเล็กกับแม่ดารกานานๆจะมาสักที แม่สั่งอาหารไว้ชุดใหญ่เลย”
ท่านหญิงหันมายิ้มกับทุกคน
“ไปด้วยกันสิเพชร เธอก็คือคนของตระกูลเราแล้วเหมือนกัน”
ท่านหญิงพูดจบผมยิ้มตอบท่าน แล้วยิ้มให้กับทุกคน
.............................................................................................
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยคงามสุข คุณหญิงนีรนุชไม่ลงมาทานแต่ให้จัดไปให้บนห้อง ซึ่งก็ดีแล้วเพราะถ้าลงมาบรรยากาศคงกร่อยแย่ ผมเพิ่งรู้เหมือนกันว่าคุณชายบวรพจน์แยกห้องนอนกับคุณหญิงนีรนุชมานานแล้ว ท่านชายบวรพิธย์เป็นคนคุยสนุกมากแล้วโดยเฉพาะคุณหญิงดารกาที่ไม่ถือตัวเลย อาจเพราะทั้งสองอยู่ที่ต่างประเทศเลยไม่ได้เจ้ายศเจ้าอย่างอะไร
“เพชรท้องกี่เดือนแล้วจ้ะ”
คุณหญิงดารกาหันมาถามผม
“6เดือนแล้วครับคุรหญิง”
“ตายแล้ว มาคุณยงคุณหญิงอะไรกัน ฉันก็คนธรรมดาเหมือนเธอนี้แหล่ะ เรียกอาดาก็ได้จ้ะ”
คุณดารกาหันมายิ้มกับผม ท่านเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งกายและใจจริงๆ
“ครับอาดา”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดำเนินไปเรื่อยๆ พอทานอาหารจนเสร็จ ไม่นานผมกับวินก็ขอตัวกลับเพราะผมง่วงเต็มที่แล้ว นอนกลางวันจนชิน จะนอนที่วังก็แปลกๆเลยกลับมานอนที่คอนโดดีกว่า
เมื่อถึงที่คอนโดผมก็ตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องนอนทันที ไม่นานนักวินก็เข้ามากอดผมจากด้านหลัง
“หลังจากนี้เราสองคนก็จะไม่มีใครมาวุ่นวายแล้วนะ”
ผมยิ้มให้กับคำพูดนั้นแล้วไม่ตอบอะไร ก่อนจะหลับตาลง
...
ตอนนี้ผมท้องได้8เดือนกว่าๆแล้ว ใกล้คลอดเต็มที รู้สึกท้องโตมากเลย แถมช่วงนี้เจ้าตัวเล็กยังขยันถีบท้องจริงๆ ยิ่งเวลาพ่อของเขาชวนคุยนะ ยิ่งถีบแรงขึ้น
“อีกไม่นานแล้วเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูก”
วินพูดพลางลูบท้องไปด้วย ทำเอาผมอดยิ้มไม่ได้
“วินนวดหลังให้หน่อยสิ ปวดมากเลย”
ช่วงนี้ผมปวดหลังขึ้นเรื่อยๆอาจเพราะต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าวินว่างก็จะมานวดให้ผม
“ได้ครับ”
วินมานั่งซ้อนหลังผมแล้วนวดหลังไปเรื่อยๆ ก็พอจะบรรเทาอาการเมื่อยได้บ้าง
“วินใกล้เรียนจบแล้ว ตอนนี้ก็ฝึกงานที่บริษัทอยู่ เหลือโปรเจ็คเทอมหน้าก็จบแล้วละ”
วินพูดถึงตัวเขาให้ฟัง ตอนนี้มหาลัยวินเปิดแล้ว เขาฝึกงานอยู่ เข่าวมาว่าทั้งพ่อเขาและคุณชายบวรพัตรแกล้งไม่น้อยทีเดียว สั่งตั้งแต่ชงกาแฟยันดูเอกสาร
“อาชายกลางชอบแกล้งวินให้ไปเอาเอกสาร ขนเอกสารอยู่ได้”
ผมอดยิ้มไม่ได้ที่วินบ่น
“อย่าบ่นไปเลย ทนๆไปเถอะ”
“ครับผม ทุกวันนี้ก็ทนเพื่อเพชร เพื่อลูกไง”
ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับคำพูดเขาเหมือนกัน น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน คนเราอยู่ด้วยกันทุกวัน เขาทำดีด้วย พูดหวานๆใส่ ไม่แปลกหรอกที่ผมจะหวั่นไหวไปกับวิน มันคงไม่ผิดหรอกมั้งที่จะหวั่นไหวไปกับพ่อของลูก
“ยิ้มเลย ยิ้มเลย ชอบเหรอที่วินพูดแบบนี้หน่ะ”
ยังมีหน้าหันมาแซวอีก
“จะเริ่มไม่ชอบเพราะแบบนี้แหล่ะ”
ผมแกล้งทำหน้าเข้มใส่
“โอเคๆ ไม่แกล้งละครับ”
พูดว่าไม่แกล้งแต่ยังทำหน้าทะเล้นไม่เลิก เดี๋ยวเถอะ
...
วันนี้วินออกไปมหาลัยแต่เช้า เห็นว่ามีธุระกับอาจารย์อาจจะกลับช้าหน่อย ผมเลยไม่ทำข้าวเย็นเพราะกับข้าวยังพอมีเหลืออยู่บ้าง ระหว่างที่ตักข้าวไปก็รู้สึกปวดท้องจี๊ดขึ้นมาทันที
“เพล้ง !”
ผมปล่อยจานข้าวให้ตกลงไปเพราะไม่ไหวจริงๆเจ็บมาก พยายามประคองตัวเองไปที่โซฟาหันไปดูระหว่างขาน้ำคล่ำแตกแล้ว ใกล้จะคลอดแล้ว ผมพยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาวิน
“ตื๊ด ตื๊ด”
“มีอะไรเปล่าเพชร”
“ฉันจะคลอดแล้ว”
______________________________________________________
หนูเพชรจะคลอดแล้วนะ อิอิ คุณหญิงแกยอมรามือแล้วนะไม่ต้องกลัวว่าแกจะรีเทิร์น ฮ่าๆ คนเราพอถึงจุดๆนึงก็ยอมหยุด
แกก็ไม่ได้โรคจิตขนาดที่จะเอาสะใจอย่างเดียว แกคงไม่ยอมเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปแลกกับความสะใจอย่างเดียวหรอก
วินเพชรเหมือนจะหวาน เหมือนจะดีขึ้นแล้ว แต่อย่าลืมสิเพชรคลอดแล้ว ใครจะกลับมา
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นครับ
ปล. คนเขียนเรียนคณะวิทยาศาสตร์เด้อ