เพื่อนร่วมงานแบบสุดท้าย
คุณหนูของเบลเป็นคนน่ารักมากที่สุด ทุกครั้งที่ได้มองก็ทำให้มีความสุขและทำให้ยิ้มได้เสมอ
อยู่ด้วยกันมาพักใหญ่แล้ว ไป ๆ มา ๆ ระหว่างคอนโดกับบ้านของชยาจนเป็นปกติ วันที่ได้หยุดพักก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่
“คุณแม่แพ้อาหารทะเลหรือเปล่าครับ”
“ไม่จ้ะ พอกินได้บ้างนิดหน่อย แต่หมอไม่ค่อยอยากให้กินเยอะ”
“งั้นไม่เป็นไรครับ งั้นวันนี้ก็ถือว่าเป็นการไปพักผ่อนเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะครับอยู่บ้านทั้งวันเบื่อแย่เลย”
เบลกับแม่ของชยาพูดคุยกันอย่างสนิทสนมมากขึ้นหลังจากที่เบลมาที่บ้านของชยาอยู่บ่อย ๆ บางวันมีของมาฝาก บางวันก็แวะเข้ามาพูดคุยด้วยและบางวันที่พอมีเวลาว่างก็พาแม่และชยามากินข้าวนอกบ้านด้วยกัน
“รบกวนเบลอยู่ตลอด แม่เกรงใจ”
“คุณแม่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมยินดีแล้วก็เต็มใจที่จะดูแลคุณแม่กับชยาจริง ๆ”
ช่างพูดจังเลยนะ เพราะแบบนี้ไง แม่ถึงได้รักเบลมากแบบไม่มีข้อสงสัย
ชยามองหน้าของเบลยิ้ม ๆ และเบลก็กระซิบบอกชยาเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน
“ผมทำคะแนนได้ดีใช่มั้ย”
“มาก”
“เชียร์ผมนะ”
“ทำไมต้องเชียร์”
“ถ้าคุณหนูไม่เชียร์แล้วผมจะมีกำลังใจได้ยังไง”
เบลส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้และชยาก็เมินหน้าหนีและเดินตามแม่เข้าไปในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ติดกับทะเล
“จะรอเอากำลังใจอยู่ตรงนี้ก็ตามใจ จะไปกินข้าวแล้ว เบลก็ยืนอยู่ตรงนี้คนเดียวแล้วกันนะ”
ใครจะไปยืนรอ เข้าไปกินข้าวกับคุณหนูสิ สบายใจกว่า
มีวันหยุดก็ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เบลคิดว่าครอบครัวชยาก็เหมือนครอบครัวของตัวเอง คนสองคนปฏิบัติต่อกันแบบนี้มาตลอดหลายปี
...แม่ของแฟน...ก็เหมือนแม่ของตัวเอง...เบลคิดแบบนั้น และถึงแม้จะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่ดูเหมือนว่าแม่ก็ดูออกว่าระหว่างเบลกับชยาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันแค่นั้น รับรู้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่อยู่ด้วยกันมาตลอดและปล่อยให้ใช้ชีวิตปกติด้วยกันมาเรื่อย ๆ โดยไม่เคยพูดหรือถามให้ต้องอึดอัดใจ
+++
“ผมกลับก่อนนะครับดึกแล้วแม่กับชยาจะได้พักผ่อน”
“วันนี้ดึกแล้ว เบลค้างที่บ้านเราสิลูก”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”
“ที่ควรต้องเกรงใจคือแม่ต่างหากล่ะ...ถ้า...วันไหนที่เบลอยากค้างที่บ้านก็ค้างนะลูกนะ”
สิ่งที่แม่ของชยากับเบลคุยกันมันทำให้ชยาเข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจนมากขึ้นและชยาก็เริ่มกังวลใจกับสิ่งที่ได้ยินจนต้องขมวดคิ้วมุ่น
“แม่ครับ...”
เรียกแม่เสียงเบาและเริ่มทำตัวไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากทำให้แม่เสียใจหรือไม่สบายใจ
“แม่รักน้องยามากนะลูก”
แม่ส่งยิ้มบาง ๆ ให้ชยาที่มองหน้าของแม่เงียบ ๆ เพราะพูดอะไรไม่ออก
“น้องยารักใครแม่ก็รักด้วยนะ”
เบลได้ยินสิ่งที่แม่ชยาพูดและมองเลยไปที่ชยาที่ค่อย ๆ ยิ้มออกมาได้แล้ว แค่นี้ก็ชัดเจนมากพอแล้ว...
“ถ้างั้นวันนี้ผมขอรบกวนค้างที่บ้านด้วยสักคืนนะครับ...คุณแม่...”
แม่ของชยาหันมาหาเบลและพยักหน้ารับก่อนจะตอบออกไปพร้อมรอยยิ้ม
“จ้ะ ตามสบายนะลูก บ้านนี้ก็เหมือนบ้านเบลแล้วเหมือนกัน”
+++
นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้อยู่กับคุณหนูจนถึงเช้า โดยที่คุณหนูไม่ต้องรีบกลับบ้านเหมือนที่แล้ว ๆ มา
เบลนอนมองหน้าของชยายิ้ม ๆ และชยาก็มองหน้าของเบลและหัวเราะออกมาเสียงเบา
“ยิ้มทำไม ยิ้มมากเกินไปแล้วนะ”
จะไม่ให้ยิ้มได้ยังไง ก็คนมันมีความสุข ถ้าไม่ยิ้มก็แปลกแล้ว
“คุณหนูอ่ะ ทำไมต้องว่าด้วย”
ไม่ใช่แค่พูดแต่เบลยังขยับเข้ามาใกล้อีกนิดและดึงมือของชยามาจูบเบา ๆ ที่หลังมือซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง
“ผมรักคุณหนูจะตายอยู่แล้ว”
คนบางคนเวลาอยู่ด้วยกันจะออดอ้อนออเซาะมากเกินกว่าในเวลาปกติและเบลก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนแบบนี้
เบลเกลี่ยปลายนิ้วไปที่ข้างแก้มของชยาเบา ๆ และจรดปลายจมูกลงที่หน้าผากของคนที่นอนอยู่ด้วยกัน
“อย่าทำอะไรมากเกินไปกว่านี้นะ คุณแม่ก็อยู่นะเบล”
แล้วเบลก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยและถอนหายใจยาว
“คุณหนูก็บอกรักผมทั้งคืนสิ แล้วผมจะไม่ทำ”
ชยาบีบจมูกของเบลแรง ๆ และเบลก็ร้องออกมาทั้งที่ไม่ได้เจ็บเลยสักนิด
“โอ้ย คุณหนูใจร้าย”
“ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นหรอก แกล้งทำเป็นเจ็บเกินจริงไปหน่อยนะ ตอนนี้ชยาก็รักเบลอยู่แล้วไง”
“ว่าไงนะครับ”
“บอกว่ารักเบลอยู่แล้ว”
“อีกที”
“บอกว่ารักเบลทุกวันอยู่แล้ว”
“อืม อีกที”
“พอแล้ว นอนได้แล้ว”
“อีกทีนะ”
“รักเบล มากมาย”
“โอ๊ย จะขาดใจ”
คนฟังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงและทำท่าดีใจมากจนชยานึกหมั่นไส้จนต้องหัวเราะด้วยความขำ
“แล้วผมจะทนไหวมั้ยคืนนี้”
“ไม่ไหวก็ต้องทน”
ก็คงต้องทนนั่นแหละ ถ้าไม่ทนแล้วจะให้ทำยังไง
“ทนแค่นิดเดียวได้มั้ย”
ต่อรองไปเล็กน้อย และชยาก็พยักหน้ารับอย่างช้า ๆ
“อืม งั้นเบลทนนิดเดียวก็ได้”
พอแล้ว แค่บอกว่าให้ทนนิดเดียวไม่ต้องทนทั้งหมดก็พอแล้ว
เบลยิ้มกว้างตอนที่ชยาค่อย ๆ ขยับกายลงไปดึงกางเกงที่เบลสวมอยู่ออกจนบางอย่างที่อยู่ในกางเกงเปิดเผยออกมาทั้งหมด
และส่วนที่เคยอ่อนแรงที่อยู่ตรงนั้นเริ่มตื่นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ชยานิ่งมองก่อนจะแตะปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียที่ส่วนนั้นแผ่วเบา
“อืม”
ฝ่ามืออุ่น ๆ ประคองที่ข้างแก้มเนียนขาวและชยาก็เหลือบสายตาขึ้นมองหน้าของเบล ตั้งใจจะทำให้เบลไม่ต้องอดทนมากไปกว่านี้ด้วยการดูดกลืนท่อนเอ็นร้อนเข้าไปในโพรงปากทั้งหมดจนคนที่ถูกปรนเปรอให้ต้องนิ่วหน้าและขบริมฝีปากแน่น
“อาส์”
เสียงครางเบา ๆ ในลำคออย่างพอใจ ทำให้ชยายิ่งไล้เลียปลายลิ้นไปตามความยาวของท่อนเอ็นร้อนเพื่อจัดการให้ความรู้สึกของเบลสงบลงให้ได้ ฝ่ามือร้อนลูบไล้ที่เส้นผมนิ่มของชยาเล่นและหัวเราะออกมาเสียงเบาเมื่อมองทุกอย่างที่ชยาตั้งใจทำให้ ภายในโพรงปากร้อนดูดกลืนความต้องการทั้งหมดของเบลเข้าไปทั้งหมดและชยาก็ใช้มือช่วยรูดรั้งส่วนนั้นให้เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ไปจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุด
ในเวลาไม่นาน ร่างทั้งร่างของเบลก็เหยียดเกร็ง ลมหายใจหอบหนักกระชั้นถี่รัวขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจังหวะสุดท้ายที่น้ำรักที่อัดแน่นอยู่ภายในท่อนเอ็นร้อนที่ถูกดูดกลืนอยู่ภายในโพรงปากของชยาหลั่งความต้องการออกมาทั้งหมดและชยาก็ผละออกห่าง
“เป็นยังไงบ้าง เปื้อนหมดเลยขอโทษนะ”
ช่วยเช็ดใบหน้าให้และจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของชยาที่ยังมีคราบน้ำรักเปรอะเปื้อนอยู่ออกจนเสร็จเรียบร้อยและเบลก็รั้งร่างของชยาเข้ามากอดเอาไว้แน่น
“แค่นี้ก็พอแล้ว แค่คุณหนูยอมทำให้ขนาดนี้ก็สงบได้ทั้งคืนไปจนถึงเช้าแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก ชยาอยากช่วยเบล”
+++
“ข้าวต้มทะเล”
นานแล้วที่ไม่ได้กินข้าวตอนเช้า และเบลก็มองข้าวต้มที่แม่ของชยาทำไว้ให้
“คุณแม่ทานหรือยังครับ”
เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงและแม่ของชยาก็พยักหน้ารับและส่งยิ้มให้
“แม่เรียบร้อยแล้วล่ะ เราสองคนกินเลยจ้ะ”
ชยามองหน้าของเบลแบบยิ้ม ๆ และเบลก็เตะเบา ๆ ที่ขาของชยาที่อยู่ใต้โต๊ะ
“อะไรล่ะ”
“ทำไมครับ ผมก็แค่หยอกแฟนผมเล่นแค่นิดเดียวเอง”
พูดจาหวาน ๆ ใส่กันแต่เช้า และชยาก็เบะหน้าและก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มไปเรื่อย ๆ ไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับเบลอีก
“เขินล่ะสิ”
“ก็เขินน่ะสิ”
เบลหัวเราะด้วยความขำที่ชยาตอบกลับมาแบบนั้น กินข้าวต้มก่อนไปทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข อยากให้ชีวิตเป็นแบบนี้ทุกวัน
หลังกินอาหารเช้าเสร็จ เบลและชยาก็ยกมือไหว้แม่ที่มาส่งลูกชายทั้งสองคนที่หน้าบ้าน
“ไปทำงานแล้วนะครับ”
เบลช่วยสวมหมวกกันน็อคให้ชยาและชยาก็หันมามองแม่อีกครั้ง
“ไปแล้วนะครับแม่”
“ระมัดระวังกันด้วยนะลูก รถเยอะ”
คนสองคนที่เริ่มต้นความสัมพันธ์แบบไม่ค่อยดีนัก แต่วันหนึ่งก็ได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ทำงานด้วยกัน ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวด้วยกัน มีเวลาอยู่ด้วยกัน และอยากใช้ชีวิตอย่างสงบแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ด้วยกัน
“เกาะแน่น ๆ หน่อยนะหนูนะ”
“ไอ้บ้า”
โดนคุณหนูทุบไหล่ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเข็ดและไม่เคยหลาบจำ
เบลหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขและคนซ้อนท้ายอย่างชยาก็เกาะไหล่ของเบลเอาไว้
“ถ้าซิ่งจะตบให้หมวกกันน็อคกระเด็นเลย”
“สายโหดก็มา”
ก็แค่แกล้งเบรคให้คุณหนูโมโหอีกเล็กน้อย และชยาก็ทุบที่หมวกกันน็อคของเบลจริง ๆ อย่างที่พูด
“ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว”
“ยอมแล้วก็ดี รักเมียต้องฟังที่เมียพูด เข้าใจมั้ย”
“จำเอาไว้ก็ได้ รักเมียต้องอดทน เพราะผมเป็นคนรักเมีย”
เบลหัวเราะออกมาด้วยความขำ และขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานพร้อมกับชยาทุก ๆ วันตามปกติ
ยังคงอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ใช้ชีวิตแบบเดิมด้วยกันอย่างมีความสุขทุกวัน...ทุก ๆ วัน...
จบ.