ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0กระทู้เก่า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13023.0ตอนที่ 1
“แก แกว่านังพีมันจะมามั๊ยวะ” เพื่อนสาวคนหนึ่งของพีร์หันไปถาม บรรดาเพื่อนสาวที่เหลือขณะที่นัดเจอกันในเลิกงานของเย็นวันศุกร์ที่ร้านเบอร์เกอร์รี่แห่งหนึ่งแถวทองหล่อ เพราะว่าวันนี้พวกหล่อน ๆรวมทั้งพีร์ ได้นัดเจอกันเป็นครั้งแรกหลังจากที่เรียนจบ และได้งานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง
“มาสิ ยังไงชั้นว่ามันก็ต้องมา” สาวหน้าคมภายใต้ผ้าฮิญาบตอบทันควัน ด้วยความที่สนิทกับพีร์มาตั้งแต่เล็ก จึงมั่นใจว่าพีร์ไม่เคยผิดนัดใครง่าย ๆ
“เหรอ ชั้นว่างานมันเยอะจะตาย” เพื่อนคนเดิมไม่แน่ใจ
“งานเยอะหรือว่ามาไม่ไหวกันแน่” เพื่อนสาวท่าทางมาดมั่นที่สุดในกลุ่มที่นั่งอยู่ ตอบด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ พลางคนนมสดร้อนช้า ๆ
เพื่อนสาวอีกคนที่กำลังจะจิบกาแฟชิงถาม “ทำไมมันจะมาไม่ไหวล่ะ”
“แกคิดเหรอว่า คนที่เค้ามีแฟนจริงจังแล้ว เค้าจะไม่รีบกลับบ้านไปทำอย่างอื่น” เธอตอบพลางใช้สายตาคมกริบมองไปที่เพื่อน ๆ ทุกคนอย่างขอให้คิดเอาเอง
แต่ด้วยความเป็นหญิงสาวหวานใสของเพื่อนคนอื่น จึงไม่มีใครคิดทันเธอในเรื่องนี้ ต่างก็ได้แต่ทำหน้างุนงง จึงได้โพล่งถามสาวผมสั้นข้างหน้าออกมาตรง ๆ
“นี่แกหมายความว่าไงก็บอกพวกชั้นมาตรง ๆ ดีกว่า พวกชั้นงงไปหมดแล้วนะ”
“ก็...” เธอยิ้มร้ายก่อนจะตอบออกไป “แกคิดว่าคนที่เค้าเป็นแฟนกันแล้วเค้าจะชอบทำอะไรกันล่ะ ....แกอย่าลืมสิ นังพีมันเป็นแฟนใคร และแกอย่าลืมว่าแฟนนังพี ชอบทำอะไรมากที่สุด” เธอยิ้มเยือกเย็น ก่อนจะจิบกาแฟท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงของเพื่อนสาวที่เหลือ
“อะ อ๊ายยยย” สาว ๆ ที่เหลือกรีดร้องออกมาเบา ๆ ทั้งเพิ่งนึกได้ และทั้งตกใจที่เพื่อนคนนี้คิดอะไรแบบนี้ออกมา
“หรือถ้ามันมา ก็อย่าตกใจละกันว่าทำไมมันดูแปลก ๆ หึหึหึ”
“อะไร นินทาอะไรชั้นอีกหะนังเขียว” เสียงใส ๆ ของคนที่ถูกนินทาดังมาจากข้างหลัง ทำให้เพื่อน ๆ ทุกคนถึงกับยิ้มออกมา
“นังพี....”
“อะไรของแกหะนังเขียว แต่งงานแล้วยังไม่หายปากร้ายอีกเหรอ หะ”
“ใช่ ๆๆ นังเขียวมันนินทาแก” เพื่อนสาวตั้งแต่เด็กของพีร์ได้ทีฟ้อง “มันบอกว่าแกคงจะมาไม่ได้เพราะว่าแฟนแกคงจะจิ๊จ๊ะกับแกทุกคืนจนเหนื่อย”
“เปล๊า..ก็นังพวกนี้มันรอแกยุรยาตรมา จนมันกลัวแกไม่มาหน่ะสิ ชั้นก็เลยคิดว่า คุณแจ๊คเค้าจัดให้แกจนขาลากมาไม่ได้แล้ว” เธอตอบเย็นยะเยือก พร้อมทั้งหัวเราะในคออย่างขบขัน
“นั่งนี่รู้ดี” พีร์ยิ้มรับเพื่อนสาวมาดมั่น ก่อนจะหันไปถามทุกคนต่อ“แล้วยังไงเนี่ยพวกแก รอชั้นนานมั๊ย”
“ก็ไม่ล่ะ พวกชั้นก็กินกาแฟรอแกเพลิน ๆ”
“เหรอ”
“นังเขียว แกพลาดซะแล้ว” เพื่อนสาวคนนึงโผล่งขึ้นมา ทำให้คนที่มาใหม่สงสัย
“ยังไง”
“แกบอกว่า ให้ดูนังพีว่ามันแปลก ๆ ชั้นก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยหนิ”
เพื่อนสาวทุกคนพลางมองดูพีร์อย่างพิจารณา หน้าตาและผิวพรรณของพีร์ดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นจากตอนสมัยเรียน บ่งบอกว่าได้รับการดูแลและบำรุงอย่างดี รูปลักษณ์ภายนอกของพีร์ก็เปลี่ยนไป จากที่เคยใส่แว่นก็เปลี่ยนมาใส่คอนแท็กเลนส์สายตา ทรงผมที่ได้รับการออกแบบและตัดให้เข้ากับรูปหน้าและทำสีให้ขับใบหน้าให้ผ่องขึ้น รวมทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์ดังที่ดูเข้ากับตัวเขาอย่างลงตัว
“เอ๊ะ เดี๋ยวนี้แกทาลิปกอสที่คอแล้วเหรอฮะ” เพื่อนสาวที่ชื่อเขียวโผล่งออกมาเย็น ๆ เพราะเห็นรอยสีชมพูที่ต้นคอ
พีร์ฉุกคิดระวังตัวขึ้นมา เพราะไม่เชื่อว่ารอยรักของคนพลกฤษณ์จะเด่นชัดจนเพื่อนสังเกตุได้
“นังเขียวนี่มันไวจริง ๆ ทำงานมาทั้งวันไม่เห็นมีใครทัก แรง..” พีร์นึกหมั่นไส้เพื่อนในใจ
แต่เพื่อน ๆ ทุกคนไม่ได้นิ่งเฉยเหมือนเพื่อนที่ชื่อเขียว สาว ๆ ทั้งหลายต่างก็ชี้ที่รอยรักบนคอพีร์อย่างตื่นเต้น
“นี่พวกแกพอได้แล้ว เดี๋ยวมีผัวพวกแกก็ได้มีเองหล่ะ” เพื่อนที่ชื่อเขียวปราม เพราะเห็นพีร์เริ่มหน้าเสียจากความตื่นเต้นและสอดรู้ของเพื่อน ๆ
“ใช่ ๆๆ นังเขียวมันพูดถูก” พีร์สมทบ “แกต้องถามคนมีสามีแล้วอย่างนังเขียวมันดูสิ อย่ามายุ่งอะไรกับชั้น”
เพื่อนที่ชื่อเขียวพยักหน้ารับยิ้ม ๆ และตอบไป “แต่ชั้นว่าพวกมันคงไม่อยากรู้เรื่องของชั้นหรอก ใช่มั๊ยพวกแก”
“ใช่ ๆๆๆ” เพื่อนสาวทั้งหลายพยักหน้าทันที ทำเอาพีร์เองก็ตกใจกับท่าทางสอดรู้สอดเห็นของเพื่อน ๆ ตัวเอง
“จะมาอยากรู้อะไรนักหนาหะพวกแก” พีร์เริ่มเหวี่ยงเพื่อน
“เก๊าะแหม....ชั้นจะอยากรู้เรื่องของแกหน่อยไม่ได้เหรอ”
เพื่อนสาวอีกคนตอบมา “แกคิดดูสิ ในบรรดาเพื่อน ๆ เราแกก็มีแฟนเป็นคนแรกเลย และก็นังเขียวอีกคน ส่วนพวกชั้นก็ยังโสดเหมือนเดิม และอีกอย่างนะแฟนก็หล่อและแรงซะขนาดนี้ แล้วว่าแต่วันนี้คุณแจ๊คเค้าไม่มาด้วยเหรอ”
“เหอะ งานยังไม่เลิกเลย นี่ชั้นขอตัวแว๊บมาก่อนนะเนี่ยะ”
“อืม ๆๆ เหรอ เสียดายจัง ไม่เคยเจอแฟนแกตัวจริงเลย”
“ก็ไปออกรถที่โชว์รูมสิจ๊ะจะได้เจอ” พีร์ตอบมา
“แหม ๆๆๆ นังพี พวกชั้นเพิ่งทำงานได้ไม่นานนะ แล้วอีกอย่างรถที่แฟนแกขายหน่ะก็ไม่ใช่ถูก ๆ อีกอย่างชั้นไม่ได้มีแฟนรวยเหมือนแกหรือนังเขียวมันหนิคะถึงจะได้มีปัญญา”
“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น แวะมาหาชั้นเฉย ๆ ก็ได้หนิ ยากอะไร ดูนังเขียวมันสิ เจอกับชั้นที่โชว์รูมบ๊อย บ่อยจะตายไป ใช่มั๊ย”
“อืม” เพื่อนที่ชื่อเขียวพยักหน้ารับ “เผอิญว่าบ้านแฟนและชั้นเองก็เป็นลูกค้าที่โชว์รูมคุณแจ๊คมาก่อนหน่ะ เลยได้ไปเจอกันบ่อย ๆ”
และบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อทุกคนมาครบองค์ประชุม พีร์และเพื่อน ๆ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันแรมปีอย่างออกรส จนกระทั่งเวลาหนึ่งทุ่มกว่า ๆ พวกเธอจึงได้คิดจะแยกย้ายกัน
“เออ แล้วนี่แกกลับไปไงอ่ะพี”
“อ่อ เดี๋ยวคุณแจ๊คมารับหน่ะ”
“อ๊ายยย คุณแจ๊คจะมาเหรอ” เพื่อนสาวทั้งหลายต่างก็ตื่นเต้น เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่เพื่อนบางคนจะได้เจอตัวจริงของพลกฤษณ์
“อืม ๆ แต่อย่าไปกรี๊ดกร๊าดเค้ามากนักหล่ะ อย่าลืมว่าเค้าไม่ชอบชะนี”
“ค้า แม่คุณนาย” เพื่อนสาวค่อนขอดพีร์
“อืม พวกแกดูสิใครมา” เพื่อนสาวที่ชื่อเขียวพยักเพยิดให้ทุกคนมองไปยัง Mercedes Benz coupe สีขาวนอกร้านที่เข้ามาจอดเทียบฟุตบาท ก่อนจะปรากฎร่างสูงใหญ่ของพลกฤษณ์ที่มารับพีร์ที่ร้านเบอร์เกอร์รี่แห่งนี้ตามนัดหมายจากเจ้าตัว ถึงแม้จะเห็นไกล ๆ แต่รัศมีความหล่อเหลาและมีเสน่ห์ของชายหนุ่มนั้นก็ทำให้บรรดาเพื่อนสาวของพีร์อดกรี๊ดไม่ได้
“ตายแล้วนังพี คุณแจ๊คแฟนแกหล่อกว่าในทีวีอีกอ่า”
“อ่ะแน่นอน” พีร์ยิ้มรับและจิกสายตาใส่เพื่อน ๆ อย่างภูมิใจในคนรักของตนเอง
“อ๊ออยยย แก”
พลกฤษณ์เดินตรงมาที่โต๊ะที่พีร์นั่งทันที บรรดาสาว ๆ ทั้งหลายยกมือไหว้พลกฤษณ์ เขารับไหว้ด้วยความยินดีและนั่งลงข้าง ๆ พีร์พร่อมกับโอบไหล่ร่างอวบแสดงอาณาเขต
“เป็นไงมั่งครับที่รัก” เขาถามพีร์ตามปกติ แต่เพื่อน ๆ นี่สิมองเขาด้วยสายตาไม่ปกติเข้าเสียแล้ว
“ก็ดีอ่ะ เมาท์ไปกินไป แล้วนี่เรากลับกันเลยดีมั๊ย เดี๋ยวไม่ทันกินข้าวกับป๊าม้า”
“ไม่เป็นไรคุณคุยกับเพื่อนไปก่อนก็ได้”
พลกฤษณ์ลูบผมพีร์อย่างเอ็นดู ภาพหวานเหล่านั้นทำให้สาว ๆ ที่นั่งอยู่แทบกรี๊ดด้วยความอิจฉา
“อะแฮ่ม!” เพื่อนสาวคนหนึ่งของพีร์กระแอมออกมา เพราะแอบหมั่นไส้เพื่อนตัวเองไม่ได้
พลกฤษณ์หันมายิ้มกับเพื่อน ๆ ของพีร์
“นี่แกอย่าไปอิจฉานังพีมันเลย” เพื่อนที่ชื่อเขียวเหมือนจะรู้ว่าทุกคนคิดอะไร “แกน่าจะดีใจกับเพื่อนนะที่มีคุณแจ๊คดูแล”
“โห ขอบคุณครับ ว่าแต่วันนี้คุณมาร์โคไม่มาด้วยเหรอครับ” พลกฤษณ์ถามถึงสามีชาวอิตาลีของหล่อน
“เปล่าค่ะ วันนี้มาร์โค่ไปฟิสเนสหน่ะค่ะ”
“อ่าครับ แล้วนี่คุณเขียวขับคันไหนมาครับเนี่ยะ” ชายหนุ่มถามตามประสาคนรู้จักและชอบรถเหมือนกัน
“อ่อ granturismo ค่ะ” เธอหมายถึงรุ่นของรถสปอร์ตสัญชาติเดียวกับสามีเธอ หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะถามต่อ
“คุณแจ๊คคะ คุณแจ๊คพอจะมีเพื่อนผู้ชายเหลือ ๆ มั่งมั๊ยคะ”
“ทำไมครับ”
“ก็ จะขอให้พามาให้นังพวกนี้หน่อยค่ะ”
“อ๋อครับ ไม่มีปัญหา” เขายิ้มรับ “เพื่อนผมส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายทั้งนั้นนะครับ สบายใจได้”
พวกสาว ๆ ทั้งหลายทำหน้าตามีความหวังขึ้นมาทันที
“คุณแจ๊ค เนี่ยะ นอกจากเขียวแล้วอ่ะ เค้าไม่เคยเจอใครเลยนะหลังเรียนจบ” พีร์ชวนคุยให้เข้าเรื่องกับเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่
“เหรอ” เขาพยักหน้าเออออ ในใจคิดว่า “แต่ละคนก็น่าเจออยู่หรอก” เพราะเขาคิดว่าไม่เห็นจะมีใครในที่นี้ที่เขาพอคุยด้วยรู้เรื่องเลยนอกจากเพื่อนของพีร์ที่ชื่อเขียว และนิสัยส่วนตัวของเขาที่ไม่ชอบความสู่รู้ของผู้หญิงอยู่แล้วทำให้รู้สึกปรับตัวลำบากเมื่อต้องมาเผชิญสายตาสอดรู้สอดเห็นของสาว ๆ พวกนี้
“ก็ดีแล้วนี่ครับ มาเจอกันวันนี้ไง” เขายิ้ม ๆ ตามมารยาท และพยายามทำตัวเป็นกันเองกับเพื่อนของพีร์ให้มากที่สุด คุยกันไปสักพักก็มีคนขอตัวกลับ
“อืม คุณแจ็คคะ พีจ๊ะ ชั้นขอตัวก่อนนะ”
“อ่าว จะไปไหนล่ะเขียว”
“กลับก่อนละกันค่ะ พอดีว่าจะไปรับมาร์โคที่ฟิสเนสตอนสองทุ่ม นี่ก็ใกล้แล้ว ก็ ลาก่อนนะคะ เจอกันใหม่ล่ะ” เธอโบกมือลาทุกคนและยกมือไหว้พลกฤษณ์ก่อนไป
“อืม งั้น เราก็กลับเลยละกันดีมะ” เขาหันไปถามพีร์
“อืม ได้สิ”
“พวกแก ชั้นกลับก่อนนะ”
“โอเค งั้นผมขอตัวละกันนะครับทุกคน”
“ค่ะ ๆ สวัสดีค่ะ”
พลกฤษณ์กับพีร์ออกมาจากตัวร้านด้วยกัน และขึ้นรถเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านอย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่มีคำพูดใด ๆ จากคนทั้งสอง มีเพียงแค่รอยยิ้มอบอุ่นของคนทั้งคู่ที่มอบให้กันในระหว่างทางนี้
พลกฤษณ์เอื้อมมือจะไปเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศ แต่ฉับพลันเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น พลกฤษณ์เหลือบเห็นว่าเป็นเพื่อนของเขาจึงกดรับที่หูฟังไร้สายที่สวมอยู่
“ไง”
“ไงครับไอ้คุณแจ๊ค คืนนี้ว่างป่ะเนี่ยะ”
“ทำไมมีอะไร”
“มะแหม วันนี้ชั้นมาปาร์ตี้ห้องไอ้อิฐว่ะ น้อง ๆ น่ารักเต็มเลย สนป่ะ”
เขาหันมองพีร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วตอบกลับปลายสาย “เอ่อ เดี๋ยวแป๊บนะ”
ปลายสายได้ยินอย่างนั้นก็ขำออกมา “ทำไมวะ เดี๋ยวนี้มีเมียแล้ว ต้องขอก่อนอ่าดิ กลัวเมียนี่หว่า ฮ่ะ ๆๆ”
“เออ แป๊บ ๆ” เขาดุปลายสายก่อนจะหันไปถามพีร์ “ที่รักวันนี้ไปปาร์ตี้บ้านเพื่อนผมกันมั๊ย”
“ปาร์ตี้เหรอ” พีร์ทวนคำ “ไม่อ่ะ คุณอยากไปก็ไปก็ได้นะ ผมอยากอยู่บ้านล่ะ”
“อืม” เขาตอบรับ “เออ ไม่ล่ะว่ะ วันหลังได้มั๊ย”
“ไมวะ เมียไม่ให้มาเหรอ”
“เปล่า ๆ ขี้เกียจว่ะ ขอโทษด้วยละกัน”
“เออ ๆๆ คราวหน้ามาให้ได้ละกัน”
เขาวางสายจากเพื่อนไป และตั้งใจขับรถต่อ
“ไม่ไปเหรอ”
พลกฤษณ์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ไม่อ่ะ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน และพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแต่เช้าอีก ขอกลับไปนอนดีกว่า”
“ขอให้นอนจริงเถอะ” พีร์แซวคนรักแบบหมั่นไส้ เพราะเห็นพลกฤษณ์บอกว่าอยากนอนทีไร แต่พอกลับบ้านไปก็นอนดึกกันทุกที
“แหม ก็ขอชื่นใจมั่งไม่ด้ายเหยอ...”
“เค้าก็เหนื่อยเป็นนะ” พีร์พูดต่อ “เอ่อ แล้ววันนี้อ่ะ นังเขียวมันเห็นรอยที่คอเค้าด้วย แสดงว่าคนอื่นก็ต้องเห็นล่ะสิ”
“ก็ช่างเค้าสิ”
“ได้ไงอ่ะ” พีร์แหวใส่ ที่พลกฤษณ์มีท่าทีไม่สนใจเรื่องรอยรัก “นึกถึงเค้าบ้างสิ เค้าก็อายเป็นเหมือนกันนะคุณแจ๊ค”
“ผมขอโทษ” เขาตอบรับยิ้ม ๆ “งั้นคืนนี้ผมทำเบา ๆ ก็ละกันนะ”
พีร์มองชายหนุ่มแบบหมั่นไส้บนเขิน นี่แสดงว่าคืนนี้พวกเขาก็คงจะนอนดึกกันอีกเป็นแน่แท้ใช่ไหมนี่