My Destiny
(จะทำยังไง เมื่ออยู่ดีๆ ก็เจอรักแท้โดยไม่ได้ตั้งตัวสักนิด !)
Part 3
“ใครบอก วัน ๆ ไม่ทำอะไร แล้วที่เจ้ได้ยินทุกคืน ผมก็ใช้วัน ๆ นั้นให้เป็นประโยชน์แล้วนะ ไม่ได้ยินเหรอ”-------------------------------------------------------------------------------
หะ แม่งยังไม่เลิก พูดวนไปวนมา แม่งมันก็วกเข้าเรื่องบ้า ๆ แบบนี้จนได้ละ รำคาญจริง ๆเลย
ผมเลยรีบเดินหนีไม่อยากจะมาปล่อยพลัง เหนื่อยเปล่า ๆ
“นี่เจ้ ถ้าไม่อยากให้ผมแกล้ง บอกชื่อผมมาก่อนสิ ผมจะเลิกแกล้งเลย”
ผมแกล้งเดินทำเป็นไม่ได้ยิน จะพูดอะไรก็พูดไป ผมเดินลิ่ว ๆ ไม่สนใจมันสักนิด
ฟึ่บบบ บบบ!! แม่งกระชากแขนทำไมว่ะ T^T เจ็บนะ เจ็บอ่า
“บอกชื่อเจ้มาก่อนดิ ถ้าไม่อยากให้ผมแกล้งอ่ะ”
“ทำไมฉันจะต้องบอกคนอย่างนายด้วยว่ะห๊า”
“เจ้อยากให้ผมแกล้งหรือไง หรือว่าจะให้ผมไปเจอเจ้ที่ สาธารณะแล้วให้ผมตะโกนเรียกว่า เจ้ ๆ มาทำอะไรหรือไง
หรือจะเอาแบบนั้น ใคร ๆ จะได้เข้าใจไงว่าเจ้เป็น
ผู้ชายในร่างหญิง”
“นายไม่จำเป็นต้องทักฉันหรอก ฉันไม่อยากคุยกับเด็กอย่างนาย เข้าใจด้วย”
“ได้ !! ทุกคนครับบบบบบ เจ้คนนี้เขาเป็นผู้ชายในร่างยะ.…..”
เห้ยยยยยยย !! “บอกก็ได้ บอกก็ได้เว้ยยยยยยย ฉันชื่อ ริน”
“ริน ทำไมชื่อแม่งโครตหญิงเลยอ่ะ”
ไอ้นี่นิ แค่รู้ชื่อไปแล้วยังจะมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรอีก
“จะทำไมมันก็เรื่องของฉัน นายไม่ต้องยุ่งหรอก แค่รู้ว่า พ่อแม่ตั้งให้ก็พอใจแล้ว ปล่อยมือสะด้วย ฉันจะไปทำงาน!”
นายนั่นปล่อยมือผม ผมเลยรีบเดินออกไปจากที่ตรงนั้น แล้วก็มีเสียงตะโกนออกมา
“ริน!! ผมชื่อ นัท นะ บ๊ายบาย ตั้งใจทำงานนะครับ”
อายุอ่อนกว่าฉันยังมาเรียกชื่อฉันเฉย ๆไม่มีคำนำหน้าเลย สมกับคำว่าเด็กบ้าจริง ๆ อีกอย่าง นัทเนิดอะไร
ผมไม่ได้อยากรู้สักนิด แค่หน้ามันยังไม่อยากจะมองเลย เหอะ T^T อารมณ์เสีย
.................................................
ผมเดินเข้าบริษัทอย่างหน้างิก คิ้วขมวดเป็นปม แถมนั่งรถมาเสือกติดอีก เดินเข้าบริษัทยังด่ามันในใจได้
หลายภาษาแหละ อีก 2-3 ครั้งผมจะใช้ภาษาครบทั่วโลก เห้อ~
“สวัสดีครับน้องริน”
“สวัสดีครับพี่กาย”
ผมพนมมือพงกหัวให้เขา พี่กายเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลย ถ้าผมเป็นผู้หญิงนะผมคงจีบพี่เขาไปแล้ว
พี่เขาทั้งทำงานเก่ง หล่อ รวย มีรถขับ อะไรมากมายที่มันครบสูตรของผู้ชายที่เพอเฟ๊กอะไรยังงี้แหละ
ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นผู้ชายนะ ฮิยะฮ่า ๆๆ ....
“ทานข้าวเช้ามายังครับน้องริน”
“ยังเลยครับ พอดีเมื่อเช้าเจอมรสุมนิดหน่อยเลยหมดอารมณ์กินเลยครับ”
“ฮา ๆ อย่าเครียด ๆ งั้นเอางี้เดียวพี่พาไปทานข้าวเอาไหม”
“ไปก็ได้ครับ ไปก็ได้ แต่พี่กายเลี้ยงรินนะ ฮาๆ”
ถ้าไม่เลี้ยงผมก็ไม่ไป 555+ ผมไม่ใช่คนขี้งกนะแค่พอเพียงพอประมาณเท่านั้นเอง
“ได้เลย ไปกินให้ท้องแตกเลยนะ ฮาๆ”
ผมกับพี่กายเดินไปหัวเราะไป เอะ! ผมลืมบอกนะครับว่าผมทำงานอะไร ผมเป็นพนักงานของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งใน
ประเทศไทยที่ส่งออกเครื่องมือแพทย์ เอะ ทุกคนต้องคิดว่าผมเรียนพวกหมอ เภสัชอะไรแบบนี้ใช่ไหมครับ
คุณคิดผิดแล้วละครับ จริง ๆแล้วผมทำงานแผนก บัญชีของบริษัทนะครับ
เรื่องรายได้ออกรายได้เข้าของบริษัทมันเป็นหน้าที่ของผม เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ผมเลยต้องคำนวนนิดหนึ่ง ฮ่าๆ
“ทานอะไรดีครับ สั่งเลย เดียวเฮียเลี้ยงเอง”
“จัดไป !! พี่ครับ ไข่ปลาคาเวียร์ ล็อบเตอร์ ไก่งวงอบ บลา ๆ”
“เห่ย ๆ ๆ มากไปแหละ ถามเจ้าของร้านเขาไหมว่า เขามีหรือเปล่า เรานี่เวอร์ตลอด”
“ต้องมีบ้างอะไรบ้างครับ ฮาๆ งั้นเอาข้าวไข่ข้นครับ”
งงไหมครับ ข้าวไข้ข้น มันคือข้าวห่อด้วยไข่เจียวแล้วราดด้วยน้ำต้มยำกุ้งเคยกินไหมอร่อยสุดยอดเลยนะครับ ^^
“อ่ะ พี่กายสั่งครับ”
“เหมือนกันอีกที่หนึ่งครับ”
ผมนั่งมองหน้าพี่กายด้วยความหลงใหลทำไมนะผมไม่หล่อแบบพี่เขาบ้าง
พี่เขาทั้งจมูกโด่ง ตากลมโต คิ้วเข้ม เขาดูเข้ม ๆ เหมือนดาราหนังเลย
ทำไมผมเกิดมา น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ จริง ๆแล้วมันพอดีมาตราฐานผู้หญิง
แต่มันต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานชายไทยนะสิครับ ผมสูงแค่ 168 น้ำหนักแค่ 50 มันก็ดูอ้วนนะถ้าเป็นผู้หญิง
แต่สำหรับผมมันก็กำลังดี T^T แต่ส่วนสูงจะต่ำไปไหน
พี่กายเขาหน้าตาดีจนผมคิดว่า ถ้าผมเป็นแมวมองจับคนไปเป็นดาราผมจะเลือกพี่เขาเลย อิจฉานะฮะ แต่ก็ต้องทำใจ
คนเราเลือกเกิดไม่ได้นิ
“ใจลอยไปไหนครับ ใจลอยไปไหน”
พี่กายเอามือมาขยับไปขยับมาที่หน้าผม
“ใจลอยถึงสาว ๆ ไงครับ ฮาๆ”
“อย่างรินพี่ว่า ใจลอยถึงหนุ่ม ๆ ไม่ดีกว่าเหรอครับ 555+”
พี่กายพูดจบพร้อมกับหัวเราะลั่นเลย อ๊ากกกก ผมอายนะครับ ผมก็มีส่วนเหมือนผู้ชายนะ
ยกเว้นหน้า ตรงอื่นผมก็ผู้ชายนะ ยิ่งตรงนั้น ผมก็ผู้ชายนะ -*-
“พี่กายฮะ!! -*- ผมผู้ชายนะ”
“ผู้ชายก็ผู้ชายครับ แต่ก็มันก็คล้ายผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอ่ะครับ”
“พอเหอะครับ พอเลยไม่คุยด้วยแล้ว”
“ครับ ๆ ทานอาหารเถอะ”
ตอนที่ผมกำลังนั่งเถียงกับพี่กายอาหารก็มาเสริฟตรงหน้าจนผมบอกว่า พอเหอะ จริงๆ
แล้วไม่ใช่รำคาญนะครับแต่ว่า อาหารมาแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว ขอหยุดคุยแล้วกินก่อนละกัน
ผมทานอาหารเสร็จเตรียมพร้อมลงมือการทำงานของผม เห้อ...บางครั้งอะไร ๆ ก็ไม่ได้ตามเป้าหมาย
หัวหน้าก็อ่ะนะ ชอบลวนลามผมด้วยสายตาอยู่เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เป็นผู้ชายที่ดูดี สาว ๆ ติดตรึม
หรือว่าเขากลับกลายพันธุ์ไปแล้ว กลายเป็นรู้สึกอะไรกับผมแทนถึงได้ส่งสายตา ชวนขนลุกมาให้ผมแทน
แต่ช่างเหอะผมก็ตั้งใจทำงานให้สุดฝีมือเผื่อวันใดวันหนึ่งผมอาจจะไปนั่งตำแหน่งผู้บริหาร โฮะ ๆ
แค่คิดก็ไม่อยากจะหยิกแขนตัวเองแล้ว
...........................................................
“ริน !! วันนี้เช็คสต็อกงานด้วยนะครับ”
“ครับ”
ผมขานรับแล้วเตรียมลุกขึ้นจะไปเช็คสต็อกงาน จะมีไหมนะวันไหนที่ผมจะเป็นคนสั่งแทน แค่คิดก็ลอยละลิ่ว ๆ ๆ แล้วละครับ
“ยาชุดนี้ยอดมันเท่าไรครับ”
“2000 ครับ ส่ง รพ.xxxx”
ผมเดินนับขวดยาที่ผ่านหน้าผมแต่ละขวดอย่างระเอียด นับตั้งแต่ต้นจนสุดแถว
“พี่ครับ สองพันขวด แต่ยอดมันหายไป หนึ่งขวดอ่ะครับ”
“มันก็มีเท่านี้ละครับ”
“อ่อ ครับ เดียวรินนับอีกรอบก็ได้”
เหอะ..ผมเดินนับใหม่หมดตั้งแต่ขวดแรกยันขวดสุดท้ายก็ได้ 1999 ขวด อยู่นั่น
“พี่ครับ หายหนึ่งขวดอ่ะ”
“น้องรินกำลังหา ขวดนี้อยู่ใช่ไหม”
พี่ที่อยู่แผนกงานส่งออกยืนถือขวดยาขวดที่สองพันพอดีเปะที่มือ
“ครับ ครบสักทีจะได้กลับบ้าน ฮาๆ”
“อ่ะ...ครับ”
พี่เขายื่นขวดมาให้ผม ผมกำลังเอื้อมมือจะไปหยิบ แต่พี่เขาดันเสือกกระชากกลับแล้วบอกว่า
“แลกกับเลข 10 หลักได้ไหมครับ”
เลข 10 หลักงั้นเหรอ ฮา ๆ -*- ไอ้บ้าเอ้ยยยยย ยย!!
“อ่อ ได้ครับงั้นขอขวดยาก่อนได้ไหมครับต้องเช็คของไปส่งหัวหน้าครับ”
“อ่ะ...”
ผมรีบคว้ามือหยิบขวดยานั้นอย่างเร็วแล้วเขียนยิก ๆ ที่กระดาษเช็คสต็อกของ
“ครบแล้วนะครับ งั้นรินขอตัวกลับก่อนนะครับ ขอบคุณครับ”
“อ่าว..น้องริน เลข 10 หลักละครับ”
ผมหันหลังเดินจ้ำ ๆ ไม่สนใจเสียงข้างหลังแม้แต่น้อยได้ยินเสียงแหว่ว ๆ ชิ...ผมก็ลูกมีพ่อมีแม่นะครับมาขอกันง่าย ๆ
แบบนี้ได้ที่ไหน ถ้าเป็นหญิงสาวผมจะไม่ขัดศรัทธาแม้แต่นิสสสส เดียว ฮุฮุๆ
...................................................
“น้องรินนน นน!!”
เอะ ! เสียงใครเรียกอีกแล้วว่ะเนี้ย ชีวิตนี้ ขอเสียงสาว ๆ มาเรียกได้ไหมเจอแต่เสียงผู้ชาย ๆ ๆ ๆๆๆ ๆๆๆๆ เนี้ย T^T
ผู้ชายต้องการผู้หญิงมันน้อยใจ T^T
ผมหันไปพร้อมเสียงนั้นทันที อ่อ พี่กายนี่เอง
“ห๊ะ ครับ”
“ถ้าน้องรินไม่รังเกียจ พี่ขอไปส่งน้องรินที่บ้านได้ไหมครับ”
“เอ่ออ...เมื่อเช้าพี่กายก็เลี้ยงข้าวรินแล้ว จะไปส่งบ้านอีกรินเกรงใจอ่ะครับ” *0*
จริง ๆ แล้วก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเสียงค่ารถกลับบ้าน ฮุฮุ ๆ แต่ก็คิดไปคิดมาก็รู้สึกเกรงใจนิดหนึ่ง อ่ะนะ
อะไรแบบเนี้ย 555+
“ไม่เป็นไรครับ แค่ไปส่งเองวันนี้น้องรินก็เช็คสต็อกของเหนื่อยด้วย เดียวพี่ไปส่งนะครับ”
หึ รู้ทันจริงอะไรจริง งั้นไม่เกรงใจละกัน ฮาๆ
“งั้นก็ได้ครับ”
“ป่ะ รถพี่จอดอยู่ตรงนู้นนะ”
ผมเดินตามพี่กาย ต่อย ๆ ๆ ๆ จนถึงรถ ฮอนด้า ซีวิดสีดำคันงามของพี่กายละครับ
ผมนั่งบนรถพี่กาย พี่กายเปิดแอร์ พร้อมเปิดเพลงหลาย ๆ เพลงขึ้นมาเพื่อผ่อนคลาย จนถึงคอนโดผมละครับ
ผมรู้สึกดี จริง ๆ นะ เมื่ออยู่กับพี่กายเขาดูเป็นพวกสปอต ดูแลเทคแคร์ ดีทุกอย่างทำให้ผมรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ไม่ใช่ผมขี้เกียดนะ แต่ผมแค่....
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงก็ทางผ่านอ่ะวันหลังก็มากับพี่ก็ได้จะได้ไม่ต้องลำบากขึ้นรถขึ้นรา มันอันตรายด้วย
เดียวโดนฉุด แผนกบัญชีก็ไม่มีคนสวยก็แย่เลยดิ”
“พี่กาย กลับบ้านได้แล้วครับ พูดเพ้อเจ้อ -*-“
ผมรีบบอกให้พี่กายกลับบ้าน ไม่งั้นเขาจะพูดเพ้อเจ้อวกวนเรื่องหน้าตาผมอยู่นั่นแหละ หน้าตาผมเป็นงี้แล้วไงครับ
ออกจะหล่อจะตายไป๊ !!
“ครับ ๆ ไล่เลยนะ งั้นเดียวพรุ่งนี้ 7.30 มารอพี่นะ เดียวพี่แวะมีรับ”
“ไม่เป็นไรครับ เดียวรินขึ้นรถไปเองเกรงใจ”
“ไม่เป็นไร ทางผ่านเดียวพี่มารับไม่ต้องเกรงใจหรอก”
เกรงใจนะครับ เกรงใจ เกรงใจ เกรงใจ แต่ ไม่เกรงใจก็ได้ T^T
“งั้นก็ได้ครับ ขอบคุณนะครับ”
“บ๊ายบายครับ น้องริน”
“อ่อ ครับ บ๊ายบาย”
ผมโบกมือบ๊ายบายพี่กายจนรถ ฮอนด้า ซีวิดหลุดจากสายตาผมละครับ ผมหันตัวกำลังจะเดิน
หมับ !! “แฟนมาส่งหรอเจ้”………………….
ขอโทษนะฮะที่มาต่อช้า พอดีว่าเคลียการบ้านอย่างหนักหน่วง~ T^T
ขอโทษจริง ๆ ฮะ T^T