>>ตอนที่ 52 [100%]<<
เฮ้โย่ว...สามวันนรกมาแล้วครับ
กราบสวัสดีสามวันแห่งการสอบ ไม่เคยเกลียดเลขสามเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย...เมื่อก่อนเกลียดไม่ได้เพราะมันคือชื่อตัวเอง ตอนนี้ล่ะขอเกลียดหน่อยเหอะ สอบทีนี่กะฆ่านักศึกษาตายคาห้องไปเลยใช่ไหมครับ...
เช้าสอบยันเที่ยง หลังเที่ยงสอบยันเย็น กลางคืนอ่านหนังสือเรื่องที่ต้องสอบในวันพรุ่งนี้ ไอ้กากบาทอะไม่เท่าไหร่ ไอ้ข้อเขียนเนี่ย...มึงเอ้ยยยยย มีแต่ข้อเขียนเรียงราย ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นของข้อสอบมันเป็นแบบนั้นเสียด้วย จะไม่อ่านหนังสือก็ไม่ได้ บอกตามตรง...อ่านแม่งทั้งที่ตาลายไปหมดเนี่ยแหละครับ
ผมเริ่มอ่านหนังสือพลางรำรึกถึงบุญคุณของผู้คิดค้นกาแฟขึ้นมาบนโลกใบนี้ หากไม่มีกาแฟผมก็คงไม่สามารถโต้รุ่งยาวๆ ยันวันที่สามแบบนี้ได้หรอก ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเพื่อจะเข้าสอบก๊อกสุดท้าย หมดนี่ผมก็จะเป็นไทแล้ว...อยากจะให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ ไม่...ไม่ดี เวลาผ่านไปเร็วผมจะไม่สามารถเขียนข้อสอบได้ทัน แค่ต้องมาเรียบเรียงประโยคที่อ่านมาให้ถูกต้องที่สุดก็ยากจะตายห่านแล้ว
“กูอยากนอน...” วิ่งวางหนังสือลงแล้วเอนตัวไปกับพื้น ทุกคนเป็นคนขยันก่อนเวลาเข้าสอบเสมอครับ ไม่น่าแปลกที่หน้าห้องจะมีแต่คนนั่งอ่านชีต ปากขมุบขมิบ ตาเหลือกตาลานเพื่อทบทวนสิ่งที่ได้อ่าน
แต่มันก็จะมีคนบางจำพวกที่ไม่สะทกสะท้านอะไร เสมือนว่าห้องสอบเป็นมิตรที่ดีของตนเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนส่วนใหญ่เขากลัวกัน ที่จริงก็น่าอิจฉานะที่ดูเหมือนสบายๆ กับการสอบอะ ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่ขี้กังวลในเรื่องเรียนไงครับก็เลยตั้งใจกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา กลัวทำคะแนนได้ไม่ดี กลัวเก็บความรู้ได้ไม่หมด หรือกลัวทำอะไรบางสิ่งบางอย่างตกหล่นไป
“ทุกคนอยากนอน รวมถึงกู” พีชนวดขมับตัวเองเบาๆ การอัดข้อมูลจำนวนมากใส่หัวในช่วงเวลาเร่งรีบมันหนักหนาสาหัสมากครับ
พี่มะเดี่ยวก็พยายามบอกตลอดว่าไม่ต้องโหมอ่านขนาดนั้น ให้เราอ่านให้สนุกและลองมีความสุขกับข้อมูลต่างๆ แล้วมันจะดีเอง แต่แหม...พูดง่ายอะครับ ทำจริงมันทำยากนะ อาจเพราะนิสัยผมเป็นแบบนี้ด้วยแหละ
“รวมกูด้วย” สอบเสร็จจะไปหาพี่มะเดี่ยว...หรือนอนดีวะ ไปหาเหอะ คือไม่ค่อยได้เจอกันเลยอะนอกจากตอนกลางคืนที่วิดีดอคอลคุยกัน พี่เขาก็ซ้อมหนักมาก เลิกตีหนึ่งตีสองแทบทุกคืนเหมือนกันอะ
โอดครวญกันไปก็เท่านั้น ไม่กี่นาทีต่อมาก็นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือต่อไป นี่ผมแอบเอายาทาแก้ปวดมานวดต้นคอของตัวเองด้วยนะ ก้มหน้าอ่านอะไรมากๆ หรือนานๆ มันจะปวดกล้ามเนื้อช่วงนี้ไปหมด ดังนั้นยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้เรามีสมาธิกับการอ่านได้มากขึ้น
โค้งสุดท้ายของการสอบเริ่มขึ้นหลังจากเราตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันอีกไม่นาน ข้อสอบไม่ยาก...แต่คำตอบอะยาก ช่วงแรกของการอ่านคำตอบในกระดาษเอสี่สีขาวตรงหน้ายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ผมต้องอ่านวนไปวนมาสักพักใหญ่ถึงสามารถเข้าใจและเริ่มทำได้ กินเวลามากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเกือบสิบนาที เพราะง่วงไงครับ...สมองเบลอหน่อยๆ ทำให้ความรู้ความเข้าใจของเรากระจัดกระจายไปหมด
ผมออกจากห้องเป็นคนเกือบสุดท้าย หลังจากเขียนคำตอบทั้งหมดลงไปก็อ่านทวนอีกครั้งเพื่อความไม่ประมาท ผมไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองพลาดเพราะรีบร้อนไปเองอะ พีชกับวิ่งแม่งออกไปนั่งรอด้านนอกกันแล้ว ก็ไม่เชิงว่าพวกมันทำเร็วนะ มันแค่ไม่ได้ทวนอะ เขีนเสร็จก็ส่งอาจารย์ออกไปเลย...
“ไปหาอะไรกินกันเหอะ หิวจะตายห่า...ง่วงด้วย มึงคอยดูนะ กูจะหลับแม่งแบบข้ามวันข้ามคืนกันไปข้างเลยไอ้สัตว์” หยาบคายอะวิ่ง ปลดปล่อยอารมณ์กันหน่อยงี้เหรอเพื่อน
“เออ หิว...ปะ” ผมตอบกลับทันที ตอนนี้สมองไม่ทำงานเท่าไหร่
“แล้วพี่มะเดี่ยวมึงอะ” พีชถามดักขึ้นมาก่อน
“เออ...” ผมลืมอ่านไลน์ของพี่เขาอะ มัวแต่สนใจเรื่องเรียนไง เมื่อเที่ยงกินข้าวด้วยกันอยู่ แล้วพี่เขาบอกอะไรสักอย่างวะ..ผมลืม
“พี่เขาไม่ได้บอกอะไรไว้เหรอ ปกติเลิกสอบต้องมารับมึงนี่” ถูกของวิ่ง ปกติพี่มะเดี่ยวมารับผมทุกเย็นเลย
“เออ เขาก็บอกว่าจะมารับนะ” ใช่ๆ ผมจำได้แล้ว แต่ไหนล่ะ ผมกับเพื่อนร่วมกันช่วยกันมองหาพี่มะเดี่ยว แกมักมารอตรงจักยานของผมอะนะ นี่ผมก็อยู่จักรยานแต่ไม่ยักเห็นพี่เขาเลย
“โทรถามแป็บ...” ตัดสินใจโทรออกเพื่อจะถามว่าพี่เขาอยู่ไหน ผมไม่ได้เครียดกับการที่ไม่มารับหรอก เพราะว่าผมน่ะยังไงก็ได้ แค่อยากให้บอกกันบ้าง พี่เขาแค่ซ้อมเต้นดึกยันดื่น แถมมาอยู่เกือบโต้รุ่งเป็นเพื่อนผมนี่ก็แย่แล้วอะ โทรมเป็นแฟนกันเลยล่ะฮะ...น่อวววว
“ไม่รับวะ ทิ้งไลน์ไว้ล่ะกัน” ส่งข้อความไปบอกแกว่าผมเลิกแล้วนะ พี่อยู่ไหน เขาอาจซ้อมเต้นอยู่ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์
จัดการเรื่องตัวเองเรียบร้อยเราทั้งหมดก็พากันไปหาอะไรกิน ซึ่งไม่ได้ไปไหนไกลกันเลยครับ เหนื่อยอะ เพลียด้วย เจออะไรอยู่ข้างทาง คนไม่เยอะก็นั่งแล้วสั่งอาหารโลด รสชาติสำหรับเราสามคนตอนนี้เป็นเรื่องรองจากความหิวและง่วงนอนครับผม
“มึง..ข้อสามมึงตอบไรวะ” ระหว่างรออาหาร วิ่งก็ถาม
“ข้อสามกูตอบสามหล่อที่สุดในโลก” ตอบมันทั้งที่ทำหน้านิ่งตาปรืปรอย
“พ่องงงงตาย”
“แล้วพ่อมึงสบายดีไหมล่ะ” อย่านะ…อย่ามาชวนทะเลาะกับกูตอนนี้ กูสู้คนนะเว้ย
“แน่นอน พ่อกูสบายดี” วิ่งลอยหน้าลอยตาตอบ
“อืม...แสดงว่าโรงเขาอย่างดีอะเนอะ” ป้าบ...ตบเข้าไปอีกดอก ไอ้วิ่งถึงกับเอื้อมมือมาหมายจะตบหัวผม แต่ผมหลบทัน
“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”
“รีบมาเอานะ มันเกะกะชีวิตกู” ยักคิ้วให้สองจึ้ก วิ่งนี่แทบจะถลาเข้ามาจับผมกดลงกับพื้นปูนข้อหาหมั่นไส้เกินพิกัดกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ
เอ๊ะ...ทำไมพีชนิ่งเหรอ อ่อ มันนั่งหลับในครับ
“อ่าวเฮ้ย ไอ้พีชตื่นเว้ย...ข้าวมาแล้ว” ผมเอาไหล่กระแทกเพื่อนด้วยความรักอันเปี่ยมล้น พีชสะดุ้งเฮือกทั้งที่มันเกือบจะตกเก้าอี้ เรียกเสียงฮาจากผมและวิ่งได้เป็นอย่างดี
เรารีบโซ้ยข้าวที่แม่ค้านำมาเสิร์ฟ หิวโหยเหมือนปอบลงมากเลยเรา ตอนเที่ยงกินเยอะนะ สงสัยเราใช้พลังงานไปกับความคิดมากไปหน่อยก็เลยมีสภาพเป็นอย่างนี้ ระหว่างที่กินข้าวกันอยู่ผมก็ได้รับข้อความไลน์จากพี่มะเดี่ยวว่าอยู่ห้อง...เอ เขาไม่ไปซ้อมเหรอ
ผมถามเขาเรื่องซ้อมแต่พี่มะเดี่ยวกลับอ่านแล้วไม่ตอบ นี่เป็นอะไรอ่า ไม่น่าจะโกรธหรืองอนอะไรผมได้นะ...ก็เรายังไม่ได้มาทะเลาะหรือผิดใจอะไรกันเลยนี่นา เมื่อเที่ยงก็ยังดีๆ กันอยู่ พี่เขาบอกว่าจะไปซ้อมที่ฟลอเปิดท้ายเหมือนเคยอะแหละ นี่ไปโพล่ห้องเฉย...มีอะไรหรือเปล่าวะ
“เป็นอะไรคิ้วขมวดเชียว” พีชหันมาถาม มันมองไลน์ผมนิดหน่อย
“พี่มะเดี่ยวบอกว่าอยู่ห้องวะ กูเลยว่ามันแปลกๆ...”
“ไม่แปลกมั้ง เนี่ย...พี่เรย์แม่งโพสต์รูปแก้วเหล้าเมื่อตอนบ่ายโมง ไม่ใช่ไปกินเหล้ากันเหรอ” วิ่งมันเปิดหน้าเฟซพี่เรย์ให้ผมดู เล่นแท็กครบทีมโดยมีข้อความบอกว่า...พักเหนื่อยหนึ่งวัน อ่าว...ไม่เห็นรู้เรื่องเลยกู
“พี่เขาไม่เห็นบอกกูเลย”
“กะจะบอกตอนมารับมึงมั้ง” เออ ก็อาจจะเป็นอย่างที่พีชมันพูดก็ได้เนาะ
“พี่ๆ เขาก็อย่างนี้...บทจะทำอะไรขึ้นมาก็ไม่บอกไม่กล่าวหรอก อยากทำก็ทำเลย”
“อืม” ผมเฉยๆ อะแหละ แค่สงสัย ตอนนี้ไม่สงสัยแล้ว เดี๋ยวกลับไปหาที่ห้องก็ได้
ภาพฝันที่ว่าสอบเสร็จแล้วเราจะปาร์ตี้ เราจะไปเที่ยวไปดื่มไปผ่อนคลายต่างๆ นาๆ ตอนก่อนสอบมลายหายไป ผมกับเพื่อนกินข้าวกันเสร็จปุ้บก็แยกย้ายกันปั้บ ไม่มีใครมีอารมณ์อยากปาร์ตี้ตอนนี้ทั้งนั้นอะ ผมปั่นจักรยานไปรับความรักที่ร้านน้าบอย พูดคุยกับน้านิดหน่อยก่อนขอตัวกลับเพราะง่วงมากอยากพักผ่อน ซึ่งน้าผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ความรักไม่เกาะหน้ารถเช่นทุกวัน มันนอนมอบอยู่ในตะกร้าเหมือนง่วงทั้งที่นี่แค่ช่วงเย็น หรือเพราะอากาศครึ้มฝนแบบนี้มันถึงได้อยากนอนนะ...
“แกต้องอิ่มมากแน่เลยความรัก ถึงไม่ยอมชูคอออกนอกรถรับลมเนี่ย” เอื้อมมือไปยีหัวมันเบาๆ ความรักช้อนตามองก่อนจะซบกระเป๋าผมแล้วหลับไป
เอ...ไม่สบายปะวะ
รู้สึกเป็นห่วงความรักขึ้นมาตงิดๆ เดี๋ยวไปหาพี่มะเดี่ยวแล้วลองดูอาการมันสักพักค่อยพาไปหาหมอแล้วกัน โรงพยาบาลที่รักษาสัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีหมอเฉพาะทางของหมากับแมว ประเภทนอกเหนือจากนั้นมีเป็นบางที่แล้วก็หายากนิดหน่อย แต่ผมรู้นะ...ผมไปถูก มีพี่แท็กซี่พาไปได้ทุกที่นั่นแหละ ฮา...
เอารถจักรยานจอดที่ประจำแล้วสะพายกระเป๋า ค่อยๆ อุ้มความรักที่ยังหลับด้วยความแผ่วเบา ไม่อยากให้มันตื่น ง่วงมากก็พักผ่อนไปนั่นแหละดีแล้ว วัยกำลังกินกำลังนอน เห็นหน้าตาหลับพริ้มของความรักแล้วก็รู้สึกชื่นใจยังไงไม่รู้...ชอบอะ
ผมตรงขึ้นห้องเลยไม่แวะซื้อของ กินมาอิ่มแล้วและพี่มะเดี่ยวก็น่าจะดื่มกับเพื่อนๆ ไม่ต้องการอะไรล่ะมั้ง คือถ้ามีใครสักคนหิวก็ค่อยลงมาซื้อของกินเอาก็ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร ลองหยิบมือถือขึ้นเช็กดูว่าพี่มะเดี่ยวได้ตอบคำถามผมหรือยัง ซึ่งก็มีแต่ที่อ่านแล้วไม่ได้ตอบกลับ แปลก...วันนี้แปลกจริงๆ แฮะ หรือว่าพี่เขาจะเมาก็เลยตอบไม่ได้ ผมไม่เคยเห็นพี่เขาเมาเลยนะ ตั้งแต่คบกันมาก็ไม่ค่อยดื่มด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นคนดื่มเหล้าได้มีสติมากอะ
ช่างเหอะ...ถึงห้องล่ะ
ก๊อกๆ
“พี่มะเดี่ยวคร้าบ…” เสียงเคาะห้องทำให้ความรักตื่นขึ้นมา มันเงยหน้ามองประตูสีดำเหมือนกับผม ข้างในมีเสียงเพลงดังแว่วๆ ห้องค่อนข้างเก็บเสียง แต่ที่รอดออกมาได้แบบนี้แสดงว่าต้องเปิดเพลงกันดังมาก ซ้อมเต้นเครียดจัดหรือไงนะ...
ผมลองเคาะอีกสองสามครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตู เคาะให้ดังมากก็ไม่ได้ เกรงใจคนในชั้นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะแก่การใช้กุญแจสำรองที่ได้มา คือเราสองคนแลกกุญแจกันเอาไว้อะครับ พี่เขามีของผม และผมก็มีของพี่เขาเผื่อจะเข้าออกห้องของอีกฝ่าย ตอนแรกไม่เห็นด้วยหรอกแต่มีไว้ก็ไม่เสียหาย
ไขเข้ามาสิ่งแรกที่เจอเลยคือเสียงเพลงที่ดังสนั่น แม้จะกินเหล้ากันก็ยังเปิดเพลงบีทที่เต้นในฟลอ พี่ๆ ไม่เบื่อกันเหรอครับเนี่ย ผมรีบปิดประตูก่อนจะมองคนในห้อง เพราะเสียงมันดังออกไปข้างนอกน่ะ จากนั้นเดินเข้ามา...โอ้โห หลายศพเลยเว้ย สภาพหนักกว่าพวกสอบเสร็จอย่างผมอีก ทั้งพี่เรย์ พี่แน เบิร์ดก้องและพี่มาร์ชเมาหลับกันคาวงเหล้า
เอ้า...แล้วพี่มะเดี่ยวกับพี่โซฮานอะ
ผมก้มหน้ามองความรัก มันกำลังสำรวจห้องที่อยู่ในสภาพเละเทะระเนระนาดด้วยเสื้อผ้า กางเกง อืม...กลิ่นถุงเท้าแรงมาก พวกพี่คิดจะซักถุงเท้ากันไหมครับ หรือคิดว่าจะใส่มันอาทิตย์ล่ะคู่เลยงี้ ตาย...คือเวลาเต้นเหงื่อมันออกใช่ปะล่ะ รองเท้าและถุงเท้าที่อับมันก็เลยมีกลิ่นรุนแรงพอสมควร
ผมเดินหลบๆ เลาะๆ ไปทางห้องนอน ก็ไม่รู้หรอกว่าจะอยู่ในนั้นกันไหม...แค่เดาเอาอะ จะเจอไม่เจอก็อีกเรื่อง คิดว่าถ้าผมไม่เจอพี่เขาก็จะกลับไปนอนก่อน ตื่นมาค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้ผมเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกันอะนะ
“พี่มะเดี่ยว...” เคาะแล้วลองเรียกดู
“อื้อ...” มีเสียงตอบกลับแฮะ สงสัยจะอยู่ในห้อง
“โซฮาน....” เอ๊ะ...พี่โซฮานก็อยู่ในนั้นเหรอ
ผมลองบิดลูกบิดประตู ปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อก เอาจริงๆ...ตอนนี้ใจไม่ดีเท่าไหร่ แต่ไม่คิดมาก ผมผลักประตูเข้าไปด้านใน ห้องมืดสลัวด้วยผ้าม่านและไฟไม่ได้เปิด แอร์ฉ่ำกับกลิ่นเหล้าเบาบาง ร่างสูงของพี่มะเดี่ยวกำลังพยายามลุกขึ้นนั่ง มือยกขึ้นกุมหัวตัวเอง แต่ข้างกาย...คือพี่โซฮาน
เพิ่งจะเห็นว่าเสื้อผ้ามันเกลื่อนกราดอยู่บนพื้นห้อง...มีทุกชิ้นที่มันควรอยู่บนร่างของเขาทั้งคู่ ตอนนี้หัวใจผมมันสั่นระรัวไปหมด...สะเทือนยิ่งกว่าการตกหลุมรักใครสักคน และมันก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกดี...กลับกัน มันแย่มาก
แย่มากจริงๆ...
“สาม...นี่เราสอบเสร็จแล้วเหรอครับ เฮ้ย พี่เมาอะ พี่...” เขายังไม่รู้ตัวจนกระทั่งพี่โซฮานลุกขึ้นนั่ง นั่นแหละ...พี่มะเดี่ยวถึงได้เห็นว่าสภาพตัวเองและรอบด้านเป็นอย่างไร
“ครับ ผมสอบเสร็จแล้ว” ผมตอบกลับ เป็นเสียงสั่นเกินควบคุมมากๆ แต่ผมก็ยังยืนอยู่ ยังมองพวกเขาบนเตียง มีผ้าห่มคลุมกายแต่ภายใต้ผ้าผืนหนากลับมีแค่ร่างเปลือยเปล่า
มีก้อนบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในคอ ผมพยายามกลืนมันลงไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อน้ำตาล้นทะลักออกมา มีคนเคยบอกว่าเราอย่าเชื่อในภาพที่เราเห็นมากเกินไป...ในภาพหนึ่งภาพมีหลายสิ่งหลายอย่างซ่อนอยู่
แต่ภาพนี้...ความรู้สึกที่โคตรจริงนี้ผมเชื่อไม่ได้เหรอ
“สาม คือ...มันไม่ใช่อย่างที่สามคิดนะ” พี่มะเดี่ยวทำท่าจะลุก เขาดูมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมกอดความรักเอาไว้แน่น...เอามันเป็นหลักยึดเพียงหลักเดียวในความรู้สึกตอนนี้
“ครับ…” ผมถอยหลังออกมาจากห้องช้าๆ มองใบหน้าสับสนของพี่มะเดี่ยวทั้งน้ำตา พี่โซฮานมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาปวดร้าว แม้ว่ามันจะอยู่ในความมืดและถูกเบลอให้เลือนลางด้วยน้ำตา ทว่าผมเห็นมันได้ชัดเจน
“เดี่ยวอย่าไป” พี่เขาไม่ปล่อยให้พี่มะเดี่ยวเดินมาหาผม วงแขนเล็กๆ ที่แข็งแรงโอบรอบเอวหนาเอาไว้ พี่มะเดี่ยวหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง มันเป็นวินาทีที่ผมตัดสินใจหันหลังกลับออกมา
หึ...เป็นเซอร์ไพรส์สอบเสร็จที่เด็ดดวงเป็นบ้า!
….100%….
โซฮานผู้ไม่เคยย่อท้อไลในการแย่งแฟนชาวบ้าน…