ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-  (อ่าน 69341 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 52 [100%]<<

เฮ้โย่ว...สามวันนรกมาแล้วครับ

กราบสวัสดีสามวันแห่งการสอบ ไม่เคยเกลียดเลขสามเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย...เมื่อก่อนเกลียดไม่ได้เพราะมันคือชื่อตัวเอง ตอนนี้ล่ะขอเกลียดหน่อยเหอะ สอบทีนี่กะฆ่านักศึกษาตายคาห้องไปเลยใช่ไหมครับ...

เช้าสอบยันเที่ยง หลังเที่ยงสอบยันเย็น กลางคืนอ่านหนังสือเรื่องที่ต้องสอบในวันพรุ่งนี้ ไอ้กากบาทอะไม่เท่าไหร่ ไอ้ข้อเขียนเนี่ย...มึงเอ้ยยยยย มีแต่ข้อเขียนเรียงราย ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นของข้อสอบมันเป็นแบบนั้นเสียด้วย จะไม่อ่านหนังสือก็ไม่ได้ บอกตามตรง...อ่านแม่งทั้งที่ตาลายไปหมดเนี่ยแหละครับ

ผมเริ่มอ่านหนังสือพลางรำรึกถึงบุญคุณของผู้คิดค้นกาแฟขึ้นมาบนโลกใบนี้ หากไม่มีกาแฟผมก็คงไม่สามารถโต้รุ่งยาวๆ ยันวันที่สามแบบนี้ได้หรอก ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเพื่อจะเข้าสอบก๊อกสุดท้าย หมดนี่ผมก็จะเป็นไทแล้ว...อยากจะให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ ไม่...ไม่ดี เวลาผ่านไปเร็วผมจะไม่สามารถเขียนข้อสอบได้ทัน แค่ต้องมาเรียบเรียงประโยคที่อ่านมาให้ถูกต้องที่สุดก็ยากจะตายห่านแล้ว

“กูอยากนอน...” วิ่งวางหนังสือลงแล้วเอนตัวไปกับพื้น ทุกคนเป็นคนขยันก่อนเวลาเข้าสอบเสมอครับ ไม่น่าแปลกที่หน้าห้องจะมีแต่คนนั่งอ่านชีต ปากขมุบขมิบ ตาเหลือกตาลานเพื่อทบทวนสิ่งที่ได้อ่าน

แต่มันก็จะมีคนบางจำพวกที่ไม่สะทกสะท้านอะไร เสมือนว่าห้องสอบเป็นมิตรที่ดีของตนเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนส่วนใหญ่เขากลัวกัน ที่จริงก็น่าอิจฉานะที่ดูเหมือนสบายๆ กับการสอบอะ ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่ขี้กังวลในเรื่องเรียนไงครับก็เลยตั้งใจกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา กลัวทำคะแนนได้ไม่ดี กลัวเก็บความรู้ได้ไม่หมด หรือกลัวทำอะไรบางสิ่งบางอย่างตกหล่นไป

“ทุกคนอยากนอน รวมถึงกู” พีชนวดขมับตัวเองเบาๆ การอัดข้อมูลจำนวนมากใส่หัวในช่วงเวลาเร่งรีบมันหนักหนาสาหัสมากครับ

พี่มะเดี่ยวก็พยายามบอกตลอดว่าไม่ต้องโหมอ่านขนาดนั้น ให้เราอ่านให้สนุกและลองมีความสุขกับข้อมูลต่างๆ แล้วมันจะดีเอง แต่แหม...พูดง่ายอะครับ ทำจริงมันทำยากนะ อาจเพราะนิสัยผมเป็นแบบนี้ด้วยแหละ

“รวมกูด้วย” สอบเสร็จจะไปหาพี่มะเดี่ยว...หรือนอนดีวะ ไปหาเหอะ คือไม่ค่อยได้เจอกันเลยอะนอกจากตอนกลางคืนที่วิดีดอคอลคุยกัน พี่เขาก็ซ้อมหนักมาก เลิกตีหนึ่งตีสองแทบทุกคืนเหมือนกันอะ

โอดครวญกันไปก็เท่านั้น ไม่กี่นาทีต่อมาก็นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือต่อไป นี่ผมแอบเอายาทาแก้ปวดมานวดต้นคอของตัวเองด้วยนะ ก้มหน้าอ่านอะไรมากๆ หรือนานๆ มันจะปวดกล้ามเนื้อช่วงนี้ไปหมด ดังนั้นยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้เรามีสมาธิกับการอ่านได้มากขึ้น

โค้งสุดท้ายของการสอบเริ่มขึ้นหลังจากเราตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันอีกไม่นาน ข้อสอบไม่ยาก...แต่คำตอบอะยาก ช่วงแรกของการอ่านคำตอบในกระดาษเอสี่สีขาวตรงหน้ายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ผมต้องอ่านวนไปวนมาสักพักใหญ่ถึงสามารถเข้าใจและเริ่มทำได้ กินเวลามากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเกือบสิบนาที เพราะง่วงไงครับ...สมองเบลอหน่อยๆ ทำให้ความรู้ความเข้าใจของเรากระจัดกระจายไปหมด

ผมออกจากห้องเป็นคนเกือบสุดท้าย หลังจากเขียนคำตอบทั้งหมดลงไปก็อ่านทวนอีกครั้งเพื่อความไม่ประมาท ผมไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองพลาดเพราะรีบร้อนไปเองอะ พีชกับวิ่งแม่งออกไปนั่งรอด้านนอกกันแล้ว ก็ไม่เชิงว่าพวกมันทำเร็วนะ มันแค่ไม่ได้ทวนอะ เขีนเสร็จก็ส่งอาจารย์ออกไปเลย...

“ไปหาอะไรกินกันเหอะ หิวจะตายห่า...ง่วงด้วย มึงคอยดูนะ กูจะหลับแม่งแบบข้ามวันข้ามคืนกันไปข้างเลยไอ้สัตว์” หยาบคายอะวิ่ง ปลดปล่อยอารมณ์กันหน่อยงี้เหรอเพื่อน

“เออ หิว...ปะ” ผมตอบกลับทันที ตอนนี้สมองไม่ทำงานเท่าไหร่

“แล้วพี่มะเดี่ยวมึงอะ” พีชถามดักขึ้นมาก่อน

“เออ...” ผมลืมอ่านไลน์ของพี่เขาอะ มัวแต่สนใจเรื่องเรียนไง เมื่อเที่ยงกินข้าวด้วยกันอยู่ แล้วพี่เขาบอกอะไรสักอย่างวะ..ผมลืม

“พี่เขาไม่ได้บอกอะไรไว้เหรอ ปกติเลิกสอบต้องมารับมึงนี่” ถูกของวิ่ง ปกติพี่มะเดี่ยวมารับผมทุกเย็นเลย

“เออ เขาก็บอกว่าจะมารับนะ” ใช่ๆ ผมจำได้แล้ว แต่ไหนล่ะ ผมกับเพื่อนร่วมกันช่วยกันมองหาพี่มะเดี่ยว แกมักมารอตรงจักยานของผมอะนะ นี่ผมก็อยู่จักรยานแต่ไม่ยักเห็นพี่เขาเลย

“โทรถามแป็บ...” ตัดสินใจโทรออกเพื่อจะถามว่าพี่เขาอยู่ไหน ผมไม่ได้เครียดกับการที่ไม่มารับหรอก เพราะว่าผมน่ะยังไงก็ได้ แค่อยากให้บอกกันบ้าง พี่เขาแค่ซ้อมเต้นดึกยันดื่น แถมมาอยู่เกือบโต้รุ่งเป็นเพื่อนผมนี่ก็แย่แล้วอะ โทรมเป็นแฟนกันเลยล่ะฮะ...น่อวววว

“ไม่รับวะ ทิ้งไลน์ไว้ล่ะกัน” ส่งข้อความไปบอกแกว่าผมเลิกแล้วนะ พี่อยู่ไหน เขาอาจซ้อมเต้นอยู่ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์

จัดการเรื่องตัวเองเรียบร้อยเราทั้งหมดก็พากันไปหาอะไรกิน ซึ่งไม่ได้ไปไหนไกลกันเลยครับ เหนื่อยอะ เพลียด้วย เจออะไรอยู่ข้างทาง คนไม่เยอะก็นั่งแล้วสั่งอาหารโลด รสชาติสำหรับเราสามคนตอนนี้เป็นเรื่องรองจากความหิวและง่วงนอนครับผม

“มึง..ข้อสามมึงตอบไรวะ” ระหว่างรออาหาร วิ่งก็ถาม

“ข้อสามกูตอบสามหล่อที่สุดในโลก” ตอบมันทั้งที่ทำหน้านิ่งตาปรืปรอย

“พ่องงงงตาย”

“แล้วพ่อมึงสบายดีไหมล่ะ” อย่านะ…อย่ามาชวนทะเลาะกับกูตอนนี้ กูสู้คนนะเว้ย

“แน่นอน พ่อกูสบายดี” วิ่งลอยหน้าลอยตาตอบ

“อืม...แสดงว่าโรงเขาอย่างดีอะเนอะ” ป้าบ...ตบเข้าไปอีกดอก ไอ้วิ่งถึงกับเอื้อมมือมาหมายจะตบหัวผม แต่ผมหลบทัน

“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”

“รีบมาเอานะ มันเกะกะชีวิตกู” ยักคิ้วให้สองจึ้ก วิ่งนี่แทบจะถลาเข้ามาจับผมกดลงกับพื้นปูนข้อหาหมั่นไส้เกินพิกัดกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ

เอ๊ะ...ทำไมพีชนิ่งเหรอ อ่อ มันนั่งหลับในครับ

“อ่าวเฮ้ย ไอ้พีชตื่นเว้ย...ข้าวมาแล้ว” ผมเอาไหล่กระแทกเพื่อนด้วยความรักอันเปี่ยมล้น พีชสะดุ้งเฮือกทั้งที่มันเกือบจะตกเก้าอี้ เรียกเสียงฮาจากผมและวิ่งได้เป็นอย่างดี

เรารีบโซ้ยข้าวที่แม่ค้านำมาเสิร์ฟ หิวโหยเหมือนปอบลงมากเลยเรา ตอนเที่ยงกินเยอะนะ สงสัยเราใช้พลังงานไปกับความคิดมากไปหน่อยก็เลยมีสภาพเป็นอย่างนี้ ระหว่างที่กินข้าวกันอยู่ผมก็ได้รับข้อความไลน์จากพี่มะเดี่ยวว่าอยู่ห้อง...เอ เขาไม่ไปซ้อมเหรอ

ผมถามเขาเรื่องซ้อมแต่พี่มะเดี่ยวกลับอ่านแล้วไม่ตอบ นี่เป็นอะไรอ่า ไม่น่าจะโกรธหรืองอนอะไรผมได้นะ...ก็เรายังไม่ได้มาทะเลาะหรือผิดใจอะไรกันเลยนี่นา เมื่อเที่ยงก็ยังดีๆ กันอยู่ พี่เขาบอกว่าจะไปซ้อมที่ฟลอเปิดท้ายเหมือนเคยอะแหละ นี่ไปโพล่ห้องเฉย...มีอะไรหรือเปล่าวะ

“เป็นอะไรคิ้วขมวดเชียว” พีชหันมาถาม มันมองไลน์ผมนิดหน่อย

“พี่มะเดี่ยวบอกว่าอยู่ห้องวะ กูเลยว่ามันแปลกๆ...”

“ไม่แปลกมั้ง เนี่ย...พี่เรย์แม่งโพสต์รูปแก้วเหล้าเมื่อตอนบ่ายโมง ไม่ใช่ไปกินเหล้ากันเหรอ” วิ่งมันเปิดหน้าเฟซพี่เรย์ให้ผมดู เล่นแท็กครบทีมโดยมีข้อความบอกว่า...พักเหนื่อยหนึ่งวัน อ่าว...ไม่เห็นรู้เรื่องเลยกู

“พี่เขาไม่เห็นบอกกูเลย”

“กะจะบอกตอนมารับมึงมั้ง” เออ ก็อาจจะเป็นอย่างที่พีชมันพูดก็ได้เนาะ

“พี่ๆ เขาก็อย่างนี้...บทจะทำอะไรขึ้นมาก็ไม่บอกไม่กล่าวหรอก อยากทำก็ทำเลย”

“อืม” ผมเฉยๆ อะแหละ แค่สงสัย ตอนนี้ไม่สงสัยแล้ว เดี๋ยวกลับไปหาที่ห้องก็ได้

ภาพฝันที่ว่าสอบเสร็จแล้วเราจะปาร์ตี้ เราจะไปเที่ยวไปดื่มไปผ่อนคลายต่างๆ นาๆ ตอนก่อนสอบมลายหายไป ผมกับเพื่อนกินข้าวกันเสร็จปุ้บก็แยกย้ายกันปั้บ ไม่มีใครมีอารมณ์อยากปาร์ตี้ตอนนี้ทั้งนั้นอะ ผมปั่นจักรยานไปรับความรักที่ร้านน้าบอย พูดคุยกับน้านิดหน่อยก่อนขอตัวกลับเพราะง่วงมากอยากพักผ่อน ซึ่งน้าผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ความรักไม่เกาะหน้ารถเช่นทุกวัน มันนอนมอบอยู่ในตะกร้าเหมือนง่วงทั้งที่นี่แค่ช่วงเย็น หรือเพราะอากาศครึ้มฝนแบบนี้มันถึงได้อยากนอนนะ...

“แกต้องอิ่มมากแน่เลยความรัก ถึงไม่ยอมชูคอออกนอกรถรับลมเนี่ย” เอื้อมมือไปยีหัวมันเบาๆ ความรักช้อนตามองก่อนจะซบกระเป๋าผมแล้วหลับไป

เอ...ไม่สบายปะวะ

รู้สึกเป็นห่วงความรักขึ้นมาตงิดๆ เดี๋ยวไปหาพี่มะเดี่ยวแล้วลองดูอาการมันสักพักค่อยพาไปหาหมอแล้วกัน โรงพยาบาลที่รักษาสัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีหมอเฉพาะทางของหมากับแมว ประเภทนอกเหนือจากนั้นมีเป็นบางที่แล้วก็หายากนิดหน่อย แต่ผมรู้นะ...ผมไปถูก มีพี่แท็กซี่พาไปได้ทุกที่นั่นแหละ ฮา...

เอารถจักรยานจอดที่ประจำแล้วสะพายกระเป๋า ค่อยๆ อุ้มความรักที่ยังหลับด้วยความแผ่วเบา ไม่อยากให้มันตื่น ง่วงมากก็พักผ่อนไปนั่นแหละดีแล้ว วัยกำลังกินกำลังนอน เห็นหน้าตาหลับพริ้มของความรักแล้วก็รู้สึกชื่นใจยังไงไม่รู้...ชอบอะ

ผมตรงขึ้นห้องเลยไม่แวะซื้อของ กินมาอิ่มแล้วและพี่มะเดี่ยวก็น่าจะดื่มกับเพื่อนๆ ไม่ต้องการอะไรล่ะมั้ง คือถ้ามีใครสักคนหิวก็ค่อยลงมาซื้อของกินเอาก็ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร ลองหยิบมือถือขึ้นเช็กดูว่าพี่มะเดี่ยวได้ตอบคำถามผมหรือยัง ซึ่งก็มีแต่ที่อ่านแล้วไม่ได้ตอบกลับ แปลก...วันนี้แปลกจริงๆ แฮะ หรือว่าพี่เขาจะเมาก็เลยตอบไม่ได้ ผมไม่เคยเห็นพี่เขาเมาเลยนะ ตั้งแต่คบกันมาก็ไม่ค่อยดื่มด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นคนดื่มเหล้าได้มีสติมากอะ

ช่างเหอะ...ถึงห้องล่ะ

ก๊อกๆ

“พี่มะเดี่ยวคร้าบ…” เสียงเคาะห้องทำให้ความรักตื่นขึ้นมา มันเงยหน้ามองประตูสีดำเหมือนกับผม ข้างในมีเสียงเพลงดังแว่วๆ ห้องค่อนข้างเก็บเสียง แต่ที่รอดออกมาได้แบบนี้แสดงว่าต้องเปิดเพลงกันดังมาก ซ้อมเต้นเครียดจัดหรือไงนะ...

ผมลองเคาะอีกสองสามครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตู เคาะให้ดังมากก็ไม่ได้ เกรงใจคนในชั้นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะแก่การใช้กุญแจสำรองที่ได้มา คือเราสองคนแลกกุญแจกันเอาไว้อะครับ พี่เขามีของผม และผมก็มีของพี่เขาเผื่อจะเข้าออกห้องของอีกฝ่าย ตอนแรกไม่เห็นด้วยหรอกแต่มีไว้ก็ไม่เสียหาย

ไขเข้ามาสิ่งแรกที่เจอเลยคือเสียงเพลงที่ดังสนั่น แม้จะกินเหล้ากันก็ยังเปิดเพลงบีทที่เต้นในฟลอ พี่ๆ ไม่เบื่อกันเหรอครับเนี่ย ผมรีบปิดประตูก่อนจะมองคนในห้อง เพราะเสียงมันดังออกไปข้างนอกน่ะ จากนั้นเดินเข้ามา...โอ้โห หลายศพเลยเว้ย สภาพหนักกว่าพวกสอบเสร็จอย่างผมอีก ทั้งพี่เรย์ พี่แน เบิร์ดก้องและพี่มาร์ชเมาหลับกันคาวงเหล้า

เอ้า...แล้วพี่มะเดี่ยวกับพี่โซฮานอะ

ผมก้มหน้ามองความรัก มันกำลังสำรวจห้องที่อยู่ในสภาพเละเทะระเนระนาดด้วยเสื้อผ้า กางเกง อืม...กลิ่นถุงเท้าแรงมาก พวกพี่คิดจะซักถุงเท้ากันไหมครับ หรือคิดว่าจะใส่มันอาทิตย์ล่ะคู่เลยงี้ ตาย...คือเวลาเต้นเหงื่อมันออกใช่ปะล่ะ รองเท้าและถุงเท้าที่อับมันก็เลยมีกลิ่นรุนแรงพอสมควร

ผมเดินหลบๆ เลาะๆ ไปทางห้องนอน ก็ไม่รู้หรอกว่าจะอยู่ในนั้นกันไหม...แค่เดาเอาอะ จะเจอไม่เจอก็อีกเรื่อง คิดว่าถ้าผมไม่เจอพี่เขาก็จะกลับไปนอนก่อน ตื่นมาค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้ผมเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกันอะนะ

“พี่มะเดี่ยว...” เคาะแล้วลองเรียกดู

“อื้อ...” มีเสียงตอบกลับแฮะ สงสัยจะอยู่ในห้อง

“โซฮาน....” เอ๊ะ...พี่โซฮานก็อยู่ในนั้นเหรอ

ผมลองบิดลูกบิดประตู ปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อก เอาจริงๆ...ตอนนี้ใจไม่ดีเท่าไหร่ แต่ไม่คิดมาก ผมผลักประตูเข้าไปด้านใน ห้องมืดสลัวด้วยผ้าม่านและไฟไม่ได้เปิด แอร์ฉ่ำกับกลิ่นเหล้าเบาบาง ร่างสูงของพี่มะเดี่ยวกำลังพยายามลุกขึ้นนั่ง มือยกขึ้นกุมหัวตัวเอง แต่ข้างกาย...คือพี่โซฮาน

เพิ่งจะเห็นว่าเสื้อผ้ามันเกลื่อนกราดอยู่บนพื้นห้อง...มีทุกชิ้นที่มันควรอยู่บนร่างของเขาทั้งคู่ ตอนนี้หัวใจผมมันสั่นระรัวไปหมด...สะเทือนยิ่งกว่าการตกหลุมรักใครสักคน และมันก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกดี...กลับกัน มันแย่มาก

แย่มากจริงๆ...

“สาม...นี่เราสอบเสร็จแล้วเหรอครับ เฮ้ย พี่เมาอะ พี่...” เขายังไม่รู้ตัวจนกระทั่งพี่โซฮานลุกขึ้นนั่ง นั่นแหละ...พี่มะเดี่ยวถึงได้เห็นว่าสภาพตัวเองและรอบด้านเป็นอย่างไร

“ครับ ผมสอบเสร็จแล้ว” ผมตอบกลับ เป็นเสียงสั่นเกินควบคุมมากๆ แต่ผมก็ยังยืนอยู่ ยังมองพวกเขาบนเตียง มีผ้าห่มคลุมกายแต่ภายใต้ผ้าผืนหนากลับมีแค่ร่างเปลือยเปล่า

มีก้อนบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในคอ ผมพยายามกลืนมันลงไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อน้ำตาล้นทะลักออกมา มีคนเคยบอกว่าเราอย่าเชื่อในภาพที่เราเห็นมากเกินไป...ในภาพหนึ่งภาพมีหลายสิ่งหลายอย่างซ่อนอยู่

แต่ภาพนี้...ความรู้สึกที่โคตรจริงนี้ผมเชื่อไม่ได้เหรอ

“สาม คือ...มันไม่ใช่อย่างที่สามคิดนะ” พี่มะเดี่ยวทำท่าจะลุก เขาดูมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมกอดความรักเอาไว้แน่น...เอามันเป็นหลักยึดเพียงหลักเดียวในความรู้สึกตอนนี้

“ครับ…” ผมถอยหลังออกมาจากห้องช้าๆ มองใบหน้าสับสนของพี่มะเดี่ยวทั้งน้ำตา พี่โซฮานมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาปวดร้าว แม้ว่ามันจะอยู่ในความมืดและถูกเบลอให้เลือนลางด้วยน้ำตา ทว่าผมเห็นมันได้ชัดเจน
“เดี่ยวอย่าไป” พี่เขาไม่ปล่อยให้พี่มะเดี่ยวเดินมาหาผม วงแขนเล็กๆ ที่แข็งแรงโอบรอบเอวหนาเอาไว้ พี่มะเดี่ยวหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง มันเป็นวินาทีที่ผมตัดสินใจหันหลังกลับออกมา

หึ...เป็นเซอร์ไพรส์สอบเสร็จที่เด็ดดวงเป็นบ้า!

….100%….

โซฮานผู้ไม่เคยย่อท้อไลในการแย่งแฟนชาวบ้าน… :katai1:

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เวรกรรมยังไม่จบ :เฮ้อ:


ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อะไรขนาดนั้นอ่ะแบบตอนมีโอกาสให้ศึกษากันก็ไม่ทำแต่พอเขามีแฟนก็พยายามทุกทางอ่ะนะโคตรขี้แพ้อ่ะโซฮาน แล้วก็พี่มะเดี่ยวนะถ้ายังคิดไม่ได้ก็เลิกกันไปเลยเด้ออออถ้าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนแล้วยังเป็นแบบนี้ก็เกลียดกันไปเลย

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :z3: สามต้องจัดการแล้ววว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น้องสามผิดอะไรอ่ะ ทำไมต้องมาเสียใจด้วย  :a5: :a5: :a5: แล้วต่อไปไอ้พี่มะเดี่ยวแมร่งจะคบอีโซนี่ต่อป่าวว่ะ ถ้าคบต่อนี่น่าสงสารสามนะ :hao4: ส่วนอีโซน้องสามค่ะบวกเลยค่ะลูก ปล่อยให้มันลูบคมมานานแล้วอย่าไปยอม  :m16: :m31: :fire:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 53 [100%]<<

ผมไปไหนไม่ได้ไกล ปิดประตูห้องของตัวเองได้ขามันก็อ่อนแรงลงทันที...ผมทรุดกายอยู่ตรงนั้น กอดความรักเอาไว้แล้วร้องไห้เมือนเด็กๆ ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกันที่ทำให้ผมร้องเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ เป็นความเสียใจ เป็นความผิดหวัง...ผมรู้แค่ผมเจ็บปวดกับมัน

แปลกนะ...มีแฟนมาทั้งชีวิตไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยคิดด้วยว่าวันหนึ่งเราจะเปิดประตูมาเจอแฟนเรานอนอยู่กับคนอื่น เป็นภาพที่...ผมไม่เคยจินตนาการเอาไว้เลยจริงๆ ชีวิตผมมีความสุขมาก...มีความสุขมาโดยตลอด ต่อให้ต้องเลิกรากับใครไป ผมก็ไม่เคยเสียใจขนาดนี้ เราต่างเข้าใจเหตุและผลของการจากกันดี แต่นี่...มันเป็นความไม่เข้าใจ

มันแน่นไปทั้งอก..ปวดร้าวอยู่ข้างในลึกๆ แล้วก็ทำอะไรกับมันไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกเหล่านั้น เนื้อตัวสั่นไหวไปหมด...เป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตของผมคนนี้ แล้วผมควรจัดการกับมันยังไง แก้ไขความรู้สึกที่เหมือนแตกสลายไปแล้วนี้ยังไงดี...

“สาม...สามเปิดประตูมาคุยกับพี่ก่อน” เสียงประตูแบบไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องดังขึ้น แผ่นหลังของผมสะเทือนเพราะแรงกระทำนั้น แต่ผมยิ่งร้องไห้หนักเมื่อได้ยินเสียงคนที่ผม...รัก

ผมชอบคนง่าย...แต่ผมรักคนยาก

และผม...รักพี่เขา

“สามพี่ขอร้อง ออกมาคุยกับพี่ก่อน มันไม่ใช่อย่างที่สามคิด...พี่กับโซฮานไม่ได้มีอะไรกัน” เสียงเคาะห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมไม่ยอมเปิดประตูออกไป ผมลุกไม่ไหว...ผมทำใจไม่ได้

แต่พี่มะเดี่ยวไม่ก็ยอมจากไป เอาแต่เรียกอยู่แบบนั้นแล้วก็เคาะห้องอยู่อย่างนั้น ไม่นานนักเพื่อนๆ ของเขาก็ออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรเหรอ...พี่มะเดี่ยวไม่ตอบคำถามของใคร ได้แต่ขอให้คนเหล่านั้นกลับไปเพราะตอนนี้เขาอยากอยู่คนเดียว เขาอยากคุยกับผม เพื่อนๆ จำต้องจากไปอย่างเสียไม่ได้ พี่มะเดี่ยวมุมานะในการเรียกผมต่อไปพร้อมทั้งเคาะประตูห้องแรงมากขึ้นไปอีก

ความรักหวาดกลัวเสียงประตูเดือดดาน มันวิ่งลงจากวงแขนของผมไปหลบที่โซฟา ผมอยากตามไปบ้าง แต่ถ้าเราไม่คุยกัน พี่เขาก็อาจจะเคาะอยู่อย่างนี้ไม่ยอมหยุด สุดท้ายไม่ว่ายังไงเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี ผมตัดสินใจลุกขึ้นโดยใช้มือเหนี่ยวลูกบิดเพื่อดึงร่างอ่อนแรงของตัวเอง ปาดน้ำอันมากมายทิ้งแล้วพยายามยิ้มเมื่อเปิดประตูไปเจอหน้าพี่มะเดี่ยว

“ครับ...” พี่เขามองหน้าผมนิ่ง เหมือนที่ผมก็จ้องเขานิ่งเช่นกัน อะไรบางอย่างข้างในใจมันเอ่อท้นไปหมด...แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดี สิ่งที่มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับเรามันหายไป

“พี่กับโซฮานไม่ได้มีอะไรกันนะสาม” เขาเหมือนพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ในหัว

“ครับ” ผมขานรับรู้

“เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ก็ไมรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...แต่เราไม่ได้มีอะไรกันแน่ๆ สาม” พี่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วพี่จะมายืนยันได้ยังไงว่ามันไม่มีอะไร

“อืม ผมรู้แล้ว”

“ไม่จริง สามไม่ได้รู้...สามไม่ได้เข้าใจ พี่ขอโทษ แต่พี่อยากให้สามเชื่อพี่ว่า...พี่ไม่ได้นอกกายหรือนอกใจสามเลยนะครับ” พี่มะเดี่ยวดึงร่างผมเข้าไปกอด กลิ่นเหล้ายังคงอบอวลไปหมด...และวงแขนของเขาก็สั่นมากทีเดียว

“ผมเข้าใจจริงๆ มันอาจเป็น...อุบัติเหตุ”

“ไม่ มันไม่ใช่อุบัติเหตุ พี่กับโซฮานเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ” ก็พูดได้ไง...ใครก็พูดได้จริงไหมล่ะ

“ครับ” แต่ในเมื่อจะยืนยันแบบนั้น ผมก็จะรับเอาไว้

“โซฮานชวนกินเหล้าเมื่อบ่าย ทุกคนเห็นด้วยแม้พี่จะแย้ง แต่เห็นลูกทีมเหนื่อยก็เลยปล่อยไป พี่ไม่ได้ดื่มเยอะ แต่...พี่กลับเมา พี่จำเรื่องหลังจากนั้นมากไม่ได้ พี่ขอตัวไปนอนห้อง...น่าจะแบบนั้น แล้วที่ไม่ได้บอกเราเพราะว่าพี่ไม่ได้กะจะเมาไง พี่แค่ดื่มกับพวกมันไม่กี่แก้วเอง...” จู่ๆ พี่มะเดี่ยวก็เล่าเรื่องวันนี้ให้ผมฟัง...

“ไม่เป็นไรพี่...” แต่เพราะผมไม่รับรู้อะไร มันเข้าหูนะ แต่มันไม่เข้าใจ ผมค่อยๆ ดันอกพี่เขาออกจากตัว

“พี่อยากให้สามเชื่อพี่”

“ผม...เชื่อพี่” ทว่าน้ำตาที่มันไหลมันไม่ได้หมายความว่าผมไม่เชื่อเขา ผมแค่เจ็บ...

“สาม...” พี่มะเดี่ยวยื่นมือมาหมายเช็ดน้ำตาให้ แต่ผมกลับถอยเท้าหนี ผมมองหน้าเขา...ผมยิ้มให้แม้น้ำตาจะร่วงหล่น

“ผมเชื่อพี่ครับ แต่ผม...ยังทำใจไม่ได้ ผมรู้...ผมพยายามเข้าใจ แต่ผมรับไม่ได้ ผมขอโทษ...ผมขอเวลานะ” ตัดสินใจถอยเท้าเข้าห้องตัวเอง พี่มะเดี่ยวตั้งใจจะเอื้อมมือมารั้งตัวผมเอาไว้แต่ไม่ทัน

สีหน้าพี่เขาเจ็บปวด...แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเสียใจแม้ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกความรู้สึกเหล่านี้ว่าอะไร จะจัดการกับมันยังผมก็ไม่รู้ พยายามเข้าใจและผมไม่คิดว่าพี่จะโกหกในเรื่องที่พูด แต่ลึกๆ....ข้างในนี้มันรับไม่ได้

เราเจ็บเพราะเรารัก…ความรู้สึกตอนนี้กำลังนำทางเหตุผล น่าจะใช่นะ เพราะในหัวของผมมันเต็มไปด้วยคำว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้ ทั้งที่พี่มะเดี่ยวอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ผมได้ฟังแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก...แต่ผมกลับไม่เข้าใจมัน

ผมเดินไปอุ้มความรัก พามันเข้ามาในห้อง กอดมันเอาไว้แล้วร้องไห้อยู่กับมัน...ความรักของผมอาจเมินเฉยต่อผมบ้าง อาจไม่รักดีไปบ้าง แต่มันไม่เคยทำให้ผมเจ็บปวดได้ลึกขนาดนี้ ความรักพยายามจะเลียน้ำตาออกให้ ความใส่ใจเล็กๆ ที่ไม่คิดว่ามันจะมอบให้กับผมทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาบางๆ

อย่างน้อย...ผมก็มีมัน

“ป๊าไม่ร้องแล้ว...พอแล้วไม่ต้องเลีย เดี๋ยวท้องเสียอะแก” เอาปากคลอเคลียกับหัวความรักเบาๆ มันเริ่มสงบเมื่อผมสงบ

ก็ยังเจ็บ...แต่สงสารมันที่เอาแต่เลียน้ำตาผมอยู่แบบนั้นไม่เลิก ผมกอดความรักเอาไว้แน่นๆ ไม่อยากให้มันหายไป ไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วหวนกลับไปร้องไห้เพราะเรื่องจากภาพที่เห็น ความอ่อนเพลียจากการสอบทำให้ผมค่อยๆ จมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความฝันได้อย่างง่ายดาย...

ก่อนผมจะหลับ...ผมคิดว่าผมควรจะไปตั้งหลักก่อน

ผมปิดทุกช่องทางการติดต่อ เปิดโหมดเครื่องบินให้ไม่มีใครสามารถติดต่อะไรผมได้ทั้งนั้น เสื้อผ้าถูกเก็บจนหมดแล้ว...เตรียมตัวเพื่อจะเดินทางกลับบ้านในเช้ามืดของวันต่อมา คือตื่นปุ้บผมก็เก็บของเลย

แน่นอน...ความเจ็บปวดยังคงอยู่ที่เดิม มีมากเท่าเดิม และก็หาทางออกไม่ได้เหมือนเดิม...แต่การทำตัวให้จมอยู่กับความเศร้าไม่ใช่นิสัยของผมเลย ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้หรอกว่าทางออกของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน...ผมก็แค่ทำเหมือนไม่คิด ไม่ใส่ใจ ไม่อะไรกับมันทั้งนั้น

เจ็บสุด...ผมโดนพี่ด่า

ผมตีเจ้าแรมโบ้เพราะมันทำให้คอมพ์ของผมดับในวันหนึ่ง แล้วพี่ก็ดุด่า ผมร้องไห้...เสียใจที่ว่าพี่เห็นหมาดีกว่าน้องตัวเอง แล้วผมก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง เครียดมาก ร้องไห้จนไข้ขึ้น มันไม่มีอะไรดีเลย...ผมเลยหันไปเล่นเกม คลายเครียดด้วยการทำอะไรก็ได้เพื่อไม่ต้องคิด แล้วเมื่อตัวเองเย็นลง ผมก็สำนึกได้ว่าผมต่างหากที่ผิด...ผมเห็นของและความสุขของตัวเองสำคัญกว่าความรู้สึกของแรมโบ้ ผมตีมัน ทั้งที่มันแค่อยากเล่นกับผม

ผมไม่รู้ว่าการแก้ไขของผมในตอนนั้นจะเอามาใช้กับเหตุการณ์นี้ได้ไหม...ก็แค่ต้องลองดู

อย่างน้อยๆ ถ้าทำใจกับมันได้...อารมณ์เย็นขึ้น อะไรๆ ก็คงจะดีขึ้นมาบ้าง

ตอนนี้ผมเจ็บปวด...ผมเสียใจ ผมเลยไม่ฟังอะไรและไม่คิดจะสนใจในเหตุผลที่ได้ฟังมา ก็รู้ตัวนะ แต่เคยเป็นไหมล่ะ...ที่เรารู้ดีว่าต้องทำยังไง แต่กลับทำไม่ได้น่ะ ผมเป็นแบบนั้นในตอนนี้

ไม่อยากให้รักของเราต้องจบลงแบบนี้ ไม่อยากให้เราต้องจากกันเพราะความบาดหมาง ระหว่างเรามีเรื่องดีๆ มากมายให้จดจำ...มันเป็นเรื่องที่สวยงามและมีแต่ความสุข ยอมรับว่าเพราะคบกันแล้วมีความสุขมาก เรื่องแบบนี้ถึงได้ทำร้ายผมได้มากทีเดียว...

หรือเพราะว่าผมไม่เคยเจ็บกับความรัก...ก็คงแบบนั้น

“เฮลโหล....เดอะสามปรากฏตัวแล้วคร้าบ” เสยผมตัวเองหนึ่งทีเมื่อมายืนอยู่ตรงล็อบบี้ของฟาร์มหมาน้อย ท่ามกลางสายตาของพี่หนึ่งและพี่สอง พ่อกับแม่ไม่อยู่แฮะ

“รปภ.ครับ มาเอาคนบ้าออกไปที” แล้วดูการต้อนรับอันอบอุ่นของพี่หนึ่งผม

“เดี๋ยวผมเอาออกไปให้ ไม่รู้เขาปล่อยคนบ้าออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้ได้ไง” พี่สองเดินเข้ามาจับที่แขนเพื่อจะลากผมออกไป แต่ผมกลับหันไปสวมกอดร่างหนาของพี่ชายแทน

“...” พูดไม่ออกอะ...จู่ๆ ก็จุกที่อก ทุกความเจ็บตีตื้นขึ้นมาอีก...

“อ่าว ใบ้แดกเฉย” พี่สองพยายามจะดึงผมออกจากตัวเอง พี่หนึ่งเดินเข้ามาหา

“เป็นอะไรนั่น”

“อ๋อ เปล่าพี่...ตัวพี่เหม็นวะ” ก่อนที่จะร้องไห้ ผมดึงตัวเองออกมาจากกอดของพี่ชาย ยิ้มกว้างๆ ที่คิดว่ามันน่ารักที่สุดให้พี่ทั้งสอง

“ผมขอตัวก่อนดีกว่า” แล้วก็หันหลังกลับไปทางบ้านหลังไม่ใหญ่นักของตัวเอง

โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ ผมเอาความรักทิ้งไว้ที่ล็อบบี้แล้ว ไม่ต้องห่วงเพราะมันก็เล่นอยู่ที่นั่นบ่อยๆ ทุกคนรักและเอ็นดูมันเป็นอย่างดี เพราะงั้นช่วงเลานี้คือช่วงเวลาที่ผมจะได้อยู่กับตัวเองจริงๆ จังๆ

ผมเข้ามาในห้องที่ยังสะอาดเอี่ยม ฝีมือแม่คอยเข้ามาดูแลนั่นแหละ ทิ้งตัวเองลงบนที่นอนนุ่มๆ สั่งทำพิเศษเพราะผมเรื่องมากไม่อยากนอนที่นอนแข็งๆ กับผ้าปูเตียงและผ้านวมที่เป็นลายของเจ้าความรักในสมัยที่ตัวมันยังแดงๆ แน่นอนว่าสั่งทำพิเศษ...

เหม่อมองเพดานห้อง...หลอดไฟดวงเดิมที่เคยขาดไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่เคยได้เปลี่ยนเพราะมันไม่จำเป็น ผมอยู่ได้ด้วยแสงไฟจากคอมพ์ ผ้าม่านบดบังแสงอาทิตย์ด้านนอกจนเกือบหมด...แอร์เย็นๆ กับความมืดสลัว

ดูเหงาเนอะ...

เหงาจนเผลอคิดถึงอีกคนเลยอะ

อืม...ผมคิดถึงพี่มะเดี่ยว และผมอยากให้เรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น บางที...แค่บางทีอะนะ ถ้าผมกลับห้องไปนอนเลย ไม่รู้ ไม่เห็นเรื่องนั้น วันนี้เราอาจได้ไปเที่ยวกัน ไปดูหนังฟังเพลงหรือแม้แต่ไปซ้อมเต้นด้วยกัน...คิดถึงมื้อเช้าที่มีแต่ปลาและไก่ คิดถึงคำที่คอยพร่ำอยู่เสมอว่ากินหมูมากๆ มันไม่ดี สงสารมันนะ คิดถึงรอยยิ้ม...คิดความห่วงใยที่มีให้

แล้วในความคิดถึงมากมายเหล่านี้ก็ล้วนมีความเจ็บแปล๊บแทรกอยู่...

ผมปล่อยให้ตัวเองอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ นึกทบทวนเรื่องราวต่างๆ แม้ว่าภาพนั้นจะวนเวียนไม่ห่างหาย ผมก็ไม่พยายามไล่มันออกไป เพราะความพยายามนั้นมันไร้ประโยชน์ ยิ่งลอกให้ตัวเองเลิกคิด ก็จะยิ่งคิดถึง...มันเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันนะ

ป่านนี้พี่เขาจะคิดถึงผมไหม...จะเคลียร์เรื่องที่เกินขึ้นกับพี่โซฮานได้หรือยัง หรือว่าเป็นยังไงบ้าง ไปซ้อมเต้นหรือเปล่า ปกติก็รู้ทุกอย่าง...รู้มันแทบทุกการเคลื่อนไหวของเขาเพราะพี่เขามักบอกผมเสมอ ต่อให้เราไม่ว่าง ต่อให้เราต้องหมกมุ่นอยู่กับหน้าที่ของเรา แต่ก็ไม่เคยลืมกัน...

อะไรก็ตามที่ทำเป็นประจำจนซึมซาบเข้าสู่กิจวัตรประวันแล้ว พอไม่ได้ทำมันก็จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนทุกเช้าตื่นนอนเราต้องแปลงฟัน ล้างหน้าอาบน้ำ วันไหนไม่ทำ...วันนั้นเราก็จะรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมากโคตร อารมณ์ตอนนี้ก็คงคล้ายๆ แบบนั้น...จากที่ตื่นเช้ามาก็จะเห็นหน้าจอมือถือแสดงใบหน้าของอีกฝ่ายหลับอยู่ หรือบางทีก็ตื่นมองเราผ่านหน้าจอ วันนี้ไม่เห็น...มันกลายเป็นขาดบางสิ่งบางอย่างไป

ข้าวเช้าเราจะกินด้วยกัน ก็ไม่ใช่มื้ออาหารที่หรูหราอะไร อาจเป็นโจ้กโง่ๆ ที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืนนี้ แน่นอนเป็นโจ้กไก่ กุ้ง ไข่ อะไรก็ว่าไปที่ไม่ใช่หมู เสียงพูดคุยเจือเสียงหัวเราะของเราและความปั่นป่วนกวนการกินของความรัก เจ้าตัวกลมมักขึ้นไปซุกตักพี่มะเดี่ยว กินแอปเปิ้ลที่ตัวเองชอบจนเปื้อนขาของพี่เขา บางทีปื้อนไปยันกางเกง จนพี่เขาต้องกลับไปเปลี่ยนมันก่อนจะลงไปส่งผมไปเรียน

ก่อนเที่ยงจะมีข้อความเข้ามาหา พี่รอตรงนี้นะ กินอะไร พี่จะซื้อรอเรา...ผมมักรีเควสเมนูหมูทุกมื้อ ซึ่งสิ่งที่ได้มันก็ใกล้เคียง แค่เปลี่ยนเป็นไก่เท่านั้น ผมไม่ชอบน้ำอัดลม ก็เลยมีโกโก้หรือน้ำผลไม้รอเอาไว้ ต่างพี่เขาที่มักดื่มกาแฟอยู่เป็นประจำ

พี่มะเดี่ยวไม่ค่อยเล่นเกม ว่างมากก็จะวาดคอมมิกลงเพจตัวเอง มันเป็นช่วงวุ่นวายของชีวิต ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูมันเลย ตอนนี้ก็อยากจะเข้าไปส่อง แต่ไม่กล้า...กลัวใจตัวเองเนี่ยแหละ

“เฮ้อ....ทำไมมันทรมานจังนะ”

การที่เรามีเรื่อทะเลาะกับคนที่เรารักเนี่ย…มันอึดอัดขนาดนี้เลยเหรอ ทรมานไปหมด อะไรๆ ก็ไม่ทำให้รู้สึกดี เอาแต่คิดถึงเขา...เอาแต่ถามว่าทำไม โง่อะ แม่งเป็นคำถามโง่ๆ แต่ก็ยังถามอยู่นั่น คำตอบก็มีอยู่แล้วแท้ๆ บ้าบอ...

เออ…จู่ๆ ก็นึกอะไรออกมาได้ พี่โซฮานชวนกินเหล้า…พี่มะเดี่ยวกินแค่ไม่กี่แก้วก็เมา

งั้นเหรอ…

เท่าที่เคยกินด้วยกัน พี่มะเดี่ยวแกไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นนะ แล้วก็อย่างที่เคยบอก...พี่มะเดี่ยวเป็นคนกินเหล้าที่มีสติดีมาก ไม่รู้เพราะตัวองเป็นหัวหน้าทีมเต้นหรือเปล่า แต่พี่เขาแทบไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมา เป็นไปได้ไหมที่เหนื่อยมากก็เลยเมาเร็ว...

หรือ...นี่เป็นแค่แผนของพี่โซฮาน

….100%….

เรามาค้างข้ามปีกันค่ะ ฮ่าาาา เจอกันอีกทีปีหน้านะคะ คืนนี้อขอให้มีความสุขกับการเคานต์ดาวน์น้า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไหร่จะคิดได้นะโซฮาน ไม่สงสารเพื่อนบ้างเลยรึไง โกรธแทนน้องสามอะ แงงงงงงง

/สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :z6: :a5:

พี่มะเดี่ยวโดนวางยาใช่ไหม ถ้าใช่ก็เคลียเลยนะ

สวัสดีปีใหม่ ขอบคุณมากสำหรับการลงเรื่องให้พวกเราอ่านกัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นแผนของโซฮานอย่างที่สามคิดรึป่าว

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
มะเดี่ยวจัดการกับโซฮานให้เด็ดขาดกว่านี้เถอะ :m16:

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นั่นล่ะลูกสาม  มีสติแล้วกลับไปทวงของเราคืนนะลูก

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 54 [100%]<<

(มะเดี่ยว)
แม่งเกิดเรื่องบ้าอะไรกับชีวิตผมวะ...

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมซ้อมเต้นหนักมาก เพื่อนในทีมเองก็ทุ่มเทให้กับการซ้อมไม่แพ้หัวหน้าทีมแบบผม มีแต่ผมเสียอีกที่บางครั้งชอบดอดออกไปหาสามอยู่บ่อยๆ จนเพื่อนล้อ เพื่อนแซ็ว เพราะปกติแล้ว...ธรรมชาติของผม ผมต้องการคนที่เข้าใจในกิจวัตรของผม ดังนั้นผมจะไม่ไปเทคแคร์ใครมากมายแบบที่ทำกับสาม เพราะอยากให้เขาได้รู้ว่าเออ...ผมไม่ใช่คนมีเวลามากขนาดนั้น อีกอย่าง คนบางคนให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ

แต่สามไม่เคยเรียกร้อง...

สามเหนื่อยจากการเรียนสามก็ยังเจียดเวลามาหา มาอ่านหนังสืออยู่ข้างฟลอแม้เสียงมันจะดังรบกวนสมาธิ เขาไม่เคยว่าที่ผมทุ่มเวลาให้กับการเต้นและงานวาดของตัวเอง กลับกัน...เวลาเขาขอ คือขอให้ผมได้พักผ่อนเท่านั้น ไม่มีเวลาให้เขาก็ไม่เป็นอะไร แต่อยากให้ดูแลตัวเอง เพราะแบบนี้ไง...ผมถึงอยากให้เวลากับเขาบ้าง เลยทุ่มเทให้ได้เท่าที่ให้ไหว

“มึงมีแฟนได้...แต่มึงจะละเลยทีมไม่ได้” โซฮานมันว่าแบบนั้นในวันหนึ่ง เพราะผมมักโดดซ้อมช่วงเย็นไปรับสาม กินมื้อเย็นกับน้องแล้วถึงกลับมาซ้อมต่อ แล้วผมก็ไม่คิดว่าการที่ผมดอดออกไปนิดหน่อยจะทำให้ทีมของเราเสียรูปแบบ

“กูละเลยทีมตรงไหน...กูยังทำหน้าที่ของกูอยู่” เพราะทีมก็ยังคงทำได้ดีเสมอ ผมไม่อยากเข้มงวดเกินไป ทั้งกับตัวเองแล้วก็สมาชิกทีมนั่นแหละ

“แต่เดี๋ยวนี้มึงหายไปทุกเย็น”

“แต่กูก็กลับมา แค่กูไปกินข้าวกับแฟน...มันอะไรขนาดนั้นเลยอ๋อวะ” ผมส่ายหัวนิดหน่อย เดินหนีโซฮานเข้าฟลอไปซ้อมเต้นต่อ

ไม่ใช่ผมไม่ใส่ใจ และไม่ฟังคอมเมนต์ของลูกทีม แต่อันนี้มันไร้สาระเกินจะฟัง คนอื่นเข้าใจผมหมด อาจมีล้อๆ ผมบ้างในบางที นี่ยังไม่นับรวมที่โซฮานมันพูดประมาณว่าสามไม่ยอมมาดูแลผม ไม่ยอมใส่ใจผมเหมือนที่ผมใส่ใจน้อง ตอนนั้นผมเหนื่อย ผมไม่ได้พูดออกไปหรอกว่า...น้องมันแทบไม่ได้นอนเลย มันจะเอาเวลาไหนมาดูแลกูนักหนา อย่างว่า...เรื่องของผมกับสาม เรื่องที่เราทำด้วยกันนั้นผมไม่ได้ไปเที่ยวประกาศบอกใคร

เวลาเราอยู่ด้วยกัน เราไม่ค่อยเล่นโซเชียลนัก ผมอะแทบไม่จับมือถือเลย แต่สามมีบ้างที่จะเข้าเกม เขาเป็นคนติดเกม เวลาพักสิบนาทียี่สิบนาทีตอนกินข้าวเราก็จะนั่งด้วยกันแล้วเขาก็ขอเล่นเกมนิดหนึ่ง เป็นการคลายเครียดของเขาผมก็ยอม แล้วจะเวลาที่ไหนไปนั่งป่าวประกาศเรื่องของเรากันล่ะ...กินข้าวด้วยกันยังไม่มานั่งโพสต์เลย หิวปุ้บกินปั้บ

“เดี๋ยววันนี้กูอยู่ซ้อมแค่ถึงเย็นนะ...ถือว่าพักวันหนึ่ง” ผมประกาศบอกทุกคนในทีม วันนี้สามสอบเสร็จ ผมกะจะไปรับน้องไปหาอะไรกิน...กะเลี้ยงสิ่งที่น้องมันชอบเต็มที่ เพื่อเป็นรางวัลให้กับความพยายามตลอดหลายวันที่ผ่านมาของน้อง

“ไมวะ…” ไอ้เรย์ถามขึ้น มันนั่งยืดขาอยู่ที่พื้นฟลอ

“กูจะไปรับสามอะ วันนี้น้องมันสอบวันสุดท้าย…”

“ฮั่นแน่…จะพาน้องไปดินเนอร์สุดหรูชิมิ” เกรงว่ามันจะเป็นดินเนอร์ในห้องนอนอะดิ แค่คิดก็สยิวแล้ว...

ก็...สามแม่งน่ารักฉิบผาย

“เอางี้มะ เลิกซ้อมเลยก็ได้...ไปกินเหล้ากัน ไหนๆ ก็จะพักแล้ว...” โซฮานเสนอขึ้น

“เออๆ เอาดิ...กินห้องมึงนะ” แนหันมามองหน้าผม

“ก็ได้ แต่เย็นกูไม่อยู่นะ” ทุกคนพยักหน้ารับรู้

เราแยกย้ายกันเก็บของ โซฮานขอตัวไปไหนก่อนสักที่เดี๋ยวตามไปทีหลัง จากซ้อมก็เลยกลายเป็นกินเหล้าที่ห้องผมแทน ผมไม่ห่วงหรอก ผมไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว ยังไงก็ไปรับสามไหว แล้วที่วันนี้ผมไม่เอาความรักมาก็เพราะว่าวันนี้จะพาน้องมันไปเที่ยวไปหาอะไรกินเนี่ยแหละ เตรียมไว้แล้วเป็นอย่างดี

โซฮานตามมาทันพวกผมขึ้นคอนโดพอดี โดยมีเหล้าและกลับแกล้มมาด้วย ไอ้เรย์กับไอ้แนก็ซื้อ หารเงินกับคนอื่นๆ ในทีมซึ่งผมก็ช่วยมันออกเหมือนกัน ถึงไม่ค่อยดื่ม แต่ของอย่างนี้มันควรแฟร์กันทุกฝ่าย

แล้วพอมาถึงห้อง...ก็จัดกันเลย ไม่ต้องพูดมาก เหมือนตายอดตายอยากมานาน ผมไม่ค่อยดื่ม อันนี้ทุกคนจะรู้ดี ยิ่งเย็นนี้ผมมีนัด เหล้าที่ถูกชงก็เลยจะบางกว่าปกติเข้าไปอีก ไม่อยากเมาไปรับแฟนหรอกนะเว้ย

แต่แปลก..ทำไมผมเมา

“กูว่า...เมาวะ กูไปนอนพักก่อนนะ” ผมลุกขึ้น จำได้ว่าดื่มไปแค่สามสี่แก้วเท่านั้น โซฮานเป็นคนชงให้ แล้วทำไม...ถึงเมาวะ

“อ่อนวะมึง ไปเลย...ไปไหนก็ไปเลย” ไม่สนคำไล่ของไอ้มาร์ช เดินโซเซเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ผมอาจจะไม่ค่อยได้นอน พักผ่อนน้อยเลยเมาเร็วเปล่านะ...แต่ไม่ชอบเลยวะ เหมือนสติมันจะเลือนรางลงไปทุกที

นี่กูจะอ่อนก็ให้มีความพอดีหน่อยได้ไหมนะ...

“มึงโอเคปะวะ” เสียงโซฮานเอ่ยถาม ไม่รู้อยู่ตรงไหน แค่ได้ยิน

“กูโอเคเว้ย” ตอบแค่นั้น ตั้งใจจะนอน ตื่นมาคงดีขึ้น ผมอยากไปรับสาม...อยากจะพาน้องไปเที่ยวให้ได้

สติผมเลือนรางลงเรื่อยๆ ทว่ายังคงรับรู้อยู่บ้าง เหมือนมีใครสักคนเดินเข้ามาหา นั่งลงบนเตียงแล้วลูบหัวของผม มันแกะหนังยางที่รัดผมออกให้ จากนั้นก็ลูบไล้ใบหน้าและลำคอ พอมือนั่นถึงอก...ผมก็ตะครุบเอาไว้

“อย่า...” จับสะบัดทิ้ง รู้ว่าไม่น่าใช่สาม...แต่จะใครไม่รู้ อย่ามายุ่งกับผม

สิ่งนั้นหยุดอย่างที่ผมต้องการ ก็นิ่งไปเลยไม่เคลื่อนไหวอะไรอีก ไม่ออกไปจากห้องด้วย ผมฝืนตัวเองไม่ค่อยไหว หลับไปทั้งที่ยังเวียนหัวอยู่ไม่ใช่เล่นๆ นี่ผมเมาเหล้าหรือเมาอะไรวะ...

เรื่องมันมีแค่นั้น...ที่ผมจำได้

ตอนนี้ผมยิ่งกว่าช็อก…ผมจำอะไรไม่ได้มาก แต่ผมรู้ว่าผมไม่ได้ทำอะไรกับใครแน่นอน ส่วนนั้นไม่ได้ถูกใช่งานแน่ๆ อะ คือคนเป็นเจ้าของมันต้องรู้อะถูกไหม ถ้าถูกใช้งานต้องมีคราบมีอะไรหรือต้องมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย...

ผมอธิบายกับสาม...พยายามบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่รับรู้และจำได้ด้วยความลนลาน มันคงเป็นคำพูดที่ไม่ได้เรื่องแน่ๆ แต่ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ในตอนนั้น น้องเอาแต่ครับ...ผมรู้ ผมเข้าใจ แต่แววตาคือเจ็บปวดอย่างที่สุด...

เวรเอ้ย...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับผมวะ!

“ทำไมมึงยังไม่กลับไป” ผมเดินกลับเข้าห้อง เห็นโซฮานนั่งอยู่ที่ปลายเตียงนอน ผมเหลือบตามองแล้ว มันไม่มีแม้คราบอะไร ที่นอนก็ไม่ได้ยับยู่เหมือนผ่านอะไรมา เหมือนคนนอนด้วยกันสองคนมากกว่า

“ทำไมมึงต้องพูดกับกูแบบนี้วะ เพราะน้องเขามาเห็นกูกับมึงนอนเปลือยกายกอดกัน กูเลยต้องเป็นคนผิดงี้เหรอ” สีหน้ามันเจ็บปวด…ผมรู้ว่ามันเจ็บ แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่มันที่เจ็บปะวะ

“มึงกับกูรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร...”

“มึงรู้ได้ไง” โซฮานขึ้นเสียง ผมองหน้ามัน...มองเข้าไปในดวงตาของมัน

“มึงคิดว่ากูเป็นเด็กเหรอ...”

“มึงไม่ใช่เด็กหรอก แต่มึงก็แค่ไม่อยากยอมรับความจริงว่าเราสองคนมีอะไรกันไปแล้ว” หึ...ผมรู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงเมา

ที่จริงก็อาจจะไม่รู้อะไรเลยถ้าโซฮานกลับไป แต่พอมันพูดแบบนี้ผมก็รู้ทันที...บอกแล้วไง ไม่มีร่องรอยอะไรบนที่นอนทั้งนั้น ถ้าผมทำผ้ามันคงไม่อยู่สภาพนี้ แล้วคราบน้ำต่างๆ ก็ต้องเยอะ รวมถึง...ร่องรอยบนตัวไอ้โซฮาน

ผมทำกับสามที...ผมยังอดไม่ทำรอยไม่ได้เลย ถึงจะไม่ทำมากจนน่าเกลียด แต่มันต้องมีอะ มันเป็นความหมั่นเขี้ยวของผม...อารมณ์แบบนั้นห้ามตัวห้ามใจยาก แล้วเพราะทำรอยมากไปหน่อย ทั้งที่คิดว่านิดเดียวแล้วอะนะ พี่บอยถึงได้ด่าผมยับเยิน ต่อว่าที่ทำกับหลานเขาแบบนั้น อีกทั้งเรายังเพิ่งคบกันอีก...ผมรู้ผมผิดที่ชิงสุกก่อนห่าม อารมณ์นั้นมันแบบ..กูไม่ไหวแล้วโว้ยยยย แบบนั้นอะ

“เฮ้อ...บอกกูมาตามตรงโซ มึงทำอะไรกันแน่” จ้องหน้ามันนิ่ง ไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปีผมคงมีออกมวยกับมัน

“มึงยังกล้ามาถามกูอีกเหรอ...กูต่างหากที่ต้องถามว่ามึงทำแบบนี้ทำไม” ทำไมถึงยังหน้าด้านวะ

“กูไม่คิดเลยนะว่า...มึงจะเป็นคนอย่างนี้อะโซ กลับไปเหอะ ถ้ามึงให้ความจริงกูไม่ได้มึงก็กลับไป มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหน อย่าให้มันต้องจบเพราะกูทนฟังคำโกหกของมึงไม่ไหวเลย” ผมโกรธนะ...แต่พยายามระงับอารมณ์เพราะคิดว่ามันจะยอมสารภาพเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ผมไม่ได้คออ่อน...ทุกคนรู้ และผมไม่ดื่มหนักหากมีธุระหรือต้องทำอะไรต่อ...ทุกคนก็รู้ เพราะงั้นการที่ผมเมาไม่ได้สติ ไม่ใช่เพราะเหล้า และก็ไม่มีทางที่เราสองคนจะมีอะไรกัน จะว่าผมใจร้ายกับเพื่อนก็ได้...แต่ผมไม่พอใจกับการที่มันทำแบบนี้ ไม่ว่ามันจะทำอะไรลงไปบ้าง แต่เจตนาร้ายของมันสั่นคลอนความสัมพันของผมกับสามอย่างร้ายแรง

“มึงไม่รู้หรอกว่ากูเสียใจแค่ไหน...” โซฮานเปรยเบาๆ ในห้องที่เงียบเฉียบ...ผมได้ยินมันชัดเจน

“มึงก็ไม่รู้หรอกว่ากูเสียใจแค่ไหน ที่เพื่อนของกูกำลังทำลายความรักของกู...มันยิ่งกว่าโดนเอามีดมาแทงข้างหลังอีกมึง เพราะกูไว้ใจ เพราะกูเชื่อใจมึง...แต่ดูสิ่งที่มึงทำดิ”

“กูทำอะไร มึงพูดมาเลยเดี่ยว...มึงจะกล่าวโทษกูแบบนี้ไม่ได้ คิดถึงใจกูบ้างปะ” ยังคงใส่หน้ากากต่อไป...พอกันที กูไม่เก็บอารมณ์แล้ว ผมตรงเข้าไป จับไหล่ทั้งสองข้างของมันแล้วดันลงกับเตียง พร้อมคร่อมตัวมันที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้าเอาไว้

“แล้วมึงทำอะไรมึงคิดถึงใจกูบ้างปะ! มึงโกหกทั้งที่รู้ว่ายังไงกูก็จับได้ ที่นอนสภาพนี้ ตัวมึงสภาพนี้...มึงจะมีหน้ามาบอกว่ากูกับมึงมีอะไรกันอีกเหรอ หลักฐานล่ะ มีหลักฐานไหม เอามาโชว์สิแล้วกูจะยอมรับคำที่มึงพูด!!!” ผมตะคอกใส่หน้ามันอย่างเดือดดาน โซฮานนิ่งงันก่อนน้ำตาจะไหล...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันร้องไห้ แต่มันไม่ได้ช่วยชะล้างความรู้สึกของผมให้ดีขึ้นเลย

สามก็กำลังร้องไห้...

“ปล่อยกู” มันพูดออกมาเบาๆ

“ตอนกูให้มึงไป ทำไมมึงไม่ไป...ตอนนี้เสือกอยากจะไป ทำไม หนีความจริงเหรอ มึงหนีไม่พ้นหรอกโซ โดยเฉพาะความจริงที่ว่า...กูรักสามไม่ใช่มึง!” อยากจะต่อยหน้ามัน...อยากจะกระทืบมัน แต่ทำไม่ลง

ผมปล่อยแขนทั้งสองข้าง ลุกออกมาจากตัวของเพื่อนสนิทตัวเอง...ใช่ มันเป็นเพื่อสนิทผมเว้ย เป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมมาตั้งแต่สมัยผมเข้ามหาลัยใหม่ๆ มันเป็นเพื่อนคนแรกที่ฟลอเต้น...ผมบอกแล้วไง ถ้ามันพูดกับผมตั้งแต่ทีแรกว่ามันชอบผม เราคงลงเอยกันไปแล้ว ไม่ใช่มาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแย่งผมมาจากสาม

ผมพูดเสมอ...ผมให้โอกาสทุกคนที่กล้าเข้ามาสารภาพรัก ผมชอบที่เขาใช้ควากล้าเข้ามาหา ผมให้โอกาสหมดไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะเคยสาภาพรักมาก่อน รู้ดีว่ามันต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน ก็เลยอยากให้โอกาส...และนับถือทุกความกล้านั้น

แต่มันไม่มีความกล้ามาสารภาพกับผม...เสือกมีความกล้าในการแย่งผมมาด้วยวิธีการเลวๆ

โซฮานลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าด้วยท่าทีที่อ่อนแรง ไม่ใช่เพราะร่างกายโดนกระทำ แต่เป็นที่ใจของมันมากกว่า ผมรู้ว่ามันเจ็บ ผมก็เจ็บ...ผมจะรู้สึกยังไงที่โดนเพื่อนที่สนิทที่สุดหักหลังแบบนี้ ผมคิดว่ามันน่าจะคิดได้แล้วหลังจากเห็นผมทุ่มเทให้กับสามมากแค่ไหน เห็นกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็เลยเบาใจ ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายมันจะแว้งกลับมากัดผมแบบนี้ นี่เหรอวะ..เพื่อน?

ภาพที่สามร้องไห้...คำที่สามพูดกับผมยังคงก้องอยู่ในหัว เข้าใจ เชื่อใจ แต่...ทำใจไม่ได้ ผมไม่เข้าใจมันมากนักหรอก แต่ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน วันนี้เป็นอีกวันที่สามน่าคาดหวังได้เจอกัน เขากำลังจะได้พักผ่อนจากการสอบที่หนักหนาสาหัส แล้วกลับมาเจอเรื่องแบบนี้...

คิดกลับกันว่าเป็นผม...ผมคงไม่หันหลังเดินจากไปง่ายๆ แบบนั้น แต่ผมจะกระทืบไอ้คนที่นอนอยู่เคียงข้างสามไม่ให้เหลือชิ้นดีเลย แต่เขากลับยิ้ม เขากลับเดินจากไปง่ายๆ แบบนั้นมันเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ...แบบนั้นทรมารมากกว่าการด่ากราดหรือระบายอารมณ์ใส่ผมไม่ใช่หรือไงกัน

ผมอยากอธิบายกับสามให้ได้มากกว่าคำว่า...ผมไม่ได้มีอะไรกับโซฮาน อยากมีหลักฐานยืนยันให้ได้มากกว่าคำพูดลอยๆ ของตัวเอง สามเหมือนจะไม่อยากฟังอะไรแล้ว เขาเองก็โดนความเสียใจปกคลุม...เหตุผลใช้กับสามตอนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นผม...ผมก็ไม่ฟังเหมือนกัน

ผมทิ้งร่างตัวเองลงกับที่นอน คิดหาวีธีเพื่อจะปรับความเข้าใจกับสามให้ได้ ผมไม่รู้ว่าที่สามขอเวลาน่ะ...มันนานแค่ไหน ผมไม่อยากห่างเขา ไม่อยากให้รักของเราจบ...ผมรักสามนะ รักที่เขาเป็นแบบนี้...

เขาน่ารัก...

เขาใจกว้าง...และเขาเข้าใจผมดี

สามไม่เคยพยายามก้าวล้ำเส้นเข้ามาในโลกของผม เขาอยู่มองมันจากรอบนอกและส่งยิ้มบางๆ มาให้ เสมือนกำลังใจที่อยู่ใกล้ไม่ห่างหาย สามไม่เคยทำให้ผมอึดอัด มีแต่ผมด้วยซ้ำที่พยายามจะแทรกตัวเข้าไปในโลกของเขา แต่สามไม่เคยว่า...ไม่เคยขับไล่ไสส่งผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ขอให้เราไม่จบกันด้วยเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยกลัวการเลิกรา อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้กันและกันเต็มที่แล้ว พอถึงจุดหนึ่งที่มันไปต่อไม่ได้ มันก็ต้องจากกันไปเป็นเรื่องธรรมดา มีรักมีเลิก มีพบมีจากผมเข้าใจ แต่มันต้องไม่ใช่กับคนนี้...

ผมอยากมีเขาอยู่ในชีวิตของผม…ตลอดไป


….100%….

บางทีก็สงสารโซฮานนะ…แต่ก็แบบ ความยึดติดของนาง อคติของนางมันทำให้นางทำอะไรไม่สร้างสรรค์จนโดนด่าซ้ำไป ซ้ำมา

❤️❤️สวัสดีปีใหม่นะคะนักอ่านที่รักทุกคน ขอให้ทุกคนมีความสุขมากกว่าปีที่แล้วมานะคะ สุขภาพแข็งแรง โรคภัยไม่กล้ำกลาย ร่ำรวยๆ น้าาาาาาา❤️❤️

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โซฮานไม่เหนื่อยบ้างเหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เข้าใจโซฮานนะ  แต่ทำแบบนี้มันไม่ถูกอ่ะ  คนจริงเขาไม่ทำแบบนี้ หาใหม่ไม่ง่ายกว่าหรอ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เฮ้อออ โซเห็นแก่ตัว ยึดติดแต่ตัวเองนะ ไม่ได้รักมะเดี่ยวอะ รักตัวเองจนน่ารังเกียจ เลิกแข่งเหอะ ไม่ได้มีน้ำใจนักกีฬาเลย

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ firstlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แล้วสามจะรู้ความจริงได้ไงหละทีนี้
สงสารน้อง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
สงสารโซฮานเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ bewitchz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แปะไว้นะคะ เดี๋ยวตามมาอ่านอิอิ ชอบพล็อตเรื่องมาก แหวกแนวดี55555  :-[ :-[

ออฟไลน์ Akanasan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ฮือๆๆๆ ดราม่าอ่ะ


 :m15: :m15: :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด