ทำไมง่วงจังหว่าาาาา
งง^__^ Love Devil ^__^
รักร้ายเทพอสูร
ตอนที่ 7 เข้าฐาน
“กริ๊ดดดดดดดดดดด...น่ารักอ่ะ”
ดูเหมือนกิจกรรมช่วงบ่ายจะค่อนข้างโกลาหล เพราะตั้งแต่ที่ทุกคนได้กลิ่นหอมออกมาจากตัวเบญ ปฎิกิริยาของทุกคนก็เปลี่ยนไป และนั่นก็สร้างความลำบากให้กับเบญไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเขาไม่รู้จะทำหน้าทำตัวอย่างไรแล้ว
“เอ่อ...น้อง....น้องเบญรับผ้านี่ด้วยนะครับ” เสียงอึกอักใบหน้าขึ้นสีระเรื่อมาจากรุ่นพี่คนดังต่างคณะที่เข้ามาช่วยงานรับน้องนอกสถานที่ บรรยากาศเหมือน..สารภาพรักเลย ทั้งๆที่แค่ยื่นผ้าปิดตาให้ตามกติกาหนึ่งของฐานที่เขารับผิดชอบเท่านั้น
“กริ๊ดดดดดดดดดดดด...พี่กร~” เสียงกริ๊ดดังๆ แต่เสียงเรียกชื่อกลับอ่อนระทวยซะน่าขนลุก รุ่นพี่กับรุ่นน้องคนดังหาได้สนใจไม่
“ครับ” เบญยิ้มบางก่อนรับผ้าที่ว่ามาจากรุ่นพี่ต่างคณะ
“กริ๊ดดดด...แกๆๆๆ น่ารักว่ะ”
“ห่า...หอมชิบหาย คนไรวะ”
เสียงแซงแซ่จากหนุ่มสาวหลายคนดังให้ได้ยินเป็นระยะๆ และดูเหมือนใครก็ตามที่เข้าใกล้หนุ่มน่ารักของคณะ ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มน่ารักของคณะแล้ว ทุกคนจะถูกจับตามองหมด ยิ่งกระแสฟีเวอร์สาววายมาแรงด้วย เลือดกำเดาของสาวหลายๆคนเลยแทบกระฉูด แต่ก่อนก็มองกันอยู่ห่างๆ แม้จะแอบเชียร์หนุ่มน่ารักตรงหน้าให้คนโน้นทีคนนี้ที แต่เพราะเจ้าตัวตัวเหม็น เลยดันไม่ขึ้น แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปปปปปปป....ยาวๆให้เว่อร์หน่อย
กว่าจะผ่านทุกฐานทุกคนก็เหนื่อยอ่อนเพลียกันได้ที่ ดีที่มีคนตัวหอมแถมน่ารักสวดๆมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ
รุ่นพี่ปล่อยให้ไปพักกินข้าวมื้อเย็นกันก่อนเจอกันอีกทีหนึ่งทุ่ม เพราะคืนนี้จะยังคงมีกิจกรรมให้เข้าฐานกันอีกกว่าจะเสร็จก็คงประมาณสี่ห้าทุ่ม
“...ขออาบน้ำก่อนนะ” เบญส่งเสียงบอกเพื่อนร่วมห้อง เขารู้สึกไม่สบายตัวนัก เลยบอกเพื่อนขอเข้าอาบน้ำก่อน
“....” พยักหน้า
“เอาดิ”
คนหนึ่งพยักหน้าคนหนึ่งพูดบอกทั้งคู่ทำตัวปกติ เหมือนไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไร หากแต่พอลับหลังคนตัวหอมเท่านั้นแหละ
“เกิดไรขึ้นวะ” พจน์ถาม
“....” บอลส่ายหน้า
ก่อนที่สองหนุ่มจะมองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ทั้งคู่ว่าเพื่อนตัวเหม็นที่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา อยู่ๆตัวก็หอมขึ้นมาซะงั้น เรื่องเบญตัวเหม็นตัวหอมเนี่ยเป็นประเด็นร้อน ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ พจน์กับบอลถูกเพื่อนเรียกไปถามซะเริ่มจะเบลอกันแล้ว พอบอกไม่รู้ มันก็ถามว่าอยู่ห้องเดียวกันทำไมไม่รู้อะไรเลยหรอ เออ...ก็ไม่รู้อ่ะดิ ไม่ได้ตัวติดกันนิ เช่นเดียวกับเพื่อนสนิททั้งสามของเบญก็ถูกซักถามและก็ตอบไม่ต่างกัน
“ไม่รู้ว่ะ” อีกครั้งที่สโนว์ปฏิเสธเพื่อนที่เข้ามาถาม
“อ้าว”
“ไปถามมันเองดิ” สโนว์ยิ้มมุมปาก
ก็ถูกแล้วคนที่จะตอบได้คงมีเพียงตัวเจ้าของกลิ่นเท่านั้น แล้วทำไมกลิ่นตัวของเบญถึงมีปัญหานัก ก็คนมันกลิ่นตัวแรงอ่ะ ตอนเหม็นก็เหม็นฟุ้งไปทั่ว ตอนหอมก็ดั๊นนนนน..หอมฟุ้งไปทั่วอีก แปลกคนจริงๆ
เข้าสู่ช่วงกิจกรรมตอนกลางคืน รุ่นพี่แจกคำใบ้ให้น้องๆไปตามหาพี่รหัสก่อน คนที่มาทะเลก็รับคำใบ้กันไปส่วนคนที่ไม่ได้มาด้วยก็ค่อยว่ากันอีกครั้งหลังจากกลับไปที่มหาลัยแล้ว และกำชับให้น้องตามหาพี่รหัสให้เจอก่อนวัน Freshy Night
Freshy Night กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของทุกคณะทุกสาขาในมหาวิทยาลัย เป็นงานสังสรรค์รื่นเริงจัดให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินระหว่างเฟรชชี่ด้วยกัน ให้เหล่าเฟรชชี่ได้ทำความรู้จักกันระหว่างเพื่อนต่างคณะ สร้างความสัมพันธ์ และความเป็นมิตรในฐานะที่เป็นเฟรชชี่น้องใหม่ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นอีกงานที่ได้รวมตัวเฟรชชี่ทั้งหมดไว้ในงานเดียวกัน และเป็นงานที่สร้างความแปลกใหม่น่าสนใจต่อน้องใหม่ที่พึ่งเข้ามาสู่มหาลัย ถือเป็นการต้อนรับน้องๆจากรุ่นพี่อย่างเป็นทางการ
‘เทพแห่งท้องฟ้า’ คือคำใบ้ที่เบญได้รับ หมายถึงอะไรเนี่ย? ดูๆแล้วน่าจะเป็นความหมายของอะไรสักอย่าง จากคำใบ้แล้วน่าจะเป็นชื่อ ชื่อของรุ่นพี่คนนั้นหรือเปล่า? ท่าทางกลับไปคราวนี้คงต้องไปขอคัดรายชื่อของพวกพี่ๆมาดูเสียหน่อยแล้ว
ฐานตอนกลางคืนมีสามฐาน ได้แก่ ฐานโคตรแขยง ฐานเขย่าขวัญ และฐานเสียวจิ๊ดๆ ซึ่งบังคับให้รุ่นน้องทุกคนต้องเล่น ฐานกลางคืนเป็นฐานที่แตกต่างกับตอนกลางวัน ฐานกลางวันจะเล่นเป็นกลุ่มและไม่ได้เล่นทุกคนทุกฐาน เพราะบางฐานจะเป็นการส่งตัวแทนเข้าไปเล่นเท่านั้น แต่กลางคืนรุ่นพี่ให้รุ่นน้องเข้าแถวเรียงหนึ่งเล่นทุกคน
“ไหวแน่นะครับน้องเบญ” รุ่นพี่คนหนึ่งที่ประจำฐานโคตรแขยงเอ่ยปากเสียงหวานถามเบญ
“ครับ”
“แขยงมากเลยน้า~” รุ่นพี่ขู่กลายๆแต่กลับยิ้มหน้าบานที่ได้คุยกับคนตัวหอม
“...ครับ...^_^” รับคำแล้วก็ยิ้มบางๆ
แว๊กกกกกกกกกกกกกกก...กูโคตรเขินน้องมันว่ะ สังเกตได้จากอาการจะยิ้มหรือไม่ยิ้มนั้น ดีที่มืดแล้ว ไม่อย่างนั้นคงเห็นได้ชัดเลยว่ารุ่นพี่คนนี้ใบหน้าได้แดงเถือกเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้ว
ฐานโคตรแขยงจะมีโอ่งทั้งหมดสิบใบ วิธีเล่นคือ...ล้วงแล้วทาย ถ้าทายถูกตั้งแต่ห้าชื่อขึ้นไป ถือว่าผ่าน คนไม่ผ่านจะถูกทำโทษด้วยการอมลูกอมเปรี้ยวจิ๊ด ก่อนเข้าฐานทายนั้นรุ่นน้องแต่ละคนจะได้รับกระดาษคนละใบและรุ่นพี่ประจำฐานจะเป็นคนจดให้เมื่อรุ่นน้องล้วงแล้วทาย โอ่งแต่ละใบห่างกันประมาณ 5 เมตร พอล้วนถึงโอ่งใบสุดท้ายแล้วรุ่นพี่จะตรวจให้โดยจะยังไม่เฉลย หากใครได้รับลูกอมก็เท่ากับไม่ผ่านเท่านั้น สรุปคือจะเฉลยคำตอบให้ในวันรุ่งขึ้น
“อ๊ากกกกกกกก..”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“หยึย!”
“แหวะ! ไรวะ”
“ว้ายยย!”
“กริ๊ดดดดดดดด...”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
เสียงวิ๊ดว้ายกริ๊ดกร๊าดคละเคล้าเสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ
“พี่~...หนูไม่เล่นได้มั้ย~” รุ่นน้องหน้าใสเสียงออดอ้อน ตาวิบวับ
“ไม่ได้ครับน้อง” รุ่นพี่ตอบพร้อมส่งยิ้มให้น้องใหม่หน้าใส ที่ยังคงส่งเสียงออดอ้อนมาให้เป็นระยะๆด้วย
“หยึย~ หยะแหยงชิบหาย”
“เชี่ย! ไรวะ”
“ควายเหอะ” อ่ะนะ
และตามมาด้วยเสียงสบถหลากหลายอีกมากมาย หากแต่เมื่อเบญล้วงจนถึงโอ่งใบที่หก
“...!!...” โอ๊ย! ไม่ได้ร้องออกมาเป็นเสียงแต่เจ้าตัวกลับสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะรีบชักมือขึ้นมาจากโอ่งใบนั้น ใบหน้าน่ารักนั่นแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่
“ปะ...เป็นไรครับ..น้อง” รุ่นพี่ประจำฐานที่เฝ้ามองน้องใหม่ตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มตั้งแต่ต้น เสียงสั่นเล็กน้อยที่ได้คุยกับน้องแทนที่จะแปลกใจที่น้องสะดุ้ง อ้าวก็น้องๆก็สะดุ้งทุกคนนี่นา ก่อนจะถามพร้อมรอยยิ้ม แม่งงง~ โคตรน่ารักว่ะ ตัวโคตรหอมเลย เคลิ้มยาวละ
“....” เบญมองหน้ารุ่นพี่ ยิ้มบางพร้อมส่ายหน้า เห็นรุ่นพี่ชะงักอีกเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้สนใจก่อนจะทายแล้วค่อมตัวเล็กน้อยแล้วเดินไปยังโอ่งใบถัดไป
ระหว่างเดินไปเบญยกข้อมือซ้ายขึ้นมาดู
...มันเป็นรอยกัด...
...มันมีสองรู...
‘รอยเขี้ยวของตัวอะไรเนี่ย?’
‘งู!..’
‘บ้าแล้ว!’
เบญเอามือขวามาจับบีบๆที่บาดแผลแปลกๆที่ข้อมือซ้ายเล็กน้อย ก่อนจะลูบแขนซ้ายตามรอยสัมผัสแปลกๆนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร มันมีแต่ความรู้สึก..ปั่นป่วน..มากกว่า อีกอย่างที่แผลมันเป็นเพียงรูเล็กๆสองรู แต่เลือดกลับไม่ไหล
‘บ้าเอ้ย...บ้าที่สุด’
ความรู้สึกแปลกๆและสัมผัสเมื่อกี้ยังคงชัดเจน เขาโดนตัวอะไรไม่รู้กัดหลังจากนั้นมันก็มาพร้อมกับปฏิกิริยาของร่างกายที่แปลกๆไป ตัวที่กัดเขาพอกัดแล้วมันก็เลื้อยขึ้นมาตามแขนสร้างความรัญจวนใจและก่ออารมณ์บางอย่างในร่างกาย...และบางอย่างในตัวของเบญก็กำลังตอบสนองอารมณ์วาบหวามนั้นอย่างเด่นชัด เบญตัวสั่นเล็กน้อย มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ แล้วรุ่นพี่ใส่อะไรไปในโอ่งใบนั้นเนี่ย บ้าจริงๆ
“เป็นไร” เฮอร์มิสที่ตามมาติดๆถามขึ้น
“เปล่า” เบญยิ้มบางบอกเพื่อน พยายามสงบจิตสงบใจตัวเองอย่างหนัก
“นั่งพักก่อนไหม” เพื่อนเฮอร์แนะนำ แม้ตอนนี้ใบหน้าของคนตรงหน้าจะน่ารักมากเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ความเป็นห่วงกลับมีมากกว่า หากไม่แล้ว เพื่อนเฮอร์คงจะตกหลุมรักเพื่อนเบญอีกรอบแน่ๆ
“...ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ” เบญกัดฟันพูด
สถานการณ์แบบนี้...ช่างบ้าจริงๆ ดีที่มืดแล้วคงจะไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกนะ ว่า...
...เบญน้อยกำลังตื่นตัว...
...แย่...
...แย่ที่สุด!...
ดูเหมือนนอกจากจะไม่มีใครสังเกตเห็นแล้ว ยังไม่มีใครหรือแม้แต่ตัวเบญเองก็ไม่รู้เลยว่าระหว่างที่เขากำลังล้วนมือลงไปในโอ่งใบที่หกนั้น มีบางอย่างที่ไม่น่าจะอยู่ในโอ่งใบนั้นได้...ได้ปรากฎตัวขึ้นและกัดเข้าไปที่ข้อมือด้านซ้ายที่เบญใช้ล้วงลงไป บางอย่างที่มีเพียงเบญเท่านั้นที่สัมผัสไปเจอ จากนั้นมันก็เลื้อยพันแขนเบญเหมือนจะไต่ขึ้นมา แต่กลับหายไปไม่มีอะไรขึ้นมาตามที่เขารู้สึก นั่นมันยังไม่เท่ากับที่สัมผัสนั้นเหมือนกำลังลวงลามเบญไปทั่วทั้งร่างกาย และยังไปกระตุ้นความกระสันอยาก..
...อารมณ์ความต้องการทางเพศ ความพลุ่งพล่านที่พุ่งปริ๊ดขึ้นมากะทันหัน เล่นเอาน้องน้อยของเขาชูชันอย่างกับว่าตัวเขาเองกำลังถูกความรื่นเริงในความฝันนั้นเล่นงานอย่างนั้นล่ะ
ในโอ่งใบต่อไปเบญลังเลเล็กน้อยก่อนจะใช้มือขวาล้วงลงไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเลือดจากบาดแผลที่ข้อมือซ้ายที่ตอนแรกมันไม่ได้ไหลออกมา กำลังค่อยๆไหลออกมาจากรอยกัดนั้นเป็นทางยาวลงสู่หลังมือ หากแต่เลือดที่ไหลออกมากลับไม่หยดลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่มันกลับไหลเป็นสายเหมือนงูตัวเล็กๆที่กำลังเลื้อยไปเรื่อยๆ ค่อยๆรวมตัวกันบนหลังมือด้านซ้าย
...เลือดสีแดงสดกำลังค่อยๆเลื้อยเป็นสัญลักษณ์แปลกๆ...
...ทีละนิด...
...ทีละนิด...
...โดยไม่มีใครรู้ตัวเลย แม้แต่ตัวเบญเอง...
ฐานต่อไป...ฐานเขย่าขวัญ คือฐานที่รุ่นพี่จะใช้เชือกเส้นหนึ่งขึงจากที่หนึ่งยาวไปยังอีกที่หนึ่งตามแนวต้นมะพร้าวไปที่บ้านพักหลังหนึ่งก่อนจะออกมาที่แนวต้นมะพร้าวและจบลงริมชายหาด โดยไฟในบริเวณที่ใช้เล่นฐานนี้จะถูกปิดจนหมด ทำให้บรรยากาศวังเวงพิกล จุดเริ่มต้นอยู่ที่ชายหาดและจุดจบก็กลับมาที่ชายหาด วิธีเล่นคือ ให้น้องๆจับเชือกที่ขึงอยู่นั้นและเดินตามเชือกเส้นนั้นไปจนกลับมาที่ชายหาด สิ่งสำคัญในการเล่นฐานนี้คือ...อย่าปล่อยมือจากเชือกที่จับอยู่
“กริ๊ดดดดดดดดดดดด”
“เฮ้ย!”
“อ๊ากกกกกกกก...”
“อะ...อะไร”
เสียงกรีดร้องจากคนที่เดินไปก่อนดังมาเขย่าขวัญคนที่กำลังจะตามไปเป็นระยะๆ
“อื้ออออ...น่ากลัว” กุลพูดบอกกับเพื่อนสาวนักมวย เพราะหนุ่มตัวเล็กเป็นคนค่อนข้างขวัญอ่อน ฐานแรกกว่าจะผ่านมาได้ก็เล่นเอากุลน้อยน้ำตาแทบร่วง
“...^__^” โน้ตยิ้มเพียงยกมือขึ้นลูบหัวปลอบเพื่อนตัวเล็กเบาๆเท่านั้น
เบญยิ้มเอ็นดูกับสิ่งที่เห็น สองคนนี้เหมือนพี่น้องกันมากกว่าเพื่อนเสียอีก
การเดินตามกันไปแบ่งเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละสิบคน สิบคนแรกหายไปกับแนวต้นมะพร้าวแล้วจึงจะปล่อยสิบคนหลังตามไปอีก ไม่ได้กำหนดเวลา เมื่อมาถึงกลุ่มของเบญและผองเพื่อน เบญเดินตามเพื่อนๆเข้าไปดังเช่นคนอื่นๆ ระหว่างกำลังเดินผ่านแนวต้นมะพร้าวเฮอร์มิสก็แตะแขนเบญเบาๆ
“กลัวป่ะ?” เฮอร์มิสถาม
เบญส่ายหน้า แต่เมื่อคิดว่าเพื่อนคงไม่เห็นจึงได้พูดบอก
“...ไม่”
“ไม่ถามพลอยบ้างล่ะ” เสียงพลอยมุกดังขึ้น
“อ่ะ...กลัวป่ะพลอยสวย”
พลอยมุกค้อนเพื่อนหนึ่งทีแม้เพื่อนจะไม่เห็นก็เถอะ ก่อนตอบ
“ไม่”
“เหอะ! แล้วให้ถามเพื่อ?”
“แหมะ...ก็จะได้รู้ว่าเป็นห่วงไง คิคิคิ” พลอยมุกพูดอย่างอารมณ์ดี
เฮอร์มิสกับสโนว์ส่ายหน้ากันเบาๆ ส่วนเบญก็ทำเพียงยิ้มบางๆ บทสนทนาสั้นๆแต่กลับ
ช่วยคลายบรรยากาศวังเวงไปได้มากโข เบญและผองเพื่อนเดินกันไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้เงียบๆ
วูบบบบ.. สายลมบางเบาพัดผ่าน
แปลกๆ เบญรู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่...เบญคงไม่รู้หรอกว่าสายลมที่พัดผ่านตัวเขาไปนั้นมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสถึงมัน
TBC
นอนละ คร่อกๆๆๆๆ
ตอนหน้า
ตอนที่ 8 สงคราม
พระเอกมาแย้ววววววววววววววว