มาต่อค่ะ
○
●
งานเช้าก็ต้องมา
ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์แล้วที่ผักกาดยังหาคอนโดไม่ได้เลย และตอนนี้น้องสาวฝาแฝดก็ย้ายเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับผักกาดแล้ว เขาให้น้องสองคนนอนที่เตียงในห้อง และเสียสละย้ายหมอนผ้าห่มมานอนโซฟาที่แยกออกมาจากห้องนอนแทนแม้จะปวดหลังนิดหน่อยก็ตาม
ช่วงแรกๆ ผักกาดก็ดื้อจะตื่นขับรถไปส่งน้องที่มหาวิทยาลัยทุกวัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วเพราะน้องสาวไม่ยอมอย่างเดียว น้องของเขายืนยันที่จะไปกันเอง ถ้าผักกาดไม่ยอมก็จะโกรธ ดังนั้นผักกาดจึงยอมทำตามแต่โดยดี
วันนี้วันทำงาน ผักกาดยอมตื่นเช้า ออกจากหอพักแต่เช้า และกินขนมปังแทนข้าวเช้าบนรถดีกว่าการที่ต้องไปติดอยู่ในท้องถนนที่มีการจราจรติดขัด วันนี้กำลังดีมีช่วงถนนโล่ง ถนนรถติดบ้าง แต่ก็ถือได้ว่าเขาทำเวลาได้ค่อนข้างดีเลย
“ พี่กาด เห็นพี่ติณบอกว่าพี่กำลังหาคอนโดหรอ? ”
“ ใช่ๆ ”
“ ทำไมอะพี่ แล้วหอพักเดิมพี่ล่ะ เห็นบอกว่าพี่อยู่มาตั้งแต่เรียน ปี 1 ไม่ใช่หรอครับ ”
“ อืม พี่อยากจะซื้อคอนโดตั้งนานแล้วล่ะ เพราะเวลามาทำงานก็จะได้สะดวกขึ้นด้วย ส่วนหอนี้ก็ตั้งใจให้น้องสาวมาอยู่แทน มันใกล้มหาวิทยาลัยด้วย แต่ที่พี่ยังอยู่ที่เดิมเพราะยังหาคอนโดไม่ได้ ”
“ อ๋อครับ แล้วนี่..พี่ชอบนอนไม่หลับถ้าแปลกที่ใช่มั๊ยล่ะ ”
“ อืมมม แต่ก็ปรับตัวได้ นอนทุกวันเดี๋ยวก็ชินเอง^^ ความจริงพี่อะนะอยากมีบ้านเป็นของตัวเองน่ะ แต่คงยากหน่อย เลยคิดว่าเป็นคอนโดที่มีห้องเป็นสัดส่วน มีเตียงนุ่มๆ แบ่งพื้นที่ไว้ทำงาน ชั้นวางหนังสือการ์ตูน มีโทรทัศน์เปิดดูหนัง มีครัวทำอาหาร เลี้ยงแมวได้ อืม.. ปลูกต้นไม้บนชั้นวางริมระเบียงได้ สำหรับการอยู่คนเดียว พี่ก็ถือว่าน่าอยู่แล้วล่ะนะ ”
“ โห พูดอย่างกับจะอยู่คนเดียว จะโสดตลอดชีวิตนะคนเรา ”
“ คงงั้น ”
" ไม่เอาน่าพี่กาด รอคิวท์หาแฟนให้พี่ก่อนค่อยตัดสินใจไม่ได้หรอ "
" ขี้เกียจรอหน่าาา"
ผมไม่เคยมีแฟนไม่เคยคบใคร แม้เมื่อก่อนเคยมีคนคุยๆบ้างตอนมอปลาย กับช่วงมหาวิทยาลัยปี 1 แต่ไม่ได้คบหรอก เพราะผมใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการเรียนและการทำงานพิเศษ ทำงานพาร์ทไทม์ รับจัดเบรก ขายเสื้อผ้า สอนพิเศษ เพื่อหาเงินเรียน เรื่องรักๆใคร่ๆ เลยเป็นเรื่องที่รองลงมา จนตอนนี้ก็กลายเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมจะคิด
" งั้นคิวท์จะรีบหาเลย ไม่ใช่สิ.. หาได้แล้วต่างหาก "
" ยังไม่เลิกคิดอีกหรือไง "
ผักกาดคิดหนัก ไม่น่าไปปากไวบอกคิวท์ให้หาให้เลย เพราะเด็กน้อยดูท่าจะจริงจัง ไม่ยอมแพ้เลย
" ไม่เลยครับโผมมม คิวท์หาแฟนให้พี่กาดได้ทันก่อนพี่จะได้คอนโดแน่ๆ ชัวร์! ยืนยันเลย "
" เพ้อๆ "
เฮ้อออ ไม่ใช่อะไรนะ
การเป็นนักรักมันยากอะ ดูอย่างไอ้แยมที่มันผ่านความรักมาเป็นสิบครั้ง ร้องไห้แทบตาย แค่นึกก็ท้อแท้
บางทีผักกาดก็อยากเปลี่ยนความคิดอยู่เหมือนกัน อยากมีความรู้สึกว่าการมีความรัก ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น
เพราะบางทีมันก็ขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตด้วย
“ สุดสวยของผมจะแต่งงานแล้วหรอพี่? ”
“ ใช่ มันเจอคนที่รักมันจริงๆ พี่ก็โล่งใจนะ ว่าแต่เรารู้ได้ยังไง? ”
“ พี่แยมโทรมาบอกครับ ”
“ มันนี่น้าา ”
“ เพื่อนรักพี่เลยนะนั่น ”
“ เพื่อนเหี้ยน่ะสิ ตอนมันอกหักกี่ครั้งๆนะ พี่กับไอ้วาน่ะเหนื่อยแทบแย่ ไม่เป็นอันกินอันนอนไปด้วย แต่มันก็ไม่เคยเข็ดกับความรักนะ ”
เวลา 7 ปี ที่ไอ้แยมกับพี่ปังคบกันก็ไม่ใช่น้อยๆ
เขาบอกกันว่าคู่รักที่คบกันมา 7 ปี ส่วนใหญ่จะเลิกรากัน แต่มันก็ไม่จริงเสมอไปหรอก ดูจากไอ้แยมสิ ตอนนี้ชีวิตแยมกำลังขับเคลื่อนไปด้วยความรักที่ดี
“ รักคืออะไร ”
“ หือ? ความรักก็คือความรักน่ะพี่ นิยามรักของแต่ละคนมันก็ต่างกัน ไม่มีใครนิยามมันเหมือนกันหรอกพี่ ”
“ อืม แยมมันก็เคยบอกพี่ว่า มันเกิดมาเพื่อมีความรัก มันทุ่มเทกับทุกความสัมพันธ์ที่มันเคยรัก มันไม่รู้ว่าความรักครั้งนี้จะอยู่กับมันตลอดไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขารักมัน มันรักเขา ถ้ามันจะใช่มันก็ใช่อะ หึ ”
“ โห ผมนับถือใจพี่แยมมากอะ ..แต่พี่อะ? ”
“ พี่ทำไม? ”
“ เปล๊า ไม่มีไรครับ ” เปล่าซะเสียงสูงเชียว แต่ผมก็ไม่ถามต่อหรอกนะ เพราะเดี๋ยวคิวท์คงจะวนเข้าเรื่องเดิมๆ
“ งั้นก็ช่วยหาคอนโดดิ เลิกพูดถึงเรื่องรงเรื่องรักได้แล้ว”
“ โธ่ คิวท์ช่วยอยู่แล้ว นี่ไงพี่กาด พอได้ยินจากพี่ติณบอกว่าพี่กาดกำลังหาคอนโด คิวท์เลยลองถามคนรู้จักให้พี่เรื่องคอนโดมาแล้ว เขาแนะนำที่นี่มา คือพี่เขาซื้อไว้ 2 ห้อง เขาอยู่ห้องหนึ่งแล้วอีกห้องไม่มีคนอยู่ เขาบอกถ้าพี่สนใจเขาจะขายต่อให้ ”
“ จริงอะ ที่ไหน? ”
ผมยื่นมือไปรับโทรศัพท์ที่มีรูปคอนโด และรายละเอียดจากคิวท์ ก่อนที่จะก้มลงไปอ่านชื่อคอนโด
ความจริงแล้วผมรู้จักที่นี้ และค่อนข้างสนใจที่นี้ตั้งแต่หาข้อมูลแล้วล่ะ แต่เคยโทรไปสอบถามเขาบอกว่าเต็มแล้ว ตอนนั้นก็นึกเสียดายอยู่เหมือนกัน
“ คอนโดนี้มีทำเลที่ดีมากเลยครับ แถมมีดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และระบบปลอดภัยของเขาก็ดี ถ้าคุณวงศ์รวีสนใจลอง..”
“ เดี๋ยวๆ ทำยังกะเป็นพรีเซนต์เตอร์ เราไปรับโฆษณาให้เขาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมพี่ไม่รู้ ” ผมเลิกคิ้วสงสัย หลังจากเห็นว่าคิวท์ยืนตัวตรง มือประสานกันไว้ด้านหน้าอย่างคนมีบุคลิกภาพดี บวกกับการพูดแนะนำคอนโดอย่างกับเป็นเจ้าของหรือพรีเซนเตอร์โครงการ
“ เปล่าครับ แต่ที่นี้ดีจริงๆ ถ้าเป็นคิวท์คิวท์ก็ซื้อ ”
“ แล้วทะ..”
“ พี่อย่าถามสิว่าทำไมไม่ซื้อ ผมมีบ้านพี่ก็รู้ แถมแม่ไม่ให้ซื้อแน่ๆ ”
“ เออจริง ”
“ แล้วพี่สนใจป่ะ ”
“ ก็สน แล้วเขาขายเท่าไรถ้าแพงเกินไปก็ไม่อะ ”
“ ไม่แพงเลยพี่กาด เขาบอกว่าถ้าพี่สนใจแต่ไม่มีเงินก้อน สามารถผ่อนจ่ายได้ไม่คิดดอกเบี้ย คุยกันได้ๆ ”
“ จริงมั๊ย ดีว่ะ พี่สนๆ ”
“ งั้นผมจะให้ไลน์พี่เขาไปนะ ”
“ โอเค ”
○
●
@Drd
ดี อาร์ ดี หรอ?
“ แน่ใจนะว่าถ้าพี่ทักไปแล้วเขาจะตอบพี่ ”
“ ทำไมถามงั้นล่ะพี่ ”
ผมถามคิวท์ขณะกำลังจะกดแอดไลน์คนที่เป็นเจ้าของคอนโดที่อยากจะซื้อต่ออย่างคิดไม่ตก
มีความกังวลเล็กๆ ว่าจะติดต่อเขาได้จริงมั๊ย เพราะพอกำลังจะกดแอดไปดันเห็นว่าคนนั้นเขาไม่ได้ใส่รูปอะไรเป็นรูปโปรไฟล์เลย
“ เขามีตัวตนใช่มั๊ยวะ ”
“ มีดิพี่กาด ถามไรเนี่ยย แอดไปเลยพี่ ไว้ใจได้จริงๆ คิวท์เกริ่นๆกับพี่เขาไว้แล้วว่าพี่กาดสนใจซื้อคอนโดต่ออะ ” คิวท์ผู้เป็นนายหน้าไม่หวังผลตอบแทนพูดติดหัวเราะ
“ เออๆ แล้วเขาชื่ออะไรอะ? ”
“ หื้อ?? อ๋อ เขาหรอ ชื่อ.. เขาชื่อ.. อ้าว! โทรศัพท์เข้าอะพี่ แม่โทรมา เดี๋ยว..คิวท์ไปคุยกับแม่ก่อนนะ ”
“ ซะงั้น! ” ผมเผลอถอนหายใจ มองตามแผ่นหลังเด็กน้อยที่รีบเดินหันหลังออกไปพร้อมโทรศัพท์ในมืออย่างคาดโทษ มันจะบอกชื่อเขาก่อนจะเดินไปก็ไม่ได้
อะๆ งั้นแอดไปเลยล่ะกันเนาะ
ทักว่ายังไงดี..
Wongrawee
: สวัสดีครับ
: ผมชื่อวงศ์รวี ได้ไลน์คุณมาจากน้องคิวท์ อาริยะ ครับ
เออ แบบนี้ก็ง่ายดี ส-วัส-ดี ไว้ก่อน ตามสเต็ปด้วยการแนะนำตัว
Drd
: ครับ
เขาอ่านแล้ว
ตอบเร็วด้วยแฮะ
Drd
: รวี
: พี่เดาว่านั่นคือชื่อเล่นของน้องล่ะนะ
ผมชะงัก และไล่สายตาอ่านประโยคในข้อความไลน์อีกรอบ รวี?
ใช่เลย ผมอ่านไม่ผิดแน่ๆ แต่คุณคนนั้นมันเดาผิดไงโว้ย
ไม่เคยมีคนอื่นเรียกชื่อเล่นของผมว่ารวีเลยสักครั้ง ยกเว้นคนคนหนึ่ง แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว
คนอื่นไม่เรียกกันเพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าผมไม่ชอบ แถมผมเป็นผู้ชาย การเรียกรวีเฉยๆ มันค่อนข้างจะดูหวานแว๋วเกินไปจริงๆ ไม่เหมาะกับหน้าตาของผู้ชายแมนๆ อย่างผมเลยสักกะนิด แถมฟังแล้วไม่ค่อยจะเข้าหูด้วย
‘ ไอ้น้องรวี ’
‘ อย่าเรียกแบบนั้นได้ป่ะครับพี่ ผมบอกแล้วไงว่ามันไม่แมนอะ’
‘ น้องบอกว่ารวีเฉยๆ ไม่แมน งั้นผักกาดนี่แมนมากเลยมั๊ง ’
‘ โว๊ะ งั้นแล้วแต่พี่จะเรียกแล้วกัน ’
‘ งั้นกูจะเรียกรวี สลับกับผักกาดแล้วกันนะครับน้อง ’
‘ ไอ้.. ’
‘ หึ มีปัญหาอะไรกับพี่หรอครับน้องรวี ’
เหอะ! เลิกคิดถึงเสียงนั่นสักที ผมต้องรีบแก้ชื่อให้คุณเขาเรียกผมให้ถูก
Wongrawee
: เออ..
: ไม่ใช่ครับ ผมผักกาดนะฮะ
Drd
: ผักกาด
: ผักกาดขาว
ผมหัวเราะแห้งๆ กับตัวเองหลังจากอ่านข้อความที่เขาตอบกลับมา เติมขาวให้เก่ง บางคนก็เติมเขียว
Drd
: ชื่อน่ารักนะครับ
Wongrawee
: ขอบคุณครับ
ขอเข้าเรื่องเลยได้ไหม ใจมันอ่อนแอ ไม่อยากให้ใครมาชงมาชมอะไรทั้งน้านน
Wongrawee
: พอดีผมสนใจที่จะซื้อคอนโดของคุณครับ
Drd
: สนใจพี่
: เฮ้ย สนใจคอนโดของพี่
: พิมพ์ตกไปน่ะครับ
Wongrawee
: ครับ
Drd
: ก่อนจะสนใจคอนโด อยากรู้จักชื่อพี่ไหม
เออ ผมลืม
ตอนแรกก็กะว่าจะถาม แต่ข้อความของเขาคนนี้ดันทำผมเป๋ไปไกล
Wongrawee
: เออ
: ขอโทษครับ ผมลืมถามเรื่องนี้กับคุณไปสนิท
Drd
: ลืม หรอครับ
: งั้นพี่ขอไม่บอกนะ
Wongrawee
: เดี๋ยวๆ ครับ
: ผมขอโทษจริงๆ ผมอยากทราบชื่อของคุณครับ
Drd
: ครับ ล้อเล่นนะ
: แกล้งง่ายเหมือนกันนะเรา
: เรียกพี่ว่า D
D Dog อะหรอครับ
เชี่ยๆ เกือบมือลั่น ได้ซวยพอดีไอ้ผักกาดด
ความจริงผมเป็นคนหยาบคายนะ หยาบคายในใจ ด่าในใจซะส่วนใหญ่ ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆหรอก กลัวโดนต่อย
ชื่อ D d ดี เนี่ยนะ ทำไมบังเอิญจังว่ะ
Wongrawee
: คุณ ดี หรอครับ
Drd
: จะเขียนแบบนั้นก็ได้
Wongrawee
: ชื่อคุณคล้ายกับคนที่ผมรู้จักเลยนะครับ
Drd
: หรอครับ
: ไม่แน่ เราอาจจะรู้จักกันนะ
Wongrawee
: ไม่หรอกมั๊งครับ
ในชีวิตของไอ้ผักกาดคนนี้ รู้จักคนชื่อฎี ที่เขียนว่าฎีเป็นคนแรก เขาเป็นคนเดียวที่เรียกผมว่ารวี เป็นคนขี้แกล้งแถมกวนประสาทที่หนึ่งในใจ แม้วันดีคืนดีจะมาด้วยหน้านิ่งๆ หรือยิ้มกวนก็ตาม แต่ล่าสุดเขาหายตัวไปอีกแล้ว
“ ว่าแต่..เขาบอกว่าจะไปไหนทั้งเดือนนะ เงียบหายไปเลยจริงๆ ด้วย ”
เอาล่ะๆ จะไปนึกถึงเขาทำไมกัน ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆ นั่นออกไป ช่วงนี้มาอยู่ในความคิดกันบ่อยเกินไปแล้วนะ
ส่วนคนนี้ ชื่อดี คงแค่อ่านออกเสียงเหมือนกันเท่านั้นแหละ
Drd
: ชื่ิอพี่อ่านว่าดี
: แต่เขียนก็ได้หลายแบบนะ
นั่นไง จริงด้วย
บางทีชื่อเขาอาจมี ย ยักษ์ การันต์ล่ะมั๊ง เพื่อเพิ่มความกวนตีนอีก 87%
ดีย์ คิกๆๆๆๆๆ
แต่ช่างเถอะ ดีย์ ก็คือ ดี
ไม่ใช่ฎี แบบคุณฎีรดลหรอก ชื่อแบบนั้นคิดว่าคงมีคนเดียวในโลก
Wongrawee
: ครับคุณดี
Drd
: ไม่ใช่ คุณดีครับ
: เรียกพี่ว่าพี่เถอะครับ
: ไม่ยากๆ ลองเรียกดูสิครับ
: พี่ดี
แงะ ทำไมประโยคนี้มันดูคุ้น ๆ นะ ไอ้ประโยค ลองเรียกดูสิครับ เนี่ย
นอกจากจะชื่อออกเสียงเหมือนกัน ยังย้ำให้เขาเรียก 'พี่' เหมือนกันอีก
ไม่ได้เรียกลุงสักหน่อย ทำไมถึงต้องย้ำให้เรียกพี่กันจัง
Wongrawee
: ครับ
: พี่ดี
Drd
: เก่งมากครับ
: ค่อยดูสนิทกันง่ายขึ้นหน่อย
ผมเผลอถอนหายใจ
การสื่อสารกับใครสักคนที่ไม่รู้จักแบบนี้ โคตรเหนื่อยและใช้พลังงานอย่างเยอะเลย กดพิมพ์ไปพลางคิดไปด้วยว่าเขาจะรู้ตัวไหมนะว่าตัวเองค่อนข้างเหมือนผักโขมน้องชายของผมไม่มีผิด เรื่องพลังเยอะแล้วทำให้คนคุยด้วยรู้สึกเหนื่อย
แต่ก็นะ อย่ารู้จักกันน่ะดีที่สุด ไม่งั้นผมได้เหนื่อยคูณสองคูณสามแน่ๆ
“ พี่กาดหน้ามุ่ยเชียว เป็นไรอะ? ”
“ เปล่าๆ ”
“ เปล่าที่แปลว่าเป็นน่ะสิ ”
คิวท์ที่เดินบอกว่าออกไปโทรศัพท์กับแม่เมื่อกี้ รีบเดินตรงดิ่งกลับมานั่งข้างผักกาด เพราะเห็นว่าผู้จัดการของเขากำลังทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดผูกเป็นริบบิ้นห่อของขวัญ
“ ก็คนเนี่ยอะ เขาชื่อดีใช่ป่ะ? ”
“ เฮ้ย? ”
ไอ้น้องคิวท์มันจะร้องเฮ้ยอะไรของมัน ผมทำหน้าสงสัยเพราะคิวท์เล่นร้องซะเสียงดัง แถมทำหน้าตาอึ้งๆ ก่อนหลบสายตาเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ ตกใจอะไรขนาดนั้น? ”
“ พี่คุยกันแล้วหรอ รู้แล้วหรอ? ”
“ กำลังคุย ทักไปซักพักแล้ว เพิ่งได้รู้ชื่อเนี่ย ”
“ แล้ว เออ.. ”
“ เขาเป็นคนกวนตีนหรอวะคิวท์ หรือเค้าออกแนวเพี้ยนๆ ป่ะ? หรือคนชื่อนี้จะเป็นแบบนี้กันทุกคน? ”
ผมยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้คิวท์ดูข้อความในแชท เพื่อยืนยันว่าเขาเข้าใจไม่ผิด แต่ดันกลายเป็นว่าคิวท์ทำหน้างงมากกว่าเดิม
“ เออ ..พี่รู้แล้วจริงป่ะเนี่ย ”
“ เอ้า แล้วจะให้รู้อะไร? แต่เนี่ย..ชีวิตเราต้องมารู้จักคนชื่อดีหลายคนจังเนาะ เหอะ! ” ผมกรอกตาพร้อมกับเอ่ยปากบ่น
“ คนชื่อ ดี หลายคน? ไหนผมขออ่านใหม่สิ ”
ว่าแล้วคิวท์ก็ขอโทรศัพท์ของผมไปเปิดดูแชท และไล่อ่านอีกครั้ง ก่อนพยักหน้าเข้าใจอยู่คนเดียว ซึ่งสร้างความงุนงงให้ผมไม่สิ้นสุด
“ เออๆ ช่างมันเหอะ ” ผมว่าขณะที่รับโทรศัพท์ของตัวเองคืนมา
“ อ่าๆ โอเคพี่ ..สงสัยยังไม่รู้ ”
“ ว่าไงนะเมื่อกี้? ”
“ เปล่าๆ ไม่มีอะไร พี่กาดอะหูแว่ว ”
ไม่มีพิรุจเลย ดูทำหน้าเข้า
ผมมองคิวท์ที่ทำหน้าตาเลิกลักแล้วก้มหน้าหลบสายตาผมอีกครั้งไปสนใจโทรศัพท์มือถือของเขาแทน แต่ผมก็ไม่ได้ไปคาดคั้นอะไรอยู่แล้ว เพราะต่อให้คิวท์ทำหน้ามีพิรุจอย่างนั้นก็จริง แต่ความจริงไม่มีอะไรหรอก หรือถ้ามี ไม่นานน้องน้อยของผมก็จะบอกออกมาเอง
.
.
○
●
“ เรื่องคอนโดพี่กาดว่าไงอะ ”
“ พี่ยังไม่ได้ถามรายละเอียดเขาต่อเลยอะ ”
“ ครับ ”
“ ขอเก็บพลังก่อน คุยกับคนมีพลังเยอะแล้วมันเหนื่อยเราอะพี่ว่า ”
“ ฮ่ะๆๆ ครับผม ”
“ กลับดีๆ นะคิวท์ ”
“ ครับ เหมือนกันนะพี่กาด ”
ผมกับคิวท์บอกลาก่อนแยกกันเหมือนทุกวันเมื่อถึงเวลาเลิกงาน วันนี้มีกลุ่มเพื่อนน้องขับรถมารับเพราะน้องต้องรีบไปติวและอ่านหนังสือที่หอสมุดเตรียมสอบย่อยในบ่ายวันพรุ่งนี้
ตื้อดึ้ง
ผมกดเปิดแอปพิเคชั่นสีเขียวในโทรศัพท์ขึ้นมาดู วันนี้ที่มันสั่นครืดแทบทุกครึ่งชั่วโมงระหว่างที่ผมเฝ้าและดูความเรียบร้อยให้กับคิวท์เพื่อเข้าร่วมสัมภาษณ์กับเก่งกล้าในรายการรายการหนึ่ง
ปกติผมจะถือโทรศัพท์ไว้กับตัวตลอดอยู่แล้ว ถ้าไลน์เข้าผมก็อ่านมันแบบไม่ได้เปิดเข้าไปในแชทนั่นแหละ เพราะถ้ามันสำคัญเขาคงโทรมาหา การคุยกันโดยการโทรศัพท์มันง่ายที่สุด ถ้าให้มาพิมพ์ตอบกลับทั้งๆ ที่กำลังยุ่งก็จะเสียเวลาทำงานเปล่าๆ ไว้ผมว่างแล้วค่อยเปิดอ่านทีเดียวตอบกลับทีเดียวก็ได้ ผมว่านะ
ตื้อดึ้ง
แชทหรือข้อความที่เด้งเข้ามาเรื่อยๆ ระหว่างวันนั้นมีทั้งข้อความของพี่ติณที่เป็นหัวหน้างานที่ทักมาตามงาน
ในกลุ่มที่มีไอ้แยมไอ้วาทักมาเม้าท์มอยเรื่องเครื่องสำอางและรองเท้าลดราคา
น้องสาวอย่างข้าวโพด-ข้าวฟ่างที่ทักมาบอกว่าขอไปกินหมูกระทะกับเพื่อนใหม่
น้องชายอย่างผักโขมที่ทักมาบอกว่าอยากไปร้องคาราโอเกะด้วยเพราะเพื่อนมันไม่ยอมไป แถมยังบอกว่ามันร้องเพี้ยน
และแชทล่าสุดคือคุณดีเจ้าของคอนโด
15.22 น
Drd
: ทักมาแล้ว ก็หายไปทั้งวันเลยหรอครับ
: ไม่ว่างหรอครับ
16.39 น.
Drd
: ทักพี่มาได้ตลอดนะครับ
16.55 น.
Drd
: ผักกาดครับ
17.45 น.
Drd
: พี่รอได้
หึ สงสัยเขาคงอยากขายคอนโดให้ผมเหมือนที่ผมอยากซื้อคอนโดของเขามาก หรือไม่เขาก็คงเหงา
Wongrawee
: ผมทำงานเพิ่งเสร็จครับพี่ ขอโทษที
: เดี๋ยวผมขอคุยกับพี่เรื่องคอนโดได้มั๊ยครับ
ผมพิมพ์ต่อกแต่กตอบเขาไปแล้วก็เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าสะพายของตัวเองอีกครั้ง ก่อนขับรถเพื่อกลับหอพัก และผมใช้เวลากับการแวะซื้อของมินิมาร์ทใต้หอนิดหน่อยพวกน้ำดื่มกับขนมจุกจิกเผื่อน้องสาว
❤ 70 เปอร์เซนต์ (%)
-----