ตาคมๆ ของคุณชายทรงเพลิงมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินนำหน้าตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวันศุกร์คงจะนอยด์เรื่องไร้สาระที่ไอ้ริวกุขึ้นมา สมัยเรียนเขาไม่มีหรอกแฟนที่คบกันมาตั้งหลายปีหรือเป็นสาวเซ็กซี่อย่างที่ได้ยิน ไม่มีหรอกที่เคยคบใครนานๆ มีแต่คบสี่ห้าวันแล้วก็เลิก วันไนต์สแตนด์เสร็จก็แยกทาง
ร่างสูงเดินตามคนตัวเล็กเข้ามาในห้องโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรสักอย่าง เดินตามน้องที่ไปหยุดอยู่ตรงมุมที่มองเห็นวิวสวยๆ แต่ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว มีแค่แสงไฟจากอาคารและไฟตกแต่งตามท้องถนนที่บ่งบอกถึงความคึกคักของเทศกาลช่วงสิ้นปีเท่านั้น
“นี่! คุณชาย”
แล้วคนที่ยืนกอดอกหันหลังให้คุณชายก็ร้องเสียงหลงเมื่อถูกกอดจากด้านหลังแถมแก้มกลมๆ ยังโดนหอมทั้งซ้ายทั้งขวาอีกต่างหาก คอขาวๆ ที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้าเขาก็ไม่เว้นที่จะกดจมูกสูดดมความหอม ทรงเพลิงรัดร่างเล็กด้วยแขนให้แนบชิดกับอกกว้าง แนบปากบนขมับ ขบเม้มใบหูของคนที่กำลังทำหน้างอ
“งอนเหรอ”
“งะ...งอนอะไรครับ!”
เอาเข้าจริงเขาก็ชอบเห็นใบหน้างอแงของวันศุกร์ อยากแกล้งบ้างอะไรบ้างแต่ก็กลัวว่ามันจะเตลิดไปไกล ทั้งรู้สึกสงสารทั้งอยากจับฟัดให้จมเตียง เวลางอนทีไรแก้มขาวๆ ก็พองขึ้นมาทันที หางตาตกทำหน้าหงอยแบบนั้น พอเห็นก็ไม่อยากแกล้งแล้ว
“ริวคงเห็นเราน่ารักเลยอยากแกล้ง ไอ้นั่นมันโรคจิต อย่าไปฟังที่มันพูด”
“คุณชายกำลังจะบอกว่าพี่ริวโกหกงั้นสินะครับ”
“ไหนบอกว่าไม่งอน ทำไมถึงทำเสียงแข็งใส่พี่”
คนถูกจับได้สะดุ้งเบาๆ เมื่อแก้มขาวถูกจูบไปเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ วิวที่กระจกบานใหญ่ตรงหน้าไม่ใช่จุดโฟกัสของเราสองคนเพราะวันศุกร์เอี้ยวหน้ามามองเขา เช่นเดียวกับทรงเพลิงที่มองใบหน้าด้านข้างของอีกคน
“ไม่ได้งอนสักหน่อย”
“ปากก็ไม่ได้แข็ง...”
“คุณชาย!”
ถูกมองตาขวางพร้อมกับฝ่ามือนุ่มๆ ที่ตีลงบนท่อนแขนแกร่ง คุณชายทรงเพลิงหัวเราะให้กับอาการร้อนตัวที่ไม่แนบเนียน วันศุกร์ที่เก็บอาการเก่งต้องมาแพ้ให้กับเรื่องของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง
“มันแกล้งเรา อย่าไปใส่ใจ พี่ไม่เคยมีแฟนที่คบกันนานเป็นปี มากสุดแค่อาทิตย์เดียว”
“บอกทำไมล่ะครับ”
“บอกให้หายงอนไง”
“คุณชายเชื่อได้แค่ไหน”
“พี่เคยโกหกเราสักเรื่องมั้ย”
วันศุกร์ส่ายหน้า ยอมรับกันตามจริงเลยว่าหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไม่เคยโกหกวันศุกร์เลยสักครั้ง เขามีความจริงใจมอบให้ ซื่อตรง และให้เกียรติคนที่รักเสมอ
เขารู้ว่าวันศุกร์รู้อยู่แก่ใจ
“ผมไม่ได้งอนหรอก แต่ก็ขอบคุณนะครับที่บอก”
คนตัวเล็กยิ้มบางๆ ให้เขาก่อนที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มจะจูบลงบนหน้าผากของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงไปหนึ่งครั้งแล้วก็อมยิ้มทำลอยหน้าลอยตาแกล้งมองวิวตรงหน้า
รู้แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว วันศุกร์รำคาญตัวเองจะตายที่มีอาการหึงหวงคุณชายในตอนที่ยังไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ
แล้วภาพตรงหน้าก็สวยงามมากๆ ในตอนที่วันศุกร์ถูกโอบกอดเอาไว้ เพราะเพิ่งเคยมาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในเวลานี้วันศุกร์เลยไม่อยากจะละสายตาเมื่อดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้า มันกระจายตัวสวยตรงหน้าเขาพอดี แต่ในขณะที่กำลังยิ้มกว้างกับภาพตรงหน้าเสื้อโค้ทสีครีมบนตัวที่ใส่กันความหนาวก็ถูกดึงออกจากไหล่ ความเย็นวาบสัมผัสผ่านเนื้อผ้าไหมพรมเพียงครู่เดียวก็กลับมาอบอุ่นเหมือนเดิมอีกครั้งตอนที่ถูกกระชับกอดเอาไว้
วันศุกร์เหลือบตามองท่อนแขนแกร่งเปลือยๆ ตรงหน้าท้องของตัวเอง พอเห็นผิวขาวๆ ของคุณชายเขาก็ต้องรีบหันกลับไปมองทันที แล้วก็พบว่าทรงเพลิงเองก็ไม่ได้สวมโค้ทแล้วเช่นกัน เหลือแต่เสื้อยืดสีดำที่ไม่เหมาะกับอากาศในตอนนี้สักเท่าไหร่
“เพลิง” เสียงหวานเรียกชื่อคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงส่งยิ้มตอบรับ กระชับอ้อมกอดให้แน่นกว่าเดิมเพราะสัมผัสได้ถึงความเย็นจากฝ่ามือนุ่มที่วางบนหลังมือหนาของเขา ถึงน้องจะหนาวแต่ก็ไม่ยอมหยิบโค้ทที่เขวี้ยงไปแล้วมาสวมให้เหมือนเดิม ทรงเพลิงคิดว่าแค่กอดของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้อีกคนหายหนาวได้แล้ว
หรือถ้ายังไม่หายหนาว...ก็มีวิธีอื่นเหมือนกัน
“ตอนที่เราเลิกกันเพลิงได้คุยกับใครมั้ย”
“ไม่ครับ”
วันศุกร์อมยิ้ม
“ไม่ได้ยุ่งไม่ได้คุยกับใคร พี่รอให้วันศุกร์กลับมา”
แล้วก็ยิ้มกว้างกับความจริงที่รับรู้ได้จากน้ำเสียงแสนมั่นคงของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง อย่างที่บอกว่าคุณชายไม่เคยโกหกวันศุกร์เลยสักครั้ง คำเหล่านั้นที่ออกจากปากเลยกลายเป็นความประทับใจของวันศุกร์ เพราะในช่วงเวลาหลายปีที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมันคงสามารถเปลี่ยนความรู้สึกในใจของใครได้หลายคน
มันเป็นธรรมชาติ กฎเกณฑ์ในความจริงที่ว่าถ้าเลิกกันไปแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็คงมีรักใหม่ วันศุกร์คิดเอาไว้เสมอว่าคนที่มีพร้อมทุกอย่างในชีวิตอย่างคุณชายทรงเพลิงคงมีใครสักคนมาแทนที่ตัวเองในตอนนั้น แต่มันก็ไม่ใช่อย่างที่คิด...เขาดูคุณชายผิดไปจริงๆ
วันศุกร์หมุนตัวหันมาหาหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอ้อมกอด วางมือขาวลงบนไหล่กว้าง รอยยิ้มสวยๆ ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อตราตรึงอยู่ในสายตาของทรงเพลิง...
แววตาหวานซึ้ง จมูกโด่งสวยธรรมชาติ ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูคือความงดงามที่ทรงเพลิงไม่สามารถละสายตาได้
“อื้อ ผมกลับมาแล้วนะ”
คนตัวสูงหลุบตามองริมฝีปากบางที่ขยับเปล่งเสียงบอกเขาเบาๆ ก่อนจะช้อนตามองใบหน้าที่ห่างกันแค่ไม่กี่เซ็นต์ ลมหายใจอุ่นๆ ประสานกันในตอนที่มือหนาลูบกรอบหน้าเนียนสวยอย่างเบามือ ปลายนิ้วโป้งคลึงเป็นวงกลมที่แก้มขาว ยกยิ้มให้กับคนที่ค่อยๆ เม้มปาก ยิ้มให้กับมือเล็กๆ บนไหล่ที่กำลังสั่น
“ปะ...ไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวค่อยอาบทีเดียว”
ทั้งที่กำลังจะดันไหล่ออกแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันทีเมื่อริมฝีปากถูกครอบครองจากคนตัวสูง วันศุกร์ถูกดันให้ถอยจนแผ่นหลังติดแนบกับกระจกบานใหญ่ ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากเพราะคำเหล่านั้นถูกส่งผ่านจูบนุ่มๆ ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นจูบดิบๆ เร่าร้อน เรียวลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้ามาชิมรสวานิลลาหวานๆ ดูดกลืนจนสมองของคนตัวเล็กแทบเบลอในคราเดียว
วันศุกร์โอบรอบคอทรงเพลิงที่ครางอย่างพึงพอใจในตอนที่มือหนาสอดเข้ามาใต้เสื้อไหมพรมสีครีม ปลายนิ้วเย็นไล้บนหน้าท้อง และเอวบางก็ถูกมือหนาบีบคลึงอย่างมันเขี้ยว ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ทรงเพลิงกลับทำให้วันศุกร์สะท้านจนตัวสั่นแทบไปไม่เป็นเมื่อปลายนิ้วเลื่อนขึ้นมาเขี่ยตรงยอดอก
นับถือในความช่ำชองที่แม้ว่ามือจะอยู่บริเวณอกแต่ริมฝีปากก็ยังถูกโลมเลียไม่เว้นระยะห่าง ลิ้นสีชมพูของวันศุกร์ถูกเกี่ยวกระหวัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทรงเพลิงดูดกลืนทุกลมหายใจ ทุกหยาดของความหวาน ลอบเลียริมฝีปากชุ่มฉ่ำราวกับคนอดอยาก
“อือ”
เสียงหวานหลุดครางออกมาในตอนที่ชายเสื้อถูกเลิกขึ้น วันศุกร์ขนลุกไปทั้งตัวในตอนที่ผิวกายเนียนขาวสัมผัสกับความหนาวเย็นของอากาศ ตาหวานๆ ปรือมองเสื้อไหมพรมที่ถูกดึงออกจากร่าง วันศุกร์มีเวลากอบโกยอากาศเข้าปอดไม่กี่วินาทีริมฝีปากก็ถูกครอบครองอีกครั้ง สัมผัสที่แผ่นหลังทำให้เรียวขาสั่นระริก ยิ่งเมื่อต้นแขนแกร่งแทรกเข้ามาที่หว่างขา วันศุกร์ก็เกร็งแข็งไปทั้งตัว
เซ็กส์ที่เกิดขึ้นด้วยกันตั้งหลายครั้งไม่ได้ทำให้วันศุกร์ชินกับมันสักที เขายังเขินอายจนแก้มแดงปลั่งในตอนที่ถูกโลมเลียด้วยสายตาหื่นๆ จากทรงเพลิง และเพราะแก้มแดงๆ นั่นแหละที่กระตุ้นให้คนตัวโตเคลื่อนหน้าลงต่ำ จมูกคมสูดกลิ่นหอมจากซอกคอขาว ลิ้มรสด้วยปลายลิ้นอย่างกับไม่เคยชิมมาก่อน ในหัวของวันศุกร์ขาวโพลนเพราะแรงดูดเม้มบนผิว
คุณชายไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยสร้างรอยที่คอ ถึงจะมีเผลอบ้างแต่ทุกครั้งวันศุกร์ก็ผลักไหล่กว้างออกทันเสมอ แต่ในคราวนี้ที่คอเปียกชุ่มและสมองของวันศุกร์กำลังสับสน ทำให้คุณชายได้ใจทิ้งน้ำหนักบนริมฝีปากกดย้ำหนักๆ จนเกิดรอยสีแดง
สุดท้ายวันศุกร์ก็กลายเป็นคนที่พ่ายแพ้ให้กับทุกสิ่งในตอนนี้ ทันทีที่ดวงตาจดจ้องกันมันเหมือนกับมีกระแสไฟอะไรบางอย่างเกิดขึ้น วันศุกร์เขินจนใจเต้นรัวก่อนจะหลับตาลงเมื่อปลายจมูกรั้นถูกจูบหวานๆ
มือเล็กละออกจากลำคอแกร่งเลื่อนมาจับชายเสื้อของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิง วันศุกร์ช้อนตาขออนุญาตอีกฝ่าย ไม่มีคำพูดใดๆ ก็เข้าใจกันด้วยภาษากายสื่อสารกันได้ดีจนเสื้อยืดตัวนั้นหลุดออกจากตัวของทรงเพลิง หล่นแหม่ะลงพื้น เหลือแต่ความเปลือยเปล่าของร่างกำยำสวยงามสะอาดสะอ้านของคุณชาย
“อะ…อยากมีซิกซ์แพ็กส์เหมือนเพลิงบ้าง”
กระซิบผะแผ่วแล้วเงยหน้าจูบริมฝีปากของคุณชายเบาๆ อ่อนนุ่มทุกสัมผัสจนคุณชายไม่อยากใจเย็นแล้ว เขาจับมือเล็กมาแตะบนกล้ามท้องที่มีลอนเป็นคลื่นจางๆ ให้มือสั่นๆ ของวันศุกร์เพลินกับร่างกายของเขา ในขณะที่มือของทรงเพลิงก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง หน้าท้อง และเลื่อนลงไปที่ต้นขา
วันศุกร์หยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่อต้นขาแกร่งบดเบียดกับหว่างขาของตัวเอง มันสัมผัสกับจุดอ่อนไหวที่ซุกซ่อนอยู่ใต้กางเกง คนตัวเล็กเม้มปากแน่นตอนที่มือหนาเลื่อนมาปลดกระดุมกางเกงออก
“พะ…เพลิง”
“ครับ”
ทรงเพลิงตอบรับแล้วผละมือออก เคลื่อนใบหน้าลงต่ำเล่นกับยอดอกสีชมพูอ่อนด้วยลิ้นอุ่นที่เปียกชุ่มจนคนตัวเล็กบิดเร่า มือหนาเอื้อมไปบีบคลึงสะโพกกลมกลึงเบาๆ แล้วปลดซิปกางเกงออก วันศุกร์เงยหน้าด้วยความอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งฟันซี่คมขูดกับยอดอกเบาๆ ไหนจะมือหนาที่ดึงกางเกงออกจากสะโพกไปแล้วยิ่งทำให้คนตัวขาวอยากจะล้มลงไปกองบนพื้น
“ฮือ อ้ะ”
ก้อนเนื้อในกางเกงชั้นในสัมผัสกับต้นขาแกร่งอย่างจัง วันศุกร์ซุกหน้าลงบนไหล่กว้างเมื่อรู้ว่าที่ส่วนปลายของตัวเองมันเหนียวเหนอะ แต่ทรงเพลิงกลับดึงไหล่เขาออกแล้วจูบเบาๆ ที่ริมฝีปาก ก่อนจะทำให้วันศุกร์กระตุกสั่นไปทั้งตัวเมื่อมือหนาบีบคลึงก้อนนุ่มตรงนั้น นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงชั้นในที่แนบเนื้อออกจากสะโพกกลมทันที
ใบหน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหน้า หูก็เช่นกัน วันศุกร์เลือดสูบฉีดเพราะสายตาและการกระทำของคุณชาย
รอยยิ้มร้ายที่มุมปากทำให้วันศุกร์ไม่อยากจะช้อนตามองสักนิด มันทั้งร้ายกาจและเจ้าชู้ ซึ่งนั่นก็เป็นการปลุกอารมณ์ของวันศุกร์ไปด้วย
ทั้งร่างกายและสายตาของหม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงมีผลกับความรู้สึกของวันศุกร์มากมายเหลือเกิน
หลังบางเปลือยเปล่าแนบไปกับกระจกบานใหญ่ วันศุกร์หนีไปไหนไม่ได้เพราะถูกกักไว้ให้อยู่ในอ้อมกอดของคุณชาย มือหนาข้างหนึ่งทาบลงบนกระจกแล้วค่อยๆ ขยับลงมาใกล้ คลอเคลียกับแก้มขาว กระซิบถามคนที่ตัวสั่น
“อยากหรือยัง” มันเป็นคำถามที่ทำให้วันศุกร์กระอักกระอ่วน “ให้พี่ช่วยมั้ย”
“…ถามมาได้”
“ยอกย้อนกับพี่เหรอ”
“ปะ…ปกติทำยังไง ก็ทำอย่างนั้นสิครับ”
“แล้วปกติพี่ทำยังไง บอกหน่อย”
“คนใจร้าย…”
เขายอมใจร้ายถ้าได้กลืนกินวันศุกร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมันก็เป็นอย่างที่ทรงเพลิงปรารถนาไว้จริงๆ เมื่อทั่วทั้งตัวของวันศุกร์ถูกตอดจนเป็นรอยแดง คุณชายย่อตัวลงใช้ริมฝีปากสัมผัสทุกส่วนของน้อง ก่อนจะเงยหน้ามองอีกคนที่ครางกระซิก
ทรงเพลิงคุกเข่าลงตรงหน้า จับเรียวขาข้างหนึ่งพาดบนไหล่กว้างแล้วโฉบใบหน้าเข้าไปจูบที่โคนขาด้านใน สะโพกกลมกลึงถูกบีบคลึงจนวันศุกร์ไม่รู้ว่าควรจะหลบหลีกได้ยังไง ถ้าแอ่นไปข้างหน้าก็เจอกับริมฝีปาก ถ้างอตัวไปด้านหลังก็เจอกับมือหนา
“เพลิง…อ๊ะ อ๊า”
ส่วนปลายที่ปริ่มน้ำเหนียวๆ ถูกริมฝีปากอุ่นจูบเบาๆ วันศุกร์ไม่มีแรงยืนจนต้องพยุงตัวเองไว้กับกรอบกระจก นิ้วเรียวสอดเข้าไปในเส้นผมสีดำของคุณชายทรงเพลิง ขยุ้มเบาๆ เมื่อส่วนกลางลำตัวถูกพรมจูบและครอบครองด้วยริมฝีปากนั้นในที่สุด
เรียวขาขาวถูกแยกออกกันจนวันศุกร์แทบล้มเพราะหนีบขาเข้าหากันไม่ได้ มันติดไหล่กว้างที่โค้งลงเล็กน้อยของคุณชาย วันศุกร์จิกเท้าเกร็งเมื่อปลายลิ้นอุ่นกระหวัดชิมน้ำที่ตรงนั้น สะโพกกลมทั้งถูกขยำและถูกแยกออก นิ้วเย็นๆ วนเวียนอยู่ตรงช่องทางสีหวาน ริมฝีปากสั่น กายสั่น ร้องเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยความทรมานปนสุขที่บรรยายออกมาไม่ได้
คนตัวโตผละริมฝีปากออกจากส่วนกลางลำตัว สอดก้านนิ้วยาวเข้าไปช้าๆ วันศุกร์กระตุกตัวสั่น หอบหายใจระริก ไร้แรงยืนจนค่อยๆ ทรุดลงบนพื้นทั้งที่ขาข้างหนึ่งยังพาดอยู่บนไหล่ ทันทีที่นิ้วเรียวในช่องคับแคบขยับเข้าออก ทรงเพลิงก็หาจังหวะงอนิ้วแล้วกระทุ้งเข้าไปใหม่
“เพลิง อึก อื้อ”
นิ้วของทรงเพลิงสัมผัสเข้าจุดกระสันของวันศุกร์อย่างจังจนมือน้อยๆ ต้องเอื้อมมาแตะหลังมือหนาให้หยุดก่อน แทบบ้าในตอนที่ช่องทางอุ่นตอดรัดนิ้วแน่นกว่าเก่า เขาไม่อยากจะคิดว่าหากสอดใส่ความใหญ่แข็งขึงเข้าไปแทนนิ้วมันจะรัดแน่นจนขาดใจตายหรือเปล่า
“เบานะเพลิง…พะ เพลิง ขอร้อง”
วันศุกร์งอตัวสั่นอย่างน่าสงสาร คิ้วสวยขมวดยุ่ง น้ำตาปริมที่หางตา มือเล็กที่แตะหลังมือหนาไม่มีความหมายเมื่อก้านนิ้วนั้นขยับเข้าออกเร็วขึ้นกว่ากว่าเดิม ยิ่งเร็วเท่าไหร่ร่างกายของวันศุกร์ก็ตอบสนองเขาดียิ่งขึ้น
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงสอดนิ้วที่สองเข้าไปในตอนที่ขยับนิ้วออกเกือบสุด กระแทกเข้าไปใหม่แล้วค้างอยู่นิ่ง งอนิ้วทั้งสองสะกิดกับก้อนเล็กๆ ที่ทำให้วันศุกร์ร้องเสียงหลง ขนกายลุกซู่ ใบหน้าสะบัดจนเส้นผมกระจายคลอเคลียกรอบหน้าสวย
“อย่าทำแบบนั้นได้มั้ยครับ”
“แบบไหน”
“เพลิง…งอนิ้ว”
“เรารู้สึกดีไม่ใช่เหรอ”
“ผม…เหมือนจะ อ๊ะ เพลิง!”
นิ้วที่สามสอดเข้ามาติดๆ และค้างไว้ คราวนี้คุณชายไม่แกล้งวันศุกร์แล้ว เขาหันไปจูบต้นขาขาวที่พาดอยู่บนบ่าก่อนจะค่อยๆ จับขาของน้องวางลงบนพื้นอย่างเขามือ และแยกเรียวขาออกกว้างพลางก้มหน้าลงไปดูดคลึงเรียวขาด้านในทั้งสองข้าง พลางขยับนิ้วทั้งสามในกายของคนตัวเล็ก
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงเงยหน้ามองเรือนร่างขาวจัดที่จับตรงไหนก็เป็นรอย จูบตรงไหนก็แดงช้ำ มือหนาอีกข้างของเขาปลดเปลื้องกางเกงออกพร้อมกันทั้งสองตัว เอานิ้วออกจากช่องทางแคบแล้วใช้ต้นขาแยกเรียวขาออกกว้างอีกหน่อย จ่อความแข็งขึงเข้าไปตรงช่องทางที่ถูกทำให้พร้อมก่อนหน้านี้
คนตัวสูงซี๊ดปากเมื่อดันความใหญ่โตของเขาเข้าไปก็เด้งออก ความคับแน่นของวันศุกร์ยังสดใหม่เหมือนครั้งแรกที่ร่วมรักกันบนเตียง เขากลั้นใจกดมันลงไปช้าๆ อีกครั้ง มือเล็กๆ ที่แตะบนอกกว้างคล้ายจะดันเขาออกแต่ก็ไม่มีแรงพอ
ทรงเพลิงยันมือไว้กับกระจกเหนือศีรษะของวันศุกร์ ค่อยๆ ถอยตัวออกในขณะที่ วันศุกร์ผวาแอ่นสะโพกตามเพราะกลัวว่ามันหลุดออกแล้วเข้ามาใหม่ลำบาก แต่ก็ต้องร้าวรานเหมือนจะฉีกขาดไปทั้งร่างเมื่ออีกฝ่ายกระแทกกลับเข้ามาเต็มแรงจนสุดทาง
“อ๊า!”
ทรงเพลิงไม่ปล่อยให้วันศุกร์พัก เขาขยับตัวเข้าออกจนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ คนตัวเล็กจิกเล็บบนไหล่กว้าง ครั้งนี้มันเจ็บเพราะอีกฝ่ายรุนแรงกว่าทุกครั้ง
เจ็บจนน้ำตาไหล คุณชายก็คอยเช็ดให้ด้วยจูบอุ่นๆ
ตัวสั่นคลอนเพราะแรงกระทุ้งเอวที่ไม่สงสารกันสักนิด ส่วนที่เชื่อมกันมันบีบรัดจนทรงเพลิงปวดหนึบ เส้นผมสีดำสนิทถูกเสยขึ้นลวกๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเล็กที่จิกไหล่เขา พรมจูบหนักๆ ลงไปแล้วประคองมือน้องไว้อย่างนั้น
วันศุกร์มองตาคมๆ ที่ดุร้ายดั่งสัตว์ป่า มองกล้ามท้องที่เกร็งจนเห็นเป็นลูกชัดเจน มองคางกับสันครามที่ยื่นออกมาเวลาสูดปาก มองสันจมูกโด่งของคุณชายที่ขึ้นสีแดง
“ฮื้อ เพลิง”
คนตัวเล็กสั่นเทิ้มเมื่ออีกฝ่ายถอนสะโพกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งจนลึกแน่น กระทบเน้นแต่เนิบนาบ ทุกอณูภายในสัมผัสกับท่อนของความเป็นชายที่แนบชิด โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากที่เผยอหอบคราง กัดปากล่างเบาๆ อย่างเอาแต่ใจ
“อ้า อ้ะ…เพลิง เพลิง อื้อ!”
“อ่า พี่ อยู่นี่…”
กระแทกส่วนล่างเข้ามาซ้ำๆ เขาปล่อยมือที่จับมือเล็กๆ ไว้แล้วเปลี่ยนมายึดเอวบางในตอนที่ขยับกายรุนแรง ปลายมนบดขยี้ ส่วนที่หนักครูดกับจุดกระสันจนวันศุกร์กลั้นความรู้สึกไม่ไหวต้องยกมือทุบอกกว้างแรงๆ เพราะตอนนี้เขาเสียวเหลือเกิน มันยิ่งกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา ทั้งรุนแรง เน้นย้ำ กดลึก
“อ๊า เพลิง เบา อ้ะ เบาหน่อย”
จู่ๆ หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงก็คว้าเรียวขาขาวข้างหนึ่งแล้วจับพลิกให้น้องหันหลัง วันศุกร์หันมามองคุณชายด้วยสายตาเว้าวอน ส่วนนั้นยังเชื่อมกันอยู่และมันก็ทำให้คนที่กลืนกินเอาไว้ทรมานทุกครั้งที่ต้องขยับ ก่อนจะต้องผวาเมื่อเอวบางถูกจับไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ร่างทั้งร่างของวันศุกร์ถูกรวบขึ้นให้ยืนทั้งที่ขายังสั่น
“เพลิง ยืนไม่ได้…ผมไม่ไหว”
“ต้องไหว”
วันศุกร์ก้มหน้าก่อนจะสั่นหน้ารัวเมื่อสะโพกแกร่งกระทุ้งเข้ามาจนเขาแทบล้มเพราะไร้แรงยืน มือเล็กจับมือหนาที่บีบสะโพก ลูบเบาๆ หวังให้คุณชายปล่อยให้วันศุกร์นั่งลงเหมือนเดิม
“ไม่เอา อ๊า อ้ะ”
“ยืนไว้ พี่จะเอาท่านี้”
น้อยครั้งที่หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจะบังคับวันศุกร์ และน้อยครั้งที่เขาจะได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ออกจากปากของคุณชาย มันปลุกเร้ากันมากกว่าที่จะคิดเป็นอย่างอื่น
วันศุกร์ยันมือกับกระจก แนบอกบางไปกับกระจกนั้นเพราะไม่มีแรงยืนแล้ว หากคุณชายปล่อยมือที่จับเอวไว้เขาก็คงร่วงลงพื้น
“เพลิง จุก”
“วันศุกร์ อ่า”
ยิ่งรัดยิ่งรุนแรงจนวันศุกร์จุกที่ช่องท้อง สัมผัสอุ่นๆ ทำให้ดวงตากลมพร่ามัว ในตอนที่สอดแทรกเข้ามาทั้งรัวเร็วสลับกับเชื่องช้า
“ยะ…อยากมองหน้าเพลิง ได้มั้ย”
“ซี๊ด วันศุกร์ แน่นฉิบ”
“อ้ะ อ๊า!”
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงทำตามที่น้องขอ เขาจับน้องพลิกตัวกลับมาแล้วดันติดกับกระจกแรงๆ อีกครั้ง ตอนที่ผละออกจากกันวันศุกร์เสียววาบไปทั้งตัวเพราะแก่นกายถูกดึงออก
คนตัวสูงก้มหน้าดูดคลึงริมฝีปากที่สั่นระริก จับเรียวขาข้างหนึ่งเกี่ยวไว้กับเอวสอบ ย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วจ่อตัวตนขนาดใหญ่เข้าไปอีกครั้ง วันศุกร์แหงนหน้ารับจูบ ผวาเข้าคล้องคอแกร่ง สอดนิ้วขยุ้มเส้นผมสีดำ ก่อนจะระบายความรู้สึกที่ไม่รู้จะพูดออกมาว่ายังไงดีด้วยการข่วนแผ่นหลังกว้างเมื่อคุณชายกระทุ้งสะโพกแรงๆ อีกหลายครั้ง เขาแอ่นตัวเข้าหาความใหญ่โต ทรงเพลิงจึงสอดมันเข้ามาได้ลึกมากขึ้นไปอีก
“อา…พะ เพ…อ๊า”
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงรู้ว่าตัวเองควบคุมอารมณ์ไม่ได้ในตอนที่วันศุกร์มอบความสุขให้เขา มันเหมือนเชื้อเพลิงกับไฟที่เมื่ออยู่ด้วยกันจะโหมกระหน่ำเกินต้านทาน เขารู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ เวลานี้ เขาจะทำให้วันศุกร์ครางระงมจนหมดแรง บดขยี้ทุกจังหวะ
“อ่า”
“เพลิง มะ…ไม่ไหว”
“พี่รู้…วันศุกร์ อ่า”
คุณชายทรงเพลิงเสียงสั่นเพราะรัวสะโพกย้ำ วันศุกร์ครางร้องเรียกชื่อเขาหลายต่อหลายครั้งมันยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กระแทกเอวเข้าไปหนักๆ อีก
“พะ เพลิง ไม่ไหวแล้ว เพลิง”
“อือ” คำรามในลำคอกัดฟันเข้าไปลึกและแรงในครั้งสุดท้าย วันศุกร์ตัวงอกระตุกเกร็ง ปล่อยความเหนอะหนะเปื้อนทั่วพื้น เรียวขาสั่นระริกข้างที่เกี่ยวเอวสอบยังถูกจับไว้ไม่ยอมปล่อย วันศุกร์เหลือบมองพื้นที่ไม่ได้มีแค่น้ำขาวขุ่นของตัวเอง แต่ยังมีน้ำสีเดียวกันของคุณชายทรงเพลิงที่ทะลักออกจากช่องทางสีหวาน
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงขยับนุ่มนวลกว่าเดิม เชื่องช้า ค่อยเป็นค่อยไป สิ่งที่หลั่งไหลในช่องทางนั้นมันอุ่นวาบ คุณชายยังคงปลดปล่อยอยู่เป็นพักๆ
กลีบปากอวบอิ่มถูกครอบครองด้วยจูบอ่อนหวาน นิ้วแกร่งเกลี่ยผมบนใบหน้าหวานเบาๆ อย่างทะนุถนอมต่างจากเมื่อกี้หลายร้อยเท่า จูบเบาๆ บนหน้าผากแล้วค่อยๆ จับเรียวขาออกจากเอววางลงที่เดิม
เช็ดน้ำตาให้ จับน้องมากอดปลอบ จูบย้ำที่ขมับอย่างหวงแหน
“พี่รักวันศุกร์นะครับ”
เสียงกระซิบใกล้ใบหูอ่อนหวานนุ่มนวล วันศุกร์ระบายยิ้มบางๆ ให้แล้วพยักหน้ารับ กอดคนตัวโตไว้แน่นเพราะความหนาว ปล่อยให้ริมฝีปากถูกสอดแทรกจูบละมุนครั้งแล้วครั้งเล่า
“เพลิง”
“ว่าไง”
“เพลิงเป็นของผมนะ…ของผมคนเดียว”
เขายิ้ม พยักหน้าตอบรับคนที่ทำหน้างอแงเต็มที่
“ครับ พี่เป็นของวันศุกร์คนเดียว”
หม่อมราชวงศ์ทรงเพลิงจัดแจงวางผ้าห่มผืนหนาลงบนร่างเปลือยเปล่า วันศุกร์หลับไปแล้วหลังจากเหตุการณ์ ณ จุดชมวิวของห้อง มือหนาข้างหนึ่งลูบผมนุ่มด้วยความรัก เขายังสงสัยตัวเองอยู่ทุกวันนี้ว่าเพราะอะไรกันที่ทำให้รักวันศุกร์ได้มากขนาดนี้
ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตสามสิบปีของเขาไม่เคยรักใครแบบนี้มาก่อน วันศุกร์ทำให้เขารู้ ทำให้เขารัก
คนเดียวในชีวิตที่มอบอะไรหลายๆ อย่างให้ สิ่งที่เขาไม่มี วันศุกร์ก็เข้ามาเติมเต็มมันให้ครบ รอยยิ้ม ความสดใสที่ไม่เสแสร้ง ความน่ารักเป็นธรรมชาติ และอะไรอีกหลายๆ อย่างจากวันศุกร์ทำให้เขารักจนแทบบ้า
(ไอ้เหี้ย มึงยังอยู่ในสายมั้ย)
“อือ อยู่”
ทรงเพลิงตอบปลายสายเสียงเบา เย็นชาตามสไตล์ ริวโทรมาหาเขาเมื่อกี้ พูดอะไรบางอย่างที่เขาไม่ได้ฟัง
(สรุปยังไง)
“อะไร”
(เอ้า พรุ่งนี้มึงจะพรีฮันนีมูนกันที่ไหน กูจะช่วยคิด แต่เอาจริงๆ ในห้องก็เจ๋งว่ะ เปิดออนเซนแช่น้ำร้อนด้วยกัน ฟินตายห่า)
“...”
(หรือมึงอยากออกไปเที่ยว เทศกาลคนจะเยอะหน่อย)
“เอาไว้ก่อน”
(อ้าว ทำไมวะ ติดปัญหาตรงไหนบอกกู กูมีไกด์นำเที่ยว)
“ไม่ต้อง พรุ่งนี้วันศุกร์ไปไหนไม่ได้”
(งี้แผนพรีฮันนีมูนของมึงก็ล่มเลยว่างั้น)
“ไม่ล่ม”
(หมายความว่าไง)
“แค่นี้ก่อนริว จะนอนแล้ว”
เขากดตัดสายทิ้งในตอนที่วันศุกร์ขยับตัวทั้งที่ยังหลับอยู่ คิ้วสวยขมวดแน่นเหมือนจะไม่สบายตัว ทรงเพลิงกอดน้องไว้หลวมๆ ลูบผมปลอบ กล่อมอีกคนให้หลับฝันดี
ไม่ต้องพรีฮันนีมูนที่ไหน
เพราะวันนี้ เมื่อกี้ เขาทำกับวันศุกร์จนเสร็จแล้ว
#หวนกลิ่นรัก