ตอนที่ 18 ภาษาของพีช
“สองคนนี้นี่มันยังไงกันเนี่ย เพื่อนกันดูแลกันแบบนี้เหรอวะ”
แบงก์ออกปากถาม สายตามองไปทางกล้าและพีชอย่างจับผิด ไม่มีใครตอบอะไรออกมา พีชเอาแต่ยิ้ม ส่วนกล้าก็ยักไหล่แล้วคีบลูกชิ้นในชามตัวเองส่งไปให้พีช โดยที่ไม่สนใจเขาเลย แบงก์เลยเปลี่ยนเป้าหมายมาที่แฝดคนน้องแทน
“ยังไงวะพลับ กล้ากับพีชนี่…”
“ไม่รู้ ก็ไปถามเจ้าตัวเอาเองซี่” พลับโบกมือแล้วตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ทำให้แบงก์ต้องหันกลับมาหากล้าเพื่อเค้นคำตอบ
“ยังไงเนี่ย มึงช่วยตอบกุหน่อยได้มั้ย ทำไมดูมีกูที่สงสัยอยู่คนเดียววะ” แบงก์แสร้งทำเป็นตัดพ้อด้วยสีหน้าน่าหมันไส้ จนกล้าต้องวางตะเกียบลงแล้วหันไปตบหัวเพื่อน
“มึงนี่มัน...ขี้เสือกจริงๆ อยากรู้มากก็ลองถามพีชดูเอง”
“อะไรของพวกมึงวะ มึงตอบแค่ตอบกูมาจบแล้วเนี่ย โบ้ยให้ไปถามคนอื่นอยู่ได้ โว๊ะ!” แบงก์ชักจะหงุดหงิดเมื่อไม่ได้รับคำตอบเสียที การจะเสือกเรื่องของเพื่อนนี่มันต้องทำให้แบงก์ลำบากขนาดนี้เลยเหรอไงกัน
“พีชอ่ะเป็นแฟนกูแล้ว แต่ก็อยากรู้ว่ากูเป็นแฟนพีชแล้วรึยัง?” กล้าพูดแล้วมองตรงไปยังแฝดคนพี่ที่กำลังนั่งหน้าแดงเม้มปากอยู่
ลูกพีชทำท่าย่นจมูก เอียงคอไปมาตาก็มองกลับไปที่กล้าแล้วพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมแก้มตัวเองอย่างเขินอาย พอเห็นว่าคนเจ้าแผนการมีแววตาและสีหน้าพึงพอใจก็ยิ่งเขิน ทำอะไรต่อมิอะไรกันไปก็แล้วกล้ายังจะมาถามให้เขินอีก
“เป็นแฟนของกันและกันแล้วเนอะ”
กล้ายิ้มกว้างจนตาหยี คีบลูกชิ้นในชามมาให้พีชอีกหนึ่งลูก หากอยู่กันสองคนพีชคงจะอ้อนให้กล้าป้อนไปแล้ว แต่นี้มีพลับและแบงก์อยู่ด้วย พีชเลยได้แต่ส่งยิ้มให้แล้วขยับเข้าไปนั่งใกล้แฟนตัวเอง
แบงก์มองแล้วก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ เขาได้คำตอบสมใจ แต่จู่ๆ ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอเพื่อนกับเพื่อนมาจีบกันต่อหน้าแบบนี้
“พวกมึงนี่นะ...น่าหมันไส้จริงๆ” แบงก์บ่นมุบมิบหันไปหาพลับอีกครั้งเพราะต้องการเพื่อนร่วมหมันไส้ แต่ก็ต้องคอตกหันกลับมากินข้าวเงียบๆ คนเดียว เพราะพลับนั้นนั่งอมยิ้มไปกินไปมองพี่ชายตัวเองที่กำลังมีความสุขกับความรักอยู่
แต่กล้าและพีชก็หวานกันจนพลับรู้สึกหมันไส้ขึ้นมาในบางครั้ง เมื่อก่อนพีชจะติดเขาแจเลย ไปไหนพีชก็จะขอไปด้วย แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกล้าแทนแล้ว กล้าไปไหนพีชจะไปด้วยตลอด ติดแฟนยิ่งกว่าอะไรดี
‘พลับ คืนนี้จะค้างที่คอนโดพี่ไม้รึเปล่า’
“ไม่แน่ใจ ทำไมอ่ะ จะฝากซื้อขนม?”
พลับพูดออกเสียงพร้อมทำภาษามือควบคู่ไปด้วย แต่ก็โดนพี่ชายตัวเองทำหน้าทำตาบอกว่าไม่ให้ส่งเสียงเหมือนกับว่าเรื่องที่คุยนี้จะเป็นความลับ
พีชมองหน้ากล้าแล้วส่งยิ้มโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังฝึกภาษามืออยู่นั้นกำลังจับสังเกตอยู่ ถึงแม้ว่ากล้าจะไม่เข้าใจทุกคำ แต่ก็พอจับคีย์เวิร์ดจากท่าทางได้
‘ไม่ใช่ๆ เราจะบอกว่าพรุ่งนี้ไม่มีเรียน ไม่ต้องกลับก็ได้ พี่ไม้จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาส่งไง’
‘แหม จะไปนอนห้องกล้าอีกล่ะสิ ไปอยู่กับมันตลอดเลย ไปรบกวนมากๆ ระวังมันเบื่อเอานะ’
‘อย่ามาทำเป็นสั่งสอนนะ ทีพลับยังไปนอนห้องพี่ไม้บ่อยๆ ได้เลย’
‘พี่ไม้ไม่เบื่อหรอก พี่ไม้เขารักเรา’
‘กล้าก็รักเราเหมือนกัน!’
“หึหึ” เห็นสีหน้าท่าทางการเถียงเอาจริงเอาจังของสองแฝดแล้วกล้าหลุดขำออกมา ไหนจะไอ้ท่าทางสุดท้ายของพีชนี่อีก พวกประโยคก่อนหน้านั้นกล้าจับใจความได้ไม่ดีเท่าไร ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจแต่ไอ้คำว่ารักเนี่ย กล้าเห็นเต็มสองตาเลย
“อา?”
“ขำอะไรเหรอกล้า”
ทั้งพลับและพีชนั้นส่งเสียงถามกลับมาพร้อมกันจนกล้านั้นหัวเราะออกมาอีกรอบ เพราะสองแฝดดันขมวดคิ้วเหมือนกันและหันมาถามเขาพร้อมกันอีก เป็นภาพที่น่าขบขันไม่น้อยเลย
“หืม? ไม่มีอะไรหรอก พีชทำหน้าตาน่ารักน่ะ เลยเอ็นดู”
กล้วแก้ตัวหันไปส่งยิ้มให้ลูกพีช แต่พลับนั้นส่ายหน้า กรอกตาไปมากับคำตอบของเพื่อน ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วสะกิดให้พี่ชายหันมามองกลับมาคุยกันต่อ
‘จะไปนอนห้องเขาน่ะ ขอเจ้าตัวแล้วรึยัง’
‘ยังเลย’
‘พีช ควรขอกล้าก่อนสิหรือไม่ก็รอให้กล้าชวนก่อนระวังเขาไม่ให้นอนด้วยนะ’
พลับเตือนเพราะหวังดี ไม่อยากให้พี่ชายเสียใจในภายหลัง ถึงแม้จะเป็นแฟนกัน แต่หากใกล้ชิดกันเกินไปไม่เว้นช่องให้หายใจซึ่งกันและกันก็มักจะต้องมีความอึดอัด พลับไม่อยากให้กล้ารู้สึกรำคาญหรืออึดอัดกับพี่ชายตัวเอง เขาอยากให้พีชมีความสุขกับรักครั้งแรกนี้ไปนานๆ
พลับนั้นเข้าใจดีว่าคนที่มีความบกพร่องแบบพีชนั้นมักมีความรู้สึกที่พิเศษในหัวใจ หากไม่ชอบก็จะแสดงออกว่าไม่ชอบอย่างชัดเจน แต่หากรักหรือชอบใครแล้วก็จะให้ทุกอย่างจนสุดใจ เกาะติดแจ อยากอยู่ใกล้ๆ อยากพูดอยากคุย จนบางครั้งอาจทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจโดยที่พีชไม่รู้ตัว
‘แต่กล้าต้องให้เรานอนด้วยอยู่แล้ว’
‘ยังจำเรื่องพี่ฟางได้มั้ย’
“อ๋า…”
พีชหลุดส่งเสียงและมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวของพี่สาวข้างบ้านในวัยเด็ก เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทำให้พีชเสียใจ
พี่สาวข้างบ้านที่ใจดีด้วยในช่วงแรก พีชจำได้ว่าตัวเองชอบพี่เขาเอามากๆ คอยเอาตัวไปติดกับพี่เขาเกือบทั้งวัน บางครั้งก็เกินเลยเป็นก้าวก่ายชีวิตพี่เขาโดยไม่ตั้งใจ จนพี่เขารำคาญไปฟ้องแม่ของฝาแฝดและไม่ค่อยอยากมาเล่นด้วย มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กแต่ก็ทำให้ฝาแฝดรู้สึกเสียใจ
‘กล้าไม่เป็นแบบนั้นหรอก และถ้ากล้าไม่ให้เราก็จะอ้อน’ แต่ในตอนนี้คำเตือนของน้องชายนั้นดันไม่เข้าหูพีชเลยแม้แต่น้อย แฝดพี่ย่นคิ้ว ทำหน้าทำตาแล้วบอกพลับไปด้วยท่าทางที่ฉะฉาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
กล้าที่คอยตั้งใจดูอยู่หลุดหัวเราะก่อนที่จะยืดตัวตรงแล้วทำเหมือนไม่มีอะไร เพราะสองแฝดหันมามองเขาอีกครั้ง เป็นภาพที่น่าขบขันเหมือนเดิม
พลับมองพี่ชายตัวเองอย่างอ่อนใจ พูดไปตอนนี้พีชคงยังไม่ฟังเขาเท่าไร ปล่อยให้ทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ไปก่อนก็ได้แล้วค่อยคอยเตือนอยู่เรื่อยๆ พลับหันมองกล้าเล็กน้อย เขารู้ว่าเพื่อนคนนี้ของเขาเป็นคนดี รู้ว่ากล้ารักพีช ดูได้จากการกระทำที่ผ่านมา อีกทั้งรอยยิ้มและสายตาที่คอยมองพี่ชายเขาก็ทำให้เบาใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องขอให้กล้าเป็นแบบนี้ไปอีกนานๆ อย่าทำให้พี่ชายของเขาเสียใจอีกเลย
ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนกันแล้ว พลับอดไม่ได้ที่จะเตือนพีชอีกครั้งก่อนก็รีบวิ่งไปหาไม้ตามที่ที่นัดหมายกันเอาไว้ ส่วนแบงก์ก็แยกตัวกลับไปหาแฟนเช่นกัน เหลือกล้าและพีชเดินกลับหอกันสองคนคน พอถึงหอก็ควรที่จะแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมันเหมือนเมื่อก่อน แต่พีชกลับเนียนเดินตามกล้าขึ้นไปที่ห้องด้วย คนตัวสูงหันมามองอย่างขบขันแล้วก็แกล้งเลิกคิ้วถาม
“เดินตามเราขึ้นมาทำไม ห้องพีชอยู่ชั้นสองนะ”
‘คืนนี้พลับไม่กลับห้องอีกแล้ว’
พีชรีบส่งสมุดโน๊ตที่เขียนเอาไว้แล้วไปให้อีกคนดู พลางลุ้นไปด้วยว่ากล้าจะมีสีหน้าอย่างไร คนตัวเล็กคิดในใจว่ากล้าคงจะชวนเขาไปนอนด้วยแน่ๆ แต่สีหน้าที่ได้เห็นกลับไปใช่แบบที่คิดเอาไว้ อีกฝ่ายแค่อ่านแล้วทำหน้าเรียบๆ แล้วเงียบไปหลายอึดใจ ระหว่างที่กล้าเงียบนั้นคำเตือนของพลับก็ผุดขึ้นมาในหัวพีชทันที
ถึงจะเป็นแฟนกันแล้ว แต่พอเอาคำที่พลับพูดไว้มาคิดดูดีๆ พีชก็หวั่นใจขึ้นมาเหมือนกันและเริ่มคิดได้ว่าหากไปรบกวนกล้าบ่อยๆ แบบนี้ สักวันอีกฝ่ายอาจจะเบื่อเขาขึ้นมาก็ได้ ยิ่งไปวุ่นวายเยอะก็จะยิ่งเบื่อเร็ว พีชตระหนักได้แล้วว่าถึงจะชอบหรือรักกันมากแค่ไหนแต่ทุกคนย่อมต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง
พีชรู้สึกว่าตัวเองรบกวนกล้าเกินไปจริงๆ… เขามาอยู่กับกล้าทุกเย็นเลย ตอนเรียนก็เกาะแจไม่ห่าง วันหยุดก็ขลุกตัวอยู่ห้องของกล้าทั้งวัน วันไหนพลับไม่อยู่ก็มานอนที่ห้องของกล้าอีก เขาริดรอนความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวมาตลอด คล้ายๆ ตอนที่เขาทำกับพี่สาวข้างบ้านเลย
“แล้ว...คืนนี้ก็เลยจะมานอนห้องเรา?” กล้าที่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายและยังคงแกล้งพูดหยั่งเชิง ผิดกับพีชที่คอยอ่านปากอยู่นั้นก็ยิ้มค้างแล้วนิ่งไป ก่อนจะตัดสินใจส่ายหน้าแล้วคิดหาเหตุผลใหม่ ดึงสมุดมาเขียนแล้วส่งให้กล้าอ่านอีกครั้ง
‘แค่อยากขึ้นมาเล่นเกมด้วย เดี๋ยวเรากลับมานอนที่ห้องเราเอง’
พีชยิ้มกว้างอยู่ครู่หนึ่งแล้วก้มหน้าลง ไม่ยอมสบตากับกล้า ท่าทางแบบนั้นทำให้อีกคนเริ่มจับสังเกตได้ กล้าเอียงคอคิดว่าตัวเองเล่นแรงไปรึเปล่า พีชอาจเข้าใจผิดไปว่ากล้าไม่อยากให้มานอนด้วย แต่ไม่ใช่เลย...กล้าแค่อยากให้พีชอ้อน เขาพูดออกไปแบบนั้น พีชก็ควรจะทำเหมือนที่ลูกพีชเคยบอกกับพลับไว้ก่อนหน้านี้สิ
ใครกันที่บอกว่าจะอ้อนจนกว่าเขาจะให้ หรือกล้าดูภาษามือของพีชผิดไป มาถึงตรงนี้เข้าก็ไม่แน่ใจแล้ว ภาษามือเป็นภาษาที่รายละเอียดเยอะมากสำหรับเขา ทั้งสีหน้า ตำแหน่งของมือและฝ่ามือ ผิดไปเล็กน้อยความหมายก็เปลี่ยนได้แล้ว
“พีชครับ...เป็นอะไร” กล้าย่อตัวลงต่ำ ให้พีชที่ก้มหน้าอยู่นั้นสามารถอ่านปากตัวเองได้ คนตัวเล็กส่ายหน้าแล้วยิ้ม ทำท่าดันตัวอีกฝ่ายให้เดินต่อ กล้ามองแฟนตัวเองอย่างเป็นห่วง นึกโทษตัวเองที่พูดแกล้งอีกฝ่ายไปแบบนั้น เขาพลาดเอง ตอนพูดเขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล้นก็จริง แต่พีชไม่ได้ยิน...คำพูดของเขาไม่มีน้ำเสียงสำหรับพีช
พอเข้ามาในห้อง พีชก็วางกระเป๋าแล้วขยับตัวนั่งหน้าทีวี หยิบจอยเกมขึ้นมาส่งให้กล้าแล้วยิ้มให้ กล้ารับรับจอยเกมมาแล้ววางลง ดึงตัวอีกฝ่ายให้หันหน้าเข้าหากัน
“อา?”
“เรามาคุยให้รู้เรื่องกันก่อนดีกว่าเนอะ”
เขาต้องพูดกับพีชให้รู้เรื่องก่อน สำหรับคู่รักการสื่อสารให้เข้าใจกันเป็นสิ่งที่สำคัญ และยิ่งพวกเขาด้วยแล้วยิ่งสำคัญเป็นพิเศษ
พีชนั่งนิ่งมองหน้ากล้าแล้วยิ้มให้ พีชยิ้มให้กล้าเสมอ แม้กระทั้งตอนที่ตัวพีชมีเรื่องไม่สบายใจ เขาแค่ไม่อยากให้เรื่องของตัวเองไปทำให้กล้ารู้สึกไม่ดี พีชอยากให้กล้ามีแต่ความสุขและสบายใจเมื่ออยู่ด้วยกัน ซึ่งทางฝั่งของกล้าก็คิดแบบเดียวกัน พวกเขาถึงต้องคุยกันให้รู้เรื่องไง
“พีช มีอะไรอยากบอกเรารึเปล่า...อยากพูดอยากขออะไรก็บอกมาได้เลย เรารับฟังเสมอ”
กล้าถามช้าๆ มองตาพลางจับสองมือของพีชมาวางไว้บนเข่าของตัวเอง ลูกพีชลังเล เขาอยากบอกแต่ก็อย่างที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ เขากลัวว่ามันจะรบกวนกล้า กลัวว่าตัวเองจะเอาแต่ใจจนเกินไป
แต่กล้าก็รอคอยอย่างใจเย็น ไม่ได้เซ้าซี้ถามซ้ำ ลูบปลายนิ้วไปทั่วหลังมือขาวและยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเมื่อพีชเงยหน้ามองมา สิ่งที่กล้าทำได้ในตอนนี้คือรอ...ให้พีชเชื่อใจว่าเขารับฟังได้จริงๆ
ในท้ายที่สุดพีชก็พยักหน้า ค่อยๆ ดึงมือออกเพื่อหยิบสมุดขึ้นมาเขียน
‘เรากลัวว่าจะทำให้กล้ารำคาญ’
“หืม? ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
‘พลับบอกว่าเราติดกล้าเกินไป เราทำให้กล้าไม่มีเวลาส่วนตัวบ้าง’
นี่เองสาเหตุที่ทำให้ลูกพีชเปลี่ยนใจ เพราะคำพูดของพลับนี่เอง เขาไม่ได้โกรธพลับนะกล้าเข้าใจว่าทำไมพลับถึงพูดแบบนั้น เพราะความเป็นห่วงของน้องชายที่มีต่อพี่ชายล้วนๆ เลย
กล้าเงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ พลางขยับเข้าไปหาคนตัวเล็กก้มหน้าลงหอมแก้มซ้ายและขวา เรียกเลือดฝาดจนเห็นแก้มกลมขึ้นสีชมพูอย่างน่ารัก
“อย่าคิดมากนะ ที่พลับพูดแบบนั้นเพราะเขาหวังดีกับพีช แต่เราหาเวลาส่วนตัวของเราเองได้ พีชไม่ได้มานอนกับเราทุกวันเสียหน่อย”
“...”
พีชนั่งอ่านปาก คิ้วยังคงขมวดอยู่จนกล้าต้องใช้ปลายนิ้มจิ้มเบาๆ ตรงรอยย่นตรงหัวคิ้วนั่น เขาเข้าใจว่าทำไมพีชถึงคิดมากเรื่องนี้เพราะกล้าเองก็คิดว่าพีชติดเขามากจริงๆ แต่นั่นทำให้กล้ามีความสุขมากนะ เพราะมันหมายความว่าพีชชอบตัวเขาเอามากๆ เลยไง
“พลับจะไปนอนกับพี่ไม้แค่ช่วงวันหยุด แค่อาทิตย์ละคืนสองคืนเองนะ ช่วงที่เรามีโอกาสอยู่กันสองต่อสองแบบนี้ เราก็ต้องรีบตักตวงสิ จริงมั้ย?”
“...” พีชพยักหน้าตามช้าๆ เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่กล้าพูดทุกคำ
“แล้วคืนนี้พลับไม่กลับ...พีชอยากค้างที่ห้องเรามั้ยล่ะ?”
เห็นกล้าพูดแบบนั้นลูกพีชเตรียมจะยิ้มกว้างอย่างดีใจ แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ก่อน เขาเม้มปากหุบยิ้ม หยิบสมุดเล่มเล็กมาเขียนอีกครั้ง
‘เราไม่รบกวนกล้าเกินไปใช่มั้ย ถ้าหากเราเผลอทำตัวไม่ดีให้กล้าอึดอัด บอกเราได้นะ เราจะได้ยั้งตัวเอง’ ตอนนี้เขากลัวว่าตัวเองจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว กล้าชอบตามใจพีชตลอด หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ พีชกลัวว่าตัวเองจะเสียคนในซักวันแบบที่พลับเตือน
“ไม่รบกวนเลย อ้อนเราเยอะเลยเราชอบ ติดเราเยอะ ๆ เลยก็ได้”
พีชมองหน้าคนที่ยิ้มกว้าง ก่อนโผตัวเข้ากอดคอกล้าเอาไว้แน่นจนอีกฝ่ายตั้งหลักแทบไม่ทัน พีชผละออกเล็กน้อยเพื่อมองหน้ากล้า เห็นฝ่ายทำไหล่สั่นเหมือนกำลังหัวเราะอยู่พีชก็ทำตาม
‘ถ้าเรานั่งติดกล้าขนาดนี้ กล้าจะรำคาญเรามั้ย’ พีชถามทำสีหน้าทะเล้นน่ารัก พลางขยับเข้าไปนั่งชิดเบียดอีกฝ่าย กล้าหัวเราะดึงเอวของลูกพีชขึ้นมานั่งบนตัก
“ไม่หรอก ต่อให้พีชนั่งบนตักเราก็ไม่รำคาญ ลองดูมั้ยล่ะ”
“อะอะอะ อ๋า อะอะ” พีชหัวเราะออกเสียงและหวีดร้องโดยไม่รู้ตัวเมื่อโดนกล้าดึงเอวให้ขึ้นไปนั่งหน้าตัก พีชส่ายหน้าจนผมกระจาย ยิ้มและหัวเราะจนตาหยีขณะที่พยายามจะขยับตัวลงมานั่งที่เดิม กล้าเห็นท่าทางนั้นแล้วมันเขี้ยวก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดแก้มอีกฝ่ายเล่น เรียกเสียงหัวเราะจากพีชได้ชุดใหญ่เลย
พีชหัวเราะดังมากแต่กล้าไม่คิดจะห้าม นานทีๆ เขาจะได้ยินเสียงแบบนี้ คนอื่นอาจคิดว่าเสียงนั้นมันตลก แต่สำหรับเขามันดูน่ารัก ต้องมีความสุขขนาดไหนนะ เจ้าลูกพีชถึงได้ออกเสียงหัวเราะมาแบบนั้น กล้าภูมิใจไม่น้อยเลยที่ทำให้คนรักของเขาหัวเราะออกมาได้
หลังจากที่คุยกันรู้เรื่องแล้วพีชและกล้าก็นั่งเล่นเกมด้วยกัน กล้านั้นเล่นเกมเก่งกว่าพีชเยอะ อีกฝ่ายก็เลยแพ้รัวๆ แต่พีชก็แค่ส่งเสียงออกมาบ้างเป็นบางครั้ง ช่วงหลังๆ กล้าก็เลยยอมแพ้ให้อีกฝ่ายชนะบ้าง ได้เห็นเจ้าลูกพีชยกไม้ยกมือทำท่าดีใจ ไหนจะไอ้ท่าทำไหล่สั่นเหมือนคนหัวเราะนี่อีก น่ารักกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
“พักกันก่อนเนอะ ขอเราไปเข้าห้องน้ำก่อน”
กล้าวางจอยเกมแล้วลุกขึ้นเดินออกไป พีชก็เลยก็เอนตัวนอนลงบนฟูก กลิ้งไปกลิ้งมาจนฝ่ามือไปสัมผัสกับหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ใต้หมอน
“อะ!”
พอดึงออกมาดูหน้าปก พีชก็หลุดเสียงร้องอย่างตกใจแล้วเม้มปากแน่นในอกก็ตื้นเต้นตื้นตันไปหมด พีชมองคนที่อยู่ในห้องน้ำแล้วก้มมองหนังสือ มันคือหนังสือสอนภาษามือ มีแผ่นเทปและที่คั่นแปะเน้นข้อความและหัวข้อสำคัญไว้ตามหน้าต่างๆ อยู่หลายหน้าเลย
เขาเปิดดูทีละหน้าๆ ยิ่งดูก็ยิ่งดีใจ ยิ่งเห็นข้อความต่างๆ ที่กล้าเขียนเน้นเอาไว้ตามหน้าหนังสือก็ยิ่งทำให้หลงรักกล้ามากขึ้นไปอีก พีชรู้ว่าภาษามือนั้นถือว่ายากมากสำหรับคนทั่วไป กล้าไม่ใช่คนในครอบครัว แถมพีชก็สื่อสารด้วยวิธีอื่นๆ กับอีกฝ่ายได้ กล้าไม่จำเป็นต้องเรียนอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ
“อ๋า!” นั่งซึ้งใจอยู่ได้ไม่เท่าไร พีชก็นึกขึ้นมาได้ตัวเองใช้ภาษามือนี้ทำอะไรต่อมิอะไรไว้เยอะเลย แอบนินทา แอบพูดอะไรน่าอายๆ ถึงแม้ว่าดูจากหนังสือแล้วกล้ายังคงศึกษาได้ไม่เยอะเท่าไร แต่ก็มากพอที่จะจับท่าทางบางคำหรือประโยคที่ง่ายๆ ได้แน่ พีชปิดหนังสือแล้ววางไว้บนฟูก ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง กล้ายอมเรียนภาษาของเขาแบบนี้ ต่อไปนี้พีชคงแอบนินทากล้าไม่ได้แล้ว
“ทำอะไรอยู่เหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้น หืม?”
กล้านั่งลงข้างๆ พีช มองหน้าคนที่จ้องหน้าตัวเองเขม็งจนไม่ได้สังเกตหนังสือที่วางอยู่ฟูกนอน
“อา~”
“หวา! อะไรเนี่ย อื้ม! เกิดอะไรขึ้น” กล้าร้องอย่างตกใจ แทบจะหงายหลังเมื่อเจอลูกพีชโผเข้ามากอดคออีกครั้ง แถมคราวนี้ยังใจกล้านั่งคร่อมตักเขาอีก นอกนั้นยังไม่พอ จับหน้าของเขาหันไปหันมาเพื่อหอมแก้มไม่หยุดหย่อน
“อา”
“ทำไม เป็นอะไร ยิ้มน่ารักเชียวนะ” กล้าลูบแก้มอีกฝ่าย มองคนตัวเล้กที่ลากเสียงยาว เอียงคอแล้วยิ้มหวานให้เขา พีชหยิบสมุดเล่มเล็กออกมา กล้านึกว่าอีกคนจะเขียนอธิบายแต่พีชกลับวางมันลงแล้วขยับมือไปมาแทน
“เอ๊ะ!”
‘ขอบคุณนะที่ทำอะไรหลายๆ อย่างให้เรา ขอบคุณมากๆ เลย’
กล้าดูท่าทางของพีช เห็นอีกคนทำท่าเดิมวนๆ ซ้ำๆ ไปมาจนกล้าจับประโยคได้ พลันสายตาก็หันไปเห็นหนังสือของตัวเองที่วางอยู่บนฟูก กล้าหัวเราะออกมายกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วมองหน้าของลูกพีช
“โธ่ มารู้ก่อนแบบนี้เราก็แย่สิ เรายังเรียนไม่ถึงไหนเลย”
กล้าส่ายหน้าให้กับความทึ่มของตัวเอง เมื่อคืนเขาเอาหนังสือออกมาอ่านแล้วยัดไว้ใต้หมอน ลืมเอาเก็บเข้าชั้น พีชเลยมาเห็นก่อนที่เขาจะได้เซอร์ไพรส์เลย กล้าวางแผนเอาไว้ว่าให้ตัวเองศึกษาภาษามือจนคล่องดีก่อนแล้วค่อยบอกพีช
ตอนนี้เขาเรียนได้แต่ส่วนน้อย เพราะภาษามือยากมากจริงๆ ไวยากรณ์ที่ต่างจากภาษาพูด การเรียงคำที่กล้าไม่เข้าใจ สีหน้าอีก กล้าไม่มั่นใจเลยว่าคำไหนต้องแสดงสีหน้ายังไง ไหนจะตำแหน่งมือ รากศัพท์และจังหวะของภาษามือที่กล้าเพิ่งจะรู้ว่ามันสำคัญมากๆ
‘เดี๋ยวเราช่วยสอนให้นะ’
พีชยิ้ม ขยับตัวนั่งดีๆ อันดับแรกคือพีชต้องรู้ก่อนว่ากล้าเรียนได้ถึงไหนแล้ว เขาให้กล้าไล่ทำตัวตัวอักษรหรือพวกตัวอัลฟ่าเบทต่างๆ ที่รู้ให้ดู รวมไปถึงคำศัพท์ที่กล้าพอจะรู้ พีชคิดว่ากล้าก็ทำได้หลายคำ แค่เจ้าตัวไม่กล้าแสดงสีหน้าหรือมีบางคำที่วางตำแหน่งฝ่ามือผิด พีชก็ปรับให้
“อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้องเหรอพีช”
กล้าทำท่าเดิมอีกครั้ง โดยการวางมือซ้ายทับมือขวาไว้บริเวณหน้าอกด้านซ้าย คำนี้แปลว่า รัก กล้ามั่นใจว่าตัวเองฝึกทำคำนี้มาดีมาก แต่พีชก็เอาแต่ส่ายหน้าบอกว่าเขาทำผิด ความมั่นใจที่เคยมีก็พากันหดหายไป เขาสลับมือเปลี่ยนตำแหน่งไปมา พีชก็เอาแต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าบอกว่ามันไม่ถูกต้อง
“งั้นพีชบอกเราหน่อย คำว่า รัก ต้องทำมือยังไงถึงจะถูก”
กล้ายอมแพ้ เพราะจนปัญญาจริงๆ จะหยิบหนังสือมาเปิดดูเจ้าตัวดีก็ไม่ยอม พีชยิ้มอย่างมีแผนการ มองกล้าที่กำลังมองมา ชูมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วก็ขยับเข้ามาโอบรอคอของกล้า เอียงใบหน้าหอมแก้มทั้งสองข้างเท่านนั้นยังไม่พอ เจ้าลูกพีชยังจุ๊บเบาๆ ไปที่ริมฝีปาก ก่อนจะผละออกมาทำหน้าตาทะเล้น ยกไหล่ขึ้นลงให้สั่นๆ เหมือนกำลังหัวเราะ
“เดี๋ยวเถอะนะ...แล้วนี่เหรอคำว่ารัก เขาทำกันแบบนี้เหรอ”
“อา~” พีชที่เขินจนแก้มแดง พยักหน้าเล็กน้อยก้มหน้าลง
“งั้นเราทำมั้งนะ”
“อะอะอะ”
กล้าเชยคางอีกคนขึ้น กดปลายจมูกลงลงแก้มเนียน สูดกลิ่นหอมเข้าจนเต็มปอดก็เปลี่ยนข้าง อีกทั้งยังไม่ลืมจุ๊บที่ริมฝีปากด้วย แต่คำว่ารักของกล้านั้นลึกซึ้งกว่าของพีชเล็กน้อย เพราะแทนที่จะหยุดแค่จุ๊บ คนตัวสูงดันสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของพีช หยอกล้อกันเรียวลิ้นนุ่มพร้อมกับเหนี่ยวเอวของพีชให้ขยับขึ้นมานั่งบนตักเขาอีกครั้ง
“ได้มั้ย?” ขยับออกเพื่อถาม มองดวงตากลมโตที่เริ่มหวานเยิ้ม นิ้วมือเรียวยาวก็สอดเข้าใต้เสื้อ เกลี่ยไปตามผิวเนียน จนพีชขนลุกเป็นช่วงๆ
“อา~” แต่มีหรือที่พีชจะปฏิเสธ นี่คือสิ่งที่พีชหวังไว้แต่แรกอยู่แล้วหากได้นอนค้างห้องกล้า เจ้าลูกพีชยืดตัวขึ้นพร้อมเอียงใบหน้าเพื่อจูบตอบ ฝ่ามือก็ลูบอยู่บริเวณท้ายทอยขยำเบาๆ ไปตามกลุ่มผมหนาของกล้า
กล้ากดสะโพกของพีชให้เบียดเข้ามา มือก็ไล่ปลดกระดุมนึกศึกษาออกทีละเม็ด มองผิวขาวเนียนของลูกพีชไม่วางตา
พีชหอบหายใจ แอ่นหน้าอกขึ้นมาเมื่อโพรงปากร้อนชื้นครอบครองยอดอกเม็ดเล็ก อีกทั้งฝ่ามือทั้งสองข้างของกล้าก็บีบเคล้นสะโพก จงใจกดลงให้พีชรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันอยู่ใต้ก้นของตัวเอง
กล้าเคล้นสะโพกอย่างมันมือ จับตัวพีชให้ขยับขึ้นลง พีชเองก็ช่วยขยับสะโพกอย่างรู้งาน กล้าถึงละฝ่ามือมาดึงเสื้อของพีชออก ลูบไล้ไปตามผิวเนียนกระชับ ลากขึ้นมาที่ลำคอและ...
“อ๋า!”
พีชส่งเสียงดัง แทบจะเด้งตัวออกจากตักกล้า รีบยกมือขึ้นกุมใบหูทั้งสองข้างของตัวเอง กล้ามองลูกพีชอย่างตกใจ เขาแค่แตะเบาๆ ที่ติ่งหูเพียงแค่นั้นเอง
“เราจะถอดออกให้ไง พีชจะได้ไม่นอนทับเหมือนครั้งที่แล้ว” กล้าส่งยิ้มแล้วพูดช้าๆ เอาน้ำเย็นเข้าลูบ เขารู้ดีว่าใบหูเป็นอวัยวะหวงห้ามของพีช คนตัวเล็กเม้มปากมองรอยยิ้มอ่อนโยนของกล้า ฝ่ามือยังคงกุมใบหูของตัวเองอยู่ กล้ากอดพีชเอาไว้ ลูบแผ่นหลังลูบไหล่ ริมฝีปากก็ไล่จูบตั้งแต่สันกราม ปลายจมูก แก้ม และฝ่ามือของพีชที่ยังคงกุมใบหูอยู่
“อา…”
พีชส่งเสียงจะห้ามแต่เสียงนั้นเบาหวิว เวลาที่กล้าจูบมาที่ไรผมบริเวณใบหูทีไร ใจพีชมันจะหวิวๆ กว่าปกติทุกที ยิ่งกล้าจูบย้ำตรงที่เดิม พีชก็มือไม้อ่อน รู้ตัวอีกทีมือที่ควรจะปิดหูไว้ ก็มาวางอยู่บนหัวไหล่ทั้งสองข้างของกล้าเสียแล้ว
“อ๊ะ อือ” พีชเอียงคอเมื่อกล้าค่อยถอดเครื่องช่วงฟังออก พอถอดได้ก็จูบสลับขบเม้มจนคนบนตักตัวอ่อน ทิ้งตัวพิงกล้า เกยคางกับไหล่ของเขาเหมือนคนหมดแรง
“พีชครับ” กล้ากระซิบข้างใบหู ขบเม้มเบาๆ ไปตามใบหู ลูกพีชตัวสั่นขึ้นมาพรางส่งเสียงอึกอักในลำคอเหมือนครั้งแรกนั้น
พีชปรือตาขึ้น กอดไหล่กล้าไว้แน่น ในขณะที่ตัวเองก็พยายามที่จะยันขาขยับให้ตัวเองเสียดสีกับผิวร้อนๆ ของกล้า ลูกพีชส่งเสียงกัดริมฝีปาก มองขนอ่อนตามท่อนแขนตัวเองที่พากันลุกเมื่อโดนลิ้นร้อนชื่นปาดเลียที่ใบหูซ้ำไปซ้ำมา
กล้าขยับยกตัวลูกพีชขึ้นเล็กน้อยเพื่อถอดกางเกงออก จัดการเตรียมช่องทางให้อ่อนนุ่มพร้อมสำหรับเขา หยิบเจลและถุงยางที่เตรียมเอาไว้มาช่วย ก่อนจะกดตัวลูกพีชให้นั่งลงช้าๆ จนแก่นกายของเขาเข้าไปในตัวตัวพีชจนหมด
“อือ พีช…ขยับหน่อย” กล้ากัดฟัน บีบสะโพกของพีชเอาไว้ บังคับให้อีกคนเป็นฝ่ายขยับตัวขึ้นลง พีชนั้นจิกเล็บลงบนบ่ากว้าง ชันขาขึ้นแล้วเริ่มขยับตามที่กล้าสอน ไม่นานพีชก็ขยับได้เองโดยที่มีฝ่ามือของกล้าประคองเอวเอาไว้
“อะ อา อะ อะ” พีชส่งเสียงร้องเป็นจังหวะ หวีดครางเสียงเมื่อกล้าจับเข้าที่แก่นกายของลูกพีชพร้อมๆ กับเด้งตัวขึ้นหา
“พีช..พีช อือ” กล้าจับร่างกายขาวนวลให้หงายท้องนอนลงบนฟูก ส่วนตัวเองก็คุกเข่ากับพื้นแล้วขยับตัวหาด้วยจังหวะกระชั้นถี่ เรียกเสียงครวญครางจากลูกพีชดังไปทั่วห้อง
“อืม อื้อ” ลูกพีชงอตัว แยกขาออกกว้าง สองมือจิกเข้าที่แขนของกล้าเต็มแรงเมื่อปลดปล่อยออดมา ปรือตามองใบหน้าของกล้าที่กัดฟันใบหน้าเคร่งเครียด กล้าเท่าแขนลงกับเตียง ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของพีชแล้วปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลียกัน
“อา อือ อือ”
พีชครางในลำคอตอนที่กล้าพรมจูบไปทั่วใบหน้าแล้วขยับตัวออก อ้อมกอดอบอุ่นหายไปเหลือแค่ความวูบโหวงและลมเย็นๆ จนพีชต้องงอตัวเข้าหากัน พอหายใจหายคอทันพีชก็ประคองตัวขึ้นนั่งมองกล้าที่กำลังถอดถุงยางออก
“อา…”
กล้าเลิกคิ้วมองพีชที่กำลังทำภาษามืออยู่ แต่กล้านั้นดูไม่ออก คำที่พีชกำลังเหมือนว่าจะเป็นท่าทางที่เขาไม่รู้จัก ก็เลยขยับตัวส่งสมุดเล่มเล็กไปให้พีชเขียนแทน
‘ทำไมครั้งนี้ถึงใส่อันนั้น เราไม่เคยมีใครนะ กล้าเป็นคนแรกของเรา’
พีชยื่นให้กล้าอ่าน แล้วก็ชี้ไปที่ถุงยางที่กล้าเพิ่งจะถอดทิ้งไปเมื่อครู่นี้ กล้าอ้าปากค้างมองหน้าลูกพีชตาโต
“ก...ก็พีชจะได้ไม่ลำบากเวลาที่ต้องทำความสะอาดไง”
พีชอ่านปากแล้วก็ก้มหน้าลง ถุงยางมีประโยชน์อย่างนั้นเองเหรอ แต่พีชก็คิดว่าครั้งที่แล้วที่เขาทำความสะอาด...มันก็ไม่ได้ลำบากมาก แถมตอนที่ทำกันพีชรู้สึกว่า ไม่มีถุงยางมันก็...รู้สึกดีกว่า
“ม ไม่ชอบเหรอ ไม่อยากให้ใช้อันนั้นเหรอ” กล้าถามเสียงเบา มองลูกพีชที่นั่งตัวแดงอยู่บนฟูก พีชเม้มปาก ก้มหน้าลงแล้วพยักหน้าช้า กล้ารู้สึกเหมือนหัวใจจะวาย ลูกพีชลูกนี้นี่...ทำให้เขามีอาการใจเหลวอีกแล้ว
“นี่ยั่วกันเหรอ...เดี๋ยวเถอะนะ” กล้าดุเสียงเบาหวิวขยับขึ้นไปหอมแก้มลูกพีช คนตัวเล็กก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด ให้ความร่วมมือเอียงแก้มให้หอม แถมยังทำท่าจะเหนี่ยวคอเขาลงไปอีกด้วย
“อา...อา” พีชส่งเสียงเรียกจับฝ่ามือของกล้าให้โอบสะโพกตัวเองไว้ จากนั้นก็ก้มหน้าลงซุกไหล่หนาของกล้า คนตัวสูงเอ็นดู มองพีชที่ยั่วเองแล้วก็เขินเอง บีบแก้มนิ่มแล้วเชยคางให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
“ทำอีก? จะไหวเหรอ เดี๋ยวก็เหนื่อยจนหลับอีก”
“อื้อ”
พีชมองตากล้า จุ๊บไปที่ริมฝีปากอย่างน่ารัก ก่อนจะผละออกมาเม้มปาก ใบหูและแก้มแดงก่ำ โอบลำคอของกล้าเอาไว้แล้งเงยหน้าขึ้นจูบอีกครั้ง
“ยั่วกันขนาดนี้ เราคงไม่หยุดง่ายๆ แน่ลูกพีช”
กล้าพูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันก้มลงฟัดแก้มกลมอย่าให้มันเขี้ยว พีชยิ้มเขินไม่ได้สนใจคำเตือนของกล้าเลย พีชจะเหนื่อยแค่ไหนก็ได้ เพราะพรุ่งนี้ไม่มีเรียน…
กล้าปล่อยให้ลูกพีชทำตามใจตัวเองพักหนึ่ง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายขยับตัวขึ้นทาบทับร่างเล็ก จับท่อนขาพาดบ่าแล้วสอดแก่นกายเข้าไปโดย
ไม่ได้ใส่ถุงยางตามที่ลูกพีชต้องการ...