จบแล้วจบจริง ๆ
+++++++++++++++++
บทส่งท้าย
10 ปีต่อมา
“องค์ชายหลี่จือ องค์ชายหลี่เสิ่นอย่างทรงวิ่งอย่างนั้นสิเพค่ะ”
“ไม่เอาข้าจะวิ่ง”เสียงสองเสียงดังขึ้นพร้อมทำให้บรรดานางกำลังที่คอยรับใช้ถึงกับปวดหัว
“หลี่จือ หลี่เสิ่นอย่างวิ่งในสวนแบบนั้นสิเดี๋ยวพวกเจ้าก็หกล้มหรอก”หนี่เจินเดินอุ้มองค์หญิงองค์เล็กนามว่าเทียนหยงพร้อมกับองค์หญิงองค์โตองค์หญิงหลิงเอ๋อเดินเข้ามาภายในส่วนที่ตอนนี้องค์ชายทั้งสองวิ่งเล่นกันไปมา พอเห็นว่าพระมารดาเดินมาก็วิ่งเข้ามาหาทันที
“เสร็จแม่หม่อมฉันอยากเรียนฝึกดาบกับเสด็จพี่หลี่ไท่พ่ะย่ะค่ะ”เสียงสองเสียงสอดประสานอีกรอบ หนี่เจินยิ้มรับกลับไปแทน
“ก็ตามใจลูกสิ แต่ว่าแม่ว่าเจ้าอย่าไปกวนการฝึกของพี่เจ้าเลยดีกว่า แต่ถ้าพี่เจ้าไม่ว่าอะไรแม่ก็ไม่ห้าม”
“พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”
“เสด็จแม่ก็ทรงตามใจหลี่จือกับหลี่เสิ่นเกินไปนะเพค่ะ”
“แม่ไม่ได้ตามใจ แต่ให้พวกเขาตัดสินใจเองบางต่างหากล่ะ”
“เพค่ะ เสด็จแม่กับเสด็จพ่อให้ท้ายเจ้าลิงสองตัวจนไม่รู้จักโตแล้วเพค่ะ แล้วไหนจะเสด็จพี่หลี่ไท่อีกพระองค์ตามใจจนเจ้าสองแสบนั้นต้องไปคอยกวนอยู่เรื่อย”
“น้องยังเล็กยังไม่รู้อะไรควรไม่ครว เอาไว้เจ้าก็ค่อย ๆ สอนพวกเข้าแล้วกันอย่างไปบังคับเลย”
“เพค่ะ”
“สะเด็ดแม่”
หนี่เจินหันมามองหน้าลูกคนเล็กที่ตอนนี้ยังพูดไม่ชัดเพราะพึ่งจะ3พรรษาเมื่อไม่กี่วัน เขามีลูกกับฮ่องเต้ถึงห้าคน และฮ่องเต้ก็ทรงอยากได้อีกทำให้หนี่เจินต้องค่อยบอกปัดว่าก็ทรงให้พระสนมทั้งสามมีให้สิ เท่านั้นแหละฮ่องเต้ก็ทรงงอนไม่คุยกับเขามาหลายวันแล้ว
“แล้วคราวนี้ทรงมีเรื่องทะเลาะอะไรกับเสด็จพ่ออีกล่ะเพค่ะเสด็จแม่”
“พ่อเจ้าน่ะสิ อยากมีน้องคนที่หกแม่เลยบอกว่าเหล่าสนมก็มีทำไมไม่ให้พวกนางมีให้ เท่านั้นแหละพ่อเจ้าก็บอกว่าแม่ไม่รักแล้วจะผลักไสให้ไปหาคนอื่นอีก แม่ก็เหนื่อยที่ต้องมีน้องให้เจ้าอีกคนแล้วถึงได้บอกเสด็จพ่อของลูกไปเช่นนั้น”
“เสด็จแม่ก็ทรงตามใจเสด็จพ่ออีกสักครั้งสิเพค่ะ”
“ถ้าแม่ตามใจพ่อเจ้า อีกหน่อยพ่อเจ้าก็จะขอแม่อีกแล้ว”
หนี่เจินคิดถึงเมื่อครั้งที่แล้วที่เขาว่าจะมีองค์ชายให้ฝ่าบาทอีกแค่องค์เดียวก็ดันได้มาถึงสองพระองค์ ฮ่องเต้ก็ทรงบ่นว่าอยากได้ลูกสาวอีก พอได้ลูกสาวก็บ่นว่าลูกชายน่ารัก ๆ อีกสักคนน่าดี เล่นเอาหนี่เจินที่ต้องตั้งท้องถึงกับหน้าซีดแล้วหน้าซีดอีก ไม่ทรงมาท้องเองดูบ้างล่ะจะได้รู้ว่าคลอดลูกแต่ละคนมันเจ็บปวดแค่ไหน นั้นคือสิ่งที่หนี่เจินคิด
จนตอนนี้เหล่าสนมก็พากันเห็นใจหนี่เจินจนไม่อยากมีลูกกันเป็นแถว ๆ ไม่รู้ว่าหนี่เจินจะดีใจหรือเสียใจดี หนี่เจินส่งองค์หญิงน้อยให้องค์หญิงหลงเอ๋อพากลับตำหนัก ส่วนตัวเองก็เดินมาที่ศาลาที่ครั้งหนึ่งเขาและฮ่องเต้เคยมาชมดอกไม้ด้วยกันเมื่อครั้งก่อนที่จะเป็นฮ่องเฮา
“เวลาช่างรวดเร็วเหลือเกินเพียงชั่วครู่ก็ผ่านมาแล้วสิบห้าที่นับจากที่ข้าได้พบกับฝ่าบาทสินะ”หนี่เจินทอดมองไปยังสวนดอกไม้หลากสีทอดอารมณ์ระลึกความหลัง
“เจ้ามาหลบอยู่ที่นี่เองฮองเฮา”พระสุรเสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างร่างบางทำให้เขาที่กำลังทอดอารมณ์เมื่อครู่ตื่นจากภวัง
“ฝะ...ฝ่าบาท อย่าทรงมาเงียบ ๆ สิเพค่ะ”
“ถ้าข้าไม่มาเงียบ ๆ จะรู้หรือว่าเจ้าคิดอะไรอยู่”
“หม่อมฉันคิดอะไรเพค่ะ”
“คิดถึงครั้งที่เราเจอกันแรก ๆ ไง”
“นั้นสิเพค่ะ หม่อมฉันคิดว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน หม่อมฉันยังจำได้ถึงครั้งแรกที่หม่อมฉันเจอกับพระองค์ ตอนนั้นหม่อมฉันหนี่ออกมาดูงานโคมลอยแต่กลับถูกคนมาล้อมไว้”
“แล้วตอนนั้นข้าก็เป็นคนเข้าไปช่วยเจ้าจากเจ้าพวกนั้นไว้สินะ”
“เพค่ะ หลังจากนั้นก็ผ่านเรื่องราวมากมายจนบางครั้งหม่อมฉันก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”
“ตอนที่เจ้าเจ็บจนเกือบตายนั้นข้าเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เจ็บปวดยิ่งกว่าเจ้าเสียอีก”
“แต่หม่อมฉันก็รอดมาได้นี่เพค่ะ และตอนนี้หม่อมฉันก็มีความสุขมากคิดขอบคุณที่รอดมาได้จนถึงวันนี้”
“นั้นสินะ”
แล้วฮ่องเต็ก็โอบไหลบางทอดมองสวนดอกไม้ที่แข่งกันเบ่งบานให้ผู้คนได้ชื่นชม
“หนี่เจินข้ารักเจ้า”
“หม่อมฉันก็รับฝ่าบาทเพค่ะ
++++++++++++++++++++
ขอบคุณที่อุตสาติดตามนะจ๊ะ
รักคนอ่านจุ๊บ ๆ
ฝากเรื่องใหม่ด้วยจ้าชื่อ หยาดน้ำกลางทะเลทราย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34094.msg2068401#msg2068401