Kiss Love ♥ [15] ระบมครับ
[กาย...♥] Part 1 NC18+ ผมหอบหายใจแรง โดยมีบางส่วนของพี่เอกเชื่อมอยู่ภายใน ผมปรือตามอง ดวงตาคมยังคงซับไปด้วยเปลวเพลิงแห่งอารมณ์ ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
นี่กูเป็นเมียพี่เอกเต็มขั้นแล้วใช่ไหม
ใช่ไม่ใช่ไม่รู้
แต่ตอนนี้ ส่วนนั้นของพี่เอกยังอยู่ในตัวผม ลูกนับล้านของพี่เอกหลั่งไหลวิ่งวนอยู่ในช่องทางคับแคบของผม ถ้าเป็นผู้หญิง มันคงวิ่งวนหารังไข่ แต่ผมเป็นผู้ชาย มันคงวิ่งวนไปชนได้แค่ลำไส้ใหญ่เท่านั้นแหละ
ผมหอบหนัก พี่เอกกดจูบลงมาอีกครั้งทั้งที่ภายในยังเชื่อมกันอยู่
“พอ…”
ผมครางห้ามเสียงพร่า พี่เอกไม่ตอบ แต่ขยับท่อนล่างเบา ๆ ผมผวากางขาออกกว้างอัตโนมัติ
“คงไม่มั้ง”
พี่แกพูดเสียงเนิบ ๆ ผมปรือตามองดวงตาคมเคลือบความเจ้าเล่ห์
มึงนี่ ทำหน้าหื่นได้น่ากลัวมาก
“พอ ผมเจ็บ”
ผมพยายามอ้อนวอนอีกที
“ทำเยอะ ๆ จะได้หายเจ็บเร็ว ๆ ไง”
ความคิดมึงนี่ เห็นแก่ตัวมากเลยเหอะ ลองมาเป็นกูดูไหม
พี่มันไม่พูดเปล่า ยังดึงส่วนเชื่อมออกช้า ๆ แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่เบา ๆ ผมเชิดหน้าอัตโนมัติรับความเสียวซ่าน
“อืม กายร้อนมากเลย”
นี่คือคำชมจากมึงใช่ไหม
“พอ…”
ผมพยายามห้ามพี่เอกอีกที แต่ผลที่ได้คือบางส่วนที่เคลื่อนที่เข้ามาจนสุด แล้วถอนออกใหม่จนเกือบหลุดอยู่อย่างนั้น สองมือผมกำผืนที่นอนแน่น
พอห้ามไม่ได้ ก็ครางอย่างเดียวแล้วละครับงานนี้
ครั้งแรกกู มึงล่อไปตั้งสี่รอบ
ไอ้ห่า ขอด่าหน่อยเหอะ
ผมสะลึมสะลือตื่นอีกทีตอนเกือบเที่ยง เปิดเปลือกตาขึ้นก็เห็นพี่เอกยืนเปลือยท่อนบนคุยโทรศัพท์อยู่กับใครสักคนข้างเตียง
“โทษทีนะ เพื่อนเราคงไปไม่ได้แล้วล่ะ”
ได้ยินพี่มันพูด แล้วก็หัวเราะแก้เก้ออะไรสักอย่าง
“ก็นิดหน่อย”
พี่เอกพูดอะไรต่อแล้วกดวางสายไป ผมตื่นเต็มตาแล้ว แต่มันร้าวไปทั่วทั้งตัวจนขยับลุกไม่ได้ พี่เอกหันมามอง
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ กินข้าวก่อนนะ จะได้กินยา”
พี่มันบอกก่อนเดินไปหยิบชามโจ๊กในครัวมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
นี่มึง กูยังไม่ทันได้แปรงฟันเลย มึงจะยัดข้าวเข้าปากกูแล้วเหรอ
อยากด่าครับ แต่ไม่มีแรง มันทั้งปวดทั้งเมื่อยไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนเป็นไข้ด้วย พี่มันวางชามโจ๊กไว้บนโต๊ะตั้งโคมไฟ แล้วหันมาพยุงผมลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงหมอนที่พี่มันจับเรียง ๆ กันไว้เป็นชั้น ๆ แล้วหันไปหยิบโจ๊กมาป้อนอีกที
เบลอครับ ประมวลผลอะไรไม่ค่อยทัน ผมทำได้แค่อ้าปากรับโจ๊กในช้อน เคี้ยว ๆ กลืน ไม่นานก็หมด
บอกตามตรง หิวมาก ไม่รู้ว่าเวลาที่คนอื่นป่วยจะเป็นเหมือนผมรึเปล่า เวลาผมป่วย ผมจะหิวและกินเยอะมาก นอนเยอะด้วย แต่ผลที่ได้คือร่างกายค่อนข้างฟื้นตัวเร็วกว่าคนอื่น
พี่เอกหันไปหยิบยามายื่นให้สี่เม็ด แก้ปวดสองอีกสองเป็นแก้อักเสบ ผมรับเข้าปากทันที
“นอนไปนะ”
พี่มันดึงหมอนออกแล้วจับผมให้นอนลงไปอีกที อยากพูดขอบคุณอยู่หรอก แต่เพลีย ง่วง เบลอ เจ็บคอด้วย ไม่รู้เพราะพิษไข้ หรือเพราะเมื่อคืนผมครางเยอะไป
พี่มันล่อผมซะหนัก
ใจจริงพี่เอกอยากต่อรอบห้า แต่สภาพผมคงร่อแร่เต็มที พี่มันเลยหยุด
กูเข้าใจแล้ว ว่าทำไมมึงถึงเป็นเพื่อนกับพวกไอ้พี่มอมันได้ กูเห็นมึงนิ่ง ๆ ที่แท้ก็พวกหื่นเก็บนี่เอง
ผมหลับไปอีกครั้ง ตื่นขึ้นมาอีกทีก็บ่ายสามกว่าแล้ว ดีนะที่แม่ไม่อยู่ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ปวดแปลบแต่พอทนได้ ผมก้มมองตัวเอง ตอนนี้มีเสื้อผ้าครบ แถมยังไม่รู้สึกเหนียวตัวด้วย
อย่าบอกนะว่าพี่เอกเป็นคนเช็ดตัวให้
“ตื่นแล้วเหรอ”
พี่เอกเปิดประตูเข้ามาพอดี ในมือถือข้าวของมากมาย ดูจากโลโก้ข้างถุงแล้ว คงเป็นห้างที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนี้
“พี่ซื้อชุดมาให้ใหม่กับของใช้บางอย่าง”
ผมขมวดคิ้วงุนงง ซื้อมาทำไม
“พักที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะหายดี หรือไม่ก็จนกว่าแม่นายจะกลับ”
“ไม่เป็นไร ผมกลับไปพักที่บ้านก็ได้”
ผมบอกเสียงพร่า พี่เอกเดินเข้ามาใกล้ อังหลังมือบนหน้าผากเบา ๆ
“หิวรึยัง พี่สั่งข้าวหมูแดงเจ้าอร่อยแถวนี้มาให้กินด้วย”
ผมขมวดคิ้วกับคนที่เฉไฉไม่สนเรื่องที่ผมปฏิเสธเมื่อกี้ อยากจะค้านต่อ แต่สงสารสังขารตัวเองครับ พักไปก่อนดีกว่า หายแล้วค่อยว่ากันอีกที
ท้องผมมันร้องหาอาหารอีกแล้ว พี่เอกเดินไปจัดข้าวหมูแดงมาให้ อร่อยจริง ๆ นั่นแหละ ถ้าเลียจานได้ผมเลียไปแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะหิวหรือเพราะของเขาอร่อยจริง ๆ
พี่เอกยื่นยามาให้หกเม็ด สี่เม็ดแรกผมรู้จัก แต่อีกสองเม็ดผมไม่รู้ ผมก้มมองยาสองเม็ดสีแปลกตาในมือ
พี่เอกยิ้ม “เป็นยาบำรุงน่ะ จะได้หายเร็ว ๆ”
ผมว่า…
ผมได้กลิ่นอะไรไหม้ ๆ ลอยมาจากหน้าผมนะ ผมไม่พูดอะไร ก้มหน้ายัดยาเข้าปากอย่างเดียว ไม่กล้าสบตาพี่มันครับ รู้สึกกระดากยังไงบอกไม่ถูก
ผมยังพอลุกไหว เลยลุกไปอาบน้ำด้วยตัวเอง พี่เอกมีสีหน้าเป็นห่วงตอนเห็นผมทำท่าจะล้มตอนยืนครั้งแรก
ความผิดมึงนั่นแหละ ไม่โหมกูหนักตั้งแต่ครั้งแรก กูคงไม่มานอนให้ไข้กินขนาดนี้หรอก
ไม่นานผมก็ออกมาจากห้องน้ำ โดยมีพี่เอก ยืนรออยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง ผมพยายามเดินเนียน ๆ เหมือนคนไม่เจ็บ ไม่อยากให้พี่แกเป็นห่วงมาก เป็นผู้ชายต้องอดทนและเข้มแข็งเข้าไว้
ผมมองตัวเองในกระจก ตอนนี้ผมยืนอยู่ในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสามส่วนสีเดียวกัน ที่สำคัญ ไซส์พอดีเด๊ะ ผมหันไปมองคนซื้อ
นี่พี่เอกวัดจากเสื้อผ้าที่ผมใส่มาหรือวัดจากอะไรกันแน่
ไม่คิดจะถามอยู่แล้ว
“พี่โทรเลื่อนนัดเต้ยให้แล้ว” พี่แกรายงาน ผมเพียงพยักหน้ารับ พี่เอกยืนเกาหัวเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ผมก็ทำหน้าอึดอัดไม่ต่าง
เรื่องที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าจะโทษว่าเป็นความผิดของใครดี
ของเขาที่ปล้ำผม หรือของผมที่ไม่ขัดขืนจริงจัง
และผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน มันเกิดจากอะไร
หัวใจหรือแค่ร่างกาย
“เอ่อ..พี่เช่าหนังมาด้วย ถ้ายังไม่อยากนอนต่อ ดูหนังไปก่อนก็ได้นะ”
พี่เอกชวนคุยตัดความเงียบ ผมพยักหน้า เดินเจ็บ ๆ ไปนั่งรอบนโซฟา พี่แกเดินไปหยิบแผ่นซีดีในถุง นำไปเปิด สักพักก็เดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
หนังมันสนุกก็จริง แต่เปลือกตาผมกลับหนักลงเรื่อย ๆ สงสัยเป็นเพราะยาลดไข้ ผมพยายามฝืนดูหนังตรงหน้า แต่เสียงที่ได้ยินเริ่มแปร่งพร่ากลายเป็นเสียงเหมือนมนุษย์ต่างด้าวพูดคุยกัน
แล้วสติผมก็ค่อย ๆ จางหายไป
รู้ตัวอีกทีผมก็มานอนตะแคงข้างอยู่บนเตียงขาวอันเดิม โดยมีใครบางคนนอนตะแคงข้างโอบกอดผมไว้ทั้งตัว แสงสว่างจากภายนอกเจิดจ้าเข้ามา ผมพยายามเพ่งมอง
ให้เดา นี่คงเป็นเช้าวันอาทิตย์แล้วละสิ นี่ผมสูญเสียวันเสาร์ไปกับการนอนเต็ม ๆ เลยเหรอเนี่ย
พอผมขยับตัว คนที่กอดผมอยู่ก็ขยับตัวตาม
“อืม…ตื่นแล้วเหรอ”
พี่มันสะลึมสะลือถาม ผมไม่ได้ตอบ แต่ขยับตัวให้รู้ว่าผมต้องการลุก พี่เอกคลายมือออก
ไม่รู้ว่าเพราะนอนเยอะ หรือได้ยาดี ยังเจ็บอยู่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีขึ้นเยอะ ผมลุกไปอาบน้ำ ยังใส่ชุดเดิมอยู่ ออกมาก็เห็นพี่เอก ยืนถือกระทะทอดฮอทด็อกอยู่ในครัว ผมเดินเข้าไปใกล้ พี่แกหันมามอง
“เอ่อ…ยังเจ็บอยู่ไหม”
พี่มันอ้อมแอ้มถาม ผมไม่ตอบเพียงพยักหน้าเบา ๆ ตอบรับ
กูอายนะเว้ยเฮ้ย ทำเป็นลืม ๆ ไปก็ได้
“ชอบไข่ดาวแบบสุก ๆ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ”
พี่มันถามต่อ
“กึ่งสุกกึ่งดิบ”
พี่เอกพยักหน้า ตักฮอทด็อกสิบกว่าชิ้นฟู ๆ ใส่จานใบเก๋ แล้วหันไปหยิบไข่มาสองฟองตอกลงไปในกระทะพร้อมกัน ผมยืนมองด้วยความทึ่ง
“ไม่ยักกะรู้ว่าพี่ก็ทำกับข้าวเป็น”
“อยู่คนเดียว ต้องหัดทำกินเองบ้าง สั่งกินตลอดก็ไม่ไหว เปลือง”
“รวยแล้วยังงกอีก”
ผมแขวะ พี่มันหันมายิ้มรับ
นี่ตกลง มึงเป็นพวกงกจริง ๆ ใช่ไหม
“เก็บเงินเอาไว้ให้เมียใช้ไง”
ผมทำหน้าอึกอัก
มึงไม่ได้หมายถึงกูใช่ไหม
กูไม่ใช่ผู้หญิง แล้วกูก็ไม่ใช่แฟนมึง ก็แค่ใครบางคนที่เผลอมานอนกับมึงเท่านั้นเอง
ผมไม่สนใจที่จะโต้ตอบอะไร ผมยืนมองพี่เอกทอดไข่ดาว เสียงไข่ในน้ำมันดังซู่ซ่าแข่งกับเสียงท้องร้องของผมจ๊อก ๆ แปดโมงกว่าแล้ว ปกติแม่มักทำอาหารให้ผมกินตอนเจ็ดโมงไม่เกินเจ็ดโมงครึ่ง แปดโมงถือว่าเลยเวลากินมาเยอะ พี่เอกตักไข่สองฟองแรกใส่จาน แล้วตอกอีกสองฟองลงไป
ผมกวาดมองไปทั่วโต๊ะอาหาร มีฮอทด็อกสิบกว่าชิ้นในจาน ไข่ดาวกึ่งสุกสองฟองอีกสองยังอยู่ในกระทะ นมกล่องใหญ่หนึ่งกล่องพร้อมแก้วเปล่าอีกสองใบ ขนมปังโฮลวีทอีกครึ่งแถว แยมสตอเบอรี่หนึ่งกระปุก ทูน่าสลัดหนึ่งกระปุก ครัวซองสามชิ้น กาแฟแก้วหนึ่ง น้ำผลไม้กล่องใหญ่ แฮมทอดพูน ๆ น่องไก่ทอดอีกสี่ชิ้น
ป้าด!
เป็นมื้อเช้าที่อลังการงานสร้างจริง ๆ พอพี่แกทอดไข่เสร็จ ก็หันไปหยิบจานผลไม้กับผักสดในตู้เย็นมาแกะพลาสติกที่หุ้มออกวางไว้กลางโต๊ะ
คิดว่ามื้อนี้คงครบห้าหมู่ละนะ อนามัยอีกต่างหาก
ผมทิ้งตัวลงนั่ง พี่เอกเทน้ำผลไม้ใส่แก้วยื่นมาตรงหน้าผม แล้วเราก็ลงมือกินกัน กินตามนิสัยใครนิสัยมันครับ ผมตักฮอทด็อกชิ้นหนึ่งมาวางไว้ในจานตัวเอง ตักผักมาเรียงข้าง ๆ เอาไข่ดาวมาแปะด้านซ้าย ตักแฮมมาวางด้านขวา ราดซอสเป็นทางเหมือนงู แล้วหั่นกินช้า ๆ
ส่วนพี่แกม้วนไข่ดาวฟองหนึ่งด้วยส้อมเป็นก้อน ๆ จุ่มลงในซอสมะเขือเทศแล้วเอาเข้าปากทั้งอัน
ผมมองอึ้ง ๆ
ถ้าผมทำแบบพี่แก คนคงมองว่าผมตะกละแน่ ๆ
เชื่อกันหรือเปล่า ว่าที่ผมร่ายยาวมาทั้งหมดบนโต๊ะ คือมื้อเช้าของพี่เอกจริง ๆ ตอนนี้อาหารในจานเกลี้ยงครับ ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ขนมปังครึ่งแถวที่ผมกินได้ทั้งอาทิตย์ พี่แกกินหมดภายในมื้อเดียว
“อย่ามองพี่ด้วยสายตาอย่างนั้นสิ มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญ พี่จะหนักหน่อย”
ผมพยักหน้าเข้าใจ ยกน้ำผลไม้ขึ้นดื่ม ส่วนพี่เอก ยกดื่มทั้งกล่องครับ แก้วเดียวคงไม่พอ
“กินเยอะขนาดนี้คงต้องซื้อตุนไว้เยอะ ๆ” ผมเดา
“พี่ให้แม่บ้านจัดการน่ะ ไม่ได้ซื้อเอง ทุกวันจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดแล้วก็ซื้อของมาตุนให้”
ผมพยักหน้าเข้าใจ พี่แกปาดน้ำส้มออกจากปากเบา ๆ
“หล่อแต่ซกมก”
ผมแอบด่า เอื้อมหยิบทิชชู่ไปเช็ดปากให้ พี่มันนิ่งครับ จ้องหน้าผมนิ่ง ๆ
ผมเริ่มหายใจไม่ออก
กูทำอะไรผิดวะ
ผมชักมือกลับ เสหน้ามองไปทางอื่น
“กาย”
ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ ผมหันกลับมามองอีกที
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น
รู้แต่ว่าปากผมมันไม่ว่างแล้วตอนนี้ ถูกจูบอยู่ ผมครางท้วงผ่านลำคอ ไม่รู้พี่เอกมายืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ หน้าผมแหงนไปตามแรงกดหนัก แผ่นหลังแนบไปกับพนักพิง ผมจับอกเสื้อพี่เอกแน่น สัมผัสได้ถึงรสของน้ำผลไม้จากปลายลิ้นพี่เอกด้วย
พี่เอกตวัดลิ้นรุกหนักภายใน ตัวผมเริ่มหอบหนัก ปรือตามองก็เห็นได้เพียงใบหน้าที่เชื่อมกันอยู่ ความหวามไหววิ่งวนไปทั่วช่วงท้อง ได้ยินเสียงตัวเองครางออกมาเบา ๆ ด้วย
อือ.. นี่กูครางได้หวิวขนาดนี้เลยเหรอวะ
พี่เอกโหมจูบผมอยู่สักพักก็ถอนริมฝีปากออก พี่แกทำหน้านิ่ง ๆ เดินกลับไปนั่งที่เดิม ผมหายใจแทบไม่เป็นจังหวะ
มันมึน มันสับสน แล้วก็หวิว ๆ ค้าง ๆ ไปทั้งตัว
สุดท้ายผมทำได้แค่ก้มหน้าดึงลมหายใจตัวเองกลับคืน ไม่กล้าสบตาพี่เอกครับ ไม่รู้มันคิดอะไรถึงได้มาโหมจูบผมแล้วก็กลับไปนั่งไม่รู้ไม่ชี้แบบนั้น
“ของหวาน”
พี่แกพูดสั้น ๆ ผมเงยหน้ามองงง ๆ แกชี้ไปที่ปากตัวเอง
“เมื่อกี้ พี่กินของหวาน”
ผมอ้าปากค้าง ก่อนจะหุบลง แล้วอ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้จะพูดอะไร แล้วหุบลงอีกที พี่เอกหัวเราะหึ ๆ ลุกเก็บจานชาม
ผมที่พอได้สติรีบลุกตามไปเก็บด้วยเช่นกัน
สรุป กูเป็นของหวานสำหรับมึงใช่ไหม
ไอ้หมียักษ์หน้าด้าน
To Be Con...
หนุกหนานกันให้เต็มที่นะคะ ^^
เม้นท์ ๆ โหวตกันบ้าง พอเป็นกำลังใจให้คนเขียน หุหุ
ส่วนใครที่ต้องการหนังสือ ก็ตามนี้เลยค่ะ ^^
...ใบจอง Kiss Love.....
ชื่อ :
เบอร์ติดต่อ :
อีเมล :
ชื่อที่อยู่ให้จัดส่งหนังสือ:
ส่งใบจองมาที่ Memew28(แอท)yahoo.com
เฟส: facebook.com/memew28
ทวิตเตอร์: @memew28
รายละเอียดหนังสือ
จำนวนหน้า : ยังไม่ได้บทสรุป เพราะยังรีไรท์ไม่เสร็จดี
ราคา : 1500 บาท (อาจถูกกว่านี้)
กำหนดการ : กันยายน
สงสัยอะไร สอบถามได้ทุกเส้นทางคร้าบบบบ