ตอนนั้นความรู้สึกทั้งตื่นเต้น ทั้งสับสน ทั้งอับอายเริ่มตีรวนจนผมไม่รู้พื้นอารมณ์ของตัวเองชัดเจน จนเมื่อน้องเขาดึงกางเกงในของผมลง แล้วผลักผมให้นอนราบไปกับเตียงไม่ต่างจากตุ๊กตาล้มลุก แต่ไม่ใช่ตัวผมที่ลุกหรอกนะครับ แต่น้องชายของผมลุกต่างหาก ฮ่าๆ
ถึงแม้ระยะโฟกัสของสายตาจะเปลี่ยนไป แต่ผมก็พอจะรับรู้ได้ถึงกระแสนัยน์ตาที่มองมา ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่สายตาที่มีความหมายในแง่ดีเท่าไร ถึงอย่างนั้นเตยก็ยังอุตส่าห์ใจดีมาช่วยผมจัดการน้องชายที่กำลังแสดงตัวออกมา ถึงแม้น้องเขาจะใช้ผ้ารองมืออีกชั้นเพื่อสัมผัสมันก็ตาม
แต่ประเด็นที่ทำให้ผมตกตะลึงไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่เพราะผ้าที่ใช้ มันเป็นผ้าเช็ดหน้าของเตยต่างหาก!
ผมเชื่อเลยว่า เตยไม่ทันได้คิดอะไรถึงความวาบหวิวที่มีความนัยชวนสยิวหรอกครับ แต่ผมน่ะ…คิดไปถึงไหนต่อไหนอย่างเข้าข้างตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นถึงมันจะดูเหมือนโดนเล่นงาน แต่เอาเข้าจริงผมกลับรู้สึกมีความสุข สัมผัสที่ร้อนผ่าวแลกกับการเปิดเผยโฉมหน้าอาวุธสุดอหังการแล้ว ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ดันโกรธไม่ลง
หลังจากได้ปลดปล่อยต่อหน้ากล้องที่เก็บเสียงและใบหน้าของผมอย่างชัดเจน เตยก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พร้อมกับซึมซับความรู้สึกที่มีอยู่ตอนนี้
เตยมองมาที่ผมด้วยสายตาเหยียดระคนสมเพช แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือกลับไปใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินออกจากห้อง โดยไม่ลืมทิ้งท้ายให้ผมไม่ต่างจากการราตรีสวัสดิ์
‘มึงดังกระฉ่อนแน่’
พอคล้อยหลังเตยไปราวห้านาที ผมก็เริ่มขยับตัวเองอย่างจริงจัง และก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ว่า กางเกงมันจะไปพันอะไรได้ ผมแต่ขยับไม่เท่าไร มันก็หลุดออก หลังจากได้รับอิสรภาพจากการเป็นดุ้นข้าวหลาม ผมก็ขยับตัวแก้เมื่อย ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาแขวนบนผนังที่บอกเวลาสามทุ่มเศษ
ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะลุกจากเตียง แล้วคว้าเสื้อผ้ามาใส่ แน่นอนว่ากางเกงที่ผมใส่เป็นของเตยที่เอามามัดผมเอาไว้
เฮ้อ… ถึงจะไม่ได้มีอะไรกันอย่างลึกซึ้ง แต่ก็ได้ใส่กางเกงตัวเดียวกันอย่างแนบแน่นนั่นแหละวะ
ผมยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะมองดูโทรศัพท์มือถือที่มีทั้งสายที่ไม่ได้รับ รวมไปถึงข้อความต่างๆ ที่สามารถติดต่อกับผมได้ และในจำนวนการติดต่อทั้งหมดก็มีนัทกับโอเป็นเจ้าของมากที่สุด ผมไม่ได้คิดสนใจนัก เมื่อเดินออกจากโรงแรม ผมก็โบกรถแท็กซี่กลับที่พัก แล้วนอนหลับยาวอย่างสบายอารมณ์จนกึงเช้า
พอตื่นมา ผมไม่ได้ติดต่อกับคู่ขาคนไหน แต่เลือกที่จะท่องโลกออนไลน์ เพื่อตามหาคลิปฉาวของตัวเองตามเว็บไซต์ที่น้องเขาน่าจะเอาไปลง แต่ก็หาไม่เจอ
ใจหนึ่งผมก็กังวลนะครับ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าจะไปกังวลทำไม เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เตยอาจจะเอาไปลงไว้ที่ไหนสักแห่งในโลกอินเทอร์เน็ต หรือไม่อาจจะแค่ขู่ผมเล่น แล้วเก็บเอาไว้ดูเองยามว่าง ผมก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ ถึงแม้ผมจะรับรู้ถึงจุดประสงค์ของเตยที่ตั้งใจจะทำให้ผมเสียหน้า จนไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับเขาอีก แต่น้องเขาคงต้องผิดหวังที่ผมไม่ได้หน้าบางขนาดนั้น จนปล่อยให้สุดหล่อลอยนวลไปได้
อย่างน้อย…ก็ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน
+++++++++
วันนี้เป็นวันหยุดเรียนของผมครับ แน่นอนว่าหนุ่มหล่อสุดฮอตแบบผมคงไม่มีเวลาว่างมานอนน้ำลายบูดอยู่คนเดียวในห้องที่แสนเงียบเหงาเป็นแน่ เพราะจะต้องมีหนุ่มน้อยสักคนที่มาทำให้โลกของผมเป็นสีชมพู แต่คงต้องเว้นวันนี้ไปหนึ่งวัน เพราะผมขี้เกียจสุดๆ เลยครับ
แต่ไม่ใช่เพราะผมเบื่อที่จะได้เอาใจแนบชิดกับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักหรอกนะครับ แต่เพราะอากาศตอนนี้ต่างหาก
ผมเกลียดฤดูฝน
เม็ดฝนที่เทกระหน่ำมาตอนนี้ ทำให้บรรยากาศดูหม่นหมองชอบกล มันดูเคว้งคว้างอ้างว้าง ทั้งอับชื้น ทั้งอึดอัด จนอุปาทานไปเองว่าหายใจไม่สะดวก แถมจะไปไหนก็ลำบากต้องมาพกร่มกันอีก
น่าเบื่อที่สุดเลยครับ!
ผมเลยตัดสินใจที่จะนอนจมอยู่ในเตียงหลังกว้างที่แสนสบาย ความกระฉับกระเฉงของผมดูเหมือนจะถูกน้ำฝนชะล้างจนขี้เกียจแม้แต่จะลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน ทว่าในขณะที่ผมกำลังหลับตาพริ้มเตรียมตัวเข้าสู่ภวังค์ของตัวเอง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
ชัดจังหวะจริง!
ผมควานหาอุปกรณ์สื่อสารที่แผดเสียงร้องเป็นเพลงร็อกที่ดังขัดกับบรรยากาศแบบสุดขั้ว และเมื่อคว้ามันมาได้ ผมก็ปรือตาขึ้นมามองชื่อที่ปรากฏตรงหน้าจอ ก่อนจะกดรับสาย
“Good morning darling”
[ดาร์ลิ้งพ่อ! ตอนนี้มันจะเที่ยงแล้วเว้ย!]
“Oh no! You blame me!”
[กวนตีนแล้ว ไอ้แทม]
“Why?!”
[Fucking Tammy]
ผมหัวเราะออกมากับคำทักทายของมัน พอได้กวนตีนคนอื่น บรรยากาศที่เหมือนน้ำซึมเข้ามาในห้องจนอับชื้นก็เหมือนมีแสงแดดส่องถึง
“Honey, I miss you so much”
[เหี้ย! เมื่อไรมึงจะเลิกกระแดะพูดอังกฤษสักที กูรำคาญ!]
“นี่มันภาษาบ้านเกิดมึงนะมิเชล”
[กูชื่อไมเคิล!]
น้ำเสียงแข็งๆ ที่ผสมกับความเซ็งที่ถูกถ่ายทอดผ่านคลื่นโทรศัพท์ ทำให้ผมต้องหัวเราะอีกรอบ เพราะพอจะนึกหน้าของมันออก ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันหลายเดือนแล้วก็ตาม
“โอเคๆ คิดถึงแทมใช่ป่ะ มิเชล”
[Damn! กูมีเรื่องจะให้มึงช่วยหน่อย]
“เสียใจว่ะ ทั้งที่แทมก็คิดถึงมิเชลตลอดเวลา”
[อย่ามาตอแหลครับ ไอ้เวร]
“มิเชลหยาบคายกับแทมที่สุดอ่ะ”
[ไอ้แทม กูขอคุยกับมึงเวอร์ชั่นปกติครับ]
“จัดให้ครับ มิเชล”
ผมอมยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจออกมา แต่ไม่ต้องตกใจคิดอะไรเยอะแยะว่า มันจะเป็นคนพิเศษอะไรหรอกนะครับ มิเชลของผมชื่อไมเคิล เพื่อนๆ ก็เรียกกันว่าไมค์ เป็นคนอเมริกันที่มาเติบโตในประเทศไทยตั้งแต่เด็ก หน้าตามันก็ออกแนวหล่อแบบสากลเลยล่ะครับ เวลาเดินไปไหนด้วยกันก็มีแต่คนมอง
แต่เห็นหน้าตาบ่งบอกเชื้อชาวต่างชาติ แต่มันพูดภาษาไทยชัดมากครับ ด่าแต่ละคำก็ชัดถ้อยชัดคำ เข้าใจง่าย อย่างที่เห็น เพราะฉะนั้นอย่าเผลอไปด่ามันเข้าอย่างไม่รู้เท่าทันเลยเชียว ไม่อย่างนั้นจะโดนมิใช่น้อย มันเป็นเพื่อนสนิทของผมตอนเรียนมัธยมครับ
แน่นอนว่ามันรู้ว่าผมเป็นแบบไหน ผมเลยชอบแกล้งแหย่มันเล่น พอให้ขำกลิ้ง เมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกินยาเบื่อหนูมาของมัน
[มึงมาเจอกูหน่อยได้หรือเปล่า]
“ทำไม? มีอะไร?”
[คือแบบว่า...]
ปลายสายตะกุกตะกักไปจนผมนึกสงสัย ที่จริงมิเชลเป็นคนขี้อายนะครับ เมื่อเทียบกับผม มันเป็นหนุ่มร่าเริงสดใสไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ที่ทำให้โลกอบอุ่น และทำให้สาวๆ อารมณ์ร้อนผ่าวได้ไม่ยาก มีเสน่ห์ร้อนแรงจนผู้หญิงมองมันน้ำลายหก
“มัวอ้ำอึ้งอยู่ได้ ให้กูไปง้างปากให้ไหม จะได้พูดคล่องขึ้น”
[โอเคครับเพื่อน มึงมาหากูที่ห้องคืนนี้หน่อย]
“เฮ้ย! นี่มึงตั้งใจจะมีอะไรกับกูจริงๆ หรือวะ มิเชล ขอคืนพรุ่งนี้แทนได้เปล่า กูตั้งตัวไม่ทัน”
“ไอ้สัดแทม! แค่มาเจอกันเฉยๆ เว้ย!”
ผมหัวเราะรับอย่างอารมณ์ดี ปากของผมมันก็ชอบแหย่อยู่เรื่อย คงเพราะคนที่โดนหยอก มันมีผลตอบรับอย่างน่าพอใจเสมอล่ะมั้งครับ
“เห็นว่าเป็นมึงนะ กูถึงลัดคิวให้ มึงก็รู้ว่าเวลาของกูมีค่า”
[เออๆ]
หลังจากนั้นเราสองคนก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่ปลายสายจะตัดการติดต่อไป
ผมไม่ได้เรียนที่เดียวกับมันหรอกนะครับ ที่จริงตอนแรกก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น แต่เพราะผลคะแนนที่บังอาจมาแยกเราสองคนให้จากกัน โดยที่ผมเลือกที่จะเรียนวิศวะ และมันเลือกที่จะเรียนสัตวแพทย์ มิเชลมันรักสัตว์น่ะครับ
ผมวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หัวเตียง ก่อนจะนอนซุกลงไปในผ้าห่มอีกครั้ง ท้องฟ้าสีหม่นที่ฉายผ่านหน้าต่าง ทำให้ผมย่นคิ้วของตัวเอง เมื่อยังเห็นละอองฝนที่ยังโปรยปรายอยู่ไม่ขาดสาย หวังว่ามันจะหยุดตกก่อนที่ผมจะไปเจอเพื่อนสนิทในคืนนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงหงุดหงิดกับสภาพอากาศและการจราจรที่อาจจะติดขัดบนท้องถนนก็เป็นได้
ให้ตายเถอะ! ผมล่ะเกลียดฝนจริงๆ
TBC ++++++++++
Marionetta ::: มาแล้วค่ะ ^^ หลังจากหายไปหลายวัน แฮะๆ
สำหรับตอนนี้ก็กลับมาเป็นตอนของพี่แทมอีกครั้งค่ะ หลังจากถูกมัดเป็นดุ้นข้าวหลาม ฮ่าๆ
พี่แทมของเราก็โดนน้อเงตบทำพิษซะแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเขาจะชอบนะคะ อิอิ
ตอนนี้ก็เปิดตัวละครใหม่อีกคน ก็คือ พี่มิเชล รับพี่แกไว่ในอ้อมกอดด้วยนะคะ
สามารถแนะนำและติชมมาได้เช่นเคยค่ะ
ขอบคุณทุกการติดตามและเป็นกำลังใจให้
ขอบคุณมากเลยค่ะ