LOVE HIGH STORY – 10 – (Whose) Mistake | ความผิด (ติดตูดใคร) [part 2]“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
.
.
.
เฮ้ย!! ไรวะ!!
.
ผมสะดุ้งตื่น ดีดตัวลุกขึ้นนั่งโดยอัตโนมัติ... คนกำลังหลับสบายๆ แต่ดันมีใครมาโวยวายอะไรเสียงดังวะเนี่ย
ชิ๊ง!!
สายตาผมพุ่งตรงไปยังทิศทางของเสียง... อ้าวนั่นมันห้องนอนผมเองนิ งั้นก็แปลว่าเสียงเมื่อกี๊เสียงไอ้เปี๊ยกอะดิ มิน่าเสียงคุ้นๆ แต่ว่าเสียงโวยวายดังขึ้นและเงียบไป... อืม น่าสงสัย ไอ้เปี๊ยกมันเป็นอะไร??? ไปดูสักหน่อยดีกว่ามั้งครับ
ว่าแล้วผมก็เดินตรงไปยังห้องนอนตัวเอง... ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู... คิดๆ แล้วก็รู้สึกสงสารปนอนาถตัวเองนะครับ เห็นห้องนอนตัวเองอยู่ตรงหน้านี้แท้ๆ แต่เข้าไปไม่ได้... พระเอกอาภัพ ชีวิตบัดสบที่สุด (โดยเฉพาะเมื่อคืน)
ผมลองเอาหูแนบประตูเพื่อลองฟังเสียงดูก่อน แต่ไม่ได้เบาะแสอะไรเลย... เงียบสนิท เงียบมาก เงียบเหมือนไม่มีอะไร... แต่ทำไมนะ ทำไมผมถึงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ เหมือนจะมีอะไรเกรียนๆ เกิดขึ้นในห้องนอนของผม ผมว่าผมได้กลิ่นเกรียนมันลอยออกมาจากชอบประตูห้องผมนะครับ... ไอ้กลิ่นเกรียนเนี่ย มันน่ากลัวยิ่งกว่ากลิ่นอ้วกติดผ้าห่มอีกนะครับ!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
.
...เงียบ
.
ปึง ปึง ปึง
.
...เงียบฉี่
.
ปัง ปัง ปัง...
“เฮ้ย เปี๊ยก เปิดประตูดิวะ รู้นะว่าตื่นแล้วอะ เปิดประตูเร็วๆ”
.
...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากไอ้เปี๊ยกที่ท่านเรียก
.
( - * - )
.
กริ๊ก...
“มีอะไร”
ในที่สุดไอ้เปี๊ยกก็เปิดประตูครับ จะบอกว่าเปิดก็คงไม่ค่อยถูกเท่าไร เพราะว่ามันแค่แง้มประตูโผล่มาให้เห็นแค่ครึ่งหน้า แถมยังมาถามหน้าตายอีกว่า... มีอะไร... กวนตีนสุดๆ!! ผมไม่รีรอเสียเวลายืนเถียงกับมันหรอกครับ เมื่อคืนเป็นบทเรียนที่เจ็บแสบเพียงพอแล้ว และผมก็เป็นประเภทเจ็บแล้วจำครับ
ว่าแล้วผมก็ผลักประตูสายฟ้าแลบ ไม่ให้มันตั้งตัว...ปึก! โอ้ย!!... ประตูโขกโดนหน้าผากมันด้วย เต็มๆ เน้นๆ เลยทีเดียว สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆ... ผมยิ้มอย่างสะใจก่อนจะเดินเข้าห้องไปโดยที่ไม่ได้สนใจไอ้เปี๊ยกที่ยืนดิ้นกุมหน้าผากตัวเองพร้อมเสียงโวยวายอีกระลอกใหญ่อยู่หน้าประตู... เมื่อเข้ามาในห้องของตัวเอง ผมก็กวาดสายตาหาสิ่งผิดปกติก่อนเลยครับ ตรวจดูก่อนว่าไอ้เปี๊ยกมันทำอะไรกับห้องผมบ้าง
“มีอะไร” ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เปี๊ยกตอนนี้อย่างฮาอะครับ ยืนหน้าหงิกหน้าผากแดง สายตาแบบนั้นมันคงอยากกระโดดกัดหูผมใจจะขาด แต่มันทำไม่ได้หรอกครับ หูผมมันสูงกว่าปากมันเยอะ ฮ่าๆๆๆๆ
“เมื่อกี๊ร้องซะเสียงดังเลย มีอะไรรึเปล่า”
“ไม่มีอะไร๊... ก็แค่โดนลิงกระแทกประตูใส่” มันพูดแล้วยักคิ้วข้างเดียว
“ฮ่าๆๆๆ ก็ช่วยไม่ได้ อยากมายืนขวางประตูทำไมละ”
“หึ... ทีใครทีมันละกัน”
“อะไรนะ”
“เปล๊า ไม่มีอะไร” ไม่มีอะไรแล้วจะปฏิเสธเสียงสูงทำไม!
“ก็ดี... งั้นก็ตอบมาซะดีๆ ว่าเมื่อกี๊ทำอะไร ร้องซะเสียงดังเลย”
“ก็บอกแล้วไงว่าโดนลิงมันเปิดประตูกระแทกหน้าผาก เนี่ยแดงอยู่เนี่ย เห็นไหม” ไอ้เปี๊ยกพูดพลางชี้ไปที่หน้าผากแดงๆ ของมัน
“ไม่ใช่ หมายถึงก่อนที่โบ๊ทจะเข้ามาเนี่ย”
“อ้อ...” นี่แหละครับ จุดที่มันเริ่มมีพิรุธ
“...” ผมเองก็ตั้งใจรอฟังคำตอบจากปากของมัน
“ก็... ไม่มีอะไรนิ ไม่ได้ทำอะไรเล๊ยยยย” จะไม่น่าสงสัยได้ไงละครับ ก็ไอ้เปี๊ยกเนี่ยมันโกหกเป็นซะที่ไหน โกหกทีไรผมก็ดูออกทุกที ก็ดูเอาละกันครับ ไอ้ท่าทางประหม่าอย่างชัดเจน สายตากรอกไปมา ไม่สบตา มือก็อยู่ไม่สุข เหมือนหาที่วางไม่ถูก เกาหัวเกาแขนไปทั่วแบบนี้ จะจับไม่ได้ก็แปลกแล้วละครับ
“อย่ามาโกหกนะไอ้เปี๊ยก... หรือว่าเอ็ง... ชักกะโด้อยู่”
“เฮ้ยย ไม่ใช่... ทะลึ่งละ” อืมมม อันนี่น่าเชื่อครับ เวลามันขึงขังโผงผางแบบนี้แหละคือเวลาที่มันพูดความจริง
“แล้วเอ็งทำอะไร”
“ก็... ก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีอะไร๊” อะไรของเอ็งนี่ เสียงสูงดีจังนะ ฮืมมมมม
“...” ผมหรี่ตาคาดคั้น
“เฮ้ย คุณโบ๊ทคิดมากน่า ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง” ก็เพราะเป็นเอ็งเนี่ยแหละ มันถึงต้องคิดมาก
“ก็เล่นแหกปากสิบแปดหลอดขนาดนั้น ไอ้เราก็นึกว่าโดนแพะข่มขืนไปซะแล้ว”
“แพะ?”
“เออ แพะ แบะ แบะ อะ รู้จักไหม!”
“...โรคจิต”
“อะไรนะ”
“เปล๊า”
“โอเค ไม่มีก็มี... แต่อย่าให้รู้ละกันว่ามาก่อวีรเกรียนอะไรไว้ เอ็งจะโดนไม่ใช่น้อย คดีเก่าที่เราต้องสะสางกันยังมีอีกเยอะ” ผมชี้หน้าคาดโทษไอ้เปี๊ยกไว้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัว
.
.
.
ฟุ้วววววว เกือบไปแล้วไหมละครับ พี่น้องงงงง... จะอะไรซะอีกละครับ ก็เมื่อกี๊นี้ผมดันลืมตัวแหกปากซะเต็มเสียง เพราะไอ้ไฟล์วิดิโอนรกนั่นแท้ๆ เลย พูดถึงแล้วก็โมโหขึ้นมาตะหงิดๆ... ไอ้ลิงภูเขานั่นก็ดันตื่นง่ายซะงั้น แค่นี้ก็ถึงกับต้องตื่นมาเคาะประตูปึงๆๆ... ไอ้ผมก็ดันมัวแต่ตกใจ กว่าจะปิดคอมได้ก็กดผิดกดถูกอยู่หลายที ไอ้คุณโบ๊ทก็ดันมาเคาะประตูกดดันอีก แถมพอผมคลิ๊กปุ่ม shut down มันก็ดันมา install อัพเดทอะไรอีกก็ไม่รู้ วุ้วววววว เกือบไป... ถ้าโดนจับได้นะ ผมว่าผมคงต้องกลายเป็นวิญญาณเฝ้าคอมไอ้คุณโบ๊ทแน่ๆ แต่พอดีว่าผมเป็นคนดี ตกไฟไม่ไหล ตกไฟ... เอิ่ม มันต้องพูดว่ายังไงนะครับ? เอ่อ ช่างมันเหอะครับ เอาเป็นว่าผมรอดมาได้ก็พอเนอะ
.
.
บรรยากาศเมื่อครู่นี้ทำผมอึดอัดชะมัดเลย ออกไปสูดอากาศข้างนอกสักกันหน่อยดีกว่าไหมครับ
ถึงจะเป็นกรุงเทพฯ แต่อากาศยามเช้าก็ยังสดชื่นเย็นสบาย... ไอ้ผมอะ ตื่นเช้าไม่บ่อยนักหรอกครับ อาจจะพอรู้กันอยู่แล้วบ้างว่าผมเป็นประเภทขี้เซาอะนะ นอนแล้วตื่นยากตื่นเย็น ดังนั้นการได้ตื่นเช้าแบบวันนี้ จึงนับเป็นโบนัสสำหรับผมเลยทีเดียว... ตอนเด็กๆ แม่ชอบบ่นอยู่บ่อยๆ ว่า “ก็เพราะมัวแต่นอนกินบ้านกินเมืองอยู่นี่ไง ข้าวปลาไม่กิน มันถึงไม่โต”... อืมมมมม ซึ้งเลยครับ
พูดถึงแม่แล้วก็อยากทำบุญตักบาตรขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่ได้ทำบุญนานแล้วละครับ... อ้อ ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าผมไม่ใช่คนกรุงเทพฯ หรอกนะครับ ผมมาจากขอนแก่น เพิ่งเข้ามากรุงเทพก็เมื่อปีที่แล้วตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละครับ เมื่อก่อนนี้แม่ผมมักจะปลุกผมขึ้นมาใส่บาตรตั้งแต่เช้าตรู่ ผมเองก็ตื่นบ้างไม่ตื่นบ้าง แต่แม่ก็ต้องลากผมให้ลุกให้ได้ อย่างน้อยๆ ก็สัปดาห์ละครั้งสองครั้งละนะ แต่ว่าพอเข้ากรุงเทพฯ มา ผมก็ทำบุญหรือเข้าวัดนับครั้งได้เลยละครับ... ขนาดวัดพระแก้ว ผมยังไม่เคยได้ไปเห็นสักทีเลยครับ!!!
อืมมมม ลมเย็นดีจัง... อะ นั่น มีคนลงไปวิ่งออกกำลังงกายยามเช้ากันในสวนใกล้ๆ คอนโดฯ ด้วยเหรอเนี่ย อืม น่าสนเหมือนกันนะ ผมว่าผมคงจะต้องมีวันที่จะตื่นแต่เช้าเพื่อไปออกกำลังกายแบบนั้นบ้างแล้วละ คิดแล้วก็พลันเผลอคิดไปถึงน้ำเต้าหู้ขามเช้า ใส่สาคูด้วย เม็ดแมงลัก(ไข่กบ)ก็ดี ผมชอบ กินคู่กับปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ... อร่อย!!!
.
.
.
“มายืนเป็นพระเอกมิวสิคน้ำลายยืดอะไรแถวนี้”
ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าเสียงใคร จะเป็นใครไปได้ละครับ ก็อยู่ในห้องกันแค่สองคน แต่คราวนี้ไม่ได้มาแค่ตัวกับเสียงนะครับ เขามาพร้อมกลิ่นด้วย... กลิ่นสบู่อ่อนๆ จากผิวกายลอยมาแตะจมูกผมตั้งแต่ยังไม่ได้หันไปมอง รู้ตัวอีกทีก็มีแขนหนักๆ เปียกๆ นั่นมาพาดไหลผมซะแล้ว... มันเปียกนะเนี่ย
“แล้วนี่มายืนเป็นชีเปลือยอะไรอยู่แถวนี้ไม่ทราบครับ คุณโบ๊ท” ใช่ครับ ไอ้คุณโบ๊ทออกมาจากห้องน้ำโดยมีแค่ผ้าเช็ดตัวห่อท่อนล่างออกมา หัวก็เปียก ตัวก็เปียก แล้วก็ออกมานอกระเบียงในสภาพแบบนี้ ถ้าเมฆฝนก่อตัวขึ้นนี่ผมคงจะหนีเข้าห้องก่อนเลยอะครับ ไม่ใช่กลัวเปียกนะครับ กลัวว่าถ้าฟ้าผ่าไอ้คุณโบ๊ท ผมเองก็จะโดนลูกหลงไปด้วยนะสิ
“ก็คนมันหุ่นดีอะ ก็เลยออกมาโชว์ให้คนอื่นเขาเห็นบ้างเป็นบุญตา” พูดพลางยักคิ้ว... กวนตีนวะ!
“เหรออออออ” อดไม่ได้ที่จะถามประชดเสียงสูงๆ
“แน่นอน นี่ระดับพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ เลยนะเฟ้ย” ไอ้คุณโบ๊ทพูดพลางยกแขนซ้ายขึ้นมาเบ่งกล้ามโชว์ ก็ต้องยอมรับแหละครับว่าหุ่นเขาดีจริง ก็นักกีฬาว่ายน้ำเก่า แถมเคยเล่นเทควันโดอีก จะหุ่นไม่ดีก็แปลกแล้วละครับ
“อืมมมมม แล้วคุณว่า พวกลุงๆ ป้าๆ ที่วิ่งออกกำลังกายกันอยู่ข้างล่างนั่นเขาจะอยากเห็นกระปู๋พี่ติ๊กมะ”
“เฮ้ยยยย ไม่เห็นหรอก” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่กลับใช้มือข้างซ้ายรีบลงไปกุมเป้าไว้ สายตาก็ส่องๆ มองๆ ลงไปว่ามีใครมองขึ้นมาบ้างรึเปล่า
“ฮ่าๆๆๆ ตลกวะ คุณโบ๊ท”
“ไม่ต้องมาขำเลย ไอ้เปี๊ยก... อันที่จริง... เรามีเรื่องต้องสะสางกันเยอะเลยนะ เปี๊ยกน้อย” พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องกระชับวงแขนที่พาดไหล่ผมอยู่เลย ไม่ต้องพูดใกล้ขนาดนั้นก็ได้ ไกลๆ ก็ได้ยินน่า
“หือ???”
“ตั้งแต่เมื่อวานละ... ตอนจ่ายเงินค่าของที่ซุปเปอร์ เอ็งก็ชิ่ง”
“ก็... ก็ผมปวดฉี่นิ ก็ต้องไปเข้าห้องน้ำสิ”
“ต่อมา... ปล่อยของทับเท้าโบ๊ทตอนเก็บของเข้ารถ”
“อันนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ”
“แล้วเอ็งก็เมาเรื้อน โดนใครลากไปไหนต่อไหน”
“อันนี้ผมจำไม่ยักกะได้”
“ต่อจากนั้นก็... อ้วกในรถ”
“แต่ก็ไม่ได้เปื้อนรถนิ”
“และสุดท้าย ก็ยึดห้องนอนของโบ๊ทแถมล็อคห้องไล่โบ๊ทออกไปนอนข้างนอกอีก”
“เอ้า ก็คุณโบ๊ทบอกเองนะ ว่าไม่อยากร่วมเตียงกับคนเปื้อนอ้วก ก็แยกกันนอนแล้วไง”
“เฮ้ย แต่แบบนี้ คนที่ต้องออกไปนอนโซฟาก็คือเอ็งนะเว้ย ไอ้เปี๊ยก”
“ก็บอกแล้วไง ว่าผมไม่ชอบนอนโซฟา มันเมื่อย”
“( - * - )... สรุปคือจะปฏิเสธทุกข้อหา ว่างั้น?”
“อืม” ผมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องฟังให้จบประโยคเลยด้วยซ้ำ
“ฮืมมมมมมมม”
“อะๆ อย่าคิดจะใช้กำลังประทุษร้ายกันง่ายๆ นะคุณโบ๊ท” ผมเห็นท่าทางก็รู้แล้วละครับ ว่าอยากจะลงไม้ลงมือกับผมแล้ว รู้สึกได้อย่างชัดเจนจากวงแขนที่เกร็งแข็งขึ้น จนแถบจะรัดคอผมอยู่แล้ว
“ทำไม เอ็งจะแข็งข้อ ขัดขืนเหรอ”
“อยากรู้ปะละ”
“ว่ามาเลย ไอ้เปี๊ยก”
.
หึหึ... พรึ่บ!!!
“เฮ้ยยยยยยยย เชี่ย!”
.
ผมกระตุกปมผ้าเช็ดตัวจนหลุด ไอ้คุณโบ๊ทก็เลยต้องรีบละแขนจากไหล่ผมเพื่อไปคว้าผ้าเช็ดตัวไว้... อืม เป็นปฏิกริยาตอบสนองที่รวดเร็วจริงๆ ฮ่าๆๆๆ...
“ไอ้เปี๊ยก อย่าหนีนะ!!”
อย่าคิดว่าผมจะยืนรอดูผลงานของตัวเองนะครับ พอดีว่ายังรักในสวัสดิภาพของตัวเองอยู่ ก็เลยต้องรีบชิ่งเข้าห้องแล้วพุ่งเข้าห้องน้ำโดยทันที ได้ยินแต่เสียงโวยวายไล่หลังมา ก่อนจะตามด้วยเสียงเคาะประตูห้องน้ำอีกระลอกใหญ่และคำสั่งที่ผมไม่มีวันจะยอมเชื่อฟัง... “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”... ปัง ปัง ปัง
อืม ผมชักจะสงสัยแล้วละครับ ว่าไอ้คุณโบ๊ทเนี่ย ทำไมชอบทุบประตูจัง... อ้อ แล้วอีกอย่าง ทำไมชอบว่าผมขี้โวยวาย ทั้งๆ ที่ตัวเองอะ โวยวายบ่อยกว่าผมอีกนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ... YES!!!.
.
.
.
.
หนอยยยยย ไอ้เปี๊ยกนะไอ้เปี๊ยก มันแสบไหมละครับ ดูมันทำสิ กระตุกผ้าเช็ดตัวผมที่ไหนไม่กระตุก แต่ดันมากระตุกบนระเบียงห้องเนี่ยนะ!!!... เอิ่มมมม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกระตุกในห้องแล้วจะโอเคหรอกนะครับ... คนข้างล่างมีอยู่เป็นสิบชีวิต ถ้าผ้าผมหลุดจริงๆ นี่ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดอะไรเลยนะครับ... แต่ก็ยังดีที่ผมคว้าผ้าไว้ทัน เลยยังไม่เป็นภัยต่อสายตาประชาชีหัวหงอกหัวดำที่อยู่ข้างล่าง
ฮืมมมมม รอให้ออกจากห้องน้ำก่อนเถอะ จะโดนไม่ใช่น้อย!!!
.
ผมเดินไปที่ประตูระเบียงเพื่อปิดม่านโปร่งให้แสงพอเข้าได้ ก่อนจะไปนั่งรอชำระความไอ้เปี๊ยก... เอ๊ะ นั่นจอคอมผมไมได้ปิดนี่นา ปกติผมปิดเครื่อจะปิดจอด้วย แต่นี่ไฟจอยังติดอยู่... เมื่อคืนกลับมาก็ไม่ได้เปิดคอมซะด้วย แปลว่าต้องมีคนแอบเปิดคอมผมโดยพละการ... หึหึหึ จะเป็นใครไปได้ละครับ ก็มีแค่ไอ้เปี๊ยกนี่แหละ มันเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน... แต่ก็เอาเถอะ ผมไม่หวงของหรอกครับ แบ่งๆ กันใช้ได้อยู่แล้ว ขอแค่มันอย่าทำของผมพังก็พอ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมเปิดเช็คเฟซบุคสักหน่อยก็ดี...
.
.
.
เฮือก!!!!
เฮ้ยยยย เมื่อ 55 นาทีก่อน ผมยังนอนฝันบ้าๆ บอๆ อยู่บนโซฟาอยู่เลย แล้วผมก็ไม่ได้เล่นเฟซบุคในมือถือด้วย... แล้วใครโพส?
อืมมมมม ผมไม่ใช่อัจฉริยะมาจากไหนหรอกครับ แต่ของแบบนี้เดาง่ายๆ ได้เลยละครับว่ามันมีแค่คนเดียวแหละครับที่เข้าข่ายผู้ต้องสงสัย... และผมก็ค่อนข้างมั่นใจมากถึงมากที่สุดว่าต้องเป็นมันคนนี้คนเดียว... ไอ้เปี๊ยก!!!!
หนอย บังอาจแอบเปิดคอมคนอื่นเพื่อมาโพสข้อความทำร้ายกันได้ขนาดนี้... สาวๆ ผมที่ผมรับแอดมา สงสัยจะได้ลบผมออกจากเพื่อนกันเป็นแถวแน่ๆ ค่าเสียหายครั้งนี้ ไอ้เปี๊ยกต้องเป็นคนจ่าย!!! ไอ้แมวลอบกัด!!
.
.
.
ร่างสูงโพสอธิบายสั้นๆ ในช่องคอมเม้นท์ว่า “ขอโทษทีนะครับ พอดีเพื่อนมันแกล้งครับ” แต่มันไม่ได้ช่วยให้เพื่อนๆ ของเขาสนใจ status นี้น้อยลง กลับยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟ โหมให้คนยิ่งสนใจมากยิ่งขึ้น ยิ่งบอกว่าโดนแกล้ง คนยิ่งอยากรู้ บางคนเข้าใจแต่ก็แซวเล่นไปตามประสา เพื่อนบางคนก็ส่งข้อความถาม บ้างก็ถามไถ่มาในช่องแชท... บางคนก็ถามด้วยความเป็นห่วง เกรงว่าโบ๊ทจะโดนแฮ็คเฟซบุค... บางคนก็แซวเล่นตามน้ำ ซึ่งก็ตลกดีไปอีกแบบ... จำนวนคอมเม้นท์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากร้อยกว่าเป็นสองร้อยและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบจะสามร้อยอยู่เพียงอีกไม่กี่คอมเม้นท์ ผู้ต้องหาก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยท่อนบน มีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวจ้อยปกปิดท่อนล่างเท่านั้น ผ้าเช็ดตัวพาดคอโดยใช้ปลายด้านหนึ่งเช็ดผม... ฮัมเพลงในลำคอ ท่าทางอารมณ์ดี
.
.
.
“ออกมาแล้วเหรอ กำลังรออยู่เลย” โบ๊ทกล่าวเสียงเจ้าเล่ห์ ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาร่างเล็กที่หรี่ตามองเขาอย่างระแวง
“ไม่เล่นแล้วนะ ขี้เกียจวิ่ง”
“ต้าร์จะไม่เล่นก็แล้วแต่ดิ แต่โบ๊ทอยากเล่นนิ” น้ำเสียงโรคจิตได้ใจเหลือเกิน
“เป็นไรมากปะเนี่ย”
“ไม่เป็นไรสักหน่อย... มาเล่นกันไหม!! ฮ่าๆๆๆๆ” ร่างสูงกล่าวจบก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงตัวโกงรางวัลออสก้าร์ ก่อนจะรวบแขนร่างเล็กแล้วลากไปที่เตียง
“เฮ้ยยยย เล่นไรเนี่ย ไม่เอาแล้ว... โอ้ยยยย” กีต้าร์ร้องโอดโดยเมื่อโดนเหวี่ยงขึ้นเตียงซะบ๊อกเซอร์แทบหลุด
“ฮ่าๆๆๆๆ ขอคิดบัญชีแบบรวบยอด ทบต้นทบดอกเลยทีเดียวละกันนะ” โบ๊ทพูดด้วยน้ำเสียงโรคจิตสุดชีวิตหลังจากที่ขึ้นคร่อมร่างเล็กไว้ได้ มือหนารวบข้อมือบางทั้งสองข้างไว้แน่นก่อนจะกดลงบนเตียง
“เฮ้ยยยย ทำอะไรเนี่ย ไอ้ลิงโรคจิต” ร่างเล็กโวยวาย ดิ้นสุดกำลัง
“ก็ใช่อะดิ โบ๊ทโรคจิต ต้าร์บอกเองไม่ใช่เหรอ ในเฟซบุคอะ”
“อ้าว เปิดดูแล้วเหรอออออ ไหงเปิดดูไวจังอะ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ไม่รู้ละ รู้แค่ว่า... ตอนนี้ โบ๊ทเป็นโรคจิตหงุดเงี๊ยว”
“เฮ้ย คุณโบ๊ท เดี๋ยวผ้าเช็ดตัวหลุดนะ”
“ช่างมัน ฮ่าๆๆๆๆ”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ปล่อยนะ!!!”
.
.
.
สองร่างปลุกปล้ำ อิรุงตุงนังกันอยู่บนเตียงกว้าง มีเพียงเสียงโวยวายของร่างเล็กและเสียงหัวเราะอย่างสะใจของร่างสูง... ฟังดูโรคจิตแบบมืออาชีพจริงๆ
บนหน้าจอคอม โบ๊ทเปิดหน้าเฟซบุคไว้ เพื่อนๆ ยังคงมาคอมเม้นท์ status ของเขากันอย่างต่อเนื่อง โดยที่มี notification อันหนึ่งเด้งขึ้นมาเพื่อบอกว่า
“โปรดติดตามตอนต่อไป” ------------------------------------------------------------
[Bonus หลังไมค์]
กีต้าร์: คุณโบ๊ท นี่บัตรอะไรเหรอ
โบ๊ท: อ้อ ใบขับขี่อินเตอร์ฯ นะ
กีต้าร์: ใบขับขี่อินเตอร์???
โบ๊ท: ทำเป็นงง... ก็ใบขับขี่นานาชาติไง
กีต้าร์: ...โหหหหห เจ๋งอะ มีใบขับขี่แบบนี้ด้วยเหรอ
โบ๊ท: อืม มีดิ เอาไว้ขับรถเวลาไปต่างประเทศไง
กีต้าร์: เจ๋งเนอะ ดีจัง ทำใบเดียว ครั้งเดียว ใช้ได้ตั้งหลายชาติ
โบ๊ท: อื้ม
กีต้าร์: งั้นแบบนี้ ชาติหน้าคุณโบ๊ทก็ไม่ต้องทำใบขับขี่แล้วอะดิ
โบ๊ท: (//พรวดดดดดดด) ไอ้บ้า เขาหมายถึงขับได้หลายประเทศเว้ย ไม่ใช่หลายชาติแบบชาตินี้ชาติหน้า!!!
------------------------------------------------------------
Flapjack’s Corner:
ต้องกราบขออภัยแทบอกผู้อ่านที่ติดตามทุกท่านที่มาช้านะคร้าบบบบ งานมันรัดตัว (เปลี่ยนเป็นงูรัดแทนจะดีกว่าไหม ฮ่าๆ) ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเขียนจริงๆ จัง ถ้าบกพร่องยังไงก็ติชมมาได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ เจอกันตอนหน้าครับ สำหรับตอนนี้ ขออนุญาตไปนอนก่อนแหละ ตาจะปิดแล้วคร้าบบบบบ
ปล. ไอ้รูปเฟซบุคนั่นผมทำขึ้นนะครับ ไม่ต้องไปหากันหรอกครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนใช้ชื่อนี้รึเปล่า