กับดักพิศวาส
ตอนที่1
[/size]
“เธอจะรับงานนี้ไหม”
ขนมมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายที่บอกไม่ถูก เขางงกับพฤติกรรมผู้หญิงตรงหน้าว่าต้องการอะไร ทำแบบนี้ทำไม
“ผมเข้าใจว่าคุณหญิงต้องการอะไร”
คุณหญิงเด่นดวงเหยียดยิ้มหวานมองเด็กผู้ชายตรงหน้า เด็กผู้ชายที่ดูเรียบร้อยและแก่เรียน แว่นตาอันโตที่ทั้งเก่าไร้รสนิยม ไม่น่าใบอยู่บนในหน้าที่แสนน่ารัก
“ฉันต้องการให้เธอแยกลูกชายฉันออกจากเด็กผู้หญิงบ้านนอกคนนั้น”
ขนมมองผู้หญิงตรงหน้าที่มีหน้าตาสวยหวาน ดูเรียบร้อยดั่งผู้ดีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วทุกอย่างมันแค่เปลือกที่เคลือบไว้
“แต่คุณฟ้าเธอเป็นคนดีนะครับ ถึงแม้เธอจะ...”
“ฉันไม่ต้องการความคิดเห็นจากเธอ แต่นี่คืองานที่ฉันต้องการให้เธอทำ!” คุณหญิงเด่นดวงขึ้นเสียง จนทำให้ขนมสั่น
“แต่ยังไงคุณแดน ก็เป็นผู้ชาย ไม่มีวันจะหันมามองผู้ชายอย่างผมหรอกครับ” ขนมยังโต้แย้ง แม้ว่าเสียงเขาจะเริ่มสั่นแล้วก็ตาม
“นั้นไม่ใช่เรื่องของฉัน แต่เป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องทำให้ลูกชายของฉันเลิกยุ่งกับยัยนั้น”
“ทำไมคุณหญิงไม่ไปจ้างผู้หญิงสวยๆละครับ ผมว่าคงจะง่ายกว่าให้คนอย่างผมไปทำ”
“ถ้าฉันจ้างผู้หญิงแล้วพวกนั้นเกิดจะจับลูกฉันโดยปล่อยท้องขึ้นมา ฉันไม่โง่หรอก” คุณหญิงเด่นดวงพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดมองขนมไปมาแล้วพูดต่อ “ยังไงผู้ชายแบบเธอก็ไม่มีวันท้องหรอก จริงมั้ย”
ขนมรู้สึกหน้าชาไปหมด ใช่สินะ เขามันไม่มีวันท้องได้เหมือนผู้หญิงหรอก
“เธอหยุดพูดต่อฉันขี้เกียจฟัง ถ้าเธอรับงานฉันจะให้เงินเธอ5ล้านไปรักษายายที่ป่วยเป็นมะเร็ง”
ขนมนั่งนิ่งอย่างคนใช้ความคิด ทุกวันนี้เขาเหลือแค่ยายคนเดียวในชีวิต เขาไม่เคยเห็นหน้าพ่อตั้งแต่เกิด แม่ก็มาด่วนจากไปตั้งแต่เขา12ปี ถ้ายายจากไป เขาก็คงไม่เหลือใคร
“หรือเธออยากจะปล่อยให้ยายเธอตาย” คุณหญิงเด่นดวงกดเสียงต่ำด้วยน้ำเสียงกดดัน
ขนมเม้มปากก่อนจะเอ่ยปากพูด
“ผมตกลงครับ”
คุณหญิงเด่นดวงยิ้มอย่างพอใจ “ฉันจะเซ็นเช็คให้เธอก่อน3ล้าน เอาไปรักษายาซะ ละเมื่องานเสร็จเรียบร้อย ฉันจะเซ็นให้เธออีก2ล้าน”
คุณหญิงก้มลงเซ็นเช็คก่อนจะยื่นให้ผู้ชายตรงหน้า
“แต่อย่าลืมที่ตกลงกัน เมื่อลูกชายฉันเลิกกับนังนั้นเมื่อไหร่ แกต้องออกไปจากชีวิตลูกชายฉันทันที”
“ได้ครับ”
ขนมรับเช็คมาอย่างอ่อนน้อมก่อนยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นตัวเลขในเช็ค
“ห้ามเกินเดือนนึง ไม่งั้นเงินที่เหลืออดแน่”
ขนมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะรีบขอตัวออกจากห้องทันที
คุณหญิงมองเด็กขนมเดินออกไปก่อนจะเหยียดยิ้ม ที่เขาเลือกเด็กขนมก็เพราะเด็กคนนี้ทำงานพิเศษอยู่ร้านขนมที่ไว้ เป็นเด็กที่ดูหัวอ่อน ชักจูงง่าย และที่สำคัญหน้าตาเฉิ่มๆแบบนั้นไม่มีวันที่ลูกชายเขาจะไปชอบแน่ๆ
ขนมกลับมาที่บ้านขนาดกลางในหมู่บ้านเก่าๆ บ้านที่เขาอยู่กับยายและแม่มาตั้งแต่เกิด ยายเขาเป็นคุณครูที่เกษียณอายุออกมาอยู่บ้าน ถึงแม้ยายเขาจะมีเงินเก็บและเงินบำนาญ แต่นั้นก็ไม่พอที่จะรักษาโรคร้าย เขาอยากให้ยายหาย อยากพายายรักษาโรงพยาบาลดีดี
“ขนมกลับมาแล้วเหรอลูก” ยายแก้วเดินเข้ามากอดหลายชายคนเดียวของเขา
“กลับมาแล้วครับยาย”
“เป็นไงบ้าง ทำงานมาเหนื่อยมั้ย ยายบอกแล้วใช่มั้ยไม่ต้องไปทำหรอกงานพิเศษ ยายเลี้ยงเราไหว เงินเก็บยายเยอะแยะ” ยายแก้วพูดอย่างอารมณ์ดี
“ขนมก็อยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองบ้างไงครับ” ขนมยิ้มหวานตอบ
“ยายอยากให้เราตั้งใจเรียนมากกว่า อีกไม่กี่ปีก็จบแล้ว เลิกทำงานพิเศษเถอะลูก ขนมขอยายไปทำตอนปิดเทอมยายไม่ห้าม แต่พอเปิดเทอมแล้วก็ไม่ยอมหยุด”
“ขนมขออีกไม่นานนะครับยาย เมื่อจบเรื่องนี้ ขนมจะหยุด” ขนมพูดพร้อมเหม่อลอย เขาจะทำยังไงดีกับงานที่เพิ่งรับมา
“ขนมพูดถึงเรื่องไรลูก” ยายแก้วจับมือหลานชายสุดที่รักไว้พร้อมทอดสายตาอย่างเป็นห่วง หลานชายเขาเป็นเด็กร่าเริงมาตลอด จนวันที่แม่เสียไปก็ไม่มีวันไหนที่เด็กคนนี้จะร่าเริงจริงๆสักที เขามองออกว่าบางทีขนมก็แค่ร่าเริงเพื่อให้เขาไม่เป็นห่วงเท่านั้น
“ไม่มีอะไรหรอกครับยาย” ขนมยิ้มหวานก่อนจะกอดหญิงแก่ตรงหน้า “ขนมรักยายนะครับ”
ยายแก้วแปลกใจกับท่าทีอีกฝ่ายแต่ก็ลูบหัวขนมเบาๆ “ยายก็รักขนมครับ”
“พรุ่งนี้ขนมจะพายายไปหาหมอนะครับ”
“หื้ม หาหมอที่ไหนกันลูก เบาหวานที่ยายเป็นแค่กินยาที่โรงพยาบาลที่กินอยู่ทุกวันประคองอาการ”
“แต่ขนมอยากให้ยายหาย ยายไม่ได้เป็นเบาหวานเพราะกรรมพันธุ์ ยายมีสิทธิหายนะครับ”
“ไม่เอาหรอกลูก ไปโรงพยาบาลดีดี ค่าใช้จ่ายมันแพง”
ขนมผละจากอ้อมกอดของยายพร้อมมองหน้าอีกฝ่าย
“ไม่แพงหรอกครับ ขนมจะจัดการเอง”
ยายแก้วรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่พูดอะไร
“ก็ได้ ยายไปก็ได้”
“ครับ ขนมจะให้ยายตรวจสุขภาพชุดใหญ่เลย” ขนมพูดอย่างอารมณ์ดีกอดยายเต็มแรง
ยายแก้มยิ้มตอบหลายชายแต่ในใจเขากำลังครุ่นคิด หลานชายเขาเอาเงินมาจากไหน
ขนมยืนมองตัวเองหน้ากระจกในชุดนักศึกษาเรียบร้อย ก่อนจะถอดแว่นตาอันใหญ่ออกมองตัวเองในกระจก เขาหน้าตาเหมือนแม่ ผิวขาวผ่องละเอียดที่เพื่อนๆผู้หญิงอิจฉา รูปร่างที่ไม่ผอมจนเกินไปกำลังดี ถ้าเขาถอดแว่นและตัดผมที่ยุ่งเหยิงดีดี เขาก็คงหน้าตาดีไม่แพ้คนอื่นขนมกระตุกยิ้มก่อนจะใส่แว่นตามเดิม ก่อนจะหยิบกระเป๋าออกไปมหาวิทยาลัย
ขนมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่3 มหาวิทยาลัยชื่อย่านชานเมือง เขาเรียนอยู่คณะบัญชี คณะที่เต็มไปด้วยผู้หญิงสวยและคนหน้าตาดี เขาแทบจะเป็นปลายแถวด้วยซ้ำ เขาเรียนคณะเดียวกับฟ้า ผู้หญิงที่คุณหญิงเด่นดวงให้จัดการกีดกันออกจากชีวิตลูกชาย ฟ้าเป็นดาวคณะ หน้าตาสวย จิตใจดี มีน้ำใจ ทุกคนรู้เรื่องนี้ แม้กระทั่งเขาที่ไม่ค่อยสนิท อีกฝ่ายยังหยิบยื่นน้ำใจมาให้เสมอ
“ขนม ทางนี้ๆ” เป้ยเพื่อนสนิทเขาเป็นฝ่ายโบกมือให้
“มากันนานแล้วเหรอเป้ย”
“ไม่นานหรอก กินข้าวมารึยัง” เป้ยถามเพื่อนสนิทของเขาขึ้น
“กินมาแล้ว หมิวละมายัง”
“ไอ้หมิวมาสายอีกแน่ๆ หออยู่หน้ามอแค่เนี้ยยังมาสายทุกวัน”
ขนมหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเพื่อน หมิวเป็นผู้หญิงสวย เกือบได้เป็นดาวคณะถ้าเจ้าตัวไม่ยืนกรานที่จะไม่เข้าไปคัดตัว แต่ความสวยก็ยังเป็นทีเลื่องลือ เป็นที่รู้จักของหลายคน ส่วนเป้ยเป็นผู้หญิงร่างอวบ ท่าทางใจดีและมีมุกฮาๆเสมอ เป้ยคนที่มีความเป็นผู้ใหญู่งจนเพื่อนๆยกให้เป็นที่ปรึกษา
“ขนมดูนั้นดิ หล่อเนอะพวกพี่แดน” เป้ยสะกิดให้เขาดูกลุ่มผู้ชายหน้าตาดีที่เดินมากันสี่คน หนึ่งในนั้นมีเป้าหมายของเขาด้วย
“ใช่” ขนมตอบไปแค่นั้น แต่สมองกำลังคิดอะไรหลายๆอย่าง
“อิจฉายัยฟ้าเนอะ พี่แดนดูรักมาก มาหาบ๊อยบ่อย แต่ก็ว่าไม่ได้ คู่นี้เหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก”
ขนมพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันไปหาเป้ยและถามบางอย่าง
“เป้ยรู้ปะว่าบ้านฟ้าทำงานอะไร” เขาเลือกที่จะถามเป้ยเพราะเป้ยเป็นคนกว้างขวาง หรือง่ายๆเรียกว่ารู้เรื่องชาวบ้านทุกอย่าง
“เหมือนพ่อแม่ฟ้าเป็นครูอยู่ต่างหวัดนะ”
ขนมพยักหน้า คงเพราะบ้านฟ้าไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนครอบครัวคุณหญิงสินะ อีกฝ่ายถึงกีดกัน
“เข้าเรียนกันเถอะขนม”
เป้ยพูดเรียกสติขนมที่กำลังเหม่อลอย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าห้องเรียน
ขนมเหลือบมอง แดนไท ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลา ตาคม จมูกโด่งสวย รับกับริมฝีปากที่บางเฉียบ ใบหน้าที่ดูดีจนใครๆก็เข้าหา รูปร่างสูง กำยำ พร้อมกับผิวแทนเพราะออกกำลังกายทำให้อีกฝ่ายดูฮอต และยิ่งใครๆที่รู้ถึงชาติตระกูลของอีกฝ่ายที่มีแม่เป็นผู้ดีเก่า และพ่อเป็นเจ้าของบริษัทชื่อดัง คนยิ่งสนใจอีกฝ่ายมากขึ้น
“ฟ้านี่ก็เก่งเนอะ พี่แดนขึ้นชื่อว่าเสือผู้หญิง แต่ยัยฟ้าทำเอาเสือสิ้นลายได้ นี่ๆได้ข่าวว่ารักจริงหวังแต่งด้วย พาไปแนะนำที่บ้านแล้วด้วย”
เข้ามาในห้องแล้วเป้ยก็ยังพูดถึงทั้งคู่ไม่หยุด ไม่ใช่แค่พวกเขาหรอกที่สนใจ แต่คนทั้งห้องก็สนใจ เพราะคู่ยืนคุยกันเด่นอยู่
“ละที่บ้านฝ่ายชายว่าไงบ้าง” ขนมถามขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีกรณีแม่ผัวลูกสะใภ้อะไรนิ ดูเข้ากันได้นะ”
ขนมกระตุกยิ้มก่อนหันหน้าเข้าหาเป้ย
“เป้ยแน่ใจได้ไง”
“ฉันเสือกมาแค่นี้ไง ฮ่าๆ”
“ฮ่าๆ” ทั้งสองคนหัวเราะกันเบาๆ
“เลิกเรียนแล้วไปตัดผมเป็นเพื่อเราหน่อยดิ” ขนมพูดขึ้นทำเอาเพื่อนรักทั้งสองทำหน้าตกใจ
“อะไรนะ แกจะตัดผมหรอขนม” หมิวตาโตอย่างตกใจ
“อย่าเวอร์นะหมิว แค่ตัดผมเอง” ขนมหัวเราะเบาๆกับท่าทีของเพื่อน
“ก็ดีละแก ฉันก็เบื่อผมยาวรุงรังของแกมาก” เป้ยจับผมที่ระต้นคอของขนมไปมา
“แล้วแกจะตัดทรงไรอีกละ ไม่เอารองทรงนักเรียนที่แกชอบตัดผมเพราะจะอยู่ได้นานๆนะ” หมิวพูดดักคอเพื่อน ขนมชอบทำอะไรเฉิ่มๆทั้งๆที่ตัวเองก็หน้าตาดี แถมผิวขาวออร่าซะขนาดนี้
“ไม่ละ รอบนี้เราจะซอยให้เขารูปเฉยๆ”
“กรี๊ดดด อะไรเขาสิงแกเนี้ย อยู่ดีดีก็อยากออกจากกะลา” เป้ยอดที่จะแซวไม่ได้
“เป้ยก็ว่าไป เราแค่อยากดูดีบ้าง”
ขนมพูดพลางมองไปยังฟ้าที่นั่งอีกมุมของห้องเรียน อีกฝ่ายกำลังยิ้มหัวเราะกับเพื่อนของตนอยู่
“ไปๆ เดี๋ยวฉันจะพาแกไปเอง ร้านนี้แพงหน่อยแต่ตัดแกออกมาเริ่ดแน่นอน” หมิวออกตัว เขากำลังตื่นเต้นกับเพื่อนรักทีคบกันมาตั้งแต่ปี1 แต่เคยทำตัวเฉิ่มอยู่ดีดีอยากจะมาเปลี่ยนโฉม
มาถึงร้านทำผมชื่อดังในกลางห้างดังเขาลังเลนิดหน่อยที่จะเข้า แต่หมิวคะยั้นคะยอให้เข้าจนได้ เมื่อมาถึงร้าน เขาไม่ทันจะสั่งอะไร หมิวก็จัดแจงบอกช่างอย่างตามใจ เขาก็เบื่อจะพูดเลยปล่อยเลยตามเลย
“แกน่ารักมากเลยขนม กรี๊ดดดด” เป้ยมองขนมในกระจกพร้อมจับหน้าเพื่อนอย่างตื่นเต้น
“น่ารักมากเลยขนม” หมิวพูดขึ้นคนทำเอาช่างที่ยืนข้างๆยืดอกอย่างภูมิใจ
ขนมมองตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกแปลกตาไม่น้อย ผมที่ยาวระต้นคอที่เคยยุ่งเหยิงถูกตัดให้เข้าทรง รับกับใบหน้ารูปไข่ เผยใบหน้าขาวน่ารักมากขึ้น และช่างยังทำผมสีน้ำตาลอ่อน ทำให้ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วกลับขาวยิ่งขึ้นและดูทันสมัย
“เอ่อ แปลกๆดีอะ”
“แปลกในทางที่ดีนะสิแก” เป้ยสวนขึ้นทันที
ทั้งสามคนออกจากร้านทำผมเดินกันมาเรื่อยๆแต่กลับเป็นฝ่ายหมิวที่หยุดเดินก่อนจะจ้องหน้าขนม
“ฉันว่ายังน่ารักไม่สุด” หมิวพูดก่อนจะจ้องหน้าเพื่อนเขม็ง
“อะไรของแกอีกหมิว จะให้เราทำอะไรอีก” ขนมหน้างอเมื่อเห็นว่าเพื่อนเริ่มสนุกกันเกินไปแล้ว
“ไม่ต้องมาทำหน้างอเลยขนม นี่ไง” หมิวพูดจบพร้อมดึงแว่นตาอันโตที่เก่าออกจากหน้าขนม
“เห้ย !!” ขนมพยายามห้ามแต่ก็สู้แรงของสองสาวไม่ได้
“ไม่ใส่แว่นแล้วน่ารักมากกกกกก” เป้ยพูดอย่างออกรส
“ใส่คอนแท็กไหมขนม” หมิวเสนอความคิด
“ไม่ เราอยากใส่แว่น” ขนมหน้านิ่งจนเพื่อนทั้งสองคนรู้สึกแปลกใจ
ขนมดึงแว่นคืนจากมือเพื่อนพร้อมเม้มปาก เขาพยายามยิ้มให้เพื่อนทั้งสองเหมือนเดิม
“งั้นเปลี่ยนแว่นใหม่ เอาที่ดูดีกว่านี้” หมิวเสนออีกความคิด
ขนมถอนหายใจก่อนจะยิ้มตอบรับ “ก็ได้”
“ขนมดูเปลี่ยนไปนะลูก” ยายแก้วพูดขึ้นหลังจากเขาสังเกตหลานชายตั้งแต่กลับมา
“เปลี่ยนไปยังไงครับ”
“ดูดีขึ้น” ยายแก้วพูดพร้อมมองหลานชายด้วยสายตาอ่อนโยน
“ฮ่าๆ” ขนมเกาท้ายทอยแก้เขิน
“ดีแล้วละลูก ยายอยากเห็นขนมสดใสแบบนี้มานานแล้ว” ยายแก้วยิ้มให้หลานชาย เวลาอาจจะช่วยให้หล่นชายเขากลับมาสดใสดังเดิม
“ขนม น่ารักขึ้นนะเนี้ย ไปทำอะไรมา”
ขนมสะดุ้งขึ้น เมื่อหันไปตามเสียงก็เห็นฟ้าเดินมากับพี่แดน เขายืนซื้อน้ำปั่นที่ซุ้มน้ำก่อนจะเข้าเรียนในตอนเช้า
“เอ่อ แค่ตัดผมเปลี่ยนแว่นนะฟ้า” ขนมยิ้มรับแก้เขิน ก่อนจะมองผู้ชายข้างๆฟ้าที่จ้องมาที่เขา
“ดูดีขึ้นเยอะเลย ฟ้าแทบจำไม่ได้ ยังพูดกับพี่แดนอยู่เลยจะทักดีมั้ย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกฟ้า เราขอตัวนะ”
ขนมพูดจบ เขารับน้ำปั่นก่อนจะหันปรายตามองแดนไทที่ยืนข้างๆฟ้า ฟ้าที่กำลังสั่งน้ำคงไม่เห็นว่าเขากำลังยิ้มเล็กน้อยให้กับแดนไท ก่อนจะที่จะเดินดูดน้ำขึ้นเรียนไป
__________________________________________________________________________
ฝากผลงานเรื่องใหม่ด้วยนะครับ มีอะไรติชมได้นะครับ