ー 3rd Match ♥
☁
ทันทีที่บอลนัดสำคัญเริ่ม คนข้างๆ ก็เข้าสู่ร่างแฟนบอลประหนึ่งว่าตัวเองกำลังอยู่ในสนามเชียร์จริงๆ กิหยิบพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนรสโปรดขึ้นมากัดกินไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เขาไม่ได้เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษเพราะดูบอลไม่เป็นและไม่ได้เป็นแฟนของฝั่งไหนทั้งนั้น เขาจึงนั่งมองหน้าจอโทรทัศน์สลับกับจอโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งในนาทีที่ 17 ของการแข่งขัน คนตัวขาวสะดุ้งตกใจอย่างแรงถึงขนาดทำโทรศัพท์หล่นลงตักเมื่อเพื่อนสนิทตะโกนดังลั่นห้อง
“เชี่ย!! โหม่งเข้าประตูตัวเองก็ได้เหรอวะ!” แต้มแรกตกเป็นของฝรั่งเศสที่ได้คะแนนมาจากฝั่งตรงข้ามอย่างง่ายดายเพราะอีกฝ่ายดันโหม่งเข้าประตูตัวเองเสียอย่างนั้น
“เบาๆ” กิพูดเอ็ดเมื่อแฟนบอลข้างๆ ร้องตะโกนเสียงดัง ฮอนไม่ได้ตอบกลับอะไรเพราะสติยังคงจดจ่ออยู่บนหน้าจอโทรทัศน์
“เอ้อออออ! ได้อยู่ มาสวย”คะแนนขึ้นนำเสมอเมื่อแต้มสองเป็นของโครเอเชียที่โหม่งส่งลูกต่อบอลกันเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้จังหวะเตะเข้าประตูในที่สุด กิปรายตามองคนที่กำมือยกขึ้นทำท่าเยสๆ ขณะพูดอยู่คนเดียวอย่างระอาใจ
“กูบอกว่าเบาๆ” ฮอนพยักหน้าตอบงึกงักขณะยกเบียร์ขึ้นดื่ม
“ดีโว้ย!! สองหนึ่ง!” แต้มที่สามมาจากลูกโทษของทางฝรั่งเศส ฮอนยืนขึ้นชูกระป๋องเบียร์ในมือ ร้องเฮดีใจยกใหญ่
กิมองคนที่เขากำลังจะด่าให้เบาเสียงลงเป็นครั้งที่สามแล้วถอนหายใจ
“เบาๆ”
“โทษๆ มันดีใจจนลืมตัวไง”
“นี่มึงเชียร์ทีมไหนกันแน่เนี่ย” ชายหนุ่มสงสัยเพราะแฟนบอลคนนี้ดูจะเฮมันทุกครั้งที่แต้มขึ้นโดยไม่สนใจว่าทีมไหนทำคะแนนกันแน่
“กูเชียร์ทีมที่ชนะไง อะไรก็ได้อะ ลงไว้ทั้งสองทีม”
“อีกแล้วเหรอ บอกว่าให้เลิกได้แล้วไง” กิช้อนสายตามองอีกคนเขม็ง
“เอาน่า สี่ปีครั้ง”
“อย่าให้กูรู้ว่าแมตช์แข่งอื่นมึงก็ลงนะ”
“แหะๆ ดูต่อกันดีกว่าเนอะ” มนุษย์แฟนบอลบอกปัดเปลี่ยนเรื่องเพื่อหนีความผิด
จวบจนการแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงกลางเกมแข่งขัน คะแนนตอนนี้ฝรั่งเศสถือว่าทิ้งห่างพอสมควรเพราะได้มา 4 ประตูต่อ 1 เรียบร้อยแล้ว แฟนๆ ที่เชียร์ฝรั่งเศสจึงพอจะพักหายใจหายคอได้บ้าง
“เชี่ย! ยอริสมึงทำอะไรเนี่ย โว้ยยยย!” เสียงตะโกนดังลั่นกว่าทุกครั้ง เมื่อผู้รักษาประตูฝั่งฝรั่งเศสทำพลาด ปัดลูกเข้าประตูตัวเองเป็นเหตุให้โครเอเชียมีแต้มเพิ่มขึ้นมาจาก 1 เป็น 2 ตามไล่หลังมาทันที
หนุ่มแฟนบอลขยี้หัวตัวเองจนผมยุ่ง ต่างฝ่ายต่างผิดพลาดกันเป็นว่าเล่น บอกทีว่านี่นัดชิงแชมป์โลก!
กิถอนหายใจพร้อมมองอีกฝ่ายขยี้หัวตัวเองจนอยากเข้าไปช่วยดึงแรงๆ เขาเหนื่อยจะเตือนให้อีกฝ่ายเบาเสียงแล้ว
----------
จบเกมด้วยคะแนน 4 ประตูต่อ 2 ฝรั่งเศสหอบถ้วยแชมป์กลับไปนอนกอด มนุษย์แฟนบอลเฮรอบห้องยกใหญ่ก่อนจะคว้ารีโมทปิดโทรทัศน์
“กิ จริงๆ แล้วกูลงฝรั่งเศสไปมากกว่านิดหน่อย” ร่างสูงยืนค้ำเอวอยู่ข้างหน้าคนตัวขาว พร้อมรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนหน้า
“แล้ว?”
“ฉลองแชมป์กัน” น้ำเสียงทะเล้นแต่การกระทำช่างอุกอาจ เพราะพอพูดจบเขาก็ผลักคนที่นั่งอยู่ให้นอนลงไปแล้วขึ้นคร่อมทันที
“ฮอน มึงไม่ได้พูดแบบนี้”
“หือ พูดอะไร”
“กูยังไม่ได้ยอมตกลงพนันกับมึงนะ!” กิร้องโวยวายเสียงดังเมื่อโดนตรึงร่างไว้กับโซฟาด้วยมือของคนขี้โกง
“เรามาทำตามข้อเสนอของแต่ละฝ่ายดีไหม แบบกูเก็บของกลับบ้าน ส่วนมึงก็…” คนฉลาดแกมโกงใช้ปลายนิ้วมือเกลี่ยผมที่ปรกตาออกจากหน้าผากให้อีกฝ่าย
“ไม่เอาไอ้เหี้ยฮอน ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”
“หรือว่าจริงๆ แล้วมึงอยากให้กูอยู่กับมึงไปนานๆ ใช่มะ” ฮอนพูดติดตลก
“ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”
“ถึงโครเอเชียจะแพ้แต่ก็ยังทำไปได้ตั้งสองประตู คืนนี้พี่ฮอนขอสักประตูไม่ได้หรอคะหนูกิ”
“มึงจะไม่หยุดใช่ไหมเนี่ย!” กิตวาดด้วยใบหน้างอง้ำ
ชายหนุ่มจับข้อมืออีกฝ่ายตรึงไว้ไม่ให้ขยับขณะมองคนหน้าบูดบึ้งพร้อมหัวเราะในลำคอ “งั้นขอแค่จูบได้ไหมคะ”
กิมองคนเจ้าเล่ห์ด้วยสายตาเคลือบแคลง เขาชั่งใจว่าจะยอมเสี่ยงจูบไปให้เสร็จๆ หรือดิ้นขัดขืนจนหลุดจากการจับกุมไปให้ได้ แต่เมื่อชั่งน้ำหนักจากตัวเลือกทั้งสองฝ่าย แรงเขาสู้มันไม่ได้แน่ๆ จึงตัดสินใจผงกตัวเองขึ้นจูบริมฝีปากอีกฝ่ายไปหนึ่งที
“จูบแล้วไง ปล่อยได้แล้ว”
“แบบนี้ไม่เรียกจูบนะคะ อะไรมาเฉียดปากเฉยๆ ก็ไม่รู้ สอนไปหลายทีแล้วทำไมไม่จำคะหนูกิ” ผู้ที่ช่ำชองการจูบก้มลงประกบริมฝีปากตัวเองกับคนใต้ร่างทันทีที่พูดจบ
“อื้อ!” ยังไม่ทันได้โต้เถียงอะไรปากก็โดนปิดก่อนเสียแล้ว ลิ้นร้อนของคนบนร่างค่อยๆ ไล้เลียริมฝีปากอิ่มของเขาไปมาเพราะเจ้าตัวเม้มปากแน่นไม่ยอมให้รุกล้ำเข้าไปข้างใน จนกระทั่งรู้สึกถึงแรงฝ่ามือที่กำลังบีบเคล้นบริเวณสะโพกเบาๆ ก่อนจะไล่ลงไปเรื่อยๆ จนถึงบั้นท้ายของเขา
กิตกใจจนเผลอคลายริมฝีปากของตนเอง ปล่อยให้อีกฝ่ายใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามาข้างในจนได้ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันไปมาอยู่นานจนผู้บุกรุกยอมล่าถอยออกไปก่อน
“แบบนี้ถึงจะเรียกว่าจูบนะคะหนูกิ” ร่างสูงยกยิ้มเจ้าเล่ห์
เสื้อผ้าเสียดสีกันยามที่คนตัวใหญ่กว่าขยับร่างกายเคลื่อนไหวไปมา ฝ่ามือคลำสะเปะสะปะปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างชายที่ส่งเสียงครางกระเส่าอยู่ข้างใต้ พร้อมกับบดจูบริมฝีปากของตนเองลงบนริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายเหมือนคนไม่รู้จักพอ
…ใช่ เขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนตะกละ โดยเฉพาะยามใดที่เจออาหารรสเลิศอยู่ตรงหน้าแบบนี้
ปลายนิ้วสากค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของคนตัวขาวในอ้อมกอดไปทีละเม็ด ขณะเดียวกันก็ใช้ปากพรมจูบลงบนหน้าอีกฝ่ายไปด้วย
“ไหนว่าแค่จูบไง” กิหอบหายใจแรงเพราะรสจูบอันดุเดือด เอ่ยทักขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุดตามข้อตกลง
“ก็จูบไงคะ”
“หลายครั้งเกินไปแล้ว”
“ไม่ได้บอกว่าครั้งเดียวนี่” กิมองเหวอ …โดนคนหัวหมาหลอกอีกแล้ว!
ฮอนรับรู้ได้ว่าตนเองกำลังโดนด่าในใจอยู่แน่นอน แต่เลือกที่จะไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดนั่นเพราะสติของเขากำลังจดจ่อกับการตีตราหนูกิ แสดงความเป็นเจ้าของในทุกพื้นที่อยู่ในตอนนี้
“หนูกิน่ารัก”
“จุ๊บ หนูกิน่ารัก จุ๊บ หนูกิน่ารัก” เสียงจุ๊บเบาๆ บริเวณหน้าผากและแก้ม ทำคนโดนแกล้งให้เขินเสียวท้องวูบขึ้นมาอย่างประหลาด
“จุ๊บ หนูกิน่ารัก” ครั้งนี้เป็นสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก เสียง จุ๊บ ที่ได้ยินกี่ครั้งก็ยังไม่ชินทำให้เหล่าผีเสื้อเริ่มกระพือปีกบินวนในช่องท้องของเขาอีกครั้ง กิขยุ้มมือกับหนังโซฟาเมื่อตัวเองกำลังสยิวกับสัมผัสอีกฝ่าย
จวบจนกระทั่งปลายนิ้วมือข้างซ้ายแกะเม็ดกระดุมออกจนหมด ฮอนแหวกสาบเสื้อและยกตัวอีกฝ่ายขึ้นเปลื้องเสื้อเชิ้ตทิ้งไว้ข้างโซฟา
แป้งโกกิสีขาวที่ใช้ห่อหุ้มร่างแท้จริงถูกสลัด ภาพที่เขาเห็นตอนนี้มีเพียงแป้งโกกิที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปทั้งตัวเท่านั้น
“หนูกิแดงไปทั้งตัวเหมือนครั้งนั้นเลยนะคะ” ภาพในจินตนาการถูกรีรันขึ้นมาในหัวยามที่โดนพูดถึง ใครว่าครั้งต่อมาจะเขินน้อยลง ไม่จริงเลย
“อย่าพูดมากได้ปะ” สัมผัสชื้นบริเวณยอดอกทำให้เจ้าของห้องตัวเล็กต้องลืมตาตื่นผงกหัวขึ้นมาดู อีกฝ่ายกำลังประทับจูบลงบนยอดอกแข็งชูชันหลายๆ ที จนเขาต้องกำโซฟาแน่นเพราะความเสียวซ่าน
ริมฝีปากหนาค่อยๆ เลื่อนไล้ลงต่ำไปกว่าบริเวณหน้าท้องเนียน คนบนร่างถอยลงไปจูบบริเวณกลางลำตัวที่ถูกปลุกปั่นจนแข็งชันด้วยแรงอารมณ์อยู่ใต้ชั้นในสีดำ
“อะ ไอ้เหี้ยฮอน!”
“ชู่ว เบาๆ สิคะ”
คนตัวขาวกัดริมผีปากล่างของตัวเองแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบนส่วนอ่อนไหวที่สุดในร่างกาย ฮอนหยัดตัวขึ้นถูไถความเป็นชายของตนเองลงบนหน้าท้องของคนใต้ร่างไปมา เขาแหงนคอขึ้นทำหน้าเสียวซ่าน ครางแผ่วในลำคอ
“อืม… หนูกิ”
“มะ มึงจะพอได้รึยัง” กิพูดเสียงกระท่อนกระแท่น
“หนูกิทนได้หรอคะ”
“…”
“ถ้าทนได้ กูก็จะพอนะกิ”
“…”
“หืม ว่าไง”
“…”
“ไม่ตอบกูจะถือว่ามึงทนไม่ได้นะ” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่หลับตาแน่น ริมฝีปากเจ่อแดงเพราะแรงบดจูบ เขาพยายามทำเป็นใจสู้ทั้งที่แท้จริงแล้วอ้าปากปฏิเสธไม่ออก
…หรือจริงๆ แล้วเขาไม่อยากปฏิเสธมันกันแน่
เสียงถอดเสื้อผ้าของคนบนร่างดึงสติให้กลับมาในที่สุด เขารู้ว่าตัวเองถอยกลับมาที่เดิมไม่ได้แล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่หลวมตัวยินยอมรับข้อเสนอสัปดนนั่นไป
คนถูกรังแกค่อยๆ ลืมตามองอีกฝ่ายที่กำลังคลอเคลียบริเวณหน้าอกขณะใช้ฝ่ามือร้อนลูบไล้บริเวณต้นขาเนียนไปด้วย สายตาหื่นกระหายจ้องมองรอยกุหลาบสีจางที่เคยทำไว้ ก้มลงแลบเลียและทำรอยประทับใหม่ให้มีสีสันกลับมาดังเดิม
ฝ่ามืออยู่ไม่สุขค่อยๆ ไล้ไปตามเรียวขา ยกมือปัดผ่านจุดอ่อนไหวอยู่หลายทีแต่จงใจไม่จับต้อง ปล่อยให้คนโดนแกล้งครางฮืออยู่ในลำคอด้วยความทรมาน ตากลมรื้นไปด้วยหยดน้ำสีใส จ้องเขม็งมาทางคนที่ตั้งอกตั้งใจรังแกคนไม่มีทางสู้แบบเขา ทำให้ทรมานแล้วยังจะแกล้งกันอีก บอกเลยว่าถ้าเขารอดไปได้มันไม่ตายดี!
พอทำใจกล้าเคลื่อนมือตัวเองจะไปจับให้คลายความทรมาน มันก็ปัดมือเขาไม่ให้แตะพร้อมหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
“หนูกิจะทำอะไรคะ”
“ไอ้เหี้ยฮอน”
“ชู่ว บอกแล้วว่าเวลาแบบนี้ไม่พูดไอ้เหี้ยค่ะ เรียกฮอนเฉยๆ ก็พอแล้ว”
“มึงแกล้งกู”
“ก็ใครให้หนูกิน่ารักน่าแกล้งแบบนี้ล่ะคะ” สายตาจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างอาฆาตแค้นแต่ทำไมถึงได้ดูน่ารักเวลาที่เห็นเจ้าตัวทำพร้อมกับริมฝีปากบูดบึ้งแบบนั้น
“ไม่ช่วยก็อย่ามาขัดกูไอ้เหี้ย”
“อยากให้ช่วยอะไร ไหนหนูกิลองบอกพี่ฮอนสิคะ” กิมองคนแกมโกงอย่างเคียดแค้น ให้ตายเขาก็ไม่พูดให้มันได้ใจหรอก
คนขี้แกล้งนึกสนุก ใช้ฝ่ามือที่ควรช่วยอีกฝ่ายมาช่วยตัวเองแทน มือซ้ายที่ไม่ได้จับอะไรก็คอยล็อกแขนของอีกคนที่หมายจะทุบตีเขาให้เลิกแกล้งเสียที
“อืม… หนูกิ” เสียงครางใกล้บริเวณใบหูเรียกสีเลือดฝาดขึ้นใบหน้าคนฟังอีกครั้ง
“เลิกแกล้งกูสักที”
“จะเลิกแล้วค่ะ” ปลายลิ้นชื้นแลบเลียใบหูขาวส่งท้ายการแกล้งนี้เพื่อกระตุ้นเสียงกระเส่าของอีกคน และมันก็ได้ผล เมื่อคนใต้ร่างครางเสียงแผ่วออกมาทันที
ฮอนอดทนรอไม่ไหวอีกต่อไป เขาควานหาซองถุงยางที่ตัวเองซ่อนไว้ตามซอกหลืบโซฟาออกมาสวมใส่ให้ตัวเอง ไม่ได้สนใจท่าทีตื่นตะลึงของเจ้าของห้องแต่อย่างใด
กิเบิกตากว้าง ทำไมถึงมีซอกถุงยางตามซอกโซฟาในห้องของเขาได้!
“เผื่อเกิดแอคซิเดนท์แบบตอนนี้ไงคะ เราต้องป้องกันไว้ก่อนนะ” ชายหนุ่มพูดแก้ตัวเหมือนรู้ว่าอีกคนเกิดคำถามอะไรขึ้นมาในใจ ทั้งที่แท้จริงแล้วเขาเอามาซ่อนไว้เพราะหวังว่าสักครั้งหนึ่งจะได้รังแกอีกฝ่ายบนโซฟาตัวนี้ต่างหาก
แล้ววันที่เขารอคอยก็มาถึง ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้เพราะเพิ่งเอามาซ่อนไว้เมื่อวานนี่เอง!
“อ๊ะ!” ยังไม่ทันได้เอ่ยปากด่า ส่วนอ่อนไหวชั้นล่างก็ถูกนิ้วอีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาเบิกทาง ช่องทางคับแคบยังคงรัดแน่นเหมือนครั้งแรกไม่มีผิด ทั้งสองฝ่ายต่างครวญครางตามห้วงอารมณ์ที่ค่อยๆ ทะยานสูง
“จะเอาจริงแล้วนะคะ” คนตัวเล็กไม่แน่ใจว่าบริบทคำว่า ‘เอา’ ของอีกฝ่ายเป็นแบบไหน แต่ตอนนี้ความหมายในหัวของเขามันช่างฟังดูหยาบโลนเสียเหลือเกิน
ความเป็นชายของอีกคนค่อยๆ ดุนดันเข้ามาอย่างเชื่องช้าก่อนจะแช่นิ่งเมื่อถูกรัดรึงไว้ทั้งหมด
หนูแป้งโกกิขึ้นสีระเรื่อมากกว่าเก่าเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบนาบไปเรื่อยๆ เป็นจังหวะ
“หนูกิคะ”
“…”
“ตอนนี้หนูกิน่ารักมากเลยค่ะ”
“อึก…กูบอก ฮื่อ ให้เลิกพูดแบบนี้ด้วย” เสียงสั่นเครือเพราะแรงกระแทกทำให้เขาพูดไม่เป็นจังหวะ
“หนูกิไม่ชอบแบบ Sweat talk หรอคะ งั้นชอบแบบไหน Dirty talk?”
คนถูกถามส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบแต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าสั่นหัวเพราะแรงกระแทกข้างล่างต่างหาก
“ชอบแบบเดอร์ตี้หน่อย ทำไมไม่บอกแต่แรกคะเมีย” สรรพนามเปลี่ยน ความหมายยิ่งลึกซึ้งไปมากกว่าเดิม กิส่ายหัวเมื่อคำนั้นฟังแล้วช่างขัดหู เขาจ้องตาอีกฝ่ายเขม็งให้รู้ว่าไม่ชอบ แม้จะรู้ว่าใบหน้าตัวเองตอนนี้คงไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก
“แล้วเมียชอบแบบ Do dirty บ้างรึเปล่าหืม” ฮอนไม่รอฟังคำตอบที่ถาม เขาค่อยๆ ไต่จังหวะจากเนิบช้าไปรัวเร็วอย่างเอาแต่ใจ
“ฮื่อออ” เสียงครวญครางในลำคอดังถี่ขึ้นเมื่อจังหวะขยับด้านล่างกระแทกกระทั้นเข้ามาเหมือนคนอดอยาก
“ว่าไงคะ เมียชอบแบบนี้รึเปล่า” ไร้เสียงตอบรับจากอีกคน ทว่าเสียงสูดปากด้วยความกระเส่ายังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ในห้องนั่งเล่นสีขาว
“เมียชอบที่ผัวทำแรงๆ แบบนี้ไหมคะ” กิส่ายหัวรัวเร็วเป็นคำตอบ
“โอ้ยกิ มึงรัดกูแน่นเกินไปแล้ว” ฮอนร้องเสียงดังเพราะเสียวจนจะขาดใจ เมื่อดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพูดมันไปกระตุ้นต่อมความรู้สึกของคนใต้ร่างเข้า
เขากลั้นใจหยุดขยับบั้นเอว ปล่อยให้ช่องทางคับแคบตอดรัดความเป็นชายถี่ยิบ
“ไหนเมียบอกไม่ชอบไงคะ ทำไมรัดผัวแน่นแบบนี้ฮึ” ร่างสูงก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูอีกฝ่ายเสียงพร่า ใช้สองมือกกกอดอีกคนมาไว้ในอ้อมอกก่อนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
“ฮื่อออ มึงจะทำอะไร” ทันทีที่ฮอนเปลี่ยนให้คนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตัก ส่วนแข็งขืนที่ยังคงฝังอยู่ข้างในร่างกายก็ขยับเข้ามาลึกมากกว่าเดิมจนเขาต้องครางฮือในลำคอ
“ทำเมีย ไม่ใช่สิ ให้เมียทำตามที่ตกลงไงคะ”
“กูบอกว่ากูไม่ได้ตกลงอะไรกับมึงไว้นะไอ้เหี้ยฮอน”
“จุ๊ๆ อย่าพูดทั้งที่รัดแน่นขนาดนี้สิคะ” ฮอนมองหน้าคนที่ยังด่าเขาเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าตัวเองจะตกเป็นรองอยู่ก็ตาม
ดวงตากลมมีน้ำใสคลออยู่ข้างในเพราะความเจ็บ ทว่าเวลาที่อีกคนมองพร้อมจมูกแดงๆ กับแก้มขึ้นสีฝาด มันช่างปลุกอารมณ์เขาให้ทะยานขึ้นสูงเสียจริง
ชายหนุ่มจับเอวคอดไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะขยับกระแทกรัวเร็วเข้าไปชักพาอารมณ์อีกฝ่ายให้ต่อเนื่องจากเมื่อครู่
คนตัวเล็กกว่าร้องครวญครางออกมาเสียงดัง จิกมือลงบนแผ่นหลังของคนที่เขานั่งทับเสียแน่นเพื่อระบายอารมณ์
“ไม่ไหวแล้วหนู ค่อยโชว์ประตูหน้านะ” ชายหนุ่มหยัดเอวเข้าไปกระแทกกระทั้นตามแรงอารมณ์ที่ใกล้จะได้ทำประตู อีกนิดเดียวเท่านั้น เขาเลี้ยงลูกจากอีกฝั่งมาถึงประตูฝ่ายตรงข้ามแล้ว
“ฮ้า!” เสียงร้องครวญจากหนุ่มวัยรุ่นสองคนดังขึ้นพร้อมกันทันทีที่เสร็จสมถึงที่หมาย น้ำสีขาวขุ่นของคนตัวขาวพุ่งกระฉูดหยดเปรอะลงบนหน้าท้องตนเองและคนตรงข้าม
ฮอนยกตัวอีกฝ่ายขึ้นเล็กน้อยเพื่อถอดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำรักของเจ้าตัว เขารวบแกนกายของตัวเองเข้ากับของคนบนร่างอย่างไม่รังเกียจน้ำสีขุ่นที่เปรอะเปื้อนอยู่ รูดรั้งเบาๆ เรียกแรงอารมณ์ที่เพิ่งถูกดับไปขึ้นมาอีกครั้ง
“พรุ่งนี้กูมีเรียน” น้ำเสียงอ่อนแรงของเด็กขยันดังขึ้นข้างหู
“ขออีกสักประตูให้เท่าโครแอตได้ไหมคะ”
แม้ในใจคนเอ่ยท้วงจะปฏิเสธไปหลายสิบครั้งแค่ไหน แต่ร่างกายกลับไม่ยอมฟังเพราะแกนกายที่ถูกปลุกปั้นกำลังแข็งชันสู้มือของอีกคน
คนตัวขาวในอ้อมกอดนิ่งเงียบไม่ตอบรับ มีเพียงเสียงหอบหายใจถี่ดังออกมาเท่านั้น ฮอนอนุมานเอาเองว่าได้ จึงควานหาซองถุงยางตามซอกอีกครั้ง
ริมฝีปากหนาเริ่มอยู่ไม่สุขขณะที่สวมใส่ถุงยางไปด้วย เขาอ้างับยอดอกที่เบ่งชูชันอยู่ตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว ใช้ปลายลิ้นแลบเลียจนกระทั่งตัวตนของเขาเข้าไปได้จนหมด
ทันทีที่ช่องทางด้านหลังถูกเติมเต็มเข้ามาอีกครั้ง เสียงร้องครางของคนบนตักก็ดังลั่น จนเขาต้องคว้าคออีกฝ่ายเข้ามาประกบจูบเพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปนอกห้อง
“เมียชอบให้ผัวทำแรงๆ รึเบาๆ คะ” ถอนจูบออกมาเห็นใบหน้าน่ารังแกของอีกฝ่าย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากแกล้งอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเขาจะโดนอีกคนแกล้งกลับ เพราะทันทีที่พูดจบช่องทางข้างในก็ตอดรัดความเป็นชายของเขาอย่างแรง
“ไม่… ฮึก ไม่ชอบ” เสียงพูดแหบพร่าตอบกลับ
“ไม่ชอบสักแบบเลยหรอคะ งั้นคงต้องโชว์เองซะแล้ว” ว่าจบ ชายหนุ่มก็ใช้มือที่ก่อนหน้าจับอยู่บั้นท้ายขาวมาพาดยาวบนพนักโซฟาพร้อมปรายตามองคนตรงหน้าท่าทีสบายใจ
คนบนตักทำท่าฮึดฮัด มันจงใจแกล้งเขาให้เขินอายโดยการทำแบบนี้ ตอนนี้คงต้องเลือกว่าจะตามเกมหรือลุกขึ้นต่อยหน้าให้มันสลบไปเลยดี
นิ่งไปอยู่สักครู่ ก็ดูเหมือนว่ากิจะคิดอะไรได้เมื่อปรายตาเห็นเข็มขัดนักศึกษาที่ตกอยู่หน้าโซฟา เขาก้มหยิบมันขึ้นมา จับแขนแกร่งที่พาดยาวบนพนักโซฟามาไขว้บนหัวก่อนจะใช้เข็มขัดมัดมือคู่นั้นแน่น
“หนูกิจะทำอะไรคะ ชอบแนวรุนแรงทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า” คนถูกถามไม่ตอบ แต่ส่งยิ้มบางไปให้แทน
ฮอนตีความรอยยิ้มนั้นไม่ออก เขาไม่ได้สงสัยอะไรมากนักเพราะพอโดนมัดเสร็จ เจ้าตัวก็จับบ่าเขาแล้วพยายามขยับเอวไปมาอย่างช้าๆ
“ฮ้า... หนูกิ” เขาร้องครางออกมาเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายยกตัวเองขึ้นสูงก่อนจะค่อยๆ นั่งทับลงมา คนตัวขาวขยับตัวเองแบบนี้อยู่หลายครั้งจนกระทั่งเริ่มชินกับสิ่งแข็งขืนในร่างกายตนเอง จังหวะขยับเอวจึงค่อยๆ แรงและเร็วขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งทะยาน
ฮอนหอบหายใจถี่ให้กับความร้อนแรงบนร่างกายเขาตอนนี้ หนูกิขึ้นสีแดงไปทั้งตัว ดูเหมือนจะทำใจกล้าฝ่าความอายของตัวเองกลายร่างเป็นฝ่ายบุกในแมตช์นี้บ้าง ร่างสูงหยัดเอวขึ้นสวนทันทีที่อีกคนกดบั้นท้ายลงมา เสียงหวีดครางดังขึ้นเป็นระลอก
“หนูกิคะ ปลดเข็มขัดให้ก่อนได้รึเปล่าหือ” เขาอยากจับยึดเอวของอีกฝ่ายไว้แล้วรัวกระหน่ำใส่แรงๆ แต่เข็มขัดกลับมัดเขาหนาแน่น แค่จะหมุนข้อมือก็ยังไม่ได้ ทำได้เพียงดึงแขนลงข้างตัวไม่ให้เมื่อยเพียงเท่านั้น
คนขี้อายที่ตอนนี้กลายร่างเป็นนางแมวทำใจดีสู้เสือส่ายหัวรัวๆ แม้จะเขินอายอยู่ไม่น้อยแต่เพราะตอนนี้แรงอารมณ์ขึ้นถึงขีดสุด เขาจึงทำใจกล้ายกสะโพกขึ้นสูงก่อนจะกดลงจนสุดซ้ำไปซ้ำมา อีกนิดเดียวก็จะทำประตูขึ้นเสมอได้แล้ว
กิรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังบ้าคลั่ง เขาทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ เสียงกระทบบนหน้าขาดังขึ้นอย่างหยาบโลน เขาขยับเอวขึ้นรัวเร็วก่อนจะกดสะโพกลงมาอย่างแรงเป็นครั้งสุดท้าย
เสียงหวีดครางดังลั่นห้องไม่มีใครกลั้นเสียงอีกต่อไป น้ำสีขุ่นไหลลู่ลงบนกล้ามเนื้อท้องของอีกฝ่าย
ฮอนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาหื่นกระหาย แรงอารมณ์พุ่งทะยานถึงขั้นสูงสุด เขาได้แต่พยายามหยัดเอวใส่เพราะยังไม่เสร็จ แต่อีกคนกลับหยุดนิ่งไม่ขยับ ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด เขาควรได้จับเอวขาวๆ นั่นแล้วกระแทกขึ้นไปแรงๆ ให้สมใจอยาก
กิมองหน้าคนที่ค้างคาแล้วหัวเราะอยู่ในใจ เขาหมุนควงเอวที่ยังมีแก่นกายแข็งขืนอยู่ข้างในเป็นการส่งท้ายก่อนจะค่อยๆ ยกตัวเองออกมา
“ซี้ด หนูกิ มึงไปเรียนท่าควงนี้มาจากไหนเนี่ย” คนที่กลายมาเป็นฝ่ายโดนกระทำบ้างสูดปากร้องอย่างเสียวซ่าน
“มึงไม่เคยดูหนังโป๊หรอ” เขากล่าวพร้อมส่งรอยยิ้มละมุนละไมให้
“ถอดเข็มขัดให้หน่อยหนูกิ เร็วเข้า” ชายหนุ่มทนรอไม่ได้อีกต่อไป เขาต้องการทำประตูเดี๋ยวนี้!
“หลับตาก่อน”
“หลับทำไม”
“หลับตาแล้วนับหนึ่งถึงร้อย ห้ามลืมตาก่อนเด็ดขาด ทำได้เดี๋ยวกูถอดเข็มขัดให้” ฮอนหลับตาตามคำสั่งเพราะความอยากจนหน้ามืด ให้ทำอะไรตอนนี้เขาก็ทำได้หมดทั้งนั้นแหละ
ตอนที่เสียงทุ้มของหนูกิเริ่มนับเลข ชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกคนลุกออกจากตักเขาไป ก่อนจะมีเสียง ตุ้บ แปลกๆ เกิดขึ้น
“ห้ามลืมตานะ!”
กิแข้งขาอ่อนแรง ทันทีที่เขาลุกขึ้นยืนขาดันเปลี้ยลงจนเขาล้ม สะโพกกระแทกกับพื้นทำให้เจ็บขึ้นมากกว่าเดิม
“มึงเป็นอะไร กูยังไม่ได้ลืมนะ ยังไม่ได้ทำผิดข้อตกลงเลย” ฮอนรีบบอกทันทีเพราะกลัวโดนหาว่าโกง
“นับถึงเท่าไหร่แล้ว”
“สามสิบเจ็ด”
ยังพอมีเวลา กิพยายามพยุงตัวเองขึ้นโดยใช้มือค้ำโซฟาและผนังห้องไปเรื่อยๆ เขาเดินได้ไม่เร็วนักเพราะแรงเสียดสีที่สะโพกเจ็บแปลบ
คนตัวขาวย่องเดินเบาๆ ไม่ให้อีกคนรู้ตัว จนกระทั่งมาถึงห้องนอนที่เป็นจุดมุ่งหมายได้สำเร็จ
ปัง! กริ๊ก
เสียงกระแทกประตูดังปิดอย่างแรง ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งนับเลขบนโซฟาเบิกตากว้าง เขาวิ่งไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
ปึงๆๆๆๆ
ชายหนุ่มรัวมือทุบประตูทันทีที่รู้ว่าอีกคนล็อกประตูจากด้านในเรียบร้อยแล้ว
“เชี่ยเอ๊ย กิ! เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!”
ไร้วี่แววของอีกคน หลังประตูเงียบกริบเหมือนไม่มีคนอยู่ข้างในนั้น
ฮอนร้องเรียกชื่ออีกคนซ้ำไปซ้ำมา สลับกับทุบประตูเป็นระยะ
ค่ำคืนร้อนสำหรับนัดชิงแชมป์บอลโลกวันนี้ฝรั่งเศสชนะโครเอเชียไป 4 ประตูต่อ 2 แต่ในห้องสีขาวแห่งนี้กลับทำแต้มประตูเสมอกันไปด้วยคะแนน 1 ต่อ 1
ตอนนี้ชายหนุ่มร่างสูงเข้าใจความรู้สึกตอนโดนแกล้งให้ทรมานแล้วว่ามันเป็นยังไง
พระเจ้า! ขอบคุณที่ยังมีห้องน้ำ!
☁ TBC.
ー #AdaywithWCM
ー จริงๆตอนแรกตั้งใจแต่งนัดชิงเสร็จแล้วจบเลย แต่เปลี่ยนใจแล้ววว;_; ยังไงฝากเอ็นดูสองคนนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะยอมเป็นแฟนกันด้วยนะคะ ♥