ขอบคุณค่ะ กับคำแนะนำที่ดีๆ โดยเฉพาะคุณ Yayee 2
ดิฉันสบายใจแล้วล่ะค่ะ เพื่อตอบแทนทุกคนที่น้ำใจดี ในเล้าฯที่มาให้ อัพเพิ่มอีกตอนเลยแล้วกัน
ไปอ่านต่อกันเลยค่ะเพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
Part 19
เปลี่ยนแปลง.
.
.
.
.
หลังจากมันพาผมกลับมานอนแอ่งแม่งบนเตียงเรียบร้อย ยังรีบหยิบน้ำอุ่นที่เหี้ยต่อเอามาให้
ใส่หลอดส่งให้ผมดูดทีละนิดจนหมดแก้ว ครั้งนี้อาจเพราะใช้หลอดดูด
และผมก็ไม่รีบเหมือนครั้งก่อน จึงไม่สำลัก จากนั้นมันหยิบเงินให้เหี้ยก๋อยกับเหี้ยต่อ
ไปซื้อข้าวต้มมาให้ผม โดยบอกให้ซื้อกับข้าวมาเผื่อกินด้วยเลย
เหี้ยสองตัวก่อนไปมันมองหน้าเหี้ยกลยิ้ม ๆ ไม่รู้มันคิดไรกัน แต่เหี้ยกลถลึงตาขวางใส่พวกมัน
ก่อนจะยกเท้าตั้งท่าถีบ เล่นเอาเหี้ยสองตัววิ่งผลุ่งออกห้องไปกันอย่างเร็ว
ผมไม่เห็นเหี้ยนัทกับเหี้ยวิทย์ ไอ้สองคนนี้บางครั้งก็เจอบางครั้งก็ไม่เจอ
ส่วนใหญ่เป็นเหี้ยต่อกับเหี้ยก๋อยซะมากกว่า ที่มักไปไหนกับเหี้ยกลมัน
มารู้ตอนหลังพวกแม่งหารกันเช่าบ้านหลังนี้เอง แบ่งกันอยู่คนละห้องเพราะมีสามห้องนอนพอดี
เหี้ยกลหุ้นใหญ่..มันเลยได้ห้องใหญ่สุดที่ผมนอนตอนนี้ แถมห้องนี้มีห้องน้ำในตัวด้วยตะหาก
แต่สองห้องที่เหลือต้องใช้ห้องน้ำรวมด้านนอก อยู่ใกล้ห้องครัวนั่นแหล่ะ
“มึงอยากเช็ดตัวอีกรอบไหม” จู่ ๆ มันก็พูดขึ้นมา..อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยซะงั้น
หลังจากนั่งเงียบ..ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของใครของมันมาได้สักพัก
ผมมองหน้ามันไม่พูดตอบไป งงกับคำถามมันอยู่
“มองหน้ากูไม ไม่ต้องทำหน้าหมางงหรอก ตอนมึงหลับยังไม่ตื่น กูเนี๊ยะแหล่ะคอยเช็ดตัวให้
จะบอกให้เอาบุญไว้ กูไม่เคยทำให้ใครมาก่อน มึงเป็นคนแรกเลยสัด..รู้ไว้ด้วย
หัดสำนึกบุญคุณกูไว้ซะ” พูดจบทำเบือนหน้าหนีผมซะงั้น ไอ้ครวย..อยากสวนมันกลับจัง....ห่าราก..
ใครล่ะทำกูเป็นแบบนี้ มีหน้ามาทวงบุญคุณกูอีก ผมไม่ตอบ...แต่กลับถามถึงเรื่องที่กังวลแทนทันที
“กล...กูไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้จะไปเรียนไหวไหม ที่แน่ ๆ กูคงแข่งไม่ไหวทำไงดีว่ะ?”
ต้องยอมปรึกษามันแหล่ะ เพราะตอนนี้ไม่มีหนทางใดจะจัดการเรื่องนี้ได้เลย
ในขณะที่ยังนอนแหม่บอยู่แบบนี้
“เอางี้...เดี๋ยวกูโทรไปบอกเหี้ยคิ๋มให้ ฝากผ่านน้องเกศไปคงได้ใช่ไหม กูมีเบอร์บ้านน้องเค้า
ให้ไปบอกไอ้คิ๋มมันอีกที จะได้ลาโค้ชมึงล่วงหน้า แต่จะให้กูบอกด้วยไหม ที่มึงไปแข่งไม่ไหว
เพราะโดนตุ๋ย..ตูดฉีกอยู่หอกูเนี๊ยะ” ไอ้ที่ฟังมาแต่ต้นผมคงไม่มีทางเลือก ต้องตามนั่นแหล่ะ
โค้ชจะได้ให้ตัวเซ็ทสำรองลงแข่งแทน แมทนี้ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ เพราะทีมไม่แข็งมาก
ผ่านได้สบายอยู่แล้ว แต่ไอ้ประโยคหลังนี่ดิ มันจะย้ำทำเหี้ยไร ว่าผมโดนอะไรถึงไปแข่งไม่ไหว
“อย่าลืมบอกด้วยล่ะ..ว่าเหี้ยตัวไหนมันทำกู..จนต้องนอนแหม่บอยู่แบบนี้” ทนไม่ไหวประชดแม่งไปล่ะ
อย่านึกว่ามันว่าแดกผมได้ฝ่ายเดียว
“หึ..หึ..ได้เดี๋ยวกูบอกให้ กูไม่อายหรอกเรื่องจริงนิ อีกอย่างกูเป็นฝ่ายตุ๋ยมึง
ไม่ได้โดนมึงตุ๋ยซะหน่อย ว่าแต่มึงเห่อะ..แน่ใจว่ารับได้
เหี้ยคิ๋มมันรู้..กูว่าคงโกรธจนไฟออกหูเลยล่ะมึงเอ้ย! อุตส่าห์หม้อตั้งนาน
ไม่ได้แอ้ม...เจอกูไวกว่าปาดหน้าเค็กเข้าให้..ห่ะ..ห่ะ.ห่ะ!!!” ผมฟังมันพูดได้แต่อ้าปากค้างซะงั้น
ปากสั่นระริก..พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เหี้ยนี่..ไม่ว่าจะพูดยังไง ว่าแดกก็แล้วประชดก็แล้ว
นอกจากไม่สะทกสะท้าน..กลับย้อนผมซะเจ็บแสบอึ้งเลยเหมือนกัน นิสัย..ชอบเอาชนะเหมือนเด็ก ๆ
ไม่รู้มันไปหมั่นไส้..ขวางหูขวางตาคิ๋มมันอิตอนไหน ผมก็เห็นคิ๋มออกจะพูดจาสุภาพเรียกมันพี่ทุกคำ
ไม่เข้าใจมันจริง ๆ บทจะไม่ถูกชะตาใครเข้า โคตรไม่มีเหตุผลดื้อๆซะงั้น
ขี้เกียจเถียงมันแหล่ะ เลยเงียบแกล้งหลับตาลงดีกว่า
“หึ..พูดไม่ออกดิ...ก็นะ..มันเรื่องจริง ตอนนี้มึงโดนกูไปแล้ว อย่าให้กูรู้ว่ามึงอ่อยใครเขาอีก
คราวนี้กูจะล่อให้หลับไม่ตื่นสักห้าวันเลยเป็นไง เอาเป็นว่ากูบอกมึงไม่สบายก็แล้วกัน
พักอยู่หอกูโอเคตามนี้” ฟังมันพูด อดไม่ได้ต้องลืมตามองหน้ามันทันที
อะไรของมันเนี๊ยะ..ไมจู่ ๆ มาบงการชีวิตผมเข้าให้อีกล่ะ มันน่าจะจบ ๆ ไม่ติดค้างกันแล้ว
ผมชดใช้ให้มันหมดแล้วเห่อะ จะเอาอะไรกับผมอีก
“กล..กูจำได้ว่ากูกับมึง ไม่ติดค้างเชี้ยไรกันแล้ว กูชดใช้ให้มึงตามสัญญาแล้วเห่อะ...
มึงยังจะวุ่นวายไรกับชีวิตกูอีกว่ะ...กูคิดว่าพรุ่งนี้กูลุกไหว..มีแรงแล้วจะรีบไปทันที
กะจะบอกมึงด้วย...ต่อนี้ไป..เราไม่รู้จักกันอีก..เจอกันทีไหนไม่ต้องทัก กูจะลืมสิ่งที่มึงทำกับกู
ไม่ติดใจเอาความกันต่อไป ขอให้ระหว่างเราบุญคุญความแค้นจบสิ้นกันแค่นี้เถ่อะ..ขอร้องล่ะกล”
ผมบอกความรู้สึกในใจ..ตามที่คิดไปแล้ว ทีแรกกะจะพูดกับมันหลังจากมีแรงก่อน
แต่เมื่อมันเปิดประเด็นมา อดไม่ได้พูดไปเลยดีกว่า จะได้หมดเรื่องกันไป
“ใครบอก..กูหมดเรื่องกับมึงกันว่ะ! กูบอกมึงเมื่อไหร่?” จู่ ๆ มันทำหน้ามึนตอบผมแบบไม่สนฟ้าซะงั้น
กวนส้นตีนสุด ๆ อยากถีบยอดหน้าแม่งจริง เล่นเอาผมปรี๊ดขึ้นทันที
ได้แต่เตือนตัวเองให้ใจเย็น ๆ ไว้ เล่นกับเหี้ยนี้มีแต่เสียเปรียบมันตลอด
“ก็ไหนมึงว่ากูยอมให้มึง..ทะ...ทำ..กูแล้ว....ถือว่าชดใช้สิ่งที่มึงสูญไป ไม่ว่าจะเงินสองพัน
แล้วเรื่องน้องเกศน้องดาที่กูทำให้แผนมึงล่ม มึงก็รุมยำตีนกูแทนแล้วนี่ จะเอาไรกะกูอีกว่ะ?”
สุดท้ายผมก็อดเสียงห้วนไม่ได้ มันโมโหจริง ๆ ไม่ชอบเลยนิสัยไม่รักษาคำพูด
คิดจะพลิกลิ้นของมันเนี๊ยะ เกลียดนักพวกไม่มีสัจจะ
“ก็ใช่..กูไม่ได้ว่า..ที่พวกกูรุมยำตีนมึงชดใช้ที่มึงทำแผนกูล่ม
ส่วนเรื่องเงินสองพันมึงยอมให้กูเอาก็โอเค แต่มึงลืมไปอย่าง
อีกสองพันที่กูจ่ายเคลียร์เพื่อนกูไม่ให้โทรมมึงล่ะ มึงจะให้กูไปเอาคืนกับใคร
แล้วไหนจะภาระ..ที่ต้องคอยดูแลหมาตัวไหนไม่ทราบ..ไข้ขึ้นข้ามวันข้ามคืน
จนเดือดร้อนกูต้องคอยป้อนนม ป้อนยา เช็ดตัวให้อีกตั้งสองวัน
กูจะเรียกร้องเอาจากที่ไหน ที่นี้เข้าใจหรือยังที่กูบอกว่า มึงยังติดค้างกูอยู่”
ผมได้แต่อึ้งตาค้าง กับสิ่งที่ได้ยินจากมัน เหี้ยนี้คิดไรของมัน เรื่องเงินที่มันให้เพื่อนมันไป
ก็พอรู้อยู่หรอก แต่ผมบอกมันเมื่อไหร่..ให้มันเอาเงินจ่ายเพื่อนมันนะ
ผมแค่ให้มันเคลียร์เพื่อนมันเท่านั้น ยิ่งเรื่องที่มันมาคอยดูแลด้วยแล้ว
ผมไม่รู้ไม่เห็นซะด้วยซ้ำ หลับไม่รู้เรื่องอยู่แบบนั้น มีหน้ามาทวงบุญคุณใช้คืนมันอีก
เหตุผลกำปั้นทุบดินชัด ๆ แต่ไม่รู้ทำไงได้ เลยต้องหาวิธีต่อรองมันไปล่ะ
ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเจอหน้าคนที่ปล้นเอาศักดิ์ศรี..ความเป็นชายไปจากผมจนไม่เหลือชิ้นดีได้หรอก
แค่ที่ทนอยู่ตอนนี้ก็สุดจะทานแล้ว ไม่ติดว่าหมดแรงไปผมไม่อยู่เจอหน้ามันหรอก
“เรื่องเงิน ขอเวลาไม่เกินสองอาทิตย์ กูจะเอามาคืนให้ ไว้กูนัดมึงมาเอาอีกที
ส่วนเรื่องที่มึงดูแลปรนนิบัตินั้น..กูไม่รู้เรื่อง ที่จริงมึงไม่จำเป็นต้องทำก็ได้นี่
แล้วจะมาเรียกร้องเอาจากกูได้ไง ในเมื่อกูไม่ได้ขอให้มึงทำสักหน่อย”
ผมเถียงมันไปแหล่ะ..ดูเหมือนมันจะไม่พอใจเข้าให้ล่ะ ตาเริ่มเขม็งดุขึ้นมาเชียว
“เรื่องเงินมึงไม่ต้องเอามาคืนกู กูไม่ได้อยากได้เงินมึง ส่วนเรื่องที่ทำไมกูต้องดูแลมึง
อยากรู้มึงเอาสมองส่วนไหนคิดว่ะ มึงนอนสลบไสล..ตูดฉีกเลือดเลอะไหลย้อยเต็มง่ามขา
ไข้ขึ้นตัวร้อนตายมิตายอยู่ร่อมร่อ มึงคิดว่ากูควรทำยังไง คนอยากกูจะปล่อยให้หมาตัวหนึ่ง..
มานอนตายต่อหน้าต่อตากูลงว่างั้น” เวร..กลายเป็นผมผิด ไปดูถูกน้ำใจมันเข้าให้
สรุปมึงเป็นคนดี โคตรมีศีลธรรม ทนเห็นกูตายไม่ได้ ไม่ติดว่าผมกลัวมันลงมือทำร้ายเข้าให้
จะหัวเราะเป็นภาษาเขมร...ถุยน้ำลายรดหน้าแม่งสักที โทษทีที่ความคิดไม่สุภาพ
ก็ฟังมันพูดดิ..คงลืมไปแล้วม้าง ว่าสิ่งที่มันทำผ่าน ๆ มา คนดีมีศีลธรรมดีงามเค้าทำกันหน่ะ
ศีลธรรมบ้านไหนของมันกันว่ะ นึกเข้าข้างตัวเองได้เหี้ยสุด ๆ แต่สุดท้ายก็ได้แค่ถามมันไปล่ะ
“แล้วมึงจะเอายังไง มึงถึงจะจบ” นั่นดิ นี่ก็ไม่เอานั่นก็ไม่ได้ ตกลงมันต้องการอะไร
ผมจะได้รีบจัดการให้มันเสร็จ ๆ จบสิ้นกันไปซะที
“มึง...ต้อง..เป็น..คน..ของ...กู..จนกว่า..กูเบื่อนั่นแหล่ะ...กูถึงปล่อยมึงไป”
พระเจ้า!..ผมคงหูฝาด หรือมันเกิดเพี้ยนจนขี้ขึ้นสมอง...มันถึงพูดในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
ว่าเหี้ยอย่างมันจะพูดมาได้
“มะ..มึง..พูดว่าไงนะ...พูดใหม่อีกครั้งดิ” ครับ..ผมอยากให้มันพูดซ้ำอีกครั้ง
เผื่อสมองผมเบลอจนฟังผิดไป อาจเพราะเพิ่งฟื้นไข้ก็เป็นได้
“กูบอกว่า..นับแต่นี้ไป มึงเป็นคนของกู หมายความว่า..มึงเป็นเด็กในความดูแลของกู
ห้ามไปอ่อยหรือให้ท่าใครอีก จนกว่ากูจะเบื่อมึงนั่นแหล่ะ ถึงมีสิทธิ์ไปคบกับใครก็ได้
แต่ระหว่างที่เป็นเด็กกู ห้ามทำในสิ่งที่กูบอกโดยเด็ดขาด ไม่งั้น..ชิส..” มันทำนิ้วปาดคอให้ผมดู
ประมาณว่ามันจะเชือดผมทิ้ง ถ้าผมไม่ทำตามที่มันบอก ผมนิ่งค้างพูดไม่ออก..บอกไม่ถูก
มันกลายเป็นแบบนี้ได้ไงกัน อีหรอบนี้ไม่เท่ากับว่า
ผมเป็น..เป็น..นายบำเรอของมันนะเหร่อ..อร๊ากกกกๆๆๆ!!!!...รับไม่ได้...แว๊กกกกๆๆ!!
เห่อ...เห่อ....พูดไม่ออก....คุณผู้อ่านล่ะ..ว่าไงกัน....
พี่วีเราสมควรต้องรับหน้าที่นี้ เห็นด้วยหรือไม่..
เรียงแถวเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันหน่อย...คิดไงกันบ้าง???
ปล. ตอนหน้า..จะให้พี่วีมาอธิบายว่าคิดยังไง ถึงได้ยอมอีพี่กลมันขนาดนั้นในตอนนั้นอ่ะนะ
ทำไมไม่โต้ตอบหรือ ขอร้องให้คนอื่นช่วย เราได้ฟังพี่วีพูดแนวคิดของพี่แกให้ฟังกัน
รอตอนหน้านะค่ะ...
Luk.