ลุ้นรักติดปลายเตียง /อัพตอนที่ 30 วันที่ 28/08/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

สามเคะ หรือจะ เมะ

เคะ
72 (80%)
เมะ
8 (8.9%)
ทั้งสองอย่าง
10 (11.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 82

ผู้เขียน หัวข้อ: ลุ้นรักติดปลายเตียง /อัพตอนที่ 30 วันที่ 28/08/60  (อ่าน 49775 ครั้ง)

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
จะว่าไรไหม ถ้าบอกว่าอยากเห็นสามโดนกดมากกว่า ติ๊งต๊องขนาดนี้ถ้าโดนกดคงฮา :laugh:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
มาอัพอีกกกกกกกกกกกก  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4



ตอนที่ 17 คนสำคัญและสิ่งสำคัญ








   “ไอ้สาม” ลืมตาปรือๆ ก็เห็นหน้าไอ้เพทายยืนเรียกชื่อผมอยู่ข้างเตียง ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเตียงโรงพยาบาลหรือเตียงของห้องพยาบาลมหาลัย สมองปรับสภาพไม่ทันเพราะดันเกิดไปฝันแปลกๆ เข้า

   “กูเป็นไรไปวะ?” ผมขยับตัวจะลุกขึ้นนั่ง ไอ้เพทายรีบกดตัวผมให้นอนลง ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย  “อะไรวะ คนจะลุกไม่ให้ลุก”

   “หมอบอกอย่าเพิ่งให้มึงลุก เดี๋ยวจะน็อคไปอีก” มันบอก

   “กูไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” ผมขมวดคิ้วแล้วพยายามจะขืนตัวเองลุกขึ้น เมื่อเห็นว่าบังขับผมไม่ได้ไอ้เพทายก็ถอนหายใจ

   “ดื้อว่ะ ดื้อจริงๆ”

   “กูอยู่โรงพยาบาลสินะ?” ผมถามอย่างไม่สนคำบ่นของมัน

   “เออ” มันพยักหน้าส่งๆ พลางเดินไปนั่งบนโซฟา ผมจึงมีเวลาได้มองเห็นห้องชัดๆ และนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีเงินขนาดนอนในห้องพิเศษ เพราะถึงผมจะมีประกันที่แม่ทำไว้ให้ แต่ก็ประกันธรรมดาที่มีกำลังจ่ายให้ได้แค่ห้องรวมเท่านั้น

   “ไอ้เพทาย ไปบอกหมอให้กูออกจากโรงบาลเดี๋ยวนี้” ผมกระโดดลุกออกจากเตียง แล้วไอ้อาการโลกเหวี่ยงก็เข้ามาทำร้ายผมอีกครั้ง ผมเซไปเกาะที่เตียงพร้อมกับทรุดตัวนั่งลงขุกเข่าอย่างอ่อนแรง ไอ้เพทายเห็นดังนั้นจึงรีบเข้ามาช่วยพยุงไม่ให้ผมไหลล้มลงไปนอนกองกับพือน แล้วช้อนที่ใต้รักแร้ผมให้กลับขึ้นมานอนบนเตียง

   “มึงจะรีบร้อนไปทำไมวะไอ้สาม” มันนิ่วหน้าหงิก จัดผ้าห่มให้ขึ้นมาคลุมตัวผม

   “โห มึงทำเป็นลืมนะ บ้านกูไม่มีตังค์เว้ย” ผมฮึดฮัด หัวเสียใช่น้อยกับอาการป่วยของตัวเอง ไม่เคยเป็นอย่างนี้ตั้งแต่หลังโดนคนเมายาบ้าจับโยนลงจากระเบียงชั้นสองของโรงเรียนตอนมอสอง หึๆ วันนั้นถ้าพื้นข้างล่างไม่ใช่ดินแดงและไม่อยู่ในช่วงหน้าฝน ป่านนี้ผมคงจะไม่ได้มานอนอยู่ตรงนี้ชัวร์

   “มึงนี่เคยเป็นอะไรไม่ยอมบอก ดีไม่ตายห่าก็บุญแล้ว” ไอ้เพทายมันว่า หยิบมือถือขึ้นกดยกแนบหูหน้าบอกบุญไม่รับ “โหลๆ เออ กูเองครับ... พวกมึงอยู่ไหน?....เหี้ย! ยังไม่กลับจากโรงพักอีก... ไอ้สามมันฟื้นแล้วนะ...เออ แม่มันกับพี่สาวมันเพิ่งกลับ...ไม่ๆ กูบอกแล้วแต่แม่ไอ้สามไม่เอา จะให้กูทำไง...โอเค เอางั้นนะ...ได้ เดี๋ยวกูจัดการเฝ้าให้ ...เออ แค่นี้” ตัดสายฉึบ ผมนอนมองมันตาปริบๆ ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง

   “แม่กูมาแล้วเหรอ กูหลับไปนานแค่ไหนวะ”

   “สองคืนกับหนึ่งวัน แม่มึงมาเยี่ยมสองรอบแล้วก็มานอนเฝ้าด้วยเมื่อคืน” ชิบหาย นานขนาดนั้นเลย!

   “แล้วไอ้เป้กับไอ้เดย์ไปโรงพักกันทำไม”

   “หือ...อ้อ ไปเอาเรื่องไอ้พี่ตั้มที่มาต่อยมึงอ่ะ”

   “ขนาดเอาเรื่องเลยเหรอ ไม่ใช่เสียค่าปรับกันก็จบไง”

   “ถึงขั้นหามมึงที่ชักกระตุกส่งโรงบาลนี่ไม่แค่เสียค่าปรับแล้ว”

   “กูชักด้วยเหรอ” ผมเหวอ

   “เออเสะ คนนี่แตกตื่นทั้งสนาม นึกว่ามึงเป็นลมบ้าหมู”

   “จริงอ่ะ” ผมยังไม่ติดใจเชื่อ

   “โกหกได้เงินกูก็ไม่เอา ห่า มึงเพื่อนกูนะครับ เหี้ยสาม” มันค่อนขอด

   “กูไม่ได้เป็นแบบนี้นานแล้วนะ”

   “แบบนี้น่ะแบบไหนครับ”

   “ชักอ่ะ กูเคยเป็นต้องมอสองหลังโดนคนเมายาจับโยนจากตึก จากนั้นก็ชักบ่อยๆ พอขึ้นมอสี่ก็หายนะ” ผมเล่าให้ไอ้เพทายฟัง

   “หายไปเอง?” มันเลิกคิ้ว ผมนึก

   “งั้นมั้ง ไม่รู้ว่ะ กูจำได้แค่พอขึ้นมอสี่ก็ไม่เคยเป็นอีก”

   “เหรอ อืม...” มันพยักหน้า “เอ้อ มึงหิวอะไรมั้ย กูว่าจะไปสูบบุหรี่”

   “เอิ่ม...กูอยากได้น้ำสักแก้ว ไม่ค่อยหิวว่ะ สงสัยจะอิ่มน้ำเกลือ” 

   “เออ น้ำนะ” แล้วไอ้เพทายก็เดินไปรินน้ำใส่แก้วมาให้ครึ่งหนึ่ง

   “น้อยจังวะ” ผมมองมันงงๆ

   “มึงได้น้ำเกลือแล้ว หมอบอกอย่าเพิ่งให้ดื่มน้ำมากตอนนี้” มันตอบก่อนจะควักซองบุหรี่มาถือ เดินหายออกไปจากห้อง ทิ้งผมไว้อยู่กับคำถาม

‘ตกลงกูน็อคหมัดรุ่นพี่ปีสี่ หรือกูเป็นอะไรร้ายแรง?’

   ดื่มน้ำสักพักหมอกับพยาบาลก็เข้ามาตรวจ ไล่ถามไถ่อาการสองสามคำก็ฉีดยาให้ น่าจะเป็นยาแก้ปวดอะไรสักอย่างอ่ะครับ เพราะหมอบอกว่าคืนนี้ถ้าไม่ไหวจริงๆ ให้เรียก ไม่รู้อะไรคือไม่ไหวเหมือนกัน อยากถามอยู่นะ แต่หมอกับพยาบาลรีบพากันออกไปจัง แถมหลังได้รับยาผมก็ง่วงมากด้วย อ้าปากหาวสองสามหนสติผมก็เบลอ มาตื่นอีกทีทันเห็นไอ้เป้กำลังแกะป๋องโจ๊กแล้วเติมร้อน
.
.
.

   “โอ๊ะ เพื่อนกูตื่นละ เดี๋ยวนะ ขอกูไปเรียกอัศวินของมึงก่อน” มันยกกระป๋องโจ๊กหายออกไปนอกระเบียง ทว่าคนกลับเข้ามาดันเป็นไอ้เดย์ รอยเขียวช้ำที่ผมทำฝากไว้ตรงมุมปากมันตอนนี้เริ่มจางเผยให้เห็นใบหน้าเนียนใสชัดกว่าแต่ก่อน ไอ้เดย์คลี่ยิ้มให้ผมขณะเดินเข้ามาหา ผมขอสาบานต่อหน้าเสาน้ำเกลือเลยอ่ะ ว่าเป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นมันทำกับผมสักครั้ง แต่ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เรียกเดจาวูป่ะวะ?

   “ทำไมมึงมาอยู่นี่” ผมถามไม่ทันคิดว่ามันก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่ช่วยผมไว้ ไอ้เดย์หุบยิ้มพลางส่งสายตาเจ็บปวดให้ จากนั้นก็เดินทำหน้าโหดไปนั่งลงบนโซฟา
 
   “กูก็มาดูใจคนใกล้ตายน่ะสิ แม่งเสือกดวงแข็ง ขนาดนรกยังไม่ต้องการ” เจ้าพ่อพระคุณ ไม่กลัวดอกพิกุลร่วงหมดปากเหรอครับ พ่นมาแต่ละคำ แช่งกูเสียไม่มีดี

   “ปากหมา กูหรืออุตส่าห์หลงคิดว่ามึงยิ้มสวย สงสัยตาฝาดเห็นๆ” ผมบ่นหน้าบูดแล้วนอนหันหลังให้มัน เฮ๊อะ~!

   “หือ กูยิ้มสวยเหรอ...” มันลุกจากโซฟาเดินอ้อมมาเผชิญหน้ากับผมอย่างเร็ว หน้าโหดคลายลงเหลือเพียงใบหน้าสงสัย อันนี้มึงจะน่ารักด้วยถ้ายังไม่เลิกทำหน้าแบบนั้นใส่กู แม่ง กูไม่ชิน!

   “ฝันไปเปล่า” ผมพลิกหนีมันอีก ใจสั่นๆ แต่มันก็ใช่ย่อยที่ไหน เดินอ้อมตามมายืนตรงหน้าผมอีก “มึงไม่คิดว่ากูจะไม่อยากเห็นหน้ามึงบ้างเหรอ เดินตามมาให้มองอยู่ได้”

   “มึงชมกูยิ้มสวย” มันบอกซ้ำพลางทำหน้าแฮปปี้ เออ... ใครก็ได้ช่วยบอกกูทีเถอะว่าไอ้บ้านี่ไม่ใช่หัวหน้าหนุ่มเถื่อนแห่งคณะวิศวะ!

   “ก็บอกมึงฝันไปหรือเปล่าไง กูจะนอน ไปไหนก็ไปไป๊...” ผมไล่ “อ้อ หรืออยากโดนจูบอีก คราวนี้ร้องไห้กูซ้ำนะขอบอก...” เหยด! ไอ้สามเผลอหลุดอะไรออกไปครับ ไม่ใช่สิ จริงๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ตัวเองคิดนั่นแหละ แต่ทำไมไอ้สามถึงหลุด? คืออยากจะบอกนะ ว่านั่นน่ะผู้ชายเว้ย!

   *แอ๊ด* ไอ้เพทายเปิดประตูเข้ามาในจังหวะเหมาะ ผมรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างปัจจุบันทันด่วนไปที่ไอ้เพทายทันที ส่วนไอ้เดย์ก็ไม่ได้เลิกมองผม(อย่างเด็กใสซื่อ) แหม มองซะกูยกเรื่องจูบออกจากหัวไม่ได้สักที ไอ้สาดดดด!! *สติแตก*
.
.
.

   ตกดึกผมรู้สึกปวดหนึบๆ ที่ท้ายทอย ไม่หรอก ต้องบอกว่าปวดหัวแล้วลามไปถึงตรงนั้นมากกว่า ผมกัดฟันลุกขึ้นมาในความมืด ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่เฝ้าจึงไม่ได้เรียกใคร พอเดินไปได้หน่อยก็สะดุดกับโต๊ะ ล้มหน้าขมำไปกระแทกพื้นเย็นเฉียบ ส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างอนาถ ทำไมกูอ่อนแอขนาดนี้

   ไฟห้องถูกเปิดแต่ผมกลับเห็นเป็นแสงทึมๆ พลันเห็นร่างเงารางๆ ของใครคนหนึ่งก่อนที่ผมจะถูกใครคนนั้นพยุงกลับมาที่เตียง และกว่าจะจับต้นชนปรายได้ถูกว่าเป็นใคร ผมก็มองเห็นไอ้เดย์ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้ออกมา

   “มึงเป็นไรมากป่ะ ทำหน้าเหมือนแฟนตาย” ผมแซว หวังให้มันเลิกทำหน้าแบบนั้นเสียที ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากให้เลิก รู้แค่ว่าเวลาเห็นมันทำหน้าเศร้าทีไร ใจผมเหมือนโดนเอามีดกรีด มิหนำซ้ำอาการนี้ผมค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นหลังจากที่จูบกับมันด้วย คล้ายๆ กับว่าไอ้จูบเนี่ย ไปกระตุ้นสารอะไรบางอย่างในตัวผมงั้นอ่ะ

   “ไม่เหมือนก็คล้าย” มันพูดแล้วซบหน้าลงตรงบ่าผม ยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่

   “เฮ้ย โรงพยาบาลนะเว้ย” ผมทำท่าจะผลักไหล่มันออก

“...มึงจะลืมกูอีกแล้วใช่มั้ยสาม” รู้สึกได้ถึงน้ำเปียกๆ ไหลซึมตรงบริเวณที่มันซบ ความคิดที่จะผลักมันจึงหายไปฉับพลัน

   “ลืมอะไร มึงพูดอะไรแปลกๆ กูเคยลืมเหรอ แล้วลืมเมื่อไหร่ กูกับมึงเพิ่งจะมารู้จักกันเรื่องน้ำเองนะ”

   “ไม่ มึงไม่เข้าใจ” ไอ้เดย์ส่ายหัว “กูขอร้องนะสาม มึงอย่าลืมกูอีกได้มั้ย...กูจะไม่ไหวแล้วจริงๆ” มันกอดผมไว้แน่น ได้ยินมันสูดน้ำหมูก *ฟืดฟาด* เอาตรงๆ ผมไม่เข้าใจที่มันพูดเลย

   “ไม่ห่าไร มึงบอกแต่กูลืมมึง ไม่ก็ไม่ให้กูลืมมึง แล้วมึงคิดจะบอกกูบ้างมั้ย ว่ากูไปลืมมึงตอนไหน ทำไมถึงได้ลืม?” ผมยกมือลูบหลังไอ้เดย์ที่สะอื้นถี่น่ากลัว มันส่ายหัวรัวกับบ่าของผมจากนั้นผมก็เงยหน้าเช็ดคราบความจริงที่อยู่บนหน้าของมัน “เมื่อกี้มึงจะลุกไปไหน”

   “มึงอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ผมนิ่วหน้าคิ้วขมวดว่าเสียงเข้ม มันเองก็ไม่ยอมแพ้ทำเข้มเสียผมต้องยอมแพ้

   “กูไม่ได้เปลี่ยนเรื่อง แต่เมื่อกี้มึงลุกจากเตียงมาล้ม แสดงว่าอยากเข้าห้องน้ำหรือไม่ก็เป็นอะไรใช่มั้ย”

   “กูปวดหัว” ผมจำใจตอบมันไป “ตอนนี้ไม่เป็นไร...”

   “ไม่เป็นไรไม่ได้ มึงรออยู่นี่นะ อย่าไปไหน กูจะไปตามหมอ” ไอ้เดย์บอกพร้อมกับหันหลัง ผมรีบคว้ามือมันไว้ทันก่อนมันจะออกไป

   “กด Nurse call บนหัวเตียงเอาก็ได้”

   “อ้าว งั้นแล้วทำไมเมื่อกี้มึงไม่กด” มันถาม ผมถอนใจ

   “กูไม่อยากให้เขาแตกตื่น แค่จะออกไปขอยาแก้ปวดกินเฉยๆ”

   “คิดตื่นๆ!” มันโวย “เกิดไปล้มลงตรงที่ไม่มีใครอยู่ มึงจะเป็นไงบ้าง เคยคิดบ้างมั้ยสาม!”

   “แล้วจะตะคอกทำไมเนี่ย กูแค่ปวดหัวแล้วก็มองไม่ชัดเฉยๆ ห้องมันมืดอ่ะมึงเข้าใจป่ะ” ผมอธิบาย

   “สาม ห้องไม่ได้มืด กูไม่ได้ปิดไฟ มึงต่างหากล่ะที่มองไม่เห็น!” มันว่าจากนั้นก็ยื่นมือไปกด Nurse call รัวๆ ผมตกใจอ้าปากจะร้องห้าม มันก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ “ครั้งนี้กูจะไม่ยอมถอยอีกแล้ว มึงเตรียมใจไว้สาม”

   เท่านั้นแหละ ไม่ต้องมีเวลาได้คิดมากกับคำพูดของมัน หมอกับพยาบาลสองคนก็กรู่กันเข้าใส่ห้อง ไอ้เดย์อธิบายอาการของผมให้หมอฟังจากนั้นหมอก็ส่องไฟฉ่ายเข้าที่เบ้าตาของผมสองข้าง พยาบาลสองคนก็ช่วยกันทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม คนหนึ่งถือถาดเครื่องมือ อีกคนหนึ่งตรวจเช็คระดับความดัน หมอปิดไฟฉายส่งให้พยาบาลที่ถือถาด แล้วหันกลับมาจ้องผม

   “ได้ยินว่าเพิ่งเป็นก่อนจะมาโรงบาลใช่มั้ยครับ” หมอถามผมก็งง

   “เป็นอะไรครับ?”

   “อาการเหมือนยืนไม่อยู่น่ะครับ”

   “อ้อครับ ตั้งแต่โดนรุ่นพี่ต่อยที่มอ พื้นมันก็เหมือนเหวี่ยงๆ อ่ะครับ”

   “แล้ว เรื่องที่มองไม่เห็นจนต้องรอผ่านไปสักพักล่ะครับ”

   “อันนี้เพิ่งมาเป็น...” ผมหยุดคิดอยู่หลายวินาที “ครับ เพิ่งจะมาเป็นตอนอยู่ที่โรงบาลนี่แหละ”

   “อืม ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะลองปรึกษากับคุณแม่ของคนไข้ดูนะครับ”

   “ปรึกษาเรื่องอะไรครับ?” งงเข้าไปไอ้สามเอ้ย

   “คือการใช้CT Scan กับคนไข้เกี่ยวกับสมองเมื่อวันที่ได้เข้ารับการรักษา หมอมีความเห็นว่าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดให้แค่ใช้ยารักษา แต่ในกรณีของคนไข้ผมคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้ก็น่าจะผ่าครับ ผมเคยเห็นกรณีตัวอย่างคนไข้มาก็มาก แต่ไม่เคยพบว่ามีคนไข้เสียความทรงจำระยะสั้นบ่อยครั้งเท่านี้ และที่หน้าทึ้งกลับไม่เป็นปัญหาต่อชีวิตประจำที่ผ่านๆ มาด้วย”

   “หมายความว่าไงครับ สูญเสียความทรงจำระยะสั้นบ่อยครั้ง?” สมองไอ้สามคิดตามไม่ทัน

   “คือ เท่าที่ผมทราบมา คุณแม่ของคนไข้ได้แจ้งผม จริงๆ ก็รวมหมอเจ้าของไข้คนก่อนที่ตอนนี้เกษียณไปได้หลายปีแล้วว่า หลังจากคนไข้เกิดอุบัติเหตุตกตึกชั้นเรียนเมื่อหลายปีก่อน ได้มีการเข้ารักษาแล้วมักจะมีอาการหลงลืมแบบเป็นรายบุคคลและเหตุการณ์สำคัญบางอย่าง ทว่าในเรื่องชีวิตประจำวันคนไข้กลับจำได้อย่างครบถ้วนดีครับ”

   “หมอจะบอกว่าผมลืมคนเป็นบางส่วนเหรอ?” ผมถาม

   “ครับ เท่าที่ผมทราบก็น่าจะเป็นยังนั้น” หมอตอบแล้วรับเข็มมาจากพยาบาล น้ำยาสีเข้มในหลอดพุ่งปรี๊ดเมื่อหมอออกแรงกดตรงปลายด้านหลัง ผมกลืนน้ำลาย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นเข็มใหญ่กว่าเมื่อกลางวัน

   “หมอบอกผมได้มั้ยครับ เช่นใครบ้างที่เข้าข่ายว่าผมน่าจะลืม”

   “อืม อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวคนไข้เองนะครับ เพราะผมก็ไม่สามารถบอกรายระเอียดได้เหมือนกัน” หมอทิ่มเข็มลงบนผิวหนังของผม กดปรื๊ดเดียวยาหมดหลอด

   “อย่างคนรักหรือเพื่อนสมัยเด็กนี่มีสิทธิ์มั้ยครับ” ผมเหลือบมองหน้าไอ้เดย์ก่อนจะเอ่ยปากถามหมอตรงๆ มันตะขิดตะขวงในใจยังไงบอกไม่ถูก โดยเฉพาะความเด็กชายที่ผมเห็นในความฝัน และผมชักจะรู้สึกว่าพักหลังๆ ไอ้เดย์มันมีอิธิพลต่อผมมากเกินไป

   “ถ้าเกิดมีบางอย่างไปกระตุ้นให้คนไข้เจ็บปวดจนถึงที่สุด บวกกับอาการป่วยของคนไข้เองด้วย ในกรณีนี้ผมว่าก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงครับ”

   “งั้นถ้าผมผ่าตัดจะมีโอกาสหายดีมั้ยครับ” ผมถามเรื่องง่ายๆ แต่หมอกลับทำหน้าคิดหนักเหมือนโลกจะแตก “มีมั้ยครับ?”










   “ทางโรงพยาบาลเราจะทำอย่างเต็มที่ครับ” ทิ้งไว้แค่นี้ หมอก็เดินออกไป ผมนวดขมับพลางล้มตัวลงนอนหลับตา ไม่รู้จะเริ่มคิดจากส่วนไหน ผมลืมตามองไอ้เดย์ที่ยังคงยืนไม่ห่างจากผม มันทำหน้าเศร้า และหัวใจผมก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา






 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:






ยาวพอม้ายยยยย *หมายเหตุ กรณีทางการแพทย์คนเขียนความรู้เท่าหางอึ้ง ฉะนั้นผิดพลาดประการใดผู้รู้โปรดชี้แจง* เอิ่ม เรื่องมันเศร้า จะมาม่าก็ไม่เชิง อึมครึมเนอะ เงื่อนงำในอดีตของสามก็จะเผยให้เห็นเรื่อยๆ ฉะนั้นติดตามอย่าได้พลาด รักคนอ่าน อวยคนเม้นส์  :mew1:



ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
อาการหนักนะ้เนี่ยยยย  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
เหยยยยย นึกว่าจะแค่จำไม่ได้เฉยๆ
ไม่นึกว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้นะเนี่ย
สงสารเดย์เบาเบา
 :mew2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Tun_Bow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
เอิ่ม...สามออกจะน่ารัก เดย์โผล่มาตอนแรกอย่างเท่อ่าา ให้สามเคะเถอะนะ พลีสสสสส

//สามความจำเสื่อมแบบไม่รู้ตัวนี่เองถึงจำเดย์ไม่ได้
ปล, ชูป้ายไฟเชียร์เดย์กดสาม ทำโทษสามเลยที่บังอาจลืมเดย์ ฮาาา :laugh:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อาการน่าเป็นห่วง T.T

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :hao5: สามอย่าเป็นอะไรไปนะ


ปอลิง: ให้สามเคะนะ  :m26:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
เดย์รีบทวนความจำให้สามด่วนน  :hao5:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
น่าสงสารสาม สงสารเดย์ด้วยที่ถูกลืม

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หวยออกที่พี่ตั้ม ดั้นมาโง่ใส่สามเอาตอนระเบิดเวลาสมัย ม.2  :ruready

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
ออๆ เพราะงี้เลยลืมเดย์


รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4
ตอนที่ 18 คำประกาศของคนหล่อ









   แม่มาเยี่ยมในตอนสายของวันรุ่งขึ้น ผมบอกไอ้เดย์ให้กลับไปเรียน แต่แม่บอกมันเหนื่อยเฝ้าผมมาสามคืนแล้ว ควรจะกลับบ้านไปพักผ่อนมากกว่า ผมเองก็เพิ่งมารู้เอาตอนนี้ ตลอดเวลาที่ผมนอนไม่ได้สติอยู่โรงพยาบาลไอ้เดย์จะคอยอยู่เฝ้าผมไม่ห่าง จะมีออกไปข้างนอกบ้างก็แค่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปโรงพักตอนกลางวันในช่วงที่ไอ้เพทายมันว่างมาอยู่เป็นเพื่อนผมด้วยเท่านั้น
.
.
.

   ผมทึ้งในความห่วงใยของมันปนความแคลงใจที่อยู่ลึกๆ ข้างใน แม่หยิบตระกร้าหวายเดินไปตรงเค้าน์เตอร์วางของ จัดขนมไทยที่ผมชอบใส่จานจนพูนแล้วเปิดแช่ในตู้เย็น

   “สามอย่าลืมกินนะลูก แม่จะออกไปคุยกับหมอแล้วจะเลยกลับบ้านไปช่วยหนึ่งกับสองขายของเลย อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย?” แม่หันมาถาม หน้าตาของแม่ซูบซีดกว่าปกติ ผมคิดว่าน่าจะมาจากเรื่องของผมเป็นสาเหตุหลัก

   “อื้อ สบายๆ แม่ก็ขายของไปเหอะ ค่ำนี้ก็ไม่ต้องมานะ นอนพักเยอะๆ ฝากบอกพี่หนึ่งกับพี่สองด้วยว่าไม่ต้องห่วงสาม” ผมยิ้มกว้างให้แม่สบายใจ ส่วนในใจเป็นห่วงหน้าที่หุงข้าวว่าใครเป็นคนทำแทนหนอ

   “ใช่ครับ แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะอยู่เป็นเพื่อนสามเอง” ไอ้เดย์เสนอตัว แม่มองหน้ามันแล้วส่ายหัว

   “เดย์กลับบ้านเถอะลูก เดี๋ยวคนที่บ้านเราเขาจะว่าเอาได้นะ แล้วนี่ได้ยินว่าขาดเรียนมาเฝ้าด้วยใช่มั้ย ไม่ดีนะ”

   “ผมไม่เป็นไรครับ” มันตื๊อ

   “อย่าดื้อลูก มันจะกลายเป็นปัญหาอีก กลับไปเถอะ สามมันเก่ง มันอยู่คนเดียวได้”

   “มึงกลับไปเหอะเดย์ ขอบใจที่มาเฝ้าไข้กู ตอนนี้กูไม่เป็นไรแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนไม่ก็ไปเรียนเถอะ” อีกครั้งที่ความไม่รู้ทำให้ผมสำทับคำของแม่ไป

   “แต่...”

   “เดย์ ช่วยไปส่งแม่ที่ห้องหมอหน่อยสิลูก แม่ไปคนเดียวไม่ถูก” แม่วาน จากนั้นก็เดินหิ้วตระกร้าหวายเปิดประตูออกไปจากห้อง ไอ้เดย์หันมามองผมด้วยสายตาเว้าวอนอยู่พักหนึ่งถึงจะเปิดประตูตามแม่ออกไป

   “จะต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขาวๆ เหม็นกลิ่นยาค่าเชื้อนี่ไปอีกนานแค่ไหนวะกู” ผมนอนก่ายหน้าผากถามตัวเองขณะมองดูพื้นเพดาน

สามวันมานี้ นอนเป็นหลัก กินเป็นรอง เข้าห้องน้ำหนึ่งในสองต่อวัน จะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างก็เมื่อเช้ามืดตรงระเบียงก่อนแม่มาเยี่ยมเพื่อคุยเรื่องผ่าตัด...อื้อ ใช่ วันนี้หมอจะพูดกับแม่เรื่องนี้ บอกตรงๆ ผมยังรับไม่ค่อยได้ ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรร้ายแรงถึงขั้นต้องใช้มีดจิ้มกะโหลกแหวกดูสมองข้างใน ระยะหลายปีที่ผ่านมาผมแข็งแรงดีตลอด อาจรู้สึกปวดหัว หน้ามืดเดินเซบ้าง แต่กระนั้นก็ไม่เคยล้มป่วยจนเข้าโรงพยาบาลหลายวันแบบนี้ ยกเว้นล่าสุดที่ได้เข้าก็ตอนต่อยกับไอ้เดย์เรื่องน้ำนั่นไง
.
.
.

นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไอ้เดย์ก็กลับเข้ามาในห้อง ผมนอนดูมันจับนู้นหยิบนี่อะไรก็ตามที่เป็นของมันเก็บใส่กระเป๋า เก็บหมดก็รูดซิบวางกระเป๋าลงบนโซฟาที่มันใช้หลับนอนเมื่อคืน ก่อนจะเดินมายืนข้างเตียง ผมว่านะ สีหน้ามันยิ่งกว่าคนป่วยอย่างผมอีกครับ ดูไม่ดีเอาเสียเลย

“มึงจะกลับบ้านใช่มั้ย” ผมถามมันที่ยืนมองผมนิ่งๆ

“อืม”

“ไม่เป็นไรนะ” ไม่เชิงห่วง เพียงแต่สงสัยว่ามันออกไปทำอะไรมากันแน่ หน้าตาถึงได้ซึมเศร้ากว่าครั้งที่ออกไปขนาดนี้

“กูไปได้ยินแม่มึงคุยกับหมอมาว่า วันมะรืนมึงอาจจะได้ผ่าตัด”

“อ้อ ก็เร็วดีนะ” ผมบอกราวกับไม่แยแส แหงล่ะ แกล้งทำทั้งเพ

“สาม...” ไอ้เดย์เรียกชื่อผมแล้วน้ำตามันก็ปริ่ม

“เฮ้ย หมู่นี้มึงชักจะร้องไห้เยอะไปแล้วนะเว้ย!” ผมตกใจกระเด้งตัวลุกพรวดขึ้นมานั่งมองหน้ามันที่ตาแดงเอ่อไปด้วยหยาดน้ำใส

“ไม่ใช่เพราะมึงหรือไง” มันย้อนผิดจากที่เคย

“กูญาติมึงเหรอ ก็ไม่ใช่ ร้องไห้ทำไม กูป่วยนะครับ ยังไม่ตาย” ลากผ้าห่มขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้มันอย่างลำบากใจ “ตัวก็โต(ปานควาย) หน้าก็หล่อ หุ่นงี้แม๊นแมน อย่ามาเสียน้ำตาให้คนที่เคยคิดว่ามึงเป็นปรปักษ์อย่างกูเลยว่ะ ไม่ชิน”

“โตแล้วร้องไห้ไม่ได้ไง” มันเบ้หน้าถามเมื่อผมเอาผ้าห่มปาดน้ำตาแรงๆ

“ไม่รู้สินะ” ผมยักไหล่กวนตีนไอ้เดย์นิดหน่อย มันทำค้อนจะยกมือขึ้นทำร้ายผม “อ๊ะๆ อย่าใช้ความรุนแรงนะจ๊ะเบบี๊ แหม...ตอนแรกมึงดูหยิ่งๆ โหดๆ พอเห็นมึงร้องไห้กูก็ว่ามันไม่แมทกันอย่างแรงอ่ะ” ครึ่งหลังนี่ตอแหลล้วนๆ ความเป็นจริง มันเป็นพิษต่อระบบหัวใจไอ้สามครับ น่ารักเกิ๊น

“ไม่ป่วยกูจะชกให้” มันชี้หน้า

“เหรอจ๊ะ” ไอ้สามค้นพบสิ่งใหม่ แหย่แม่งแล้วสนุกดีว่ะ

“ไอ้เหี้ย” ไอ้เดย์ผลักหัวผมเป็นตุ๊กตาล้มลุก ผมเด้งกลับมานั่งตัวตรง ยิ้มยิงฟันให้ครบสามสิบสองซี่

“เออ จะว่าไปมึงก็ไม่เคยชกกูหลังจากมีเรื่องครั้งแรกเนอะ” เอะใจถาม

“เพราะรู้ว่ามึงจะเป็นอย่างนี้ไง” มันอุบอิบตอบ ซึ่งผมก็พอฟังออก

“ตกลงมึงรู้จักกูมาก่อนจริงอ่ะ เมื่อไหร่วะ” ไขข้อข้องใจหน่อย

“บอกไปมึงก็ลืมกูอีก”

“โอ้โหย ขยันย้ำจังเลยนะ ไอ้ประโยคทำนองนี้เนี่ย มึงจะให้กูสัญ...” ผมพูดติดขำ ทว่าคำสุดท้ายกลับไม่หลุดออกมา ความฝันที่เคยเห็นผ่านสายตาตัวเองวัยสิบกว่าขวบตอนหมดสติได้ก่อขึ้นเป็นรูปร่าง ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่าอะไรๆ ที่ผมเห็นในฝันนั้น บิดเบือนกับภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงไปมากทีเดียว “โอ๊ย!!”

“สาม...สามเป็นอะไร” ไอ้เดย์ร้องเรียกพลางเขย่าผมที่ยกมือกุมศรีษะ

“กูเหมือนจะนึกออก...เหมือนจะเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง “ ผมหยุดเงียบ ข่มกั้นความปวดร้าวแล้วพูดต่อ “...เกี่ยวกับเรื่องที่กูไม่เคยคิดว่ามันจะเคยเกิดขึ้นกับกู...แต่...อื้อ พอกูจะนึกออก กูก็ปวดหัวมาก...เป็นความรู้สึกที่แย่มากเลยว่ะ แย่จริงๆ...ใจกู หัวกู ปวดเหมือนจะระเบิด ราวกับ...คอยประท้วงให้กูรู้สึกแย่ ....ถ้ากูยังฝืนดึงดันคิดถึงเรื่องนี้อีก” ผมลดมือลงแล้วเงยหน้ามองคนใกล้ตัวที่ริมฝีปากสั่นระริก

“พยามอีกนิดได้มั้ยสาม” ไอ้เดย์ขอร้อง

“ไม่ได้ ตอนนี้กูปวดหัวมาก บอกแล้วไงว่าถ้ากูดึงดังจะคิดให้ได้ หัวกูมันเหมือนจะระเบิด”

“ไม่ยุติธรรม กูผ่านไปได้ แล้วทำไมมึงถึงทำไม่ได้” มันเข้ามาโน้มหัวผมให้ซบไปตรงอกแล้วกอดแน่น เงียบไปชั่วอึดใจผมก็ได้ยินเสียงมันพูด







“แต่ไม่เป็นไร เพราะกูได้ตัดสินใจไปแล้ว เจอกันครั้งหน้า มึงต้องเป็นของกู!”





 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:




กระซิกกระซิก เรื่องกำลังเข้มข้น มีหยอดกันตามความรั่วของสามป่ะปาย ว่าแต่ ไหงคนเชียร์สามเคะเยอะแถะ?
ชื่อตอนก็สิ้นคิดฝุดๆ อ๊ะ ปล. รักคนอ่าน อวยคนเม้นต์เด้อจ้า  :-[



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2014 23:48:57 โดย runrunna29 »

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
แอบสงสารเดย์อ่ะ แล้วสามจะเป็นไรมากมั้ยเนี่ยยยยย  :z3:

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ตอนหน้าหลังผ่าตัดจัดการด่วนเลย :mew1:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
คนเขียนขาาาาาา น้องสามนางรังสีเคะกระจายขนาดนี้ ยังจะให้นางเป็นเมะอยู่หรอ
บ่แม่นเด้อ นางเคะ อิอิ  :hao7: :hao7:
มาเป็นกำลังใจให้เด้อค่ะ
ม๊วนม่วน มักแฮง 55555555
ปล.คนบ้านเดียวกันเนาะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทำไมเดย์มันให้อารมณ์แบบส่าจะโดนสามกดมากกว่าน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Serioz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
แอบสะเทือนใจ
เราไม่คิดมาก่อนว่าสามจะเป็นหนักขนาดนี้
เดย์พยายามเข้านะ ให้สามจำได้แล้วเอาสามเป็นเมียได้แล้ว

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
อยากให้สามโดนกดอ่ะ เดย์มุ้งมิ้งไปป่ะ แมนๆหน่อยดิพี่ ฮ่าๆ :hao7: :hao7: o13 :pig4: :pig4:
(เราอยากให้สามเป็นเคะมากๆเลย ถ้าไม่ใช่ เสียใจอ่ะ)

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ bvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
บอกแล้วว่าติ๊งต๊องอย่างสามเป็นเคะ workฝุดๆ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew4: สะเทือนใจอ่ะ สามจะเป็นอะไรมั้ย

แต่ประโยคสุดท้ายของเดย์นี่มัน......  :hao6:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ตกลงใครเคะ?
แบบว่าคิดมาตลอดว่าสามสมควรเคะ
แต่อิสองตอนล่าสุดนี่แหละที่เดย์มันช่างเคะเหลือเกิน เอะอะร้องไห้ มามุ้งมิ้งๆใส่ซะงั้น
เรื่องในอดีต ครอบครัวเดย์เกี่ยวข้องแหงๆ จากที่แม่สามพูด
แล้วไหนจะตอนท้ายอีกที่เดย์พูด
มันเกิดอะไรขึ้นในอดีตหว่า?
ทำไมถึงต้องเจ็บปวดกันขนาดนี้ โดนกีดกันหรอ?

ออฟไลน์ lucifermafis

  • ชีวิตไม่มีไรทำ นั่งชิปนั่งจิ้นไปวันๆ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :oo1: ให้สามเคะเถ๊อออออออออออออออออออออ  :impress2: :กอด1: :hao5:


อวยสามเคะ!!!!

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ทำไมเดย์มันให้อารมณ์แบบส่าจะโดนสามกดมากกว่าน่ะ

ใช่มะ คิดเหมือนเรา อารมณ์นี้ สามจงเป็นฝ่ายกดเดย์ซะ

คนเขียน ถึงเราจะเป็นส่วนน้อย แต่ขอเชียร์ สามกดนะ จากใจ อารมณ์มันแบบนะ ใช่เลย ยิ่งตอนล่าสุดยิ่งใช่ สามอารมณ์มาเต็ม แล้วอีกอย่างคือเหมือนแม่สามอะ สนิทกับเดย์มากนะ แล้วยิ่งตอนช่วยงานที่ร้าน เหมือนจะรู้จักกันอยู่แล้วประเด็นนี้ น่าสงสัยมาก สุดท้ายแล้ว สามจงเป็นฝ่ายกดซะ ถึงส่วนใหญ่จะเชียร์สามเคะ แต่อ่านยังไง สามมันเหมือนเมะอะ จริงจังนะเนี่ย จริงจังมากด้วย ถ้าสามไม่ใช่เมะ อิฉัน จะไปนอนร้องไห้กระซิก กระซิก สักสามวันเลยเอ๊า 555555

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เป็นกำลังใจให้เดย์

ออฟไลน์ runrunna29

  • ก็แค่คนบ้า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-4
ตอนที่ 19 ปากไม่ตรงกับใจ









คืนก่อนวันผ่าตัด ผมต้องงดน้ำงดอาหาร ไอ้เป้กับไอ้เพทายจึงรับอาสามานอนเฝ้า เหตุเพราะกลัวว่าผมจะแอบไปจกไส้ใครเขากินกลางดึก(ไม่ใช่ปอบนะเฮ้ย!) ราวๆ สองทุ่มหลังอาบน้ำ ผมก็มานอนคว้ำหน้าเอาขาตีโป่งอ่านสมุดโน๊ตที่พวกมันสองตัวรวมหัวกันจดมาให้เป็นของเยี่ยมเล่นบนเตียง โดยมีซาวด์เสียงโทรทัศน์ประกอบหึ่งๆ เนื่องจากเปิดเสียงเบากันการใช้ไฟฟ้าโรงพยาบาลไม่คุ้ม

“ตกลงไอ้รุ่นพี่ตั้มมึงเป็นไงมั่งวะเพทาย กูไม่เห็นพวกมึงพูดเรื่องนี้เลยตั้งแต่วันนั้น” ผมถามขึ้น แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่สมุดโน๊ต ที่มีลายมือห่วยๆ สลับกันสองแบบเป็นรายวิชาไป ดูๆ ไปก็เหมือนลายแทงสมบัติหรือไม่ก็รหัสปริศนาโบราณมากกว่าจะเป็นตัวหนังสือภาษาไทยนะเนี่ย

“จะเป็นไง๊ ก็อยู่ไม่ได้น่ะสิ” มันตอบเรื่อยๆ เนื่องในไม่ใช่เรื่องของมันเอง

“หมายความว่าไง อยู่ไม่ได้?” ผมหันไปมองไอ้เพทายที่นั่งขัดสมาธิเล่นไพ่สองคนกับไอ้เป้บนโซฟา แหม...ว่างจัดจริงนะพวกมึง

“ต้องบอกว่าถูกทำให้อยู่ไม่ได้มากกว่า ทั้งไอ้พี่ตั้มทั้งยัยน้ำนั่นอ่ะ แม่ง ผู้หญิงอะไร๊ มาใส่ไฟให้คนที่ตัวเองสวมเขาให้” ไอ้เป้ขยายความ

“ยังไงวะ?”

“ไอ้พี่ตั้มโดนกดดันจากคณะวิศวะ ไปไหนมาไหนต้องหวาดผวาตลอดเพราะไอ้เดย์มันปรามาศไว้ ถ้าเห็นไอ้พี่ตั้มที่ไหน เละ! ส่วนยัยน้ำนี่ฮือฮากันทั้งมอเพราะภาพเจ้าคุณเธอที่มีเซ็กส์กับชายไม่ทราบชื่อสองนายไปร่อนอยู่ในโลกโซเชียล คนกดไลท์เป็นหมื่น!”

“พูดเป็นเล่น” ผมผุดลุกนั่งห้อยขา ออกอาการตื่นๆ ที่มีชื่อและคณะไอ้เดย์มาร่วมด้วย แถมยังเสียวสันหลังวาบกลัวว่าไอ้เจ้าของชื่อนี้จะโผล่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง ไม่ให้กลัวได้ไง ในเมื่อตั้งแต่วันที่มันบอกผมว่าจะเอาผมเป็นของมัน ยันป่านนี้ผมยังไม่เห็นหน้าแม่งเลย

“อยากจะดูคลิปที่ว่ามั้ยล่ะ” ไอ้เพทายทำท่าจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์โชว์หลักฐานคำพูดไอ้เป้

“ไม่อ่ะ บาดใจ” ผมปรามมันไว้ แม้ว่าใจจริงของผมจะเลิกรู้สึกอะไรกับน้ำไปนานแล้วก็เหอะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นอยู่ดี

“มึงยังรักอีนี่อยู่นิ” ไอ้เป้ทิ้งไพ่แล้วหันมาถาม

“ไม่ได้รักแล้ว แต่มึงเข้าใจป่ะคนเคยคบ เคยมีเวลาร่วมกัน มันก็ต้องมีสายสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดบ้าง อีกอย่างกูก็ไม่ได้แค้นน้ำเขามากมายขนาดนั้น”

“ไอ้คนดี...ดีซะทำคนอื่นช้ำไม่รู้ตัว ควาย”

“บ่นไรมึง กูเคยทำใครเจ็บที่ไหน”

“ลองถามใจมึงเองสิ เอ้า ตีมางี้ก็...โง่!!” ไอ้เป้น็อคไพ่ตัวที่ไอ้เพทายทิ้ง ทว่ากลับพูดคำสุดท้ายใส่หน้าผม หลอกด่ากูเปล่า?

“อยากถามอยู่เหมือนกัน ถ้ามันมีปากตอบกูได้น่ะนะ” ผมสวน ไม่สนใจคำพูดของมันมากนัก “แล้ว เอ่อ...ไอ้เดย์เป็นไงมั่ง มันไปเรียนมั่งเปล่า” จู่ๆ ใจมันก็เรียกร้องให้ถามถึงซะอย่างนั้น ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

“ไม่รู้” ไอ้เป้ตอบ

“เฮ้ย ไม่รู้ได้ไง” ผมแอบท้วง ขัดจิตกับคำตอบมากมาย

“แหม ไอ้สาม กูเรียนคณะเดียวกับมันเหรอครับ... ก็ไม่ใช่ กูแค่ชอบน้องสาวมันนะเว้ย จะให้ไปรู้ความเป็นอยู่ว่ามันจะมาเรียนหรือไม่มาเรียนได้ไง อยากรู้มึงก็โทรไปถามมันเองดิ” หน้ามึงปฏิเสธ แต่กูฟังจากน้ำเสียง เหมือนสะใจกูไงชอบกล

“ทำไมกูต้องโทร กูไม่ได้เป็นไรกับมันสักหน่อย” ผมทำหน้าบึ้ง ไอ้เป้ลุกไปเปิดน้ำในตู้เย็นดื่มชิลๆ ล่อหน้าล่อตากูอีกแม่ง!

“เออ ไม่ได้เป็นไรกับมัน แล้วมึงจะถามหาทำหอกไรไม่ทราบ”

“เปล่า แค่ถามดูเฉยๆ เอ๊อ! มึงก็แม่ง คิดไปถึงไหน วู้ ไม่พูดด้วยละ กวนตีน” ผมบอกผสมด่ามันไปแล้วล้มตัวนอน พลันได้ยินเสียงไอ้เป้แว่วตอกกลับมาเบาๆ

“ไอ้พวกปากไม่ตรงกับใจ”
.
.
.
.



ก่อนจะถูกนำตัวส่งเข้าห้องผ่าตัดในตอนเช้า แม่วันดีซึ่งยอมปิดร้านหนึ่งวันมายืนน้ำตาซึม ยิ้มบอกผมที่อยู่บนเตียงว่าไม่ต้องห่วงอะไร ทำใจสู้เข้าไว้เพราะผมต้องหายดี พี่หนึ่งกับพี่สองจับมือผมแน่นแล้วสวดให้พรกันยกใหญ่ ผมว่าพี่สาวของผมก็น่ารักนะในเวลาแบบนี้ ส่วนไอ้เป้และไอ้เพทายวันนี้พร้อมใจกันโดดเรียนตามมาส่งผมถึงหน้าห้องผ่าตัด

ผมใจแป่วนิดนึงที่ไม่ได้เห็นหน้าทุกคนแล้ว แสงไฟในห้องผ่าตัดสว่างจ้า บรรดาหมอและเหล่านางพยาบาลผู้ช่วยต่างพากันง่วนอยู่กับหน้าที่ของแต่ละคน ในขณะที่สติของผมกำลังจะเลือนรางจากฤทธิ์ยาสลบ







ใบหน้าเด็กผู้ชายในความฝันครั้งก่อนก็กลับมา...







 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:





รักคนอ่าน อวยคนเม้นต์  ปล. เรื่องของเคะนี่แล้วแต่คนชอบ เนอะ :katai2-1:






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2014 13:51:34 โดย runrunna29 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด