อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อยากให้พระอาิทิตย์ตกดินตอนสามทุ่มครึ่ง ((มีหนังสือพร้อมส่ง)))//ข่าวภาคสอง พระอาทิตย์หลังฝน  (อ่าน 118691 ครั้ง)

A. marco

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้ แต่อ่านแล้วกลัวมั๋ก
ไม่แน่ใจที่รุ่งโรจน์ทำกับยะบ่อยๆ  กอดเอว, ซบบ่า, จับแขน, พูดให้อีกฝ่ายหน้าแดง, บลาบลาๆ เนี่ย ทำเพราะไม่ได้คิดอะไรใช่มั้ย
แล้วไม่อยากให้มันเป็นรักสามเศร้าที่มีแสงทองในนั้น  เพราะสงสารใครคนนึง

A. marco

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่ามันคงไม่แซดเอ็นดิ้งใช่มั้ยครับพี่คนเขียน  ว่าแต่พี่ชื่ออะไรครับจะได้เรียกถูก?

ชีวิตจริงของเกย์มันก็น่าเศร้าอยู่แล้ว  น้อยคู่มากๆที่จะสมหวัง แล้วดูรุ่งโรจน์กับยะ มันส่อแววว่าโอกาสที่จะสมหวังเนี่ย 0.1 เปอร์เซ็นท์

อย่าจบเศร้าเลย

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
วันนี้ก็ยังไม่มา รออยู่ครับ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
สงสัยจะมาดึกๆอีกละ







รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :L1:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
เพิ่งเข้ามาอ่านคะ อ่านแล้วติดหนึบเลย
ชอบมากคะ ดูรุ่งจะสนใจสุริยามากทีเดียว
โหวว มีงอนมีน้อยใจ


รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ อย่าให้รอนานน้า
+1 จ้า เป็นกำลังใจให้นะคะ

AciLiS

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
ชอบที่เรื่องนี้มีศาสนาเข้ามาสอดแทรกไว้ด้วย
ในความเห็นของคนที่ศรัทธาในพระพุทธสาสนาอยู่แล้ว รู้สึกว่าดีใจที่ได้อ่านงานเขียนทำนองนี้
แต่ดูบรรยากาศของเรื่องแล้วท่าทางเป็นเรื่องเศร้านะคะเนี่ย
ไม่อยากได้เศร้าตอนจบเหมือนกัน
ความสัมพันธ์ของคน 3 คน เฮ้อ
รอตอนต่อไปค่ะ

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #96 เมื่อ25-04-2011 02:33:20 »

 :sad4:
กลับมาแล้วครับ..

เอาบุญมาฝากกกกกกกกกกกก...

สาธุ สาธุ สาธุ
 :call: :call: :call: :call:

กลับมาจนดึก พม่ามีเน็ตครับแต่ว่าเน็ต(พม่า)สุดทน..ขอบคุณสำหรับทุก  ๆกำลังใจนะครับ ขอโทษด้วยที่ลืมเปลี่ยนชื่อตอน แล้วก็ สำหรับที่นี่ เรียกผม คุณนพ หรือ อนพ แล้วกันครับ หลังจากนั้นจะเรียกชื่อตามนามปากกาจริง ๆ ก็ค่อยว่ากัน.. (5555))

 หลาย  ๆ คน คาดการณ์ไว้ว่า น่าจะเศร้าเพราะกลิ่นมันออก ...ถ้าเศร้าเเล้วมีคนตาย สปอยด์ นิดหน่อยว่า ไม่มีครับ
..แต่เป็นเศร้าแบบอิ่มใจมากกว่า แต่ว่าจะแบบไหนนั้น..ต้องตามอ่านกันต่อไปครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกครั้งครับ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



 
ตอนที่ 11.
   
 :pig2: :pig2:
   เมื่อรุ่งโรจน์จัดการกาแฟและขนมปังปิ้งทาเนยเรียบร้อย เขาก็สั่งเช็คบิล พอบริกรมาถึงเขาก็ส่งบัตรเครดิตให้โดยไม่สนใจเงินสดที่สุริยาถือไว้ หลังจากนั้นก็ชักชวน สาวแสงทองไปที่ร้านเสื้อผ้า

   สุริยาเมื่อเห็นดังนั้น จึงไปนั่งรอที่โต๊ะหินตัวใกล้ ๆ กับที่รถจอดอยู่ พลางอ่านหนังสือ แนะนำที่ท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบฯ ด้วยความรู้สึกไม่สู้ดีนัก สักพักทั้งคู่ก็พากันกลับมา โดยแสงทองอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวรัดรูปกางเกงขาสามส่วนยาวถึงเข่าทันสมัย ใบหน้าสดใสพอมีต่างหูห้อยตุ้งติ้ง กับสร้อยเม็ดหินเข้าชุดทำให้มีประกายเปล่งปลั่งอย่างแปลกตา

   เมื่อเดินมาถึงรถรุ่งโรจน์เปิดประตูฝั่งคนขับ เรียกแสงทองมานั่ง พร้อมกับที่ตัวเอง ไปนั่งแทนที่ของสุริยาทางด้านหน้า แสงทองเห็นสุริยายังเฉยจึงตะโกนเรียกให้ขึ้นรถ
เมื่อคนรู้เส้นทางมาถึง แสงทองจึงถามว่า

   “จะไปไหนก่อนเจ้าคะ เดี๋ยวสารถีแก้วคนนี้จะพาไป”

    “อยากไปห้วยมงคลใต้ แต่ต้องสำรวจใน อ.ปราณบุรี นี่ก่อน” คำพูดของสุริยาเหมือนเพียงคุยกับแสงทอง

   “อ้าว.. เกียร์ออโต้นี่หนูไม่เคยขับ” แสงทองตกใจเมื่อเห็นเกียร์รถ แต่รุ่งโรจน์บอกว่า

   “เหมือนกัน แบบนี้เหยียบอย่างเดียวไม่มีครัช N เกียร์ว่าง D เดินหน้า R ถอยหลัง แค่นี้ ไม่ยากหรอก มีพื้นฐานอยู่แล้วนี่ ดึงเบรกมือลงด้วย เวลาถอยก็เปิดไฟยกเลี้ยว..”

   “ไปทางไหน ขับตรงไปทางเขากะโหลกก่อน ค่อยย้อนกลับมาหาดนเรศวร และวัดถ้ำเขาน้อย..” สุริยาบอกความประสงค์ โดยรู้สึกว่าแสงทองทำได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้ หญิงสาวดูมีประสบการณ์ขับขี่รถยนต์จนเชี่ยวชาญทีเดียว ผิดกับตน วันนั้น ครูจึงดุเอาตั้งหลายหน ก็คนมันไม่เคยได้จับเลย จะเป็นในทันทีได้อย่างไร

   หญิงสาวขับไปจนสุดถนน สุริยาสั่งให้เลี้ยวกลับแล้วก็เลี้ยวซ้ายไปทางวัดถ้ำเขาน้อยพอถึง สั่งให้ชะลอความเร็ว พอพ้นที่หมายก็สั่งให้เร่งน้ำมันไปตามทางหลวงหมายเลข 3618 ผ่านเขาใหญ่ แล้วเลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อย ๆ แล้วก็เลี้ยวซ้ายสู่ถนนเส้นเดิม ก่อนจะไปถึงทางตันที่ปากน้ำปราณบุรี แล้ววนรถออกมา เลี้ยวขวาแล้วก็เลี้ยวขวา ขับตรงไปใช้สะพานข้ามแม่น้ำปราณบุรี ลัดเลาะเขาเจ้าแม่ไปเลี้ยวขวาอีกสองครั้งแล้วรถก็เข้าชุมชนใหญ่ถนนแคบไปสุดที่เขาเต่า มีวัดอยู่บนหน้าผาติดทะเล พอถึงแล้วให้ถอยกลับทางเดิม มุ่งกลับมาที่เมืองหัวหิน ไปวัดเขาตะเกียบ ระหว่างทางขึ้นวัด เขาสั่งให้สารถีสาวจอดแล้วซื้อปลาหมึกย่างมาสิบไม้ แล้วรถสีดำก็แล่นพาขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ ไปสุดที่ลานจอดรถ แล้วสุริยาก็ชวนแต่แสงทองว่า

   “ขึ้นไปไหว้พระธาตุบนยอดเขากัน”

   “ผมจะนอนรอที่นี่แล้วกัน” รุ่งโรจน์ปฏิเสธลอย ๆ สุริยาจึงเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นไปกับแสงทอง โดยไม่แม้แต่จะชวนคนที่นอนรออยู่ให้กินปลาหมึกย่างถุงนั้น...และเมื่อขึ้นไปถึงเขาก็จุดเทียนและธูปบูชาสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่แขวนไว้บนกลางโดมเจดีย์ ...อธิษฐานจิตดั่งเคยกระทำ ..ซ้ำ ๆ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นแห่งเจตจำนง

   เกิดชาติหนึ่งภพใด ให้ได้เป็นมนุษย์ ให้ได้เพศบริสุทธิ์ ให้ได้พบพระพุทธศาสนา

   ให้เกิดมาในตระกูลสัมมาทิฐิ มีบัณฑิตเป็นกัลยาณมิตร..

   กล่าวถึงตรงนี้สุริยาก็นึกถึงรุ่งโรจน์ เขาจะมาเป็นอะไรสำหรับตนแน่..อาการที่กอดจูบเขาเมื่อเช้ามันบ่งบอกให้รู้ถึงอารมณ์บางอย่างที่เขาไม่คุ้นเคย...

   อย่าได้คิดไปทำร้ายใคร และใครอย่าได้มาทำร้ายเรา ให้เดินทางปลอดภัย ...รอดจากอุปัทวันอันตรายทั้งปวงฯลฯ

   อธิษฐานจบก็ถือดอกไม้เวียนประทักษิณท่องบท อิติปิโสฯ โดยที่แสงทองไม่มีคำถามใด ๆ ด้วยเขาเคยบอกบนรถทัวร์ให้ได้รับรู้เหตุสำคัญนี้ไปแล้ว..การอธิษฐานก็คือการวางผังชีวิต คำที่เขากล่าวนำ เป็นสิ่ง ดี ๆ สายกลางที่ทุกควรจะมี จะเป็น..นอกจากนี้ ก็คือเรื่องที่แต่ละคนปรารถนาตามกำลังสุขทุกข์ในปัจจุบัน

   เมื่อลงจากเขา พบว่าคู่กรณีไม่ได้นอนอยู่บนรถ แต่ไปยืนดูเสื้อผ้า..คล้ายกำลังต่อรอง จึงบุ้ยปากให้แสงทองเข้าไปหา..พอกลับ
มา..ในมือของรุ่งโรจน์มีถุงผ้ากับถุงใส่กรอบรูปส่งให้มาวางทางเบาะหลัง..

   “ผมซื้อให้คุณสีขาวสวยดี จะได้ใส่ไปวัด” สุริยายกมือไหว้ ไม่กล่าวคำว่าขอบคุณ..อีกคนจึงยิ้มนิด ๆ แล้วเรอออกมา

   สุริยามองหาถุงปลาหมึกย่าง...เมื่อได้ยินเสียงเรอจึงเข้าใจความหมาย..ขาลงเขาจึงให้แสงทองแวะซื้อหมึกไข่ย่างอีกยี่สิบไม้..เมื่อชอบก็ควรกินให้เต็มคราบ

   “นี่กะกินกันให้ตายไปข้างเลยใช่ไหม”

   พอออกจากวัด สารถีแก้วก็ทำตามคำสั่ง ..ซ้าย.. ขวา.. ตรงไป..เบรก.. จนถึงเขาหินเหล็กไฟ ..แสงทองพอรู้ว่า ทัวร์แบบเที่ยวไปด่าไปเป็นอย่างไร จึงหัวเราะกิ๊ก ๆ ถ้าไม่ลงจากรถแสดงว่าไม่น่าสนใจ...ไม่อยู่ในข่ายที่จะพาใคร ๆ มาเที่ยวชม..จึงเอ่ยถามว่า

   “เป็นความผิดของใคร”

   “ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก..เจ้าอาวาสท่านไม่ได้ตั้งใจสร้างวัดให้เป็นที่ท่องเที่ยวก็เท่านั้น” สุริยารู้ความหมายของคำถาม..แต่ในวันนั้นทางวัดจัดงานปาริวาสกรรมมีพระภิกษุมากางกลดปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก สุริยาลงจากรถถามหาตู้บริจาค..

   ร่วมบุญให้กับพระปฏิบัติตามเสขิยวัตร พอกลับมาขึ้นรถแสงทองถามทันที

   “คืออะไรหรือ..”

   “อธิบายยากนะ เป็นเรื่องของวินัยพระในการปลงอาบัติครั้งใหญ่ ทำนองถูกลงโทษกักกันบริเวณให้สำนึกผิดต่อสิ่งที่ล่วงละเมิดพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ..แต่บางองค์ก็ไม่ได้ล่วงละเมิดหรอก มาดัดนิสัยตนเอง บวชอยู่วัดก็ยากแล้ว ออกมาเคร่งครัดในระเบียบปฏิบัติแบบนี้ยากกว่า” สุริยายังอธิบายในหัวข้อพระวินัยจนกระทั่งในเวลาเที่ยง รถไปถึงวัดห้วยมงคลใต้ ซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อทวดหน้าตักเก้าเมตร บนฐานชุกชีกลางแจ้ง..คนที่มีศรัทธาเป็นทุน รีบลงจากรถ พลางชะโงกหน้ามาถาม..คู่กรณีนิดนึงว่า

   “ไปไหม” รุ่งโรจน์ตอบกลับมาว่า

   “ร้อน” แสงทองก็สั่นหน้า.

   “ไหว้บนรถแล้วกัน”

   สุริยาจึงเดินเอามือป้องหน้ากันแดดไปซื้อธูปเทียนพวงมาลัยดอกไม้ แล้วหยุดที่ตรงจุดสักการะหน้ารูปหล่อหลวงพ่อ เขาจุดธูปเทียนวางดอกไม้สักการะ ขณะหลับตาก็รู้สึกว่าใบหน้าของตนมีเงาร่มมาปิดบังแสงแดดไว้ ไม่ยอมลืมตาด้วยคิดว่าเป็นบารมีของหลวงพ่อที่ช่วยดลบันดาลให้มีเมฆครึ้มปกคลุม แต่พอลืมตา จึงเห็นว่าเป็นใครที่กางร่มบังแดดให้ จึงพูดคำว่า

   “สาธุ” แล้วก็ยิ้มกว้าง ประมาณว่า

   “ดีด้วยก็ได้”

   และภาพที่แสงทองเห็นก็คือ สองหนุ่มเดินเบียดชิด ในร่มคันเดียวกันกลับมาที่รถ..

   “ไปกินข้าวฟรีในโรงทาน” รุ่งโรจน์ร้องบอก แสงทองจึงปิดแอร์ดับเครื่องก้าวลง แล้วล็อกรถ ก่อนจะมุดเข้ามาในร่มอีกคน..

   “ในท้องยังแน่นไปด้วยปลาหมึกยั้วเยี้ย แต่ของฟรี ก็กินไว้ก่อน ประหยัดช่วยคุณชาย”..

   ส่งผลให้รุ่งโรจน์เคาะหัวให้ หมั่นไส้ในคารมคมหอก







anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #97 เมื่อ25-04-2011 02:35:55 »

เมื่อขากลับออกมา สารถีหน้าใหม่ จึงขึ้นประจำการทำหน้าที่..


   “เสียวไปชนกับเขา ให้แสงทองขับเถอะ”


   “ถ้าไม่หัด มันก็ไม่เป็น ชนก็ชนไปซิ” ครูเสียงแข็ง


   “ใบขับขี่ก็ไม่มี ถ้าตำรวจจับ”


   “ขับออกไป ถ้าจับก็จ่ายตามจริง”


   สุริยาหันมาแกล้งทำตาเขียวใส่ แล้วก็เคลื่อนรถออกไปอย่างทุลักทุเล..กว่าจะเหยียบเร่งน้ำมันราบเรียบ เลี้ยวซ้ายขวาไม่กระตุก ก็เล่นเอาผู้โดยสารหญิง ใจหายใจคว่ำไปหลายรอบ


   และสุดท้ายมันก็ดีขึ้น ไม่มีอะไรดีกว่าคนไปได้


   เมื่อรถแล่นออกมาถึงถนนเพชรเกษมคนที่ทำหน้าที่ ดูแผนที่เริ่มสับสน คนที่ขับจึงต้องเลี้ยวเข้าไปจอดที่ร้านแม่กิมอะไรสักอย่าง..และไหน ๆ ก็ไหน ๆ จึงลงจากรถซื้อขนมจากเมืองเพชรกลับไปฝากป้าและพี่สมใจ..รวมถึงคนที่นั่งปากมันอยู่ในรถนั่นด้วย

   แต่คนที่ตามไปจ่ายเงินให้ คือเขาคนนั้น ลูกคุณแม่ไฮโซ นั่นเอง..


   “แสงทองอยากได้อะไรไปฝากเพื่อน ไปเลือกได้เลย..” รุ่งโรจน์ยังพูดไม่จบก็มีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามาหา พร้อมกับยกมือไหว้..


   “คุณรุ่งโรจน์”


   รุ่งโรจน์หันมายิ้มให้ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก..


   “มากับใครคะ”


   “มากับเพื่อน”


   “ไหนคะเพื่อนคุณ” รุ่งโรจน์ชี้ไปที่ชายกับหญิงคู่นั้นอย่างไม่เต็มไม้เต็มมือนัก

   “ไม่เห็นคุ้นหน้าเลย..ลูกบ้านไหนคะ” สาววัยกลางคนยังซักไม่เลิก แต่อีกหนุ่มหาตอบตรงประเด็น รีบเรียกทั้งคู่มาจ่ายเงินค่าสินค้า แล้วขอตัวกลับ โดยตัวเองทำหน้าที่สารถีเสียเอง

   “ใคร” คำถามสั้น ๆ จากปากแสงทอง

   “คนสนิทคุณแม่นะซิ” พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็แผดเสียงขึ้น

   “แม่หรือครับ มากับเพื่อนครับ เพิ่งรู้จักกันครับ..เอ่อบ้านอยู่เชียงใหม่ครับ คนที่ผมบอกว่าเคยช่วยผมตอนไปเที่ยวเชียงใหม่เมื่อวันก่อนนะครับ”

   สุริยาเงี่ยหูฟังเพื่อประเมินสถานการณ์ โดยแสงทองเองก็มีทีท่าไม่ต่างกัน

   “กลับพรุ่งนี้ครับ..ให้กลับวันนี้หรือครับ ..ธุระยังไม่เสร็จเลยครับคุณแม่..ได้ครับ ได้..โอเคนะครับ” เขากดวางโทรศัพท์โดยไม่สนใจใบหน้าที่มีคำถามของสุริยา..

   “พี่ยาไม่แวะ พระราชนิเวศมฤคทายวันรึ”

   “ไม่หรอก ออกมาคนละทางแล้ว ..ไปพระราชวังบ้านปืน แล้วเขาวัง สำรวจวัดในบริเวณเมืองเพชรแล้วกัน ใจจริงก็นึกอยากไปวัดเขาตะเครานะ แต่มันไกลไปนิด”

   “จะให้แวะตรงไหนก็บอกแล้วกัน..บอกเนิ่น ๆ นะครับจะได้เลี้ยวทัน”

   “ทำไมพี่ยาดูแผนที่เก่งจังเลย”

   “เกิดมาเพื่อจัดทัวร์มั้ง สมัยก่อนชอบดูแผนที่ตามหน้าหนังสือพิมพ์เวลาลงขายบ้านจัดสรร ตอนหลังซื้อหนังสือแผนที่มาเล่ม เวลาไปไหน ก็ดูหมายเลขทางหลวงแผ่นดิน ดูป้ายตามข้างทาง แก้ง่วงไป..แล้วก็แอบฝันเล็ก ๆ ว่าสักวันนะ ต้องไปที่นั่น..สุดท้ายก็ได้ไปอย่างที่เห็น”

   “แล้วตกลงคืนนี้จะเอาอย่างไง” แสงทองหันมาชวนคนขับคุย

   “ก็เอาเหมือนเมื่อคืนนะซิ” รุ่งโรจน์แกล้งรวน..พลางหันหน้ามามองสุริยา อีกคนไม่สบตา เพียงนั่งมองถนนนิ่ง ๆ จนกระทั่งรถแล่นมาถึง เขตเมืองเพชร รุ่งโรจน์ก็แวะซื้อน้ำตาลสด ลอนตาล กับชมพู่ลูกสีแดงแจ๊ด..ให้เด็กบ้านนอกทั้งคู่ชิม..

   “กรอบอร่อย..พี่สุริยาป้อนให้พี่รุ่งหน่อยซิ ...” แสงทองส่งชมพู่ที่ถูกมีดเฉาะเป็นชิ้นส่งให้สุริยา

   “ไปเอามีดมาจากไหน”

   แสงทองหัวเราะ..

   “กลัวพี่สองคนขนาดนั้นเชียว..ระวังจะเป็นดาบสองคมนะ”

   “กันไว้ดีกว่าแก้เจ้าค่ะ ขี้เกียจตามหาพ่อเด็ก จริง ๆ หนูก็ยังงงกับตัวเองเหมือนกันนะคะ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ไว้ใจพี่ทั้งสองคนก็ไม่รู้..เดี๋ยวจะหาว่าเราก๋ากั่น เที่ยวไปกับผู้ชายไม่เลือกหน้า..ไม่ใช่นะคะ นี่ครั้งแรก ที่ใช้ชีวิตแบบเสี่ยงภัยขนาดนี้”

   “กลัวราคาตกหรืออย่างไร” รุ่งโรจน์ย้อนถาม..

   “ไม่หรอกค่ะ รับประกันความสด ระดับแสงทอง ถ้าไม่แปดแสนแหวนอีกสี่กระรัต ไม่มีทางได้จูงมือเข้าประตูวิวาห์แน่นอน”

   “คงได้อยู่คานทองนิเวศน์วรวิหารแล้วอย่างนั้น” สุริยาช่วยกระทุ้งอีกที..

   “จำไว้เลยนะ วันไหนหนูมีคนมาสู่ขอแปดแสนแหวนอีกสี่กระรัต วันนั้นนะ จะกรี๊ด ๆ ใส่พี่สองคนให้สะใจเลยเชียว..”

   พอแสงทองพูดจบสุริยาก็สั่งให้เลี้ยวซ้ายไปวัดเขาบันไดอิฐ พอขับรถขึ้นเขาไปสักเล็กน้อย บนลานจอด มีเจ้าจ๋อมาคอยท่า รุ่งโรจน์จึงเปิดประตูส่งชมพู่ให้สี่ห้าลูก แล้วสมาชิกก็กรูกันมาทั้งโขยงจนต้องรีบปิดประตู เพราะแสงทองเตือนว่ากลัวมันจะคว้าอย่างอื่นในรถไปด้วย..

ลงจากเขาบันไดอิฐแล้วมุ่งเข้าเมือง เลี้ยวขวาไปดูเส้นทางพระราชวังบ้านปืน..พอเห็นก็ถอยกลับ ทำตามนโยบายคือดูแต่เส้นทางในสถานที่ท็อปฮิต ส่วนที่ใหม่ต้องลงให้ลึก หรือไม่ก็ใช้ความรู้สึกวัดเอาว่า ควรจะชวนคนมาเที่ยวหรือไม่..ผ่านหน้าวัดมหาธาตุวรวิหาร สุริยาชี้ชวนให้ทั้งสองคนดูพระปรางค์เก่าแก่บ่งบอกยุคสมัยในการก่อสร้าง กับคติความเชื่อในการสร้างเมืองใหญ่ ๆ ..

   รถคันนั้นยังแล่นผ่านตัวเมืองผ่านวัดหลายวัด ที่คนขับได้แต่ขับไปตามที่อีกคนร้องบอกเลี้ยวซ้ายขวาตรงไป หารู้ไม่ว่า แท้จริง คนมาสำรวจต้องการอะไรกันแน่ จนกระทั่งมาหยุดที่สถานีรถรางขึ้นเขาวัง..

   “ไปไหนต่อครับ” คนขับถอนหายใจออกมา สุริยายิ้มแหย ๆ

   “ในเมืองผมโอเคนะ มีหลายวัดที่น่าสนใจ”

   “มองจากถนนนี่นะ” รุ่งโรจน์ถามขึ้น

   “มองเข้าไปมีรถจอดเยอะ มีคนพลุกพล่าน ใช่แล้ว ศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ขลัง ดัง คนรู้จัก พวกลูกทัวร์เราก็เป็นลักษณะนี้แหละ หาวัดที่มีจุดขาย อย่างเพชรบุรีนี่ส่วนใหญ่คนจะรู้จักกันเยอะ แต่ให้ลงลึก ๆ อย่างวัดใหญ่สุวรรณาราม หรือวัดพระนอนนี่ไม่มี..แต่ถ้าเราจะจัดเน้นวัด ๙ วัดในเมืองนี้ กับทัวร์เช้าไปเย็นกลับก็ยาก ดังนั้นควรเป็นลักษณะ วัดบวกพระราชวัง อย่างลพบุรี วัดใหม่วัดเก่า บวกพระราชวัง..”

   “โปรแกรมหน้าไปไหน”

   “อาทิตย์ต้นเดือนลพบุรี ตอนนี้ตั๋วใกล้เต็มแล้ว ประมาณสัปดาห์ที่สามอาจจะจัดมาที่นี่..ช่วงว่าง ๆ ก็คงดำเนินเรื่องงานของเรา..ให้เสร็จสิ้น ผมมันคนใจร้อน..”

   “พี่รุ่งโอเคนะ” แสงทองช่วยกระทุ้ง..

   “เห็นผมเป็นคนอย่างไง..ผมบอกแล้วไงผมพูดคำไหนคำนั้น”

   “แล้ววันก่อนล่ะคะ..คำไหนคะ..”แสงทองแขวะให้ ทีนี้รุ่งโรจน์หัวเราะ

   “ลืมได้แล้ว..นี่ก็แก้ตัวให้อยู่นี่ไง”

   เมื่อได้เรื่องในเมือง และเห็นว่าพระอาทิตย์ยังห้อยอยู่ไกลดิน สุริยาจึงสั่งให้สารถีหนุ่มหล่อขับรถไปวัดเขาตะเคราเพื่อสักการะหลวงพ่อทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อว่าเป็นพระพี่น้องที่ลอยตามน้ำมากับหลวงพ่อโสธร และหลวงพ่อวัดบ้านแหลมสมุทรสงคราม

   “ต่อไป เรื่องงบประมาณที่ออกสำรวจผมเสนอให้ทำบัญชีด้วยนะครับ เมื่อถึงสิ้นรอบบัญชี จะได้รู้ค่าใช้จ่ายตามจริง รายได้ตามจริง ก่อนจะปันผล ว่าไงครับเจ้านาย”

   เจ้านายสะดุ้งโหยง ก่อนจะตอบว่า

   “ผมไม่ได้เป็นเจ้านาย ผมเป็นนายทุน คุณเป็นผู้บริหารเงินทุนผม คุณทำได้เลย..”

   “ลืมไปหนูจบ ปวช.บัญชีมา หนูช่วยเรื่องพวกนี้ได้นะ..ถ้าต้องการมากกว่านี้จะไปปรึกษาเพื่อนที่มันทำงานกันมานานให้อีกทีก็ได้”

   “เยี่ยมมาก..ถ้าจะสำเร็จมันต้องคุยกันทุกเรื่องได้..อย่างไรก็ตามผมขอทำหน้าที่แค่นายทุนกับคนขับรถในบางครั้ง ถ้าแสงทองขับรถได้..วันหลังผมก็มีรถให้ยืมไปกันสองคน หรือถ้าผมว่างผมก็ไปด้วยได้นี่คือเหตุผลที่ผมต้องให้สุริยาขับรถให้เป็นโดยเร็ว”

   “ขอบคุณครับ” สุริยายกมือพนมอย่างนอบน้อม

   “ทำตัวเป็นเด็กดี ฟังคำสั่งก็พอแล้ว”..แววตาของรุ่งโรจน์เจ้าเล่ห์จนสุริยาต้องเบือนหน้าหนี..สาวแสงทองจะรู้ไหมว่า มีอะไรผิดปกติในผู้ชายสองคน..สุริยาถอนหายใจออกมา พยายามที่จะทำใจแข็งไม่ปล่อยกายเป็นไปในทิศทางที่อีกคนต้องการ แต่ความรู้สึกทางเพศรสในขณะนี้มันบอกว่า สุขที่นั่งอยู่เคียงกัน

   “ว้าย..ป้ายบอกว่ามีชมหิ่งห้อย” แสงทองกรี๊ดกร๊าดขึ้นมาระหว่างทาง..

   “คืนนี้เรายังนอนค้างอีกคืนเพื่อไปชมหิ่งห้อยที่อัมพวา ไม่ไปแล้วเล่นน้ำทะเลเดี๋ยวตัวดำ พรุ่งนี้ก่อนกลับกรุงเทพฯ มีโปรแกรม..
อุทยาน ร.2 หลวงพ่อวัดบ้านแหลมสมุทรสงคราม ตลาดน้ำดำเนินสะดวก พระปฐมเจดีย์ พระราชวังสนามจันทร์ วัดไร่ขิง..พุทธมณฑล คลองมหาสวัสดิ์ ตลอดดอนหวาย อีกเพียบ ไหวไหมคนขับ” พูดพลางเอื้อมเอามือไปบีบที่บ่าคนรูปหล่อพ่อรวย

   “อยากกินน้ำมากกว่า” สุริยาตามใจโดยรีบเปิดฝาขวดน้ำใส่หลอดส่งให้..

   พลันโทรศัพท์มือถือของแสงทองก็ดังขึ้น

   หญิงสาวทำเสียงคล้ายไม่อยากให้ทั้งคู่ได้ยินถ้อยเจรจา..แต่ก็ได้ยิน และรู้ว่ามีอุปสรรคระหว่างการเดินทางเสียแล้ว

   “ค่ะคุณป้า ออกมากับเพื่อน ต่างจังหวัด..กลับพรุ่งนี้ค่ะ คืนนี้กลับไม่ทัน..ค่ะเย็น ๆ ประจวบค่ะ มาเที่ยวบ้านเขา..ค่ะ มาตรวจนะคะพรุ่งนี้เจอกัน..” วางสายถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก

   “ขี้ตั๋วเบบี๋ ขี้ตั๋วตะลาลา ขี้จุ๊เบบี๋ ขี้จุ๋ตะลาลา ขี้หกเบบี๋ ขี้หกตะลาลา..มุสาวาทาเวระมณี” รุ่งโรจน์ร้องเพลงพี่เบิร์ดล้อเลียน..

   “รู้ด้วย” สุริยาถามขึ้น อีกคนเลิกคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์..ไม่ตอบ จนกระทั่งรถแล่นไปถึงวัดเขาตะเครา คราวนี้รุ่งโรจน์กระตือรือร้นที่จะขึ้นไปไหว้พระในอุโบสถ...ด้วยคงได้ยินสรรพคุณความศักดิ์สิทธิ์ที่สุริยาเล่าถึงพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตามจังหวัดต่าง ๆ ขณะเดินทางมา

   พอลงจากรถ เขาก็เดินไปรอข้างหน้าพอสุริยามาถึง เขาโอบเอวเดินไปเคียงกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2011 02:37:42 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #98 เมื่อ25-04-2011 02:38:31 »

ตะวันโพล้เพล้กำลังจะลับเหลี่ยมมะพร้าวริมแม่น้ำแม่กลอง..รุ่งโรจน์เดินเกาะบ่าสุริยา โดยมีแสงทองนำหน้า..ตลาดยามเย็นที่ชุมชนอัมพวา สร้างความประทับใจให้ทั้งสามอยู่ไม่น้อย..ขนมไทยมากมายในราคาที่ไม่แพงมากดูมีเสน่ห์จนรุ่งโรจน์ยังกรากเข้าไปชี้สั่งกินตรงนั้น..


   “คิดจะเที่ยวแบบกิน อย่าสั่งเยอะ เอาแค่ชิมพอ ประมาณถ้าเขาว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อย ก็ต้องหนึ่งหารสาม ขนมบัวลอยไข่เต่าอร่อยก็หนึ่งหารสาม จะได้กินหมดไม่เหลือทิ้งขว้าง..” สุริยาร้องบอก พอทั้งคู่ปฏิบัติตาม จึงเป็นเรื่องสนุกสนาน..ประมาณมะพร้าวอ่อนหนึ่งลูกหลอดสามแล้วแย่งกันดูดน้ำ..


   เป็นธรรมดาที่แสงทองเสียเปรียบ เพราะระวังไม่ให้ใบหน้าตนไปถูกใบหน้าหนุ่ม ๆ ..


   และค่ำคืนที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง..หิ่งห้อยนับแสนนับล้านตัว บนต้นลำพูใหญ่ในคลองผีหลอก และริมแม่น้ำแม่กลอง..มีมากมายหลายร้อยต้น ส่งแสงเรืองรองระยิบระยับประดุจดวงดาวบนฟากฟ้ามาแต่งเติม.แสงทองถึงก็โอ้โฮ อ้าฮา ตลอดการเดินทางโดยเรือหางยาว..เสียงไกด์จำเป็นคือคนขับเรือให้ความรู้เป็นระยะ


   “ถ้าแม่น้ำสายไหน มีหิ่งห้อยแสดงว่าแม่น้ำนั้นยังสะอาดเพราะตัวหิ่งห้อยจะลงไปวางไข่ในน้ำแล้วกลางคืนก็จะเป็นอย่างที่เห็น”

   “โกโบริ โกโบริ ฉันอังสุมารินมาแล้ว คุณอยู่ไหน แวร์ อาร์ ยู ไอ เลิฟ ยู โกโบริ..โกโบริ” แสงทองตะโกนเบา ๆ พอให้สองหนุ่มขำแล้วก็ใช้มะเหงกเคาะหัวให้เบา ๆ ทำนองหยอกล้อ..

   “ไม่คิดนะคะว่า มันจะกระพริบพร้อมกัน ไฟฟ้าหรือเปล่าลุงไปใกล้ ๆ ซิ” แสงทองทำตลก..จนกระทั่งเรือที่พาชมหิ่งห้อยตามลำน้ำแม่กลองแล่นกลับ แสงทองจึงเอ่ยว่า

   “มาเห็นก็เป็นบุญตา แต่มันก็เปลืองตังค์”

   “อย่างไรคนมันต้องใช้เงินอยู่แล้วแสงทอง ไม่ใช้เที่ยวก็ใช้ทำอย่างอื่น หรือไม่ทำอย่างอื่นสุดท้ายก็ต้องทำงานศพ หรือไม่ก็ทิ้งไว้ให้คนอื่นใช้..เงินไม่เหลือติดมือกลับบ้านเก่าสักบาท..เพราะฉะนั้นหาความสุขให้เป็น ทำบุญบ้าง เที่ยวเปิดสมอง ดูชีวิตคนบนโลกนี้บ้าง แค่นี้กำไรแล้ว..”

   “สาธุ” ทั้งรุ่งโรจน์และแสงทองรับสาธุการพร้อมกัน อดีตพระจึงหน้าแดงต้องแก้เขินโดยวักน้ำใส่ให้ร้องโวยวายด้วยอากาศเย็นยามค่ำคืนเป็นทุนเดิม
   

   ค่ำคืนนั้นแสงทองคงมีความสุขอย่างมาก ระหว่างที่เดินกลับมาโรงแรม หญิงสาวกล่าวขอบคุณทั้งสุริยาและรุ่งโรจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า..

   เมื่อแยกย้ายกันเข้าห้อง สุริยาต้องใจเต้นแรงอีกครั้ง ด้วยรุ่งโรจน์ จิบเบียร์ไปหลายกระป๋องตั้งแต่อยู่บนเรือ..คนเมาขาดสติย่อมปล่อยให้ความยั้งคิดถดถอย

   สิ่งแรกที่รุ่งโรจน์ทำเมื่อเดินเข้าห้อง คือถอดเสื้อเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่หน้าอกและต้นแขนดูกำยำล่ำสัน เขานั่งไขว่ห้างพลางจิบเบียร์สายตาก็จดจ่ออยู่กับภาพข่าวโทรทัศน์ และความประจวบเหมาะก็เกิดขึ้นเนื้อหาในข่าว เป็นภาพของน้องแอนนี่กับแฟนหนุ่มดาราหน้าใหม่..สุริยาเองก็ยืนดูอยู่โดยไม่กล่าวว่าอะไร หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดตัวของโรงแรมนุ่งก่อนจะถอดกางเกงและเสื้อยืดคอกลม พอเสื้อยืดพ้นคอ รุ่งโรจน์ก็ทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง คือโยนกระป๋องเบียร์เปล่าปะทะข้างฝาห้องพักอย่างแรง

   “ผู้หญิงน่าเบื่อที่สุด” เขาสบถออกมาแววตามีความเจ็บปวด แต่เมื่อเห็นสีหน้าสุริยา เขาจึงเสไปยืนรับลมเย็น ๆ ที่ระเบียง สุริยานึกเป็นห่วงจึงได้เดินตามออกไปยืนชมวิวเคียงกัน แล้วก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกคน

   “เครียดเรื่องอะไร”

   “คุณเคยถูกผู้หญิงหลอกไหม” รุ่งโรจน์เปิดเผยความในใจ..สุริยาสั่นหัว คนถามจึงหัวเราะหึ ๆ

   “แม่แอนนี่สาวสวย ดาราดาวรุ่งนะซิ ตอนที่มันอยู่กับผมมันก็บอกว่ารักผมคนเดียว รักตั้งแต่แรกพบ รักปานจะกลืนกิน พอตอนหลังมันดัง ผมเริ่มมีชื่อเสียง เพราะควงกับมันออกงานบ่อย ๆ คุณแม่ผมก็สั่งให้แม่นั่นเลิกคบกับผม ผมมารู้ตอนหลังว่าแม่จ้างมันมาเล่นละคร..”

   “ก็ไหนคุณเคยบอกว่าไม่ได้รักใคร่ใยดีเธอไม่ใช่รึ”

   “ผมไม่ได้รักเธอหลอก แต่พอเห็นคนดัดจริตแล้วมันแค้นนะซิ นี่มันคงกำลังหลอกไอ้พระเอกหน้าโง่นี่อยู่เหมือนกัน หรือวงการมายามันเป็นอย่างนั้นก็ไม่รู้ คบกันเพื่อให้ได้เป็นข่าว”

   “แค้นไปก็เท่านั้นคุณรุ่ง สู้ให้อภัย อโหสิกรรมต่อกันไป ทางใครทางมัน ตอนนี้คุณก็มีทางเดินของตัวคุณเองแล้วไม่ใช่รึ ผมรู้นะว่าคุณกำลังเลือกที่จะทำในสิ่งที่คุณพอใจ”

   “ถ้าสิ่งที่ผมพอใจมีคุณอยู่ด้วยคุณจะให้ความร่วมมือไหม” รุ่งโรจน์ย้อนถาม..แต่สุริยาไม่ตอบ ไม่กล้าแม้จะสบตาที่มองมาด้วย

   “คุณคงเมา ..เข้าไปข้างในเถอะเดี๋ยวตกลงไป..” สุริยาเปลี่ยนเรื่องคุย พลางเปิดประตูเชื้อเชิญอีกคนเข้าไปในห้อง..ด้วยเขาเองก็รู้สึกว่าลมที่พัดจากแม่น้ำทำให้ทั่วทั้งสรรพางค์กายยะเยือกเย็น จนถึงหัวใจ..

   “เบียร์แค่นี้ผมไม่เมาหรอก..” ไม่เมาแต่เดินเซมากอดเอวและซบลงที่หัวไหล่ให้อีกคนประคองกลับมานั่งที่โซฟา..กลิ่นเบียร์คละคลุ้งออกมาเมื่อใกล้ชิด จนสุริยาต้องเบือนหน้าหนี..

   “รังเกียจผมหรือไง” พูดแล้วก็ยิ่งยื่นหน้ามาจนจมูกชิดกัน..สุริยาไม่ตอบ..โดยเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ สักพักก็ได้ยินเสียงเคาะประตู สุริยารีบนุ่งผ้า ตัดสินใจเปิดรับ..พบอีกคนอยู่ในลักษณะนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเช่นกัน

   “ผมอาบน้ำด้วยคนได้ไหม อยากให้ถูหลังให้..” สุริยาไม่ทันตอบ รุ่งโรจน์ก็จู่โจมเข้ามา ดึงประตูปิดปังแล้วกดล็อค

   “ห้องน้ำมันเล็กหายใจไม่ออก เปิดประตูเถอะ” ทำท่าจะไปที่ประตูแต่รุ่งโรจน์ดึงข้อมือไว้ หลังจากนั้นเขาก็ปลดผ้าขนหนูเผยให้เห็นกางเกงในสีขาวตัวจิ๋ว..และต้นขาด้านบนกับหน้าท้องที่เป็นลอนกล้ามเนื้อ..

“คุณถอดด้วยซิ เราจะอาบน้ำด้วยกันไง” รุ่งโรจน์รบเร้า แต่สุริยาจับปมผ้าไว้แน่น..

   “ไม่หรอก ผมไม่ถอด ผมอาย แต่ผมถูหลังให้คุณได้” สุริยารีบหมุนวาล์วน้ำอุ่นให้ค่อย ๆ ไหลรดตัวคนที่ยืนหันหลังให้..หลังจากนั้นก็ถูสบู่ไปทั่วแผ่นหลังอย่างเบามือ..

   “มือคุณเบากว่ามือผู้หญิงอีกนะเนี่ย” สุริยาไม่ตอบแต่รู้สึกน้อยใจอย่างประหลาด ..อีกคนจึงหันหน้ากลับมาพร้อมกับดึงมือที่มีสบู่ให้ช่วยถูบริเวณด้านหน้า..

   “มือคุณก็มีนี่” สุริยา ตัดสินใจ ดึงมือรุ่งโรจน์มา ยัดสบู่ให้ แล้วรีบเปิดประตูผละออกจากห้องน้ำ เมื่อเดินออกมา เขาได้ยินเสียง เพลงคนไม่มีแฟน (ของธงไชย แมคอินไตย์) ที่รุ่งโรจน์ร้องประสานเสียงน้ำไหลว่า

   “ในชีวิตเคยมีคนผ่านมา แต่ว่าเขาเข้ามาเพื่อผ่านไป หัวใจนี้ไม่มีใคร ไม่ว่ารักฉันมีให้กับใคร บทสุดท้ายก็ลงแบบเดิมคือช้ำใจ...กลับมาทุกครั้ง ฉันเหมือนคนโชคร้ายที่โดนสาปไว้ให้พบแต่ผิดหวัง ขอเป็นเธอได้ไหม ช่วยปลดคำสาปร้าย คำนั้น..ให้ฉันได้เจอรักเสียที อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมีคนจับจอง แม้เธอได้ครอบครอง เจ้าของใจดวงนี้ จะคอยให้ความรักจะดูแลอย่างดี ที่เธอทำให้ฉันไม่ต้องทน เป็นคนนี้ คนไม่มีแฟน..”

   ขณะที่รุ่งโรจน์ร้อง สุริยาก็รีบเร่งเสียงโทรทัศน์กลบ แต่เขาก็ยังตะโกนร้องเพลงออกมาอย่างเสียงดัง จนคนเร่งเสียงโทรทัศน์ต้องยอมแพ้..ไปยืนทำตาเขียวอยู่ที่หน้าประตู พลางถามว่า..

   “เดี๋ยวแสงทองมันก็มาเคาะประตูถามว่า เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก”..

   “ไม่อยากให้บ้าก็ฟังซิว่าผมร้องเพลงอะไร” เขานุ่งผ้าเช็ดตัวก่อนจะปลดกางเกงในลง..กองอยู่บนพื้น

   “ทำอย่างไรดีกับเจ้านี่ ทิ้งเนอะ”

   “เสียดาย ..เพิ่งซื้อมา ใส่ได้ไม่กี่ครั้งเอง เอาไว้นั้นแหละเดี๋ยวจัดการให้” สุริยาเกาหัวแกร็ก ๆ และต้องหลบทางวูบ เมื่อคนทิ้งเจ้าตัวจิ๋วเดินออกจากห้องน้ำหน้าตาเฉย เมื่อรุ่งโรจน์ออกไป สุริยาจึงผลุบเข้าไปแล้ว ฮัมเพลงคนไม่มีแฟนท่อนที่ว่า

   “ฉันเหมือนคนโชคร้ายที่โดนสาปไว้ให้พบแต่ผิดหวัง ขอเป็นเธอได้ไหม ช่วยปลดคำสาปร้ายคำนั้น ..ให้ฉันได้เจอรักเสียที”

   และยังร้องไม่ทันจบ คนที่เพิ่งออกจากห้องน้ำไปก็กลับมาเคาะประตูแล้วพูดมาว่า

   “คำสาปคุณถูกปลดแล้ว..แต่คุณรักเป็นหรือเปล่า”

   ทีนี้สุริยาไม่ตอบ..แต่รีบเปิดน้ำให้ไหลรดหน้าสุดแรง เพราะไม่อยากได้ยินอะไรที่ทำให้หัวใจหวั่นไหวอีกแล้ว


 :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2011 02:40:42 โดย anop2521 »

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #99 เมื่อ25-04-2011 02:46:53 »

 :กอด1:

พบกันอีกครั้งวันศุกร์นะครับ..สำหรับเรื่องนี้ ต้องสารภาพว่า เขียนไว้นานแล้ว สำนวนต้องขัดเกลาอีกหลายจุดครับ นั่งอ่านต้นฉบับอีกรอบก็ยังงง ว่าตอนนั้นทำไมบรรยายอย่างนั้น ...(ตั้งแต่ปี 49 ครับ) แล้วเรื่องนี้ จะจัดพิมพ์รวมเล่มครับ เพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ แนะนำให้มาโพสต์ เพราะจะตรงกลุ่มเป้าหมาย
(หาคนซื้อ) ก่อนหน้าที่จะเขียน ไม่ได้รู้หรอกว่า มีนิยายแนวนี้ครับ แต่พอเขียน ไปหน้าสองสามหน้า อารมณ์ตัวละครมันพาไปจนกระทั่งเป็นอย่างที่เห็น ๆ กัน..และปัจจุบัน ถูกเรียกว่า นิยายแนว y นักเขียนเองก็เลย รู้สึก ว่า อินเทรนด์ขึ้นมา ครับ  o18 สำหรับยอดพิมพ์ ผมไม่ได้พิมพ์ตามสั่งครับ พิมพ์ จำนวนหนึ่ง แต่คงให้สั่งซื้อทางเน็ต ครับ ส่วนจะมีวางบนแผงหนังสือชั้นนำหรือไม่ ก็ต้องดูก่อนว่า กลุ่มที่อ่านนิยายรักแบบช. ญ. จากอีกเว็บหนึ่งจะให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหน..อย่างไรก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ..((นึก ๆ ไปก้อยาก จะเขียน y อีกสักสองสามเรื่อง...))) :-[ :-[ :o8: :impress2: :sad4:

ปล. เรื่องนี้ถึงแม้ยอดขายจะได้น้อย แต่ผมก็พิมพ์ครับ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัก(และสงสาร)ตัวละครเป็นอย่างมาก...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2011 02:49:20 โดย anop2521 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
« ตอบ #99 เมื่อ: 25-04-2011 02:46:53 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ยาจะรักเป็นไหมนะ ชักอยากรู้แล้วล่ค่ะคุณนพ
แล้วรุ่งน่ะจริงจังแค่ไหนกับความรู้สึกนี้
หรือแค่กำลังเบื่อๆหญิง เลยอยากลองแบบใหม่ แบบลองเล่น แก้เซ็งน่ะ
ถ้าเป็นแบบนี้ สงสารยานะ เพราะยาคนไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆ รักใคร คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร คงไม่เล่นๆแน่

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
รุ่งโรจน์รุกสุริยาน่าดูเลยอะ ให้เวลากันบ้างเรื่องแบบนี้
แล้วตัวเองก้อยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้นเลย แบบนี้มันเหมือนหาตัวแทนยังไงก้อไม่รุ้

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #103 เมื่อ25-04-2011 12:15:05 »

เรื่องเศร้าหรอเนี่ย โฮ~~~
คนเขียนใจร้าย สปอยเค้าทำม๊ายยย
แต่บอกว่าจะจบแบบเศร้าแต่อิ่มใจใช่มั้ย งั้นก็ดีแล้วล่ะค่ะ  ก็ยังจะอ่านต่อไปแต่ขอทำใจก่อน เฮ้อ..
ปล. +1 ให้นะคะ โทษฐานเขียนโดนใจ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
อย่าใจอ่อนง่ายๆเน้อพี่ยา

ออฟไลน์ ลูกลิงตัวอ้วน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่ได้เกลายังขนาดนี้ ถ้าเกลาแล้วจะขนาดไหนครับ
ว่าแต่เศร้าจริงเหรอครับ เขียนใหม่เอาแบบไม่เศร้าได้ไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
กลิ่นมาม่าเริ่มมา

greshy666

  • บุคคลทั่วไป
ไรเตอร์ใช่ผู้ประพันธ์บทละคร เรื่อง ชิงชังหรือเปล่า
หรือมีนามปากกาว่า จุฬามณี เฟื่องนคร ชอนตะวัน

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
พี่รุ่งเริ่มรุกแล้วอ่ะอิอิ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
บวกค๊าาาาาาาา
ดราม่าพลักพรากนู๋ก็เจ็บปวดไม่แพ้ตายจากนะคะพี่นพ ฮือออ

แต่ยังไงก็อยากอ่านค่า ติดงอมแงมแล้ว อยากให้วันศุกร์ไวๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
อีกทีวันศุกร์เลย นานจังแต่ก็นะของดีก็ต้องอดใจรอ

รุ่งรุกใหญ่ สุริยาจะไหวไหมเนี่ย ตามลุ้นต่อครับ

ปล.เรื่องขาย วางแผงเมื่อไรบอกนะครับ ซื้อแน่นอน

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ไรเตอร์ใช่ผู้ประพันธ์บทละคร เรื่อง ชิงชังหรือเปล่า
หรือมีนามปากกาว่า จุฬามณี เฟื่องนคร ชอนตะวัน
จริงป๊ะค๊ะ กรี๊ดดดดดดดดดดด ขอลายเซ็นได้ไหมค๊า v(>.<)v

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณ JJHJJH นะครับ
ที่เอาเรื่องนี้ไปโพสต์ในกระทู้นิยายน่าอ่านทำให้ผมได้เข้ามาอ่านนิยายดีๆ เรื่องนี้

ก่อนอื่นอยากบอกว่าดีใจนะครับ ที่ยังมีคนรักในพระพุทธศาสนาอยู่แบบนี้
และก็แต่งแบบสอดแทรก (ปนยัดเยียด 555) ความรู้ให้เราๆ อย่างเต็มที่
จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ทั้งสามคนดูสนิทกันเร็วมาก
ยอมรับว่าถ้าใครได้ฝ่าอุปสรรคอย่างไปขึ้นเขาลงห้วยมาด้วยกัน ก็คงสนิทกันไม่น้อย
แต่บรรยากาศในกรุงกับในต่างจังหวัดมันไม่เหมือนกันหน่ะสิครับ
นายยากับนางสาวแสงทองอาจจะไม่เท่าไหร่ เพราะว่าไม่ต้องแคร์อะไรที่บ้านมาก
แต่ว่ากับนายรุ่งคงจะไม่ง่าย เชื่อว่านายรุ่งคงเจอคนที่ถูกใจแล้วจริงๆ แหละ
แต่ว่านายยาจะเปิดใจรับรึเปล่า และอีกอย่าง...
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนก็จริง แต่จะอยู่ด้วยกันได้มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนหรอก
ต้องคอยดูว่านายรุ่งจะต้านทานที่บ้านได้ซักแค่ไหน??

ยังไงก็เป็นกำลังใจนะครับ +1  :กอด1:
  o13 o13

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
+1 เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์

ระหว่างทางจะมีมาม่า ไวไว บ้างก็พอรับไหว ขอแค่ตอนจบ Happy Happy ก็พอ  :L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคุณ JJHJJH นะครับ
ที่เอาเรื่องนี้ไปโพสต์ในกระทู้นิยายน่าอ่านทำให้ผมได้เข้ามาอ่านนิยายดีๆ เรื่องนี้

ด้วยความยินดีค่า บวกให้หนึ่งจึ่กสำหรับคำขอบคุณค๊า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ตอนที่ 11 อยากให้&
«ตอบ #115 เมื่อ28-04-2011 01:21:22 »

เพิ่งได้มาอ่าน  ชอบมาก ๆ มีสอดแทรกเกร็ดความรู้มาด้วย
อ่านแล้วได้บรรยากาศที่แปลกไปอีกแบบ  รวมเล่มเมื่อไหร่  จองด้วยนะคะ

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
12.
   

   ค่ำคืนนั้นแม้จะค่อนข้างดึก แต่คนรักงานยังนั่งจดบันทึกวางแผนโปรแกรมทัวร์ภายในหนึ่งวันภายในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ สถานที่น่าสนใจก็มีวัดห้วยมงคล และวัดที่อยู่ในเมืองเพชรบุรี..สุริยานั่งดูแผนที่ในการหมุนรถสำรวจสถานที่ กะไว้ว่าหลังจากทริปพระพุทธฉาย พระพุทธบาท พระนารายณ์ราชนิเวศ วัดในจังหวัดลพบุรีแล้ว คงจะต้องมาในนครปฐมหนึ่งครั้ง สมุทรสาครกับสมุทรสงครามหนึ่งครั้ง หากมีกลุ่มที่ต้องการดูหิ่งห้อย คงต้องจัดแบบสองวันหนึ่งคืน เริ่มจากสมุทรสาคร แวะไปดอนหอยหลอด มาเที่ยววัดในจังหวัดสมุทรสงคราม แล้วก็นอนโฮมสเตย์ที่อัมพวา โดยขากลับใช้เส้นทางนครปฐม ...

   สุริยานั่งคิดโปรแกรม เห็นเงินรายได้ที่จะมาหล่อเลี้ยงชีวิตและทำบุญ จึงยิ้มออกมา..รู้สึกชีวิตมีความสุข ด้วยได้ทำในสิ่งที่ตนรัก..ได้เป็นผู้ให้ในบางโอกาส.. จนกระทั่งเวลาได้ดูนาฬิกาที่โทรศัพท์เห็นว่าดึกมาก เขาจึงหันกลับไปที่เตียงนอน พบรุ่งโรจน์นั่งพิงพนักเตียงลืมตามองมาทางตนด้วยสายตายากคาดเดา

   “ยังไม่หลับอีกรึ” สุริยาร้องถาม รุ่งโรจน์ยักคิ้วให้ แล้วตบที่นอนข้างตัว

   “มานอนได้แล้ว ดึกแล้ว ” เมื่อได้ยินถ้อยคำออดอ้อน สุริยาถอนหายใจออกมา ปิดไฟตรงโต๊ะเครื่องแป้งแล้วปฏิบัติตามคำสั่งอีกคนอย่างว่าง่าย

   “ผมเมื่อยขาจังเลย รบกวนช่วยนวดให้ได้ไหม” รุ่งโรจน์เปิดผ้าห่มที่คลุมกายออกเผยให้เห็นว่าเขานุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว

   “อากาศก็ดีอยู่แล้วจะเปิดแอร์ให้หนาวทำไมก็ไม่รู้” ปากถาม มือก็นวดขาไปด้วยอาการฝืนความรู้สึกสั่นเพราะหัวใจเต้นผิดปกติ

 “หนาวซิ มือสั่นเชียว” น้ำเสียงรุ่งโรจน์เจือด้วยเสียงหัวเราะอย่างเป็นต่อ แต่สุริยาไม่ตอบ

   “ร้องเพลงให้ฟังนะ”

   “ไม่ต้องหรอก เงียบ ๆ ก็ดีแล้ว” สุริยาปฏิเสธ แต่รุ่งโรจน์ไม่ฟัง

   “หากเราต้องจากกัน จากกันด้วยเหตุใด เก็บความคิดที่คล้ายกัน เก็บความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนั้นไว้ ...หากวันไหนที่เธอ เกิดเจอะเจอทุกข์ภัย หากเธอนั้นเดือดร้อนใจ จะเป็นเรื่องใดที่ทำให้เธอท้อแท้  ขอเพียงแต่เขียนมา ขอเพียงส่งเสียงมา จะไปหา จะไปในทันใด จะไปยืนเคียงข้างเธอ ไปอยู่ดูแลเป็นเพื่อนเธอ ให้เธอหมดความกังวลใจ จะไปในทันใด จะตรงไปจะใกล้ไกล ถ้าหากเป็นเธอจะรีบไป ให้เธอได้ความสบายใจ ..โปรดจงรู้ว่ามีอยู่ตรงนี้อีกคน..กับชีวิตที่วกวนจะมีผู้คน กี่คนที่เป็นมิตรแท้..”

   พอรู้ว่าอีกคนตั้งใจร้องเพลง ‘ด้วยรักและผูกพัน’ ของพี่เบิร์ดให้ตน เพราะแววตาที่เขามองมามันบอก ..ท่อนที่เหลือสุริยาจึงช่วยคลอไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า..

   “จิตใจยังพร้อมจะยินดี กับรอยยิ้มที่เธอมี อยากเห็น วันที่ชื่นบาน อยากเห็นจากเธอ...อยากให้เธอได้มี สิ่งที่ดีเรื่อยไป..หากวันไหนเกิดทุกข์ภัย โปรดจงมั่นใจ ฉันจะรีบไปในทันใดฯ”


   “ร้องไห้ทำไม ร้องเพลง” สุริยาฝืนความรู้สึกตัวเองไม่ไหว..จึงเผลอให้น้ำตารินไหลออกมา ขณะที่มือก็ยังนวดต้นขาของอีกคน รุ่งโรจน์เห็นดังนั้นจึงดึงมือสุริยามาเกาะกุมไว้..

   “จำไว้นะเด็กโง่..เพียงคุณส่งเสียงมาเท่านั้น ผมจะบันดาลทุกอย่างให้คุณ..”

   สุริยาเอามือปิดปากรุ่งโรจน์ทันที

   “ขอบคุณครับ ขอบคุณทุก ๆ อย่าง..”

   และค่ำคืนนั้นสุริยารู้สึกเป็นสุขเหลือเกินที่นอนหลับโดยมีลำแขนของรุ่งโรจน์เพียงพาดรัดที่หน้าอกพอให้อบอุ่น..เท่านั้น..
   
 :กอด1:

เช้าสดใส แสงทองโทรมาบอกว่า จะมีพระพายเรือบิณฑบาตให้รีบออกมาดู..หรือถ้าจะใส่บาตรร่วมกัน เธอจะได้ออกจัดหาอาหารไว้ให้..สุริยารีบลุกจากที่นอน โดยที่รุ่งโรจน์ร้องถามว่า
   
“จะไปไหน..” สุริยาบอกความจริงก่อนจะเข้าห้องน้ำ ออกมาแล้วรีบออกจากห้องไปพร้อมกล้องดิจิตอลตัวเก่ง..
   กลับเข้าห้องมาอีกที พบอีกคนนอนลืมตาใสแหนวดังเคย แต่ยังไม่อาบน้ำแต่งตัวเหมือนเมื่อวาน.

   “ลุกขึ้นอาบน้ำซิ” รีบเดินเข้าไปหา ยื่นมือให้เพื่อดึงรุ่งโรจน์ให้ลุกขึ้น และเขายังปฏิบัติอย่างเคย เมื่อดึงขึ้นมานั่งแล้วก็ใช้มือกอดรัดอยู่ที่เอวแล้วใช้ใบหน้าซุกไซ้ไปตามบริเวณท้องน้อยเหมือนลูกหมาหิวนม..

   “ผมมีของขวัญจะให้..” รุ่งโรจน์บอกอีกคนด้วยเสียงเบา ๆ

   สุริยาแกะมือออก แล้วสั่งให้รีบไปอาบน้ำแต่งตัว โดยไม่ทำท่าดีใจกับของขวัญที่อีกคนจะให้..

   “ไม่อยากได้รึ”

   “คุณก็เป็นของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับผมแล้วล่ะ..ไปอาบน้ำเถอะจะได้ไปสำรวจให้ทั่ว ๆ ..ผมคนใจร้อน..อยากรู้ อยากเห็น อยากพาคนอื่นมารู้มาเห็น..เหมือนอย่างที่เราเห็น..”

   รุ่งโรจน์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ เสียงอาบน้ำซู่ซ่าผสานเสียงฮัมเพลงเพลิดเพลิน ออกจากห้องน้ำก็เห็นว่าสุริยาก็จัดเสื้อผ้าชุดใหม่รอท่าเรียบร้อย..โดยที่เขาน้ำเพียงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้แห้งแล้วทาแป้งหวีผมสวมใส่เสื้อผ้าก็ออกไปได้เลย

   “เช็ดหัวให้บ้างซิ” รุ่งโรจน์อ้อนอีกเรื่อง ใจของสุริยาก็ว่าจะไม่ทำให้ แต่พอเห็นแววตาเจ้าเล่ห์นั่น ก็อดที่จะปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้..เมื่อเช็ดผมจนแห้ง เขาก็บอกว่า “หวีผมให้ด้วย”..แล้วก็ “ติดกระดุมเสื้อให้ด้วย”

   สุริยาถอนหายใจออกมา แต่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข

ขณะจะก้าวออกจากห้อง รุ่งโรจน์ก็รั้งมือไว้ พร้อมกับยื่น กระดาษแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้

   “เช็คเงินสด หนึ่งแสนบาท..” สุริยาตาเหลือก

   “กลับไป คุณดำเนินการเรื่องธุรกิจเราได้เลย ผมใจร้อนอยากเห็นคุณพาคนไปเที่ยวไหว้พระ ไหว้เจดีย์ทั่วไทยเหลือเกิน”
   สุริยาอยากจะกระโดดโอบคอแล้วหอมอีกคนสักฟอด แต่เอาเข้าจริง เขาเพียงแต่มีน้ำตารื้นขณะกล่าวคำว่า

   “ขอบคุณที่ไว้วางใจผม”

   “ใครว่าไว้วางใจคุณ ผมวางหัวใจไว้กับคุณต่างหาก”

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
อุทยาน ร.2 เป็นบ้านทรงไทยโบราณ 3 หลังที่มีนอกชานเชื่อมถึงกัน..เมื่อเดินขึ้นบันได เข้าไปในเรือน แสงทองทำท่าเดินหลังตรง ก้าวย่างสุขุมเยือกเย็น

   สุริยาใช้สายตาปราม ...หญิงสาวยิ้มแหย ๆ

   เมื่อเดินชมจนทั่วบริเวณ จึงข้ามไปวัดอัมพวันเจติยาราม ซึ่งเป็นวัดของตระกูลราชนิกูลบางช้าง สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระรูปศิริโสภาค มหานาคนารี พระชนนีของสมเด็จพระอมรินทรามาตย์

   หลังวัดนี้ก็เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร และคุณนาค เชื่อกันว่าบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันฯ เดิมเป็นเรือนที่คุณนาคใช้เป็นที่คลอดคุณฉิมบุตรชาย ซึ่งต่อมาได้เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

   ทั้งสามคนเดินไปหยุดที่หน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ ๒ นั่งคุกเข่า ..ก้มกราบระลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

   ออกจากวัดอัมพวันฯ จุดมุ่งหมายใหม่ก็คือ..วัดเพชรสมุทรฯ สักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลม พระยืนปางอุ้มบาตร พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง....

   เมื่อจุดธูปเทียนสักการะ ปิดทององค์หลวงพ่อแล้ว รุ่งโรจน์ก็เดินเคียงกันออกมากับสุริยา แสงทองซึ่งเอากล้องมาครอบครองตั้งแต่เช้า จึงสั่งให้สองหนุ่มยืนเคียงกันฝึกกดชัตเตอร์ เพื่อให้สุริยาดูฝีมือที่กำลังพัฒนาตามคำแนะนำของเขา

   “ไกลไป ลองซูมมาใกล้ ๆ อาจจะทำให้ภาพน่าดูขึ้น เพราะถึงอย่างไรเราก็ไม่เน้นฉากหลังอยู่แล้ว”

   แสงทองกดไปอีกที คราวนี้รุ่งโรจน์ยิ้มจนเห็นฟันเรียงกันสวยงาม

เมื่อรถแล่นออกมาจากบริเวณวัดเพชรสมุทรวรวิหาร แสงทองก็อ่านประวัติ หลวงพ่อวัดบ้านแหลมดัง ๆ

   “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปที่ผูกพันกับหลวงพ่อวัดเขาตะเครา ไปมาแล้วเมื่อวานนี้.. ทั้งตำนานพระพุทธรูป 5 องค์ ลอยน้ำมาด้วยกัน ในวงเล็บ มีหลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อวัดเขาตะเครา หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดบางพลีใหญ่ หลวงพ่อโสธร วงเล็บปิด กับตำนานชาวประมงบ้านแหลมอยู่อ่าวเพชรบุรี ได้พระพุทธรูป 2 องค์ในทะเลขณะออกไปตีอวนหาปลา องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ส่วนอีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนจึงอาราธนาไว้บนเรือองค์ละลำ เมื่อเรือแล่นมาถึงแม่น้ำแม่กลองบริเวณหน้าวัดศรีจำปา เกิดอัศจรรย์คล้ายกับพระพุทธรูปประสงค์จะอยู่ที่วัดแห่งนี้จึงทำให้ฝนตกหนักพายุพัดเรือล่มจมลง พระพุทธรูปยืนตกน้ำหายไป ช่วยกันค้นหาอย่างไรก็ไม่พบ จึงนำพระพุทธรูปที่เหลืออีกองค์กลับไปประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี ต่อมาชาวบ้านศรีจำปาช่วยกันดำน้ำค้นหาพระพุทธรูปที่จมน้ำได้ จึงอาราธนาประดิษฐานไว้ที่วัดจำปา ครั้นชาวบ้านแหลมทราบข่าวยกขบวนมาทวงพระพุทธรูปคืน เกิดศึกวิวาทกัน ด้วยปาฏิหาริย์ทำให้สองฝ่ายปรับความเข้าใจกัน ปรองดองกันด้วยดี ชาวประมงบ้านแหลมจึงยินยอมมอบพระพุทธรูปยืนให้แก่ชาวบ้านศรีจำปามีข้อแม้ว่า ต้องเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็นวัดบ้านแหลม เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าชาวบ้านแหลมเป็นผู้พบและได้พระพุทธรูปยืนมาตั้งแต่แรก นับแต่นั้นมาวัดศรีจำปาจึงได้นามใหม่ว่า วัดบ้านแหลม และเรียกขานพระพุทธรูปยืนตามนามวัดว่า หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชั้นวรวิหารและได้รับพระราชทานนามว่า วัดเพชรสมุทรวรวิหาร”

   เมื่อแสงทองอ่านจบ สุริยาจึงปรบมือให้

   “ว่าที่ไกด์สาวเสียงพิณของเรา..”

   “อ่านแล้วชักอยากไปให้ครบทั้งห้าองค์แล้วซิ..คนขับเจ้าขาเหลืออีกสามองค์เจ้าค่ะ พาไปหน่อยได้ไหม..ไหน ๆ ก็พาหนูมาใจแตกเรื่องวัดเสียแล้ว”

   รุ่งโรจน์ไม่ตอบได้แต่ยิ้ม ๆ

   “จริง ๆ เวลาเราขึ้นทัวร์เราจะไปยืนอ่านอย่างนี้มันก็ไม่ขำหรอกแสงทอง..กลับไปนี่ เตรียมไปขนหนังสือพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั่วไทย กับ หนังสือ 50 กษัตริย์ไทยอีกเล่ม...หรือไม่ก็คำให้การของขุนหลวงหาวัด เกร็ดพงศาวดารอยุธยา และรัตนโกสินทร์..เพราะอะไรรู้ปะ อย่างเมื่อกี้เราไป อุทยาน ร. ๒ จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรมีแต่บ้าน ..ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์นิดหนึ่งมันจะไปประสานกับวัดอัมพวัน..ที่อยู่ติดกัน และค่ายบางกุ้งที่เรากำลังจะไป..ค่ายนี้โด่งดังในสมัยพระเจ้าตากสิน และสมเด็จพระบิดารัชกาลที่ ๑ ท่านเป็นสามัญชน เป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสิน เมื่อคราวก่อนเสียกรุงท่านมาดำรงตำแหน่งพระยายกกระบัตรอยู่ที่นี่ มีเมียที่นี่ และรัชการที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรีท่านเกิดที่นี่ ริมฝั่งแม่น้ำ..จุดประสงค์ในการเล่าเพื่อให้คนฟังคล้อยตาม เราจึงต้องรู้ถึงขนาดนี้..รู้เรื่องพระอารามหลวงชั้นตรี โท เอก เรื่องลักษณะพระพุทธรูป เหตุที่ได้ชื่อว่าปางนี้เพราะอะไร..ต้องอ่านพุทธประวัติอีกนิดพอเราหมดมุกเราก็ยัดเข้าไป.. แล้วเรื่องหลวงพ่อห้าองค์ อย่างที่เธออ่าน เธอยังนึกอยากไปทั้งห้า ทีนี้เราก็อยากให้เขาอยากไปครบทั้งห้าองค์ แต่เราไม่ได้จัดครั้งเดียวห้าองค์ อย่างทริปเพชรบุรี เราพาไปวัดเขาตระเครา เราก็จะขายทัวร์มาสมุทรสงครามต่อเราก็เน้นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อวัดบ้านแหลมกับวัดไร่ขิงมาก ๆ หน่อย ..เพื่อเราจัดทัวร์ไปปุ๊บ คนอาจจะมีอารมณ์ซื้อทัวร์ต่อ หรือไม่ก็..ไปวัดไร่ขิงก็เล่าเรื่องหลวงพ่อโสธรกับหลวงพ่อวัดบางพลีใหญ่ หรือไม่ เราก็หาเรื่องพระลอยน้ำมาเล่า มีหลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูล ชัยนาท นี่ก็พระคู่บ้านคู่เมืองลอยน้ำมา อ.โกรกพระ นครสวรรค์ ได้ชื่อนี้ก็เพราะมีพระลอยมาแล้วหายไป ค้นหาเท่าไรก็ไม่เจอเรียกว่าโกรกพระ หรือไม่ก็เรื่อง พระเสริม พระสุก พระใส ..จ.หนองคาย ลอยน้ำข้ามฝั่งโขงมาจากเมืองลาว เอาไว้หากินตอนไปเที่ยวดูบั้งไฟพญานาค..เล่าเรื่องพระชินราช พิษณุโลก หลวงพ่อเพชร พิจิตร หรือไม่ก็ประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่เพชรบูรณ์”

   “แค่คิดก็มันส์แล้ว มันลุ้นเหมือนกันเนอะ พี่รุ่ง ว่าเขาจะเข้าใจในสิ่งที่เราพูดหรือเปล่า”

   “มันขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราเข้าใจ เราก็เล่าให้เขาเข้าใจได้ พระศักดิ์สิทธิ์กับปาฏิหาริย์ กับเรื่องแก้บน เราได้เห็นกันเป็นประจำ แต่เราต้องชี้ให้เห็นในลักษณะเน้นดวงปัญญา ให้สว่าง ให้ละ ในบางเรื่องให้ได้ การบนบานกับการอธิษฐานจิตแตกต่างกัน ให้ก่อนขอ กับขอก่อนให้..ถ้าศึกษาเยอะ ๆ อาจจะพูดถึงเรื่องสมาธิคือระลึกนึกถึงรูปพระพุทธเจ้าให้เป็นอารมณ์ พอใจ ชอบองค์ไหนก็ให้หลับตานึกให้เห็นจากความรู้สึกก็เป็นพุทธานุสติ ถ้าพูดต่อก็เล่าถึงบางคน ก่อนตายนึกถึงพระได้ มีสวรรค์เป็นที่ไป..ประมาณนั้น”

   “ข้อมูลที่พี่พูดตีกัน เริ่มปวดหัวแล้ว สงสัยบาปยังเยอะ”

   “แต่ตอนนี้หนูคิดจะมาหากินกับทางวัด หนูต้องเข้าให้หมดตัวหมดใจ..เดี๋ยวกลับไปจะมีทัวร์ลพบุรี..พระพุทธบาท พระพุทธฉาย พระนารายณ์ราชนิเวศน์ แล้วก็เรื่องหนุมาน..เตรียมอ่านหนังสือได้เลยนะจ๊ะ..เอาเรื่องศาสนาผสมกับวรรณคดี หรือประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ได้ โดยเฉพาะพระพุทธบาทสระบุรี ตรงนี้พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร หนึ่งในหกของประเทศไทย..ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์เยอะมาก ๆ ตัวต้องอ่าน ๆ ๆ แล้วก็อ่าน อ่านแล้วก็ลำดับเหตุการณ์สั้น ๆ ลองเล่าหน้ากระจก..ถ้าลูกทัวร์ติดเธอได้..เธอก็สบาย..แล้ว..”

   “สบายอย่างไร”

   “ไม่แน่หรอก อย่าลืมซิว่าเรานั่งอยู่กับใคร คุณรุ่งโรจน์ ถ้าวันหนึ่งพี่แกตัดสินใจ เป็นดารานายแบบขึ้นมา แกนึกอยากจะทำรายการทีวี แล้วช่วยเราทั้งสองด้วย ครีเอทีฟหัวเห็ดจะไปไหนเสีย ถ้าไม่ใช่เธอ..คิดดูซิ เงินทั้งนั้น”

   แสงทองตาโตกับโครงการพันแปดร้อยล้าน ส่วนรุ่งโรจน์เองหันมายิ้ม ๆ ก่อนจะยกนิ้วหัวแม่โป้งให้สุริยา..จนกระทั่งรถถึงค่ายบางกุ้งโบสถ์ร้างที่ถูกปกคลุมด้วยรากไทร รากไกร และรากกร่าง..เมื่อมาถึงเป็นธรรมเนียมที่ใดมีพระศักดิ์สิทธิ์ ที่นั่นยอมมีการทำบุญ ซื้อดอกไม้ธูปเทียน มีใบโพธิ์เงินโพธิ์ทองสำหรับติดเงินเสียบพุ่มผ้าป่า สุริยาทำตามธรรมเนียมนั้นอย่างรวดเร็ว ส่วนทั้งสองคนยังเก้ ๆ กัง ๆ

   “ตามศรัทธาจะติดเท่าไหร่ก็ได้..แล้วก็เข้าไปกราบพระด้านใน เอาสิริมงคลใส่ตัว” สุริยานำเข้าไปรุ่งโรจน์กับแสงทองเดินตามไป ในมือมีดอกไม้และแผ่นทอง

   สำหรับสุริยา ..นั่งขมุบขมิบปาก สักพักก็ก้มกราบ พอต้นแบบก้มกราบสองคนก็กราบตาม..

   “คราวหลังต้องกราบสวย ๆ รู้ไหม เพราะเราเป็นต้นแบบ ลูกทัวร์เขามองเราอยู่เหมือนกัน เวลาที่เราจะประเคนของพระอย่างนี้ ถอดรองเท้าได้ถอด นั่งลงได้นั่ง กับดินกับอะไรก็นั่งไป ถ้ามีตัวอย่างปุ๊บคนอื่นก็จะทำตามทันที..”

   แสงทองถอนหายใจออกมา..รุ่งโรจน์เพียงแต่ยิ้ม ๆ ..จนแสงทองต้องหันไปทำตาเขียวเข้าใส่..
   “ร่วมหัวจมท้าย..ถ้าท้ายจมหัวก็แย่นะจ๊ะ” ...

   “จะพยายามเจ้าค่ะ กลับไปจะรีบเก็บอังกฤษให้ได้จะได้หมดเวรหมดกรรมเรื่องเรียนในรั้วในวังเสียที จะได้เข้าโรงเรียนวัดเต็มตัว..”

   “อย่าลืมเรื่องไกด์ด้วย..เพราะตอนนี้นายของเราอนุมัติวงเงินแล้ว..๑ แสนบาท..กลับไปผมจะรีบไปดำเนินการเรื่องห้างหุ้นส่วนสามัญกับเรื่องจดทะเบียนใบอนุญาตนำเที่ยว ต้องเอาเงินห้าหมื่นไปวางไว้ที่การท่องเที่ยวค้ำประกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในภายภาคเบื้องหน้า..”

   แสงทองมองอีกคนตาเป็นประกาย

   “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็กริ๊งกร๊างได้นะพี่ยา หนูเต็มใจจะไปช่วยเหลือในทันที..”

   “ช่วยทำงานที่ได้รับมอบหมายไปแล้วให้เสร็จสิ้นโดยเร็วพลันเถอะ อย่าลืมนะ เรากับวัด ประโยชน์เกื้อกูลกัน..เพราะฉะนั้นอธิษฐานด้วยว่าให้มีดวงปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในเรื่องที่มีประโยชน์ต่อการจัดทัวร์วัดโดยเร็วพลัน..”

   สุริยาบังคับ แสงทองจึงหันไปพนมมือหลับตาต่อหน้าหลวงพ่อนิลมณีอีกรอบ..


anop2521

  • บุคคลทั่วไป
จริง ๆ วันนั้นหลังรับประทานอาหารมื้อกลางวันสุริยาตั้งใจจะแวะไปสำรวจตลาดน้ำดำเนินสะดวกและวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ไล่เรื่อยมาถึงพระปฐมเจดีย์ วัดไร่ขิง ตลาดน้ำดอนหวาย..ฯลฯ แต่เอาเข้าจริง ๆ ในเวลาบ่ายโมงขณะรถเคลื่อนออกจากร้านอาหาร คุณแม่ของรุ่งโรจน์ก็โทรไปตามขอร้องให้รีบกลับบ้าน..เขาจึงหันมาทำหน้าเจื่อน ๆ ก่อนจะบอกเล่าความจริง สุริยาจึงว่า

   “ไม่เป็นไรเอาไว้วันหลังก็ได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้วสองสามจังหวัด..”

   ปากพูดไป แต่ในใจนั้น..ความแน่นอน ก็คือความไม่แน่นอน..อย่าหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง และเตรียมใจที่จะพบกับความผิดหวังไว้บ้าง..
   

   เมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้านของป้า สุริยาลงจากรถพร้อมถุงเสื้อผ้า ถุงกรอบรูป และขนมจากร้านแม่กิมอะไรสักอย่าง..ขณะกล่าวคำว่าสวัสดี รุ่งโรจน์ก็ส่งกุญแจให้หนึ่งพวง ไม่พูดไม่จาแล้วขับรถออกไปส่งแสงทองที่ซอยมหาดไทย..

   สุริยาเดินเข้าบ้าน พบคุณป้านั่งทำหน้าไม่สบายใจ..พอถามความจึงได้รู้ว่า พ่อของตนเข้าโรงพยาบาลอาการหนัก...เมื่อเก็บของเข้าที่เรียบร้อยชายหนุ่มจึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมเดินทางกลับบ้าน..

ขณะนั่งอยู่บนรถทัวร์เพื่อกลับบ้านที่อยู่หลังเขาในจังหวัดกำแพงเพชร..สุริยาก็ได้รับโทรศัพท์จากรุ่งโรจน์

   “อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ คิดถึงนะ” รุ่งโรจน์เปล่งถ้อยคำเรียงกันช้า ๆ ..จนคนฟังมีรอยยิ้มกว้างในทันที

 ‘..จะไปยืนเคียงข้างเธอ ไปอยู่ดูแลเป็นเพื่อนเธอ ให้เธอหมดความกังวลใจ จะไปในทันใด..’

 เขาบอกเล่าตามความจริง รุ่งโรจน์ได้แต่บ่นว่าเสียดายที่ติดงานสำคัญ..พร้อมกับอวยพรให้พ่อของสุริยาหายป่วยโดยพลัน แต่เอาเข้าจริง ๆ คำอวยพรและความปรารถนาดีของคนอื่นก็หนีความจริงที่ทุกคนต้องเจอะไม่พ้น ..ยังไม่ทันที่รถทัวร์จะถึง อ. ลาดยาว นครสวรรค์ สุริยาก็ได้รับโทรศัพท์ว่าพ่อเสียแล้ว..เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกถึงความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ รู้สึกถึงใจที่หายวาบไปจนขนลุกตั้ง..หมดแล้วหมดกัน ภาพของผู้ชายที่ยิ้มร่าเมื่อเห็นเขาแบกกระเป๋าและขนมนมเนยเดินเข้าบ้านมา...

   “ซื้ออะไรมาฝากพ่อเล่าไอ้ทิด..” พอได้ของฝากก็ถามใหม่ว่า

   “เมื่อไหร่เองจะเอาเมียซะที สึกมาตั้งนานแล้ว พ่ออยากเห็นเมียเอ็งว่ะ”..

   เมื่อรถที่พี่ ๆ ออกมารับจากท่ารถไปถึงบ้าน สุริยาก็ก้มกราบที่ยอดอกพ่อ ..นึกถึงบุญกุศลที่ได้บวชเณรบวชพระรักษาศีล ทำทาน พาคนไหว้พระ สอนคนให้รู้จักพระธรรมคำสั่งสอน ตรึกระลึกให้ประมวลรวมกัน จนใจใสใจสว่างก็อุทิศผลบุญให้ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ให้สู่สุคติโลกสวรรค์ ให้เสวยสุขในทิพยวิมาน.ให้กรรมที่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ดื่มสุรายาเมาอย่าเพิ่งส่งผล

   เพราะรักจึงคิดว่าพ่อจะไปในทางที่ดี..หากความจริงอีกข้อที่รู้และได้บอกไว้..

   “ถ้ารู้ว่าใกล้จะหลับตาลาละโลก พ่ออย่าลืมคำว่าพุทโธ อย่าลืมบุญที่ได้บวชลูกชายตั้งหลายคนนะพ่อ..พ่อจะได้ไปดี..”..

   ผู้เป็นแม่เข้ามาปลอบประโลม พลางกล่าวว่า

   “พ่อเขาทำอย่างเอ็งสอนไว้ได้..พุทโธ จนขาดใจตาย แกว่าเห็นผ้าเหลืองมารับจริง ๆ ว่ะแม่เอ็ง” พูดไปคนเป็นแม่ก็น้ำตาไหลพราก ๆ

   ศพของพ่อตั้งอยู่ถึงสามคืนจึงได้เผา ตามธรรมเนียมต้องมีลูกหลานบวชเณรจูงศพ ดับไฟนรก..

สุริยาจะทำให้ แต่ผู้เป็นแม่ห้ามไว้..ด้วยเขาบวชมาหลายปี ให้บุญพ่อแม่มากมาย..หลานผู้ชายเยอะแยะ..ชายหนุ่มจึงเพียงทำหน้าที่พิธีกร กล่าวนำถวายทานและอ่านประวัติเมื่อศพตั้งอยู่บนเมรุ..

   นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา....
   



   หลังทำบุญครบรอบเจ็ดวัน สุริยานั่งรถกระบะกลับกรุงเทพฯ กับญาติข้างพ่อ..ความรู้สึกในขณะที่อยู่กระบะท้ายแล้วลมพัดเส้นผมกระจุยกระจายกอปรกับแดดร้อนเปรี้ยง เปรียบกับวันที่นั่งรถเก๋งคันโก้ ชีวิตเหมือนฝัน ความจริงวันนี้เขาเป็นได้เพียงเท่านี้ วันนั้นได้แต่อาศัยบุญคนอื่น..

   นึกถึงตลอดเจ็ดวันว่าอีกคนกำลังทำอะไร..ไม่ได้โทรหาไม่ได้บอกว่า พ่อได้สิ้นใจไปแล้ว ด้วยเกรงว่าเขาจะขับรถตามไป แล้วจะยุ่งยากออกมาต้อนรับขับสู้ เมื่อมาถึงบ้าน ป้าซึ่งกลับมาตั้งแต่วันเผาก็บอกว่า

   “มีจดหมายนั่นแน่ะสองสามแผ่น”


   สุริยาคว้ามาอ่าน เป็นโพสการ์ด รูปสถานที่ท่องเที่ยวเมืองหัวหิน เมืองสมุทรสงคราม 2 ใบ เขาจึงไล่อ่านตามวันที่..แผ่นแรกเป็นรูปทะเล ภูเขา..พระอาทิตย์

   “พี่สุริยา ขอบคุณมากนะคะสำหรับ ทะเล หาดทราย สายลม และพระอาทิตย์..งงซิว่าหนูแอบเขียนตอนไหน ก็ตอนที่นั่งรอกินข้าวตอนเช้าไง..ลงมาช้าจัง คงเป็นพี่รุ่งโรจน์ที่แต่งตัวช้าแน่ ๆ เลย..ขอบคุณนะคะ
..หนูเอ็งค่า..”


   ส่วนแผ่นที่สอง..เป็นรูปบ้านเรือนไทย อุทยาน ร. ๒



   “พี่สุริยา หนูไม่คิดเลยว่า หิ่งห้อยมันเยอะขนาดนี้ สมัยเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ หนูเคยเห็นมันบินตามหนองน้ำแค่สี่ห้าตัว ตอนนั้นหนูดีใจมาก บางตัวหลุดขึ้นมาบนบกวิ่งไล่จับ ประหนึ่งไล่จับดาวอย่างนั้น ..เมื่อกี้นี้ ดาวบนต้นลำพู ระยิบระยับกระพริบพร้อมกันด้วย ติดอยู่ในลูกกะตา คิดถึงโกโบรินะคะ ป่านฉะนี้ไม่รู้จะได้เจอะกับอังศุมาลินหรือยัง ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพูจริง ๆ หรือเปล่าน้า..หนูเอ็งค่า..


   และสุดท้าย..เป็นรูปหลวงพ่อวัดบ้านแหลม

   
“อิอิ แอบเขียนในห้องน้ำปั๊มน้ำมัน เปลี่ยนบรรยากาศ..ขอบคุณนะคะสำหรับแรงบันดาลใจที่จะศึกษาหาความรู้ จะพยายามค่ะ เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ ..ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคนเราหรอก..เขาทำได้เราก็ (น่าจะ) ทำได้..จะเป็นเด็กดีค่ะ..


   อ่านจบ ถอนหายใจออกมานึกถึงภาพเด็กผู้หญิงตาเป็นประกายใบหน้านวลเนียนในกรอบผมม้า..

‘พ่ออยากเห็นเมียเอ็งว่ะ’

   คำพูดของพ่อยังก้องอยู่ในหู..ความรักเป็นเหมือนดาบสองคม มีสุขกับทุกข์ในขณะเดียวกัน..

   “เมื่อวานนี้พ่อรถเก๋งสีดำ เขามาหา ป้าบอกว่าเอ็งไปงานศพพ่อ..เขาบอกว่าโทรหาแต่สัญญาณไม่มี..อย่างไรเขาบอกว่าถ้ากลับมาแล้วให้โทรหาเขาด้วย”

   สุริยาพยักหน้า เข้าห้องหยิบกรอบรูปมาวาง จัดรูปที่ถ่ายบนยอดเขาปางจันทร์มาใส่กรอบ..เมื่อมองภาพคนสองคนที่อยู่เคียงกัน เขารู้สึกสับสน

   กรรมอันใดหนอจึงได้พาให้มาพบเรื่องหัวใจในลักษณะนี้..ตั้งใจว่าจะโทรไปบอกคนที่เขาคงห่วง..เพราะเขาบอกเอาไว้แล้วนี่..จะไปยืนเคียงข้าง ไปอยู่ดูแล..แต่พอจะกดโทรออกเปลือกตาก็หนักอึ้ง...

   มาสะดุ้งตื่นอีกที เมื่อมีเสียงกระซิบเรียกชื่อตนที่ใกล้ ๆ หู

   “สุริยา สุริยา เป็นอย่างไรบ้าง” เป็นอีกครั้งที่เขาใช้หลังมืออังไปทั่วใบหน้าและซอกคอ..สุริยาลืมตาขึ้น เห็นคนมาหายิ้มให้แววตาสว่างไสว...

   “ทำไมไม่โทรบอกผมว่าพ่อตาย ผมจะได้ไปร่วมงาน”

   คนที่ยังงัวเงีย..ไม่ตอบ กลับจ้องหน้าอีกคนนิ่ง ๆ ..พลางถอนหายใจออกมา..

   “ผมมารบกวนคุณหรือเปล่า” น้ำเสียงของรุ่งโรจน์บ่งบอกว่าน้อยใจ

   “ไม่หรอก..ไม่รบกวน คือวันนี้ผมเหนื่อยในหัวอกอย่างไรก็ไม่รู้ มันเพลีย ขอโทษนะ” ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอน รุ่งโรจน์เห็นดังนั้นจึงไปนอนเคียงกันพลางใช้มือเสยไปที่ผมชื้นเหงื่อ..

   “คืนนี้ไปบ้านของเรานะ ผมจะดูแลคุณเอง..”

   เมื่อได้ยินดังนั้นสุริยาหลับตาลง หายใจเข้าออกด้วยความอึดอัด อยากจะตะโกนกู่ก้องอยากจะบอกกับเขาว่าอย่าทำอย่างนี้ ..เขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้จะทำตัวอย่างไร..เขาสับสนด้วยซ้ำว่า เขาเป็นใคร กำลังจะเป็นชายใจหญิงหรือว่าเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบผู้ชายด้วยกัน หากจะผลักใส ก็นึกถึงใจที่นายรุ่งโรจน์ยกมอบให้ มันมากมายจนยากจะผลักหนี..

   เป็นไปได้รึ ความรักระหว่างชายกับชาย..

   ชายต้องคู่กับหญิงไม่ใช่รึ..และถ้าโลกไม่ให้เขาเป็นไปอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งควรจะเป็น เขาจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างไร..พ่อแม่จะว่าเขาไหม..เขาจะบาปไหม

   ไม่.. เขาไม่ใช่เกย์..ไม่ใช่ชายรักร่วมเพศ เขาต้องหาทางผลักให้รุ่งโรจน์ออกไปจากชีวิตเขาให้ได้

anop2521

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจนะครับ..พบกับ รุ่งโรจน์ สุริยา และแสงทอง วันจันทร์หน้านะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด