รักเกิดในแผนกขนส่ง....ภาค โยธิน-บัวลอย ตอน เฮ ๆ ฮา ๆ
บางครั้งของบางอย่างมันก็ต้องอาศัยความเจ้าเล่ห์ร่วมด้วยบ้าง จะให้เดินตรง ๆ ไม่มีการซิกแซกมันก็ดูจะผิดวิสัยของโยธินจนเกินไป ก็เลย.............
ดักรอแม่งซะ
ดูลาดเลามานานแล้ว ของแบบนี้มันต้องลงมือคนเดียว ในที่เปลี่ยวๆ ไม่งั้นไม่มีทางได้กิน
เส้นทางการขนส่งปลาย่างมันก็ต้องมีจุดรั่วบ้างแหละวะ
จุดรั่วที่ว่า ไม่รู้ว่าทางนั้นจงใจหรือเปล่านะ แต่โยธินก็ไม่คิดจะสนใจ เปิดช่องให้ซะขนาดนี้ ผมจะถือว่าพวกพี่เป็นใจก็แล้วกัน
“อ่ะ....ไอ้...”
ฮัทถึงกับชะงักยืนนิ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้าใครบางคนที่ไม่คิดอยากจะพบเจอกันแบบตรง ๆ
ไอ้เรื่องนั้นมันไม่ใช่จะลืมกันได้ง่าย ๆ
และในเวลานี้พนักงานใหม่จากแผนกขนส่งที่ตั้งใจเดินมาล้างมือที่อ่างล้างมือหน้ากระจกก็เลยเกิดอาการตั้งตัวไม่ทัน
และถ้าตั้งตัวไม่ทันแบบนี้ มันก็เสร็จโจรสิครับจะปล่อยไว้ทำบ้าอะไร
“ไอ้โยธินปล่อยกู๊”
ตะโกนขนาดนี้อยากให้ได้ยินกันไปสามบ้านแปดบ้านเลยมั้ยล่ะน้องบัว
“ชู่ววว อย่าเสียงดังสิ”
จัดการกอดรัดร่างของคนที่ดิ้นรนหนีจากด้านหลัง กอดแน่นและแม้อีกฝ่ายจะดิ้นรนขนาดไหน ก็ไม่มีผล
กูเลือกท่าในการล็อคมาเป็นอย่างดี ชนิดที่หาทางหลุดออกได้ยากมาก ขืนเดินเข้าไปกอดตรงๆ มีหวังโดนน้องบัวชกตาแตกตายห่า มันก็เลยต้องล็อคจากด้านหลังแบบนี้แหละวะ ถึงจะอยู่
“ไอ้โยธิน ไอ้โยธิน ปล่อยกู๊ ไอ้เหี้ยเอ้ยยยยย”
อย่าร้องสิ จะตะโกนไปทำไมเนี่ย
จัดการล็อคแล้วลากเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย
ก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ ก็อยากจะเลือกบรรยากาศให้มันดีกว่านี้หน่อย แต่ถามจริงเหอะ มันเลือกได้ซะที่ไหนกันล่ะ
ได้แค่นี้ก็ดีขนาดไหนแล้ว
ไม่ได้ล็อคประตู และโยธินก็ใช้แผ่นหลังดันประตูเอาไว้ และคนในอ้อมแขนก็ทั้งดิ้น ทั้งออกแรง ทั้งไม่ยอมให้แตะให้กอด
เหี้ยเอ้ยยยย
อย่าฤทธิ์มากให้มากนักสิน้องบัว
“ถ้าไม่หยุดดิ้นนะ จะช่วยตะโกนให้คนรู้กันทั้งหมดนี่แหละ ว่าพี่ปล้ำบัวอยู่ในห้องน้ำนี่”
ไอ้เหี้ยยยยยยย ไอ้โยธิน มึงอย่ามาสร้างปัญหาให้กูนะ มึงหยุดสร้างปัญหาให้กูซักที
“ผมปล้ำน้องบัวอยู่ในห้องน้ำครับ ใครอยู่ข้างนอกรับรู้ไว้ด้วย ผมกำลังปล้ำน้องบัวอยู่คร้าบบบบ อุ่ก อืม แอ่ก”
โดนตะครุบปากเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียงดัง และคนที่อยู่ในสภาพหน้าตาตื่นก็เหมือนจะทำอะไรไม่ถูก
แค่นี้ก็เข้าทางแล้ว จะไปยากอะไรล่ะ
“มึงจะแหกปากทำเหี้ยอะไรวะสัด”
อ้าวก็แหกปากช่วยน้องบัวไง เผื่อน้องบัวอยากให้ช่วยตะโกน พี่ก็ช่วยตะโกนแล้วไงครับ
โยธินกำลังยิ้ม ยิ้มหน้าระรื่น และจ้องหน้าของคนในอ้อมแขนในระยะประชิด
.............เฮ่อออออ...........เป็นแบบที่คิดจริง ๆ ด้วย..........
“คิดถึงจัง”
ห๊ะ มึงพูดอะไรนะ
ยังอยู่ในอาการงงไม่หาย ตั้งตัวไม่ได้ และโยธินที่ยังคงใช้แรงที่มีกอดรัดร่างของพนักงานใหม่ของแผนกขนส่งแน่นไม่ยอมปล่อย ก็ยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิม
มีความสุขอะไรขนาดนี้ว๊า
ได้กอดเมียนี่มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง หลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตามาเกือบเดือน
อาศัยหาเรื่องเดินไปคุยกับคนแผนกขนส่งบ่อย ๆ
อารมณ์แบบว่าไม่เห็นหน้าเจ้า เห็นเคาร์เตอร์หน้าแผนกก็ยังดี
แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว
คิดถึงจริง ๆ นะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะคิดถึงไอ้น้องเกรียนบัวลอยได้มากขนาดนี้
“ปล่อยกูดิ๊ ไอ้สัด แม่งถ้าไม่ปล่อยกูนะ กูจะเอาเลือดหัวมึงออกเดี๋ยวนี้แหละ กูบอกแล้วไม่ใช่หรือไง เจอกันอีกทีกูจะฆ่ามึง มึงยังกล้ามายุ่งกับกูอีกเหรอไอ้เหี้ยเอ้ยยยยย”
โห มันจะโหดไปถึงไหนวะ ผัวทั้งคน อยากให้ตายขนาดนั้นเชียว
“เดี๋ยวบัวก็เป็นม่ายกันพอดี ไม่กลัวเป็นม่ายหรือไง”
ม่ายบ้านพ่อมึงสิ ม่ายเหี้ยอะไรของมึง ไอ้โยธิน
“นี่ อยู่เฉย ๆ สิ จะดิ้นทำไมเนี่ย ไม่รู้หรือไงว่ามันเหนื่อย เดี๋ยวก็พี่กอดแน่นเกินไปบัวก็กระดูกแตกตายกันพอดี นี่คิด จะหาเรื่อง
ผัว ไปถึงไหน ยอมง่าย ๆ หน่อยซิ”
ยอม ยอมมึงเนี่ยนะ มึงเป็นบ้าหรือไง เรื่องอะไรกูต้องยอมมึงด้วย มันไม่ใช่เรื่องที่กูต้องยอมมึงนะโว้ยยยยยยยยยยยยย
แล้วกูก็ไม่ใช่เมียมึงด้วย หยุดพูดจาเหี้ยๆ แบบนี้ซักทีเหอะกูไม่อยากฟัง
“ไอ้โยธิน อึก ปล่อยกู๊ ปล่อยสิวะ”
เออน่า เดี๋ยวก็ปล่อยแล้ว
“นับหนึ่งถึงสาม แล้วเดี๋ยวปล่อย หยุดดิ้นก่อนสิ”
มันใช่เรื่องที่กูต้องยอมมึงเหรอ โว้ยยยยยยยยยย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะ ปล่อยกู๊
“ยังจะดิ้นอีก เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวน่าดู”
น่าดูอะไร น่าดูอะไรของมึง
“หนึ่ง”
อะไรของมึง ไอ้สัดกวนตีนกูอีกแล้วนะ มึงกวนตีนกูอยู่ชัด ๆ
“สอง”
นับสามเมื่อไหร่ กูจะต่อยมึงให้หน้าหงาย กูจะฆ่ามึงทิ้งแล้วจะลากศพมึงหมกส้วมเลยคอยดู
“สาม”
ไม่ใช่แค่นับ แต่ในครั้งที่สาม โยธินกะจังหวะมาอย่างดีแล้ว
รีบกดปลายจมูกหนัก ๆ ที่ข้างแก้มของคนในอ้อมแขนที่แสนคิดถึง แล้วก็รีบปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ
จังหวะที่น้องบัวกำลังงงนี่แหละ โอกาสเลย จะพลาดไม่ได้
ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว และโยธินก็รีบชิ่งออกมา โดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว รีบวิ่งออกมาโดยไม่หันกลับไปมอง
ไม่ต้องมอง เพราะมีให้เดาสองอย่างคือ..... หนึ่ง....น้องบัวมันตั้งตัวได้ แล้วรีบวิ่งออกมาลากกูไปฆ่า
กับสอง.....น้องบัวมันยังงง แล้วก็ยืนเอ๋อ อยู่ตรงนั้น
อะไรซักอย่าง หนึ่งในสองข้อนั้น ข้อแรกไม่เท่าไหร่ ตายเป็นตายไม่ได้กลัว
แต่กลัวว่าจะเจอข้อสอง แม่งคงโคตรน่ารักมาก แล้วคราวนี้ก็คงอดใจไม่ไหว คงได้ใช้กำลังลากไอ้เด็กเกรียนไปทำมิดีมิร้ายในสถานที่ไม่เหมาะไม่ควร
แม่ง.....เกิดเป็นโยธินนี่มันเหนื่อยจริง ๆ ศัตรูรอบด้านไม่กลัว แต่ที่ต้องกลัว คือกลัวใจเมียคนเดียว
เฮ่อ..... แต่ว่าได้แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ววะ ได้เห็นใบหน้าในระยะประชิดขนาดนั้น ได้เห็นท่าทางร้อนรนและเหมือนกำลังโมโหแต่ก็โมโหได้ไม่สุดนั่นอีก อะไรกันว๊า.....แบบนี้ก็แย่สิ หลงจริงจังเหอะ หลงจริงจังกันล่ะงานนี้
ถ้านี่เรียกว่าหลง ยอมรับเลย ว่าหลงน้องบัวแม่งจริง ๆ
ไม่รู้มันเอาอะไรมาทำให้หลง ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าหลงมันได้ยังไง ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็หลงไปแล้ว
และไม่ใช่หลงธรรมดา หลงแบบอาการหนักเข้าขั้นซะด้วย
แต่มุกนี้ที่ลอบเข้าหาจังหวะเผลอ ต่อไปคงใช้ไม่ได้ผลซะแล้ว คงต้องหาทางใหม่ๆ ไปเรื่อย ๆ
ก็เล่นกันท่ากันซะขนาดนั้น ไม่เปิดโอกาสให้เข้าใกล้เลยสักนิด แล้วจะให้ทำยังไง
อดใจมันก็อดใจได้อยู่ แต่ก็ขอซักนิดเหอะน่า
ขอให้ได้ชื่นใจบ้าง จะได้มีแรงสู้ จะได้มีความอดทนในการรอเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
น้องบัว..........
น้อง......บัว....
โยธินกำลังยิ้ม เดินยิ้มไปเรื่อย ๆ และรีบวิ่งขึ้นตึกเพื่อเข้าไปที่แผนกขาย โดยไม่ทันเห็นว่ามีสายตาของใครมองอยู่
“แมวเข้าบ้านไปแล้ว ภารกิจลุล่วง”
วิเชียรส่งสัญญาณบอกคนที่รอฟังข่าว และคนที่รอฟังอยู่ก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
บุ้งแท็กมือกับมีน และน้องพู่ ก็หันมาส่งยิ้มให้อำนาจด้วยความขำ
“ก็สงสารมันอยู่นะ แต่ก็ตลกว่ะ ไอ้โยธินนี่มันร้ายไม่เบา ดอดเข้ามางาบเอาจนได้ นึกว่ามันจะโง่ไม่รู้จักอาศัยช่องโหว่ที่เปิดให้ซะแล้ว ก็นับว่ามันฉลาดไม่เบา แต่น้อยกว่าพวกกูเปล่าวะ”
ีร่ายยาวไปเรื่อย และน้องพู่ก็เริ่มเบะหน้าและหันมาปรายตามองหน้าแฟนของตัวเอง
“ถ้าเป็นพี่แก๊ปคงคิดไม่ได้หรอก ว่าป่ะ”
โห่ พู่อ่ะ ทำไมอ่ะ ทำไมพี่ถึงคิดไม่ได้ล่ะ ว่าพี่อีกแล้วนะ ทำไมพูดงี้อ่ะ น้อยใจเลยนะ น้อยใจ น้อยใจ
“ไม่ต้องมาทำหน้าบื้อเหอะ เป็นพี่แก๊ปจะทำยังไง จะคิดได้อย่างโยธินมันป่ะ”
เออว่ะ คงคิดไม่ทันหรอก
“พี่จะทำยังไง พี่ก็เดินหน้าอย่างเดียวสิ เจอกำแพงก็กระโดดข้าม เจอน้ำก็ว่ายข้ามไป เจอพู่เมื่อไหร่พี่ก็กระโดดเข้าใส่ ไม่เห็นยาก”
แล้วเสียงโห่ร้องด้วยความฮากับวาจาที่เกินคาดของไอ้แก๊ปก็ตามมาชุดใหญ่
“เออ...ไอ้ฉลาด..........”
วิโรจน์ส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความขำ
“แต่ถ้าเป็นมึง เห็นกำแพง เห็นแม่น้ำ มึงคงคิดกับหัวหน้าแผนกขายอารมณ์ประมาณว่าอยากพาไปเอ้าดอร์ใช่ป่ะล่ะ ไอ้โรจน์ ไอ้หื่นเงียบ ไอ้เก็บกดทางเพศ”
คำพูดของอำนาจยิ่งเรียกรอยยิ้มให้กับเพื่อน ๆ ร่วมแผนกขนส่งได้ไม่น้อย
และวิโรจน์ก็ยักไหล่ไม่ได้แคร์ กับสิ่งที่เพื่อนพูด
“เรื่องกู๊”
เหรอออออออออออ
“ไอ้หน้าด้าน มึงแม่งไร้ยางอาย”
แล้วกูเอาหน้ามึงไปด้านด้วยหรือเปล่า ก็ไม่ใช่
“ด่ากูจังเลยเนอะ ไอ้บัตรลดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่พี่บาสจะให้กูรอบหน้า สงสัยกูคงไม่ต้องเสียสละให้มึงหรอกมั้ง”
โอ้ อย่าพูดอย่างนั้นสิ เพื่อนโรจน์ เพื่อนโรจน์ที่รักของแก๊ป
“อย่าทำอย่างนั้นนะวิโรจน์เพื่อนรัก วิโรจน์ไม่มีทางใจร้ายกับเพื่อนแสนดีอย่างอำนาจใช่มั้ย ใช่มั้ย ใช่มั้ย”
ไม่รู้ดิ นั่นก็แล้วแต่อารมณ์กู ช่วยไม่ได้ มึงอยากแขวะกูเอง ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องสนใจไม่ใช่หรือไง
วิโรจน์ก็แค่ทำหน้าเฉย ไม่รู้สึกรู้สา เดินเข้าแผนกในไปแล้วโดยมีอำนาจเดินตามและยังคงสร้างมิตรสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนด้วยการเดินไปบีบนวดไหล่ของวิโรจน์ไม่ยอมหยุด
“ขอกูเห๊อะ กูอดอยากมานานแล้ว วันเสาร์นี้กูขอจัดหน่อยเหอะนะโรจน์ นะ นะ เพื่อน กูขอร้อง กูเงี่ยนจะตายห่าแล้วเนี่ย นะโรจน์นะ นะ นะ นะ โรจน์เพื่อนรัก”
อำนาจเดินตามวิโรจน์ไปแล้ว ส่วนน้องพู่ได้แต่ยืนหน้าแดง และทำหน้าไม่ถูก ที่ไอ้พี่แก๊ปมันแสดงออกชัดเจนแบบไม่มีกั๊กขนาดนั้น
“วันเสาร์นี้........โดนจัดแน่ล่ะว๊า พู่น้อยของพี่แก๊ป”
มีนแกล้งแซวคนที่ยืนทำหน้าไม่ถูก และก็หัวเราะออกมาเมื่อน้องพู่ ยิ่งก้มหน้าหนักกว่าเดิม แต่ก็ยังอมยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเขิน
“ก็คนมันไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนี่หว่า ก็ต้องเห็นใจกันมั่งดิ”
อ้าว โดนเบยยยยยยย
“อยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันนี่ ผมก็ต้องกลับบ้านตัวเองบ้างอะไรบ้าง”
อ้อมแอ้มตอบคนที่ยืนหน้าแดงแล้วคราวนี้คนที่เป็นฝ่ายหน้าแดงก็เป็นมีนซะเอง และน้องพู่ก็ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม บอลมันเข้าทางมีหรือที่จะไม่ซัดให้ตุงตาข่าย โอกาสมาซะขนาดนี้แล้ว
“แสดงว่าโดนทุกวัน ไม่โดนเฉพาะวันที่กลับไปนอนบ้านว่างั้น”
เฮ้ยยยยยยยยยย มันก็ไม่ใช่อะไรขนาดนั้น พู่ก็พูดเกินปายยยยยยยยยยย
“ไอ้พู่มันรู้จริงวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เออ แม่งใครบอกมึงวะพู่ พี่นี่จัดให้มีนมันทุกวัน ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ไอ้...........พี่..............บุ้ง
เงยหน้ามองหน้าของหัวหน้าแผนกขนส่งแล้วมีนก็ยิ่งอายหนักกว่าเดิม ที่พี่บุ้งเป็นฝ่ายเล่นงานเมียตัวเองซะเอง
“ไหนบอกไม่อยากให้ใครรู้ แล้วพี่บุ้งพูดแบบนี้หมายความว่าไง”
ไม่ได้ด่า แต่ทำเสียงงุ้งงิ้งง๊องแง๊ง ด้วยความเขิน และหัวหน้าแผนกขนส่งก็พยักหน้าให้มีน และยังหันไปมองหน้าของน้องพู่ที่เห็นด้วยทุกประการและยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่ามีพวก
“เราก็ต้องพูดให้คนที่นาน ๆ โดนทีมันนึกอิจฉาซะบ้าง กระตุ้นมันเยอะ ๆ เวลามันเอากัน พู่มันจะได้จัดไอ้แก๊ปแบบเต็ม ๆ ถูกมั้ยพู่..........นี่พี่พูดขนาดนี้ พู่ก็ต้องคิดเลยนะว่าจะจัดไอ้แก๊ปแบบเต็ม ๆ ยังไง มันจะได้หายเสี้ยน สงสารมัน”
อ่า หัวหน้าก็พูดซะ...........ผมไปไม่เป็นเลยเนี่ย
“ผมไปทำงานแระ งานค้างโคตรเยอะเลยอ่า”
ไม่พูดอะไรต่อ แต่พู่เดินหน้าแดงเข้าแผนกในตามอำนาจและวิโรจน์ไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีสายตาของมีนและบุ้งมองตามแบบยิ้ม ๆ
“น่าสงสารนะนั่น แต่ก็น่าแกล้งอยู่เหมือนกัน”
มีนบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ และหัวหน้าแผนกขนส่งก็หัวเราะออกมา และมองหน้าของคนที่สงสารคนอื่นไปซะทั่ว
“สงสารคนอื่น แต่ไม่สงสารพี่เลยใช่มั้ย กลับบ้านอีกแล้ว ปล่อยพี่นอนคนเดียวตัลล๊อดดดดด งอนแล้วนะมีน”
เฮ้ยยยยยยยยย มันไม่ใช่แล้วพี่บุ้ง แบบนี้มันไม่ใช่
“เอ้า......ก็คนมันมีบ้านมีพ่อมีแม่เน่อ ก็ต้องกลับไปนอนบ้านบ้างสิ พี่บุ้งก็ว่าไป”
เออว่ะ คนมันมีบ้านให้กลับ มีพ่อมีแม่ให้ไปหา งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน ไม่เห็นยาก
“งั้นวันนี้พี่ไปนอนบ้านมีนนะ เปลี่ยนบรรยากาศ เนอะ เนอะ”
ยักคิ้วให้กับมีนที่ตามไม่ทันและเมื่อมีนคิดได้ว่าสายตาของพี่บุ้งที่ส่งมามันหมายถึงอะไร มีนก็ถึงกับต้องเดินหนีเข้าไปในออฟฟิศเพื่อไปคีย์บิลน้ำมันที่ค้างเอาไว้
“ไม่เอาแล้ว ไม่คุยกับพี่บุ้งแล้ว คุยกับพี่บุ้งทีไรขาดทุกที”
โห่มีน จะไปขาดทุนอะไร มีแต่ได้กับได้แหละน่า
จะไปขาดทุนตรงไหนล่ะ ของ ๆ มีน ก็เหมือนของ ๆ พี่ น้ำของมีนก็เหมือนน้ำของพี่ น้ำของพี่ก็เหมือนน้ำของมีน แบ่ง น้ำมีนมาให้พี่ แบ่งน้ำพี่ไปให้มีน แบ่ง ๆ กันไป มีแต่กำไร ไม่เห็นจะขาดทุนตรงไหนเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++