ตอนที่ 13 : เกวียนที่คิดว่ามี (2)“รหัสกลับมาจับคู่ตามเดิมนะคะ จิ๊บคุยกับฉัตรแล้วเห็นเหมือนกันว่าควรยึดตามที่ตกลงกันครั้งแรก ตอนทำงานก็คิดซะว่าแยกกันทำ”
“มีอย่างนี้ด้วยเหรอวะ กลับมาทวงคืนได้ด้วย” ไทยกระซิบถามตะวัน พวกเขายืนห่างออกไปแต่ยังพอได้ยินการสนทนาชัดเจน
“ผมว่าแบบนี้ก็สะดวกดี ผู้หญิงจับคู่กับผู้หญิง จิ๊บจะได้ทำอะไรได้ถนัดกว่า ไม่ต้องอึดอัดหรือคอยเกรงใจผม”
“เป็นการปฏิเสธที่ทำเอาพูดไม่ออก เจอแบบนี้กูคงหน้าหงาย”
“เงียบหน่อยไทย” ตะวันปรามเพื่อน เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยินเข้า “อยู่เฉยๆ เป็นไหม คนโปรดยังไม่เห็นพูดอะไรเลย”
“เปล่า กูลุ้นจนเหยี่ยวเหนียวแล้วเนี่ยเลยพูดไม่ออก”
“ฮ่าๆ” ไทยหัวเราะขำท่าทางบิดตัวเกร็งของเพื่อน
“แต่จิ๊บไม่อึดอัดนี่คะ แล้วก็เต็มใจมากๆ ด้วย” พวกเขากลับไปให้ความสนใจการสนทนาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคนอยากจับคู่เหมือนเดิมยังมีความพยายาม
“ว่าไงเรา จิ๊บมาขอเปลี่ยนคู่” จู่ๆ การตัดสินใจก็ถูกโยนมาให้เขา คนโปรดทำหน้าเอ๋อๆ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
“ผม..”
“คนโปรดให้เปลี่ยนอยู่แล้วใช่ไหม พี่รู้” โห ไวมากพี่ คนโปรดนึกในใจแต่ทำได้แค่ยิ้มแหยๆ ออกมา ปากมันหนักจนเขาง้างไม่ออก ไม่รู้ว่าควรตอบตามมารยาทหรือตอบตามความรู้สึกของตัวเองดี
“โช ทางนี้” เขามองมือที่ยกขึ้นโบกของรุ่นพี่คนสวย ก่อนหันไปมองตามสายตาของอีกฝ่าย ถึงเห็นว่าโชกำลังเดินยิ้มกว้างเข้ามา ตามด้วยหน้ามุ่ยๆ ของใครอีกคน
“โชมาก็ดี เนี่ยสลับคู่กันจนยุ่งไปหมด จิ๊บเลยมาขอสลับคืน เดี๋ยวโชกลับไปจับคู่กับฉัตรเหมือนเดิมนะ”
“ยังไงก็ได้” คนพูดยักไหล่
“ดี” ตามด้วยเสียงห้วนๆ ของสายฟ้า ที่ไม่รู้ว่าไปกินรังแตนมาจากไหน
“งั้นก็เอาตามนี้นะคะ รหัสคู่กับจิ๊บเหมือนเดิม” คนพูดยิ้มร่าเริงที่ได้อย่างใจ
“ผมว่าอย่าดีกว่า”
“คะ?” อย่าว่าแต่สาวสวยอย่างจิ๊บจะตกใจ คนโปรดเองยังเผลอเบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“เอาตามเดิมเถอะจิ๊บ คนจะคิดว่าเราทำตัวเหมือนมาเที่ยวเล่น ทำอะไรกันตามใจชอบ อีกอย่างผมไม่เห็นว่าการจับคู่กับใครจะสำคัญตรงไหน เรามาทำงานกันทุกคน”
“.....”
“กูรู้แล้วล่ะว่าทำไมพี่รหัสถึงยังไม่มีแฟน” ไทยเอียงหน้าเข้าหาตะวัน
“ไทย!” ไทยหุบปากทันทีเมื่อเจอสายตาดุๆ ของเพื่อนเข้า
“ก็ได้ค่ะ จิ๊บตามใจรหัส”
“ครับ”
“จบแล้วใช่ไหมกูจะได้ไปพัก เบื่อฉิบหาย” สายฟ้ายังอารมณ์ไม่ดีอย่างต่อเนื่องจนทุกคนแปลกใจ มีเพียงโชเท่านั้นที่ยิ้มขำอยู่คนเดียว
“พี่โช พี่สายฟ้าเป็นอะไรครับ” คนโปรดขยับเข้าไปใกล้รุ่นพี่ สะกิดถามด้วยความอยากรู้ หลังจากวงแตก จิ๊บไปทางสายฟ้าไปทาง
“โมโหพี่มั้ง”
“อ้าว แล้วพี่โชไปทำอะไรมา
“ไม่ได้ทำอะไรก็แค่ชวนคุยปกติ สงสัยไม่ชอบขี้หน้าพี่”
“ไปพูดกวนประสาทพี่สายฟ้ามากกว่ามั้ง”
“รู้ดีนะเรา เข้ามานั่งในใจพี่เหรอ”
“โห ไม่ต้องนั่งก็รู้ อย่างพี่โชมีเหรอจะชวนคุยปกติ” คนโปรดเถียงขาดใจ โดยไม่สังเกตรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของอีกฝ่าย
“นั่งเถอะ อยากให้นั่ง”
“หือ?” คนโปรดเบิกตากว้าง เดี๋ยวนะทำไมมันฟังแหม่งๆ วะ แต่ก่อนที่เขาจะได้สอบถามให้หายคาใจ สายตาก็เหลือบเห็นใครบางคนกำลังแยกตัวออกไปเงียบๆ ด้วยใบหน้าบึ้งตึง อะไรวะนี่ก็เหมือนกันไปกินรังแตนมาจากไหน
“พี่รหัสส”
“อยู่ห่างแค่นี้จะตะโกทำไม” น้ำเสียงที่พูดทั้งดุทั้งหงุดหงิดจนคนโปรดหน้าจ๋อย
“ก็ผมกลัวพี่รหัสไม่ได้ยินนี่นา ไปไหนครับ”
“หาที่นอน”
“ผมไปด้วย” คนโปรดลืมเรื่องที่คาใจไปสิ้น ไทยมองเพื่อนแล้วส่ายหัว ถ้าคนโปรดเป็นหมา ตอนนี้คงกำลังส่ายหางวิ่งล้อมหน้าล้อมหลังเจ้าของอยู่แน่ เหมือนยิ่งกว่าเหมือน
“ไปเร็ว” ดีที่ยังไม่ลืมเพื่อนอย่างพวกเขา คนโปรดหันมากวักมือเรียก ไทยพยักหน้า หันไปส่งยิ้มนิดหนึ่งให้โช ก่อนลากตะวันให้เดินตามคนโปรดไปพร้อมกัน
“ผมนอนตรงนี้” กระเป๋าถูกทิ้งลงมาบนฟูกข้างๆ รหัสเงยหน้าขึ้นมองเห็นรอยยิ้มทะเล้นส่งมาให้เป็นอย่างแรก
“จะไม่ให้หายใจเลยเหรอ” คนฟังเบิกตากว้าง สีหน้าตกใจจนรหัสอดคิดไม่ได้ว่าหรือเขาจะพูดจาแรงเกินไป
“พี่รหัสหายใจไม่ออกเหรอครับ มาๆ ผมทำซีพีอาร์ให้” ว่าแล้วไอ้ตัวดีก็ถือวิสาสะขึ้นมานั่งบนฟูกของเขา ทำท่าจะผลักเขานอนหงายเสียอย่างนั้น จนรหัสต้องจับข้อมือเล็กเอาไว้ทั้งสองข้าง
“ขาดอากาศนานๆ ไม่ดีนะครับเชื่อผม โอ๊ย!” คนโปรดร้องเกินจริง เมื่อรหัสปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วยกขึ้นมาผลักหัวเขา
“กลับไปที่ตัวเองได้แล้ว”
“โธ่นึกว่าจะฟลุ้คได้จูบ...ไม่พูดแล้วคร้าบบ” คนโปรดรีบเผ่นกลับที่นอนตัวเองเมื่อเจอกับสายตาดุๆ ที่มองมา ทำไมมันถึงยากเย็นอย่างนี้วะ
“ตะวัน ไทย ทางนี้” คนโปรดรีบยกมือขึ้นโบก เขารับกระเป๋าจากทีมสวัสดิการแล้ววิ่งนำมาก่อนเพื่อนๆ เพราะกลัวจะไม่ทันจองที่นอนข้างรหัส บ้านพักเป็นเพียงห้องโล่งๆ ปูที่นอนกับพื้นเรียงกันไปสองข้าง มีห้องน้ำอยู่สุดทางเดิน หลังหนึ่งพักได้สิบคน
“จนได้นะมึง” ไทยมองเลยไปยังที่นอนข้างๆ เพื่อน เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงพูดขึ้นเบาๆ
“กูเก่ง” คนโปรดยังคิ้ว ไม่กังวลว่ารหัสจะได้ยินไหมเพราะอีกฝ่ายเพิ่งลุกออกไปตอนไทยพูด
“แล้วยังไงต่อวะ คืนนี้มึงจะปล้ำพี่รหัสหรือไง” ไทยทิ้งตัวลงนั่งเลือกเว้นที่นอนตรงกลางไว้ให้ตะวัน
“สักขีพยานเยอะเกินไป กูไม่กล้า”
“พูดอะไรเป็นเล่นไปหมดเลยคนโปรด” ตะวันเปิดกระเป๋าออก ดึงเสื้อผ้าที่ต้องใช้มาวางไว้บนที่นอน
“ฮ่าๆ ไม่เล่นแล้วก็ได้”
“เหนื่อยไหม” ตะวันถามด้วยนัยความหมายที่รู้กันดีด้วยสีหน้าเป็นห่วง คนโปรดจึงส่งยิ้มกว้างให้เพื่อน
“ไม่เลย มีความสุข”
“อืม ดีแล้ว” แค่นั้นที่ตะวันเป็นห่วง
“มาครั้งนี้กูกะว่ามายากูเหลืออีกกี่เล่มเกวียนจะขนมาใช้ให้หมด อุตส่าห์ได้ใกล้ชิดขนาดนี้แล้วจะมามัวนั่งท้อไม่ได้ มัวแต่ท้อก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ยิ่งท้อยิ่งห่าง สู้ทำเท่าที่ทำได้แล้วค่อยไปนั่งเศร้าทีหลังก็ได้”
“สมองเพี้ยนๆ แบบมึงนี่ก็ดีเหมือนกันนะ” ไทยชมผสมด่าตามสไตล์ของตัวเอง
“เพี้ยนที่ไหน มึงคอยดูก็แล้วกัน กูมีเกวียนเด็ดรับรองว่าพี่รหัสต้องหวั่นไหว”
“หวั่นไหวอยากถีบเกวียนมึงคว่ำมากกว่ามั้ง”
“ให้กำลังใจกูตลอด มึงนี่ผีเข้าผีออก พอกูเศร้าก็ให้ความหวังกูจริง พอกูฮึดมึงก็เบรกกูหัวทิ่ม”
“เขาเรียกว่าสมดุลโว้ย มึงไม่รู้จักเหรอ กูถ่วงความพอดีให้มึงอยู่ ยังไม่รู้จักขอบคุณ”
“คร้าบเพื่อนไทย กูซาบซึ้งความดีของมึงมาก ดีแล้วที่ให้ตะวันนอนคั่นกลาง”
“เราต้องเป็นกรรมการแยกอีกกี่ครั้ง” เสียงเย็นๆ ทำให้ทุกอย่างสงบลงได้อย่างรวดเร็ว มีเพียงสายตาที่ยังแอบส่งฟาดฟันกันลับหลังเพื่อน ไม่เชื่ออย่าลบลู่เดี๋ยวคนโปรดจะเร่งความเร็วเกวียนเอง
“อยากเล่นเกมบ้าง” เสียงพูดกับตัวเองแต่ตั้งใจให้เขาได้ยินดังขึ้น รหัสทำเป็นไม่สนใจเสีย บนเวทีจัดให้เล่นเกมไปแล้วหลายครั้ง โดยเลือกจากคู่บัดดี้ที่เสนอตัวขึ้นไป
“เล่นกับพี่ไหม” โชชะโงกหน้าผ่านไทยมาหาคนโปรด
“พี่โชไม่ใช่คู่ผมนี่ครับต้องคนนี้” คนโปรดชี้นิ้วไปยังคนที่นั่งข้างๆ ราวกับต้องการฟ้อง
“เห็นไหมเราจับคู่ผิดเลยอดสนุกเลย” ดวงตากรุ่มกริ่มกับคำพูดกำกวมเรียกสายตาได้จากหลายคู่ หนึ่งในนั้นคือสายฟ้า
“สนุกตรงไหนวะ” คนโดนจับคู่กับคนพูดเบ้ปาก เขาไม่ชอบที่โชมันมีรอยยิ้มกรุ่มกริ่มติดบนใบหน้าเกือบตลอดเวลา สงสัยว่าเพราะเขาอยู่กับเพื่อนหน้าขรึมอย่างรหัสจนเคยตัว
“เพื่อไม่ให้คืนนี้น่าเบื่อเรามาเล่นเกมต่อดีกว่าครับ” เสียงจากผู้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรดังขึ้น “เกมนี้ขอบัดดี้ชายล้วนเท่านั้นห้าคู่ เราจะแข่งแบบแมนๆ จริงจังกันบ้าง ของรางวัลรอบนี้ก็นี่เลยครับ เหล้านอกอภินันทนาการจากคุณพ่อของประธานชมรมของเรา เอ้าตบมือกันหน่อยเร็ว” เสียงพิธีกรประกาศเรียก คนโปรดหันไปส่งสายตาวิ้งๆ ให้บัดดี้ แต่ดูเหมือนอีกคนไม่คิดจะเล่นด้วย
“พลีส” คนโปรดยกมือขึ้นพนม ทำหน้าอ้อนสุดชีวิต “จะได้เหล้าดีๆ มานั่งกินกันไงครับ”
“เอออันนี้เข้าท่า กูเห็นด้วย ยกมือเลย” คนโปรดไม่รอให้สายฟ้าพูดซ้ำให้เสียเวลา รีบยกมือไปพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพราะกลัวพิธีกรบนเวทีจะไม่เห็นเขา
“คู่นั้นครับขึ้นมาเลย” เมื่อได้รับการตอบรับ คนโปรดรีบหันไปส่งยิ้มให้รหัสแต่ต้องเจื่อนลงเมื่อเห็นสายตาดุๆ มองมา
“ไปเถอะมึง เล่นกันเอาสนุก ได้เหล้ามาก็ดีจะได้แดกอย่างมีรสชาติหน่อย” เสียงถอนใจหนักทำเอาคนโปรดใจแป๋วคิดว่าคงอดเสียแล้ว แต่เพียงครู่เดียวร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน
เยสสส เสียงดังในใจของเขา คนโปรดอยากยกกำปั้นชูขึ้นฟ้าแต่ที่ทำได้คือยิ้มแห้งๆ ออกไป ก็ดุขนาดนั้นใครจะกล้ายิ้มดีใจวะ
เขาเดินตามรหัสไปที่เวทีช้าๆ ไม่กล้าเดินเทียบข้าง รู้สึกเหมือนอีกคนพร้อมจะกินหัวเขาทุกเวลา บนเวทีมีคนยืนอยู่ก่อนพวกเขาแล้ว รอเพียงครู่เดียวทั้งห้าคู่ก็พร้อมแข่งขัน
“อย่างที่บอกว่ารอบนี้เราต้องการผู้ชายล้วนๆ เพราะเกมนี้ค่อนข้างดุเดือด” พิธีกรทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนชูบางสิ่งที่ซ่อนเอาไว้ออกมา
“นั่นคือ!...เกมมากินป๊อกกี้กันเถอะ” เสียงโห่จากคนดูดังลั่น พิธีกรดูมีความสุขมากที่ได้ประกาศชื่อเกมออกไป เล่นเอาผู้ที่เข้าแข่งขันยืนไม่เป็นสุข มองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“อย่างที่ทุกคนเข้าใจครับ คงไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เกมฮิตติดอันดับ ฮ่าๆ สองคนกัดจากคนละข้าง เราจะวัดขนาดของป๊อกกี้ที่เหลืออยู่ คู่ไหนเหลือน้อยสุดคู่นั้นชนะ คู่ไหนเหลือมากสุดบอกเลยว่าต้องเจอการลงโทษที่ทำให้อายจนเดินในมหาลัยไม่ได้ไปหลายวัน”
“พี่รหัส” คนโปรดสะกิดคนข้างๆ
“....”
“ไม่เล่นก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมบอกเองว่าผมปวดท้องเข้าห้องน้ำ หรือพี่รหัสบอกก็ได้เดี๋ยวผมวิ่งจู้ดลงไปเอง” รหัสจ้องสายตาจริงใจที่มองมา ดูเหมือนเจ้าเด็กบ๊องไม่อยากให้เขาลำบากใจ รหัสเบือนหน้ากลับไปยังหน้าเวที
“ขืนลงตอนนี้ คนคงหัวเราะเยาะทั้งมหาลัย”
“อ่า..ครับ” คนโปรดพยักหน้า ต้องพยายามซ่อนอาการกระดี๊กระด๊าเอาไว้ ตอนบ่ายได้จูบทางอ้อม ตอนเย็นได้จูบผ่านๆ ทริปนี้มีใครได้มากกว่าเขาอีก ><
“เอาละครับ ขอให้ทุกคู่เตรียมพร้อม พอผมเป่านกหวีดให้สัญญาณก็เริ่มได้เลย แต่บอกไว้ก่อนว่าเรามีสายตาหลายสิบคู่เป็นกรรมการ รวมถึงมีการถ่ายวิดีโอเป็นหลักฐาน คู่ไหนแอบหักป๊อกกี้ แอบกัดคนเดียวจนเกือบหมดโดยที่อีกฝ่ายไม่ขยับ จับได้โดนลงโทษเป็นสองเท่า ถ้าเข้าใจกติกากันแล้วก็....ปรี๊ดดดดด” เสียงเป่านกหวีดดั่งสะท้านหู
คนโปรดรีบส่งป๊อกกี้เข้าปากตัวเอง เขย่งเท้าขึ้นเพราะเตี้ยกว่ารหัสมาก ดวงตาที่ก้มลงมามองทำเอาใจเต้นแรง ยิ่งใบหน้าของรหัสเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ แขนขาของเขายิ่งสั่นจนกลัวว่าจะทรงตัวไม่อยู่
รหัสเผยอริมฝีปากออกกัดเข้าที่ปลายอีกด้าน ในสายตาที่พร่าเบลอคนโปรดเห็นริมฝีปากหนาขยับเข้ามาใกล้ทีละนิด ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารด สมองของเขาเหมือนลูกข่างมันหมุนติ้วจนไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่
คนโปรดผงะหน้าออกเมื่อริมฝีปากห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นฯ แต่เขาต้องตกใจจนตาค้างเมื่อมือของรหัสคว้าเข้าที่เอว ดึงให้เข้าไปชิด ก่อนดันป๊อกกี้กลับเข้าสู่ปากของเขาและกัดมันลงมาจนริมฝีปากของพวกเขาแตะกัน
แม้เพียงเสี้ยววินาทีแต่คนโปรดรู้สึกเหมือนมันช่างยาวนาน หัวใจของเขาเต้นเป็นกลองรัวมือไม้อ่อนจนต้องเกาะแขนของอีกฝ่ายเอาไว้กันล้ม รหัสผละหน้าออก ดึงเศษป๊อกกี้ที่เหลือออกจากริมฝีปาก คนโปรดไม่รับรู้ถึงเสียงโห่หรือเสียงกรี๊ดของใครทั้งสิ้น สมองของเขาหยุดทำงานชั่วคราว มันขาวโพลนไปหมด
“ไม่ต้องสงสัยแล้วนะครับว่าใครเป็นผู้ชนะ ต้องยกให้เป็นคนจริงของปีนี้ เล่นเอาสาวๆ ตาร้อนกันเป็นแถวด้วยความอิจฉา มาเอารางวัลไปเลยครับ ไม่ต้องดูคลิปดูหลักฐานอะไรแล้ว”
“ไปสิ” เสียงดุๆ ทำให้สติของเขาคืนกลับมา คนโปรดเงอะงะไปยังกลางเวที หน้าร้อนผ่าวลามไปจนถึงหู
“ขอสัมภาษณ์นิดหนึ่ง รู้สึกยังไงที่เป็นผู้โชคดี เอ๊ยเป็นผู้ร่วมแข่งขันที่สาวๆ อิจฉา” ไมโครโฟนถูกยื่นมาตรงหน้าคนโปรด
“มีความสุขครับ” !! ตายห่า เขาพูดอะไรออกไป คนโปรดนึกอยากตบปากตัวเอง
“ฮ่าๆ เป็นคำตอบที่คิดไม่ถึงจริงๆ”
“หมายถึงมีความสุขที่ชนะครับฮ่าๆ ที่โต๊ะผมรอเหล้ากันอยู่เลย”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง แหมเล่นเอาสาวๆ ตกใจหมดนึกว่ามีคู่แข่ง ถ้าอย่างนั้นก็รับไปเลยครับ” เขายังตื่นเต้นจนมือไม้สั่นจนคนข้างๆ ต้องยื่นมือออกไปรับเอง
“ทีนี้ก็มาถึงคู่ที่แพ้ โดนแน่ๆ ผมบอกคำเดียว” เขาถอนใจโล่งอกที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปยังการลงโทษผู้แพ้แทน คนโปรดเดินตามรหัสลงไปทางหลังเวทีเงียบๆ ในใจยังวนเวียนอยู่กับช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“โอ๊ะ!” เพราะเขาไม่ทันระวังจึงเดินชนแผ่นหลังของรหัสเข้าไปเต็มๆ เมื่ออีกฝ่ายหยุดเดินโดยไม่บอกกล่าว
“มีความสุข?” เสียงเอาเรื่องของคนถามทำให้คนโปรดเผลอก้าวถอยหลัง ก่อนหัวเราะแหะๆ ออกมาเมื่อตั้งหลังได้
“ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ มันหลุดออกไปเอง” คนโปรดก้มหน้าลงจึงไม่เห็นรอยยิ้มในดวงตาของอีกฝ่าย
“ตอนทำไม่เห็นเก่งเหมือนตอนพูด”
“หา!” คนโปรดมองหน้ารหัสงงๆ เดี๋ยวนะ เขากำลังพยายามหาความเชื่อมโยงอยู่ “โอ๊ะ!” คนโปรดสะดุ้งโหยง อุทานออกมาเมื่อมือใหญ่คว้าเอวเขาดึงเข้าไปชิด
“หึ” เสียงหัวเราะทำให้เขาหน้ามุ่ย เขาแค่ไม่ทันตั้งหลักหรอกน่า เร็วเท่าความคิด มันเป็นไปโดยสัญชาติญาณการอยากเอาชนะ คนโปรดเขย่งเท้าขึ้น ใช้สองมือจับหน้าของรหัสก่อนประกบริมฝีปากเข้าหา ทันทีที่ริมฝีปากร้อนสัมผัสกันความกล้าของคนโปรดก็หายวับ รีบถอนริมฝีปากออกด้วยท่าทางเงอะงะใบหน้าแดงซ่าน
“ธะโธ่ ผมก็ทำได้” คนโปรดพยายามเชิดหน้าขึ้นสู้
“.......”
“มาครับผมเอาเหล้าไปที่โต๊ะเอง” เขาคว้าเหล้ามาจากมือของรหัส เห็นสายตาวาวๆ ของอีกฝ่ายจึงคิดว่าควรเผ่นดีกว่า พวกเขาเดินออกมาทางหลังเวที ทางเดินตรงนี้ยิ่งมืดๆ อยู่ เดี๋ยวถูกฆ่าหมกพงหญ้าไม่รู้ตัว
“พี่รหัส” คนโปรดยังไม่วายหยุดเดิน หันกลับไปจ้องตากับอีกฝ่าย
“ผมมีความสุขจริงๆนะ มากด้วย” รอยยิ้มกว้างบ่งบอกถึงความรู้สึกภายใน คนโปรดหันกลับแล้วออกวิ่งโดยไม่หันไปมองอีก หัวใจของเขาเต้นแรง โว้ยย มึงจะกล้าไปแล้วคนโปรด
“กูว่าน้องมันยังรู้จักนิสัยมึงไม่ดีพอ” รหัสละสายตาจากร่างเล็กหันกลับไปมอง สายฟ้ากำลังเดินเข้ามาหาจากทางด้านหลัง
“ก็คงงั้น”
“คนอย่างมึงถ้าไม่ก็คือไม่ ไม่มีใครบังคับมึงทำอะไรได้ ดังนั้นจากอาการของมึง เพื่อนที่รู้จักมึงดีพออย่างกูสรุปได้ว่า...” สายฟ้าพูดค้างไว้ ขยับเท้าขึ้นมายืนเคียงข้างเพื่อน ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นที่มุมปาก สายตาท้าทายส่งไปประสานสายตากับเพื่อน “มึงเริ่มชอบน้องมันแล้ว”
“.....”
“น้องมันคิดว่าวันนี้มันเอาตัวเข้าใกล้มึงสำเร็จ แต่กูบอกได้เลยว่าไม่ใช่ มึงต่างหากที่เอาตัวเข้าไปใกล้น้อง แล้วอย่างนี้จะให้กูสรุปเป็นอย่างอื่นได้ไงวะ มึงมันเหลี่ยมจัดยอมรับมาซะเถอะ”
“หึ”
“มึงตัดสินใจหรือยังว่าจะเอายังไง”
“เดี๋ยวมึงก็ได้คำตอบ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
“ก็แล้วแต่มึง แต่คำตอบเป็นแบบไหนก็รีบบอกน้องมันไปอย่าทิ้งไว้นาน กูสงสาร”
”กูรู้ กินเหล้าเถอะ”
“เออ รู้ก็ดี” สายฟ้าส่ายหัว แต่ก็ยอมเดินตามเพื่อนโดยไม่เซ้าซี้อะไรอีก เรื่องนี้มันไม่ได้เล็กอย่างที่คิด มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาได้แต่ภาวนาให้รหัสถามใจตัวเองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป เพื่อนของเขาชอบเด็กบ๊องของมันเข้าแล้ว สายฟ้ามั่นใจ
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin