Just you and I : Part Zho l
“ไอ้โช กูโดนทิ้งว่ะ” เสียงเนือยๆ ดังข้างตัวผมหลังจากมันเดินหน้าบึ้งมาจากด้านนอก
“แล้วมึงแคร์?” ผมเลิกคิ้วถาม
“นิดหนึ่งว่ะ คนนี้กูอุตส่าห์คบยืดตั้งสามเดือน” ไอ้จอมมันฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมา ผมได้แต่ส่ายหน้า เพราะรู้ว่ามันไม่ได้เสียใจมากเท่าไหร่ ก็ไอ้การโดนทิ้ง ไม่ก็ทิ้งคนอื่นมันก็เกิดขึ้นเป็นประจำสำหรับไอ้คนขี้เบื่ออย่างไม่จอม
ผมละความสนใจจากเพื่อนที่คบกันมานานมาสนใจผู้หญิงตรงหน้า เธอเดินถือแก้วกาแฟร้านยี่ห้อดังมาวางตรงหน้าผม พร้อมกับวางกล่องขนมเค้ก
“แพรรู้ว่าโชชอบกินกาแฟอเมริกาโน่ แล้วนี่ชีสเค้ก ไม่หวานมาก แพรว่าโชก็น่าชอบเหมือนแพร” หญิงสาวตรงหน้าเธอเดินเข้ามายืนข้างผมพร้อมกับยิ้มหวาน เธอเอนตัวเท้าแขนกับโต๊ะทำให้เสื้อที่รัดรูปมีช่องระหว่างสาบเสื้ออวดอกงามที่แทบจะทะลักออกมาด้านนอก ดูก็รู้ว่าเชิญชวนให้กินอะไรอย่างอื่นนอกจากกาแฟ
“ขอบคุณครับ แต่ผมไม่ชอบของหวาน” ผมเลื่อนขนมคืนให้แพร เธอทำปากยู่อย่างน่ารักก่อนจะนั่งลงบนต้นขาของผม
“โชอ่า แพรตั้งใจเลือกมาให้โชเลยนะ” เสียงเง้างอดดังข้างหู “แต่ถ้าโชไม่ชอบจริงๆ เดี๋ยวคืนนี้แพรจะหาของที่โชชอบรอนะ” ทั้งสายตา น้ำเสียงเชิญชวนจนผมยิ้ม ผมก็เป็นผู้ชายที่มีความต้องการปกติ
แพรเป็นสาวสวยคณะอักษร เอาจริงๆ ผมไม่เคยเดินเข้าไปจีบหรือขอเบอร์ผู้หญิงคนไหน ส่วนใหญ่พวกเธอจะเข้ามาหาผมเองซึ่งผมก็ไม่เคยปฏิเสธใคร แต่ถ้าผมไม่เคยจริงจังกับคนไหน เพราะไม่อยากวุ่นวาย ผมเกลียดเรื่องยุ่งยากทั้งหมด
ผมจะเบื่อเสมอเวลาไอ้จอมมาปรึกษาเรื่องแฟนของมัน ผมคิดถูกแล้วที่ไม่ตกลงใจกับใคร ขืนมีผมคงทนไม่ไหวไล่ตะเพิดตั้งแต่วันแรกๆ
“มึงไม่กินงั้นกูกินนะ” ไอ้จอมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะเมื่อแพรเดินไปแล้ว มือมันคว้าเอาชีสเค้กไปกินเรียบร้อย “เด็กมึงคนนี้แจ่มว่ะ ลีลาเป็นไงวะ” ผมไม่ตอบครับ เพราะผมไม่เคยเล่าเรื่องใต้เตียงให้ใครฟัง แม้ผมจะเลวก็เถอะ “เงียบตลอดสัด เออหิวข้าวว่ะ ไปแดกบะหมี่กัน”
ไอ้จอมมันเป็นพวกกระเพาะหลุมอวกาศกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ตอนเด็กแม่มันเคยพาไปรักษา เพราะมันกินตลอดเวลาแต่ไม่อ้วน หมอบอกระบบเผาผลาญมันทำงานเกินคนปกติ พอโตจะหายเอง ผมก็เห็นว่าทุกวันนี้มันก็กินเหมือนเดิม แต่ยังดีที่มันยังรู้สึกอิ่ม
ผมพาลูกรักทะยานออกถนนใหญ่ ไอ้จอมนั่งปุ๊บก็เปิดเพลงเสียงดังจนผมหันไปด่า แต่มันก็ไม่ฟังเลยปล่อยให้มันบ้าของมันไป ฝ่ารถติดไม่นานผมก็จอดรถเทียบฟุตบาทหน้าร้านขายบะหมี่เจ้าประจำ ไอ้จอมลงไปโดยไม่รอ มันลงไปสั่งๆ แล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะ ผมดับเครื่องยนต์กำลังจะเปิดประตู แต่ภาพที่เห็นผ่านกระจกหน้ารถทำให้ผมต้องดึงประตูรถกลับตามเดิม
เด็กสวมชุดนักศึกษาสองคนกำลังยืนดูอะไรบางอย่างที่ข้างถนน เด็กที่ผอมกว่าชี้ๆ ก่อนจะรับกระเป๋าจากเพื่อนมากอด ผมมองตามร่างเด็กอีกคนที่กำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อจะข้ามถนน ทำไมไม่ข้ามสะพานลอยทั้งที่มันก็ไม่ไกล ผมขมวดคิ้วคอยดูว่าเด็กพวกนั้นกำลังจะทำอะไร จนรถว่าง เด็กที่ไร้สัมภาระก็รีบวิ่งไปกลางถนนจนถึงเกาะกลาง
แล้วผมจะลุ้นกับเด็กพวกนั้นไปทำไม
ร่างที่ยืนเกาะกลางถนนกำลังก้มเก็บอะไรสักอย่าง แขนเล็กๆ นั่นรวบตัวบางอย่างมากอดไว้ แล้วก็รีบวิ่งกลับมายังฝั่งถนนที่มีเพื่อนรอลุ้นอยู่ อ้อมกอดนั่นคลายออกทำให้เห็นตัวขนปุยสีขาวที่สั่นเทาอยู่ เจ้าของอ้อมกอดยิ้มร่าก่อนส่งตัวขนปุยให้เพื่อนอุ้มแทน อยู่ๆ ผมก็ยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นใบหน้าขาวยื่นหน้าไปจูบจมูกหมาตัวน้อยที่เพื่อนอุ้ม ท่าทางดูบ๊องๆ แต่ก็น่ารักดี
เสียงเคาะกระจกรถทำให้ผมละสายตาจากเด็กคู่นั้นพร้อมทั้งหุบยิ้ม ไอ้จอมมันกวักมือเรียกผมให้รีบลงไปเพราะบนโต๊ะมีชามก๋วยเตี๋ยววางรออยู่นานแล้ว ผมพยักหน้าตอบก่อนจะหันกลับมามองเด็กคู่นั้น แต่ที่ตรงนั้นว่างเปล่า เห็นเพียงด้านหลังที่เดินห่างออกไป...
“คืนนี้พวกไอ้เบนัดที่เดิมว่ะ” ไอ้จอมพูดทั้งที่มีเส้นหมี่เหลืองคาปาก
“อืม” ผมตอบ
“อารมณ์ดีอะไรวะ เมื่อกี้กูเห็นมึงยิ้มอยู่คนเดียวในรถ” ไอ้นี่ก็ตาดี
“ไม่มีอะไร แล้วมึงจะไปยังไง”
“กับมึงไง หรือมึงจะไปกินตับแทน”
“ทุ่มครึ่งเดี๋ยวกูไปรับ”
“โอเคจัดไปเพื่อน”
ทุ่มครึ่งผมจอดรถหน้าคอนโดไอ้จอม ซึ่งมันก็ยืนรออยู่แล้ว พอมันเห็นรถผม มันก็เปิดขึ้นมานั่งแล้วบ่นเรื่องไร้สาระ ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้างแต่ถ้ามันถามผมก็ตอบๆ ไป แม้มันจะทำตัวน่ารำคาญในบางที แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม
ไนต์คลับที่รับเฉพาะเมมเบอร์ ผมกับไอ้จอมได้สิทธิพิเศษเพราะเป็นเพื่อนกับน้องชายเจ้าของ บรรยากาศด้านในยังคงคึกคักเช่นทุกวัน หลายครั้งที่ผมเดินผ่านโต๊ะที่มีสาวๆ ผมมักจะได้เบอร์โทรไม่ก็เบอร์ห้องแต่ผมก็ไม่สนใจเพราะวันนี้ผมมากินเหล้าเท่านั้น แม้โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงจะสั่นจนทำผมรำคาญก็เถอะ
“ไอ้โช ไอ้จอม ทางนี้เว้ย” เสียงไอ้เบเพื่อนในคณะ ที่ตอนนี้มันกำลังมีสาวสวยนั่งขนาบข้าง ที่จริงก็ทั้งโต๊ะนั่นแหละ กลุ่มชายหนุ่มนับสิบจะไร้สาวมันก็ไม่ใช่เรื่อง
“มาๆ มึง” ผมรับแก้วเหล้าจากเพื่อนมาจิบ สายตาก็มองไปรอบๆ จนสะดุดกับหญิงสาวโต๊ะด้านหลัง เธอยกแก้วในมือชูมาทางผม ซึ่งผมก็ยกตอบตามเรื่อง แต่เรื่องไม่เป็นเรื่องก็เกิดขึ้นจนได้
ผมถอนหายใจหนักๆ แล้วลุกออกจากเก้าอี้เพราะไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นๆ เดือดร้อน เมื่อเห็นกลุ่มคนที่ลุกจากด้านหลังโต๊ะของผู้หญิงที่ผมยกแก้วตอบ ผมเดินออกไปด้านหลังร้านโดยมีไอ้จอมเดินตามมาด้วย มันเดินบ่นไร้สาระตามเคยโดยไม่หวั่นพวกกลุ่มคนนับสิบที่เดินตามหลังมา
หลังไนต์คลับเป็นซอยแคบๆ ไร้ผู้คน มีเพียงกองขยะกองใหญ่ที่ถูกวางกองๆ อยู่ พอพวกผมยืนนิ่ง กลุ่มที่เดินตามออกมาก็รีบพุ่งเข้ามาคว้าคอเสื้อผมก่อนมันจะกล่าวหาว่าผมไปยุ่งกับผู้หญิงของเจ้านายมัน
มีตาหรือเปล่าวะ ผมส่ายหน้าให้กับเสียงตะคอกนั่น ถามว่ากลัวมั้ย ตอบเลยว่าไม่สักนิด นานแล้วที่ไม่ได้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย ไอ้จอมก็คงคิดเหมือนกับผม เพราะมันได้แต่หัวเราะเมื่อเห็นผมถูกขยำคอเสื้อ
“อยากเจ็บตัวนักใช่มั้ย พวกกูจัดหะ...” พูดยังไม่จบไอ้คนพูดก็ถูกไอ้จอมถีบจนตัวงอ ผมจับมือที่กล้าจับคอเสื้อแสนแพงของผม แค่บิดมือมันไขว้หลังมันก็ร้องโอดโอย จากนั้นพวกที่ยืนอยู่ก็กรูเข้ามา ผมแบ่งไอ้จอมคนละครึ่ง อาจเพราะนานแล้วที่ไม่ได้ออกแรงทำให้ใช้เวลาเยอะไปสักหน่อยในการจัดการ
“ก็แค่นี้ นึกว่าจะสนุกกว่านี้ เซ็งว่ะ” ไอ้จอมบ่นครับ ผมมองไปรอบๆ บริเวณโดยเฉพาะหลังกองขยะ เมื่อกี้ผมเหมือนจะเห็นหัวคนโผล่ขึ้นมา และก็จริง เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมกับไอ้จอมเดินเข้าไปอย่างเงียบๆ ไอ้คนที่นั่งหลบอยู่หลังกองขยะรีบดึงมือถือตัวเองออกมาปิด แต่มันก็ดังขึ้นอีกแต่เจ้าของก็รีบปิด
“ทำไมมึงไม่รับ” ผมถาม ดูท่ามันจะยังไม่เห็นพวกผม
“เชี่ย ถ้ารับ ไอ้พวกนั้นก็รู้สิว่ากูอยู่นะ...นี่” ดูไอ้เด็กนี่จะช็อคไปเมื่อเห็นผมยืนอยู่ ตาโตๆ ของมันเบิกกว้างแถมอ้าปากค้าง ท่าทางโคตรตลก
“มึงเป็นพวกนั้นเหรอ” ไอ้จอมมันถาม ไอ้เด็กนี่รีบส่ายหน้า สงสัยจะกลัวเพราะตัวมันสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ
“ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวข้องเลยจริงๆ” น้ำเสียงมันเหมือนจะร้องไห้จนผมอดที่จะขำไม่ได้
“เหรอ” ไอ้จอมมันพยักหน้า มันคงไม่ได้สนใจจริงๆ จนมันบอกให้ผมกลับเข้าไปข้างใน แต่ผมกลับเอาแต่จ้องหน้าไอ้เด็กที่นั่งสั่นอยู่ข้างกองขยะ
“เอาไอ้นี่ไปด้วย” ผมบอกนิ่งๆ ไอ้จอมตกใจ แต่ผมไม่สน ผมเดินเข้าไปลากไอ้เด็กท่าทางตลกนี่เข้าไปด้วย ตอนถูกลากมันทั้งอ้อนวอนแทบจะกราบเท้า โคตรตลก ท่าทางต่างจากตอนที่มันไปช่วยหมาตัวเล็กนั่น ตอนนั้นมันดูน่ารักดีนะ
นี่ผมกำลังไม่เป็นตัวเองหรือเปล่า?
พอกลับมาถึงโต๊ะ ไอ้พวกเพื่อนๆ ก็ต่างพากันมองโดยไม่กล้าจะถาม แต่แล้วก็มีหน่วยใจกล้าเอ่ยถามเกี่ยวกับเด็กที่มานั่งข้างผม ที่มันเอาแต่มองเข้าไปในกลุ่มผู้คน
“มึงไปหิ้วเด็กที่ไหนมาวะ ตัวขาวเว่อร์” ไอ้เบถามพร้อมสายตาวิบวับ ไอ้นี่มันเป็นพวกไบ หญิงก็ได้ ชายก็โอเค จนเคยมีประวัติในห้องสภาเรื่องชายหญิงต่อยตีกันแย่งมันหน้าคณะ
ผมมองไอ้เด็กที่เอาแต่ถอนหายใจก่อนตอบไอ้พวกอยากรู้
“แถวนี้แหละ” แม้ผมจะปล่อยให้มันยืดคอมองนั่นนี่แต่บางทีมันก็รำคาญ “มึงมองหาอะไร” แต่คำตอบที่ไร้เสียงจากปากบางนั่นทำให้ผมแทบขยำคอมัน และมันคงจับความโมโหผมได้ มันเลยตอบแบบกล้าๆ กลัวๆ ว่ามองหาเพื่อนที่มาด้วย ไอ้เด็กท่าทางกวนตีนไม่น้อย
คุยไปคุยมาเสียงโทรศัพท์มันก็ดัง ผมรีบแย่งมารับเองซึ่งก็เจอแววตาไม่พอใจแต่ดูยังไงก็ตลก ผมฟังเพื่อนมันพูดๆ ก่อนจะบอกไปว่าไอ้เด็กนี่อยู่กับผม เพื่อนมันเลยฝากให้ผมไปส่ง ตอนผมคุยโทรศัพท์ ไอ้เด็กนี่ก็จ้องมาด้วยแววตาอยากรู้ นัยน์ตากลมโตมันดูน่าสนใจดีนะ แถมยังมีผมอยู่ในนั้นอีกด้วย
“เอ่อ” ผมรับคำสุดท้ายก่อนเก็บโทรศัพท์มันใส่กระเป๋าตัวเอง พอมันรู้ว่าเพื่อนกลับไปแล้วก็โวยวายขึ้นมาก่อนมันจะทำหน้างอมองเหล้าขวดแพงที่วางบนโต๊ะ สงสัยจะอยากกิน
แต่ไอ้เบมันไปควงสาวที่ไหนมาไม่รู้เอามานั่งด้วย แถมไอ้เด็กที่นั่งข้างผมยังมองตาไม่กระพริบ ทำไมผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา มันหงุดหงิดแบบไม่รู้สาเหตุ ผมเลยจับหน้ามันหันกลับมามองผม ซึ่งมันก็โวยวายบ้าบอ
“มึงชื่ออะไร” ผมถามแม้จะได้ยินเพื่อนมันเรียกชื่อแล้ว แต่อยากรู้ว่ามันจะบอกชื่อจริงๆ ออกมาหรือโกหก ดูมันคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมา
“ชื่อกลอย”
“ไม่ได้ตั้งมามั่วๆ แล้วบอกกูใช่มั้ย”
“เอ่อสิ ชื่อจริงๆ” มันงอนครับ จมูกรั้นเชิดขึ้นจนอยากบีบให้มันหายใจไม่ออก
ผมลองยกแก้วตัวเองขึ้นจิบ สายตามันก็มองตาม พอวางแก้วมันก็ยังมองตาม ผมเผลอยิ้มออกมา มันมีอะไรบางอย่างทำให้ผมอยากได้
“อยาก?” ผมลองถามซึ่งมันก็พยักหน้า ผมยกแก้วขึ้นจิบ มันมองหน้าผมอย่างเคืองๆ แต่ผมไม่สน ผมคว้าคอมันมา มืออีกข้างก็เชยคางมันขึ้นเพื่อรับจูบ มันต่อต้านแต่แรงของผมซึ่งมีมากกว่าทำให้มันหยุดดิ้นแล้วกลืนเหล้าในปากผมจนหมด
เหล้าหวานกว่าทุกครั้งที่ได้สัมผัส
ดูท่าทางมันตกใจปนโกรธ แต่ไม่กล้าทำอะไรผม มันฮึดฮัดก่อนลุกพรวดหนีออกไปจากโต๊ะ ผมขำเมื่อมันถูกกลืนไปในฝูงชน พอเดินออกมาข้างนอก ผมเห็นมันนั่งหอบ สงสัยจะเหนื่อยหลังจากต้องเบียดคนเมาออกมา มันนั่งหมดอาลัยอยู่ข้างถนนสงสัยจะหารถกลับไม่ได้ ผมเดินไปขึ้นรถตัวเองแล้วขับผ่านร่างเล็กๆ ที่รีบวิ่งไปซ่อน มันคงคิดว่าผมตาบอดมองไม่เห็น
วันนี้ผมยิ้มบ่อยเกินไปจนน่าแปลกใจ
ผมขับออกมาไม่ไกลก็ถอยเข้าไปจอดในซอยแล้วออกมายืนรอมันอยู่ และมันก็เดินมาจริงๆ ด้วยท่าทางหงอยๆ เห็นแล้วก็สงสารแต่ก็อยากแกล้ง ผมเดินตามหลังมันไปเงียบๆ จนมันเกือบจะชนกับเสาไฟฟ้าถ้าผมไม่ทักขึ้นมาซะก่อน ดูมันตกใจถอยหลังหนี
“คิดจะหนีกูมันไม่ง่ายหรอกนะ อะไรที่กูอยากได้ ยิ่งยากกูยิ่งชอบ” นี่คือข้อเสียของผมที่ไอ้จอมบอก
“กะ กูไม่ได้หนีเว้ย กูจะกลับบ้านต่างหาก ดึกแล้วมึงไม่เห็นเหรอ” มันตอบเสียงสั่น แต่ขึ้นมึงกูแบบนี้ไม่น่ารักเอาซะเลย
ผมเดินเข้าไปหา มันรีบถอยหลัง ท่าทางจะกลัวผมจริงๆ ผมเหมือนฆาตกรขนาดนั้น?
“มึงต้องการอะไรวะ กูถามจริงๆ” สงสัยจะหมดความอดทน
“มึงไง” สั้นๆ ที่ผมตอบ
“มึงเป็นเกย์หรือไงไอ้เชี่ย กูมีแฟนแล้วเว้ย เป็นผู้หญิงด้วย”
“แล้วไง”
ผมไม่ได้จะเอาแฟนมันสักหน่อย มันฮึดฮัดก่อนจะถามหามือถือมันจากผม ผมบอกให้มันหาเองซึ่งมันก็ทำจริง มันเดินเข้ามาจากด้านหน้าแล้วยื่นมือสองข้างอ้อมตัวผมไปคลำกระเป๋ากางเกงด้านหลัง มันคงลืมสังเกตว่ามันกำลังกอดผมอยู่ ก่อนมันจะตกใจแล้วรีบดึงมือถือตัวเองคืนจากกระเป๋ายีนส์ด้านหลัง ผมขำกับท่าทางแปลกๆ เวลามันมองมือถือตัวเอง มันคงคิดว่าผมจะเปิดรหัสที่ตั้งแบบโง่ๆ ไม่ได้ แล้วรูปที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองถึงขั้นเซฟในมือถือตัวเอง
“คิดว่ากูโง่เปิดดูรูปมึงที่แต่งเป็นผู้หญิงไม่ได้เหรอ” พูดจบผมก็เห็นมันอ้าปากค้าง “รหัสโคตรปัญญาอ่อน ไอ้หนึ่งสองสามสี่เนี่ย” มันเบ้ปากมองผมก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่นานๆ ทีจะวิ่งผ่านมา
ไอ้เด็กกลอยมันเข้าไปนั่งในรถได้ก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมจนผมหัวเราะ แต่แล้วมันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นผมชูกระเป๋าเงินหนังสีดำมันแกว่งไปมา ผมแอบหยิบตอนมันคลำหามือถือของมัน
ผมบอกแล้วว่า อะไรที่อยากได้ ผมต้องได้ ยิ่งยากยิ่งดี
..........................TBC Part 2สวัสดีค่า วันนี้เอาพี่โชมาทักทาย พาสของพี่โชจะมี 2 พาสนะคะ จะเป็นช่วงที่เจอน้องกลอยใหม่ๆ จะได้รู้ว่า ทำไมน้า พี่โชถึงตามน้องกลอยขนาดนี้ ...
แค่ช่วยน้องหมาก็หลงรักเลยเหรอ? หรือมีมากกว่านั้น??
ติดตามได้ในพาส 2 ค่าาา ^^~
....