มาแล้วๆ มาแล้วครับ
วันนี้ผมเพิ่งมีโอกาสได้ใช้คอมพิวเตอร์ เลยรีบสปีดพิมพ์มาได้เท่านี้
ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ
แต่งตอนนี้จบผมมีความรู้สึกว่า...จากชื่อเรื่อง มันจบแล้วนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆ
แต่...มันยังไม่หวานกัันเต็มที่เลย!!!
เพราะฉะนั้นจึงยังจบไม่ได้
โอเช...จะพยายามหาทางใช้คอมฯให้ได้แล้วกันเนอะ
-------------------------------------------------------------------------
Short Story // หัวใจ.... มหาสมุทร – 3
[บอสคะ! คุณศิลาจะไปอเมริกา!!]
มหาสมุทรแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เขาเอ่ยถามเลขาที่โทรมาอีกครั้งจนอีกฝ่ายย้ำเรื่องสำคัญและบอกรายละเอียดว่าศิลายื่นจดหมายลาออกที่ฝ่ายบุคคลเมื่อสองชั่วโมงก่อน .....มหาสมุทรถอนหายใจเฮือกใหญ่...เรื่องยุ่งแล้วไหมล่ะ
[ขอโทษนะคะบอส...วันนี้ดิฉันไม่น่าลางานครึ่งวันเลย ถ้าอยู่คงพอ..ทัดทานคุณศิลาได้บ้าง]
“อืม..ไม่หรอกครับ....ถ้าลองได้ทำถึงขนาดนี้แปลว่าเขาตัดสินใจมานานแล้ว...”
[..เอ่อ..คือ..คุณศิลา..ทำเรื่องชดใช้ค่าเสียหายที่ไม่ได้ทำงานหลังจากลาออก 15 วันด้วยนะค่ะ....]
มหาสมุทรอดจะยิ้มกว้างออกมาไม่ได้ ...ศิลาของเขามักจะทำอะไรรอบคอบเสมอ ..แต่พออีกฝ่ายมาเก็บรายละเอียดในเรื่องนี้เลยทำให้เขาชักจะไม่ชอบนิสัยนี้นัก
“ช่วยเช็ควันเดินทางของศิลาด้วยนะครับ”
[เรียบร้อยแล้วค่ะ...คุณศิลาจะเดินทางวันที่xx สายการบินxx เที่ยวบิน xx]
....อีก 2 วัน.... มหาสมุทรครางให้ลำคอ ....คิดถึงตารางงานด่วนที่เพิ่งเข้ามาได้พอเหมาะ บีบให้เขาไปรั้งอีกฝ่ายไว้ไม่ได้
“...คุณมาริสา...ช่วยเลื่อนนัดมิสเตอร์ทาคาโอะ”
[ไม่ได้ค่ะ...มิสเตอร์ทาคาโอะให้บริษัทเราลัดคิวก่อนเป็นพิเศษ ถ้าพลาดครั้งนี้ต้องรอไปอีก 6 เดือนข้างหน้าค่ะบอส..]
มหาสมุทรอยากจะสมน้ำหน้าตัวเอง ก็เพราะไอ้บ้าปากแข็งขี้อายอย่างเขานี่ไม่ใช่หรือไง ศิลาถึงหมดใจแล้วหนีไปแบบนี้ ...พอถึงเวลาที่คิดว่าตัวเองจะพูดสักที ก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมาขวางเป็นอุปสรรค
.....แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาต้องนั่งเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว
เพราะเขาต้องเก็บเอาไว้ให้ได้ทั้งหน้าที่....และหัวใจ
“การเจรจาครั้งนี้ต้องจบให้ลงภายใน 2 วัน....คงต้องรบกวนหน่อยนะครับ”
[ค่ะ บอส...จบงานนี้ภายใน 2 วัน และวันถัดไปตั๋วโดยสารเลขที่นั่งข้างคุณศิลาจะถึงมือบอสแน่ค่ะ!!]
“......ขอบคุณมากครับ”
....รออีกนิดนะศิลา ....ได้โปรดรอก่อน
พี่น้ำจะไม่ปล่อยศิลาไปแน่! .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันเดินทางไปอเมริกา มหาสมุทรรู้สึกร่างกายอ่อนเพลียมากกว่าปกติ.....การเจรจาและเคลียร์งานสำหรับหนึ่งสัปดาห์ให้ทุกอย่างเสร็จภายในเมื่อวานที่ต้องเรียก
ว่าเมื่อคืนเพราะกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลาไปกว่าค่อนคืน ....เขามีเวลางีบพักสายตาเพียงหนึ่งชั่วโมง ก่อนจะรีบมาเช็คอินและนอนพักบนเครื่องบิน
...แม้ความง่วงจะเล่นงานเขาแค่ไหน แต่ก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้เมื่อเหลือบมองที่นั่งด้านข้าง...ศิลายังไม่ได้ขึ้นมา มหาสมุทรหันซ้ายหันขวาไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ดูจะติดขัดไปหมด ....สุดท้ายก็ได้หนังสือพิมพ์ธุรกิจระงับความฟุ้งซ่านไปได้บ้างแต่ก็ยังจดๆจ้องๆกับโทรศัพท์มือถือ
จนตัดสินใจโทรหาศิลาทั้งๆที่ไม่รู้จะคุยกับอีกฝ่ายเรื่องอะไร
เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นเป็นจังหวะต่างกับเสียงหัวใจของเขาที่เต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก ....นึกหัวเราะตัวเองก็ตรงมีอาการเหมือนสาวน้อยแรกรัก เฝ้ารอด้วยความประหม่าภาวนาให้เขารับสาย....แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออกอยู่ดี
ตื้ด.... ตื้ด.... ตื้ด.... ตื้ด!!
[สวัสดีครับ]
“...คุณศิลา...”
มหาสมุทรเม้มปากนิ่งเพราะยังไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรมากกว่าคำทักทาย.. หรือชื่อของอีกฝ่าย... ควรจะพูดเรื่องอะไรก่อน.. แล้วต้องโยงไปถึงเรื่องไปอเมริกาตอนไหน... ควร... ควร...
[ครับคุณมหาสมุทร]
“..คุณ..ลาออกหรือครับ...”
[..อืม..ครับ...ผมจะไปเรียนต่อน่ะ...แม่เขาถามเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว...]
บทสนทนาหลังจากนั้นมหาสมุทรเองก็ตอบรับไปอย่างเบลอๆ เพราะเขาไปเริ่มคำถามงี่เง่าอย่างเรื่องลาออกอะไรนั่น ...พอศิลาคุยเรื่องอะไรเขาก็ตอบรับไปอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดีกว่านี้นอกจากเรียกชื่อของอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...เขาอยากจะร้องตะโกนดังๆเพราะมันไม่สมควรจะพูดแบบนั้นเลยสักนิดไอ้การจองโต๊ะอาหารบ้าบออะไรนั่นก็แค่บทสนทนาที่เขาลิ้นพันกันเองจนพูดมั่วๆออกไป
.....แต่มันทำให้ศิลา....ร้าวลึก จนระเบิดอารมณ์เศร้าออกมาจนสัมผัสได้จากเสียงตามสาย ...จนเขาเจ็บในอกตามอีกฝ่ายไปด้วย...เจ็บมาก.....แต่ก็รู้ว่าคงไม่เท่าศิลา.....
..พี่น้ำ...ศิลาชอบพี่...ชอบมานาน..ชอบจนกลายเป็นรัก...นี่คงจะเป็นครั้งเดียวที่ผมจะมีโอกาสได้สารภาพความในใจ....หกปีที่ผ่านมาผมเศร้ากับรักข้างเดียวมาตลอด เพราะฉะนั้น..ขอร้องเถอะครับ ถ้าพี่ไม่ชอบใจก็อย่าพูดมันออกมานะ......ศิลาวางสายกะทันหันหลังจากพูดประโยคนั้น มหาสมุทรไม่อาจจะกล่าวทัดทานอะไรได้เพราะความผิดของตัวเองมันค้ำคอ ....สุดท้ายก็ได้แต่ฮึดฮัดหยิบหนังสือพิมพ์เล่มเดิมขึ้นมา....แต่อ่านอย่างไรก็ไม่พ้นจากบรรทัดเดิมอยู่ดี...
เขาไม่รู้ว่าต้องใช้คำพูดไหน.... หรือการกระทำใด... ที่จะเรียกว่าสมควรชดเชยให้ศิลาที่ต้องทนรอเขามาถึง 6 ปี
.......ไม่รู้ว่าถึงตอนนี้แค่หัวใจที่รักกันยังจะเพียงพออยู่หรือไม่เสียงฝีเท้าและความเคลื่อนไหวข้างกายทำให้หัวใจเขาเต้นแรง ....และเมื่อลดหนังสือพิมพ์ลงถึงได้พบกับใบหน้าตกใจของคนที่เขากำลังรอ....
ศิลา“..พะ..พี่น้ำ..มาได้...ยังไง??”
ศิลามั่นใจว่าเขาแค่พึมพำแผ่วเบากับตัวเอง ...ทว่าอีกฝ่ายกลับคลี่ยิ้มคล้ายไม่มั่นใจ แต่คำพูดหนักแน่น....
“พี่มาตามศิลา”...เหมือนลมวูบใหญ่ตีผ่านหน้าเขาไป ศิลาเพิ่งเข้าใจอารมณ์ช็อคตาตั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายบนเครื่องที่เก้าอี้ผู้โดยสารข้างๆ แล้วนี่ยังจะประโยคที่ออกมาจากอีกฝ่ายนั่นอีกเล่า ....ศิลารู้สึกเหมือนตัวลอยๆในหัวมันพองลม เหมือนถูกดึงขึ้นที่สูงแล้วทิ้งตัวลงพื้นสลับไปมา....จนพูดไม่ออก
...ในหัวมันเบลอ....จนคิดอะไรไม่ออก....
สุดท้ายที่จำได้ว่าก่อนอีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมาก็เป็นเขาที่ทิ้งตัวลงเก้าอี้ผู้โดยสาร แล้วยกมือเป็นเชิงว่าช่วยเงียบก่อน
......ศิลาเป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ...ชอบก็ยอมรับว่าชอบ ...รักก็รู้สึกได้ว่ารักว่า ...ไม่เข้าใจก็พยายามหาคำตอบ ....แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เขายอมรับความรู้สึกกับตัวเองเท่านั้น!! ....การที่มหาสมุทรมาทำอะไรแบบนี้จะให้คิดเข้าข้างตัวเองก็ไม่ไหว (ทั้งๆที่ในใจมันฟูฟ่องไปถึงไหนแล้วน่ะนะ...)
“มะ..หมายความว่ายังไงครับ”
กว่าจะจัดการกับสติตัวเองได้แล้วเอ่ยถาม ...ศิลาก็เกรงว่าอีกฝ่ายอาจจะหลับไปแล้ว แต่มหาสมุทรยังคงนั่งมองนิ่งมาที่เขา....ด้วยอาการ...เอ่อ...ประหม่า??
“พี่รักศิลา”
...ฮะ!!.....
ทั้งๆที่เพิ่งจะตั้งสติได้แท้ๆ แต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันของเขานัก ....อะไรมันถึงได้ดูเบลอๆมึนๆไปหมด
“ศิลาก็รักพี่...”
เฮ้ย!! อันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะพูด ....คงเพราะอะไรๆที่เก็บมา 6 ปี พอมีเหตุการณ์มากระตุ้นมันเลยหยุดไม่อยู่
ศิลารู้สึกว่าเขาจะใจกล้าบ้าบิ่นเกินธรรมดาไปมากโข..... เอ่อ...แล้วควรทำ...ทำยังไงต่อ...
“ทำไม....รักผม...เหมือนกันหรอ??”
“อืม...” มหาสมุทรลากเสียงนิ่งนานจนเขาเริ่มจะใจเสีย แต่พอเห็นริ้วจางสีชมพูที่ค่อยๆขึ้นสีจัดที่ผิวแก้มของอีกฝ่ายนั่นแหล่ะ ....ศิลาก็ได้แต่
กระพริบตามองและรู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้าตามอีกฝ่ายไปด้วย
“พี่ขอโทษ...คือ...พี่...” ....แล้วไหนยังจะท่าลุกลี้ลุกลนอีก... ” พี่ขอโทษที่เอาแต่เงียบ....ขอโทษที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมพูด....ขอโทษที่ทำให้เข้าใจว่ารักอยู่ฝ่ายเดียว”
จากนั้นเรื่องราวตลอด 6 ปีที่ผ่านมาในมุมของมหาสมุทรก็ถูกถ่ายทอดออกมาโดยไม่มีการละใจความเรื่องใดเลย.....ทั้งเรื่องความรู้สึก เหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้มองอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ความประทับใจแรก จนกระทั่งความผูกพันที่ทวีเพิ่มพูนมาเนิ่นนาน และเคลียร์ความสัมพันธ์ของคนอื่นกับมหาสมุทรว่าไม่เคยมีใครเข้ามายึดครองพื้นที่ในใจนอกจากศิลา .....เหตุผลที่ปิดบังคือความเขินอายของอีกฝ่ายก็เปิดเผยออกมาจนหมด
....ศิลาฉีกยิ้มกว้าง ความรู้สึกดีมากๆมันลอยล่องทั้งในสมองในหัวใจเต็มไปหมด หากจะถามว่าเขาโกรธมหาสมุทรหรือเปล่าที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่เห็นค่าความรู้สึกของเขามาตั้ง 6 ปี ...ศิลามั่นใจว่าคำตอบคือใช่...โกรธ...โกรธมากด้วย
“ศิลา...ไม่โกรธพี่ใช่ไหม”
“โกรธครับ”
....แต่ความรักและหัวใจไม่ใช่เรื่องที่ต้องให้กฏเกณฑ์ไปล้อมกรอบให้วุ่นวาย ...เพราะตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อนที่เขาเริ่มรักก็เพื่อใจเอาไว้ตั้งแต่ต้อนแล้วว่าอุปสรรคต้องมีแน่....เพียงแต่จะมากแค่ไหนก็อีกเรื่องหนึ่ง ....จะสมหวังหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของอนาคต...
“แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก....”
“.....”
“ศิลาจะบอกว่า....เราไม่ได้เสียเวลามา 6 ปี ....แต่นั่นคือช่วงคบหาดูใจก่อนจะคบกันต่างหาก...ตกลงไหมครับ???”
มหาสมุทรยิ้มกว้างก่อนจะรั้งตัวศิลาให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด... ประโยคแว่วหวานกระซิบบอกหนักแน่นซ้ำไปซ้ำมาว่าขอบคุณ.....และรักมาก.....
ศิลายิ้มด้วยความสุขในหัวใจ ซุกกายลงอ้อมกอดอุ่นๆที่ถวิลหามาแสนนาน......
.....เวลา 6 ปีที่มั่นคงในรักของเขา มีผลพลอยได้ที่แสนสุขใจเป็นหัวใจของมหาสมุทร.... เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ศิลาบอกตัวเองมาเสมอ.....เขาต้องการแค่ได้รัก.......เท่านั้นเอง
หัวใจ.... มหาสมุทร สิ่งที่ยากแท้จะหยั่งถึง......วันนี้เขาได้มาแล้ว
....เอ
หรือจะต้องบอกว่าได้มาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว แต่ไม่รู้ตัวกันนะ....TBC.