Lesson 15
( Fear Part )
โอ้ยยยย ผมนี่ใจเต้นโครมครามเลยครับ อยู่ๆก็มาขอคบแต่ถึงจะปฏิเสธไปแบบอ้อมแต่ก็นะ ใจยังเต้นรัวอยู่เลย แล้วจูบเมื่อกี้อีกเอาเราเคลิ้ม แล้วนี่ยังมานอนกอดอีก เฮ้อ
พอนอนไปได้สักพักผมรู้สึกว่าพี่วินมันหลับไปแน่ๆแล้ว ผมก็เตรียมลุกจะไปกับข้าวครับเพราะนี่ก็จะห้าโมงเย็นแล้วแต่ขณะที่กำลังจะลุกขึ้น
“ไปไหน” หลับแล้วไม่ไช่หรอวะ
“จะไปทำกับข้าว ปล่อยก่อน”
“อยากกินหมูทอด”
“ก็กลับไปกินที่บ้านพี่สิ”
“ไม่เอา อยากกินกับเฟียร์นี่” หน้าด้านครับขนาดไล่ทางอ้อมแล้วหรือมันคิดไม่ทันหว่า
“อือๆ แต่ปล่อยก่อนสิ กอดอยู่ได้ อึดอัด” ผมพูดจบมันก็ปล่อยครับแต่ก็แอบยิ้มในใจมันก็มีมุม น่ารักเหมือนกันนี่หว่า
ผมเดินมาที่ตลาดแถวหน้า ม. นั้นแหละแล้วก็เลือกซื้อพวกผักไปเก็บไว้ในตู้เย็นที่ห้องเพราะเวลาผมทำกับข้าวผมจะทำกินแต่ผักแทบจะไม่มีเนื้อสัตว์เลย ผมเดินเลือกเพลินๆก็นึกขึนได้ว่า มีอีกตัวนอนอยู่ในห้องก็เลยต้องเดินไปซื้อหมูมา เพื่อกลับไปทำหมูทอดเผื่อแผ่คนยากไร้อีก
พอกลับมามันก็ยังไม่ตื่นครับเดี๋ยวต้องรีบทำรีบกินแล้วไปทำงานครับบอกป้าแกไว้ว่าวันนี้จะออกไปช่วยเพราะว่าง
ผมก็บรรเลงทำอาหารของผมไปเรื่อยจนทุกอย่างเสร็จสิ้น นี่ก็ ห้าโมงสี่สิบแล้วผมจึงไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวจะออกมากินข้าว แต่พอผมอาบน้ำเสร็จดันลืมเอาเสื้อผ้าเข้ามาเปลี่ยนครับเพราะอยู่คนเดียวจนชินเลยลืมว่ามีอีกตัวนอนอยู่ในห้อง ผมก็เอาผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวรอบเดินออกมาจากห้องน้ำจะที่ตู้เสื้อแต่ถูกแรงดึงของใครบังคนให้ล้มมานอนบนเตียง
“ฮึ้ยยย ทำอะไร” ผมถามหวาด เพราะสภาพผมตอนนี้ล่อแหลมมาก
“คิดว่าจะทำอะไรล่ะ” พูดเสร็จมันก็ก้มมาไซร้คอผม ผมเสียงสันหลังวาบเลยครับแต่พูดไม่ออก ห้ามไม่ทัน
“หยุด หยุด”
“…”ไร้ผลครับแล้วผมก็รู้สึกเจ็บๆที่คอด้วย
“ถ้าไม่หยุด ผมจะเกลียด แล้วก็จะไม่คุยกับพี่อีก!!!” ผมพูดสุดเสียง มันหยุดเลยครับแล้วก็ผละตัวออกจากผม
“เอ่อ คือ พี่ขอโทษ” มันท่าทางตกใจเล็กน้อยครับ
“ออกไปก่อนจะแต่งตัว” เปล่าเขินอยู่ไล่มันออกไปก่อน มันก็ไปดีดีครับ
พอผมแต่งตัวเสร็จก็ออกมานั่งกินข้าวซึ่งมันก็นั่งรอผมอยู่ครับ
“พี่วิน มากินข้าวดิ เดี๋ยวผมต้องไปทำงานต่อน่ะ” ผมบอกแล้วก็ตักข้าวไห้ครับ
“เฟียร์ ทำงานทุกวันเลยหรอ”
“ก็ถ้าว่าง ผมก็จะไปทำ ผมไม่ชอบอยู่เฉยๆน่ะ มันทำไห้รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีประโยชน์นั่งกินนอนกินไปวันๆ” ผมตอบยาวเลยครับพี่วินท่าทางมันจะอึ้งๆที่ผมพูดไปแบบนั้น และเราก็กำลังจะนั่งทานข้าวกันครับ
“เฟียร์ ทำไมมีแต่ผัก มีหมูทอดอย่างเดียวเอง”
“ผมไม่ชอบกินอ่ะ เลี่ยน กินผักนี่แหละมีประโยชน์ไม่แพงด้วย”
“กินหน่อยก็ดีมั้ง ดูดิตัวเฟียร์นิดเดียวเอง”
“ไม่ไช่ว่าไม่กินนะพี่ แต่ผมไม่ชอบอ่ะ และถ้ากินมากๆ ก็จะไม่สบายเลยไม่กินแล้วก็ไม่อยากสร้างภาระไห้ตัวเองด้วย” ผมก็ตอบไปแต่นั่งกินไปด้วยแบบรีบๆ เพราะนี่จะหกโมงแล้ว
พอกินข้าวกันเสร็จก็พากันเดินมาที่ร้านครับ ไอ้พี่วินมันจอดรถไว้หน้าร้านป้าเค้านั้นแหละครับ ผมก็ทำงาน แต่ผมก็สังเกตว่าวันนี้มันมีอะไรผิดปกติเพราะป้าแกก็ยิ้มไห้ผมเหมือนมีอะไรสักอย่าง ตอนไปเสิร์ฟข้าว บางคนก็มองหน้าผมแล้วก็หน้าแดงผมเลย งงๆ ครับแต่ก็เอาเถอะไม่ไช่เรื่องที่จะเก็บมาคิดนี่ก็สี่ทุ่มแล้วกลับไปห้องดีกว่า
วันนี้มีเรียนเช้าครับเลยต้องตื่นตั้งแต่หกโมงมาทำกับข้าวไว้ไปกินกลางวันด้วยและผมต้องทำไปเยอะเพราะ...
‘เฮ้ยๆ เฟียร์ทำกับข้าวมาอีกแล้วเว้ย’ พวกพี่สมครับ
‘เฮ้ย อย่าพึ่งกูขอชิมก่อนดิ’ พี่ต้นครับ
‘ไอ้สัดต้น มึงออกไปไห้เกียรติสุภาพสตรีก่อนสิวะ’ พี่ส้มพูดครับ
‘สุภาพสตรีแบมึงกูไม่นับเว้ย’ และตอนนี้ก็กลายเป็นว่า คนเกือบสิบคนรุมทึ่งข้าวกล่องผมครับผมนั่งมองแล้วก็อมยิ้มในความสดใสของพี่ๆเค้า
...ตั้งแต่นั้นมาผมเลยต้องทำไปสองกล่องเป็นแบบราดข้าวกล่องนึง และก็ กับข้าวอีกกล่องนึง เพราะพวกพี่ส้มติดรสมือผมครับ ผมเลยบอกว่าจะทำไปไห้กินกันบ่อยๆ
พอผมก้าวเท้าเข้าไปในมหาลัยสายตาหลายคู่ก็มองผมแล้วก็อมยิ้มนิดๆ บางคนก็หน้าแดงเลื่อมาเลย มันเป็นอะไรกันวะ หน้ากูมีตาพระราชทานหรอมองกันยังกับไม่เคยเห็นเมื่อผมเดิมมาเรื่อยๆก็เจอกับโอ้ครับ
“เฮ้ย เฟียร์ ทางนี้เว้ย” ผมหันหน้าไปตามเสียงก็พบกับโอ้ ไมโล และพวกพี่ๆกลุ่มเดิมนั้นแหละครับ พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ทุกคนก็มองผมเป็นตาเดียว
“เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าครับ มองอย่างกับผมเป็นตัวประหลาด” ผมถามแบบ งงๆ
“เอ่อ มันไม่ประหลาดหรอกนะ” โอ้ตอบแล้วมาล็อคคอผมไห้นั่งลงประจันหน้ากับพวกพี่ๆครับผมก็ งงๆ เลยไหลไปตามน้ำก่อน
“แต่มึงต้องตอบความจริงกูมา”
“อะไรวะ”
“มึงไปนอนกับใคร!!!”