บทที่ 16 มีคนเงิบ
[/b]
สามทุ่มกว่า อาหารถูกกวาดลงท้องพวกผมไปหมด เหลือแต่กับแกล้มที่สั่งมาใหม่พร้อมเหล้ากรมที่ 2 คนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ดีว่าโซนที่พวกเรานั่งอยู่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เป็นโซฟาตัวยาว หันหน้าเข้าหากัน โดยมีโต๊ะไม้คั่นกลาง ซึ่งที่จริงมันนั่งกันได้เป็น 10 แต่เผอิญพวกผมมาเร็วเลยได้ตรงนี้
นั่งติดหาด รับลมทะเลที่อาจทำให้เหนียวตัวไปบ้าง แต่นี่ก็คือเสน่ห์ของทะเล ที่คุณจะไปหาจากที่อื่นไม่ได้
ผมนั่งฟังเพลงสลับกับฟังใอ้ 3 ตัวฝอยไปด้วย ไม่รู้มันมาปลอบเพื่อนหรือมาคุยกันเอง ห่า แดกเหล้าเข้าปากแล้วลืมเพื่อนเลย ตอนนี้เปลี่ยนวงเป็นวงผู้ชายล้วน แต่ดนตรียังคงสไตล์เดิม คนร้องแม่งโคตรหล่อ แถมเสียงก็โคตรดี สาวๆ ที่นั่งแถวเวทีคงอิ่มอกอิ่มใจกันน่าดู แต่พอฟังเพลงที่ 2 ที่วงมันเล่นละผมอยากจะถอดเกิบโยนใส่หน้ามัน มึงต้องเล่นเพลงกระแทกใจกูขนาดนี้ด้วยเหรอ เศร้า สาดดดดดดดดดดดดดดด
** เมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลง อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลมาเองได้
ยิ่งดื่มยิ่งเหงา ยิ่งฟังยิ่งเศร้า คิดถึงคนที่เขาทิ้งเราไป
เมาทุกขวดเจ็บปวดทั้งคืน คนเข้ามาทักทายก็ได้แต่ฝืนยิ้มให้
ยิ่งเพลงมันช้ำ มันก็ยิ่งซ้ำเติมเข้าไป ก็ยิ่งทำใจไม่ได้.......
**เมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลง – ดูโอเมย์
https://www.youtube.com/watch?v=4gVTsvW605g&list=PLnUiTbdRBqOwHuvpVi1o6k8diy9GEGpIu&index=7 ฟังยังไม่ทันจบเพลงก็ต้องตกใจที่มีคนมายืนค้ำหัวผม มาได้ไงวะ? ผมชะงักเมื่อหันไปเห็นว่าเป็นใคร ที่จริงก็ไม่ใช่แค่ผมหรอก ใอ้อาร์ตวางแก้วเหล้า ใอ้คู่หูดูโอ้วางโทรศัพท์ที่ส่องชาวบ้านลง เกิดเป็นความเงียบชั่วขณะ
“นั่งด้วยคนสิ”
จะถามทำไมถ้ามึงจะนั่งอยู่แล้ววะ ผมไม่ได้พูดออกไปหรอก ปล่อยให้พี่มันนั่งไป พี่คินกับพี่ไทม์ก็นั่งเบียดกับใอ้จันทร์ ใอ้ปีย์ ก่อนร้องเรียกเอาแก้วเพิ่มจากพนักงานแถมสั่งทั้งของกิน ทั้งเหล้ามาเพิ่มอีก
“รู้จักเลือกร้านนะพวกมึง”
“แน่นอน”
ผมยกแก้วขึ้นมาดื่มเงียบๆ หูฟังคนอื่นคุยกันไป ตาก็มองไปรอบๆ แต่ไม่มองใอ้คนนั่งข้างๆ ไม่รู้สิอยากถาม แต่ยังไม่พร้อมจะรู้คำตอบ อุตส่าห์จะมีความรักกับเขาทั้งที ดันมาล่มตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่ม ความรู้แบบนี้ไม่โอเคซักกะติ๊ด
“มึงเป็นไร? ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่ตอบ”
“.....” ไม่ตอบครับ กูไม่อยากตอบ จะให้ตอบได้ยังไงว่ากูน้อยใจ หึง พี่มัน
“พารา มึงเป็นอะไร ทำแบบนี้ไม่ดีเลย กูเครียด มึงรู้มั้ย?
“มึงมีไรต้องเครียดวะพี่ กูก็เห็นชีวิตมึงออกจะมีความสุข” อดไม่ได้สิน่า
“.....” เงียบทำไม ไม่ต้องมามองหน้า
“เราไปคุยกันเถอะ ไปกับกู”
แล้วมันดึงมือผมให้ลุกขึ้นเตรียมลากกก็จากร้าน จนผมต้องหยุดมันไว้
“เฮ่ยๆ พี่จะพาเพื่อนผมไปไหนวะ?” ใอ้จันทร์ทำท่าจะลุกตามแต่โดนพี่คินกดไหล่ไว้กับโต๊ะ
“ปล่อยให้พวกไปเคลียร์กันเถอะ พวกมึงก็แดกเหล้ากับพวกกูอยู่นี่แหละ”
“เดี๋ยวๆ .. เอ้านี่”
แล้วใอ้หล่อก็ทำท่าจะลากผมออกไป จนผมต้องรีบโยนกุญแจรถกับกระเป๋าตังค์ให้ใอ้อาร์ต คงยังไม่ลืมนะครับว่าผมรับปากจะเลี้ยงพวกมัน ผิดคำพูดไม่ใช่ลูกผู้ชายวะ
ผมเงียบตั้งแต่พี่มันลากผมออกมาจากร้าน จับยัดใส่รถ จนกลับมาถึงหอมัน จนมันพามานั่งบนโซฟาหน้าทีวี ผมก็ยังเงียบอยู่
“โกรธอะไรกู?”
“ไม่ได้โกรธ”
“ไม่ได้โกรธแล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไลน์ก็ไม่ตอบ”
“โทรไปทำไม? มึงคงไม่ว่างรับหรอก เห็นยุ่งขนาดนั้น แล้วใครที่มันไม่ตอบไลน์กูก่อน ไม่ใช่มึงเหรอวะพี่? แล้วมึงจะมาสนใจอะไรกูอีกวะพี่? ไปสนคนของมึงโน่น”
พอได้พูดแล้ว ทุกอย่างมันก็ง่ายครับ ทีนี้ก็ไหลออกมาตามความรู้สึกเลย ความผิดหวัง น้อยใจ สะสมตั้งแต่วันพุธได้โอกาสระเบิดก็ตอนนี้
“คนของกูก็มีแต่มึง จะมีใครที่ไหนอีก เรื่องรันใช่มั้ย มึงเข้าใจผิดอยู่นะ”
อ้อ ผู้หญิงคนนั้นชื่อรัน นี่เอง
“เข้าใจผิดตรงไหน ก็เห็นกอดคอ กอดแขน โอบกันขนาดนั้น มาเรียนก็ยังมาด้วยกันเลย มันมีตรงไหนที่กูเข้าใจไม่ถูกอีกวะพี่?”
“เฮ่อ... ไปกันใหญ่แล้ว ใอ้รันมันเป็นพี่สาวใอ้รบ วิดวะที่อยู่ห้องตรงข้ามมึงอ่ะ แล้วใอ้รบนี่ลูกพี่ลูกน้องกู”
“...”
ใอ้รบเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่มัน............
รันเป็นพี่สาวใอ้รบ.....................................
งั้นมันก็ญาติกันสิ...............................................
เงิบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบแดก!!
อ้าวววววว หน้าแตก สิกู! @ ___@!!!!
“เข้าใจแล้วใช่มั้ย? ขอโทษที่วันนั้นไม่ได้ตอบไลน์ พอดีเมา แล้วใอ้รันมันยืมโทรศัพท์ไปเล่น มันคงเห็นแต่ไม่กล้าตอบเอง แล้วก็ลืมบอกกู”
“.......” กูเงียบครับ เก็บเศษหน้าตัวเองอยู่
“ขอโทษ กูไม่ได้บอกตั้งแต่แรก ดีกันนะ” อยู่ๆ พี่มันก็ยกผมขึ้นไปนั่งบนตักหันหน้าเข้ามัน กอดผมไว้ ท่านี้ไม่ค่อยดีต่อใจเท่าไหร่นะมึงงงงงงงง
“....ไม่ต้องขอโทษหรอก กูผิดเองที่ไม่ถามไปตรงๆ ขอโทษนะพี่”
ผมใช้สองแขนกอดคอพี่มันไว้ สบตาคมในสายคือเงาสะท้อนของผม.... ผมคนเดียว
เรื่องนี้คนผิดคือผมแหละ ที่ไม่ถามให้ชัดเจน แล้วเอาไปคิดเป็นตุเป็นตะ สุดท้ายก็มานั่งเสียใจเอง เฮ่อ จะว่าไป ผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่มันเลย นอกจากรู้ว่าเรียนวิดวะ ไฟฟ้า ปี 2 มีเพื่อนสนิทอยู่สองคนคือพี่คินกับพี่ไทม์แล้ว ผมก็ไม่รู้อ่ะอีกเลย เป็นแฟนที่โคตรแย่
“พี่ เรามาเล่มเกมส์ 20 คำถามกันเถอะ จะได้รู้จักกันมาขึ้น”
“ทีหลังนะ ตอนนี้มึงต้องปลอบใจกูก่อน ช่วงที่มึงหายไป โคตรเครียด”
“ดะ...”
“..อื้ออออ”
พูดยังไม่ทันจบ ผมก็โดนปิดปาก พี่มันรั้งท้ายทอยผมเข้าไปใกล้ก่อนเอียงคอหาองศา ประกบริมฝีปากแนบแน่น จูบเป็นเบาในตอนแรกกลายเป็นร้อนแรงมากขึ้นในตอนหลัง ถูกตะโบมจูบอย่างบ้าคลั่ง ดูดดึงริมฝีปากล่างจนผมเจ็บจี๊ด จนต้องร้องครางออกมาก เพื่อระบายความเจ็บปนเสียวซ่าน เราสองคนแลกลิ้นกันจนแทบจะแยกไม่ออกว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร กองไฟแห่งความปรารถนาถูกจุดขึ้นทันที จนแทบจะเผาไหม้ทุกสิ่งรอบตัว
ผมจมสู่ทะเลแห่งอารมณ์ ลืมเลือนทุกสิ่งรอบตัว สติที่อยู่อยู่น้อยนิดจดจ่ออยู่แต่กับสัมผัสหวานๆ จากคนตรงข้าม รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังแตะกับความเย็นของโซฟาหนัง เสื้อยืดตัวเก่งโดนถอดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พี่มันตามมาประกบจูบ บดขยี้ริมฝีปากไม่ยอมปล่อย ในขณะที่ลำตัวท่อนล่างก็แนบชิด เสียดสีไปมาจนรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนภายใต้กางเกงยืนทั้งผมและพี่มัน
อารมณ์จุดติดแล้ว ก็ไม่ใช่จะดับกันได้ง่ายๆ พี่มันผละออกมาจ้องหน้าผม เราจ้องตากัน ผมเห็นถึงความต้องการที่แทบจะเอ่อล้นออกมาจากสองตาของพี่มัน ราวกับเสือที่จ้องเหยื่อและพร้อมที่จะกระโจนเข้างับคอทุกเมื่อ
“พะ..พี่”
ตกใจเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆ ก็โดยพี่มันจับยกขึ้นมา ก่อนเดินเข้าไปวางไว้บนเตียงนอน พร้อมร่างหนาหนักที่ทับลงมา
“หนั....อื้ออออ” กูจะแบนแล้ว
จูบมาราธอนครั้งที่2เริ่มขึ้นเร็วยิ่งความพายุ คราวนี้หนักหนายิ่งกว่าทอร์นาโด พี่มันกลืนกินริมฝีปากผมราวกับคนที่เดินทางอยู่ในทะเลยทรายแล้วเจอโอเอซิสไม่ผิด สติอันน้อยนิดของผมที่ได้กลับมาก็อันตรธานไปทันทีเมื่อพี่มันเริ่มจู่โจมที่ติ่งหูขาว ทั้งดูดทั้งขบเม้น จนผมสั่นไปหมด
“อ๊ะ....”
“อืม”
แล้วพี่มันก็ไล่พรมจูบลงมาจนถึงลำคอของผมก่อนจะงับเบาๆ เข้าที่ลูกกระเดือกจนผมต้องแหงนหน้าเริด ซอกคอคือสถานที่ต่อไปที่โดยลุกรานด้วยการดูดเม้น เจ็บจี๊ดขึ้นเมื่อโดยพี่มันกัดที่คอ
“พี่ มึงเป็นหมาเหรอวะ?”
“ก็มึงมันน่าฟัด”
เสียงตอบแหบพร่าเพราะแรงอารมณ์ทำให้ใจผมเต้นแรง และต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อพี่มันใช้ปากดูดดุนหน้าอก ลิ้นร้อนตวัดไปมาจนติ่งเนื้อแข่งเป็นไต
“โคตรเสียว....อา”
มืออีกข้างที่ปัดป่ายไปทั่งร่าง ทำให้ผมสั่นสะท้านยิ่งกว่าเดิม รับรู้ได้รางๆ ว่ามือพี่มันไปอยู่ที่ขอบกางเกงยืนส์ ก่อนจะปลดออกด้วยความไว ถอดทีเดียวทั้งชิ้นนอก ชินใน ผมจึงอยู่ในสถาพแรกเกิดทันที โดยที่เสื้อผ้าพี่มันยังอยู่ครบ แม่งไม่ยุติธรรม ผมผลักพี่มันออกทั้งๆ ที่ยังคงหอบหนักเพราะแรงอารมณ์
“กูถอดให้” พูดจบผมก็จัดการถอดเสื้อพี่มันออกทางหัว กางเกงยืนส์คือสิ่งต่อมาที่โดนกระชากออกแล้วโยนไปส่งๆ ในห้องนอน บ๊อกเซอร์คือสิ่งสุดท้ายที่ปลิวติดมือผมก่อนที่เราสองคนจะกระโจนเข้าหากัน ต่างคนต่างตรึงอีกฝ่ายไว้ด้วยจูบอันเราเร่าร้อน ร่างเปลือยเปล่าสองร่างแนบชิดบดเบียดเสียดสีกัน
“อืม”
“อา”
อารมณ์เสียวซ่านรัณจวนถูกส่งตรงถึงแก่นกาย จนมันตั้งชูชันแข่งกันหาผู้ชนะ พี่มันผลักผมลงไปอยู่ใต้ร่าง ใช้สายตาที่เหมือนอยากจะกลืนกินผมมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ถูกมองแบบนี้ผมกลับเกิดอารมณ์หวามไหวแปลกๆ จนสิ่งที่ชูชันอยู่แล้ว ยิ่งแข็งจนปวดไปหมด
“วันนี้จะกินมึงทั้งตัวเลย”
“อ๊ะ...อา” พอพี่มันพูดจบก็ก้มลงไปใช้ปาก กิน ผมจริงๆ กินเข้าไปทั้งปากจนผมแทบละลาย ความอ่อนนุ่มของลิ้นร้อนๆ ค่อยไล้เลียสลับกับการดูดดูนเบาๆ ในขณะที่มือใหญ่ก็หยอกล้อกับลูกบอลกลมๆ อย่างยุติธรรม จนผมแทบตายคาปาก
“รู้สึกดีมั้ย? ชอบมั้ย?”
“.....อึก..โคตรดี..”
ผมจมอยู่กับความรู้สึกยั่วยวนที่พี่มันมอบให้ ลืมทุกสิ่งรอบตัว จดจ่ออยู่กับสัมผัสที่ปากกับมือของพี่มัน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีสัมผัสเย็นๆ จากปลายนิ้วหมุนวนก่อนจะค่อยๆ แทรกเข้ามาทางด้านหลัง มึงไปหาเจลหล่อลื่นมาจากหนายยยยยย?
“ฮะ..เฮ่ย เอาจริงเหรอ?” ผมไม่ได้เด็กสามขวบที่จะไม่รู้ว่าพี่มันจะทำอะไร ถึงไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่ก็พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“บอกแล้ว วันนี้จะกินมึง.....กินได้มั้ย...หืม?
ถ้าจะถามด้วยน้ำเสียงยั่วยวนแบบนี้ เชิญมึงกินตามสบายเลยครับ กูยอม แอร้ยยยยยยยย ทำไมแอบแรด
ผมไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ใช้ภาษากายบอกพี่มันถึงความต้องการของตัวเอง ดูแล้วพี่มันก็ไม่ได้สนใจจะเอาคำตอบจริงหรอก เพราะตอนนี้มันสอดนิ้วเข้ามาจนสุด ก้อนจะค่อยๆ งอนิ้ว ชักเข้าออกจนชนกับผนังอ่อนนุ่ม
“อ๊ะ...เจ็บ....อื้มมมมม” มันแปลกๆ ตอนแรกมันอึดอัดเพราะสิ่งแปลกปลอมที่ถูกส่งเข้ามา แต่พอพี่มันเริ่มขยับนิ้ว ความเจ็บก็ค่อยๆ จางไปมีความเสียวซ่านเข้ามาแทนที่
ในขณะเดียวกันปากพี่มันก็ยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็ง ผมที่โดนโจมตีทั้งสองด้านแทบจะหลอมละลายเพราะสัมผัสของพี่มัน
“โอ้ยยย..” ไม่รู้เมื่อไหร่ที่พี่มันเพิ่มนิ้วเข้าไปเป็นสามนิ้ว มันเจ็บจนผมเกร็งไปหมด
“ผ่อนคลาย อย่าเกร็ง” มึงก็พุดได้สิ มึงไม่ได้ถูกเสียบนิ
ผมพยายามผ่อนคลายอย่างเต็มที่ จนเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ในตัว พี่มันก็เริ่มขยับนิ้วในตัวผมและเริ่มเร่งจังหวะขึ้น
“อ๊ะ.. ตรงนั้น อ๊า.” อยู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสะท้านจนตัวสั่นเมื่อนิ้วพี่มันชนโดนจุดๆ นึงข้างใน เสียวมาก เสียวจนหน้าท้องหดเกร็ง ลูกชายก็แข็งขึ้นมาสู้ปากพี่มันอีกครั้ง
“ตรงนี้เหรอ” แล้วใอ้หล่อก็เร่งจังหวะจนผมจะขาดใจตาย อยู่ๆ นิ้วก็โดนดึงออกไปจนผมเสียววาบกับสัมผัสจนต้องปรือตามอง ก่อนจะต้องตกใจกับขนาดอลังการของพี่มันที่พร้อมรบอยู่ตรงหน้า ฮือ กูจะตายมั้ย
“พะ..พี่ มันจะเข้าได้เหรอวะ”
“ลองดู” มึงไม่ได้ให้กำลังใจกูเลย T^T
พี่มันฉีกซองถุงยางด้วยปากก่อนจะสวมใส่เข้าไปช้าๆ ในขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องผมอยู่ โคตรเซ็กซี่ แม่ง
“จะกินมึงละนะ”
“...” ไม่ต้องบอกก็ได้มั้ย
พี่มันค่อยๆ จ่อความเป็นชายที่แข็งขืนเข้ามาช่องทางด้านหลัง ค่อยแทรกเข้ามาช้าๆ โคตรเจ็บ
“...พี่ เจ็บมาก”
“ผ่อนคลายนะ เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว” พูดไปก็ก้มลงมาดูดเลียติ่งเนื้อสีแดงก่ำ ดูดดุนมันมันแข็ง มืออีกข้างก็รูดพาราน้อยขึ้นลง หลอกล่อผมจากความเจ็บปวดด้านหลัง จนมันเข้ามาได้ทั้งหมด
“อืมมม”
“อ๊ะ”
เราประสานเสียงกันด้วยความรู้สึกปั่นป่วนเพราะความเสียวซ่านที่แผ่ออกมา พี่มันแช่ตัวอยู่ซักพักเพื่อให้ผมเปรับตัวก่อนจะค่อยขยับเข้า-ออกช้าๆ ผมเริ่มรู้สึกเจ็บน้อยลง แต่รู้สึกเสียดเสียวเพิ่มขึ้นตามการขยับตัวตนของพี่มัน เราจูบกัน ร่างกายเราแนบชิดรวมเป็นหนึ่งเดียว รู้สึกดีจนต้องกักเก็บเสียงครางเอาไว้ไม่ได้
“อา.....”
“โคตรแน่น...อืม”
เราสองคนตกอยู่ในห้วงแห่งกามารณ์ ไม่มีใครคิดหยุดใคร เราต่างก็ต้องการกันและกัน ต้องการสัมผัสเร้าร้อนที่บอกว่าพี่มันเป็นของผมและผมก็เป็นของพี่มันเหมือนกัน การได้เป็นที่รักของใครซักคนมันดีจริงๆ
เนิ่นนานแค่ไหนไม่รู้ พี่มันจับผมพลิกให้อยู่ในท่าคลานเข่า ก่อนจะสอดตัวตนที่แข็งขึ้นเข้ามาครั้งเดียวจนสุด
“อืมมมมม”
“อะ...อ๊า พี่มันลึก”
ในขณะที่ตัวตนของพี่มันยังเข้าออกช่องทางด้านหลังของผมไม่หยุด มันก็โน้มตัวลงพร้อมพรหมจูบไปทั่วแผ่นหลัง ..รู้สึกดีจริงๆ
“..พ..พี่ จะถึงแล้ว”
ผมได้แต่บอกเสียงสั่น คลื่นความรัญจวนนั้นพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดจนแทบจะทนไม่ไหว พี่มันเลยจับผมพลิกอีกรอบโดยที่มันไม่ได้ถอดพอนตัวตนออกจากตัวผม
“พร้อมกันนะ”
“อืมมมมมม”
“อา”
พี่กราฟเร่งการสอดใส่ กระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างหนักหน่วงอยู่ไม่นาน พวกเราก็พุ่งขึ้นสู่สวรรค์ ความต้องการแตกกระจาย ตัวสั่นระริกเพราะความสุขที่ได้รับ ได้แต่กอดพี่มันได้
“รักมึงนะ” ยาพาราของกู
พูดจบยังกดจูบหนักๆ ลงมาอีก นั่นคือเสียงแว่วๆ ที่ผมได้ยินก่อนที่จะหลับไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กูโดนรถบดถนนทับ! นั่นคือความคิดแรกของผมตอนที่ตื่นขึ้นมา อะไรคือตื่นขึ้นมาแล้วปวดไปหมด ยิ่งช่วงกลางลำตัวลงไปนี่แทบขยับไม่ได้ คอก็เจ็บ ฮือกูจะตายมั้ย นอนนิ่งๆ ตั้งสติทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืนหน้าก็แทบไหม้ ฮือทำไมกูเป็นไทป์เมีย ทำไมไม่ได้เป็นผัว กูจะฟ้องป๊า T^T
ผมมองรอบตัวก่อนจะเห็นว่าตัวเองนอนอยู่อ้อมกอดใอ้หล่อมันอยู่นี่เอง เวลาหลับพี่มันก็ดูเหมือนเด็กน้อยดีเหมือนกัน แต่อย่าให้ตื่นนะ ศาตราจารย์สเนป ณ แฮรี่ พอตเตอร์ดีๆ นี่เอง เงยหน้ามองพี่มันได้ไม่นานก็อดใจไม่ได้อยู่ต้องยกมือขึ้นลูบตามสันกราม จนถึงมาปากน่าจูบนั่น เฮ่อ จูบซักทีดีมั้ย? นั่นก็แค่คิดครับ เพราะสิ่งที่ผมทำคำ...บีบจมูก! ใช่บีบจมูกจนพี่มันตื่น โทษฐานทำผมเจ็บ สม!
“อืมมม ตื่นแล้วเหรอ?” ยังมั้ง
“เออ อยากเข้าห้องน้ำ...อื้มมมมม”
นอกจากจะไม่พาผมลุกแล้ว พี่มันยังรัดผมแน่น กดจูบแรงๆ ลงมาอีก จนผมดิ้นไปมานั่นแหละพี่มันถึงหยุด ก่อนจะค่อยๆ พาผมลุกจากเตียง ประคองไปยังห้องน้ำ
“ให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่ต้องๆ ไปเองได้”
ผมรีบบอกมันก่อนจะค่อยๆ พาสังขารอันใกล้แหลกรานเข้าห้องน้ำไป แหมขืนให้พี่มันมาช่วย ผมคงไม่ได้ออกจากห้องน้ำ
กว่าผมจะออกจากห้องน้ำได้ก็ปาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทีแรกกะจะแค่ทำธุระส่วนตัวแต่เกิดเปลี่ยนใจอาบน้ำไปเลยจะได้ไม่ต้องลุกหลายรอบ เดินออกมาก็เห็นพี่มันยืนรออยู่หน้าประตูห้องน้ำพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ แหมมีผัวนี่มันดีจริงๆ
แรดอีกแล้วครับพารา
พี่มันช่วยใส่เสื้อผ้าให้อย่างเบามือ แล้วพาไปนอนที่เตียงเหมือนเดิม ก่อนจะกลับออกแล้วกลับมาใหม่พร้อมข้าวต้มร้อนๆ
“เดี๋ยวกินข้าวต้มนะจะได้กินยากันไว้” โคตรดีอ่ะ แฟนใครวะ
“อืม.....” ผมก็ไม่ถึงกับจับไข้หรอกนะแต่ก็สมควรกินกันไว้ก่อน โดยเฉพาะยาแก้ปวด อยากจะกินซักโหล ฮือออออ
“อยู่ที่นี่จนถึงวันจันทร์นะ ค่อยไปเรียนพร้อมกัน”
“ก็ได้... มึงไปอาบน้ำสิพี่” แหงละ เจ็บตูดขนาดนี้จะให้ออกไปยังไง หลังจากพี่มันเดินเข้าห้องน้ำแล้ว ผมก็มองหาโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะเห็นมันชาร์จอยู่คู่กับโทรศัพท์พี่มันข้างหัวเตียง ต้องไลน์บอกรูมเมทซักหน่อยมันจะได้ไม่เป็นห่วง
วันจันทร์มีหวังโดนแซวอีกกู เฮ่อ! อยู่ๆ ที่นอนอีกฝั่งก็ยวบลงเพราะใอ้หล่อมันมานั่งข้างๆ พร้อมถ้วยข้าว นี่จะป้อนกันเลยเหรอ อะไรมันจะบริการดีขนาดเน้
“กินเองได้น่า”
“ไม่เอาอยากป้อน” เออเรื่องของมึงครับ แล้วทำไมกูต้องยอมด้วยวะครับ ^_____^
พี่มันป้อนผมไปด้วย กินไปด้วยจนข้าวหมดถ้วยถึงได้วาง ก่อนจะให้ผมกินยาพาราไปสองเม็ด เออ พารากินพารา เยี่ยม!
“เอาละ มีอะไรจะถามมั้ย?”
คงยังไม่ลืมนะครับว่าก่อนที่พวกผมจะ บะจั้มบะกัน ผมบอกว่าอยากจะเล่นเกมส์ 20 คำถามกัน เพื่อที่พวกเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ตอนนี้ก็เหมาะละ ถามเลย ผมให้พี่มันตอบก่อน
เกิดวันที่เท่าไหร่?
20 กันยา / 15 ธันวา
มีพี่น้องมั้ย?
มีพี่ชายหนึ่งคน/ไม่มี
สีที่ชอบ?
สีดำ/สีน้ำเงิน
เออใกล้เคียงกรุ๊บเลือดละ?
B/B
กรุ๊บเดียวกันด้วยอาหารที่ชอบ
กินได้หมด/ ไม่มี
อุ้ยเนื้อคู่กินเผ็ดได้มั้ย?
กินได้/นิดหน่อย
เคยมีแฟนมั้ย?
เคย/เคย
แล้วเราก็ถามกันไปแบบนี้ไม่รู้กี่คำถามจนผมแทบหลับอีกรอบ ถึงได้หยุด การเรียนรู้กันและกันเป็นเรื่องดีนะครับ เราจะได้รู้จักคนที่เรารักมากขึ้น เพราะถ้าเรารักใคร ชอบใคร เราก็อยากจะใส่ใจคนนั้น อยากรู้เรื่องของเขาไปหมดทั้งดีและไม่ดีนั่นแหละ ที่สำคัญ ถามเถอะ ถ้าสงสัยหรือไม่แน่ใจ ให้ถาม ดีกว่ามานั่งคิดไปเองเหมือนผม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
:bye2[/font][/size][/size]