ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เีดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ยังไม่เข็ดแอบมาลงเรื่องสั้นอีก 555+
ขอพักเรื่องเลือกที่จะโง่ไ้ว้สักระยะ เพราะพักนี้คนเขียนเฟลมากกกกกกกกกกกกกกกก
เรื่องสั้น สตอล์กเกอร์ที่รัก
ตอนที่ 1
ผมถูกตามครับ ไม่ใช่แอบตามธรรมดานะ แต่นี่มันเข้าขั้นสตอล์กเกอร์กันเลยทีเดียว
ทั้งที่บ้านและที่ทำงานผมรู้สึกเหมือนถูกแอบมองอยู่ตลอดเวลา
แล้วยังพวกจดหมายที่ไม่ได้เขียนชื่อคนส่ง โทรศัพท์ปริศนาที่โทรมาทุกวัน ของขวัญที่ไม่รู้ที่มา
แต่ทุกชิ้นและทุกการกระทำกลับบ่งบอกว่าคนๆนั้นรู้จักผมดีจนน่ากลัว
เขารู้ว่าผมชอบอะไร กลับบ้านเวลาไหน ไปทำงานกี่โมง
แต่นอกจากความรู้สึกแปลกๆเหมือนถูกแอบมองกับสารพัดของขวัญและจดหมายที่ส่งมา มันก็ไม่มีอะไรอีก
ผมแค่รู้สึกหงุดหงิดใจเพราะความสงสัยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้รำคาญอะไรมากมาย
เพราะฉะนั้นผมเลยไม่ได้แจ้งความและก็ค่อนข้างแน่ใจว่าขนาดตัวอย่างผมคงไม่ถูกฉุดไปทำมิดีมิร้ายง่ายๆแน่ๆ
อ่อ ลืม .. ผมยังไม่ได้แนะนำตัวใช่มั้ยครับ
ผมชื่อ"เมธี"ครับ เมธี นามสกุลไม่บอก ถ้าอยากรู้ก็ลองมาใช้นามสกุลผมดูสิครับ อิอิ อายุปีนี้ก็เบญจเพศพอดี
ส่วนหน้าตาผมไม่ชอบยอตัวเองครับ เอาเป็นว่าไม่ขี้เหร่ล่ะกัน ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่บริษัทออกแบบสื่อโฆษณาแห่งหนึ่ง
ในตำแหน่งต๊อกต๋อย เป็นแค่พนักงานแถวล่างๆของโครงสร้างบริษัทนั่นแหล่ะครับ และวันนี้ผมก็ต้องไปทำงาน
จะมัวพล่ามแนะนำตัวยืดยาวก็ไม่ได้ เดี๋ยวสายๆ ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ
อ๊ะๆๆๆ อย่าตามไปแอบดูล่ะ ผมมีสตอล์กเกอร์ส่วนตัวคนเดียวพอ
ก็ไม่มีอะไรมากอ่ะครับ อาบน้ำสระผมให้สดชื่อหน่อย สังเกตความหล่อ+โกนหนวดหน้ากระจกนิด ฉีดโคโลนสองสามปื้ด
แล้วสวมเสื้อเชิ๊ตกับกางเกงขาเดปสีดำ คว้าแจ๊กเกตไปกันหนาวตัวนึง บริษัทออกแบบไม่เนี๊ยบเรื่องการแต่งตัีวครับ จะใส่อะไรก็ได้แต่ต้องดูสุภาพ+คล่องตัวนิดนึง
แต่กว่าจะฝ่าด่านรถไฟฟ้านรกมาได้ก็แทบแดดิ้น มันจะแน่นอะไรกันหนักหนา ชั่วโมงเร่งด่วนก็เป็นยั่งงี้ ทำใจๆ
ลงจากสถานีรถไฟฟ้าเดินอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงบริษัท สะดวกดีแท้
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนเข้าบริษัทขอสำรวจความเนี๊ยบนิดนึง ผมใช้ประตูกระจกหน้าบริษัทเช็คเครื่องแต่งตัว
เชิ๊ตเรียบกริบเมื่อเช้ายับนิดหน่อย ผมจัดการสลัดๆสบัดๆ ให้คืนตัวเท่าที่พอทำได้ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรคนหล่อไม่ต้องแต่งนานอิอิ
(เมื่อกี้แกยังบอกว่าไม่อยากยอตัวเองอยู่เลย ไอ่นี่)
แต่สงสัยผมจะผิดที่ผิดทางไปสักหน่อย อยู่ๆก็มีคนเปิดประตูออกมาแล้วพุ่งเข้ามาชนผมอย่างจัง
แต่ไม่สะเทือนครับ ภูผาอย่างผมแรงแค่นี้เปรียบเสมือนลมพัดเบาๆ
แต่คนที่ชนสิครับ ปะทะอกกว้างๆของผมแล้วกระเด็นหวืดไปเลย ดีที่ผมคว้าทัน
ชิมัตตะ (ฉิบหายแล้ว) คนที่ผมชน (เอ๊ะ รึเค้ามาชนผม) คือท่านประธานบริษัทครับ!
แล่วๆๆๆๆ จะโดนไล่ออกมั้ยเนี่ย ซวยแต่เช้าเลยผม เมื่อผมรู้ว่าเป็นใครก็รีบปล่อยเอวบางในทันที
"ขอโทษครับ" ผมขอโทษพลางก้มหัว พระเจ้าโปรดเมตตา ลูกยังไม่อยากตกงาน
" ไม่เป็นไร" ท่านประธานพูดรัวแล้วหันหลังวิ่งเข้าบริษัทไป อะไรวะ จะไปตามควายรึไง แต่ก็ดี ผมรอดสินะ 555+
เมื่อจบเรื่องแล้วผมก็เดินเข้าบริษัทแบบโล่งอก ทักทายลุงยาม ป้าแม่บ้าน พนักงานต้อนรับ เพื่อนร่วมชะตากรรมเอ๊ยเพื่อนร่วมงาน
แล้วก็หัวหน้าแผนกอย่างทุกที คนมันมนุษย์สัมพันธ์ดีครับ ต้องพรีเซนต์ตัวเองหน่อย
ผมทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ โต๊ะทำงานก็เหมือนบริษัททั่วๆไป มีกั้นคอกแยกโต๊ะพนักงานเป็นส่วนๆ
กลัวพนักงานจะเขาชนกันรึยังไงไม่รู้ ผมรีบเดินเข้าคอกทันที (พูดไปพูดมาเหมือนสัตว์มีเขาเนอะ =*=)
ต้องรีบเปิดคอมออนเฟสบุ๊คเอ๊ยไม่ใช่ต้องรีบสะสางงานครับ ต้องให้คุ้มเงินเดือนหน่อย เค้าอุตส่าห์จ้างเราทั้งที
อีกแล้วครับ! สีแดงทิ่มตาเลยทีเดียว บนโต๊ะอัีนซกมกของผมมีของที่ไม่เข้ากันวางอยู่ กุหลาบสีแดงช่อโต ซึ่งไม่มีการ์ดหรือข้อความอะไรแนบมาเหมือนทุกที ผมจับขึ้นพลิกไปมาเพื่อหาพิรุธ
"ต๊ายยยยยยยยยยย! มีดอกไม้มาส่งทุกวันเลยนะจ๊ะ พ่อเสน่ห์แรง" เจ๊ดาครับ ชื่อเต็มๆชื่อดาริกา นั่งทำงานอยู่คอกข้างๆผม
ตะโกนมาได้ผมตกใจดอกไม้แทบหลุดมือ
"เค้าส่งผิดมั้งครับ" ผมพูดปัดๆ
"ผิดอะไรล่ะจ๊ะ มาทุกวัน คริๆๆ ว่าแต่คนส่งเป็นใครหรอคะ?" ถ้าผมรู้ ผมจะปวดหัวอยู่แบบนี้รึครับเจ๊ ถามมาได้
"ไม่รู้ครับ"
"งั้นเจ๊ก็ยังมีหวังสินะจ๊ะ" พูดพลางส่งสายตาหวานเชื่อม นี่เจ๊เริ่มตอกเสาเข็มสะพานเสริมเหล็กอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย
" รีบทำงานกันดีกว่าครับ เดี๋ยวพ่อเจ๊เข้ามาจะหนาวดึ๋ง " ผมเอ่อถึงคนที่พนักงานในแผนกก็รู้ดีว่าใคร
" ประธานอ่ะหรอ นั่นสินะ พักนี้ไม่รู้เป็นไร เดินตรวจงานแผนกเราบ๊อยบ่อย" เจ๊ดาว่า มันก็จริง มันเป็นงานของประธานบริษัทที่ไหน
แล้วหัวหน้าแผนกจะจ้างมาทำไมกันล่ะ
ไม่เคยจะรู้ตัวเลยว่าเดินตรวจบ่อยๆ พนักงานในแผนกจะเกร็งกันขนาดไหน ทันทีที่เดินเข้ามาในแผนกลบ 0 องศาทันที
ประธานบริษัทผมท่านไม่ดุหรอกครับ แต่นิ่งนี่สิ นิ่งจนเหมือนสต๊าปไว้ ไม่เคยยิ้ม ไม่เคยคุยกับใคร เป็นเจ้าชายน้ำแข็งที่น่าขยาด
อายุก็น่าจะมากกว่าผมสัก 10 ปีไ้ด้ ตัวเล็กๆ ผอมๆ ใส่แว่นกรอบบางที่ทำให้หน้าดูเย็นชามากขึ้น ผมเสยเก็บเรียบแปร้
จะว่าไปก็หน้าตาดีนะครับ ถ้ายิ้มสักหน่อยจะน่ามองมากเลย
อีกแล้วในขณะที่ผมจะเก็บของกลับบ้านตอนเลิกงาน ผมสังเกตเห็นว่าบางอย่างบนโต๊ะของผมหายไป ผมเอากล่องดินสอร่างงานที่บ้านมาใช้ครับ ในนั้นบรรจุดินสอหลายเบอร์ที่ผมใช้จนคุ้นมือไว้
มันหายไปทั้งกล่อง หายไปได้ยังไงเนี่ยยยยยยยยยยยย
พักหลังมานี้ ของเล็กๆน้อยๆบนโต๊ะของผมหายไปบ่อยๆครับ อาทิ ปากกา ยางลบ ไม้บรรทัด แก้วกาแฟ ถังขยะใบเล็กข้างๆโต๊ะ หรือแม้กระทั่งเศษกระดาษที่ผมวาดรูปเล่นยามเครียดๆ
ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด ของพรรณนี้จะเอาไปทำไม?
แต่ช่างมันเถอะ คิดมากไปของมันก็ไม่กลับมา ปวดหัวซะเปล่าๆ
ตอนเย็นยิ่งกว่าตอนเช้าอีกครับ คนแห่กัีนขึ้นบีทูเอสเหมือนไม่เคยพบเคยเห็น
เพลียจากที่ทำงานแล้ว ยังต้องมาเพลียกับการเดินทางอีก ฮ่วย
อยากกลับไปอาบน้ำนอนเร็วๆ ผมอยู่คนเดียวครับ บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดทางภาคเหนือ
พอได้งานทำที่กรุงเทพก็มาเช่าบ้านเล็กๆอยู่คนเดียว เหงาเหมือนกันแต่มันส่วนตัวดี นึกจะทำอะไรก็ทำ
"กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงง" ตรงเวลาเป๊ะทุกวันเลยครับ เจ้าโทรศัพท์ปริศนา โทรมาแล้วไม่พูดเลยสักครั้ง แต่โทรมาทุกวัน เวลาเดิมๆ คือหลังจากที่ผมเลิกงานแล้วกลับมาบ้านสักสิบนาทีไ้ด้
"ครับ!" ผมยกหูโทรศัพท์บ้านแล้วกรอกคำทักทายเข้าไป
"......" เงียบเหมือนเดิมครับ
" สวัสดีครับคุณสตอล์กเกอร์ ผมถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ปลอดภัยครบ 32 ดีทุกอย่าง ไม่ต้องโทรมาเช็คทุกวันก็ได้
ผมเหนื่อยมากกกกกกกก..........ก ขี้เกียจรับโทรศัพท์ แค่นี้นะครับ ผมไม่อยากพูดคนเดียว" ผมวางหูดังกริ๊ก แล้วเอนตัวลงนอนบนโซฟา เดี๋ยวหายเหนื่อยแล้วค่อยไปอาบน้ำ
แต่กลายไปว่าผมเผลอหลับตรงโซฟาทุกที
วันต่อมากระเช้าซุปไก่สกัด+เป๊ปทีนก็ยิ้มเผล่อยู่บนโต๊ะผม
เฮ้! วันนี้มีการ์ดด้วย ผมรีบหยิบมาอ่านอย่างตื่นเต้น "งานหนักดูแลสุขภาพด้วย"
แหมดีจริงๆเมื่อวานบ่นว่าเหนื่อย วันนี้ส่งของบำรุงมาให้เลย น่ารักจริงๆ คุณสตอล์กเกอร์
ผมชักอยากรู้ซะแล้วสิว่าคุณเป็นคนแบบไหน อายุเท่าไหร่ และเพศอะไร
เมื่อวานว่าเหนื่อยแล้ววันนี้ยิ่งกว่าครับ แถมมีวี่แววว่าต้องอยู่เย็นอีก ก็ลูกค้านะสิครับดันเปลี่ยนใจให้แก้ดีไซต์งานเอาโค้งสุดท้าย
ทั้งๆที่จะเอาเข้าโรงพิมพ์อยู่แล้ว แถมเป็นงานที่ผมออกแบบอีก ผมก็ซวยไปคนเดียวนะสิครับ
เพื่อนๆที่แสนดีก็ไม่อยู่ช่วยเลยสักตัว เลิกงานแล้วกลับบ้านกันเกลี้ยงแผนก จำเอาไว้!
ผมนั่งแก้งานจนปวดกระบอกตาเลยคิดจะพักบ้าง ไปชงกาแฟมาซดให้สดชื่นดีกว่า ผมละจากจอมอนิเตอร์เหลือบไปดูนาฬิกาบนผนัง
สามทุ่มสิบนาที บ๊ะช้าขนาดนี้แล้วหรอ เ็ฮ้อ รีบกินกาแฟแล้วปั่นงานให้มันเสร็จๆดีกว่า จะได้รีบกลับบ้าน
ผมไม่ถูกกับบรรยากาศแบบนี้เลย กลางคืนที่แผนกมันน่ากลัวแบบนี้นี่เอง แถมไฟก็ปิดหมดแผนกตามนโยบายประหยัดพลังงาน
เหลือแค่โคมไฟดวงเดียวคือตรงโต๊ะที่ผมนั่งทำงาน
ทั้งแผนกเลยเต็มไปด้วยความมืดกับเงาตะคุ่มๆ ชวนผวา
ผมยอมรับอย่างแมนๆเลยว่าผมกลัวผีครับ ใครว่าคนตัวโตเท่าควายจะกลัวผีไม่ได้ ผมนี่แหล่ะกลัวเข้าไส้ แต่อย่าไปบอกใครนะ เสียมู๊ดหมด
ผมรีบสาวเท้าไปที่โต๊ะกาแฟครับ มันอยู่คนซีกโลกกับโต๊ะของผมเลย พอไปถึงกดน้ำร้อย บ๊ะ น้ำร้อนหมด ต้องต้มใหม่เสียเวลาพอดู
พอน้ำร้อนผมก็จัดแจงชงกาแฟหอมกรุ่นแล้วรีบเดินกลับโต๊ะทันที ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ
ยังไม่ทันที่ผมจะเดินถึงโต๊ะ ผมก็มีอันต้องหยุดกึ๊ก หังใจเต้นรุมบ้าจนอกแทบจะพัง ไอ่นั่นมันอาร๊ายยยยยยยยยยย
ไอ่เงาตะคุ่มๆที่มองยังไงก็คล้ายคนนั่น ที่ีสำคัญมันยืนอยู่ที่โต๊ะโผ้มมมมมมมมมมม
พ่อแก้วแม่แก้ว 25 ปีที่ผ่านมาลูกไม่เคยได้เจอะได้เจอผีตัวเป็นๆ โฮๆๆๆๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตใช่ม้ายยยย
งานไม่เสร็จ=โดนตัดเงินเดือน เผลอๆอาจโดนไล่ออก
ผีหลอก=หัวโกร๋น จะตกใจตายรึเปล่าก็ไม่รู้
ผมชั่งน้ำหนักสองสมการในหัว จะทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น ใช่สิ ผมก็ไม่ต้องเลือกมันสักทาง
ผมหันไปดูผนังข้างๆที่ผมยืนอยู่ พอดีเลย สวิตไฟ จัดการเปิดซะ ดูสิถ้าสว่างแล้วผีมันยังกล้ายืนหัวโด่อยู่มั้ย
"พรึบ" ไฟทุกดวงในแผนกแทบจะติดขึ้นพร้อมกันด้วยสกิลรัวนิ้วขั้นเทพของผม
ผมหันไปมองในทันที และสิ่งที่ผมได้เห็นมันทำให้ผมตกใจเสียยิ่งกว่าผีหลอกเสียอีก
"ท่านประธาน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
ไอ่เงาดำๆที่ผมคิดว่าเป็นผีที่จริงเป็นประธานบริษัท แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจ
สิ่งที่ท่านประธานกำลังทำอยู่ทำเอาผมมึนงงเหมือนโดนน๊อกด้วยค้อน 500 ปอนด์
ที่มือของท่านประธานมีเสื้อแจ๊กเกตของผม และๆ ท่านกำลังสูดดมเสื้อของผมอยู่!!!!!!!!!!
TBC ตอนต่อไปเป็นพาสของประธานบริษัท มาฟังคำแก้ตัวของจำเลยดูบ้าง