ตอนที่ 13 : ทดลอง
“อืม”“แค่นั้น!” ไทยมองหน้าเพื่อนสลับกันไปมา ไม่เห็นความแปลกใจอยู่ในสีหน้าเมื่อเขาเล่าความรู้สึกของตนเองให้ฟัง
“ก็..” ตะวันอึกอักเล็กน้อยขณะที่คนโปรดยิ้มร่า เป็นคนเฉลยคำตอบให้เพื่อนรู้
“พวกกูรู้อยู่แล้ว”
“รู้อะไร รู้ว่าไอ้ปราบชอบกูเหรอ”
“เปล่า รู้ว่ามึงต้องชอบไอ้ปราบเข้าจนได้”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นวะ ขนาดกูยังเพิ่งรู้”
“กูไม่ได้รู้เพราะดูจากมึง กูรู้เพราะดูจากไอ้ปราบต่างหาก ลูกล่อลูกชนแพรวพราวขนาดนั้นกูว่ายังไงมึงก็ไม่รอด หรือมึงจะเถียง”
“เออ” จะเถียงทำไมในเมื่อเขาเพิ่งสารภาพไปว่าชอบไทย
“เราว่าปราบรู้จักไทยดีพอสมควรเลยนะ อย่างน้อยก็รู้ว่าจะทำให้ไทยสนใจได้ยังไง ฉลาดที่เข้าใกล้แล้วถอยห่าง มันทำให้ไทยต้องหันกลับไปมองใช่ไหมล่ะ”
“อืม พูดเฉพาะกับพวกมึงนะ กูแม่งอย่างกับโดนปั่นหัว เอาแต่สงสัยว่าตกลงมันชอบกูหรือไม่ชอบกูกันแน่ พอสงสัยมากๆ กลายเป็นกูไปฉิบที่เอาแต่มองมัน”
“กูบอกแล้วเห็นไหม ไม่รอด”
“เดี๋ยวนี่พวกมึงนินทากูลับหลังกันเหรอ” ไทยถามเมื่อเห็นคนโปรดหันไปยักคิ้วให้ตะวัน
“ใช่” สองเสียงตอบขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่เสียงหัวเราะจะระเบิดออกมา
“แล้วนี่ยังไงวะ ตกลงคบกันเลยไหม”
“ยังก่อน”
“อ้าว! ทำไมวะ” คนโปรดขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
“กูยังไม่ได้บอกไอ้ปราบว่ากูก็ชอบมัน เรื่องอะไรจะบอกให้เสียฟอร์มวะ”
“งั้นมึงคิดอะไรอยู่เล่ามาเลย กูขี้เกียจเดาแล้ว”
“ได้ กูคิดแบบนี้...” ไทยเล่าสิ่งที่เขาตัดสินใจจะทำ ดวงตาของตะวันค่อยๆ เบิกกว้าง สีหน้าประหลาดใจ
“จะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ เราว่าไม่ดีมั้ง นี่ซึมซับมาจากคนโปรดมากเกินไปใช่ไหม” ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อเพื่อนรักบอกเล่าแผนการคร่าวๆ ที่คิดเอาไว้ให้ฟัง
“ผิดแล้ว กูไม่เหมือนคนโปรดสักนิด”
“เหมือนสิ หรือไทยหมายถึงแผนของไทยไม่อุตริเท่าคนโปรด”
“อ้าวตะวัน~” เจ้าของเรื่องอุตริร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ก็โดนพาดพิง
“เราขอโทษ” ตะวันรีบขอโทษเพื่อนรักแต่ก็แอบขำไปด้วย
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก ไม่เชื่อตะวันถามมันดูก็ได้”
“ใช่ ไม่เหมือน” คนโปรดยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หลอกล่อให้เพื่อนรักอย่างตะวันงงได้
“บอกมาเถอะ เราเดาไม่ถูก”
“ฮ่าๆ กูขอเฉลยนะไทย คืองี้ในสถานการณ์เดียวกัน ถ้าเป็นกู กูคงวิ่งไปสารภาพรักถึงห้องไปแล้วไง ฮ่าๆ เขาชอบเราเราชอบเขา จะรออะไรวะ”
ตะวันเบิกตากว้างก่อนหัวเราะออกมา โธ่เขาลืมไปได้อย่างไร เพราะมัวแต่พุ่งประเด็นไปที่คำว่าอ่อย เขาเลยลืมคิดถึงสถานการณ์ไป
“ใช่แบบนั้นเลย ส่วนถ้าเป็นตะวันก็คงอยู่เฉยๆ รอให้อีกฝ่ายเป็นคนเดินหน้าเข้าหาใช่ไหมล่ะ เห็นไหมในเรื่องเดียวกันเราสามคนคิดไม่เหมือนกัน สำหรับกูถึงรู้ว่าใจตรงกันกูก็ต้องวางท่าไว้หน่อย ของมันต้องคิดไปไกลๆ ต้องให้อีกฝ่ายรู้ว่าเป็นคนตามเราโว้ยมันถึงจะกุมอำนาจไว้ได้ ส่ายหางวิ่งไปหาอย่างมึงถึงตกอยู่ในอำนาจพี่รหัสแบบนี้ไง”
“ไม่เป็นไรกูชอบอยู่” คนโปรดตอบด้วยความรวดเร็ว พี่รหัสเหมือนดุแต่ใจดีจะตาย
“อืมเข้าใจแล้ว งั้นก็ตามใจไทย”
“กูขออย่างเดียว” คนโปรดชูนิ้วชี้ขึ้น
“อะไรวะ”
“เอาแต่พอดีนะมึง ปราบมันคนสนใจเยอะนะอย่าลืม”
“ถ้าลืมกูจะอ่อยเหรอ”
“เออจริง” คนโปรดยิ้มกว้าง ยกสองนิ้วขึ้นเป็นกำลังใจให้เพื่อนสู้
“ตะวัน เดินช้าๆ หน่อย”
“มีอะไรเหรอ”
“กูขำไอ้ไทยมัน”
“เรื่องไหน”
“มันจะรู้ตัวไหมว่ามันเลือกแล้วว่ามันจะเป็นรุกหรือรับ”
“คนโปรด~”
“โธ่จะอายทำไม เรื่องธรรมดาพูดได้”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”
“เห็นชัดออก ก็มันรอให้ปราบมาขอเป็นแฟนไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆ แต่ก็ดีแล้วล่ะ กูว่าดูหุ่นแล้วยังไงก็ต้องยกให้ไอ้ปราบ”
ตะวันต้องกลั้นยิ้ม ไทยหนอไทย สงสัยจะเข้าข่ายเส้นผมบังภูเขาอีกคน คิดไปได้แสนไกลแต่ดันลืมคิดถึงเรื่องนี้
เร็วสิวะ ทำอะไรอยู่วะ!
กูรอไม่ไหวแล้วนะโว้ย หิวฉิบหาย
“ยังไม่กลับเหรอ”
“ไทยเบือนหน้าไปมองคนถามช้าๆ สบตากับอีกฝ่าย “ไม่ล่ะกูไม่รีบ จะนั่งเล่นให้เหงื่อแห้งก่อน”
“กลับเถอะกูหิว”
“แล้วกูเกี่ยวอะไรด้วยวะ” ไทยใช้น้ำเสียงรำคาญนิดๆ สายตามองตรงไปยังสนาม เมื่ออีกฝ่ายเงียบไปเขากลับขยับตัวลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋ากีฬาขึ้นสะพายบ่า
“ไปไหน”
“มึงหิวไม่ใช่เหรอ” ไทยเดินผ่านหน้าร่างสูง เขาพูดลอยๆ โดยไม่หันไปมอง
“รสชาติเป็นไงวะ” ไทยมองขวดชาเขียวที่อยู่ในมือของปราบ เขาเลือกทานผัดไทยร้านอร่อยใกล้กับที่พักของอีกฝ่าย
“ดี” ปราบเลือกดื่มชาเขียวรสธรรมชาติไม่ผสมน้ำตาล
“เหรอวะ กูชิมหน่อย” ไทยยื่นมือออกไปหา ปราบยังดื่มอยู่แต่ก็ยอมส่งให้อีกฝ่าย
ไทยรับขวดไปหมุนดูฉลาก เขาเผยอปากออกน้อยๆ ก่อนทาบลงไปบนปากขวด ยกขึ้นดื่มช้าๆ ค่อยๆ กลืนลงคอ “ขมไปนิดวะ กูสั่งรสหวานดีแล้ว” ไทยดื่มเข้าไปอีกอึกใหญ่ก่อนวางคืนให้เจ้าของ
“มองอะไรวะ ไม่กินเหรอ” ไทยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เมื่อสายตาคมเข้มจ้องมองเขานิ่ง
“กิน” ดวงตาคู่นั้นหลุบต่ำลง ไทยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ หึๆ ถึงกูไม่เคยอ่อยผู้ชายแต่กูเคยฟังคนโปรดกรอกหูเรื่องแผนต๊องๆ ของมันมาเยอะ ไม่คิดว่าจะได้ผล รู้อย่างนี้ควรสนับสนุนให้ทำ
“เกมของไอ้พี่เหน่งยังอยู่ไหมวะ หรือมึงคืนไปแล้ว”
“ยังอยู่” คำตอบสั้นได้ใจความ ไทยแอบหัวเสีย มึงก็ชวนสิวะ!! แม่งเอ๊ย
“เล่นไหม”
ดีที่ยังรู้จักคิด “เอางั้นเหรอ กูว่าจะยืมกลับหอ คนโปรดเอาเครื่องมาทิ้งไว้ที่ห้อง”
“เล่นที่นี่เถอะ”
ไทยนิ่ง ทำท่าคิดชั่วครู่ก่อนพยักหน้า “เอาอย่างนั้นก็ได้ ดีเหมือนกันไม่เปลืองไฟห้องกู”
“เฮ้ย! มึงมีแผ่นหนังเรื่องนี้ด้วยเหรอวะ กูเปลี่ยนใจดูหนังแทนได้ไหม เรื่องนี้กูยังไม่เคยดู” ไทยชูของในมือให้ปราบดู
“มึงยังไม่ได้ดูเหรอ”
“ยัง” ไทยทำหน้าซื่อ เรื่องนี้เขาไปดูมาแล้ว แต่เนื่องจากมีวางอยู่แผ่นเดียวจึงต้องทำหน้าตายให้ดูน่าเชื่อถือเข้าไว้ เขาใช้สมองคิดอย่างรวดเร็วแล้วว่าดูหนังน่าจะเข้าท่ากว่า เพราะถ้าเล่นเกมต่างคนก็ต่างต้องใช้สมาธิ
“อืม เอาสิ”
“มึงก็ยังไมได้ดูใช่ไหม” ไทยส่งแผ่นหนังให้ปราบ
“ดูแล้ว”
“อ้าว!”
“กูซื้อมาเก็บน่ะ”
“แปลว่าสนุกมาก ดีๆ งั้นดูเลย” ไทยเดินไปนั่งรอที่โซฟา ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนจัดการ
“เบียร์ไหม”
“เอา” ไทยพยักหน้า เขามองตามร่างสูงที่เดินตรงไปยังตู้เย็น เผลอหัวเราะขำตัวเอง เขาทำบ้าอะไรอยู่วะ ความรักทำให้คนเพี้ยนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
“ง่วง” ไทยเอนศีรษะพิงโซฟา เขาบ่นออกมาเบาๆ ทำเหมือนไม่รู้ว่าศีรษะเอนเข้าไปใกล้ไหล่ของปราบแค่ไหน
“ถ้าไม่ชอบก็ปิด เล่มเกมแทนไหม”
“สนุกดี กูแค่ง่วง ขอหมอนใบสิ”
“โซฟาห้องกูไม่มีหมอน”
“แล้วทำไมมึงไม่ซื้อมาวะ” ไทยบ่น เขาซ่อนยิ้ม รับรู้ได้ถึงอาการหายใจสะดุดของอีกฝ่ายเมื่อเขาเอนศีรษะลงไปวางบนไหล่ของปราบ “เออ แบบนี้ค่อยดีหน่อย มึงไม่ซื้อก็ต้องยอมให้กูพิงละนะ”
“อืม พิงเถอะ”
สายตาของไทยมองตรงไปยังหน้าจอโทรทัศน์ คนที่อยากให้หวั่นไหวยังคงนั่งดูหนังนิ่งไม่มีปฏิกิริยา แต่เขาเสียอีกที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายปนกับกลิ่นเหงื่อให้ความรู้สึกแปลก มันไม่หอมหวานเหมือนที่คุ้นเคย แต่เขาไม่นึกรังเกียจสักนิด รวมถึงความแข็งของกล้ามเนื้อที่พิงอยู่ด้วย ไทยแหงนเงยศีรษะขึ้นมองใบหน้าขรึม ดวงตาคู่นั้นมองเขาอยู่ก่อนแล้ว สายตาสองคู่ประสานกันนิ่ง
“ทำไมไม่ดูหนังวะ” ไทยถามโดยไม่ละสายตา
“เรื่องนี้กูดูแล้ว”
“อ๋อ..อืม” ไทยขยับตัวขึ้นนั่งตัวตรง จู่ๆ เขาก็รู้สึกเขินกับสายตาคมเข้มที่จ้องมอง
“มึงก็ดูแล้ว”
“หะ!” ไทยหันขวับไปมองหน้าปราบ ฉิบ! รู้ได้ไงวะ
“เรื่องนี้พี่เหน่งชวนไปดู วันนั้นไปกันเกือบครบทีม ถ้ามึงจะจำได้หนึ่งในนั้นมีกูด้วย”
ไทยกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ฉิบหายแล้วกู เขาจำได้ว่าดูแล้วแต่ดันจำไม่ได้ว่าดูกับใคร “หะๆ ก็ว่ากูคุ้นๆ กูดูเยอะเลยจำไม่ได้” ไทยหัวเราะออกไปแห้งๆ ใช่เขาดูหนังเยอะจริง ถึงจำไม่ได้ว่าดูเรื่องนี้กับใคร
“วันนั้นกูนั่งติดกับมึง”
ไทยอ้าปากค้าง เขาหัวเราะซ้ำเมื่อนึกอย่างอื่นไม่ออก “มึงดูพร้อมกูนี่เอง ดูต่อนะกูจำไม่ได้แล้ว” ไทยเลือกตีมึนกันกลับไปมองจอโทรทัศน์ ตั้งใจดูหนังขึ้นมาทันที ในใจคิดแค่ว่าเดี๋ยวจบแล้วต้องรีบขอตัวกลับ ไปตั้งหลักก่อนดีกว่า เขาดันลืมไปว่ารู้จักปราบมานานแล้ว แต่เพราะไม่ได้เข้าไปคลุกคลีจึงไม่ได้สนใจ ซึ่งตรงข้ามกับปราบ อีกฝ่ายรู้จักเขาดี อาจจะดีกว่าตัวเขาเองด้วย
“จบแล้ว สนุกดี” ไทยบิดขี้เกียจ เตรียมพูดขอตัวกลับ “แต่กูว่าเรื่องนี้เฉยๆ”
“ถ้ามึงไม่ชอบแล้วมึงจะซื้อมาเก็บทำไมวะ เสียดายเงิน”
“กูซื้อมาเพราะมันเป็นหนังเรื่องแรกที่กูดูกับมึง”
ไทยชะงัก เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ลืมเรื่องหน้าแตกเมื่อครู่เพราะมัวแต่ทึ่งอีกฝ่าย “มึงแม่งโรแมนติกกว่าที่คิด”
“งั้นเหรอ”
“ใช่สิวะ ไม่เข้ากับหน้ามึงสักนิด” ไทยตั้งใจชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ใช้ดวงตาวาววับมองเข้าไปในดวงตาของปราบ จุดรอยยิ้มขึ้นที่ริมฝีปาก “น่ารักนะมึง”
“อืม” ปราบไม่ละสายตาจากเขา “พอดีกูซื้อห้าแถมหนึ่งน่ะ ไม่รู้จะเอาเรื่องไหนแล้ว เห็นมันวางอยู่เลยหยิบมา”
ไทยถอยตัวกลับมานั่งตามเดิม พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงสุดเซ็ง
“ไอ้เหี้ยปราบ~ ทำไมมึงชอบปล่อยให้กูหน้าแหกวะ”
“หึๆ”
“ขำ” น้ำเสียงของไทยเอาเรื่อง มันน่าโดนไหม ทำเขาหน้าแหกประจำ
“แต่กูเลือกหยิบมาเพราะมันคือหนังที่กูดูกับมึงครั้งแรกจริงๆ ไม่อย่างนั้นกูคงไม่เอา”
ไทยมองดวงตาจริงใจคู่นั้น คนแบบนี้ไม่ใช่เหรอที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ “อืม กูรู้แล้ว”
“รู้ว่า”
“ว่ามึงไม่โรแมนติกแต่มึงใส่ใจ”
“หึๆ นึกว่าจะโกรธที่กูตอบตามตรง”
“เสียหน้านิดหน่อยแต่ไม่โกรธ แบบนี้ดีแล้ว”
“ดียังไง”
“มึงก็ขี้เสือกเหมือนกันนี่หว่า” ไทยทำสายตาล้อเลียน เมื่ออีกฝ่ายถามเขาไม่หยุด
“ก็ถ้าเป็นเรื่องของมึง ไม่ว่าเรื่องไหนกูก็อยากรู้”
“งั้นเหรอ” ไทยมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขาลุกขึ้นยืนบิดตัวไล่ความปวดเมื่อย “กูกลับล่ะ”
ไทยหยิบกุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ที่เขาวางกองไว้บนโต๊ะขึ้น ยัดทุกอย่างลงในกระเป๋ากางเกง
“ไทย”
“อะไร”
“จะไม่บอกกูหน่อยเหรอว่าดีแล้วคืออะไร..”
“ดีแล้วก็คือ...” ไทยลากเสียงยาว รอยยิ้มร้ายกาจฉายชัด ดวงตาของเขาเป็นประกาย “ถ้ามึงไปขับรถให้กูพรุ่งนี้เช้ากูจะบอก” ไทยยักคิ้วให้ปราบ เขาเดินตรงไปยังประตูห้องโดยไม่รอฟังคำตอบ
“อ้อ ห้ามเกินเก้าโมงเช้าเพราะกูจะไปต่างจังหวัด” ไทยพูดแค่นั้นก่อนเปิดประตูออกไป ยังหรอก มันยังไม่จบแค่นี้ วันนี้ถือว่าแค่ชิมลางเท่านั้น ประมาทไม่ได้เลยนะมึง
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
ยังๆ พี่ไทยยังไ่ม่เริ่มอ่อยนะคะ แค่ลองเชิงดูก่อน ใครรออ่อยแบบแนบชิด ตอนหน้านะคะ ^^
ปล.ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะ เคลียร์ต้นฉบับไม่เสร็จตามที่คิดค่า ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin