Chapter 8 ผืนน้ำกว้างไกลส่งแสงระยิบวาวจากแสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ที่กำลังเคลื่อนเข้าใกล้เส้นขอบของผืนท้องทะเล พื้นที่ชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ทขนาดกลางในช่วงโลว์ซีซั่นเช่นนี้ให้บรรยากาศชิลๆ แบบสุขสงบ เหมาะกับเวลาพักร้อนของหนุ่มๆที่อยากจะพักเหนื่อยจากการทำงานอันแสนหนัก ตรงตามคอนเซ็ปที่ทางทีมงานโฆษณาตั้งใจไว้ไม่ผิดเพี้ยน รถตู้กองถ่าย ทีมงาน และรถศิลปินเดินทางถึงพัทยาตอนเหนือในช่วงบ่ายแก่ๆ อาจเพราะโปรเจ็คงานนี้ค่อนข้างใหญ่ ทีมงานก็จำนวนมาก ทำให้เวลาที่แพลนเอาไว้ว่า จะมาถึงราวบ่ายสองโมงกลับต้องเลทมาถึงสี่โมงเย็น ดังนั้นแผนแรกที่ตกลงจะถ่ายภาพนิ่งริมทะเลทันทีที่มาถึง จึงต้องเลื่อนเป็นพรุ่งนี้รุ่งเช้าแทน ทำให้เจ้าหนุ่มหน้ากบ หนึ่งในนายแบบของงานนี้ออกอาการดี้ด้าเป็นพิเศษ เพราะเย็นนี้เขาจะได้เล่นน้ำ ขับเจ็ตสกีได้เต็มที่ไปเลย
“พี่พีม! ไปเล่นน้ำกันเถอะ น้ำเชี่ยวอยากขับเจ็ตสกีด้วยอ่ะ” เด็กหนุ่มหันมาชวนด้วยท่าทีเหมือนเด็กเพิ่งได้มาเที่ยวทะเลเป็นครั้งแรก
“หึ..ไม่เอาง่ะ พี่ไม่ชอบโดนแดด นายไปเถอะ พี่ไปนอนพักที่ห้องพักดีกว่า” ซูเปอร์สตาร์หนุ่มตอบออกไปพลางยกมือขึ้นป้องแสงแดดที่แผดจ้า แยงดวงตาเรียวของเขาจนหยีแทบปิด
“โหย..ไรอ่า..มาถึงทะเลทั้งทีจะไปนอนซะงั้น ไม่รู้แหละ ถ้าเย็นแล้วแดดหมด น้ำเชี่ยวจะไปตามที่ห้อง พี่ต้องมาเล่นกะน้ำเชี่ยวด้วย” เออ.. เจ้ากบนี่มันยังไงฟระ มาหน้าบึ้งใส่เราได้อีก นักร้องหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางเหลียวมองเจ้าเด็กซนที่เดินหน้ายุ่งเป็นยุงตีกัน อีกทั้งยังทำท่าฟึดฟัดใส่หน้าเขาก่อนจะหอบเข้าของอุปกรณ์กีฬาลงทะเลไป
“น้ำเชี่ยว..อย่าเล่นจนเป็นไข้แดดละรู้มั้ย เรายังต้องทำงานกันอีกหลายวันนะจ๊ะ” เสียงพี่ฝนตะโกนไล่หลังมาแต่ไกลทันทีที่เห็นน้ำเชี่ยวตั้งท่าจะวิ่งลงทะเล
.
.
.
---
ปึกๆๆ!---ปึกๆๆ!---
ปึกๆๆ!---
“
พี่พีม! พี่พีม เปิดตูหน่อย นี่น้ำเชี่ยวเอง”
---ปึกๆๆ!---“อืม...ไรอ่า” เสียงงัวเงียถามออกไปพลางเดินโซเซไปเปิดประตู
“แดดมะ..หมด
เย้ย!!! พี่ทำไม ไม่ใส่เสื้อ!” พีมนึกขำในใจเมื่อเห็นเจ้ากบหัวเปียกมร็อกแมร็ก ที่ยืนหน้าแดงขึ้นสีเมื่อเห็นเขาเปลือยท่อนบน สวมกางเกงเลเพียงตัวเดียวมาเปิดประตู
“ก็คนนอนหลับ จะให้ใส่เต็มยศไปทำไม...แล้วนี่มีอะไรล่ะ” พีมพูดพลางพลักประตูแล้วเดินนำให้คนข้างนอกเข้ามาในห้องพักขนาดเตียงเดี่ยวที่พร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน
“โห..~ มองจากตรงนี้วิวสวยมากเลยพี่ ดูดิ
เห็นทะเลชัดมากเลยอ่ะ” กระทั่งเข้ามาเห็นวิวทางฝั่งชายหาดที่ติดกับทิศตะวันตนของผืนทะเล เจ้าเด็กหนุ่มก็ลืมสิ้นทุกสิ่ง ทำท่าทางตื่นเต้นวิ่งออกไปยังระเบียงของห้องที่ถูกออกแบบมาให้เป็นมุมเปิดมองเห็นทะเลได้ชัดแจ๋ว และสามารถเดินทะลุออกไปยังหาดทรายได้ทุกเวลา
“แล้วห้องน้ำเชี่ยวอยู่ไหนอ่ะ พี่รู้ป่ะ จะสวยแบบนี้มั้ยเนี่ย”
“ห้องนายก็อยู่ข้างๆห้องพี่นี่แหละ แต่กุญแจคงอยู่ที่พี่ยีนส์ไม่ก็พี่ฝนล่ะมั้ง.. แล้วนั่น เป็นอะไร ทำไมทำท่าทางแปลกๆ” ซูเปอร์สตาร์หนุ่มที่เดินออกมาจากมุมแต่งตัวพร้อมกับเสื้อคลุมสีขาวสะอาดและผ้าขนหนูผืนนุ่มสำหรับเจ้าเด็กหัวเปียก ถามออกไปเมื่อจับสังเกตุได้ว่าคนตรงหน้ายืนบิดไปบิดมาจะนั่งก็ไม่จะยืนก็ไม่อยู่เฉย
“เอ่อ..น้ำเชี่ยวปวดฉี่อ่ะ แหะๆ” เหอๆ.. เจ้าเด็กน้อยเอ้ย แค่ปวดฉี่ ก็ไม่กล้า
“เอ๋า..มา เข้าห้องน้ำห้องพี่ก่อนก็ได้ นู้นไปเข้าซิ” พีมว่าพลางโยนผ้าขนหนูในมือไปพาดบนหัวโตๆของเด็กหนุ่ม ชี้ไม้ชี้มือให้เจ้ากบตัวแสบไปเข้าห้องน้ำซะที โดยเขาเองก็ลืมไปว่าตัวเองได้ทิ้งของสำคัญบางอย่างไว้ที่ราวแขวนในห้องน้ำหรูนั่น ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดสบายๆเพื่อนอนพักผ่อนรอเวลาที่ทางทีมงานจะมาตามไปเข้ากอง
.
.
ทางด้านน้ำเชี่ยวที่กำลังทำธุระอยู่นั้นก็เจอแจ๊คพ็อตแบบไม่ต้องสืบ เมื่อหันไปจะเอ๋เข้ากับของสำคัญสิ่งนั้นอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตากลมเบิกกว้างตะลึงงัน เมื่อพบกับเจ้ากางเกงในสีดำแบรนด์หรูซึ่งถูกถอดพาดไว้บนราวแขวนผ้าของห้องน้ำ ไม่ต้องเดาก็คงจะรู้ได้ไม่ยากว่าใครเป็นเจ้าของ เด็กหนุ่มได้แต่กระพริบตาปริบกับชิ้นผ้าตรงหน้า พลันหัวสมองก็คิดไปถึงภาพแรกที่คนน่ารักของเขาเดินมาเปิดประตูห้องด้วยร่างเปลือยเปล่าที่มีเพียงกางเกงเลหลวมๆแค่ตัวเดียว
‘หมายความว่าข้างในกุงเกงเลตัวนั้นก็ โบ๋เบ๋ด้วยเหรอ.. อ๊ากกกกซ!’ อยู่ๆเจ้ามือซุกซนก็สั่นพั่บๆ อดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมากางออกดู ให้ความรู้สึกคล้ายว่าเป็นพวกโรคจิตยังไงยังงั้น แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้คิดจะวางลงแต่อย่างไร ดูท่าแล้วเขาคงจะหลงคลั่งซูเปอร์สตาร์ข้างนอกนั่นไม่แพ้บรรดากลุ่มแฟนคลับพีม พีราณุ เท่าไรหรอก
“
ห๊า...ตัวก็ดูเหมือนจะเล็กกว่าเรา ทำไมใส่ไซส์เดียวกันเลยว่ะ” ไม่นานหน้าหล่อๆของเจ้าร็อคเกอร์หนุ่มตาหวานก็แดงเถือกจนเกือบระเบิด เมื่อคิดไกลไปถึงที่ๆควรจะเป็น ที่ๆควรจะอยู่ของเจ้ากุงเกงลิงนี่ ~
จ๊ากกกก!ไอ่น้ำเชี่ยวเอ็งชักจะหื่นเข้าไปทุกทีแล้วน่ะเฟ้ย ไม่ต่างอะไรกับโรคจิตเลย
“น้ำเชี่ยว!”
แว๊กกกกก!@%# “เป็นอะไรหรือเปล่า เข้าไปนานจัง ได้ยินเสียงเหมือนพูดอะไรกับใคร โอเคมั้ยครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถามอยู่หน้าห้องน้ำเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กซนหายเข้าไปนาน ทั้งยังแอบมีเสียงพูดงึมงำลอดออกมาจากห้องน้ำอีก
เล่นเอาเจ้าโจรโรคจิตในห้องน้ำแทบช็อค ตกอกตกใจโยนหลักฐานสำคัญปลิวหวือออกจากมือแล้ววิ่งวุ่นตามเก็บมาพาดเข้าที่เดิมให้จ้าละหวั่น
“อ้าว...เป็นอะไรหรือเปล่าหเนี่ยเราหื ไม่สบายรึป่าว ทำไมหน้าแดงงั้นล่ะ” พีมทักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าแปลกๆ ชายหนุ่มไม่รอช้ายื่นมือเรียวเข้าแตะหน้าผากเนียนทันที
“หน้าร้อนๆด้วยอ่ะ เล่นน้ำจนไข้ขึ้นแล้วมั้งเนี่ย”
“มะ..
ไม่ใช่ แดดมันร้อนเฉยๆหน้ามันก็เลยแดง
ไม่มีไร๊..น้ำเชี่ยวสบายดี ไปพี่ ตอนนี้ไม่มีแดดแล้ว ไปเล่นน้ำกับน้ำเชี่ยวเหอะ” เมื่อถูกคุณหมอจำเป็นวินิฉัยโรค ก็ทำให้เด็กหนุ่มกลบเกลื่อนเข้าเรื่องที่มาตามทันที
“ไม่เอา..พี่บอกตอนไหนว่าจะไปเล่นด้วยอ่ะ ไม่เอาหรอก พี่ไปเดินช็อบปิ้ง หาของกินที่ไนซ์ดีกว่า” แต่พีมก็ยังเป็นพีม เมื่อตั้งใจอะไรไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็มาเปลี่ยนใจไม่ได้ บวกกับชายหนุ่มเป็นคนเจ้าสำอางเป็นที่หนึ่ง ฉะนั้นการที่รุ่งขึ้นจะต้องทำงานแล้ว ถ้าหากออกไปเล่นน้ำทะเลตอนนี้อาจทำให้หน้าคล้ำผิวเสียได้ อย่างไรก็ต้องปฏิเสธถึงที่สุด
“เหรอๆ..งั้นน้ำเชี่ยวไปด้วย น้ำยังไม่เคยไปเลย อยากไปๆ^_^” เมื่อได้ยินโปรแกรมที่ดูท่าว่าจะเด็ดกว่า คราวนี้เจ้าเด็กตากลมก็ลืมทะเลสิ้น ออกท่าทางลั๊ลล๊าหนักกว่าตอนจะไปเล่นน้ำซะอีก
“จะดีเหรอน้ำเชี่ยว พี่ว่าอย่าเลย เดี๋ยวจะยิ่งเป็นเป้าสายตาคนนะ พี่ไปคนเดียวดีกว่านะ”
“พี่พีมอ่ะ นะ ขอน้ำไปด้วยนนะ น้ำเชี่ยวหิวด้วยอ่ะ เนี่ยตาลายหมดแล้ว น๊า..เดี๋ยวน้ำจะปลอมตัวให้คนจำไม่ได้เลย น๊า..นะคร้าบบบบ ขอน้ำเชี่ยวไปด้วยนะ..น๊า” เด็กหนุ่มหน้าเป็นพยามออดอ้อนเกาะแข้งเกาะขาทำตาใส มือก็ทำท่ากุมท้องแสดงละครแอ็คติ้งแนบเนียน ว่าหิวใส้จะขาด ซุกหัวซุกตัวเข้าหาคนตรงหน้าจนแทบเซล้ม
“อะ เออ..ไปก็ไป ไปเลย รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเลย..อ้อ!อย่าลืมบอกพี่ยีนส์พี่ฝนด้วยล่ะคืนนี้เราไม่กินข้าวกับกองนะ”
เฮ้อ~ ไอ้เคโระนี่ตื้อจนได้...ไม่น่าใจอ่อนเลยเรา..หวังว่าคงไม่มีใครจำเราได้หรอกนะ
.
.
ที่ล็อบบี้ของโรงแรม
“
เคโระๆ..ทางนี้” ชายหนุ่มหน้าหวานในชุดเสื้อกล้ามสีดำตัวจิ๋วโชว์กล้ามแขนขาว กับกางเกงสามส่วนสีชมพูอ่อน สวมหมวกผ้ามีปีกเล็กๆ และแว่นสายตา ส่งเสียงเรียกเบาๆพร้อมชูไม้ชูมือเมื่อเห็นเป้าหมายเดินหน้ามึนออกมา
“โห..พี่ จำแทบไม่ได้เลย เอ๋..พี่สายตาสั้นด้วยเหรอ เหมือนน้ำเชี่ยวเลย” สายตาสั้นนี่มันแปลกด้วยเหรอไงเนี่ย- -‘
ซูเปอร์สตาร์ในคราบเด็กเนริด์เดินวนไปวนมาจับร่างของคนข้างหน้าพลิกหน้าพลิกหลังสำรวจความเรียบร้อย ว่าไม่น่าจะทิ้งคราบของร็อคเกอร์ดาวรุ่งให้ใครเขาจับได้แน่นอน
“หมวกอ่ะ..ไหนหมวก เอามาป่ะ ลองเอามาใส่ดูดิ๊” น้ำเชี่ยวดึงหมวกจากกระเป๋ากางเกงมาใส่ทันทีที่อีกคนทัก เจ้านี่แต่งตัวสบายๆเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วก็ดูน่ารักดีเหมือนกันแฮะ
“โอเค!ผ่าน ปะ ไปกัน” อืม!ดูน่ารักเหมือนแฮรรี่พอร์ทเตอร์เลยเว้ย คริๆ~
“แล้วไปไงอะพี่ ให้รถกองเค้าไปส่งป่ะ”
“หึ..เดินไป เดี๋ยวไปขึ้นรกสองแถวที่ถนนใหญ่” พีมพูดพลางหันมายิ้มให้เจ้าตัวดีที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่ข้างหลัง
“พี่ เอางั้นเลยเหรอ น้ำกลัวหลงทางอ่ะ พี่..คิดผิดคิดใหม่ได้นะ.. เฮ้ยย เดี๋ยวเด่ะ พี่ พี่รอด้วย
รอด้วย!!” เด็กหนุ่มตากลมได้แต่ยืนบ่นอุบเมื่อรู้ว่าจะต้องลำบากนั่งรถอะไรก็ไม่รู้ออกไปเที่ยว ได้สติอีกทีก็เห็นคนตัวขาวๆเดินดุ่ยๆออกไปที่ถนนใหญ่แล้ว จึงได้แต่ร้องโวยวายกึ่งวิ่งกึ่งเดินไล่ตามคนที่ล่วงหน้าไปก่อน
กระทั่งมาถึงถนนกลางคืน ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยร้านค้าขายของนานาชนิด ทั้งของแบกะดินไปจนถึงย่านร้านของแบรนด์เนม ของแฮนด์เมด ของกิน ซีฟู้ดและขนมต่างๆ ทำเอาทั้งคู่ยืนตาโตมองซ้ายแลขวาดูสองข้างทางที่รายล้อมไปด้วยคาราวานแฟชั่นและอาหารคาวหวานมากมาย ที่คงหาโอกาสยาก กว่าคนอย่างพวกเขาจะได้มาเดินสบายๆแบบนี้ได้อีก ฉะนั้นเมื่อมีเวลา ทำอะไรได้ก็ควรจะกอบโกยให้หมด
“
อุ้ย!..น้ำเชี่ยวดูทางนู้นสิ ของกินเต็มไปหมดเลยอ่ะ ...
อ๊ะนี่!หมวกน่ารักๆทั้งนั้นเลย...นั่นมีร้านเสื้อด้วย เต็มไปหมดเลย” ..ได้ข่าวว่าตอนแรกไม่อยากให้มา ตอนนี้กลับชวนเราเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ แถมใช้เราถือของพะรุงพะรังเต็มไปหมด หิวชะมัดเลย อะไรว่ะเนี่ยยย.. เด็กหนุ่มตากลมอดยิ้มขำกับท่าทางหลงแสงสีของคนน่ารักที่เอาแต่เดินนำหน้าเขาไม่หยุด
กระทั่งมาถึงร้านของแฮนเมดสไตล์เก๋ ที่ดูท่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักช็อปมือพระกาลหาตัวจับยากอย่างพีมซะแล้ว เด็กหนุ่มได้แต่ยืนหน้ามุ่ย ค้อนคนน่ารักอยู่ข้างหน้าร้านค้า เพราะถูกทิ้งให้ยืนท้องร้องโครกคราก แถมยังมีถุงพรุงพรังเต็มมือไปหมดอีกด้วย ไม่เห็นใจกันบ้างเล้ยยย
“
อ๊ะ!......” กระทั่งพีมหยิบหมวกใบสวยที่เล็งไว้ตั้งแต่เดินผ่านหน้าร้านมาวางแหมะไปที่หัวฟูๆอันปราศจากหมวกใบเดิม เพราะเจ้าตัวเอามาพัดคลายร้อนจากการโดนเขาแกล้งให้เดินถือของตามเป็นชั่วโมง ..ฝ่ามือเรียวคว้าข้อมือเด็กหนุ่มให้เข้ามาในร้าน หยุดหน้ากระจกเงาบานใหญ่ แล้วจัดแจงสวมหมวกใบสวยพร้อมจัดแต่งทรงผมให้เข้าดูเข้าที ทำเอาเด็กหนุ่มออกอาการเขินเพราะระดับสายตาที่ประสานกับดวงตาเรียวแป๋วนั้นกับพวงแก้มใสพาให้ใจเต้นตูมตามแทบทะลุออกมา
“เฮ้ย...
หล่อมากกก ใส่แล้วหล่อมาก ......พี่ครับเอาใบนี้ด้วยครับ คิดรวมกันเลย” ห๊ะ อะไรนะ พี่จะเสื้อหมวกนี่ให้ผมเหรอ....พี่พีม..อย่าทำตัวน่ารักไปมากกว่านี้เลยครับ ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“อะ..พี่ให้ มันเหมาะกับเรามาก ใส่แล้วน่ารักดี” หนุ่มร่างขาวพูดพลางเอาหมวกใบเก่าเก็บลงถุง แล้วแนบฝ่ามือทั้งสองข้างลงบนใบหน้าหล่อๆของคนตรงหน้าให้ส่ายไปมาเล่นสองสามทีอย่างนึกเอ็นดู
“ขอบคุณครับ ^_^ ” เจ้าเด็กหน้ากบพอส่องกระจกเสร็จก็หันมาฉีกยิ้มตาหยีให้พีม ...บอกไม่ถูกจริงๆเราคงเอ็นดูเด็กนี่ละมั้ง แค่นี้คงไม่ทำให้นายคิดไปไกลหรอกนะ
“หิวยัง กินอะไรกันดี น้ำเชี่ยว”
“น้ำเชี่ยวอยากกินอาหารทะเลอ่ะ พี่อยากกินป่าว”
“
งั้นไปเล้ย!” โอย..ตอนนี้เอาอะไรมา พี่ก็กินได้หมดแล้วอ่ะ หิวมากกก
เดินไปได้ไม่นานทั้งสองหนุ่มก็ต้องหยุดเอาตรงร้านซีฟู้ดข้างทางเจ้าแรก เพราะขบวนน้ำย่อยในกระเพราะมันดูเหมือจะกัดกินลำไส้ของทั้งคู่จนตาลายไปหมด บวกกับความเหนื่อยล้าที่ต้องเดินหิ้วของมากมายมาตลอดทางทำให้ไปต่อไม่ไหวแล้ว
.
.
“พี่เอาอีกป่ะ ข้าวอีกมั้ยพี่ น้ำเชี่ยวตักให้”
“
อ๊ะ.. นี่ๆปู อร่อยมาก
กินเลยๆ” พีมนั่งมองปู กุ้ง ปลา ที่ถูกแกะเรียบร้อยกองพูนจานของตัวเองอย่างงงๆ นี่เจ้าเด็กตาโตนี่มันรู้ได้ยังไงว่าอร่อย ในเมื่อตั้งแต่อาหารมากมายมาเสริฟ มันก็เอาแต่ตักแล้วแกะ แคะแล้วก็โยนมาใส่จานของเขาอย่างเดียวเท่านั้น
“กุ้ง กุ้งมั้ยกุ้ง กินเยอะๆ ตัวเล็กจิ๊ดเดียว เดี๋ยวเป็นลม” เฮ้ย!.. ใครตัวจิ๊ดเดียว ไอ้กบปากเสียนี่ ฉันมีกล้ามนะโว้ย ใหญ่กว่าของแกอีกมั้ง
ชิ! หนุ่มหน้าหวานนึกเคืองกับคำพูดนั่นจนพาให้ลมในกระพุ้งแก้มโป่งออกจนแก้มพองค้อนควับใส่เจ้าเด็กบื้อที่ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา
“มาๆ น้ำเชี่ยวแกะให้ นี่น้ำไม่เคยแกะให้ใครอย่างนี้เลยนะเนี่ย พี่คนแรก” จ้า.. ดูจากสภาพศพกุ้ง กับเศษเนื้อปู ฉันก็พอจะเดาออก ..นี่ถ้าผู้หญิงคนไหนได้นายเป็นแฟน ชั้นจะไปแสดงความยินดีด้วยเป็นคนแรกเลย เอาใจขนาดนี้ เหอๆ~
“นี่.. น้ำเชี่ยว หิวไม่ใช่เหรอเราน่ะ พี่เห็นกินไปนิดเดียวเอง แกะให้ตัวเองมั่งสิ” เฮ้ออ..อย่าดีไปกว่านี้เลยนะ ถ้าฉันใจอ่อนแล้ว นายนั่นแหละที่จะซวย ไอ้เคโระเอ้ย
“อ้อ..เออใช่ อืม..ลิมกินไปเลย ไงพี่อร่อยป่ะ”
“..^ ^..” แม้ไม่พูด แต่การพยักหน้าแล้วยิ้มหวานตอบกลับมาของพีม เท่านี้ก็ทำให้หัวใจของเด็กหนุ่มพองโตเหลือเกินแล้ว....
..พี่พีม..น้ำเชี่ยวอยู่กับพี่แล้วมีความสุขจริงๆ ขอบคุณนะครับ
********************************
แล้วคุณคนอ่านทั้งหลายมีความสุขเหมือนน้องน้ำมั้ยค้าบบบบ อิอิ
แล้วเจอกันเน้อ
B a l l o o n