@@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดยLuk {มนต์มาร} ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลักษมณ์ สายลับหน้าใส  (อ่าน 548110 ครั้ง)

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
เราไปมุดหัวที่ไหนอยู่ตั้งนานไม่ยอมมาอ่านเรื่องนี้
แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าทั้งการจัดเรียงและอะไรหลายๆอย่างดีขึ้นมากกกกก
ถึงจะแปลกๆที่ตอนแรกๆ เรียกพระลักษณ์ที่ปลอมมาเป็นรพินทร์ว่า "เธอ"ก็เถอะ
แต่ว่าเรื่องกำลังสนุก มาต่อด่วนเลยจะรอติดตามต่อไป

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :z1: :z1: :z1:


ยอมๆไปเหอะ พ้นช่วงเจ็บก็สบาย

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
o13 สุดยอดขอยกนิ้วให้กับเรื่องนี้ สนุกสุดยอดไปเลย
ชอบพระลักษมณ์มากๆเลยอ่ะ ดูกวนๆแต่น่ารักมากๆ
ส่วนคุณปาจา เท่มากๆเลยค๊า เหมาะสมกันจริงๆเลยคู่นี้
แถมเรื่องนี้ยังเป็นแนวแฟนตาซีที่โปรดปรานอีกตั้งหาก >///<
ตอนหน้าจะเข้าหอกันแล้วซินะ (ใช่เปล่า)
:laugh:แอบขำพระลักษมณ์อ่ะ คิดจะกดจาเขาอย่างเดียวเลย
สงสัยลืมมองว่าตัวเองกับจาต่างกันขนาดไหนนน ฮ่าๆ
ตอนแรกแอบเดาเล่นๆว่าผาต้องเป็นลูกของกายันต์ ที่ไหนได้เป็นจริงซะงัน
 :-[อยากอ่านตอนทำพิธีจังเลย อยากเห็นตอนพระลักษมณ์เข้าห้องหอ
จะรอติดตามตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ขำพระลักษณ์อะ คิดได้งัยเนี้ย

nona159

  • บุคคลทั่วไป
ด้านสว่าง........สงสารพระลักษณ์อ่ะไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

ด้านมืด...........เมื่อไหร่จะถึงคืนวันเพ็ญนะฮุฮุ :z1:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
อยากอ่านพระลักษณ์แล้วค่ะ คุณลัก

มาต่อเร็วๆน๊าาาาา

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
มาได้แล้วววววววววววววววว

ออฟไลน์ Kra-Jieb

  • ชีวิตที่เลือกเอง !!!!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :haun4: กร๊ากกกกกก....ตอนนี้ขำพระลักมษณ์อ่ะ คิดได้ไงว่าตัวเองจะเป็นคนกดปาจา.....กรีสสสส...อยากอ่านต่อไปแร้วอ่ะ :z3:

e_new

  • บุคคลทั่วไป
มารอแล้วคร๊าฟ ฟฟ  เร็วๆน๊า
ที่พักผ่อนย่อนใจคือ...นิยายของพี่ลัก น่ะ :)

เจริญพร

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
อยากอ่านต่ออ่ะ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
บวกแล้วจ้า เป็ดแล้วด้วย

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
คิดถึงพระลักษณ์แล้ว.. มาต่อเร็วๆน๊า

รอ ร่อ ร้อ ร๊อ รอออ...

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มาแอบอยู่แถวๆหน้าจอ นั่งรอผู้แต่งด้วยว่าจะมาต่อ ฮิฮิ

เจริญพร

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
ตอนนี้ยังไม่จบ  แต่ยังมึนตื้ออยู่  สัญญา NC  มีในตอนแน่นอน

เขียนมาแล้วยังไม่ถูกใจ  เลยขอเวลาแก้ไขก่อน

อยากอ่านเร็ว  อย่าลืมอ่านเหตุผลคนเขียนท้ายตอนนิยาย

แล้วท่านจะเข้าใจหัวอกข้าพเจ้าในตอนนี้   เครียดๆๆๆๆจังเลย :z3:

ยาวโคดๆ  4  หน้า  อ่านให้ตาแฉะกันไปข้าง


มนต์มาร
Part 12
ล้างอาถรรพ์มาร...1
.
.
.
.
.
                        พระลักษมณ์ขอเวลาตั้งสติ  หลังรู้ต้องสังเวยเอกราชให้เจ้าคุ้มน้ำแข็ง   เชื่อว่าตอนนี้

หน้าคงออกอาการขี้ไม่ออก  ทั้งเจ้านายทั้งเลขาเลิกคิ้วจ้องมองไม่วางตา  ชักหงุดหงิดแล้วนะเว้ย!   อะไรนักหนาหวะ! 


                       “เฮ้ย!  จะจ้องกันอีกนานไหม? คุณเลขาขอผมคุยกับคุณจาตามลำพังหน่อยเหอะ”   พระลักษมณ์

ใช้น้ำเสียงแกมสั่งมากกว่าขอร้อง  บังอาจจับขึงก่อนทำไม  มีหน้าวางแผนตุ๋ยหนุ่มหล่อตูดซิงอย่างตนอีก  เห่อ..เห่อ..ยากทำใจ

ยอมรับจริงๆ แต่เล็กจนโตผ่านสมรภูมิดุเดือดเลือดพล่านกลับไม่กลัว  นึกไม่ออกมีเหตุการณ์ไหนบ้างทำให้พระลักษมณ์

ขนหัวลุกเท่ากับต้องสังเวยตูดแล้วเนี่ยะ   อร๊ากกกกก!!!..น่ากลัวยิ่งกว่าโทเมอร์ฮ๊อคถล่มซัดดัมเสียอีก 

วิตกกังวลในใจคนเดียวเป็นคุ้งเป็นแคว


                     “คุณออกไปเถอะ  ผมโอเคไม่ต้องห่วง”  หึ!  ทีพระลักษมณ์บอกไม่ยอมทำตาม  ปาจาพูดปุ๊ป

พยักหน้าหันหลังเดินคอตั้งออกไปหน้าตาเฉย   ให้มันได้อย่างนี้สิเลขาผีดิบ  รอเลื่อนตำแหน่งเป็นนายใหญ่ของคุ้มก่อนเหอะ 

พ่อจะเล่นงานให้เข็ดเย็นชาดีนักจะทำให้ร้อนจนเดือดเลยเชียวคอยดูดิ   ไอ้หยะ!  ตายห่าคิดไปถึงไหนแล้วเห้ย!   

กังวลจนหลอนต้องโทษพวกบ้าคอยเป่าหูอยู่นั่นแหละ...อรึ้ยยย!  พระลักษมณ์กลอกตาไปมาทำหน้าตาพิกล 

จนปาจาเกือบหลุดขำ 


                     “คุณมีอะไรคุยกับผม?” ปาจาเอ่ยปากทันที หลังเลขาหน้านิ่งคล้อยหลังออกไป กลับเป็นพระลักษมณ์

ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเต็มทน  หน้าปาจานิ่งจนเดาความคิดไม่ออก  เอาไงเอากันมือพระกาฬของหน่วยพิเศษ

ประสบการณ์มีไม่น้อย   ประสบกามก็พอตัวถึงจะผ่านแต่สาวแท้มาตลอดก็เถอะ  เห็นทีต้องลองล่อหลอกดูก่อน 

พระลักษมณ์คิดในใจก่อนเอ่ยปากตอบกลับไปว่า


                     “ปล่อยผมได้ไหม   อยากให้ช่วยก็ควรให้เกียรติกันหน่อย  นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี  มันคือการบังคับ

กักขังหน่วงเหนี่ยว  กระทำกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ   โดนกี่ข้อหาคุณน่าจะรู้ดีนี่นาด๊อกเตอร์”  พระลักษมณ์พร่ำยาว 


                     “หึ...ผมรู้ดีผู้กอง  ทีคุณปลอมแปลงเอกสาร  ประพฤติมิชอบลักลอบเข้าที่รโหฐาน

ทั้งที่เจ้าของเค้าไม่อนุญาต  กระทำการอุกอาจเยี่ยงโจร  ผมคือผู้เสียหายย่อมมีอำนาจในอาณาเขตของตน คุณว่าจริงไหม?”   

พระลักษมณ์หน้านิ่ว  โดนปาจาโต้กลับ  แต่ด้วยนิสัยรั้นเป็นทุนจึงไม่ยอมจนแต้ม   ตวัดตากลมโตใส่แสดงออกไม่พอใจสุดๆ   

ก่อนเถียงคอตั้ง


                     “ผมใช้อำนาจของรัฐปฏิบัติหน้าที่ตะหาก ไม่ได้ทำเรื่องส่วนตัวสักหน่อย สืบข้อเท็จจริงคดีอุกฉกรรจน์

คืองานของผม  ถ้าไม่อยากเป็นผู้ต้องหา  ปล่อยผมดีกว่าคุณจา   ผมรับปากจะไม่ติดใจเรื่องที่ผ่านมา”   ปาจายิ้มเย็น

พระลักษมณ์รู้สึกหนาวเข้ากระดูก   ก่อนปาจาออกปากโดยใช้น้ำเสียงแสดงอำนาจตอบมาว่า


                     “การลักลอบเข้ามาในคุ้มของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต   ต่อให้เป็นศพก็ไม่มีใครเอาผิดผมได้   

กฎง่ายๆแค่นี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะพระลักษมณ์”  พระลักษมณ์กัดกรามกรอด  นึกชังน้ำหน้าปาจาตะหงิดๆ   

แน่สิเคยเป็นตำรวจสากลย่อมรู้ถึงความเสี่ยงโดยไร้ที่ฝังดีอยู่แล้ว  ไอ้ที่ยกมาพูดหวังจะให้ออมชอมต่อกันเหอะ   

ทำไมถึงดื้อชะมัด  ใจนึกว่าแต่เค้าดันลืมนิสัยตัวเองต่างกันตรงไหน  เอาหวะเหลือหนทางเดียว  เห็นทีต้องรื้อตำรา

นักการทูตขึ้นมาสมานฉันท์ให้เป็นอิสระกับพันธนาการเหล่านี้ก่อนดีที่สุด


                    “เอาหละผมยอมรับผิดก็ได้  แต่อย่างน้อยคุณควรให้อิสระผมด้วย  ต้องการความร่วมมือจากผม

น่าจะเทคแคร์ฉันมิตรมากกว่าข่มขู่   ถ้าหากผมคิดสั้นยอมตายขึ้นมา  คุณคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากร่างไร้ชีวิตผม

ได้หรอกจริงไหม  คุณกับผมเราต่างรู้ดีว่าอาชีพนี้ถึงเวลาต้องเสียสละเมื่อจำเป็นก็ต้องทำ”  พระลักษมณ์พูดจบ   ปาจาขยับ

ลุกจากเก้าอี้  ก่อนจะล้วงกุญแจในเสื้อคลุมปลดพันธนาการเท้าทั้งสองข้าง  แล้วขยับมาปลดที่ข้อมือให้อีก   

พระลักษมณ์ผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อขยับแขนขาช้าๆ  ก่อนลุกลงจากเตียงยืนบิดซ้ายบิดขวา 


                   และแล้วไม่คาดคิด  พระลักษมณ์กลับตวัดเท้าเตะเข้าใส่ปาจาทันที   พลังที่เหวี่ยงออกไป

เชื่อว่าคนปกติโดนถึงกับลงไปนอนจูบธรณีลุกไม่ขึ้นเลยเชียวแหละ


                  “พลั๊ก!! ปึ๊ก!!  ป๊าปๆๆ!!!”  เสียงรัวลูกเตะต่อเนื่องรวดเร็ว   แต่กลับไม่ระคายปาจาแม้แต่น้อย 

นอกจากเจ้าตัวสามารถรับลูกเตะพระลักษมณ์โดยเบี่ยงน้ำหนักทิ้งออกได้อย่างสบายแล้ว  ยังสวนกลับจนพระลักษมณ์

เป็นฝ่ายถอยอีกตะหาก   


                  การปะทะฝีมือของหนุ่มใหญ่กล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง  กับหนุ่มหล่อหน้าใสร่างโปร่ง   ต่อเนื่องไม่หยุด

โดยที่ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำแก่ใคร   ดูผิวเผินเหมือนฝีมือคู่คี่สูสีกัน  แต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะรู้ว่าปาจาเพียงปัดป้องและตอบโต้

ให้พระลักษมณ์ถอยร่นเท่านั้น  ไม่ได้รุกจริงจังอย่างที่ควรจะเป็น  ต่างกับพระลักษมณ์ซึ่งงัดท่าไม้ตายออกมาใช้จนเหนื่อยแล้ว 

ยังไม่สามารถทำร้ายร่างกายปาจาได้สักนิด ขืนยืดเยื้อต่อไปได้หมดแรงก่อนเป็นแน่  ดังนั้นพระลักษมณ์จึงฉากหนีห่างหลายก้าว

พร้อมกับยกมือขึ้นห้ามศึกทันที


                “พอหยุดก่อน แฮ่กๆๆ เหนื่อยโคด”  ปาจาก็ยอมชงักหยุดให้ไม่ตามเข้าซ้ำ  ท่าทางช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง

พระลักษมณ์แทบลิ้นห้อย  ขณะที่อีกฝ่ายกลับนิ่ง  แค่หายใจแรงกว่าเดิมเล็กน้อย   นี่มันบ้าชัดๆไม่ยักรู้ปาจา

ฝีมือจะเขี้ยวปานนี้  เป็นความผิดพลาดเหลือแสนซึ่งพระลักษมณ์กรนด่าตัวเองในใจ   เนื่องจากประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ผิดมหันต์   

จะโทษก็ต้องโทษหน่วยข่าวกรองดันไม่มีข้อมูลป้อนมาก่อน  ขณะกำลังคิดพลางพักเหนื่อยไปด้วย  ปาจาก็พูดขึ้นว่า


                   “พอเหอะ รั้นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  นอกจากเพิ่มความยุ่งยากให้ตัวเอง  จำไม่ได้หรือไง

ธรรมตรัยเพิ่งบอกไป  ต่อให้ผมปล่อยคุณไม่ได้แปลว่าจิตมารจะปล่อยให้คุณรอด   มันไม่มีทางยอมให้คุณลอยนวล

คอยเป็นหอกข้างแคร่เด็ดขาด   

                      สมมติคุณรู้ว่ามีระเบิดเวลาอยู่ใกล้ตัว  คุณจะหาทางปลดชนวนหรือไม่   เช่นเดียวกับจิตมาร

มันย่อมคิดช่นนี้  ในเมื่อมันรู้ถึงตัวตนของคุณแล้ว   มันคงยอมปล่อยคุณหรอกนะ   ก่อนหน้าที่มันไม่เข้ามาวุ่นวายกับผม 

เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ลงมือฆ่าเหยื่อในคุ้มผม  ให้ทางการหมายหัวพวกเราแทน  นับจากนี้ไปมันคงเปลี่ยนเป้าหมาย   

กำจัดคุณไม่ได้คงไม่ยอมเลิกลา”  ปาจาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง   แววตาที่มองสบพระลักษมณ์ไม่ได้แสดงว่าโกหกเลยสักนิด 

พระลักษมณ์จำต้องคิดหนักถ้าเป็นอย่างที่บอก  นั่นคือชีวิตตนเหมือนเหยียบกรับระเบิด   ถ้าจะกู้ก็ต้องเสียประตูหลัง

ให้คนตรงหน้าแทน    ตอนนี้ไม่ขอเลือกทางใดทั้งสิ้น   ยังพอมีเวลาสี่วัน   น่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้   หรือไม่ก็ต้องรอ

จนวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ




ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2011 14:14:25 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -



                  “ถามจริงเถอะ ไอ้พิธีกรรมบ้าบอคอแตกนั่น  ทำไมผมต้องโดนเอาด้วย  อยากได้น้ำรักของเราทั้งคู่   

ต่างคนต่างโตกน้ำแตกก็มาเอาไปไม่ได้หรือไง?”  เอาหวะ!  มาถึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องหน้าบางกันอีกแล้ว  เปิดอกคุยดีที่สุด   


                   “ธรรมตรัยบอกคุณไปแล้ว  พิธีกรรมต้องเสพสังวาสคือการร่วมรักเท่านั้น  สถานที่ทำพิธีถูกเตรียมไว้

ก่อนผมเกิดด้วยซ้ำ  รอแค่คนที่จะร่วมพิธีด้วย   บอกคุณตามตรงผมไม่คิดว่าเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ช่างเถอะเดิมทีคุณออกตัว

เป็นผู้หญิงอยู่แล้วถึงจะเป็นทอมแต่ก็พอได้  คุณอยู่เฉยๆ ที่เหลือผมจัดการเอง”  ปาจาพูดเองเออเองเสร็จสรรพ 

พระลักษมณ์อ้าปากค้างตาโต  ก่อนจะลิ้นพันกันตะกุกตะกักพูดขึ้นว่า


                    “เฮ้ย!  ดะ..ดะ...เดี๋ยวก่อนไมเหมางี้เล่าฟะ!  ผมเป็นฝ่ายโดนนะเว้ย!   มันต้องคุ้นเคยกันก่อนดิ 

นี่เล่นจะล่อกันอย่างเดียว”  ไม่พูดยังดีกว่าเสียอีก   คิดได้ตอนนี้คงสายไปแล้ว   ปาจาก้าวทีเดียวถึงตัวพระลักษมณ์

ก่อนจะรวบร่างโปร่งเข้าแนบชิด   พระลักษมณ์ยังจิตหลุดอยู่  ไม่ทันถามจุดประสงค์ที่ปาจาทำ  ใบหน้าหล่อเข้มปานรูปสลัก

ก็ประกบจูบบดปากบางทันที  จังหวะพระลักษมณ์กึ่งอ้าปากจะถามอยู่ร่อมร่อกลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นชื้นรุกล้ำ

เข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างจาบจ้วง  ไม่ทันได้ตั้งตัวมือหนาก็กดท้ายทอยยึดไว้ไม่ให้ขืนหนี   ทุกอย่างเกิดขึ้นเสี้ยวนาที   

สำนึกได้ว่ากำลังถูกจูบก็ช้าไปแล้ว   


                    ด้วยความช่ำชองของปาจา  เล่นเอาพระลักษมณ์มึนไปกับรสจูบอย่างเมาๆงงๆ ประสบกามที่เคยมีนั้น 

ช่างเทียบไม่ได้เมื่อเจอจูบดูดวิญญาณเข้าให้  ทั้งเร่าร้อนอ่อนโยนเรียกร้องให้ตอบสนอง  จนเผลอดุนลิ้นโต้กลับไม่รู้ตัว 

เรียกเสียงครางทุ้มในคอปาจาอย่างพึ่งใจ


                    “อึมมม!!!”    พระลักษมณ์รู้สึกดีซะงั้นหลังเรียกเสียงครางปาจามาได้   เคลิ้มไปกับจูบดูดดื่ม

แม้จะต่างชั้นเชิงกัน   สุดท้ายเป็นพระลักษมณ์เข่าอ่อนซะเอง   ต้องอาศัยอกแกร่งของปาจาประคองเอาไว้   

สัมผัสท่อนเนื้ออุ่นแข็งดันบริเวณหน้าท้อง  เรียกสติที่กำลังเตลิดกลับมาทันที


                    มือสองข้างจับไหล่หนาเปลี่ยนเป็นทุบปึกๆ  ส่งสัญญาณหยุดจูบเพชรฆาตของปาจาก่อนจะกู่ไม่กลับ 

เมื่อร่างกายของตนก็ไม่รักดีเสือกตั้งสู้เขาอีก   คงเพราะร่างสูงใหญ่ตรงหน้าสวมชุดนอนผ้าบางทับด้วยเสื้อคลุม   ความโล่งโต่ง

ของเนื้อผ้าทำให้อาวุธร้ายพองตัวเต็มพิกัด   ดุนดันแถวหน้าท้องแบนราบของพระลักษมณ์จนรู้สึกได้

ถึงความแกร่งและอุ่นร้อนเจ้าตัวร้ายกาจนั่น


                   ปาจาค่อยถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง   ตาคมเข้มดำสนิทเหมือนนิลดังมีมนต์ขลังดึงดูดตากลมโต

ของพระลักษมณ์ให้จมดิ่งอย่างไม่รู้สาเหตุ  แววตาคมฉายรูปหน้าของพระลักษมณ์ซึ่งแดงไล่ไปถึงหู  ปากบางเจ่อ

ยังกะลูกเชอร์รี่  พระลักษมณ์หน้าร้อนผ่าว  เลือดวิ่งขึ้นหน้าทะลุองศาเดือดไปแล้ว


                  ปาจาจ้องหน้าหล่อใสของพระลักษมณ์อย่างเผลอไผล   ตากลมโตที่เบิกกว้างหวานฉ่ำ   

ปากเจ่อเพราะรสจูบหวานล้ำที่เพิ่งได้สัมผัส   ทำให้หัวใจน้ำแข็งที่ชาเย็นเต้นกระหน่ำเหมือนจะทะลุออกนอกอก   

ทั้งคู่ต่างสบตากันนิ่งงั้น  โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา    กลับเป็นปาจาที่ยอมคล้ายอ้อมกอดปล่อยร่างโปร่งเป็นอิสระ   

ก่อนหันหน้าหนีแล้วพูดเสียงทุ้มขึ้นว่า


                  “อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย   สิบนาทีผมจะมาทานข้าวด้วย”    ทิ้งท้ายก่อนคนพูด

จะเปิดประตูออกไป  ปล่อยพระลักษมณ์ยืนสับสนคนเดียว   ถ้อยคำที่ปาจาบอกก้องในหัวไปมา   พระลักษมณ์เดินทื่อ

เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนเด็กหัวอ่อนว่าง่ายไปซะงั้น


                 ปาจากลับเข้ามาอีกครั้งด้วยชุดลำลองสบายๆ  กางเกงสามส่วนขาวล้วนกระเป๋าข้าง  เสื้อโปโลสีขาว

สกรีนลายอย่างมีสไตล์   มาพร้อมธรรมตรัยซึ่งเข็นรถอาหารตามหลัง  ทั้งคู่เข้ามาขณะพระลักษมณ์ยังนั่งขัดสมาธิตาลอย

อยู่บนเตียง   อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย  สวมกางเกงเลสีน้ำตาลอ่อน  เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวบางช่างดูดีมาก

เมื่ออยู่บนร่างโปร่งหน้าหล่อของพระลักษมณ์


                 ธรรมตรัยเข็นรถอาหารตระเตรียมเสร็จเรียบร้อย  ก็กลับออกไปด้วยหน้านิ่งตามนิสัย

แถมปิดประตูให้อีกตะหาก   ปาจาเดินมาหยุดหน้าพระลักษมณ์สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง  ร่างหนาช่างสูงใหญ่สมส่วน 

ใบหน้าคมเข้มได้รูปมีเสน่ห์เหลือร้าย    ทั้งคู่มองสบตากันนิ่ง  เหตุการณ์จูบมรณะที่เพิ่งผ่านไปก่อนหน้า  ทำให้บรรยากาศ

ของทั้งสองดูแปลกไป   พระลักษมณ์จากที่เคยต่อปากต่อคำสรรหาคำพูดขบกัดแสบๆคันๆพลันเป็นใบ้ดื้อๆซะงั้น


                  “ทานข้าวกัน”  ปาจาพูดจบ  ถือโอกาสคว้าข้อมือพระลักษมณ์ดึงลุกตามไปที่โต๊ะหน้าทีวี   

ก่อนจะยกอาหารหลากเมนู  ทั้งปลากระพงนึ่งซีอิ้ว   ผัดเห็ดลิ้นจื่อ  แกงส้มชะอมกุ้ง  ไข่เจียวหมูสับ  ข้าวสวยร้อนๆ

มาวางตรงหน้าอย่างเอาใจ


                   พระลักษมณ์ได้แต่มองตามปาจาที่ลงมือเสร็จสรรพ   ปิดท้ายรินน้ำใส่แก้วให้อีกตะหาก   

แปลกประหลาดพิกลในสายตาพระลักษมณ์  ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคุ้มหมาดเข้มเก็กเป็นนิสัย   ดีแต่ออกคำสั่ง

จะลงมือบริการตนเอง   ถึงจะรู้ว่าคนผู้นี้จบด๊อกเตอร์จากอังกฤษ  ประสบการณ์ต่างแดนย่อมช่วยเหลือตัวเองเป็นอยู่แล้ว 

แต่ไม่คิดว่าจะบริการให้ตนด้วยนะสิ  อดไม่ได้พูดแหย่ทันทีหลังรู้สึกผ่อนคลายลงมาก


                   “ที่ลงทุนทำเนี่ยะ  คือโปรโมชั่นก่อนเปิดซิงผมหรือเปล่า?”  พูดจบ  ปาจาหลุดยิ้มออกมาจนได้   

เป็นรอยยิ้มที่พระลักษมณ์ไม่เคยเห็นมาก่อน   อบอุ่นสง่างามเหมือนดอกทานตะวันบานรับพระอาทิตย์ยามเที่ยง   สว่างจ้า

เปล่งออร่าจนแสบตา  สะกดพระลักษมณ์อึ้งค้างไปทันที


                  “ถ้าคุณชอบ   ผมยินดีเพิ่มโปรโมชั่นหลังการขายให้อีกยังได้”  พร้อมคำพูดติดขำของปาจา 

ทำเอาพระลักษมณ์หน้าแทบระเบิด ทั้งที่ตนเป็นฝ่ายหยอกก่อนกลับเขินซะเองให้ตายเหอะ  เพิ่งรู้ว่าอ่อนประสบการณ์

เมื่อเจอปาจานี่แหละ


                 “เอ่อ  ไม่ต้องก็ได้แค่รู้สึกแปลกๆ  ไม่นึกว่าอย่างคุณเคยมีแต่คนรองมือรองเท้าจะทำเป็น”  แถไปก่อน 

ยังไม่กล้าสบตาปาจาตรงๆ จะกล้าได้ไงเมื่อฝ่ายตรงข้ามทั้งยิ้มทั้งส่งสายตาเล่นเอาพระลักษมณ์ใจเต้นกระหน่ำ อยากจะบร้า...

ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้หวะ!


                “ลองทานปลากระพงนึ่งซีอิ้วดู  นมอ่อนลงครัวทำเองกับมือ  รับรองติดใจ”   พูดพร้อมกับตัก

เนื้อปลาขาวจั๊วใส่จานข้าวให้อีก  พระลักษมณ์ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่   นี่เจ้าคุ้มน้ำแข็งมันจีบตนอยู่ใช่ไหม?   

ลงทุนทำยังกะพระลักษมณ์เป็นสาวน้อยซะงั้น     ซีนที่ใช้อยู่นี่มันจีบหญิงนี่หว่า?  เอาให้ตาย..วางตัวไม่ถูกแหละ 

เอาหวะตักมาให้ลองหน่อยก็ดีได้ไม่ต้องเสียน้ำใจ   คิดแค่นั้นก่อนจะหยิบช้อนตักเนื้อปลาพอดีคำเข้าปาก 

เนื้อปลานุ่มหวานไม่คาวเลยสักนิดรสชาติอร่อยสมราคาคุย   ทำให้พระลักษมณ์ต้องเลิกคิ้วหันกลับไป

พยักหน้าหงึกๆให้ปาจา   ออกอาการเห็นด้วยอร่อยจริง   


                   ปาจากลับมองท่าทางตอบรับของพระลักษมณ์น่ารักซะงั้น   หน้าหล่อใสเนียนไม่มีสิวสักเม็ด 

แดงเรื่อเพราะเจ้าตัวยังเขินอยู่บ้าง  เลือดฝาดขึ้นริ้วส่งให้น่ามองน่าสัมผัสเข้าไปใหญ่   กลืนยังไม่ทันหมดมีหน้า

ยักหน้าทำตาโตมาให้อีก   ยังไม่ทันได้พูดตอบไป  พระลักษมณ์กลับตักแกงส้มชะอมกุ้งใส่จานข้าวคืนให้ด้วย


                   “อ๊ะ!...คุณทานด้วยสิ  มองผมกินคงอิ่มหรอก  ไม่ใช่สาวน้อยนิไม่ต้องเทคแคร์ก็ได้  เรื่องอื่น

ค่อยว่าทีหลังขอเติมพลังงานก่อน”  พูดจบเจ้าตัวก็กลับมาดี๊ด๊าหน้าตาเฉย  ลงมือตักกับใส่จานโซยข้าวอย่างมีความสุข   

บรรยากาศอิลักอิเหรื่อก่อนหน้าจางลงไปทันที  กลับเป็นบรรยากาศมื้อกลางวันที่เอร็ดอร่อยแทนซะงั้น 

อาหารมื้อนี้สำหรับปาจาถือว่าอร่อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ




ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2011 22:33:02 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  3  -




                 ตั้งแต่เริ่มต้นมื้อกลางวันนั้น  ปาจามาทานข้าวกับพระลักษมณ์ในห้องทุกมื้อ  สำหรับอาหารธรรมตรัย

เข็นมาส่งให้ถึงในห้อง  ก่อนมาเก็บออกไปทีหลัง   ห้องนี้ไม่มีใครย่างกรายเข้ามาเลยนอกจากปาจากับธรรมตรัย 

ไม่ต้องถามพระลักษมณ์ก็พอเข้าใจว่าเพราะอะไรคนอื่นถึงไม่เข้ามา   นอกจากจะมาทานข้าวเป็นเพื่อนแล้ว 

ปาจายังมาคลุกอยู่กับพระลักษมณ์ตลอดทุกวัน   ผ่านมาจนถึงคืนที่สี่   ขณะกำลังนั่งดูทีวีเพลินๆ 

ปาจาอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ  จู่ๆดันพูดขึ้นว่า


                 “คืนนี้ผมจะนอนที่นี่”   พระลักษมณ์อึ้งทันที  ก่อนจะหันมาจ้องหน้าปาจา  แล้วถามย้ำ


                 “ว่าไงนะ อีกทีดิ”  กลัวหูฝาด  ขอชัดๆให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิดอีกรอบเถอะ


                 “ผมบอกคืนนี้จะค้างด้วย   คืนพรุ่งนี้เป็นคืนจันทร์เพ็ญ  เราต้องเข้าพิธีล้างอาถรรพ์อยากให้คุ้นเคยกันไว้

เหมือนที่คุณเคยพูดไง”   พูดได้หน้านิ่งมาก  ยังกับการนอนด้วยกันเหมือนกินข้าวซะงั้น


                 “เดี๋ยวๆ  ผมยังไม่พร้อมขอทำใจก่อนได้ไหม?”   พระลักษมณ์หน้าตื่น ใช่จะนิ่งดูดายสมองเค้นทางออก

จนมึนตึ๊บยังมองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาเลยสักนิด  ห้องนี้เชื่อแน่ว่าไม่ได้อยู่บนดิน  ต้องเป็นห้องใต้ดินที่มีทางลับเฉพาะ   

ต่อให้หลุดออกประตูไปยังไม่แน่ว่าจะคลำทางออกเจอ  ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในคุ้มรู้ว่ามีห้องใต้ดิน  ตนยังหาทางลงไม่เจอด้วยซ้ำ 

แล้วจะหาทางออกถูกได้ยังไง ที่สำคัญมีกลไกอะไรบ้างก็ไม่รู้


                   ที่แย่ยิ่งกว่า คงเป็นตัวอันตรายตรงหน้าตะหาก  อยู่ด้วยตลอดเหมือนเงาติดกันแล้ว ฝีมือใช่ขี้ๆ

ผ่านง่ายซะที่ไหน   


                  “ผมไม่ได้บอกจะทำอะไรคุณสักหน่อย  นอนด้วยเฉยๆ” ปาจายังพูดหน้าตาย  กลับเป็นพระลักษมณ์

หน้าร้อนฉ่ากลายเป็นว่าตนคิดเกินเหตุ   เอาเถอะจะอายไปใย  เพื่อความปลอดภัยของร่างกายล้วงข้อมูลของปาจาบ้างดีกว่า


                 “คุณจา  ถามหน่อยเหอะเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า?”  คำถามป้อนไปแล้ว  โดยคนถาม

ตั้งหน้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ


                 “ไม่เคย  กำลังจะลองครั้งแรก”  ตอบได้หน้านิ่งมาก   ปั๊ด! เหนี่ยวซะนี่  พระลักษมณ์ถลึงตาใส่ 

บ่นอุบอิบคนเดียว


                 “รู้ป่าว?  ไม่ง่ายนะที่ฝ่ายรับเจอครั้งแรกกับคนไม่มีความรู้มาก่อน   บาดเจ็บพิการมาคุ้มผมไม่” 

อุธรณ์ด้วยท่าทางจริงจังมากมาย   แต่ปาจาทนกลั้นขำหน้านิ่ง  ตาไหวระริกตลกท่าทางพระลักษมณ์ที่แสดงออกหนักหนา


                “ถ้าคุณพิการ  ผมรับเลี้ยงตลอดชีวิต โอเคไหม?” พระลักษมณ์ขบปากแน่น   นึกโมโหคนบ้าหน้าตาย

จนอยากจะขบหัวแหละ  ใครอยากให้รับเลี้ยงเล่าหวะ!  คุ้มตายหละที่ต้องเอาชีวิตทั้งชีวิตมาทิ้งเพราะโดนสอยตูดเนี่ยะนะ


                 “คุณจริงจังหน่อยสิหวะ  นั่นมันสวัสดิภาพร่างกายผมเลยนะนั่น   คุณจะทำเป็นเล่นไม่ได้  ผมก็รักก็หวง

ของผมเหมือนกัน ทำงี้เอาปืนมายิงกันเลยดีกว่า” ท่าทางกร่างใส่ของพระลักษมณ์ไม่ได้ดูน่ากลัวในสายตาปาจาเลยสักนิด 

ตรงข้ามคนมองยิ่งปวดท้องกลั้นขำไปกันใหญ่ 


                   สำหรับปาจาถือว่าพระลักษมณ์เป็นคนแรกที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข  การกระทำที่แสดงออก

เรียกรอยยิ้มได้ตลอด   ถึงบ้างครั้งจะกวนประสาทบ้างแต่ก็ตลกเสียมากกว่า  เพิ่งเจอพระลักษมณ์คนแรกนี่แหละ

ที่ทำให้หัวใจตายด้านของตนกระตุกถี่หยิบกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง


                  “ผมคงไม่เอาปืนมายิงคุณหรอก  ในเมื่อผมตั้งใจยิงประตูคุณอยู่แล้ว  เอาปืนมาทำไมจริงไหม?” 

เป็นครั้งแรกเช่นกัน  ที่ปาจาต่อปากต่อคำสองแง่สองง่ามเช่นนี้  และก็ทำให้ต้องหลุดหัวเราะออกมาจนได้  ทั้งที่เก็กหน้าตาย

กลั้นขำมาตั้งนาน   ก็หน้าพระลักษมณ์หลังปาจาพูดจบ  ตลกจนกลั้นไว้ไม่อยู่ ตากลมโตเบิกกว้างยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก 

แถมทำปากพะงาบๆ เหมือนคนโดนผีหลอกซะงั้น  ไม่ใช่พระลักษมณ์ทำไม่ได้นะนั่น


                  “พรืดดดๆๆ...หึหึหึ!..ทำไมดีใจขนาดนั่นเชียว”  ยิ่งเห็นยิ่งนึกสนุก  อดไม่ได้ต้องแหย่เข้าไปอีก 

ซึ่งไม่ใช่นิสัยปาจาเลยที่จะพูดเล่นแบบนี้  แต่ไม่รู้ทำไมกับพระลักษมณ์แล้วปาจากลับรู้สึกสนุกไม่น้อย


                  “คุณจา  รู้ตัวไหมคุณท่าจะอาการหนัก  ถ้ามองหน้าผมตอนนี้แล้วเข้าใจว่าผมดีใจแล้วละก็   ขอแนะนำ

ให้ไปพบจิตแพทย์โดยด่วน  ผมว่าพวกคุณจิตคงไม่ปกติ  ทั้งเลขาทั้งเจ้านาย  มาโซกันชัดๆ  ชอบความรุนแรง  บ้าอำนาจ

ซาดิสย์ด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้  เท่าที่เห็นก็เกินทนแล้วเหอะ”  พระลักษมณ์บ่นเป็นชุด  ใส่อารมณ์เต็มที่  ปาจาจ้องเพลิน

กับปากบางแดงที่จ้อไปเรื่อย  คนตรงหน้าใช่เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษหรือแทบไม่อยากเชื่อ  ถ้าไม่รู้ฝีมือที่ปะทะด้วยแล้วละก็   

ปาจานึกว่าคุยอยู่กับเด็กมหาลัย   


                 “เอาเหอะคุณคิดไงก็ช่าง  คืนนี้ผมจะค้างที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลง  ส่วนเรื่องที่ทำให้คุณกังวลไม่ต้องห่วง 

ผมศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทจนแตกฉาน  เหลือภาคปฏิบัติอย่างเดียวคงไม่เลวร้ายเกินทนหรอก”  ปาจาพูดอมยิ้ม   

แต่พระลักษมณ์กับหนาวเยือกทุกรูขุมขน   


                 “คุณก็พูดได้ดิ  เป็นฝ่ายทำนี่หว่า?  ลองเปลี่ยนกันดูไหมเล่าเอาไหม?  คืนนี้ให้ผมล่อคุณก่อน

พรุ่งนี้คุณค่อยล่อผมคืนต้อนเข้าพิธีกรรมตกลงไหม?”  พระลักษมณ์ต่อรองทันที   ไอเดียนี้เพิ่งผุดขึ้นหมาดๆ 

คิดว่ากระแทกซะให้ปาจาหมดแรงเดินก็คงไม่มีปัญญามาทำอะไรตนได้อีก   หาทางยืดเวลาให้พ้นคืนจันทร์เพ็ญไปก่อน   

อีกเกือบสามอาทิตย์กว่าจะวนมาอีกรอบ   ขอเวลาหายใจยาวขึ้นก็ยังดี   แต่ฝันนั่นก็สลายเมื่อปาจาตอบกลับมาว่า


                “ไม่ต้องหรอก  ผมไม่จำเป็นต้องทำอะไรงี่เง่าแบบนั้น ในเมื่อฟ้ากำหนดให้ผมเป็นผัวคุณแล้ว

ย่อมเป็นไปตามนั้น  จะฝืนลิขิตฟ้าทำไมกัน”   พระลักษมณ์กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว  โมโหจนหน้าเขียว   นึกยังไง

บังอาจมาใช้คำว่าผัวหน้าตาย   แล้วอ้างฟ้าอ้างชะตาลิขิตบ้าบออีก    บัดซบ! จริงๆ  ให้ตายเหอะ


                “ผมไม่มีวันเป็นเมียคุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้แปลว่าผมยินยอม เป็นเพราะคุณบีบผมตะหากให้รู้ไว้ด้วย” 

พูดจบพระลักษมณ์กดรีโมทปิดทีวี  ขึ้นเตียงหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงหันหลังให้ดื้อๆ ซะงั้น

               หากพระลักษมณ์สบตาปาจาสักนิด   หลังจบประโยคสุดท้ายที่พูดออกไป  คงทันได้เห็นแววตาไหววูบ

ที่แสดงออกชัดเจน  แต่เมื่อเจ้าตัวหันหลังหนีแบบนั้นจะรับรู้อะไร   ตรงข้ามอีกคนที่อึ้งเป็นเป่าสากจิตหลุดไปแล้วมั้ง


               ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ  นานจนพระลักษมณ์ที่คิดมากวุ่นวายในหัวตีกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง

จนผล่อยหลับตอนไหนไม่รู้  กลับสะลืมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นเมื่อสัมผัสอุ่นให้ซุกซบประหนึ่งเกราะกำบังคอยปกป้อง

ภยันตรายต่างๆ  ทำให้คนรั้นหลับลงอย่างอบอุ่นใจ   มีหลุดถอนหายใจเหมือนจะตื่นแต่กลับไม่ลืมตา  ก่อนจะเบียดตัว

ซุกอกแกร่งผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างมีความสุขตลอดคืน


              ในขณะที่อีกคนซึ่งคอยประคองกอดกลับลืมตาคมเข้มค้างในความมืด  ใจเต้นกระเด็นกระดอนรัวไม่เป็นส่ำ   

ที่กล้าเสี่ยงดึงคนหลับเข้ามากอด   กะว่าไม่โดนออกหมัดออกเข่าอย่างน้อยก็คงโวยวายลั่นห้อง  ถึงได้เตรียมรับมือไว้ดิบดี 

ตรงข้ามแค่ครางอืออ่าก่อนจะเบียดเข้าหาอกแกร่งซะเองงั้น  ทิ้งท้ายถอนใจยาวเหมือนโล่งสบายหลับสนิทไปเฉยเลย


             กว่าจะควบคุมจังหวะเต้นของหัวใจลงได้ล่อไปค่อนคืน  หลังสูดดมความหอมผมนุ่มบนหัวทุยที่ติดกลิ่นแชมพู

ซึ่งซุกซบอยู่แนบชิด   ปาจาเผลอยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆ  ปิดเปลือกตาหลับตามร่างโปร่งไปในที่สุด


             เงามืดบนเตียงกว้าง  ฉายภาพหนุ่มร่างหนาใหญ่ตระกองกอดหนุ่มร่างโปร่งซุกอกหลับไปด้วยกัน 

ภาพนี้ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก   หากชะตาฟ้าเบื้องบนกำหนดให้มนุษย์เพศผู้ทั้งสองต้องมาคู่กันแล้ว  ถือว่าเป็นคู่ที่ทั้งสามภพ

ต่างอิจฉาไม่น้อย  ดูเหมาะสมเสียจนเทวดาปีศาจยังต้องพลอยยินดีให้ด้วยความเต็มใจ




ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2011 15:43:00 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  4  -



                  ผ่านไปเร็วเหมือนโกหก  ในที่สุดก็ถึงเวลาล้างอาถรรพ์เสียแล้ว  หลังตื่นมาตอนเช้า

พระลักษมณ์แน่ใจว่าตนนอนร่วมกับใครอีกคน  แต่พอลืมตากลับไม่มีเงาคนๆนั้นเลยแม้แต่น้อย


                  อะไรก็ไม่หงุดหงิดเท่าสี่วันที่ผ่านมา  ทุกมื้อต้องเสนอหน้านั่งทานข้าวเป็นเพื่อน   หรือไม่ก็อยู่ใกล้ๆ 

ไม่อ่านหนังสือก็ดูทีวี  พูดคุยด้วยบ้างไม่มากก็น้อย  แต่ไหงวันนี้ไม่เห็นหัว  อาหารที่ว่าอร่อยนักหนากลับจืดชืด

ไร้รสชาติขึ้นมาทันทีเมื่อต้องทานคนเดียว   ข้าวแทบจะไม่พร่องจนธรรมตรัยยังสังเกตุเห็น  พระลักษมณ์แทบไม่แตะ

อาหารเลยด้วยซ้ำ  แต่ธรรมตรัยก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร


                  หลังมื้อค่ำไม่เกินชั่วโมงธรรมตรัยกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง  พร้อมกับเสื้อคลุมผ้าฝ้ายคล้ายยูกาตะญี่ปุ่น

สีขาวล้วนไม่มีลวดลาย   ก่อนเอ่ยปากบอกพระลักษมณ์อาบน้ำชำระร่างกายอีกรอบ  แล้วให้สวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียว

กางเกงในยังห้ามใส่อีกตะหาก   ให้เวลาสิบนาทีจะมาพาไปห้องทำพิธีกรรม


                   ใจที่หดหู่ไม่มีชีวิตชีวากลับตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล  คงเพราะจะได้ออกจากห้องซึ่งอยู่มาห้าวัน

ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน   หรือเพราะจะโดนเปิดซิงกันแน่   ในหัวพระลักษมณ์สับสนเกินหาคำตอบให้ตนเอง  อาจเพราะรู้

จะได้เจอใครบางคนที่หายหัวไม่เห็นเงามาทั้งวัน   เลยตื่นเต้นก็เป็นได้   


                    ใจไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่คืบคลานเข้ามาช้าๆ  พระลักษมณ์จึงไม่ต้องการค้นหาคำตอบ   

แต่กลับทำตามธรรมตรัยบอกทุกอย่าง   อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ   ไม่ลืมถ่ายหนักล้างไส้ซะดิบดี  แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

แต่ทฤษฎีพระลักษมณ์รู้ดีเลยว่า  ต้องเตรียมความพร้อมยังไงบ้าง   
 

                    ที่ทำไปไม่ใช่ต้องการให้เค้าทะลวงตูด  หากไม่มีทางเลือกต้องโดนเปิดซิงแล้วละก็   

ไม่อยากอายตัวเองเพราะดันขี้แตกระหว่างพิธี  คงดูทุเรศสุดๆ  จำเป็นจริงๆยอมเสียศักดิ์ศรีไปก็ได้มันกินไม่ได้สักหน่อย   

ไม่มีทางเลือกก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน   แต่ต่อให้เสียเกียรติแต่จะไม่ยอมเสียหน้าให้เขาว่าไอ้ขี้แตกเพราะโดนตุ๋ยตูดเป็นอันขาด

ข่าวนี้แพร่ไปเมื่อไหร่ได้ตายทั้งเป็นเลยทีนี้  สำคัญที่สุดจะไม่ยอมให้ปาจาหัวเราะเยาะใส่เด็ดขาด   เรื่องนี้พระลักษมณ์ยอม

ให้เกิดขึ้นไม่ได้   วิธีคิดข้อแก้ต่างให้กับการกระทำของตนเอง  อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจขึ้นมาก


                   ธรรมตรัยกลับมาตามเวลาเป๊ะ   พระลักษมณ์พร้อมอยู่แล้วในชุดคลุมยูกาตะสีขาวขับผิวสว่างจ้า

ยิ่งขึ้นไปอีก  หน้าหล่อใสเหมือนมีออร่ากระจายอยู่รอบกาย   ธรรมตรัยตะลึงไปชั่ววูบเมื่อเห็นพระลักษมณ์เข้าทีแรก   


                   ไม่คิดว่าถึงเวลายังกะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่วมรับรู้  ถึงเปล่งรัศมีฉายแสงในตัวพระลักษมณ์ตามตำราเขียนไว้

ไม่ผิด  รัศมีตอง 7 พลังแห่งองค์นารายณ์  ชื่อพระลักษมณ์มาจากตำนานรามเกียรติ์   ไม่แปลกใจทำไมพระลักษมณ์ถึงถูกส่ง

ให้มาล้างอาถรรพ์มนต์มาร  ภัยพิบัติมหันต์เมื่อผนึกมนต์ต้องห้ามถูกนำมาใช้โดยพรานธรรมรัตน์ปู่ทวดของตนในอดีต 

เจ้าของหัวใจมารต้นแบบที่ตนได้รักษาไว้อย่างดี


                      กฎแห่งเทพและกฎแห่งมาร  มนต์ตราอาถรรพ์ถึงเวลาชะล้างแล้วสินะ ฟ้าถึงได้ส่งบุคคลตรงหน้า

มาคู่ปาจาในวันนี้  เห็นกับตาต้องยอมรับว่าไม่ผิดตัวแล้วแน่นอนตามตำราบอกทุกอย่าง   นรลักษณ์รัศมีเปล่งประกายจ้าขนาดนี้

สัมผัสได้ทั้งตาเนื้อและจิตนิ่ง   ธรรมตรัยบอกกับตัวเองในใจ   พาลหัวใจพองโตคับอก  แม้จะเคยรู้สึกไม่ชอบ

หน้าพระลักษมณ์มาก่อน   


                      ณ  วันนี้กลับต้องขอบคุณจากใจจริง  พระลักษมณ์คือผู้ที่สามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารให้กายันต์ 

นั่นหมายถึงความรักของตนกับกายันต์ก็สมหวังเหมือนกัน  ไม่ต้องกลัวตกเป็นทายาทมนต์มารอีกต่อไป  ก่อนพาพระลักษมณ์

ไปยังห้องพิธีกรรม  ธรรมตรัยจึงพูดขึ้นว่า


                      “ในฐานะตัวแทนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย และวิญญาณมากมายที่ล้มตายจากมนต์อสูรในขุมนรกอเวจี   

ผมขอบคุณแทนทุกคนที่คุณเสียสละปลดปล่อยวิญญาณเหล่านั้น กุศลที่คุณทำไปในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าผลบุญใดๆเสียอีก 

บารมีทานจะส่งผลให้คุณประสพสิ่งเสมอใจตลอดกาลนาน”  ธรรมตรัยพูดจากความรู้สึกแก่นแท้  แววตาเหยี่ยวที่เย็นชา

อ่อนโยนจนน่าทึ่ง  ที่สำคัญใบหน้าสวยฉายเสน่ห์จนพระลักษมณ์ตะลึงไปเหมือนกัน    ก่อนหลุดปากถามออกไปว่า


                      “เกี่ยวอะไรกับปลดปล่อยวิญญาณด้วย    ผมไม่เข้าใจ”    


                      “คุณคงไม่รู้สินะ   ทุกชีวิตที่มารในอดีตและปัจจุบันได้เข่นฆ่าไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เลย 

วิญญาณตกเป็นทาสบริวารเพื่อเสริมพลังให้จิตมารรุ่นต่อไปไม่จบไม่สิ้น  จนกว่าจะล้างอาถรรพ์ทำลายมารร้ายให้สิ้นซาก 

เมื่อนั้นดวงวิญญาณจึงจะได้รับอิสระสามารถไปผุดไปเกิดเวียนว่ายตามวัฎสงสารต่อไป  ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก”   

                        ธรรมตรัยอธิบายจบ   พระลักษมณ์รู้สึกขนลุกวูบโดยไม่ทราบสาเหตุ   จากนั้นเลขาเย็นชา

ก็ก้าวนำออกประตูเดินตามทางลาดที่ลดหลั่นระดับเป็นทางยาว  วกวนคดเคี้ยวชวนงงดีแท้   พระลักษมณ์อดคิดในใจไม่ได้ 

ดีที่ไม่ตีหัวปาจาสลบแล้วหนีออกมาเอง  ขืนออกมางมโข่งกับเส้นทางแบบนี้ได้หลงทางตายกันไปข้าง 


                          ธรรมรัตน์พาพระลักษมณ์เดินไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ  ตามขั้นบันไดซึ่งเดินได้ทีละคน   

พระลักษมณ์ทึ่งปนอึ้งกับสถาปัตย์กรรมซุกซ่อนนี้  อยากยกนิ้วโป้งให้กับคนออกแบบชะมัด  สามารถซ่อนทางลับภายใต้

เรือนไทยหลังใหญ่โดยที่คนภายนอกไม่รู้เลยว่ามีสิ่งนี้อยู่แม้แต่น้อย


                          เดินจนหอบ   ธรรมตรัยก็พามาหยุดหน้าประตูไม้สักบานใหญ่  ก่อนจะผลักเปิดเข้าไปเงียบๆ   

พระลักษมณ์รู้สึกทึ่งมากหากสถานที่นี้คือห้องประกอบพิธีที่ว่าละก็  คงถูกเตรียมไว้ล่วงหน้ามานานแล้วจริงๆ   เพราะมันอยู่

สูงสุดของบ้านเลยก็ว่าได้  น่าจะเป็นจั่วหลังคาทรงไทยอันใดอันหนึ่ง  ที่น่าแปลกคือหลังคากลับเปิดโล่งมองเห็นพระจันทร์

ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกระหม่อมเลยเชียว แสงนวลตากลมโตเหมือนกับมือจะเอื้อมได้ถึง

ช่างสวยเสียจริง  ‘พระจันทร์วันเพ็ญ’   


                    สายตามาสะดุดกลางห้อง ซึ่งมีอ่างจากุซซี่สีขาวฝังอยู่กว้างพอกับสระขนาดย่อมเลยก็ว่าได้   

น้ำในอ่างโรยกลีบดอกไม้หลายชนิดส่งกลิ่นหอมประหนึ่งสระอโนดาตในนิทานพื้นบ้านซะงั้น


                    ห้องนี้ไม่มีไฟฟ้าสักดวงด้วยซ้ำ  ใช้เทียนหอมจุดรอบอ่างแทนก็สามารถมองเห็นทุกอย่างชัดเจน 

ก่อนจะทันเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ปานรูปสลักสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกับพระลักษมณ์ต่างที่เป็นสีดำสนิทยืนหันหลัง

แหงนมองจันทร์เพ็ญนิ่งๆ  ทำไมก่อนหน้าถึงมองไม่เห็น  เหมือนเจ้าของร่างยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา  แต่ตนเชื่อว่า

มองไม่เห็นจริงๆ  แปลกดีพิลึก   


                      ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา  รอเจ้าภาพคนเดียว  ใช้เวลาชั่วอึดใจปาจาค่อยหันหน้ามาช้าๆ   

พระลักษมณ์ตะลึงค้างใบหน้าได้รูปหล่ออย่างร้ายกาจ  หล่อจนเรียกได้ว่าใจสั่นเลยทีเดียว   เหมือนมีพลังดึงดูด

ไม่สามารถละสายตาเบือนหนีได้   เดิมก็ยอมรับว่าปาจาหล่ออยู่แล้ว  ตอนนี้ยิ่งสง่างามเกินบรรยาย   


                    ใบหน้าคมเข้มปานรูปสลัก  จมูกโด่งเป็นสัน  ตาคมวาวที่จ้องตอบพระลักษมณ์นิ่งสงบ  ปากหนาสีสด

พระลักษมณ์รู้จักดียิ่งกว่าใคร  หน้าอกที่โผล่พ้นคอเสื้อเห็นไรขนขึ้นแพร รูปร่างสูงใหญ่ข่มพระลักษมณ์ให้เหลือตัวกระจ้อยร่อย

ดวงตาคมตรึงพระลักษมณ์จนไม่สามารถเบือนหน้าหลบ  ก่อนซาตานรูปงามจะยกมือให้สัญญาณธรรมตรัยออกจากห้อง

อย่างเงียบกริบ  แถมปิดประตูล๊อคเรียบร้อย   


                      บัดนี้ในห้องซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น  เหลือเพียงพระลักษมณ์กับปาจาลำพังสองคน   ก่อนที่ฝ่ายหลัง

จะก้าวอย่างมั่นคงมาหยุดยืนตรงหน้าพระลักษมณ์   มือหนาคว้าจับมือเรียวของพระลักษมณ์  จูงตรงไปยังอ่างกลางห้อง

โดยยังไม่พูดไม่จา   พระลักษมณ์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  เดินตามเค้ามาซะดิบดีไม่มีขัดขืน  เหมือนมีพลังบางอย่าง

ผลักดันให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย   ไม่มีความรู้สึกอยากดิ้นรนขืนมือหนีแม้แต่น้อย   ทั้งที่สติรับรู้ครบถ้วนดีทุกอย่าง   

แต่ใจกลับนิ่งสงบจนไม่อยากเชื่อ..ถ้าหากนี่คือความเร้นลับแห่งไสยศาสตร์ ถือว่าพระลักษมณ์ได้สัมผัสด้วยตนเองแล้วเช่นกัน   

ประสบการณ์สำหรับชายหนุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี  ถือเป็นครั้งแรกที่ควรค่าแห่งการเรียนรู้และจดจำ   โดยที่เจ้าตัว

ไม่รู้เลยว่าต้องใช้หัวใจทั้งดวงพลีให้กับเหตุการณ์นี้อย่างไม่มีวันไถ่ถอนคืนได้อีกแล้ว.....????????????






NC   จะมาต่อให้  ถ้าคนอ่านบวกเป็ดให้เรื่องนี้ทะลุเป้าบ้างไรบ้าง

ทำไมคนเขียนถึงร้องขอ   อยากบอกว่าเรื่องนี้เขียนยากมากกกกกกก

เป็นอะไรที่สูญเสียพลังสมองยิ่งนัก   เขียนได้แต่ละบรรทัดแก้แล้วแก้อีก

เครียดแล้วเครียดอีก   :m15: :sad11: ไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น   ขึ้นอยู่กับคนอ่านแล้วเหอะ

ที่จะเติมพลังชาร์ตแบ็ทให้คนเขียน   สารภาพว่าเป็นเรื่องที่ดูดพลังสมองไปเยอะโคด

งั้นคงไม่มากไม่มาย  ที่ร้องขอท่านนักอ่านที่น่ารักทั้งหลาย  กดเป็ดให้หน่อย  ใช่ท่านจะลำบากสักกะหน่อย 

แค่คลิ๊กเม้าท์กดให้คนเขียนสิ้นเปลืองพลังงานแค่นิ้วกด    ท่านอ่านแป๊ปเดี๋ยวก็ได้รับความสำราญ 

แต่ข้าพเจ้าใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะคลอดออกมาได้แต่ละตอน   สัญญาว่าข้าพเจ้าคนเขียน  จะมาต่อให้อย่างเร็วรี่

งานประจำก็ทำแต่ใจก็คิดถึงพวกท่านเสมอจนกังวลลงตับ   กลัวจะรอนานกันเกินไป   เพราะมีพวกท่าน 

ข้าพเจ้าจึงทั้งเค้นทั้งรีดให้คลอดออกมาจนได้

กราบวิงวอนพวกท่านบ้าง :call: :call:   เติมพลังให้ข้าน้อยด้วยประการละฉะนี้แล   

Luk. :กอด1:

ปล. ถ้าเป็ดเปลี่ยนเป็นเงินได้  คงลำบากใจพวกท่านที่จะต้องให้

แต่เพราะเป็ดเป็นรางวัลที่ทำให้ข้าพเจ้ามีพาวเวอร์   นั่นหละคือเหตุและผลของมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2011 00:24:18 โดย luxilove »

lovevva

  • บุคคลทั่วไป
 o13สมกับที่รอคอยจริงๆค่ะ ได้อ่านจนจุใจเพราะตอนนี้ยาวมาก

รอต่อไปนะคะ  :กอด1:

ปล. บวกเป็ดให้แล้วนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ยาวได้ใจ  o13 อ่านกันเต็มอิ่ม  และบวกเป็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ให้เรียบร้อย
 :pig4:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
+ เป็ดจัดไปทุกรีเจ้าค่ะ

รู้สึกว่าคุณพี่ว่าที่สามีจะใช้เวลา 4 วันที่อยู่ด้วยกันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ มั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะคะคุณพี่ว่าอย่างไรพระลักษณม์ก็ต้องเสร็จท่านอยู่ดี  :laugh:

ถึงคนเขียน ตอนนี้อิชั้นกำลังจิ้นฉากพิธีกรรมตามบทเอี๊ยก้วยเซียวเหล่งนึ่งอยู่นะเจ้าคะ ถ้าหากไม่ตรงกับที่ท่านจะบรรยาย โปรดมาต่อด่วนเจ้าค่ะ ก่อนที่ฉากจิ้นของอิชั้นจะลามไปมากกว่านี้   :laugh: 

natty _lovelove

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ  :L2:
.
.
.
ไม่รู้ว่าการกด+เป็ด กับกด+ 1 ต้องมีข้อบังคับอะไรหรือเปล่าคะ

a_om

  • บุคคลทั่วไป
ตื่นเต้นนนนนน
ครั้งหน้าแล้วสินะ :impress2:

ออฟไลน์ Kra-Jieb

  • ชีวิตที่เลือกเอง !!!!!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
งืออออออออออ....เค้าก็อยากกดเป็ดให้.....แต่ไม่สามารถ  ตอนนี้ขอเป็น :กอด1:ให้ก่อนนะะ

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกตอนนี้บรรยากาศจะอุ่นเป็นพิเศษ
แต่คาดว่าตอนหน้าจากอุ่นๆคงกลายเป็นร้อนเลยล่ะ  :oo1:

กดเป็ดเรียบร้อยแล้วนั่งรอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ  :z1:

nanahashi

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านตั้งแต่แรก เนื้อเรื่องชวนติดตามมากค่ะ แบบว่าออกแนวระทึกขวัญแล้วก็ฮาตอนนายเอกนี่แหละ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
รอตอนต่อไปน่ะ

+ เป็ด + 1 ให้ด้วย

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
กรี๊ดๆ ตื่นเต้นๆ +กับเป็ดไปแล้ว ติดสินบนรอตอนต่อไป วิ้วๆๆๆ :haun4:

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
กดเป็ด +1 ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด