เรื่องสั้น สั้นมากในมือถือ
ที่เป็นเรื่องสั้นในมือถือเพราะเราพิมพ์ในมือถืออัพในมือถือคะ
ว่าแล้วไปอ่านกันเถอะ
*******************************
ขนมจีบ
"ขนมจีบ" ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หล่อคม คิ้วเข้ม ตาดุ ใบหน้านิ่งเรียบ กำลังถือถุงที่หยิบออกมาจากกระจกรถกระทิงดุ แล้วพยายามสอดส่ายตาหาที่มาของถุงพลาสติกที่ด้านในบรรจุขนมจีบไว้ ที่มีใครก็ไม่รู้มาแขวนไว้ที่กระจกรถของตนเอง
ฟุบ!!
เสียงของบางอย่างร่วงหล่นสู่ถังสีดำที่ข้างในบรรจุขยะไว้มากมาย ก่อนที่เจ้าของร่างสูงใหญ่จะเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปโดยไม่สนใจของที่เขาเพิ่งจะทิ้งลงไปเลยแม้แต่น้อย ไม่สนที่จะอยากรู้ที่มาว่าเจ้าขนมจีบถุงนั้นมีที่มาอย่างไร และไม่สนว่าใครเป็นเจ้าของขนมจีบถุงนั้นด้วย
วันต่อมา
“ขนมจีบอีกแล้ว” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนเดิมยืนขมวดคิ้วเมื่อพบว่ามีขนมจีบมาแขวนไว้ที่รถของเขาอีกแล้ว
“ใครวะ” ชายหนุ่มบ่นออกมาแต่ก็ยังไม่สนใจเช่นเดิม
ฟุบ!!!
อีกครั้งที่เจ้าขนมจีบต้องเขาไปอยู่ในถังสีดำ
สามวันต่อมา
“อีกแล้วหรอวะ ใครวะเนี่ย” ชายหนุ่มบ่นออกมาเมื่อพบเจ้าขนมจีบเจ้าปัญหาที่มันโผล่มาแขวนอยู่บนกระจกรถของเขาเป็นประจำในวันที่เขามีเรียน ตอนแรกก็ไม่สนใจแต่ตอนนี้คือชักอยากรู้ละว่าใครวะขยันเอามาแขวนจัง
“อะไรของมึงวะไอ้เปา” เสียงของเพื่อนสนิทนามว่าฟินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเอาอะไรบางอย่างไปทิ้ง
“มาแม่งทุกวัน” เปาบ่นออกมา
“ขนมจีบ” ฟินถามอย่างสงสัย
“เออ” เปาตอบด้วยเสียงเนือยๆ
“ไหนดูดิ” เพื่อนฟินแย่งถุงที่เปากำลังจะเอาไปทิ้งออกมาดูก่อนที่จะ
“เหี้ยน่ากินวะ ไมไม่เก็บไว้กินวะ”
“เกิดวางยาขึ้นมากูไม่ตายห่าหรอ”
“สัสเอาซะกูไม่กล้ากิน” เพื่อนฟินยื่นถุงคืนทันที
“แล้วมึงรู้มัํยว่าใคร”
“ไม่รู้เอามาแขวนไว้”
“แฟนคลับมึงเปล่าวะ”
“หน้าอย่างกูเนี่ยนะมีแฟนคลับ” เปาเอ่ยออกมาอย่างเซ็งๆกับความคิดของเพื่อน
ทำให้เพื่อนฟินนิ่งเบ้ปากมองบนแล้วอยากจะตะโกนใส่หน้าไอ้เปาทันทีถ้าไม่กลัวว่ามันจะกระทืบ เพื่อนของฟินคนนี้บอกเลยว่าเป็นผู้ชายที่เกิดมาเพื่อฆ่าผู้ชายด้วยกัน มันแม่งโคตรหล่อโคตรเท่ห์ตัวสูงใหญ่ล่อไป190 กล้ามเนื้อนี่ได้รูปเพราะชอบเล่นกีฬาและออกกำลังกาย ใบหน้าคมคิ้วเข้มดวงตาคมดุ สีผิวขาวแต่ไม่ขาวมากเพราะชอบเล่นกีฬา เรียกได้ว่าองค์ประกอบบนใบหน้าและร่างกายมันนี่สุดแสนจะเพอเฟกต์ แถมบ้านรวยอีกต่างหาก ดีกรีเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี3 และเดือนมหาวิทยาลัยนะจ๊ะ ที่จริงมันไม่อยากประกวดหรอกแต่เจอลูกอ้อนปานขอร้องของรุ่นพี่มันเลยยอม นี่ถ้าไม่ติดว่ามันโคตรโหดมันคงมีแฟนคลับโผล่มาหาเอานู่นนี้นั่นมาให้แล้วแต่นี่แฟนคลับมันต้องอยู่ในมุมลึกลับไม่ค่อยแสดงตัวออกมาเพราะรู้ว่าไอ้ห่าเปาแม่งขี้รำคาญโผล่มาเดี๋ยวโดนไล่ตะเพิด ถ้ามันมีมนุษยสัมพันธุ์ที่ดีหน่อยแม่งแฟนคลับคงวิ่งตามให้ขวักแน่แต่มันเสือกทำหน้านิ่งโหดๆเหมือนองค์พี่ว๊ากเข้าสิงมันตลอดเวลา จริงๆมันก็เป็นพี่ว๊ากด้วยเป็นเฮดว๊ากเลย แค่มันทำหน้านิ่งๆจ้องด้วยสายตาดุๆของมันพูดด้วยน้ำเสียงปกติของมันแต่ไม่ปกติของคนฟังด้วยน้ำเสียงเรียบๆนิ่งๆแต่เฉียบคมก็ทำให้น้องๆกลัวกันหัวหดไม่เว้นแม้แต่เพื่อนๆและคนอื่นๆหรือรุ่นพี่บางคน คนก็เลยไม่กล้าที่จะเข้าใกล้มันไม่อยากที่จะมีปัญหากับมัน แต่แปลกผู้หญิงอยากจะถวายตัวให้มันทั้งนั้นเห็นแล้วฟินหมั่นใส่ไอ้หล่อนี่สุดๆ
แล้วก็คนที่เอาขนมจีบมาแขวนที่กระจกรถกระทิงดุสุดหวงของมันอีกแม่งโคตรกล้า
ฟุบ!!
เสียงของหล่นลงสู่ถังขยะ
“เหี้ยทิ้งเลยหรอวะ” ฟินเอ่ยถามทันทีที่เปาทิ้งถุงขนมจีบลงถังขยะ
“กูก็ทิ้งตลอด”
3อาทิตย์ต่อมา
“มึงนี่ก็ขยันมาจัง” เปาบ่นออกมาเมื่อเดินมาที่รถหลังจากที่เรียนเสร็จแล้วเจอถุงขนมจีบแขวนไว้ที่รถเหมือนเดิม
“ขนาดกูเปลี่ยนรถแล้วมึงยังมาแขวนถูกอีก” เปาบ่นออกมาเพราะมันคือเรื่องจริงที่เปาเปลี่ยนรถจากกระทิงดุเป็นม้าคึกแต่เจ้าขนมจีบก็ยังมาแขวนถูกคันอีก
โฮ่ง!!
ในขณะที่เปากำลังเดินเอาถุงขนมจีบไปทิ้งถังขยะเหมือนเดิมดังเช่นทุกวันเปาก็ได้ยินเสียงของหมาเห่าหันไปทางซ้านก็พบว่ามีแม่หมาลูกอ่อนกำลังให้นมลูกอยู่ใต้ต้นไม้ หมารูปร่างผอมมากจนเห็นกระดูก เปาเห็นดังนั้นก็เลยเบี่ยงจากที่จะทิ้งขนมจีบลงถังขยะก็เลยเอามาให้หมาแทน
“เอาเหี้ย! กูลืม ถ้ามันมียาหมาไม่ตายห่าหรอวะ” เปาสบถออกมาอย่างตกใจเมื่อเขาเพิ่งนึกได้ว่าทุกครั้งที่เขาเอาขนมจีบมาทิ้งเพราะกลัวว่ามันจะมีการวางยาอยู่ อาจจะตลกที่เปาคิดแบบนี้แต่ช่วยไม่ได้เปาเป็นคนมีศัตรูเยอะมีมากกว่ามิตร
“กินหมดแล้ว ไม่ตายนี่หว่า” เปาพูดออกมาเมื่อหมาลูกอ่อนกินขนมจีบหมดแล้ว และพบว่ามันไม่มีอาการอะไรเลยมันไม่มีอาการของการโดนวางยาแต่อย่างใด
เปายืนดูอยู่สักพักจนแน่ใจว่าหมาลูกอ่อนไม่ตายหลังจากที่กินขนมจีบถุงนั่นไป
2เดือนต่อมา
“ไอ้ห่า สองเดือนแล้ว ขนมจีบแม่งก็ยังมาทุกวัน” ไอ้ฟินพูดออกมาในขณะที่กำลังเขี้ยวกินขนมจีบอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากวันนั้นที่เปาเอาขนมจีบไปหาหมาแม่ลูกอ่อนกินแล้วพบว่าหมามันไม่ตายวันถัดมาเขาก็เลยเอาให้ไอ้ฟินกินก็อย่างที่เห็นมันก็ยังไม่ตาย นับจากวันนั้นเวลาเจอขนมจีบมาทีไรก๋เสร็จไอ้เหี้ยฟินหมดส่วนเปาเองก็ไม่เคยได่กินเลย ถามว่าทำไมไม่กินบอกตรงๆเลยว่าเพราะไม่รู้ว้าใครเอามาให้เลยไม่กิน หรือเรียกง่ายๆคือเขาไม่กินของคนแปลกหน้า
“มึงก็แดกทุกวัน” เปาเอ่ยแซะเพื่อนฟิน
“ก็แม่งอร่อยอะกูอยากเห็นหน้าคนเอามาแขวนรถมึงฉิบหาย”
“มึงจะอยากเจอทำไม”
“กูจะถามว่าซื้อที่ไหนกูจะได้เป็นลูกค้าประจำ”
“หึหึ”
“หรือมึงไม่อยากรู้”
“เฉยๆ” เปาตอบไปตามความเป็นจริงว่าเปารู้สึกเฉยๆช่วงแรกอาจอยากรู้แต่ตอนนี้ไม่ละ เพราะลองคิดดูว่าถ้าคนที่เอามาให้อยากให้รู้จักก็ต้องโผล่มาให้เห็นแล้ว ไม่ใช่เอามาแขวนไว้ ก็แสดงว่าเขาไม่อยากให้รู้นั่นเอง
เดือนที่สาม
“มองแม่งอยู่นั้น กูเห็นมึงมองน้องขนมมาสามเดือนแล้วนะห่า” เพื่อนฟินพูดบ่นออกมาในขณะที่มันกำลังกินขนมจีบเจ้าประจำที่เอามาแขวนไว้ที่รถของเปาเหมือนเดิม
“กูก็แค่มอง”
“ถุย” เพื่อนฟินทำหน้าไม่เชื่อ กับสิ่งที่เปาพูด ก็จะให่เชื่อได้ไงวะก็ไอ้ห่าเปามันเล่นมองน้องขนมเพื่อนของหลายรหัสเขาที่เรียนอยู่คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันวันที่น้องขนมเดินสะดุดขาตัวเองล้มตรงลานเกียร์แล้วชนมันเข้าอย่างจัง จากวันนั่นห่านี่ก็มองแต่น้องขนมไม่ว่าน้องขนมจะอยู่ตรงไหนไอ้เปาเอาสายตาไปหยุดอยู่ที่น้องขนมตลอด
ตอนแรกก็ตกใจที่เห็นไอ้เปามันสนใจผู้ชายเพราะปกติมันเอาแต่ผู้หญิงหุ่นนางแบบ นมเป็นนม เอวเป็นเอว มันไม่เคยมองผู้ชายเลย จนมาเจอน้องขนมนี่แหละที่มันมองมานานมากแต่ไม่ทำห่าอะไรเลย มองอย่างเดียว
น้องขนมเป็นเด็กปีหนึ่งเป็นผู้ช่ายตัวเล็กๆต่ำกว่ามาตราฐานชาย ร่างบางๆใบหน้าหวานสวย ตาโตอย่างกับใส่บิ๊กอาย ถ้าไม่มองดีๆก็ไม่รู้หรอกว่าแม่งเป็นผู้ชาย เหมือนผู้หญิงสักขนาดนี้
ผู้ชายทั้งที่เป็นชายแท้และบอร์นทูบีเกย์แย่วกันตามจีบให้ขวัก แต่ไม่เห็นน้องมันจะสนใคร
“หึหึ” เปาหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางคนตัวเล็กที่หันมาเห็นเปาแล้วเจ้าตัวสะดุ้งตกใจหันหน้าหนีกลับแทบไม่ทัน ท่าทางแบบนั้นมันน่าขำน่าเอ็นดูจริงๆ
“ชอบก็จีบดิวะ หนังหน้าอย่างมึงไม่พลาดหรอกเชื่อกู”
“แดกขนมจีบต่อไปอย่าพูดมาก”
“พูดถึงขนมจีบ”
“ทำไม”
“กูอยากรู้จริงๆว่าใคร”
“แล้วมึงจะทำไง”
“องค์โคนันจงประทับร่างข้าเถิด~~~”
“บ้าไปแล้วเพื่อนกู”
สามเดือนกับอีกสองอาทิตย์ต่อมา
“ห่า ขนมจีบเป็นมนุษย์ล่องหนหรอวะ หาไม่เจอสักที”
“…”
“หรือขนมจีบจะใช้ผ้าคลุมล่องหนวะเราถึงมองไม่เห็น”
“….”
“มึงไหวมั๊ยฟิน”
“กูว่าขนมจีบแม่งชอบมึงแน่”
“มึงรู้ได้ไง”
“ไอ้ห่าถ้าไม่ชอบเขาจะเอามาให้มึงทำไมสามเดือนกว่าแล้วนะเฮ้ย”
“….”
“แต่แม่งคือใครวะ”
“กูจะรู้มั๊ย”
“เออมึงไม่รู้เพราะมึงไม่ได้อยากที่จะรู้ไงแต่กูอยากรู้” ไอ้หินถามหน้าจะเป็นจะตายให้ได้ อพไรจพอยากรู้ขนาดนั้น ถ้าไม่รู้นี่คงนอนตายตาไม่หลับสินะ เปาคิดในใจ
“หึหึ”
“น้องขนมนี่น่ารักจริงๆ”
ผลั่ว!!
“โอ๊ยเหี้ยตบหัวกูทำไม” ไอ้ฟินร้องโอดโอยทันทีที่โดนฝ่ามือกระทบเข้าที่หัวเกรียนๆของมัน อยู่มหาวิทยาลัยเข้าไปละแต่ไอ้ฟินก็ยังคงตัดผมทรงนักเรียนหัวเกรียนอยู่ดี
“มือมันลั่น”
“ลั่นเหี้ยไร ห่านี่ กูแค่มองทำหวง ยังไม่ได้จีบน้องมันเลย มีสิทธิ์หวงเหี้ยไรครับ”
“เรื่องของกู”
“ระวังเหี้ยคาบไปแดกครับ”
“สัส!!”
“ว่าไปเดี๋ยวนี้เจอน้องขนมที่คณะเราบ่อยเนอะ”
“…..”
สามเดือนกับสองอาทิตย์และอีกสามวัน
“เพื่อนเปาครับ”
“อะไรของมึง” เปาเอ่ยรับเพื่อนก็จะหันไปมองไอ้ฟินที่กำลังกินขนมจีบคำสุดท้าย
“กูว่านะขนมจีบแม่งต้องรู้ว่ามึงชื่อซาลาเปาเลยเอาขนมจีบมาให้มึงฮ่าฮ่า”
“สัส”
เปาด่าเพื่อนทันทีที่ได้ยินความคิดของมัน จริงอยู่ที่ชื่อเปามาจากคำว่าซาลาเปา คนที่รู้ชื่อนี่มีแค่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทอย่าเหี้ยฟินที่เรียนอนุบาลมาด้วยกันมันเลยรู้ ชื่อซาลาเปาตอนเด็กแม่งก็คงดูน่ารักอยู่หรอก พอโตมาห่าช่างไม่เข้ากับลุคและมาดโหดๆของตัวเองเลย จะเปลี่ยนก็ไม่ได้แม่ตั้งให้ ตอนแม้ท้องแม่บอกว่าแม่ชอบกินซาลาเปา เลยได้ชื่อนี้มาเลยตั้งแต่อยู่ในท้อง พอโตมาเลยให้เพื่อนและคนอื่นๆเรียกว่าเปาเฉยๆ
น้อยคนที่จะรู้ว่าเปาแท้จริงแล้วชื่อซาลาเปา
ครบสี่เดือน
“สี่เดือนละนะกูยังไม่รู้เลยว่าใคร” ไอ้ฟินบ่นออกมาทั้งๆที่มือมันก็จิ้มขนมจีบเข้าปาก
“หึหึ”
“ห่า เรื่องของมึงแท้ๆทำไมกูต้องอยากรู้ด้วยวะ”
“เพราะมึงขี้เสือกไงฟิน” จบคำพูดเปาเพื่อนฟินก็ทำหน้าบ้าทันทีก่อนที่มันจะตะโกนเรียกหลานรหัสปีหนึ่งของมันดังลั่น
“ไอ้เต้!!!!!!!!!!!!!!!” รุ่นน้องปีหนึ่งเมื่อเห็นว่าใครเรียกก็รีบวิ่งมาหาทันที
“สวัสดีครับพี่ฟินพี่เปา” รุ่นน้องชื่อเต้เมื่อวิ่งมาถึงโต๊ะที่เปาและฟินนั่งก็ยกมือสวัสดีทันที
“เออ” ไอ้ฟินขานรับหลานรหัสมันในขณะที่เปาทำเพียวพยักหน้าแต่ส่ายตามมองหาเพื่อนตัวเล็กของไอ้เต้
“พี่เรียกผมมามีอะไรครับ”
“อ่ะขนมจีบกินดิ” ไอ้ฟินยื่นขนมจีบให้ไอ้เต้ ไอเต้ก็ได้แต่ทำหน้างง
“ครับ?”
“กูเรียกมาให้กินก็กินดิ” ไอ้ฟินคะยั้นคะยอไอ้เต้ เปาก็ได้แต่มองนิ่งๆแต่ก็สงสัยว่าไอ้ฟินมันจะทำอะไร
“อ่อครับ” ไอ้เต้รับคำก่อนจะจิ้มขนมจีบกินโดยมีไอ้ฟินมองลุ้นๆ
“เป็นไง” ไอ้ฟินถาม
“อร่อยครับ รสชาติเหมือนของบ้านไอ้ขนมมันทำขายเลย” ไอ้เต้พูดออกมาทำให้เปาสนใจเมื่อมีชื่อของรุ่นน้องตัวเล็กเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“มึงว่าไงนะ” เปาเอ่ยถามออกไปทันที
“ครับ บ้านไอ้ขนมมันทำขนมจีบซาลาเปาขาย ที่จริงชื่อไอ้ขนมก็มาจากขนมจีบนี่แหละ” ไอ้เต้เล่าออกมา
“จริงหรอวะ” ไอ้ฟินถามขึ้นมาบ้าง
“จริงครับผมเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว”
“แล้วขนมจีบที่มึงกิน เหมือนของบ้านไอ้น้องขนมเลยหรอ” ไอ้ฟินยังคงถามด้วยความสงสัย ในหัวมันตอนนี้เปาว่ามันกำลังเชื่อมโยงอะไรอยู่แน่ๆ
“ครับ พี่ซื้อมาจากร้านบ้านไอ้ขนมหรอครับ นั่นไงมันมาพอดีเดี๋ยวผมเรียกมันมาชิม ไอ้ขนม!!! ไอ้ขนมจีบ!!!” ไอ้เต้พูดจบก็ตะโกนเรียกเพื่อนตัวเล็กทันที และเมื่อขนมหันมาเห็นว่าเต้นั่งอยู่กับเปาและฟินก็ตกใจรีบหันตัวกลับทันทีแล้วก็เดินออกไป
“มันเป็นอะไรของมันวะดูลุกลี้ลุกลน” ไอ้เต้บ่นออกมาเมื่อเห็นอาการของเพื่อนตัวเอง
“ว่าแต่พี่ซื้อมาจากร้านบ้านไอ้ขนมหรอครับ”
“เปล่ามีคนเอามาแขวนที่รถกู” เปาตอบไปตามความเป็นจริง
“จริงหรอครับ”
“เออ”
“มึงบอกทางไปร้านบ้านขนมมาสิกูจะลองไปซื้อกินจะได้รู้ว่าเหมือนกันรึเปล่า” เปาบอกกับรุ่นน้อง ไม่ใช่แค่จะไปซื้อมาลองกินแต่เปาอยากจะไปสืบอะไรสักอย่าง
“ได้ครับ นี่ครับ” ไอ้เต้จดชื่อร้านและทางไปร้านในกระดาษสมุดที่มันฉีกออกมาก่อนจะยื่นให้เปา
“เออขอบใจมาก”
“ถ้าผมไปแล้วนะ พี่ๆสวัสดีครับ” ไอ้เต้เอ่ยลาก่อนจะเดินออกไปขึ้นตึกเรียน เหลือเพียงเปาและฟินที่นั่งอยู่กันสองคน
“เหี้ย ตอนกูสอบเข้ามหาวิทยาลัยกูได้คะแนนเชื่อมโยงเท่าไหรวะ” ไอ้ฟินพูดออกมาทันที่ไอ้เต้เดินห่างออกไปแล้ว
“หึหึ”
วันต่อมา
ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงที่ปกติเวลาเปาต้องมีเรียนเลิกเที่ยงแต่วันนี้อาจารย์ยกเลิกคลาส เปาเลยมาปฏิบัติภารกิจ เปากำลังนั่งอยู่ในรถที่จอดเยื้องกับร้านของบ้านน้องขนม วันนี้เปามาทำภารกิจมาตามสืบที่มาของขนมจีบที่โผล่มาให้เปาเห็นตลอดเป็นเวลาสี่เดือน หลังจากที่เมื่อวานได้คุยกับไอ้เต้ ทำให้เปาเอาข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงกัน ขนมจีบมาแขวนที่รถของเปาสี่เดือนแล้ว ประจวบกับที่วันแรกที่น้องขนมเดินชนกับเปาที่ลานเกียร์ก็เป็นเวลาสี่เดือนกว่านิดๆ แล้วยังที่เปามักเจอน้องขนมที่คณะตลอด แล้วไหนจะรสชาติที่ไอ้เต้บอกว่าขนมจีบที่มีคนเอามาแขวนที่รถกับขนมจีบที่ร้านบ้านของน้องขนมรสชาติเดียวกัน ไหนจะน้องขนมที่ชื่อขนมจีบอีก เปาเลยเอาข้อมูลที่ได้มาเชื่อมโยงกัน ว่าคนที่เอาขนมจีบมาแขวนที่รถเปาทุกวันเป็นเวลาสี่เดือนมานี้คือน้องขนมจีบแน่ๆ
แกทแพทเชื่อมโยงเปาได้เต็มครับ
วันนี้เพื่อพิสูจความจริงเปาเลยต้องมาอยู่ที่นี้มาดักรอส่องดูความเคลื่อนไหวเป้าหมาย
“นั่นไง” เปาพูดออกมาคนเดียวเมื่อเป้าหมายเดินออกจากบ้าน น้องขนมตัวเล็กสะพายกระเป๋าเป้ที่หลังในมือถือถุงอะไรบางอย่าง
“เฮ้ย!!” เปาสะดุ้งตกใจมุดพวงมาลัยทันทีเมื่อน้องขนมหันมาทางนี้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ารถติดฟิล์ม คนภายนอกไม่เห็น
“สัสกูนี่เป็นเอามาก” เปาบ่นกับตัวเองกาอนจะมานั่งท่าปกติจ้องมองน้องขนมที่เดินไปยังป้ายรถเมล์เปาเมื่อเห็นว่าน้องขนมขึ้นรถเมล์แล้วเปาจึงสตาร์ทรถเพื่อไปมหาวิทยาลัยแล้วไปจอดที่ประจำเพื่อไปดักเป้าหมาย
เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัยเปาก็ขับรถมาจอดที่เดิมแต่ยังไม่ลงจากรถ ปกติวันนี้เปามีเรียนเช้าเลิกเที่ยง และทุกครั้งที่เลิกเรียนเปาจะมาที่รถเพื่อขับกลับบ้าน และเปาจะเห็นถุงขนมจีบมาแขวนไว้เวลานี้เสมอ แต่วันนี้อาจารย์ยกเลิกคลาสทำให้เปาสามารถมาดักจับเป้าหมายได้ เปานั่งรออยู่ในรถสักพัก ร้อนก็ร้อนก็ต้องทนเพราะเดี๋ยวไม่สมจริง นั่งทนร้อนอยู่อย่างนั้นจนเห็นเป้าหมายในระยะสายตา น้องขนมกำลังเดินตรงมาทางนี้ เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆก่อนจะมองซ้ายขวาเพื่อหาอะไรบางอย่างแล้วรีบเดินมาที่รถของเปาทันที
“เหี้ยใช่จริงเดียว” เปาร้องออกมาทันทีที่น้องขนมเดินมาหยุดที่รถ ในใจที่ดีดดิ้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความตื่นเต้น แทบจะหยุดหายใจเมื่อน้องเอาถุงแขวนไว้ทีากระจกรถและหันตัวกลับเพื่อที่จะได้เดอนออกไป เปาคิดในใจว่าไม่ได้จะปล่อยไปไม่ได้เปาคิดได้ดังนั่นก็รีบเปิดประตูลงจากรถและตะโกนเรียกน้องขนมทันที
“น้องขนม” เปาเรียกน้องขนมทันทีที่น้องกำลังตะเดินไปไกล ร่างเล็กหยุดชะงักทันทีก่อนที่จะค่อยๆหันมา
“น้องขนมจีบ” เปาเอ่ยเนียกชื่อน้องขนมอีกคนั้ง น้องขนมทำหน้าราวกับมีความผิดมหันต์ทำหน้าราวกับจะร้องไห้
น่ารัก เด็กน้อย
เปาแอบคิดอยู่ในใจ
“พี่เปา” น้องเอ่ยเรียกชื่อของเปาเบาๆน้ำเสียงสั่นไหว
“น้องขนมเอาอะไรมาแขวนรถพี่ครับ” เปาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติแต่ทำให้น้องขนมที่ฟังอยู่น้ำตาร่วงเพาะเพราะความกลัว
“ว่าไงครับ”เปาเดินเข้าไปยืนใกล้ๆน้องมากขึ้นแล้วก้มลงถาม
น้องขนมตัวเล็กจริงๆ
“คือ” น้องขนมตอบรับด้วยเสียงตะกุกตะกัก
“น้องขนมคือเจ้าของขนมจีบที่มาแขวนรถพี่ตลอดสี่เดือนใช่มั๊ยครับ” เปาเอ่ยถามในข้อที่สงสัยทันที
“คือ” น้องขนมก็ยังคงตะกุกตะกัก สงสัยเปาต้องเรียกองค์พี่ว๊ากมาแล้วแหละไม่งั่นคงนานกว่าจะได้คำตอบ
“ใช่มั๊ยครับ!!!!” เปาถามออกไปอย่างเสียงดังใช้โทนเสียงระดับเสียงพี่ว๊ากที่ปกติแล้วเปาจะไม่ใช้สักเท่าไหร่เพราะเจ็บคอ
“ครับ!!” น้องขนมตกใจเลยพูดยอมรับออกมาทันที
“แล้วน้องเอามาให้พี่ทำไมครับ” เปากลับใาใช้น้ำเสียงเรียบๆนิ่งๆอีกครั้ง
“คือ เพราะ เอ่อ…” น้องขนมเอ่ยตอบเสียงสั่นๆตะกุกตะกัก ดูก็รู้ว่าร้องไห้
เดี๋ยวรอพี่ได้คำตอบก่อนนะครับแล้วพี่จะปลอบ
“ตอบครับ!!!” องค์พี่ว๊ากเข้าสิงอีกครั้ง
“ผมชอบพี่!!!!” ด้วยความตกใจน้องขนมเลยตะฌกนตอบออกมาเสียงดังฟังชัดชัดไปจนก้นบึ้งหัวใจไอ้เปาเลย
ผมชอบพี่
ผมชอบพี่
ผมชอบพี่
น้องขนมชอบไอ้เปา
แฮปปี้!!!! ไอ้เปาดีใจมากครับที่ได้ยินคำตอบน้อง
หมับ!!
ร่างเล็กของขนมจมเข้าสู่อกแกร่งของเปาทันที
“จากนี้ไปไม่ต้องเอาไปแขวนแล้วนะครับ” เปากระซิบบอกน้องที่หูก่อนจะกระชับอ้อมดอกให้แน่นขึ้น
“เอ่อ พี่ครับ ปล่อยก่อนครับ” น้องขนมดิ้นบอกอยู่ในอ้อมแขนของเปาทำให้เปาจำต้องยอมปล่อยทั้งๆที่ในใจไม่อยากปล่อย
ก็น้องขนมตัวหอมตัวนุ่มซะขนาดนี้ใครจะอยากปล่อย
“หึหึ” เปาหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าหน้าน้องขนมแดงซ่านไปหมด
อะไรจะน่ารักขนาดนี้
เปาได้แต่พูดกับตัวเองในใจ
“จากนี้ไปไม่ต้องเอามาแขวนที่รถแล้วนะครับเอามาให้พี่ตรงๆเลยเดี๋ยวหมามันคาบไป” เปาเอ่ยบอกกับน้องขนมอีกครั้ง
“ก็เห็นมีแต่พี่นั่นแหละที่เอาไปให้หมากินแล้วก็เพื่อนด้วยแถมยังเอาไปทิ้งอีกต่างหาก” น้องขนมพูดด้วยเสียงงอนๆมุ้ยหน้าอีกต่างหาก
น่าร๊ากกกกกกกกก
“ก็ตอนนั่นไม่รู้นิว่าใครเอามาให้”
“แล้วตอนนี้อ่ะ”
“ตอนนี้รู้แล้วก็จะกินให้หมดไม่แบ่งใครด้วยเพราะแฟนเอามาให้”
“อะไรเล่า"
“หึหึ เป็นแฟนกันปะ”
“……”
ในเฟสของขนมจีบ
ขนมจีบโพสภาพที่ตนเองถ่ายคู่กับเปาโดยที่เปายืนกอดมีถุงขนมจีบอยูในมือด้วย แนบแคปชั่นว่า
มีชชั่นคอมพรีท #ขนมจีบซาลาเปา
หลังจากที่โพสภาพได้แป๊บเดียวคอมเม้นและยอดกดไลค์ก็รัวเร็วทันที มาจากแฟนคลับในมุมลึกลับของเปาทั้งนั่น
กรี๊ดดดดดพี่เปาาาาาา
พี่เปาของน้องงงงงง
พี่เปาหล่อวัวตายความล้มหล่อจนลืมหายใจ
#ขนมจีบซาลาเปาน่าร๊ากกกกก
น้องขนมน่ารักพี่เปาก็หล่อ
*************** จบเถอะ ************
มันแปลกๆมั๊ย
ฝากเรื่องเด็กหน้าใสทรมานใจรุ่นพี่ด้วยนะคะเป็นเรื่องยาว ใสๆ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50147.0 ฝากเพจด้วยคะ
https://m.facebook.com/Sakedjai-331117863765243/ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
เม้นได้ติชมได้บอกเราได้ว่ารู้สึกยังไงหลังจากที่อ่านจบ เราชอบคะเราชอบที่ได้อ่านคอมเม้นคะ