ลิฟต์หน้าตาก็ปกติอะครับแต่ปุ่มกดเป็นเลขไทย ไฮโซมาก ๆ ไม่นานผมก็ถูกจูงเหมือนหมามายังชั้นบนสุด ทุกคนที่ผมเดินผ่านลุกขึ้นยกมือไหว้ไอ้ตัวที่ลากผมมาโดยที่มันไม่มองลูกน้องที่ไหว้เลยสักคน เป็นผมเองที่ประหม่าคนพวกนั้นที่มองผมเหมือนสัตว์ประหลาด
“เหนื่อยไหม..นอนพักไหม” ผมเงยหน้าไปมองคนถาม ก็สามีผมนั้นแหละผมถามว่าผมเหนื่อยไหมทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ได้อะไรเลย
“ไม่ได้วิ่ง 4 x 100 เมตรซะหน่อยจะได้เหนื่อย” ผมมองไอ้คนตัวสูงขวาง ๆ ส่วนเค้าก็ตั้งหน้าตั้งแต่แกะผมออกจากชุดที่ป้านองบียัดมาใส่ให้ผม ไม่นานผมก็เหลือแต่เสื้อแขนยาวที่ดูเป็นเหมือนสูธมีฮูด มาสวมแทน
“โฟมหิวก็บอกนะ” ผมพนักหน้าให้กับคนที่กลับไปนั่งประจำที่โต๊ะ แล้วเปิดคอมพิวเตอร์บ้านเค้าเริ่มทำงาน
ผมเดินไปมองกระจกหน้าต่างตอนนี้ผมกำลังเห็นเหมือนโรงเรือนที่เรียงรายจับ 2,000 ไร่อยู่ด้านหลังตึกจนสุดลูกหูลูกตา หลังจากของทุกโรงเรือนด้านขวาจะติดเหมือนกระจกเอาไว้ผมเดาว่าก็เป็นเหมือนพวกเครื่องผลิตผลังงานสะอาด เหมือนผลังงานแสงอาทิตย์ประมาณนั้นมั่งครับ ผมเดินสำรวจในห้องเดินไปเดินมาก็ชักเบื่อก็เลยมานั่งถอนหายใจเล่น เบื่อโว้ย...... หันมาแช่งกระแสจิตจ้องหน้าไอ้ประธานเป็นพัก ๆ ให้รู้ว่ากูกำลังเบื่อนะ ถ้ามึงไม่สนใจกูไปหลีหญิงได้ไหม อะไรประมาณนั้นแล้วผมก็ประสบความสำเร็จ
“เบื่อหรอ” ผมพนักหน้าหงึก ๆ อย่างเร็ว แล้วคุณสามีก็ปิดแฟ้มงานทันที เดินไปหยิบโค๊ดของผมติดมือมาหาผม
“ไปเที่ยวดูบริษัทของเราดีกว่า” โอ๊ว...กิ๊บเก๋มากเลยสามีไปโล๊ด
กว่าผมจะเดินลงมาได้ก็ต้องผ่านสายตานับล้านอีกตามเคย ไอ้พวกอยากเลียแข้งขาก็ตามมาเลียผมตลอดทาง ไม่อยากบอกว่าผมจะไม่มีอำนาจอะไรเล๊ยแต่ก็ได้แต่วางมาดไปอย่างงั้น ๆ คุณสามีของผมพาผมมายังจุดตรวจโรงงานในชั้นแรก ผมถูกพยุงให้นั่งรถไฟฟ้าเหมือนรถกล์อฟยุคเราอะครับ แล้วพ่อประคุณก็ขับรถพาผมไปโรงเรือนหนึ่ง คือผมมาดูใกล้ ๆ แล้วโรงเรือนหนึ่งมันใหญ่น้อง ๆ สนามฟุตบอลได้เลยครับ ป้ายหน้าโรงเรือนติดป้ายไว้ว่า ‘พืชพิเศษ’ เมื่อรถได้เคลื่อนเข้าไปในโรงเรือนมันทำให้ผมดีใจแถบกระโดดลงรถ ก็ในนี้มีแต่ผักสวนครัว หรือต้นไม้ที่ผมรู้จักทั้งนั้น
“พี่ทรี จอดตรงนี้แหละโฟมอยากลง” พี่ทรีพยักหน้าหักจอดข้างทาง ผมลงรถเองไม่ได้นะครับต้องมีไอ้คุณสามีมาพยุงเนื่องจากเคยลงเองแล้วโดนตะหวาดซะเสียงดัง
“ที่พี่ทำมันเกี่ยวกับอะไรหรอ” ผมยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นไอ้ต้นสูง ๆ ที่ผมเรียกว่าต้นมะพร้าวไม่ไกล นั้นก็ต้นมะม่วง นั้นก็ต้นมะนาว พระเจ้าช่วย!
“บริษัทของเราทำพวกส่งออกพืช สัตว์แปรรูปนะ” โอว...ผมได้เป็นสะใภ้ซีพียุค 3000 ครับท่าน
“แต่พวกนี้เป็นพืชเขตร้อนทั้งนั้นเลยนี่ครับ”
“โฟมรู้ได้ยังไงว่าโรงเรือนนี้เป็นพืชเขตร้อน” พี่ทรีฉุดผมให้หยุดแล้วมองหน้าผมแปลก ๆ จะบอกไงดีละครับว่าไอ้ผมนะรู้จักยิ่งกว่ารู้อีก
“ก็เรียนหนังสือไง ใช่ ๆ เรียนหนังสือ ความรู้นิดหน่อย” ผมที่พยายามเป็นพยาแถก็เริ่มขึ้น
“หรอ...ใช่แล้วพวกนี้เป็นพืชทางตอนใต้ของประเทศเรา พวกกลุ่มวิจัยเข้าป่าไปเอาต้นตัวอย่างมาเก็บไว้ในเรือนควบคุมอุณภูมิที่นี้ รอการวิจัยว่าเป็นพืชให้คุณหรือให้โทษ”
“ถามผมก็ได้ผมรู้หมดแหละ โอ๊ะ!...” ปากพาซวยอีกแล้วครับ แต่คราวนี้สามีไม่ฉุดถามผมอีก ผมที่เพลินกับแมกไม้ที่เต็มไปด้วยต้นอะไรต่อมิอะไรมากมาย มีจำพวกดอกไม้ด้วยนะครับทำผมลั้นลาเหลือเกิน
ผมยกนาฬิกาขึ้นดูถึงรู้ว่าผมอยู่ที่นี้เกือบ 3 ชั่วโมง ผมกำลังยืนรอพี่ทรีกำลังคุยอะไรกับหัวหน้าโรงเรือนสักอย่าง อากาศในนี้ร้อนใช่ได้เลยละครับแต่ไม่ถึงกับร้อนตับแตกเหมือนที่บ้านเราเป็น ผมถอดเสื้อกันหนาวอย่างหนาห้าห่วงออกรู้สึกอึดอัดประหลาด ๆ เหงื่อเริ่มออกตามคอและมือ ผมใช้ใบหูกวางที่ตกใกล้ๆ มาพัดให้คลายร้อนแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้ผมหิวน้ำมาก ๆ ร่างกายก็ล้าแปลก ๆ ถ้าเดาไม่ผิดผมกำลังจะเป็นลม
“พี่...พี่ทรี~” เสียงผมที่คงดูแผ่ว ๆ เรียกไปทางพี่ทรี ผมตั้งสติรอให้ร่างสมส่วนเข้ามาใกล้ๆ ผม
“โฟม..หน้าซีดเชียวไม่สบายรึเปล่า” ผมพยักหน้าแล้วเอนกายไปพิงกับอกของสามีผม อารมณ์นี้ไม่มีแรดแน่นอนครับ
“พี่ทรีอึดอัด ร้อนด้วย...”
“ใจเย็น ๆ นะโฟม” ผมที่หลับตาแน่นลำคอก็แห้งผาก มีรสขม ๆ อยู่ในปาก เข็มขัดที่รัดกางเกงถูกปลดออก กระดุมเม็ดบนสุดก็ถูกปลดออกทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นหน่อยแต่...
“พี่ทรีจะอ้วก อั๊วะ~” บอกยังไม่ทันหมดประโยคผมก็เริ่มคายน้ำย่อยออกมา ผมก้มหน้าก้มตาอ้วกจนรู้สึกดีก็เงยหน้าขึ้นพิงกับอกพี่ทรีอีกครั้ง
“เรากลับกันดีกว่า อย่าพึ่งเป็นอะไรนะโฟม” ผมจับน้ำเสียงที่สั่นของพี่ทรีได้ ผมก็ตอบรับแค่พยักหน้าหน้าเท่านั้น เสียงรถถูกมาจอดใกล้ ๆ ผมแล้วร่างของผมก็ถูกอุ้มให้เข้าไปข้างใน
“พี่ทรี...เอาลูกนั้นให้โฟมสักลูกนะ” ผมที่อยู่ในรถเห็นลูกมะนาวไม่ไกล พอผมพูดแค่นั้นคนงานที่มามุงดูเหตุการณ์ก็วิ่งไปเด็ดให้ผมทันที พี่ทรีส่งมะนาวมาให้ผม ผมก็ไม่อะไรหรอกครับเอามาดมเฉย ๆ แก้อยากอ้วก
พอรถออกมาจากโรงเรือนก็หนาวจับใจจนผมต้องซุกไปใกล้ ๆ กับคนตัวใกญ่ ผมไม่เห็นหรอกว่าเหตุการณ์เป็นยังไงเพราะผมหลับหูหลับตาดมมะนาวอยู่ ก็คงมีแต่เสียงโหวกเหวกโวยวายเหมือนพวกซ้อมหนีไฟนั้นแหละครับดังเป็นระยะ แล้วในที่สุดผมก็กลับมานอนในห้องทำงานห้องเดิมอีกครั้ง ผ้าอุ่น ๆ ถูกลูบไล้เช็ดคราบเหงื่อไครไปทั่วใบหน้าของผม อาการเจอร้อนเจอหนาวทำให้ผมปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาไม่ขาด
“โฟมดีขึ้นไหม” ผมลืมตามองคนที่นั่งข้าง ๆ ฟูกนอนที่ผมนอนอยู่ ผมเอามะนาวออกห่างจากจมูกเล็กน้อยแล้วยิ้มให้ คือไม่อยากพูดครับยังมึน ๆ เวียน ๆ แถมอยากอ้วกอยู่
“ให้หมอมาตรวจหน่อยดีกว่าไหม” อันนี้รีบส่ายหน้าเลยครับ ผมพยายามเปล่งเสียงแหบ ๆ ไม่ดังมากออกมาจากกล่องเสียง
“ไม่เป็นไร..อึดอัดเลยทำให้เป็นลมแค่นั้นเองรู้สึกอย่างงี่มาตั้งแต่เช้าแล้ว”
“แล้วทำไมไม่บอกหะ!” ดร่ามาเลยครับ บ่อน้ำตาไอ้โฟมจะแตก..คนไม่สบายจะโว้ยมาตะคอกทำส้นตีนเตี่ยมึงหรอ
“มันก็เป็นอย่างงี่ทุกวันมึงไม่รู้ว่ากูเป็นรึไงเล๊า!” บทโศกได้ผลครับ ไอ้พี่ทรีก้มมาหอมแก้มผมแล้วเช็ดน้ำตาให้ผมโดยเร็ว
“พี่เป็นห่วงโฟมไง พี่ขอโทษ” ยิ่งมันขอโทษผมก็ยิ่งร้องไห้เป็นเผาเต่าสะอื้นฮึกฮัก คอก็แห้งจนไอ้ในท้องจะอ้วกออกมาบ้าง
“กินน้ำก่อน! กินน้ำ” น้ำอุ่น ๆ ถูกส่งผ่านลำคอของผม ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง จากที่ผมรู้สึกร้อน ๆ ก็เริ่มเย็นขึ้นหายใจสะดวก แต่ก็ยังคงอึดอัดที่หน้าอกบ้างที่ท้องบ้างเป็นบางเวลา
“เมื่อเช้าโฟมก็ไม่กินข้าว เมื่อกี้ถึงเป็นลมไง...หิวไหม” ผมส่ายหน้าดมมะนาวต่อ
“กินสตอเบอรี่ไหม ป้านองบีให้มาเมื่อเช้า” แค่คิดก็น้ำลายฟูมปากแล้วครับ ผมรับพยักหน้าหงึกหงักทันที เสียดายที่มะม่วงในโรงเรือนไม่ออกลูกไม่งั้นจะส่อยมาให้เกลี้ยงเลย
สตอเบอรี่ถูกส่งถึงปากด้วยยอดสามีนายทรี ส่วนผมก็นอนกินมือไม่ว่าง มือหนึ่งถือมะนามดม อีกมือลูบพุงตัวเองไปมา ผมกินไปได้สักสามลูกใหญ่ ๆ ก็เริ่มง่วงนอนพี่ทรีเลยเอาหมอนอิงโซฟามาให้ผมนอนตะแคงแล้วลูบหลังให้ไม่นานผมก็หลับไป
‘โฟม...ตาโฟมเอ๊ยได้ยินยายไหม’
“ยายไปไหนมา ทิ้งหนูได้ไง” ผมเห็นยายในฝันกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ มือหนึ่งก็ถืออะไรในมือสักอย่าง
‘ยายกับตาก็อยู่เที่ยวแถวนี้แหละ เวะมาดูเห็นเจ้าฝากข้อความเสียงไว้เมื่อเช้าเลยตามมาดู เป็นไงดีขึ้นไหม’
“ยาย....ถ้าหนูไม่เป็นอะไรยายจะมาหาหนูไหมฮะ แล้วตาละยาย” หันไปมองสามียายที่ควรอยู่แถวนี้แต่ก็ไม่เจอ
‘ไปเฝ้าศาลอยู่ในปีที่เจ้ามานั้นแหละ เห็นเจ้าอยู่สุขสบายดีงี่ยายก็หายห่วง อ้อ...หลานไปบอกผัวหลานนะว่าให้เอาขิงทุบ ๆ ทำน้ำขิงให้หลานดื่มจะช่วยให้หลานไม่แพ้ท้องมาก’ ผมมองเหง้าขิงแก่ในมือยายอย่างงง ๆ
“ยาย..หนูทำน้ำขิงไม่เป็นหรอกนะ” ผมส่งขิงคืนให้ยายไป ขนาดผมยังทำไม่เป็นใครในยุคนี้จะทำเป็น
‘สงสัยยายต้องออกโรงเสียแล้ว เอาละเดี่ยวยายมา’
“ยาย...ย๊าย! ไปไหน กลับศาลเอามะม่วงน้ำปลาหวานมาฝากหนูด้วยน้า~”
แรงเขย่าทำให้ผมลืมตาขึ้น เจ้าของตัวผมยิ้มให้ผมแล้วพยุงผมให้ลุกเอนนั่งผิงกับอกของเขา ผมงัวเงียค่อย ๆ กระพริบตาปรับสายตาอยู่สักพักจึงเริ่มได้สติ แต่สติมาพร้อมกับอาการครับ
“พี่ทรี มะนาว...มะนาวไปไหน อั๊วะ!” ผมรับยกมือปิดปากเหมือนลมปราณจะตีขึ้น
“อันนี้หรอ เอา ๆ” ผมรับมะนาวจากมือพี่ทรีมาหยิกแล้วสูดดม
“อาการดูไม่ดีเลยนะโฟม พี่ว่าตอนเย็นให้หมอมาตรวจหน่อยดีกว่า” คราวนี้ผมเห็นด้วยอย่างแรง ผมที่หลับตาพิงกับอกสามีสุดหล่ออยู่เริ่มหายใจสะดวก ประตูห้องทำงานก็เปิดออกพร้อมกับกลิ่นขิงโชยมา ผมเบิกตากว้างคิดว่าผียายสำแดงฤทธิ์ออกมาเป็นกลิ่นเลยประมาณนั้น
“หลานเอ๊ย! นายใหญ่น้ำขิงเจ้าคะ” ผมมองป้านองบีแปลก ๆ พร้อมกับแก้วในมือ ผมดมกลิ่นน้ำขิงก็รู้สึกดีอย่างที่ยายบอกจริง ๆ
“จิบสิเจ้าคะ อร่อยระดับชาววังยายรับประกัน” ผมว่ายายต้องเข้าสิงป้านองบีแน่นอน ผมจิบน้ำขิงร้อน ๆ ผ่านลำคอมันก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกอ้วกเหมือนแต่ก่อน
“ดีจริง ๆ ด้วยขอบคุณครับยาย ผมรักยายที่สุดเลย” ผมกอดป้านองบีวิญาณยายที่นั่งใกล้ๆ ผม ส่วนไอ้สามีคงเป็นไก่ตาแตก
ผมถูกพามายังห้องข้าง ๆ ที่จัดไว้เป็นห้องอาหาร ในห้องเต็มไปด้วยน้ำและต้นไม้ มีปลาแหวกว่ายหน้าตาแปลก ๆ แต่สีสด ๆ ก็ดูสวยดี
“ว๊าว!” ผมรีบซอยเท้าไปใกล้โต๊ะอาหารเมื่อเห็นกับข้าวบนโต๊ะ
“ชอบไหมลูก...” ผมพยักหน้าอย่างแรง แล้วนั่งลงเก้าอีก..แต่ก็มีใจกวักมือเรียกผัวมากินเปิบพิสดารด้วย
“ป้านองบี..พ่อครัวทำอะไรให้ทานหรอครับ” พี่ทรีเขี่ยผัดขิงเครื่องในไก่ของผมเหมือนมองของประหลาด
“อาหารไทยแท้ดั้งเดิมเจ้าคะ รับรองความอร่อยได้เลย” ยายไม่ต้องบอกผมก็พร้อมจะพิสูจน์ครับ
ผมจ้วงข้าวเข้าปากอย่างตายอดตายอยาก ซดต้มยำกุ้งทีแทบน้ำตาไหลซึ้งในรสฝีมือไทย ผัดพริกแกงถั่วฝักยาวก็แสนอร่อย ไหนจะปลาทูทอดที่ยายไม่รู้หามาจากไหน แล้วก็ผัดผักไทยแท้อีกสองสามจาน ผมกินซะพุงกางเลย ตบท้ายด้วยลอดช่องแตงไทยแม่....อิ่มอร่อยครับ
“ยายอร่อยมาก ยาย...ยายไปไหน” ผมที่กินเพลินเลยไม่รู้ว่ายายออกไปตอนไหน หันมาถามคนที่กินข้าง ๆ ที่ดูจะสนใจผัดขิงเครื่องในก็ส่ายหน้า ผมที่แอบเหลือบเห็นของหวานส่วนของพี่ทรีใกล้ ๆ จ้องน้ำลายไหลแต่ดูเหมือนคราวนี้พี่ทรีจะหวงเหมือนกัน รีบวางช้อนมาจ้วงลอดช่องกับแตงไทยเข้าปากชมว่าอร่อยสุด ๆ ไม่ขาดเลย
“โฟมง่วงหรือเปล่า” ผมที่นั่งจิบน้ำขิงอยู่ไม่ไกลเงยหน้ามองพี่ทรีที่ทำงานเอกสารเสร็จไปหมดแล้ว
“ไม่ง่วง..ทำไมหรอ”
“งั้นไปนั่งเล่นในห้องประชุมกับพี่ดีกว่า”
ผมเข้ามานั่งข้าง ๆ ท่าประธาน ห้องประชุมเดินทางแป๊ปเดียวเหมือนมีบีทีก็ถึงห้องประชุม ผู้คนในห้องลุกขึ้นเมื่อผมกับพี่ทรีเข้ามา ผมถูกประคองให้นั่งข้าง ๆ แล้วก็มีสาวสวยคนหนึ่งมาวางเอกสารให้กับพี่ทรีด้วยท่าที่อ่อนหวาน พอเธอเบนสายตามาหาผมผมก็ตั้งรับด้วยร้อยยิ้มพิมพ์ใจ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบผมเธอเลยเชิดแล้วเดินจากไป
****
แก้คำผิดคะ เจออีกแจ้งจับได้เลยค้า