‘โฟม ลูก... เป็นไงบ้าง’ ผมลืมตาขึ้นเห็นตากับยายยืนอยู่ไม่ไกล แล้วก็มีใครไม่รู้ข้างหลังยายอีกเยอะแยะไปไหม
“ตา...ยาย... หนูอยากกลับบ้านของหนูแล้ว” ผู้เอ่ยเสียงเบา ๆ แล้วตากับยายก็เข้ามากอดผม มือของตาค่อย ๆ สัมผัสกับท้องของผมเบา ๆ
‘ตากับยายก็อยากให้มันกลับไปเหมือนเดิม แต่การเดินหน้ามาอนาคตมันยากยิ่งกว่าการกลับไปอดีตอีกนะลูก ตอนนี้หลานยังไม่ค่อยสบายนึกถึงลูกในท้องมาก ๆ’ ผมมองดูมือของตากับยายยังคงวางอยู่ที่ท้องของผม
“งั้นตากับยายพาหนูออกไปจากที่นี้ที หนูไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว หนูไม่อยากอยู่คนเดียว”
‘หลานไม่ได้อยู่คนเดียวนะลูก หลานเคยได้ยินไหม คนดีผีคุ้ม คนดี ๆ อย่างโฟมก็มีผีอย่างตากับยายคุ้มครองไงลูก แล้วไหนจะพวกเทพารักษ์ พวกภูติดอกไม้นี้ไงยังอยู่รอบ ๆ ตัวหลานเสมอ’ ผมมองไปด้านหน้าแอบตกใจเล็กน้อย แต่แล้วจิตใจผมก็สงบลง..ตอนนี้ผมยังคุยกับผีตากับยายได้เลย คงไม่แปลกยิ่งกว่านี้ถ้าจะรู้จักกับเทพารักษ์ แม่ตานี ภูติดอกไม้ หรือเจ้าที่เจ้าทางอีกสักตนสองตน คบคนไม่ได้ก็คบกับที่ไม่ใช่คนก็ดี
“โฟมไม่อยากอยู่แล้วจริง ๆ ยาย โฟมเหนื่อย....” ผมพิงกับอกยายให้ยายลูบหัวเล่น
‘เหนื่อยก็นอนนะลูก ยายกับทุกตนจะดูแลหนูเอง’ หลับตาลงช้า ๆ ในท่ามกลางความอบอุ่นที่แสนเบาบางปกคลุมผมอยู่
“ไอ้ทรี! กูพึ่งกลับมามึงก็ให้กูตามหาเมียมึงเลยหรอวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ไอ้โง่เอ๊ย...” ผมได้ยินเหมือนเสียงแว่ว ๆ เบา ๆ ไม่ไกลจากผมนัก แล้วผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร
“ปากมากจริงได้ดาป.... เดี่ยวน้องเค้าก็ตื่นหรอก แต่มันจริงนะไอ้ทรี...กูก็อยากถามทำไมเมียแกไม่มีไมโคชิพวะ” เอ๊ะ...แล้วนี้ใครอีกคน ทำไมผมรู้ว่าพวกเค้าพูดอะไรแต่ทำไมผม...ผมยังไม่ตื่นละ!
“ไอ้เอม! ไอ้ดาป! ...มึงเงียบ ๆ ได้ไหมเดี่ยวเมียกูก็ตื่นขึ้นมาพอดี” เสียงไอ้นี้ผมจำได้ครับว่าเป็นไอ้เวร มันไม่ใช่เกมส์ทายเสียงนะ! ทำไมผมไม่ตื่นลืมตาสักทีละ
“มึงนั้นแหละเสียงดัง!!” ผมเห็นด้วยกับอีกสองเสียงครับว่ามันนั้นแหละเสียงดัง
ผมได้ยินเสียงหัวใจของใครสักคนดังอย่างชัดเจน ความอบอุ่นที่โอบรอบร่างกายผมก็คงไม่พ้นไอ้ผัวเลวของผมมั่งครับ นั้นไม่ใช้ประเด็นหลักสำหรับตอนนี้...ที่ผมอยากรู้คือทำไมผมยังไม่ตื่นลืมตาซะที! ผมกำลังคอยฟังเสียงสนทนาประมาณ 3 – 4 คน หนึ่งในนั้นมีไอ้เวรนั้นอยู่ด้วย ผมก็ไม่รู้อะไรหรอกครับพวกเค้าพูดถึงไมโคชิพ ฝั่งตัวอะไรสักอย่างว่าทำไมผมถึงไม่มี ถ้าผมเดาไม่ผิดก็คงประมาณในยุคของผมฝั่งไว้กันหมาหาย หรือว่าหาเจ้าของไม่เจอประมาณนั้นแหละมั่งครับ
‘โฟม...อย่าพึ่งตื่นเชื่อเรานะ’ ผมได้ยินเสียงใส ๆ ดังไม่ไกลนัก แล้วผมก็รู้สึกวูบเหมือนตัวเองกำลังตกจากที่สูง ร่างกายผมกระตุ๊กนิดหน่อยก็คนมันตกใจนะคับ
“ชู่!....หลับนะโฟม” ผมได้ยินเสียงกระซิบข้างหูของผม แล้วผมก็หลับไป เวลานี้ผมไม่มีบทจะแสดง ใช้แต่หูเป็นตัวช่วยสงสัยค่าตัวจะน้อยแน่ ๆ
‘แม่~ แม่จ๋า!!~’ ผมค่อย ๆ ลืมตาเห็นเด็กผู้ชายสองคนคนหนึ่งน่ารักอย่างกะตุ๊กตา อีกคนคิ้วเข้มแต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี สองคนกำลังใช้มือน้อย ๆ วางตรงหน้าอกของผมคนละฝั่ง
‘ตากับยายบอกแล้วไงว่าอย่ากวนแม่ เดี่ยวพวกเอ็งนั้นแหละจะไม่ได้เห็นหน้าแม่จริง ๆ’ ผมหันไปมองตากับยายที่เจ้ามานั่งใกล้ ๆ เด็กสองคนนั้น ผมมองหน้าเด็กน้อยสองคนสลับไปมา
“นี่! นี่...ยะ อย่าบอกนะว่านี้ลูกผม!”
‘แม่จ๋า~’ คงไม่ผิดแน่ ๆ ครับ เด็กที่บ๊องแบ๋วโออิชิโถมตัวมากอดผมเต็มแรง ดีนะในนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บไม่งั้นคงจะจุกแน่ ๆ
‘แม่.....’ ผมหันไปทางขวาเห็นลูกชายอีกคนของผมขยับมาหอมแก้มผม ว๊าก~!!!! น่ารักบรรลัยสุด ๆ ไอ้น่ารักบรรลัย คือมันยิ่งกว่า โคตรน่ารักอะครับ ผมค่อยลุกนั่ง แล้วเหลือบไปมองท้องตัวเอง...อ่าวท้องผมยังป่องอยู่เลย
“ตายาย..ลูกผมออกมาได้ยังไงท้องผมยังป่องอยู่เลย” ผมขยับตัวลุกนั่งได้ก็โอบลูกชายของผมไว้ แต่มือก็ยังชี้พุงตัวเองอยู่
‘ก็ตากับยายพาเจ้าเหลนออกมาเที่ยวเฉย ๆ พอหลานตื่นก็กลับเข้าไปแล้ว’ ยายบอกผมอย่างนั้นแล้วมองลูกชายสองคนของผม อีกคนยิ้มน่ารักสนใส อีกคนไม่ยิ้มแต่กอดผมแน่นสุด ๆ
‘แม่...หนูไม่รักพ่อได้ไหม’ ผมหันไปด้านซ้ายมองลูกชายที่ไม่รู้จะชื่ออะไร เรียกเจ้าซ้ายละกัน กำลังเงยหน้ามองผม แถมคิ้วขมวดกันเลย ผมยกมือมาคลี่ริมฝีปากจิ้มลิ้มให้ยิ้มกว้าง
“ทำไมละลูก ไม่รักพ่อแล้วหนูจะทำยังไง” ผมหันไปถามตาซ้ายแล้วก็หันมาหาตาขวา
‘หนูรักแม่ก็พอแล้ว แม่ก็เป็นทั้งแม่ทั้งพ่อให้หนูไง’ ออ...เจ้าซ้ายมันก็พูดถูก ผมก็เป็นพ่อเป็นแม่แบบ 2 in1 ได้นิครับ
‘พ่อดื้อ.......’ ผมหันไปมองตาขวาที่ยังกอดผม มือน้อย ๆ ก็วางตำแหน่งท้องผมอยู่
“ใช่..พ่อดื้อเนอะ” ผมพยักหน้ามองหัวดำ ๆ ของลูกสองคน
‘หนูเกลียดพ่อ!’ อะเด๊ะ! ..... ประโยคนี้มันเหมือนโฆษณาอะไรสักอย่างนะ 555+
“แม่รักหนูสองคนนะ” ผมกอดลูกแน่น ๆ แหม๋น่ารักเหมือนแม่จริง ๆ แม่มันหล่อ
‘แม่เกือบจะทำหนูไม่อยู่กับแม่แล้วตอนนั้น’ นั้นบาปกรรมตามทันครับ เจ้าซ้ายมันมาเงยหน้ามองผมน้ำตาคลอ.....
“ตอนไหน...ตอนที่แม่ล้มทับไอ้พ่อหนูนะแม่ไม่ได้ตั้งใจนะ” ผมพยายามเช็ดน้ำตาให้ตาซ้ายแล้วหอมแก้มหนึ่งฟ๊อด แก้มนี้ตัดคงชั่งได้เป็นกิโลฯ
‘หนูรู้ตากับยายบอกหนูว่าแม่ซุ่มซ่าม’ มันหันไปมองตากับยายอย่างเร็ว ....... แต่ก็ดีที่ตากับยายไม่ได้บอกไอ้แผนการตกบันได ตกต้นไม่ ลื่นหัวแตกก่อนหน้านั้น
‘แม่อย่าซุ่มซ่ามอีกนะ หนูอยากอยู่กับแม่’ เหมือนโดนลูกตำหนิยังไงไม่รู้ครับ ฮ่า ๆๆ
“เราเหลือกันแค่นี้แล้ว แม่จะรักลูกมาก ๆ” ผมกอดเด็กสองคนนั้นแล้วอดคิดถึงแม่ตัวเอง นี้ผมทำดีกับแม่แล้วหรือยังนะก่อนที่ผมจะจากมา
‘แม่หนูอยู่ตรงนี้รอแม่นะ’ เจ้าซ้ายชี้ตัวเองบนท้องด้านท้องด้านซ้าย แล้วตาขวาไม่พูดอะไรชี้ไปที่ตำแหน่งตรงกันข้าม
‘หนูไปแล้วนะแม่’ ตาขวาบอกแล้วผมก็หอมหน้าผากลูก ๆ ในอนาคตสองคน
‘หนูจะไม่ให้พ่อเข้าใกล้แม่อีก....!!’ สองเสียงประสานราวกับโอเปล่าค่อย ๆ แอคโค่หายไปช้า ๆ แล้วลูกจะทำยังไงละครับ นอนอยู่ในตัวผมอยู่เลย...แต่ลูกผมน่ารักจริง ๆ นะ จะดันเป็นเดอะสตาร์แข่งกับบี้เลยคอยดู
อะไรสักอย่างกำลังรบกวนการนอนของผมโดยการแหย่รูจมูกของผม จนผมต้องลืมตาขึ้นมาก็เจอกับขนสีขาวสะอาดอยู่ตรงหน้า มันแกว่งไปมาไม่ไกลจากผมนัก
“ไฮโล......” ผมเอ่ยเบา ๆ ทำให้เจ้าไฮโลมันขยับเลิกเอาหางมาคุยกับผม แล้วหันหน้าหมา ๆ มาเลียผมแทน
“ดีใจที่ฉันยังไม่ตายหรอ” ผมลูบหัวมันเล่น ดูเหมือนมันจะคิดถึงผมจริง ๆ มันเอาหัวมาดันสู้มือของผม พอหน่ำใจแล้ว ผมค่อย ๆ ขยับตัวเองลุกขึ้นช้า ๆ เอาหมอนพิงไว้กับหัวเตียง แล้วเปิดผ้าห่มออก
ตอนนี้ผมอยู่ในเสื้อนอนตัวยาวเพียงตัวเดียว ดูเซ็กซี่วาบหวิวไม่น้อย ผมเลิกชายเสื้อขึ้นให้พุงหลาม ๆ ของผมได้มาเล่นต๊ะเอ๋ผมกับไอ้ไฮโล ผมลูบพุงของผมเบา ๆ เหมือนทักทายลูกชายแสนน่ารักข้างใน ผมเห็นเจ้าไฮโลนั่งจ้องพุงผมไม่กระพริบ
“ไอโซ...สนใจน้องหรอ” ผมเรียกชื่อมัน....มันก็เงยหน้ามามองผม ผมไม่รู้ว่ามันรู้ไหมว่าผมคุยอะไรกับมัน แต่มันเห็นมันมองพุงผมไม่วางตาเลย
“มีน้องอยู่ในนี้สองคนนะ น่ารักด้วย....” ผมใช้นิ้วชี้..ชี้ไปด้านซ้ายแล้วก็ขวา
ไอ้ไฮโลเอาเท้าหน้ามันมาแตะ ๆ บนท้องผมเบา ๆ แล้วมันก็เอาจมูกมาดม ๆ ผมมองไอ้เจ้าไฮโลอย่างทึ่ง ๆ หรือว่าพวกสัตว์สัญชาตญาณจะรู้จริง ๆ ว่าในนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ ผมเก็บพุงหลาม ๆ ของผม แล้วห่มผ้าห่มเหมือนเดิม เจ้าไฮโลมันลุกขึ้นแป๊บเดียวแล้วก็กลับมานอนมองพุงผมใหม่ เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งหมาทั้งคนหันไปมองคนมาใหม่
“ตื่นแล้วหรอ...” ผมจ้องหน้าไอ้เวรนั้นเฉย ๆ ไม่ได้ขยับหรือตอบอะไร
“กรรรรรรรร..............” แต่ที่น่าตกใจคือ เจ้าไฮโลมันลุกขึ้นมาขู่เจ้านายของมันที่เข้ามาใกล้ ๆ ผม
“โซโล...เป็นอะไร” ผมยังคงมองเจ้าหมาที่ขู่เจ้านายของผม เริ่มกลัวมันนิด ๆ ว่ามันจะเป็นหมาบ้ารึเปล่า แต่ตอนนี้มันหน้าหนาวเชื้อมันยังไม่เพาะเสร็จนิน่า
“ไฮโลแกเป็นอะไร” ผมมองมันแล้วมันก็มองผม มันยังขู่ไอ้เวรที่เดินเข้ามานั่งริมเตียงฝั่งตรงข้ามกับมันอยู่ แต่เบากว่าเดิม
“เป็นอะไรไซโล” ไอ้ไฮโลมันยังคงขู่แยกเขี้ยวใส่ไอ้เวรที่นั่งริมผมอยู่ ผมมองศึกเจ้านายกับหมาอยู่เนื่อง ๆ
“โฟม..รู้สึก......”
“โฮ่ง! กรรรร.....”
ผมขออธิบายสองประโยคข้างบน คือ ไอ้เวรข้างๆ มันถามผมว่าเป็นอะไร แล้วมือของผมกำลังจะ...คือยังไม่ทันโดนท้องของผม มันกำลังจะวางมือบนท้อง เอ้องี่สิ..พอจะวางไอ้โฮโลมันก็เห่าแล้วทำท่าจะงับมือเจ้านายมัน ดีที่ไอ้เวรนี้มันชักมือเก็บก่อน....
“โซโลแกเป็นอะไร ฉันไม่ได้จะทำร้ายโฟมสักหน่อย” ผมไม่ได้มองหน้าไอ้คนพูดครับ แต่มองเจ้าหมาข้างๆ ที่แยกเขี้ยวอยู่ อยากรู้ว่าทำไมอยู่ ๆ มันถึงเกลียดเข้านายมันอย่างนี้
ผมพยายามลูบตัวของโฮโลเบา ๆ เหมือนปลอบมันให้สงบ แต่ดูเหมือนมันก็ยังขู่เจ้านายมันต่อไป จนในที่สุดมันก็เห่าคับห้องอยู่หลายที ทุกคนแตกตื่นกันไปหมดรีบวิ่งเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายมันก็เริ่มเดินเข้ามาหาไอ้เวรข้างๆ ผม ผมเห็นเหมือนมันพยายามไล่ไอ้เวรนี้มากกว่า จนแล้วจนลอดไอ้เวรนั้นก็ต้องออกจากห้องไปพร้อมกับไทยมุมที่ออกันอยู่ประตูห้องไม่กล้าเข้ามา สงสัยกลัวเจ้าหมานี้บ้ากันจริงๆ
เสียงประตูห้องนอนดังเป็นสัญญาณว่าเจ้าไฮโลได้ไล่ไอ้เวรนั้นไปสำเร็จ แล้วมันก็กระโดดขึ้นเตียงมานอนมองท้องผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมสิตกใจหมดกลัวมันมาแว้งกัดผมเอา
“เป็นอะไรของแก...” ผมพูดกับมัน....มันเหลือบตาขึ้นมามองผมเล็กน้อย แล้วก็นอนมองท้องผมต่อ
“โกรธเจ้านายแกรึไง” ผมพูดด้วยมันก็ไม่พูดด้วย เอาแต่ส่ายหางไปมา ผมลูบหลังมันอย่างปลอบ ๆ
“คิดถึงฉันขนาดนั้นเลยหรอ มาพิศสวาทอะไรฉันวะ” มันก็ยังไม่ตอบแต่หลับตาลงเลยทีนี้ มันตอบก็แปลกหมาแล้วละครับ เสียงเคาะประตู ทำให้ไอ้เจ้าไฮโลผงกหัวขึ้น พอเห็นว่าเป็นป้านองบีมันก็นอนส่ายหางต่อ
“นายใหญ่คะ คะ..คือ นายใหญ่จะรับอะไรไหมคะ” ผมเห็นท่าทางหวาดกลัวของป้านองบีที่เจอเจ้าไฮโลในแบบโหด จนไม่กล้าจะคุยกับผม ผมยิ้มแล้วส่ายหัวไปมา
“รับนมอุ่น ๆ ดีไหมคะ น้ำขิงสักถ้วย” ผมพยักหน้ายิ้ม ๆ จับตัวหมาไว้กลัวจะกระโจนหาป้านองบี พอได้รับการตอบรับก็รีบวิ่งออกจากห้องด่วน
“แกรู้ไหมว่าทำให้ใครต่อใครเค้ากลัวแก..” ผมคุยกับหมาอีกแล้วครับ แล้วก็ไม่ต้องการคำตอบด้วย
ผมลุกขึ้นอาบน้ำ..น้ำอุ่นทำให้ผมรู้สึกสบายตัวขึ้น ผมหากางเกงหลวม ๆ มาใส่ก็ไม่มี เลยหยิบเสื้อไอ้เวรนั้นมาใส่แทน แล้วก็สวมเสื้อไหมพรหมอีกที ผมออกจากห้องนอนมาพร้อมกับองค์รักษ์สีขาข้าง ๆ เดินไปที่ไหนชาวบ้านเค้าก็วิ่งหนีกันหมด ไม่รู้ว่าคนเค้ากลัวผมหรือกลัวหมา
“โฟม...ลงมาทำไมเดี่ยวพี่เอานมไปให้” ผมหันไปมองไอ้เวรนั้นอย่างเคือง ๆ มันทำเหมือนระหว่างผมกับมันไม่มีเรื่องอะไรบาดหมางกันมาก่อน
“โฮ่ง! โฮ่ง!~”
“โซโล!~ เงียบเดี่ยวนี้นะ” ไอ้เจ้านายของมันตะคอกหมาให้เงียบ แต่ดูเหมือนมันยังคงอยากทะเลาะกับเจ้านายมันอยู่ มันเลยขัดคำสั่งเห่าจนคนเสียหมา หมาเสียคนกันไปเลย...ผมรำคาญเมื่อยหลัง หนักท้อง เลยเดินมานั่งมองหมากับคนทะเลาะกัน
“ฉันบอกให้แกเงียบไง!” ไอ้คนก็ยืนด่าหมา
“โฮ่ง! โฮ่ง ๆ....” ส่วนหมาก็โฮ่งด่าคน ด่ากันไปด่ากันมาจนป้านองบียกนมกับน้ำขิงมาให้ผม ผมก็เลยเหมือนดูละครคนกับหมา.....จิบนมไปพรางดูคนกับหมาด่ากันไปพราง แล้วไอ้เวรนั้นก็เอาหมอนอิงมาถือไอ้หมาหน้าขนกระโดดงับหมอน ไอ้เจ้านายมันก็ออกแรงดึงหมาก็ลากไปตามแรงดึง พอคนหมดแรงหมาก็รากทั้งคนทั้งหมอนไปทางนอกบ้าน ยื้อกันไปยื้อกันมาไอ้เจ้านายมันดึงสุดแรงหมาก็ดึงสุดแรงหมอนคงหลุดมือไปหมาก็เลยกลิ้งไปไม่เป็นท่า
ผมหัวเราะก๊าก! เลยกับฉากที่เห็น ส่วนไอ้เจ้านายมันเห็นมันเสียหมาก็หัวเราะเยาะเย้ยสุด ๆ จนหมาเลือดขึ้นหน้าไล่กัดเจ้านายจริง ๆ ทีนี้ผมขำจนปวดท้องปวดหลัง เพราะไอ้ที่หัวเราะเยาะหมาเมื่อกี้วิ่งป่าลาบทีเดียว แถมวิ่งให้คนใช้ช่วย คนใช้ก็ดันวิ่งหนี ผมไม่รู้ว่าวิ่งกันไปถึงไหนแต่สุดท้ายก็มีแต่ไอ้เวรนั้นเดินกลับมาหาผมคนเดียว
“ไฮโลไปไหน...” ผมที่ตัวช่วยหาย เหลือคนเดียวก็ต้องหาตัวช่วยก่อนเป็นธรรมดา
“โดนขังอยู่ห้องหนังสือโน้น....” ผมเงยหน้าขึ้นไปชั้นบนได้ยินเสียงเห่าเบา ๆ เพราะห้องนั้นอยู่ไกลแล้วก็กำแพงหนาซะด้วย
“หิวไหม....” ผมเงยหน้าไอ้เนียนเดินมาลากเก้าอี้มานั่งใกล้ ๆ ผม
“เสือก!” ผมทักทายเค้าเล็กน้อยแล้วก็เดินออกจากบ้านไป
ป้านองบีวิ่งมาทางผมแล้วเอาเสื้อตัวหนามายัดผมใส่เหมือนเดิม ผมมองเสื้อที่ป้าใส่ให้แล้วนึกถึงตอนที่หนาวจับใจ ผมกอดป้านองบีแน่น ๆ แล้วก็เดินอ้อมไปด้านหลังของบ้าน ผมกำลังเดินไปโรงเรือนเดิมผ่านสวนหลังบ้าน คนงานทักทายผมเป็นระยะจนผมเข้าไปในโรงเรือนจึงเจอกับผู้ชายคนหนึ่งกำลังจับสตอเบอรี่ของผมอยู่
“คุณกำลังทำอะไร..” ผมหยุดมองชายแปลกหน้า พอเค้าหันมาหาผมเค้าก็ก้มหัวลงเล็กน้อย แต่ผมยกมือไหว้เค้าแทน
“สวัสดีครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาโดยไม่ขออนุญาตคุณ แต่จริง ๆ นี้มันของของเพื่อนผม ผมเลยไม่จำเป็นต้องขอคุณก่อน” ผมมองไอ้คนพูดอย่างงง ๆ
“ผมไม่มีสิทธิจะอนุญาต หรือห้ามใครได้หรอกครับ..ผมแค่อยากรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรเฉย ๆ”
“หรอครับ..แต่ดูที่คุณพูดกับผม คุณแสดงความเป็นเจ้าของที่นี้ซะคับโรงเรือน” ผมมองไอ้แว่นนี้อีกครั้งหลังจากมองดอกไม้รอบ ๆ มันพูดเหมือนมันเคืองผม
“งั้นผมต้องขอโทษที่รบกวนแล้วกันครับ” ผมยอมหลบดีกว่า ผมไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วอะไรหลบได้หลบ อะไรหลีกได้หลีก
“เดี่ยวสิคุณ...” ไอ้แว่นมันเดินมาขวางผม มึงจะมีเรื่องให้ได้ใช่ไหมวะ
“มีอะไรก็ว่ามา..ผมอยู่ที่นี้นาน ๆ ผมจะคับโรงเรือนเอา” ไอ้แว่นมันหัวเราะมุมปาก แล้วยื่นสตอเบอรี่ให้ผม พอผมยื่นมือไปรับมันกลับไม่วางสตอเบอรี่แต่มันกลับกินแทน
“ระวังของรักจะหลุดมือเอาได้นะ” มันพูดแค่นั้นแล้วก็เดินออกจากโรงเรือนไป ผมไม่ได้สนใจไอ้แว่นเท่าที่ควร ผมอยากไปหาตากับยายแต่เอาไว้ก่อนดีกว่าผมไม่อยากเดินมาก
ผมเดินเข้ามาในบ้านเลี่ยงไอ้เนียนนั้นที่เดินเข้ามาหาผม ผมรีบสาวเท้าไปที่บันไดเร็ว ๆ แต่ก็ไม่ทันไอ้เนียนขายาว
“เฮ้ย! ว๊าก!” ไอ้เนียนมันมาถึงก็อุ้มผมขึ้นเลย ผมตกใจรีบยกมือกอดคอมันแน่น กูตกไปลูกในท้องอีกสองนะมึง
“เกาะแน่น ๆ นะ” ผมหันไปมองไอ้คนที่อุ้มผมอย่างหมั่นไส้ ผมได้กลิ่นแปลก ๆ ที่โชยมาตามลมมันทำให้ผมอยากอ้วก หรือว่าผมเหม็นขี้หน้าไอ้เนียนที่อุ้มผมหว่า
“ปล่อยก่อน..” ผมปล่อยมือข้างหนึ่งออกจากคอ แล้วใช้ปิดปาก แต่ไอ้เวรนี้ไม่ยักจะปล่อยกลับยืนนิ่งอุ้มผมอยู่ได้
“เป็นอะไร..จะอ้วกอีกแล้วหรอ” ผมพนักหน้าอย่างเร็ว มึงปล่อยกูเซ่!
“อ้วกเลย” เอาเข้! มึงจะให้กูอ้วกออกสื่อรึไง กูก็อายเป็นจะโว้ย
“กูอ้วกจึงๆ นะ! อั๊วะ” เย็นไว้ลูก เย็นไว้ ...
“อ้วกเลย..ตามสบาย” มึงจะสบายแต่กูรังเกียจอ้วกตัวเอง ผมปิดปากกลั้นหายใจแล้วเอามือทุบมันเต็มแรงเท่าที่มี
“บอกแล้วจะอ้วกก็อ้วกเลย ถ้าพี่รังเกียจอ้วกโฟมพี่ก็ไม่มีหน้าดูแลโฟมอนาคตแล้ว” ซึ้งก็ซึ้งนะครับ แต่กูอ้วกจะพุ่งรดหัวมึงแล้ว มึงเข้าในสถานการณ์ไหมหะ! ไอ้ห่านี้
“มึงไม่รังเกียจอ้วกกู แต่กูรังเกียจอ้วกตัวเองถ้ามึงไม่ปล่อยก็รีบพาไปห้องน้ำทีเหอะ เร็ว ๆ!”
“ครับ ๆ ค้าป!” มึงครับแต่มึงเดินอย่างกะชมนางงามไอ้นี้ พอผมเห็นอ่างล้างหน้าผมก็ค่อย ๆ วางผมอยู่นั้นแหละ ผมก้มหน้าลงจะอ้วกแต่..ไม่ยักกะอ้วก
“ไหนบอกว่าอยากอ้วก”
“อั๊วะ..... แค๊ก ๆ อั่วะ....” มึงไม่น่าถามเลย ทีนี้ผมก็อ้วกไม่มีเป็นจังหวะ เลยครับ นับไม่ถูกว่าเป็นฮิปฮอบ สามช่า หรือว่าลูกทุ่ง ผมเกาะอ่างน้ำเหมือนกลัวว่าถ้าเงยหน้าขึ้นเลขหวยจะหาย พออ้วกจนลูกชายผมหนำใจแล้วผมก็ล้างปากออกไปจากห้องน้ำ ไม่รู้ว่าไอ้เนียนนั้นไปไหนเมื่อไร
ผมเดินไปนอนบนเตียงหายใจหอบ ๆ ลูบท้องไปมาเบา ๆ ลูก.....เบา ๆ หน่อยแม่จะตายเอาเพราะอ้วกนี้แหละ กินนมก็อ้วก..อย่างนี้ถ้าลูกโตมาแล้วเตี้ยไม่เท่จะสู้พี่บี้แม่ไม่รับผิดชอบด้วยนะ
“โฟมน้ำขิ......” ผมแค่เห็นหน้าไอ้เนียนนั้น ก็วิ่งชายเดี่ยว 1x100 เมตร ไปอ่างน้ำไม่ทัน ผมอ้วกเอาลมออก จนไม่มีอะไรจะอ้วก
“โฟมกินน้ำก่อน” ไอ้เนียนนั้นลูบหลังผม แต่ยิ่งลูบผมก็ยิ่งอ้วก
“มึงไปไกล ๆ กูเลย” ผมผลักไอ้เวรนั้นออกไปไกล ๆ
“พี่ไม่ไป...พี่จะดูแลโฟม” โอ้ย....ไอ้โฟมอยากจะบ้า ปากไม่ว่างด่าขอด่าในใจแล้วกัน
“ขอร้อง...มึงไปยืนไกล ๆ กูหน่อยก็ได้” ผมพยายามดันอกมันให้ห่าง ๆ ผม
“โฟมโกรธเกลียดพี่ขนาดนั้นเลยหรอ”
“กูบอกให้มึงไปไกล ๆ ไง!” ที่นี้ผมตวาดคับห้องน้ำเลยครับ มันค่อย ๆ เดินถอยหลังไปช้า ๆ ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ตวาด แต่ถ้ามันไม่ห่างผม ผมก็ไม่ยอมหยุดอ้วกอยู่ดี มันยืนมองผมอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“บอกแล้วให้ไปไกล ๆ เห็นไหมว่าไม่อ้วกแล้ว” ผมล้างปากแล้วเดินออกไปข้างนอก แล้วไอ้เนียนนั้นก็เดินถอยหลังเว้นระยะห่างกับผม
“โฟมจะบอกว่าที่อ้วกเพราะพี่เข้าใกล้โฟมหรอ” ผมคลานขึ้นเตียงมานอนบนเตียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ถ้าบอกว่าใช่ละ” ผมเอามือก่ายหน้าผาก ลูกหนอลูก...
“ทำไม...เพราะอะไร”
“ลูกบอกว่าเกลียดแกไง เค้าไม่อยากให้แกเค้าใกล้เข้าใจรึยัง” ผมไม่ได้มองว่ามันมีสีหน้ายังไง สักพักผมก็ได้ยินเสียงเดินออกไปจากห้องนอน
ป้านองบีกับขี้ปลาทองเข้ามาตั้งอาหารให้ผมถึงในห้องนอน ผมกินข้าวไปเยอะเหมือนกัน..กินบ้างเหม็นบ้างแต่ถ้าไม่กินกลัวลูกจะแขนสั้น ขาสั้น ตับแหว่ง อยากให้ลูกสมบูรณ์ไว ๆ ก็เลยกินเสียเยอะเลย ตบท้ายด้วยสตอเบอรี่สีแดงสดกับนมหนึ่งแก้ว โดยมีไอ้แว่นที่เจอในโรงเรือนเป็นคนถือมาให้
“รังเกียจสามีตัวเองหรอ” ผมหันไปมองไอ้แว่นนั้นด้วยหางตา ประสบการณ์ทำให้ผมมีภูมิต้านทานเรื่องแบบนี้แล้ว
“มันก็ไม่เกี่ยวกับ..คนนอก....นี้ครับ” ผมชายตามองเค้าด้วยหางตา แล้วก็กินสตอเบอรี่ต่อ
“ปากดีนี้..ถ้าโดนทิ้งจะเป็นยังไง” ไอ้แว่นมันนั่งใกล้ ๆ ผมหยิบสตอเบอรี่ในจานผมมากิน นี้พึ่งเจอศึกกับป้าเบญจาไปไม่ถึงวัน มีคนมาทวงสามีจากผมคืนอีกแล้วหรอครับ
“ก็ไม่เป็นยังไง อยากน้อยคนที่มาทีหลัง หรือพวกลับหลังก็ถือว่าเป็นเมียรอง เมียน้อย เมียเก็บ ชู้ หรือว่าพวกเพื่อนนอน ผมก็ไม่คิดเคืองอะไร..ยังไงผมก็ที่หนึ่ง” ผมยังคงกินสตอเบอรี่ของผมให้รสสตอเบอรี่ซึ้มในปากของผมต่อไป
“ไม่คิดว่าจะมีใครมาก่อนรึไง” ผมชะงักมือเล็กน้อยแล้วหันไปมองไอ้แว่นข้างๆ
“คิดสิครับ คิดว่าอดีตของเค้ายังไงก็ช่างเพราะยังไงผมก็คือปัจจุบันของเค้า แล้วก็คงยังเป็นอนาคตของเค้าอยู่ ผมกินในที่แจ้งเป็นที่รู้จักใจฐานะคู่ชีวิต ผมควรจะสงสารพวกมาก่อนแต่ได้เป็นแค่ของเล่น หรือของชั่วคราวมากกว่า เป็นของเค้าแค่ชั่ว..คราว ผมที่อยู่ในฐานะ...จะว่ายังไงดี อ้อ..เค้าเรียกว่าฐานะสูงกว่า ควรจะเห็นใจสงสาร ดีกว่าสมเพสนะครับ”
ผมยิ้มตอแหลสุด ๆ ใส่ไอ้แว่นนั้น ผมมีศัตรูอีกคนแล้วครับแล้วเค้าก็มาแวะเอาสาส์นท้ารบแบบผู้ดีเสียด้วยมาฝากถึงฐานทัพ จะมีพวกเพศที่สาม ที่สี่ ที่ห้า แม่ม่าย ชายชู้ เด็กนักศึกษา หรือไซด์ไลน์มาอีกไหมครับ ผมจะได้เอาตารางมาทำแล้วนัดกันเป็นเรื่องเป็นราว หรือว่าผมจะจ้างผู้จัดการส่วนตัวดี
“ไม่กลัวจะตกจากที่สูงหรอครับ” ไอ้แว่นนั้นหันมามองหน้าผมปากยิ้มแต่ตาจิก นางร้ายชัด ๆ ผมนะนางเอก
“ก่อนที่ผมจะตก คงเหยียบข้างล่างจมดินแล้วละครับ” ผมพูดแค่นั้นไอ้แว่นนั้นก็หยิบจานสตอเบอรี่ของผมไป แล้วเปิดหน้าต่างโยนของในจานจนเหลือแต่จานเปล่า แถมไม่พอเปิดหน้าต่างทุกบานแล้วออกจากห้อง
“จำคำพูดคุณไว้แล้วกัน....” ผมมองไอ้แว่นที่ฝากทิ้งท้ายไว้
“จำไม่หมดหรอกครับ ว่าง ๆ คุณก็จำแทนแล้วจำใส่สมองคุณด้วยนะครับว่าผมพูดอะไร เวลาเราเจอกันผมจะได้ถาม” ผมยิ้มแล้วโบกมือให้ แต่เค้าเสียมารยาทมาก ๆ ปิดประตูใส่หน้าผมอย่างนั้น
ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นปิดหน้าต่างทุกบาน ด้านล่างเห็นไอ้ผัวเลวกำลังลากไอ้ไฮโลเข้าบ้านอยู่ ไม่ไกลก็มีน้าอาเมทคอยให้กำลังใจเจ้านายไกล ๆ
“โฮ่ง!” มันยื้อตัวแล้วเงยหน้ามาทักผม จนทั้งคนจูง ทั้งหมา ลูกน้องเงยหน้ามามองผมเหมือนสุริยุปราคาที่นาน ๆ จะโผล่มาให้เจอที
“ลูก ๆ สงสารแม่ไหม..พ่อหนูมีกิ๊กเยอะเหลือเกินแม่จะรับมือไหวไหมลูก ลูกช่วยแม่ปราบหน่อยนะ” ผมลูบท้องตาก็มองไอ้ตัวพ่อที่ผมว่ากำลังยื้อแรงกับหมาตัวเองอยู่
“พี่ทรี! ปล่อยไฮโลแล้วมาหาผมข้างบน เดี่ยวนี้! ตอนนี้!” ผมตะโกนลงไป ไอ้ผัวเลวผมคงตกใจปล่อยสายจูงจนไอ้ไฮโลมันวิ่งเข้าบ้านมาก่อน เสียงเรียกมาให้รอแต่มีหรือว่าไฮโลจะรอ ผมกลับไปปิดหน้าต่างจนเสร็จทั้งหมาทั้งคนก็เข้ามาพอดี
“พี่เข้าไปโฟมไม่อ้วกแล้วนะ” ไอ้ผัวเลวมันยืนอยู่หน้าประตู ผมที่นั่งปลายเตียงส่ายหน้า
“ไม่รู้..บอกลูกแล้วไม่รู้ลูกจะเชื่อไหมเข้ามาเถอะ” ไอ้ไฮโลพยายามจะมุดระหว่างขาเจ้านายมันเข้ามาหาผมก่อน แต่มันก็เข้าไม่ได้ จนไอ้ผัวเลวผมเข้ามานั้นแหละมันถึงกระโจนขึ้นเตียงมาดมท้องของผม
“ไม่เป็นไรแล้วนะ” ผมก้มมองผู้ชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม ใบหน้าของเค้าแนบกับท้องผมอยู่
“ไม่เป็นไรแล้ว...มีเรื่องจะถาม” ไอ้เลวนั้นเงยหน้าขึ้นแต่มือยังไม่ยอมปล่อยเอวผม
“ยายป้าเบญจาคือใคร? ไอ้แว่นนั้นเป็นใคร? นายเคยมีอะไรกับผู้ชาย ผู้หญิง ตุ๊ด ประเทือง กระเทย นักศึกษา เอาเป็นว่าเคยได้เสียเลี้ยงดูกับใครบ้างบอกมาให้หมด” ผมทำหน้าเหี้ยมใส่ไอ้คนที่คงหมดแรงนั่งแบะกับพื้นพรหมแต่มือยังไม่ยอมปล่อยเอวผม หัวของมันซบกับขาของผมนิ่ง ๆ
“ทุกคนเลยหรอ” ยัง..ยังจะทำเป็นเสียงอ่อยเดี่ยวมึงจะตายไม่รู้ตัว
“ทุกคน...ไม่มีเว้น”
****
มาแก้คำผิดคะ เจออีกแจ้งจับได้เลยนะคะ