Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 160865 ครั้ง)

ออฟไลน์ LoveRead

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่6 (P6-280160)
«ตอบ #180 เมื่อ06-02-2017 19:41:11 »

ชอบจังค่ะ
มาดันนน
 :L1: :L1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่6 (P6-280160)
«ตอบ #181 เมื่อ06-02-2017 20:49:42 »

น้องลู่มาได้แล้ววววววว :katai2-1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #182 เมื่อ07-02-2017 05:04:55 »

ภาคกวางทอง

บทที่เจ็ด

ค่ำวันนั้นเองที่แม้แต่เสี่ยวเป่าก็ยังรู้สึกได้ว่าคุณชายลู่ของเขากำลังหลีกเลี่ยงที่จะพบกับทุกคนที่มาจากเมืองเหอ
เสี่ยวเป่าตัวกลม อารมณ์ดีขอเน้นอย่างมั่นใจว่า ทุกคน! ไม่เว้นแม้แต่คนรับใช้ที่เมืองเหอส่งมา 
เพราะตลอดทั้งวัน คุณชายลู่จะไปอยู่ที่ห้องสมุด ทั้งร่วมรับฟังอาจารย์ไปพร้อมกับคุณชายน้อยทั้งสองคน เล่นอยู่ด้วยกัน ดูสมุดภาพอยู่ด้วยกัน เมื่อคณะของเหอหลินจื้อมาถึงอย่างอึกทึกครึกโครมในช่วงบ่าย แล้วฮูหยินต้องพาคุณชายน้อยทั้งสองออกมาต้อนรับ คุณชายลู่ก็ขอแยกไปอยู่ในสวน มิได้ออกมาต้อนรับ

เสี่ยวเป่ารู้สึกว่ามันแปลก ๆ จึงไปสอบถามหยางหลงเจ้าเมืองลั่ว ว่าการที่คุณชายลู่ไม่ออกไปรับแขกคนสำคัญ ที่มีศักดิ์เป็นท่านลุงของเจ้าเมืองจะทำให้เกิดความไม่พอใจอะไรหรือไม่
แต่เจ้าเมืองมิได้มีความเห็นอันใด เพียงแค่พยักหน้ารับทราบ
ขณะที่หลิวเพ่ยหลิงฮูหยินเจ้าเมืองลั่ว เมื่อทราบว่าคุณชายลู่ไม่ได้ออกมาร่วมรับแขก ก็บอกกับเสี่ยวเป่าและเซียงเซียงให้เปลี่ยนที่พักให้กับคุณชายลู่อีกครั้ง นั่นคือจากเรือนโบตั๋น แล้วย้ายไปเรือนรับรองสายฝนที่นอนเมื่อคืน ก็จะพากันย้ายออกไปเรือนหลานฮัวที่อยู่ห่างออกไปทางด้านหลังและใกล้กับสวนดอกไม้
เป็นเรือนหลังเล็ก ไม่มีทางเดินเชื่อมต่อกับเรือนหลังอื่น และไม่ค่อยได้ใช้รับแขก
 
"เรือนหลังนั้นออกจะเล็กไปสักนิด แต่ก็อยู่ห่างจากพวกท่านลุงเหอ เจ้าพาคุณชายลู่ไปดูก่อนว่าชอบหรือไม่ หากชอบก็ค่อยทำความสะอาด และเตรียมให้เข้าพัก"

เสี่ยวเป่าเกาแก้มตนเองขณะที่เดินกลับไปหาคุณชายลู่
หลังจากที่รับใช้ใกล้ชิดกันมาหลายวัน ทำให้พอจะเดาใจได้ว่า เมื่อเจ้าบ้านบอกให้ไปนอนเรือนเล็กห่างไกลหลังนั้น คุณชายลู่จะไม่ปฏิเสธ หรือต่อให้ฮูหยินเจ้าเมืองบอกให้ออกไปนอนที่โรงเตี๊ยมในเมือง เสี่ยวเป่าก็คิดว่าคุณชายจะยิ้มรับแต่โดยดี
และก็เป็นดั่งคาด คุณชายลู่พยักหน้าเห็นด้วยตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้ไปดูว่าเรือนนั้นตั้งอยู่ตรงไหนของจวนเจ้าเมือง และมีสภาพแบบไหน
ในมุมมองของเสี่ยวเป่าเป็นดังนั้น
แต่ในมุมมองของลู่กลับเป็นไปอีกทาง เรื่องจะให้ไปพักที่ไหน หรือต่อให้ไม่มีที่พักก็หาใช่เรื่องใหญ่ นั่นเพราะลู่เป็นผู้ที่มาจากป่าสีทอง ซึ่งหาได้ต้องการที่พักใหญ่โต หรือความสะดวกสบายใด ๆ ขอเพียงร่มเงาไม้ให้พักพิงกับผลไม้สะอาด ลู่ก็พึงพอใจแล้ว

แต่เสี่ยวเป่า กับเซียงเซียงสองพี่น้องไม่เข้าใจความคิดนี้ จึงมองว่า การย้ายไปห่างไกลคือการไม่ให้เกียรติ จึงช่วยกันกล่าวถึงข้อดีของเรือนพักหลังนี้อย่างเลิศลอย
สองคนพี่น้องเล่าว่า หยางติงอดีตเจ้าเมืองสร้างเรือนพักแห่งนี้สำหรับรับรองนักพรต เหล่าอาจารย์และบัณฑิตที่เดินทางมาจากต่างเมือง และต้องการมาศึกษาตำราในห้องสมุดที่จวนเจ้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมาพักนานกว่าหนึ่งเดือน ทำให้เรือนรับรองหลังนี้อยู่ห่างจากเรือนหลังอื่น

"บางท่านไม่สะดวกที่จะหยิบยืมตำราจากที่นี่กลับไปศึกษาที่อารามหลวงหรือที่โรงเตี๊ยมในเมืองน่ะขอรับ แล้วก็มีที่เคยพักอยู่ในเรือนรับรองหลังอื่น แต่ก็มีคนนั้นคนนี้เดินทางเข้าออกตลอด สุดท้ายท่านอดีตเจ้าเมืองจึงให้สร้างเรือนหลังนี้ ที่นี่สงบเงียบมากจริง ๆ นะขอรับ"

ลู่เข้าใจความเกรงใจ และความปรารถนาดีของทุกคน เมื่อมาถึงเรือนรับรองหลานฮัว ก็ชื่นชมกับบรรยากาศโดยรอบ สองพี่น้องจึงเบาใจและพากันชี้ชมดอกไม้ในสวนต่อไป
เพียงแต่จวนเจ้าเมืองลั่วมิได้กว้างขวางดั่งวังหลวง ความวุ่นวายของคณะผู้ที่มาจากเมืองเหอ ยังสามารถรับรู้ได้ถึงเรือนพักหลังนี้ ด้วยเสี่ยวเป่าอีกเช่นกันที่นำเรื่องมาเล่าอย่างละเอียดยิบดั่งเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้า

"นายท่านเหอ พอมาถึงก็เสียงดังใส่ท่านเจ้าเมือง โวยวายคล้ายกับที่นายหญิงบ่นก่อนหน้านี้ ช่างสมกับที่เป็นพี่น้องกันเลยจริง ๆเลยขอรับ" ยิ่งเล่าก็ยิ่งที่ทำให้คนฟังรู้สึกสงสารฝ่ายเจ้าเมืองลั่วมากขึ้นกว่าเดิม
"แล้วท่านเจ้าเมืองกับนายท่านหยางติงว่าอย่างไร"
"ไม่ว่าอย่างไร และไม่เคยว่าอย่างไรได้อยู่แล้ว ตอนที่นายหญิงบ่นแล้วเงียบอย่างไร มาจนถึงเวลานี้ก็ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิมขอรับ" เสี่ยวเป่ายกนิ้วชี้ขึ้นมาหมุน ๆ
"เขาจะทะเลาะกันไหม"
"ไม่หรอกขอรับ ตั้งแต่แรกมา ก็มิเคยทะเลาะกัน ทั้งบิดาและบุตรปล่อยให้นายหญิงบ่นว่าไปตามใจ แต่พวกเขาก็ยังคงทำตามที่ตกลงกันไว้"
ลู่หัวเราะเบา ๆ "คล้ายจะดื้อเงียบทั้งพ่อทั้งลูก" จากนั้นลู่ก็เปลี่ยนเรื่องคุย "แล้วนี่ต้องไปช่วยเขารับรองแขกหรือไม่ หากเขาเรียกให้ไปก็ไปได้นะ"
"ไม่ต้องขอรับ ท่านเจ้าเมืองย้ำให้ข้าอยู่กับคุณชายลู่  คาดโทษไว้ด้วยว่าถ้าปล่อยให้คุณชายอยู่คนเดียวอีก จะให้ข้าอดขนมสามวัน"
ลู่ทำหน้าเหยเก "สามวันเชียวหรือ"
"นั่นสิขอรับ ตั้งสามวันเชียวนะ นี่คือโทษรุนแรงที่สุดของเมืองลั่ว ช่างโหดร้ายยิ่งนัก"
ลู่กับเสี่ยวเป่ามองหน้ากันแล้วหัวเราะเสียงดัง

ส่วนบรรยากาศในส่วนของจวนเจ้าเมืองกลับเคร่งเครียดมาตลอดตั้งแต่ฝ่ายเมืองเหอเดินทางมาถึง เมื่อเหอหลินจื้อเปิดปากถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นทั้งเรื่องครอบครัวและการเมืองชนิดไม่เว้นว่างให้ผู้อื่นได้พักหู
 
หยางหลงในฐานะเจ้าเมืองลั่วตอบกลับไปด้วยท่าทีอ่อนน้อมอย่างยิ่ง "ในฐานะหลาน หลานยินดีที่ท่านลุงให้ความเชื่อมั่นมายินดีกับหลานด้วยตนเอง แต่ในฐานะเจ้าเมือง หลานเห็นว่า เมืองลั่วหาได้มีความสำคัญอันใดในทางยุทธศาสตร์ เราเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ หากวันหนึ่งข้างหน้าจะต้องถูกพัดพาเข้าสู่สงคราม ก็ขอให้มันเกิดขึ้นด้วยไม่เหลือทางเลือกอื่นใดแล้วเถิด"
"แสดงว่าเวลานี้เจ้ามีทางเลือกเช่นนั้นหรือ"
หยางหลงพยักหน้าช้า ๆ ทำให้เหอหลินจื้อทุบโต๊ะเสียงดัง
"ญาติพี่น้องดั่งแขนขา เจ้ากลับเลือกที่จะอยู่ฝั่งที่เอาแต่สูบเลือดเนื้อ!"
"ดูเหมือนท่านลุงจะมาเพื่อกล่าวประณาม หาได้มาเพื่อยินดีที่ข้าได้เป็นเจ้าเมือง และไม่คิดที่จะโน้มน้าวให้ข้าเปลี่ยนใจไปหาท่านแม้แต่น้อย"
หยางหลงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ดวงตาเป็นเส้นโค้ง จนหยางไห่เปลี่ยนเสียงหัวเราะให้กลายเป็นการไอแทบไม่ทัน

เหอหลินจื้อ และเหอชินรุ่ยนั้นมีนิสัยคล้ายกันตรงที่ไม่ชำนาญในการรอมชอม ต้องการสิ่งใดก็จะพุ่งตรงเข้าหา หากไม่ได้ก็จะโวยวายใส่ผู้ที่ขัดใจ เมื่อต้องมาพบกับนักเจรจาอย่างหยางหลง เมื่อเริ่มเปิดปากเจรจาเพียงไม่กี่ประโยคก็ทราบผู้ชนะแล้ว
ก่อนที่เจ้านายจะเสียหน้าไปมากกว่านี้ เลขาของเหอหลินจื้อ ต้องเลี่ยงไปถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ของชาวเมืองลั่ว เพื่อที่จะวกกลับมาที่บรรดาหลาน ๆ
ทั้งที่โดยมารยาทการเจรจา สมควรถามไถ่ความเป็นอยู่ของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นการเมือง

หยางไห่ตีสีหน้าเห็นใจเลขาของเหอหลินจื้ออย่างออกนอกหน้า
....เป็นเลขาของคนใจร้อนนี่ช่างเป็นงานหนักยิ่งนัก

หยางเฉิงช่วยคลี่คลายสถานการณ์ด้วยการหันไปเรียกให้บรรดาสะใภ้ทั้งหลาย พาหลาน ๆ มาคารวะท่านปู่เหอ
เหอหลินจื้อจึงตัดสินใจพักความไม่พอใจนั้นไว้ก่อน นอกจากนี้ฝ่ายเมืองเหอ ยังต้องการสร้างความคุ้นเคยกับบรรดาผู้ที่อยู่หลังบ้านของกลุ่มพ่อลูกเมืองลั่ว เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองในอนาคตต่อไปอีก

ในครอบครัวอื่นสามีเป็นผู้นำ ภรรยาเป็นผู้ตามทั้งไม่เข้าแทรกแซงการทำงานของสามี แต่ไม่ใช่เหอชินรุ่ย ตั้งแต่พี่รองของนางเดินทางมาถึงนางก็ประกาศตัวว่าอยู่ข้างพี่รองมาตลอด จนกระทั่งหยางหลงกล่าววาจายอกย้อนเหอหลินจื้อ นางจึงเงียบไป
รอจนกระทั่งเหอหลินจื้อชมการแสดงของหลาน ๆ จบลงแล้วมอบรางวัล และเด็ก ๆ กลับไปหมดแล้ว เหอชินรุ่ยจึงหันมากล่าวกับพี่รองในเชิงออกตัว
นั่นคือการกล่าวถ้อยคำในฐานะตัวแทนของเมืองลั่ว ว่าแท้จริงแล้ว ทุกคนในเมืองนี้ยืนอยู่ข้างเมืองเหอ มีก็แต่หยางติงที่หวั่นเกรงแต่ภัยสงครามจนพาให้เมืองลั่วไม่ได้พัฒนา
เมื่อน้องสาวเป็นคนเริ่มเรื่อง เหอหลินจื้อก็พร้อมที่จะกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้งในทันที

หยางเฉิงกับหยางไห่ลอบมองหน้ากันอยู่ทางด้านหลัง ดูท่าว่าการสนทนาจะต้องกลับมาที่จุดเริ่มต้นกันอีกหลายรอบ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมแพ้ไปเอง
 
เมื่อเหอหลินจื้อกล่าวถ้อยคำต่อว่าหยางติงในฐานะอดีตเจ้าเมืองลั่วอย่างตรงไปตรงมาที่ปฏิเสธความหวังดีของฝ่ายเมืองเหอ หลังการเจรจาหารือกันในทางลับอย่างยาวนาน หยางติงก็กลับมอบให้หยางหลงไปยื่นหนังสือที่เมืองหลวง พอกลับมาก็ยกตำแหน่งเจ้าเมืองให้
หยางติงกล่าวคำชี้แจงยังไม่ทันจะจบประโยค เหอชินรุ่ยก็กล่าวความเห็นแทรกขึ้นมา ซึ่งล้วนคือคำกล่าวตำหนิหยางติงเช่นเดียวกัน
นางกล่าวคำตำหนิสามีต่อหน้าพี่ชายตนเอง บุตร และผู้ติดตามมากมาย หากเป็นบ้านอื่น ฮูหยินผู้นี้คงได้กลับไปอยู่ที่ครัวหลังบ้าน แต่สำหรับบ้านนี้ เหอชินรุ่ยยังคงนั่งเคียงข้างพี่ชายอยู่ที่เก้าอี้หัวโต๊ะ ส่วนหยางติงได้แต่กลืนเลือดตนเองแล้วฝืนยิ้มรับแขก

หยางหลงเจ้าเมืองลั่ว มองบิดาดั่งให้กำลังใจ เพราะรู้แล้วว่า ยิ่งชี้แจง ยิ่งอธิบาย บิดาคือคนที่จะถูกประณามมากขึ้น
ที่ก่อนหน้านี้ตระเตรียมไว้ว่าจะออกหน้ารับแทนบิดา กลับถูกมารดาตีกลับทั้งหมด
หยางหลงยิ้มแย้มขณะที่กล่าวถ้อยคำย้ำว่าตนคือผู้ตัดสินใจเรื่องราวทั้งหมด 
"ข้าตัดสินใจด้วยการยกผลประโยชน์ของเมืองลั่วเป็นที่ตั้ง แน่นอนว่าย่อมมีการพิจารณาเกี่ยวกับการรักษาสายสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย ซึ่งการที่เมืองลั่วเปิดบ้านต้อนรับท่านและทุกเมืองที่ให้การสนับสนุนท่าน ก็น่าจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมืองลั่วมิได้หันหลังให้กับผู้ใด" 

ขณะที่การเจรจาของผู้ใหญ่เป็นไปอย่างตึงเครียดโดยปราศจากความก้าวหน้า บุตรชายบุตรหญิงของหยางเฉิงและหยางไห่กลับไปที่เรือนของตนเอง แต่หยางเจียเจิงกับหยางเจิ้นขุย มิได้กลับไปที่เรือนพัก กลับมาเล่นอยู่กับลู่ และเสี่ยวเป่าที่เรือนหลานฮัวที่อยู่ห่างไกล
ทั้งหมากล้อม วาดภาพ เป่ากระดาษ สารพัดการละเล่นที่จะหามาเล่นด้วยกัน จนยามดึกเมื่อนางพี่เลี้ยงมาเรียกให้กลับไปพักที่เรือนของตนเอง ทั้งคู่ก็ขอที่จะนอนที่เรือนเล็กหลังนี้
"คืนนี้พวกเรานอนที่เรือนนี้กับพี่ลู่ได้ไหม" เมื่อหยางเจิ้นขุยร้องขอ มีหรือที่ลู่จะขัดใจ

ดังนั้น เมื่อหยางหลงแวะมาที่เรือนหลานฮัวในยามดึกจึงพบว่าลู่ยังดูสมุดภาพอยู่กับบุตรชายทั้งสองคน โดยมีหลิวเพ่ยหลิงที่มีสีหน้าเกรงใจอย่างยิ่ง
"เด็ก ๆ ขอว่าจะนอนกับคุณชายลู่"
"นอนได้นะ" ลู่ยิ้มกว้าง
เมื่อเห็นว่าลู่อนุญาต หยางหลงจึงบอกให้หลิวเพ่ยหลิงกลับไปพักก่อน ด้วยวันนี้เหน็ดเหนื่อยวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว ส่วนตนเองจะพาเด็ก ๆ ทั้งหมดเข้านอนเอง
หยางเจียเจิงและหยิงเจิ้งขุยสองพี่น้องนอนที่เตียงใหญ่ ทั้งคู่ไม่เคยเข้านอนดึกขนาดนี้มาก่อน เมื่อหัวถึงหมอนก็หลับไปในทันที ส่วนลู่คราแรกก็ทำท่าว่าจะนอนเตียงเดียวกัน แต่เมื่อเห็นทั้งสองคนนอนสบายก็เปลี่ยนใจไปนอนที่เก้าอี้ตัวยาวในห้อง โดยมีเสี่ยวเป่าอาสานอนที่พื้นเหมือนเดิม
หยางหลงกระชับผ้าห่มให้บุตรชายทั้งสองคนแล้วเดินทางหาลู่ที่เก้าอี้ยาวอีกด้าน
"วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานของท่าน" ลู่จับมือให้กำลังใจ
"แต่สุดท้ายแล้ววันนี้จะผ่านไป กลายเป็นวันวาน ที่ท่านลุงมิพอใจ ก็เพราะท่านแม่ไปตกปากรับคำพวกเขาไว้"
ลู่พยักหน้า "ตอนที่ไปยื่นหนังสือที่เมืองหลวง ท่านแจ้งมารดาหรือเปล่า"
"นางย่อมทราบอยู่แล้ว"
"นั่นมันก็ใช่" ลู่เกาหน้าผาก "แต่บอกนางก่อน กับการคิดว่านางทราบแล้วก็เลยไม่บอกน่ะมันไม่เหมือนกันนะ"
"หากบอกก่อนไป นางก็จะโกรธและไม่พอใจ"
"แต่หากไม่บอก นางก็ยิ่งไม่พอใจ"
เจ้าเมืองคนใหม่คล้อยตาม "ถูกของเจ้า ไม่ว่าอย่างไรตามนางก็ไม่พอใจ เพราะประเด็นสำคัญคือพวกเราไม่ได้ทำในสิ่งที่นางต้องการ"

หยางหลงหันไปมองที่เตียงนอนของบุตร เห็นทั้งสองคนหลับไปแล้ว ส่วนเสี่ยวเป่าก็นอนหันหลังให้ จึงก้มลงจูบปากลู่
"หลับเถิด ข้าก็จะกลับไปพักผ่อนแล้ว"

แต่ในคืนวันนั้น เหอหลินจื้อยังคงพูดคุยกับน้องสาวอยู่ที่เรือนรับรองโบตั๋นจนยามดึก คนรับใช้ที่เข้าไปเปลี่ยนน้ำชา ได้ยินเสียงสนทนาบางถ้อยคำเกี่ยวกับคุณชายลู่

ส่วนลู่ แม้จะมีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะหลีกเลี่ยงการพบเจอคนจากเมืองเหอให้มากที่สุด แต่ความพยายามนี้ไม่เป็นผล เพราะในช่วงเที่ยงของวันถัดมา ลู่ก็ต้องพบกับพวกเขาในสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างยิ่ง

ตั้งแต่เช้า จวนเจ้าเมืองลั่วยังคงวุ่นวายด้วยการรับรองเหอหลินจื้อ พร้อมคณะผู้ที่มาจากเมืองเหอ วุ่นวายกันตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าจวน จนถึงคนงานในห้องครัว

พอถึงช่วงสายหลังจากที่บุตรชายหญิงของหยางเฉิงรับอาหารเช้าเสร็จสิ้น ก็รบเร้าให้มารดาของพวกตนและพี่เลี้ยงพามาหาลู่ที่จวนเจ้าเมือง
ชุนผิงฮูหยินใหญ่ของหยางเฉิงเห็นว่า การให้เด็ก ๆ มาเล่นด้วยกันไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ทั้งหากมารดามาเห็นว่าเด็ก ๆ เข้ากันได้ดีและมีความสุขก็อาจทำให้นางอารมณ์ดีขึ้น แต่เมื่อพี่เลี้ยงจะพาเด็ก ๆ ออกมาที่จวนเจ้าเมือง ซูเหยาฮูหยินหกของหยางเฉิงทราบเรื่องเข้า ก็ขออาสาเป็นคนพาเด็ก ๆ มากับบรรดาพี่เลี้ยงด้วยตนเอง
ทุกคนล้วนรู้ดีว่า ฮูหยินหกต้องการโอ้อวดกับผู้ที่มาจากเมืองเหอว่าตนก็มีบทบาทสำคัญในเรือน หาใช่เพียงอนุต่ำต้อยผู้หนึ่ง
ดังนั้นก่อนที่จะพากันออกมาจากเรือนของหยางไห่ ชุนผิงจึงกล่าวเตือนเรื่องมารยาทอีกหลายคำ
"จะอย่างไรคุณชายลู่ก็เป็นแขกของท่านพ่อและเจ้าเมือง เจ้าก็อย่าได้ไปวุ่นวายกับเขามากนัก ท่านพี่" นางหมายถึงหยางเฉิง "ไม่ชอบให้เราไปวุ่นวายที่จวนเจ้าเมืองมากนัก"
ซูเหยารับคำ แต่พอหันหลังให้ก็ลอบเบ้ปาก นึกดูหมิ่นคำเตือนของฮูหยินใหญ่ จากนั้นก็นวยนาดเดินนำทุกคนไปที่จวนเจ้าเมือง
ก่อนหน้านี้นางมาที่จวนเจ้าเมืองไม่บ่อยนัก แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นางมาที่นี่ทุกวันเพื่อรายงานเรื่องราวต่าง ๆ ให้มารดาของสามีรับทราบ

ครานี้นางพาเด็ก ๆ ตรงไปที่เรือนพักของลู่ ด้วยท่าทีโอ้อวดว่านางรู้จักสถานที่แห่งนี้ดีอย่างยิ่ง
"เด็ก ๆ บ่นคิดถึงคุณชายลู่ เมื่อวานก็ไม่ได้เล่นด้วยกัน เมื่อเช้าพอรู้ว่า เจียเจิงกับเจิ้งขุยนอนอยู่ที่เรือนนี้ วันนี้ก็เลยรบเร้าให้พามาหา"
ซูเหยาเริ่มการสนทนาอย่างเป็นทางการ รู้สึกเก้ออยู่เหมือนกันที่ลู่ไม่หันมามอง
เห็นเพียงมุมปากที่ยกยิ้ม แต่กลับหลุบตามองของเล่นตุ๊กตาม้าไม้ที่อยู่ในมือ จากนั้นก็หันหลังให้ เมื่อหันไปมองเด็ก ๆ ทุกคนก็ตรงเข้าไปหาของเล่น บรรดาพี่เลี้ยงก็หันไปพูดคุยสอบถามเซียงเซียงว่าต้องการให้ช่วยเหลือสิ่งใด
เมื่อไม่เป็นที่สนใจของผู้ใด ซูเหยาจึงขอตัวไปหาเหอชินรุ่ย

เมื่อนางเดินห่างออกไป ลู่ถึงได้หันกลับมามอง และทำให้เห็นบรรดาพี่เลี้ยงคนรับใช้ที่กำลังป้องปากนินทาซูเหยา เมื่อพวกนางเห็นว่าลู่กับเด็ก ๆ กำลังมองมาก็พากันยิ้มเก้อ บางคนหันไปช่วยคนรับใช้ที่ถือถาดขนมและผลไม้มาช่วยกันจัดวาง

"ตอนไปบ้านข้า มีขนมมากกว่าที่จวนเจ้าเมืองเสียอีก" หยางฉวนบุตรชายคนโตของหยางเฉิงหันมาโอ้อวดกับหยางเจียเจิง ทั้งสองคนอายุหกปีเท่ากันและมักจะเรียกชื่อมากกว่าการเรียกหาเป็นพี่น้อง
ส่วนหยางเจิ้นขุย กับหยางจง ไม่สนใจการโอ้อวดของพี่ใหญ่ ต่างสนใจกับตุ๊กตาม้าไม้ที่อยู่ในมือลู่ต่างแย่งกันไต่ถามและชื่นชมเสี่ยวเป่าที่เป็นคนทำของเล่น
ขณะที่หยางเย่เจียกับหยางจื่อเจ๋อ สองสาวน้องเล็ก ไม่สนใจการโอ้อวดและไม่สนใจของเล่น ต่างหันไปหาขนมหวานในขวดโหล เซียงเซียงรีบเปิดขวดโหลเพื่อให้คุณหนูหยิบกินเอง
"เพิ่งกินมาจากบ้าน พอมาถึงก็หิวเสียแล้ว" พี่เลี้ยงหันไปทำหน้าตาเก้อเขินกับเซียงเซียง
"กินเถอะ เซียงเซียงเตรียมไว้เยอะเลย" ลู่บอกแล้วหันไปถามเด็กผู้ชายสี่คนว่าต้องการขนมหรือผลไม้หรือไม่ ทั้งสี่คนบอกว่าต้องการผลไม้ แล้วเข้ามารุมล้อมผลสาลี่ในถาด
ผลไม้สีสวย กลิ่นหอม รสหวาน หยางเจียเจิงกัดคำแรก แล้วหันไปอวดกับหยางฉวนว่าผลไม้ที่จวนเจ้าเมืองต้องมีรสชาติอร่อยกว่าที่เรือนของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน หยางฉวนไม่ยอมแพ้บอกว่า ผลไม้ที่จวนเจ้าเมืองอร่อยสู้ที่เรือนของตนไม่ได้
เสียงโอ้อวดของพี่ใหญ่สองคนพลันชะงักค้างเมื่อหยางเจียเจิงกำมือแน่นกดที่หัวใจ ไม่มีเสียงร้องขณะที่ค่อย ๆ งอตัวลง
หยางฉวนที่โต้เถียงกันอยู่ร้องตะโกนเรียกลู่ และพี่เลี้ยงเข้ามาดู  ลู่หันไปคว้าตัวหยางเจียเจิงให้ทรุดตัวลงมาในอ้อมกอดแล้วหมดลมหายใจไปต่อหน้า

มีเสียงกรีดร้องอยู่รอบตัว แต่ลู่มองเห็นเพียงหยางเจียเจิงบุตรชายคนโตแห่งหยางหลงเจ้าเมืองลั่ว ที่สิ้นใจอยู่ในอ้อมแขน
ร่างเล็ก ๆ นั่นคล้ายเพียงหลับไป หากว่าริมฝีปากนั้นจะไม่เขียวคล้ำลงอย่างรวดเร็ว ที่บ่งบอกว่าถูกพิษร้าย
ลู่รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมือคู่หนึ่งชิงหยางเจียเจิงไปจากแขน
เป็นหยางหลง และหลิวเพ่ยหลิง ที่กอดบุตรชายคนโตไว้แล้วเรียกชื่อไม่หยุด
หยางหลงบีบปากของหยางเจียเจิง เพื่อล้วงเศษผลไม้ออกจากลำคอ จากนั้นก็ทุบหลังบุตรชาย พยายามที่จะให้ร่างน้อย ๆ ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง แต่ไม่อาจฟื้นคืน
แพทย์ประจำจวนเจ้าเมืองที่เร่งเดินทางมาถึงก็ไม่อาจทำให้ลมหายใจกลับคืนมา

"จับเด็กคนนั้นไว้!" เสียงของคนที่ลู่พยายามหลีกเลี่ยงการพบเจอมาตั้งแต่วันแรกดังก้อง
"ท่านลุง!" หยางหลงท้วงขึ้นทันที

แต่ยามนี้เหอหลินจื้อกำลังหยุดยืนนิ่งขึง
เพราะทันทีที่ลู่เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีทองคู่นั้นก็ผนึกเหอหลินจื้อให้ต้องหยุดยืนอยู่กับที่
.....นี่หรือคือดวงตาสีทองที่ทำให้คนทั้งเมืองลั่วพากันเชื่อว่า เป็นเทพที่มาจากป่าสีทอง
ช่างงดงามยิ่งนัก
นี่อาจมิใช่ดวงตา แต่มันคืออัญมณีล้ำค่า....

"พี่รอง" เหอชินรุ่ยเรียกพี่ชายคนรอง "ที่นี่มีเรื่องอยู่ ท่านจะให้ควบคุมตัวคุณชายลู่ด้วยเรื่องใด"
"เจ้าเด็กนี่ฆ่าหลานเจียเจิงเจ้ามองไม่เห็นหรือไง ผลไม้ที่เจียเจิงกินเข้าไปมีพิษ" นิ้วมือใหญ่ชี้ไปที่ผลไม้ที่ตกอยู่ และริมฝีปากที่เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำอย่างรวดเร็ว "นี่คืออาการของพิษ แต่จะเป็นพิษอันใด ส่งไปให้เจ้าพนักงานตรวจสอบดูก็รู้เอง"

นับว่าเป็นครั้งแรกของเหอชินรุ่ยเช่นกันที่มองเห็นดวงตาสีทองของลู่อย่างชัดเจน ทั้งมีความเห็นว่า เป็นสีทองสุกสว่าง แต่เมื่อคิดทบทวนก็ตระหนักได้ว่า ที่ผ่านมาลู่มักจะก้มหน้า หรือหันหลังให้จนมองไม่เห็นดวงตาคู่นั้นมาโดยตลอด
แต่มาถึงตอนนี้ ลู่กลับมองมาตรง ๆ
เหอชินรุ่ยนึกสงสัย เหตุใดลู่จึงมีท่าทีเช่นนั้นต่อตนเอง

ความคิดของสองพี่น้องสะดุดลงเมื่อหยางติงก้าวเข้ามาขวางลู่ไว้
"กล่าวคำให้ร้ายคนอื่นโดยง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร"
"ให้เขาจับข้าก็ได้นะ" ลู่พูดขึ้นเบา ๆ
"คุณชายลู่" หยางติงหันมาหา ทั้งสีหน้าแววตา และน้ำเสียง มีแต่ความเสียใจ
"ไม่เป็นไรหรอก" ลู่ยิ้มทั้งที่ไม่เปิดริมฝีปาก 

ดวงตาสีทองหันไปมองหยางหลงกับเพ่ยหลิงที่กอดเจียเจิงร่ำไห้ แล้วมองท่าทีของทุกคนที่อยู่รอบตัว ขณะที่มีความเสียใจปกคลุมที่แห่งนี้ แต่ก็มีความโกรธแค้น และความรู้สึกยินดีปะปนอยู่ด้วย
นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรอยู่ในที่แห่งนี้
เสี่ยวเป่าเห็นว่าลู่นั่งนิ่ง ๆ อยู่เช่นเดิมอาจเพราะตกใจจนเสียขวัญก็เข้ามากอดปลอบ แต่ลู่กลับหันมาลูบหลังเสี่ยวเป่า "ไม่เป็นไรหรอก"
ยิ่งอยู่ตรงนี้เป็นเวลานาน ภายในใจของลู่ก็ยิ่งไม่สงบนิ่งอย่างที่เห็นภายนอก
เมื่อมีทหารสองนายเดินเข้ามา ลู่ก็หันไปถามหยางติง "ข้าต้องไปกับพวกเขาใช่ไหม"
"คุณชายไม่ต้องไปที่ใดทั้งสิ้น นี่คือบ้านของข้า" หยางติงกล่าวเสียงดัง
 
เป็นครั้งแรกที่หยางติงแสดงอำนาจที่มีอยู่ แต่คำพูดถัดมาของเหอหลินจื้อกลับทำลายอำนาจนั้นของหยางติงลงในทันที

"ที่นี่คือจวนเจ้าเมือง ยามนี้เจ้าเมืองลั่วคือหยางหลง แต่ยามนี้เขาสูญเสียบุตรชายคนโตไป"
แต่หยางหลงไม่รอให้อีกฝ่ายจบประโยค
"เหตุใด ท่านลุงจึงชี้ไปที่ลู่"
"ก็เพราะเขาคือคนที่ส่งผลไม้พิษให้กับเจียเจิงอย่างไร" เหอหลินจื้อชี้ไปที่คนรับใช้ "เจ้ามิได้ฟังที่พวกคนรับใช้พูดหรือ เด็ก ๆ เล่นกันอยู่ เขาเรียกเด็ก ๆ เข้ามากินผลไม้ มีผลไม้เต็มตะกร้า แต่เขาส่งผลไม้ผลนี้ให้กับเจียเจิง ควบคุมผู้ต้องสงสัยไว้ก่อน หากมิใช่คนผิดก็ปล่อยตัวออกไป นี่เป็นขั้นตอนการสอบสวนที่ใช้กันทั่วไป หรือเมืองลั่วมิได่ทำเช่นนี้ หรือ...." เหอหลินจื้อทอดเสียง พลางหันมาทางหยางติง "หรือมีเหตุผลพิเศษอื่นใด ที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเด็กผู้นี้ได้"
 
หยางหลงเงยหน้ามองเหอหลินจื้อ มารดา แล้วมาหยุดที่ลู่ ซึ่งกำลังมองกลับมา
ในใจกลับคิดคาดเดาเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
การลุกขึ้นยืนแก้ต่างให้กับลู่ในเวลานี้ยังทำไม่ได้ เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ใครวางยาหยางเจียเจิง แต่คือการทำให้มารดายอมรับความจริง และด้วยความเต็มใจ
ทั้งเมื่อหันมามองหลิวเพ่ยหลิง ความสูญเสียบุตรชายก็ยังทำให้นางไม่อาจคิดหาเหตุผลอันใด หากยืนกรานคัดค้านต่อเหอหลินจื้อยังอาจทำให้นางพลอยเข้าใจผิดไปด้วยอีกคนหนึ่ง

"บอกให้ทหารคุมตัวข้าสิ" ลู่กล่าวขึ้น
หยางหลงกลืนก้อนน้ำตาพยักหน้าช้า ๆ ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว
นี่ไม่อาจแยกแยะได้เลยว่า ความเจ็บปวดใจนี้ เกิดขึ้นจากสิ่งใด
มารดาที่ไม่ยอมรับฟัง
บุตรที่ต้องจบชีวิตลง
และการที่ต้องสั่งจำคุกลู่
....ลึกลงไปในใจ หยางหลงโทษตนเองที่เป็นสาเหตุให้เกิดความสูญเสีย
"พาคุณชายลู่ไปที่ห้องขังชั่วคราวที่ศาลาว่าการเมือง" หยางหลงสั่ง "ไม่ต้องตีตรวน"

เสียงหัวเราะที่จวนเจ้าเมืองลั่วมีอันต้องเหือดหายไปด้วยเหตุนี้เอง
   
...จบบทที่เจ็ด....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2017 10:32:43 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #183 เมื่อ07-02-2017 05:38:11 »

ขนมมีพิษ ไม่ได้ตั้งใจให้เด็กๆกิน
เด็กๆมาอยู่ผิดที่ ผิดเวลา
คนร้ายจะถูกจับได้มั้ยนะ
ดูเหอชินรุ่ย ไม่ได้โศกเศร้าที่เสียหลานไปนะ
ลู่ อยู่ตรงไหนก็ถูกรังควาน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #184 เมื่อ07-02-2017 06:46:58 »

 :sad4: :sad4:

เด็กน้อยกลายเป็นผู้รับเคราะห์....เสียใจ  :o12:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #185 เมื่อ07-02-2017 07:14:01 »

ใครเป็นคนวางยาหนอ ความรู้สึกดีใจที่ลู่สัมผัสได้มาจากใครกัน

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #186 เมื่อ07-02-2017 08:54:33 »

สงสารเด็กที่ไม่ได้ผิดอะไรแต่ต้องมารับกรรมเพราะเรื่องการเมืองของผู้ใหญ่

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #187 เมื่อ07-02-2017 09:14:03 »

โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #188 เมื่อ07-02-2017 11:06:08 »

นี่ต้องเห็นมาตลอดแน่ๆว่าหยางติงเป็นผู้ที่รักเมียมากมายและรอมชอมที่สุด
แบบนี้ก็เลยยิ่งเข้าทางอิลุงนั่นที่แสดงอำนาจแบบไม่เกรงใจมาตลอด
ช่างแลเป็นลุงที่ละโมบ และขี้โอ่สุดๆ  :m31:  :m31:

แต่เหตุการณ์มันก็ประจวบกับช่วงที่อิลุงนี่มาพอดี คนที่วางแผนนี่ร้ายกาจใช่ย่อยแถมอำมหิตมากที่ทำกับเด็กคนหนึ่งได้ลงคอ

รอวันลู่น้อยเราแสดงอิทธิฤทธิ์ดีกว่า  :a9:

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #189 เมื่อ07-02-2017 18:41:23 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

บีบหัวใจมาก  อะไรฟว่ะ(ขอโทษที่หยาบคาย)....ทำกันเกินไปแล้ว
ไม่ชอบเลย ไม่แมนอ่ะ  สู้กันแบบเปิดเผยไม่ได้รึงัย  สงสารเด็ก #อินมากไปหน่อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
« ตอบ #189 เมื่อ: 07-02-2017 18:41:23 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #190 เมื่อ07-02-2017 19:27:31 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #191 เมื่อ07-02-2017 20:49:10 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #192 เมื่อ07-02-2017 20:52:36 »

ดีแล้วที่หยางหลงคิดขังลู่ไว้ เราว่าจะปลอดภัยมากกว่าให้ลู่อยู่ข้างนอก แต่ผลไม้มีพิษนี่ ต่อให้ลู่กินแต่หยิบไม่โดนผลที่มีพิษก็ไม่ตายอยู่ดี...หรือคนร้ายยังไม่ต้องการฆ่าลู่แต่รู้ว่าวันนี้คนเยอะเปอร์เซนต์ที่คนจะกินผลไม่เท่าๆกับขนม...งานนี้อาจเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู...แต่สงสารที่เด็กต้องมารับเคราะห์กรรมนั้น...มีชื่อคนทำอยู่ในใจแล้วแต่ขอให้แน่ใจอีกนิดนึง กลัวเดาผิด 555
หรือคนที่คนร้ายต้องการชีวิตจริงๆคือ หยางหลงไม่ใช่ลู่ แต่ลู่คือคนสำคัญเลยเป็นเป้าของคนร้าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2017 20:59:01 โดย fangkao »

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #193 เมื่อ09-02-2017 19:08:44 »

โง้ยยยยยย ตายเลยอ่า ฆ่าตัวละครอย่างเลือดเย็น ฮืออออออออ  :z3: นุ้งลู่ของพี่ :ling3:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #194 เมื่อ10-02-2017 23:19:55 »

ตอนก่อนๆของเรื่องนี้ ลึกลับนะคะ แต่ก็เรียบเรื่อย พอมาตอนเจ็ดก็รู้สึกเหมือนเดินเกมเร็ว มีเรื่องให้ตื่นเต้น สงสารเด็กน้อยแล้วก็ลู่มาก จะพิสูจน์ตัวเองยังไง ใครทำ อยากรู้ไปหมดเลยค่ะ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #195 เมื่อ12-02-2017 09:30:47 »

ปักหมุด ... วันอาทิตย์ อิอิ



 :z13:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #196 เมื่อ12-02-2017 10:04:59 »

มาดัน..มาจอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Ornon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #197 เมื่อ12-02-2017 11:00:10 »

 :L2:มีคนรออ่านต่ออยู่นะฮะ

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #198 เมื่อ12-02-2017 15:07:39 »

 :katai5:

มารึยางงง...รอกวางลู่อยู่น๊าาา

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #199 เมื่อ12-02-2017 16:32:49 »

กลับมาอ่านใหม่ ประโยคนี้ "ความรู้สึกยินดีปะปนอยู่ด้วย นั่นเป็นความรู้สึกที่ไม่ควรอยู่ในที่แห่งนี้"
คาใจมาก  อยากรู้ว่า ใครคิด ใครรู้สึกแบบนี้ น่า....จริงๆ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
« ตอบ #199 เมื่อ: 12-02-2017 16:32:49 »





ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #200 เมื่อ12-02-2017 21:03:50 »

 :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #201 เมื่อ12-02-2017 23:14:19 »

 :z2: :z2:

มาดุ๊กดิ๊กรออาลู่

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #202 เมื่อ13-02-2017 00:46:22 »

พึ่งได้มาอ่านค่ะ ชอบมากเลยย
ตอนสุดท้ายนี่สงสารอ่ะ โหดร้ายมากเลยย
ตามนะคะ
 :L2: :L2: :L2:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #203 เมื่อ13-02-2017 01:10:54 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Ornon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #204 เมื่อ13-02-2017 08:12:33 »

อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว

ฮึบๆๆ

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #205 เมื่อ13-02-2017 09:29:48 »


เข้ามาดันนน อยากอ่านลู่แล้วจ้า  :กอด1:




ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #206 เมื่อ13-02-2017 10:50:01 »

 :call: :call:

โอม...จงมา จงมา  จงมา

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 967
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #207 เมื่อ13-02-2017 11:00:27 »

สนุกมาก ทำไมเป็นที่แลดูเลวแบบนี้อ่ะ นั่นหล่นตัวเองนะ ปกครองเมืองได้ไงอ่ะ คนไม่ตายเป็นเบือนเหรอ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #208 เมื่อ13-02-2017 19:27:26 »

มาดันรอตอนต่อปายยย

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่7 (P7-070260)
«ตอบ #209 เมื่อ13-02-2017 20:56:25 »

ใครวางยาพิษเนี่ย แล้วตั้งใจจะทำร้ายเด็กจริงๆ หรือจะป้ายความผิดให้ลู่เฉยๆ เดาไม่ถูกเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด