Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sunrise in the forest บทที่ 40 (ตอนจบ)  (อ่าน 146605 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Sunrise in the forest บทที่4 (P4-7160)
«ตอบ #120 เมื่อ10-01-2017 09:38:25 »

น้องลู่น่ารักอ่ะ ตกหลุมเสน่าห์น้องแล้วล่ะซิ

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่4 (P4-7160)
«ตอบ #121 เมื่อ10-01-2017 20:56:07 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา
บทที่สี่ เขาจุ๊บกันแล้ว  ดีจัง...  :impress2:
การบ้านการเมืองให้ผู้ใหญ่จัดการกันไป
เด็กๆ รวมก๊วนเล่นกันดีกว่า โดยมีลูกพี่ลู่เป็นผู้นำ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Sunrise in the forest บทที่4 (P4-7160)
«ตอบ #122 เมื่อ14-01-2017 21:26:41 »

หยางหลงคงต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะเท่านี้ก็ 'หลง' น้องลู่จนไปเผลอจูบเขาเข้าให้แล้ว ยิ่งวันความรู้สึกก็ยิ่งรุนแรง อย่างนี้หยางหลงจะทำอย่างไรดีล่ะ

เนื้อเรื่องค่อยๆ ถูกปูลาดออกมาให้ผู้อ่านได้เห็นภาพสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่อง ทั้งสถานการณ์ในครอบครัวใหญ่ของตระกูลเจ้าเมืองลั่ว และสถานการณ์ของประเทศนี้ อีกทั้งความรู้สึกเป็นกังวลว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับป่าสีทองหรือไม่ จริงอยู่ว่าเทพสถิตอยู่ในป่าสีทอง ทว่านับแต่อดีตเป็นต้นมามนุษย์ก็ช่วงชิงเอาทุกอย่างมาจากธรรมชาติ อย่างนี้เทพเจ้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งธรรมชาติก็ย่อมจะไม่อาจหลีกพ้นต้องถูกทำให้เลือนหายไปเพราะมนุษย์ใช่หรือไม่ และป่าสีทองซึ่งมีเทพเจ้าคอยปกป้องก็อาจถูกทำลาย นี่ดิฉันค่อยๆ อ่านไป และค่อยๆ คิดตามแล้วก็สนุกจริงๆ ค่ะ

อีกอย่างหนึ่งคืออยากให้น้องลู่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อะไรอื่นอีกให้คนในเมืองได้เห็น จะได้ช่วย confirm ความเชื่อของชาวเมืองอีกว่า เทพแห่งป่าสีทองนั้นมีจริง ไม่ใช่เพียงเรื่องเล่ากล่าวขานใดๆ อย่างน้อยฮูหยินของหยางติงก็อาจจะลดทิฐิลงมาบ้าง ไม่ใช่ทำตัวมีครอบงำผัวและลูกอย่างที่เป็นทุกวันนี้ เฮ้อ...อ่านแล้วอินค่ะ อิอิ

ขอบคุณไจฟ์กับน้องทีมากนะคะ รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #123 เมื่อ15-01-2017 06:10:00 »

ภาคกวางทอง

บทที่ห้า

เมืองลั่วจัดเป็นเมืองเล็ก ไม่ได้เป็นจุดยุทธศาสตร์ใด ๆ ประชากรก็ไม่ได้หนาแน่น พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนี้คือป่าสีทอง และไร่นาของชาวบ้าน
แต่เมืองลั่วคือเมืองที่ผู้คนมีความสุขมากที่สุดแห่งหนึ่งของอาณาจักรไท่ชาง
ก็ใช่ว่าที่นี่จะเป็นเมืองในฝันที่ผู้คนพากันถือศีล และมีแต่ความสงบ สันติ เมืองลั่วก็มีทั้งโรงน้ำชา มีโรงละคร มีบ่อนการพนัน มีคดีความให้เจ้าพนักงานต้องจัดการกันอยู่เนือง ๆ แต่อาจเพราะมีประชากรน้อย คนต่างเมืองเข้ามาค้าขายแลกเปลี่ยนและพักผ่อน แต่ไม่ค่อยมีครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามาตั้งรกราก
เรียกว่านานข้ามปีกันเลยทีเดียว กว่าที่พนักงานกรมเมืองจะได้ลงทะเบียนประชากรที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่สักครอบครัวหนึ่ง
แต่หากเป็นเรื่องลงทะเบียนแจ้งเกิดแล้วละก็ ที่นี่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ราวสัปดาห์ละคนเลยทีเดียว ถึงกระนั้นพอเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวก็มักโยกย้ายออกไปพักอยู่ในเมืองใหญ่ ที่มีสีสัน และมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่าที่นี่

เมื่อสรุปโดยรวมอาจถือได้ว่า เมืองลั่วเป็นเมืองน่าอยู่...แบบเงียบ ๆ 

หยางเฉิงเงยหน้าขึ้นจากบัญชีเจ้าพนักงาน และคนงานของสำนักคุ้มกันภัย แล้วหันไปหารือกับนายกองเมือง ตลอดจนหัวหน้ามือปราบ ด้วยจำนวนเจ้าพนักงานที่เห็นว่าในยามปกติมีจำนวนที่มากเกินไป แต่เมื่อมีการจัดงาน คนที่มีอยู่ก็กลับไม่พอ
เพราะเมื่อมีงานสำคัญ บรรดาร้านค้า สถานบันเทิงต่าง ๆ ล้วนนำเสนอสินค้า หรือการแสดงแปลกใหม่ออกมาดึงดูดผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยว
เมืองลั่วไม่ได้มีงานใหญ่เช่นนี้มานานแล้ว ยามนี้หากเดินเข้าไปในร้านค้าสักร้าน ย่อมได้ยินแต่เสียงหารือว่า จะนำเสนอสินค้าใดออกมาดี
อาหารแปลกใหม่
อาภรณ์สีและแบบแปลกใหม่
สุรารสเลิศ
บทเพลงใหม่
ละครเรื่องใหม่
ความคึกคักตื่นเต้นนี้ ช่างน่ายินดีจริง ๆ

นอกจากผู้คนมากมายที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ยังมีกลุ่มคนยากจนที่จะเดินทางมาเพื่อรับแจกสิ่งของเช่นกัน
เรียกว่านับตั้งแต่มีการติดประกาศออกไป เจ้าพนักงานฝ่ายต่าง ๆ ก็เริ่มการตรวจสอบและจับตาผู้คนแปลกหน้าที่ทยอยเดินทางมาในเมือง

หยางเฉิงเสนอว่าจะรับสมัครคนหนุ่มมารับจ้างทำงานชั่วคราวเป็นเวลาสิบวัน เพื่อเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยในช่วงที่มีผู้คนพลุกพล่าน เพราะต้องไม่ลืมว่าที่นี่ยังมีปัญหาของเมืองเหอ ที่ยังเป็นเรื่องค้างคาใจกันอยู่
ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เพราะเป็นการว่าจ้างงานในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน ทั้งยังเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้ทุกครอบครัวเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

ขณะที่หยางเฉิงจดบันทึกนี้ด้วยตนเองเพื่อนำไปรายงานกับหยางหลง ฝ่ายหยางไห่ก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการกำกับดูแลกิจการร้านค้าต่าง ๆ กำชับเรื่องการตรวจสอบสินค้าที่จะนำเข้ามา และที่จะต้องส่งออกไป สินค้าที่จะต้องใช้ในการจัดงาน แจกทาน สิ่งของกำนัล สิ่งของที่ระลึก และที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมบัญชีรายจ่ายไม่ให้เกิดสีแดงขึ้นโดยเด็ดขาด!

หยางหลงผู้เป็นว่าที่เจ้าเมือง กล่าวขอบใจน้องชายทั้งสองด้วยใจจริง แต่หยางเฉิงกลับตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า "พวกเราวุ่นวายเพียงไม่กี่วันนี้ แต่ท่านจะวุ่นวายนับจากนี้เป็นต้นไป"
ส่วนหยางไห่ผู้เป็นน้องเล็กหัวเราะเสียงดัง หาได้เกี่ยงการทำงานเช่นกัน
"อย่างไรก็ขอบใจมาก" ด้วยจนถึงบัดนี้หยางหลงก็ยังคงคิดอยู่เสมอว่า หากน้องชายทั้งสองคนคิดต้องการตำแหน่งเจ้าเมือง เขาก็พร้อมที่จะมอบให้อย่างมิเกี่ยงงอนเช่นกัน
แต่หยางเฉิงกลับตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยเช่นเดิมว่า "ข้ากับน้องเล็กดูเป็นคนที่มีความอดทนและยุติธรรมหรือ"
"ไม่เลย" หยางไห่ชิงตอบก่อนพี่ใหญ่ "หากให้พี่รองเป็นเจ้าเมือง เขาจะออกกฎระเบียบควบคุมแม้แต่รายการอาหารที่เราจะต้องกินในแต่ละวัน แต่หากข้าเป็นเจ้าเมืองข้าจะจ่ายเบี้ยเลี้ยงและเงินรางวัลให้กับทุกคนในเมืองอย่างเท่าเทียม"
หยางหลงทำได้แค่บ่นกับตนเอง "ทำเช่นนั้นได้อย่างไร"
หยางไห่พยักหน้าเร็ว ๆ "ดังนั้นท่านเป็นเจ้าเมืองไปเถอะ อย่ามากล่าวคำเกรงใจ หรือคิดอะไรที่มันเป็นไปมิได้เลย"
และนั่นทำให้พี่ใหญ่ต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะกล่าวคำขอบใจน้องชายทั้งสองคนไปในที่สุด

ตั้งแต่เช้ามืด ก่อนที่โรงทานจะเปิดประตู ก็มีคนจำนวนมากมารอคอยการแจกจ่ายทั้งอาหารและสิ่งของ หยางติงแม้จะมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจกลับขื่นขม ด้วยผู้ที่มารับการแจกทานจำนวนมาก คือคนยากจนจากต่างเมือง ขณะที่ชาวเมืองลั่วหลายคนยอมสละสิทธิ์ในการรับของแจก ทั้งมีเศรษฐีหลายคนที่นำข้าวของมาสมทบด้วย

เพราะเมื่อมาคิดดูอีกที ขอทานที่อยู่ในเมืองลั่ว หลายคนที่เป็นชาวเมืองลั่วแต่ดั้งเดิม ซึ่งพิการหรือคนวิกลจริต ยังมีคนที่สมองและร่างกายเสื่อมโทรมด้วยพิษของสุรา ก็หันไปขอทานในช่วงบั้นปลายเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ขอทานที่พบเจอในตลาด คือคนที่มาจากต่างเมือง พวกเขาเป็นขอทานที่มีร่างกายสมบูรณ์ เมื่อได้อาหารหรือสิ่งของมากพอก็จะพากันไปอาศัยอยู่รวมกันตามอารามเก่า 

ทั้งหยางติง และบรรดาชาวเมืองมิได้เห็นว่าขอทานจากต่างเมืองเหล่านี้จะเป็นคนที่นำมาซึ่งความยุ่งยากสร้างปัญหา เพียงแต่อาจมองไม่เห็นช่องทางในการทำงาน หรืออาจเกียจคร้านทำการงาน เมื่อของที่ขอไปใช้หมดลงแล้วก็จะกลับมาขอใหม่เท่านั้นเอง

นอกจากนี้แล้วยังมีคนต่างถิ่นที่มิใช่ขอทาน แต่คือคนยากจนจริง ๆ ที่มาจากเมืองอื่นเพื่อรับของแจกทานคนกลุ่มนี้ทำให้หยางติงรู้สึกไม่สบายใจ
...ขณะที่เราพอใจกับความเป็นอยู่ที่สุขสบายในบ้านของเรา แต่เพื่อนบ้านของเรากลับลำบากถึงเพียงนี้

ก่อนการแจกจ่ายสิ่งของ หยางติง กับหยางหลง เจ้าเมืองที่กำลังจะพ้นจากอำนาจกับว่าที่เจ้าเมืองคนใหม่เริ่มพิธีการด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้าประจำเมือง และเทพแห่งป่าสีทอง จากนั้นจึงมอบของกำนัลให้กับบรรดาหัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายต่าง ๆ ให้นำไปมอบให้กับคนในสังกัด เสร็จแล้วจึงเริ่มการทำทานแจกจ่ายสิ่งของ
ส่วนเหอชินรุ่ยกับหลิวเพ่ยหลิง คนหนึ่งเพียงร่วมการสักการะสิ่งศักดิ์ก็กลับไปที่จวน ส่วนอีกคนก็กลับไปช่วยงานในโรงครัว
ยังคงความเป็นมารดาสามีกับลูกสะใภ้ที่ห่างเหิน และประหยัดถ้อยคำต่อกันอย่างยิ่ง

หยางติงเป็นผู้มีจิตใจดี หลังแจกของไปได้ครู่ใหญ่ก็วางมือ สั่งการให้หยางหลงแจกจ่ายไปจนกว่าของที่เตรียมไว้จะหมด ส่วนตนเองเดินไปพูดคุยกับคนยากจนที่มาจากต่างเมือง หลายคนเล่าว่าจะเดินทางกลับหลังจากรับของแจกในวันนี้ แต่ก็มีอีกกลุ่มใหญ่ที่เดินทางมาจากเมืองที่กำลังมีการเคลื่อนไหวรวบรวมไพร่พลเพื่อต่อต้านเมืองหลวง เมื่อรู้ว่าเมืองลั่วยังภักดีต่อเมืองหลวงจึงมาขออาศัยอยู่ด้วยสักระยะ
หยางติงพูดคุยกับคนกลุ่มนี้นานเป็นพิเศษ จากนั้นก็กลับไปรับลู่ที่ศาลาด้านหลังของโรงทานชักชวนกันไปช่วยกันจัดหาที่พักและหาที่ทำงานให้พวกเขา
หยางเจียเจิงขอตามไปด้วย แต่พอพี่ใหญ่ของบรรดาลูกสมุนอีกหกคนจะไปข้างนอก มีหรือทั้งหมดจะไม่ร้องตามโดยเฉพาะเพ่ยเพ่ยธิดาอายุสามขวบของหยางไห่ที่ร้องตามขอไปด้วยเช่นกัน
หยางติงเจ้าเมืองลั่วที่เหลือเวลาในการดำรงตำแหน่งอีกเพียงไม่กี่ชั่วยาม จึงต้องตัดสินคดีความที่ยุ่งยากที่สุดในชีวิต ด้วยการให้หลานทุกคนอยู่ที่นี่ และพาเพียงคุณชายลู่ไปช่วยงานดูแลคนต่างถิ่น
คุณชายลู่ไม่อยู่ เสี่ยวเป่าคนทำของเล่นก็ไม่อยู่ เซียงเซียงคนที่คอยเติมขนมและน้ำดื่มให้ตลอดเวลาก็ไปด้วย ดังนั้นเสียงประท้วงของบรรดาผู้มีอิทธิพลตัวน้อยจึงช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!
 
ถามว่าจะมีเจ้าเมืองคนใดในอาณาจักรไท่ชางที่ต้องทำเองถึงเพียงนี้ ก็เห็นจะมีแต่หยางติงเจ้าเมืองลั่วคนที่ชื่นชอบการเดินออกมานอกจวนเจ้าเมืองผู้นี้เพียงคนเดียว

ขณะที่หยางหลงกับเพ่ยหลิงรับหน้าที่สำคัญอยู่ที่โรงทานต่อไป ฝ่ายเหอชินรุ่ยที่อยู่ในเรือนพักหลังใหญ่ มีคนสนิทของนางไปแจ้งว่าหยางติงออกจากโรงทานไปช่วยคนต่างถิ่นกับคนยากจนหาที่พักและหางานให้ทำชั่วคราว นางจึงกลับออกมาช่วยบุตรชายและสะใภ้ที่โรงทานอีกรอบ

หลังบ่นไม่พอใจเรื่องที่สามีกับบุตรชายเลือกฝ่ายเมืองหลวง ก็ตามมาด้วยการบ่นเรื่องที่สามีเพิกเฉยต่อการแจกทาน และแจกอาหาร กระทั่งบ่ายจัดเมื่อการแจกอาหารหมดลง นางจึงหันไปกล่าวกับบุตรคนโต
"ที่คนมารับของแจกมากมายเช่นนี้ ก็เพราะการที่มีกองทหารมารั้งรออยู่ใกล้ ผู้คนกลัวว่าจะเกิดสงครามขึ้น นี่หากพ่อของเจ้าเลือกฝ่ายเมืองเหอ ทหารของฝ่ายเมืองเหอก็คงผ่านเมืองลั่วไปแล้ว เมืองลั่วเองก็ไม่จำเป็นต้องรองรับผู้คนจากทุกสารทิศเช่นนี้"

คำกล่าวของผู้เป็นมารดาถือว่ากล่าวเกินไป เมืองเหอมีการรวบรวมผู้คนก็จริง แต่ก็ยังมิอาจเรียกว่าเป็นกองทัพ ส่วนกองทัพของฝ่ายเมืองหลวง ย่อมมีอยู่ในทุกหัวเมืองสำคัญ แต่หัวเมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุด ยังอาจต้องใช้เวลาในการเดินเท้านานนับสัปดาห์
ขณะที่คำกล่าวประโยคสุดท้ายของมารดาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูผู้คนนั้น หยางหลงเห็นว่าผิดวิสัยของมารดาไปมาก
เมื่อดูสีหน้าของบุตรชาย เหอชินรุ่ยก็รู้ตัวที่กล่าวคำอย่างง่ายดายเกินไป และเห็นแก่ตัวยิ่งนัก นางเป็นธิดาของเมืองเหอ ทั้งเป็นฮูหยินเจ้าเมืองลั่วมานานนับสิบปี ย่อมรู้ดีว่าความเป็นจริงคืออะไร แต่เมื่อกล่าวคำไปแล้วก็มิสามารถเรียกกลับคืนมาได้

เมื่อออกจากโรงทานกลับมาถึงจวนเจ้าเมือง บรรดาหลาน ๆ ที่เล่นอยู่ด้วยกันที่ศาลาหลังใหญ่ต่างหันมากล่าวทักทาย ในที่นี้ไม่มีชุนผิงที่เป็นฮูหยินใหญ่ของหยางเฉิง และ เจียฉี ฮูหยินของหยางไห่ เรียกได้ว่ามีแต่เพียงบรรดาฮูหยินรองและฮูหยินในลำดับถัดมาของหยางเฉิง ที่นั่งสนทนาและกินของว่าง ส่วนเรื่องการดูแลเด็ก ๆ กลับให้เป็นหน้าที่ของพี่เลี้ยงจำนวนนับสิบคน
เหอชินรุ่ยปรายตามองบรรดาสะใภ้เหล่านี้ด้วยสายตาเหยียดหยาม
สุดท้ายแล้วก็มีแต่ภรรยาเอกที่ทำงานหนัก ด้วยความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ส่วนสะใภ้รองเหล่านี้ก็ดีแต่กินเปล่าไปวัน ๆ

เมื่อกลับมาถึงเรือนหลังใหญ่ เหอชินรุ่นโบกมือให้คนรับใช้ออกไปก่อน แล้วจึงถามบุตรชายคนโต
"เด็กคนนั้นไม่ได้เล่นอยู่กับหลาน ๆ"
หยางหลงทราบว่ามารดาหมายถึงลู่ และรู้สึกถึงความไม่ไว้วางใจอยู่ในน้ำเสียงของมารดา "ท่านพ่อพาไปช่วยงานดูแลจัดหาที่พัก หากท่านแม่ต้องการพบ..."
เหอชินรุ่ยโบกมือ ขณะที่นั่งลงจิบน้ำชา "เขาอายุเท่าไหร่นะสิบห้าหรือสิบหกปี"
ข้อนี้หยางหลงก็มิแน่ใจ "เท่าที่คุยกันเมื่อคืน ลู่บอกว่าเขามิใช่เด็กแล้ว แต่ทุกคนล้วนปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นเด็ก ๆ"
เหอชินรุ่ยกัดริมฝีปากแน่น แล้วบอกให้หยางหลงเรียกคนรับใช้เข้ามา เพราะนางต้องการจะพักผ่อนแล้ว

ที่ด้านหน้าเรือนพักหลังใหญ่ หยางหลงพบซูเหยา หรือฮูหยินหกของหยางเฉิงรออยู่ นางเป็นชาวเมืองเหอและเป็นญาติห่าง ๆ ของเหอชินรุ่ย เมื่อเห็นว่าหยางหลงเดินออกมาจากเรือนก็ค้อมตัวทำความเคารพ
แม้ซูเหยาจะสมรสกับหยางเฉิงมาปีเศษ แต่ก็ไม่เคยสนทนาอันใดกับพี่ใหญ่ของสามี เมื่อทำความเคารพแล้วจึงเพียงเดินสวนเข้าไปหามารดาของสามี
อันที่จริง เมื่อครู่นางก็อยู่ในกลุ่มสะใภ้ที่มารดาเพิ่งแสดงสีหน้าว่าไม่พึงพอใจเช่นกัน

ชายหนุ่มมองตามหลังซูเหยาแล้วหันมาเห็นว่าหลิวเพ่ยหลิงยืนรออยู่ที่ศาลาหลังใหญ่ในสวน จึงเดินเข้าไปหา
"มีเรื่องไม่สบายใจหรือเจ้าคะ" หลิวเพ่ยหลิงยิ้มอ่อนหวานอย่างยิ่ง เมื่อสามีนั่งลงก็บีบนวดไหล่ให้
หยางหลงพยักหน้า เล่าว่า มารดาคล้ายมีเรื่องค้างคาใจที่ไม่ยอมบอกกล่าวออกมา และอยากให้นางช่วยดูแล
"แต่เมื่อครู่ข้าเห็นซูเหยาเพิ่งเข้าไปหาท่านแม่นี่เจ้าคะ"
"ใช่" หยางหลงบอก "ท่านแม่ไม่พอใจการตัดสินใจของพวกเรา ส่วนฮูหยินหกของน้องรองมาจากเมืองเหอเหมือนกัน หากนางจะช่วยกล่าวคำเพื่อบรรเทาความไม่พอใจของท่านแม่ก็คงดี แต่เกรงว่าจะยิ่งสุมไฟให้รุนแรงขึ้น"
หยางหลงมิได้สนิทกับซูเหยามากนัก เพียงแต่กล่าวแสดงความเห็นจากการดูบุคลิกลักษณะของสตรีผู้นี้เท่านั้น

หลิวเพ่ยหลิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เรื่องราวภายในของจวนเจ้าเมืองลั่วมีความขัดแย้งฝังอยู่ลึก ๆ หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นยังมีเรื่องของซูเหยา ที่แม้นางจะเป็นอนุแต่ก็มิยอมลงให้กับผู้ใด มักอวดว่านางเป็นญาติห่าง ๆ ของมารดาสามี
หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสามี หรือผู้ใหญ่ ซูเหยาผู้นี้จะมีท่าทีเรียบร้อย อ่อนหวาน และอ่อนน้อมอย่างยิ่ง
ความร้ายกาจของซูเหยาก็เป็นอีกเรื่องที่หลิวเพ่ยหลิง มิได้นำไปบอกเล่าต่อสามี เพราะเห็นว่านี่คือเรื่องธรรมชาติของสตรี 
แต่เรื่องที่สามีจะให้นางเดินเข้าไปหามารดาเพื่อพูดคุยเอาใจ ไม่แน่ว่าอาจถูกแปรเจตนาไปอีกทาง
ด้วยทุกวันนี้ก็ได้แต่หลบหน้า พูดจาน้อยคำที่สุด คิดไปคิดมา คนที่น่าจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการเอาใจมารดาของสามี ก็คงจะมีเพียงเจียฉี กับเพ่ยเพ่ย ภรรยาและบุตรสาวของหยางไห่เท่านั้น

เมื่อหยางหลงกลับไปทำงานต่อที่ศาลากลางของเมือง พบว่าหยางติงกับลู่ พร้อมด้วยเสี่ยวเป่ากับเซียงเซียงล้วนกลับมาถึงแล้ว และในเวลาไล่เลี่ยกันหยางเฉิง กับหยางไห่ก็ตามมา
เซียงเซียงจึงรีบไปจัดโต๊ะของว่างที่ห้องด้านใน

"วันนี้ท่านพ่อพาไปเที่ยวที่ไหน" หยางไห่หันมาถามลู่
ผู้มีดวงตาสีทองหันมายิ้มจนดวงตาเป็นสีทองให้กับหยางไห่ "ไปวัด มีพระใจดี ดูแลคนเยอะแยะ" หันไปรับผลไม้สีแดงม่วงจากหยางหลง แล้วหันมาเล่าเรื่อง "พระที่วัดบอกว่าปกติคนจะไม่มาวัดเยอะอย่างนี้"
เพราะผลไม้ที่กัดกินมีรสชาติฝาด ลู่หันไปทำหน้าตาเหยเกกับหยางหลง "มันฝาด"
หยางหลงกล่าวคำขอโทษ รีบเปลี่ยนผลไม้ลูกใหม่ให้ ส่วนหยางไห่หัวเราะร่วน มีเพียงหยางเฉิงที่จิบน้ำชาด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ในใบหน้า
ลู่กัดผลไม้ลูกใหม่ "ผลนี้เปรี้ยว ๆหวาน ๆ"
"ชอบไหม"
"ชอบ" คนชอบผลไม้ตอบแล้วก็หันมาคุยกับหยางไห่ "ท่านหยางติงพาไปตั้งหลายที่ ไปที่สวนด้วย พอบอกว่าพาคนไปช่วยงาน ฝากให้พักชั่วคราว แล้วก็ทำงาน ทุกคนดีใจกันใหญ่ที่มีงานทำ"

คนรับใช้ทยอยวางของว่างลงบนโต๊ะ ลู่หยุดเล่าเรื่องหันมามองซาลาเปา "อันนี้มีเนื้อ"
หยางหลงรีบหยิบจานซาลาเปาส่งให้กับคนรับใช้ ที่ลนลานเข้ามากล่าวขออภัย รับจานแล้วกลับออกไป
ลู่หันมามองหยางหลงที่กำลังขมวดคิ้วแน่น
"อยากกินซาลาเปาหรือ"
"มิใช่" หยางหลงคลี่ยิ้ม "แต่กำลังคิด"
"คิดเสียดายซาลาเปา"
"ไม่ใช่หรอก"
"แล้วเสียดายอันใด"
"ไม่ได้เสียดายอันใด" ไม่รอให้อีกคนตั้งคำถาม หยางหลงก็รีบบอกก่อน "เซียงเซียงไม่น่าจัดเตรียมของว่างนี้ให้เจ้า"

สองคนพี่น้องแบ่งงานดูแลลู่ตามนี้ เสี่ยวเป่าจะคอยอยู่ใกล้ชิด ขณะที่เซียงเซียงจะคอยจัดเตรียมอาหารและทำความสะอาด แต่เมื่อมีอาหารที่ลู่ไม่กินยกขึ้นมา หยางหลงจึงมีความสงสัย

"นางอาจจัดมาให้ท่าน"
หยางหลงส่ายหน้า ขณะที่เซียงเซียงยกถาดหมั่นโถวและขนมแป้งทอดเข้ามาให้ด้วยสีหน้าตกใจ
"ขออภัยเจ้าค่ะ"
พ่อลูกแซ่หยางทั้งสี่คนย่อมไม่กล่าวตำหนิคนดูแลใกล้ชิดต่อหน้าผู้คนมากมาย แต่เพียงแค่ทั้งหมดมองมาด้วยสายตาตำหนิที่เลินเล่อ ก็ทำให้เซียงเซียงแทบร่ำไห้
"ขออภัยขอรับ" เสี่ยวเป่าก็ช่วยขอโทษด้วย
ลู่หยิบซาลาเปาไส้ผักส่งให้หยางติง "กินเถอะ อย่าโมโหหิวเลย"
"มิได้โมโหหิว เพียงแต่นี่มิใช่มื้อแรกที่จัดให้เจ้า"
ผู้มีดวงตาสีทองส่ายหน้าหันไปหาหยางเฉิง "เมื่อวานฮูหยินของท่านรองทำเกี๊ยวไส้ถั่วกับเห็ดให้กินด้วย อร่อยมาก"
หยางเฉิงที่ไม่คอยแสดงความรู้สึกเมื่ออยู่บ้าน แต่ยามนี้กลับยืดตัว ยักคิ้วโอ้อวดกับหยางไห่ จนคนที่เป็นน้องเล็กวางแผนไว้ในใจว่าจะสั่งการให้ฮูหยินเตรียมอาหารพิเศษไว้รอรับคุณชายลู่เช่นกัน
"วันนี้ก็ยังไม่ได้ไปบ้านท่านหยางไห่เลย"
หยางไห่โบกมือ "ช่วงนี้วุ่นวาย ฮูหยินก็ยังต้องมาช่วยงานที่นี่ ลู่จะไปวันไหนก็ได้ ยังอยู่ที่นี่อีกหลายวันใช่หรือไม่"
ลู่ยิ้มแก้มพองขณะที่พยักหน้า ส่วนหยางติงลอบผ่อนลมหายใจยาว
บุตรทั้งสามคนล้วนตระหนักถึงความกังวลใจของผู้เป็นบิดา จึงชวนคุยเล่นไร้สาระอีกพักใหญ่ หยางหลงจึงกลับมาที่เรื่องการทำงาน

"หนังสือฉบับที่สองที่จะขอให้ท่านพ่อลงนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว นับวันที่ส่งไปเมืองหลวงและกว่าจะกลับมาก็คงใช้เวลาเป็นเดือน ระหว่างนี้คงต้องเตรียมรับฝ่ายเมืองเหอที่น่าจะมาถึงก่อนในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า"
อันที่จริงบิดาและบุตรพูดคุยกันเรื่องกำหนดเวลาเหล่านี้กันมาแล้วหลายครั้ง ด้วยเหตุผลสำคัญที่หยางติงประกาศมอบตำแหน่งเจ้าเมืองภายในเวลาสองวันก็เพราะนี่เป็นห้วงเวลาที่ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ไม่สามารถเดินทางมาถึงเมืองลั่ว เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง
หยางติงมิได้กลัวการเจรจากับคู่ขัดแย้ง เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ก็มีการพูดคุยกันมาหลายครั้งหลายหน เพียงแต่เบื่อหน่ายกับการเจรจากับคนที่จวนเจ้าเมืองต่างหาก

หลังจากที่กินของว่างเสร็จ สามคนพี่น้องก็กลับไปทำงานอีกครั้ง ครู่ใหญ่ผ่านไปหยางเฉิงกลับมาแจ้งว่า เหอหลินจื้อ ท่านลุงรองจากเมืองเหออยู่ในระหว่างการเดินทางมาหา คาดว่าจะมาถึงในอีกสองวันข้างหน้า
"อย่างน้อยพวกเขาก็มิต้องให้พวกเรารอนาน" หยางติงกล่าวขึ้นแล้วหันมาหาลู่ "พวกเราก็กลับบ้านกันเถิด"

เหอชินรุ่ยย่อมทราบเรื่องที่พี่ชายคนรองกำลังเดินทางมาถึงเมืองลั่วก่อนที่หยางติงจะเอ่ยปากพูดขึ้น ส่วนจะทราบได้อย่างไร ก็ไม่เกินที่หยางติงจะคาดเดาได้ ดังนั้นหลังจากที่บอกกล่าวให้ทราบว่าเหอหลินจื้อกำลังเดินทางมา หยางติงก็เลี่ยงการพูดคุยกับฮูหยินด้วยการอ้างว่าต้องการไปเล่นหมากสักกระดานกับท่านอาจารย์ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารเย็น
เมื่อหันหลังให้กับฮูหยินแล้วเดินห่างออกมา หยางติงก็ยังรับรู้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของนาง
รู้จัก และรักนางมานานจนรู้ว่านางกำลังคิดอันใดอยู่ จึงเชื่อว่านางจะเข้าใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่เช่นกัน หากเมื่อพบว่านางมิเข้าใจ ทั้งยังคงดื้อรั้นอยู่เช่นเดิม หยางติงจึงรู้สึกทั้งอึดอัดใจ และผิดหวังในเวลาเดียวกัน

หยางหลงกินอาหารมื้อเย็นที่ศาลาว่าการ โดยมีหยางเฉิงกับหยางไห่ร่วมโต๊ะ ทั้งสามคนพี่น้องยังคงกินอาหารไปพลางคุยเรื่องงานกันไปพลาง จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับเรือนของตนเอง
"คิดว่าจะให้ลู่พบกับท่านลุงรองหรือไม่" หยางไห่ถามแล้วเสนอความเห็น "หากไม่สะดวกก็พาไปฝากไว้ที่เรือนของพี่รองก่อนก็ได้ เพราะท่านแม่อาจให้เจียฉีพาเพ่ยเพ่ยไปพบท่านลุงรอง เรือนของข้าจะเหลือแค่พ่อบ้านกับคนรับใช้"
"คิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นหรือ" หยางเฉิงถาม "ลู่ยังเด็กอยู่ คงไม่ทำอะไรท่านลุงหรอก"
"ข้าไม่ได้กลัวลู่ แต่กังวลท่านลุงต่างหาก ท่านพี่เห็นแล้วว่า พวกเขาไม่เชื่อเรื่องป่าสีทอง ไม่เชื่อว่าลู่คือเทพแห่งป่า ขณะที่ท่านพ่อกับผู้ใหญ่ของบ้านเราเชื่อโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ตอนนี้ก็ขัดแย้งกันเรื่องที่ท่านพ่อไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของพวกเขา ถ้าต้องมาทะเลาะกันในเรื่องเชื่อ หรือไม่เชื่อ มันก็จะยิ่งบานปลาย"
"สำคัญคือท่านแม่ด้วย" หยางหลงกล่าวขึ้น ทำให้หยางเฉิงหัวเราะขึ้นจมูกทันที พี่ใหญ่จึงหันไปเตือน "นี่ก็อีกคน ถ้ามีการโต้แย้งกันเกิดขึ้น เจ้าต้องกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยแน่นอน"
หยางเฉิงเพียงแค่ยิ้มมุมปาก ที่ทำให้พี่ใหญ่กับน้องเล็กแน่ใจว่าคำกล่าวนี้ถูกต้อง
"น้องเล็กจะไปเมืองจ้ายโกวเมื่อใด" หยางหลงเปลี่ยนเรื่องสนทนา
"อีกสักสามวัน รอพบท่านลุงรองก่อน"
"ก็ดี" หยางหลงตอบสั้น ๆ

ค่ำแล้ว หยางหลงจึงกลับมาที่จวนเจ้าเมือง ที่เรือนต้นส้มเวลานี้ ทั้งหลิวเพ่ยหลิงและลูก ๆ กำลังเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่ที่แผนกตัดเย็บเพิ่งส่งมาให้ เพื่อสวมใส่ในวันพรุ่งนี้ที่จะเป็นวันแรกที่หยางหลงทำหน้าที่เจ้าเมืองอย่างเป็นทางการ
หยางหลงมิใช่คนมากเรื่องมากความ มิว่าแม่ลูกจะหยิบชุดใดขึ้นมาถาม ก็บอกไปว่าดีงามทั้งสิ้น สุดท้ายหลิวเพ่ยหลิงจึงบอกให้สามีไปอาบน้ำล้างตัว ส่วนเรื่องเสื้อผ้านางจะจัดเตรียมไว้ให้เอง
"บอกแล้ว ว่าสุดท้ายท่านแม่ก็ยังต้องเป็นคนจัดการเช่นเดิม" หยางเจียเจิงหันไปพยักหน้าบอกกับเจิ้นขุยผู้เป็นน้องชาย

เมื่อหยางหลงอาบน้ำเสร็จ ก็พบว่าหลิวเพ่ยหลิงพาเด็ก ๆ เข้านอนไปแล้ว แต่ตัวนางยังรออยู่เพื่อมอบหยกประดับให้ชิ้นหนึ่ง
"ตอนที่ท่านพ่อส่งจดหมายมา ยังมอบหยกประดับมาฝากหลานด้วยหลายชิ้น ข้ามอบให้หลานของทั้งสองบ้านไปแล้วหลายชิ้น แต่ยังเก็บไว้สามชิ้นเพื่อให้ลูก ๆ กับท่านพี่ แต่เห็นว่าหยกชิ้นนี้เหมาะสมกับคุณชายลู่มากกว่า จึงขอฝากท่านพี่ไปมอบให้เขาด้วย"
หยกสีเขียวเนื้อดีชิ้นนี้เกาะสลักคำว่าแข็งแรง และร้อยด้วยเชือกสีแดง
"เพ่ยหลิง ลู่เขา...."
เพ่ยหลิงช้อนมือของหยางหลงให้รับหยกชิ้นนี้ไว้ นางคลี่ยิ้มงดงามปานบุปผา "มิว่าเขาเป็นใคร ข้าก็ยินดีที่เขาอยู่ในครอบครัวของเรา"
"แต่เขาเป็น..."
นางยังคงส่ายหน้า "ข้าเข้าใจ ได้ยินคนรับใช้คุยกันว่าเขาหนีมารดามา และมาอยู่แค่ไม่กี่วัน จึงอยากให้ท่านดูแลเขาให้ดี"
หยางหลงขมวดคิ้ว "เจ้าได้ยินเรื่องใดมา"
"ก็อย่างที่ท่านกังวล ฮูหยินหกเข้าไปรายงานเรื่องใดกับท่านแม่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อตอนที่นำอาหารมื้อเย็นเข้าไปให้ ท่าทีของนางแปลก ๆ ดูคล้ายกับว่าทั้งเสียใจแล้วก็โกรธในเวลาเดียวกัน"
"ท่านแม่ว่าอย่างไร"
หลิวเพ่ยหลิงส่ายหน้า ขณะที่จัดเสื้อให้สามี "ข้าจะหาโอกาสคุยกับฮูหยินใหญ่ของท่านรองในเรื่องนี้เอง ขอท่านอย่ากังวล อีกอย่าง ตั้งแต่คุณชายลู่มาถึง ท่านพ่อก็ดูผ่อนคลาย และมีความสุข ฮูหยินใหญ่เล่าว่าวันก่อนไปเล่นกับหลาน ๆ ที่เรือนท่านรองอย่างสนุกสนาน จนหลาน ๆ ไม่อยากให้กลับ" หลิวเพ่ยหลิงดันหลังของหยางหลงให้ออกมาจากเรือน "มิว่าคุณชายลู่จะเป็นใคร ขอเพียงเขานำเสียงหัวเราะเข้าบ้าน นั่นย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด และนี่ก็ดึกแล้ว รีบเอาของไปมอบให้เขาก่อนที่เขาจะเข้านอนเถิด"

(มีต่อครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2017 10:32:07 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #124 เมื่อ15-01-2017 06:10:34 »

(ต่อ)

ในยามดึก บรรดาคนงานที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันพากันแยกย้ายไปพักผ่อน เหลือเพียงผู้ที่เดินเวรยามอยู่รอบบ้าน และคอยดูแลน้ำมันในตะเกียงตามเสาสูงเท่านั้น
ที่เรือนดอกโบตั๋นกลับยังมีแสงไฟลอดผ่านหน้าต่างออกมา แต่ไม่มีเสียงพูดคุย เมื่อเข้าไปในเรือนพบว่าลู่กำลังก้มหน้าเขียนตัวหนังสืออยู่ กองกระดาษเต็มโต๊ะ เมื่อเห็นหยางหลงก้าวเข้ามา ก็หันมาแตะนิ้วที่ริมฝีปาก พยักหน้าไปที่เตียงไม้ตัวยาวติดผนังที่เสี่ยวเป่านอนหลับทั้งที่ในมือยังถือขนมหวานไว้ทั้งสองมือ
หยางหลงได้แต่ส่ายหน้า แล้วเดินเข้ามาหาลู่ กระซิบถาม
"ทำอันใดอยู่"
"เขียนคำมงคล" ลู่อวดตัวหนังสือสวยงาม ที่คัดตามตัวอย่างที่อาจารย์เขียนไว้ "อ่านว่ามั่นคง"
"เก่งมาก" หยางหลงเอ่ยชม "แต่นี่ดึกแล้ว เจ้าควรพักผ่อน"
ลู่พยักหน้า เลือกแผ่นกระดาษที่เพิ่งเขียนเสร็จให้กับหยางหลง "ขอให้ท่านเจ้าเมือง ปฏิบัติหน้าที่ราบรื่น สร้างเมืองลั่วให้มีแต่ความมั่นคง"
"ขอบใจมาก" หยางหลงรับมา แล้ววางผึ่งไว้เพื่อรอให้หมึกแห้ง จากนั้นรวบรวมแผ่นที่ไม่ใช้ไปใส่ตะกร้ารอนำไปทิ้ง ส่วนลู่เดินไปถึงบันไดก็หันมายื่นมือจับมือหยางหลงไว้ ก้าวเดินช้า ๆ ขึ้นไปที่ห้องนอน
"ตอนจะกลับไปอย่าลืมเก็บคำอวยพรกลับไปด้วยนะ"
"ไม่ลืมหรอก" หยางหลงให้คำมั่น "เพ่ยหลิงฝากหยกมาให้เจ้าด้วย"
แต่กว่าที่หยางหลงจะให้หยก ก็เมื่อช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนให้อีกคนเสร็จแล้ว
ลู่กล่าวคำขอบคุณด้วยดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้มสดใสดุจแสงตะวัน
"ข้าจะวางหยกไว้ที่โต๊ะ พรุ่งนี้เสี่ยวเป่าช่วยเจ้าแต่งตัวแล้วค่อยประดับหยกไว้ที่เข็มขัด" ชายหนุ่มวางหยกไว้ที่โต๊ะแล้วหันมาหาลู่ที่นั่งอยู่บนเตียง

"เหนื่อยไหม" หยางหลงนั่งลงบนเตียงเช่นกัน
ลู่เอียงหน้าคิด "เหมือนจะเหนื่อย แต่ก็สนุกดี ไม่รู้เหมือนกันว่าเหนื่อยไหม"
ชายหนุ่มมองดวงตาสีทองที่สวยงาม "วันนี้ตอนที่พูดกันถึงเรื่องที่เจ้าจะกลับไปที่ป่าสีทอง ข้ากลับคิดแย้ง ว่าไม่อยากให้เจ้ากลับไปเลย"
ลู่เอนกายซุกตัวเข้ามากอดรอบเอวของหยางหลงไว้
เช่นเดียวกับแขนใหญ่ของหยางหลงกอดกระชับคนตัวเล็กไว้แน่น
"ข้าได้ยินคำอธิษฐานของท่าน"
หยางหลงก้มลงมองคนที่กล่าวคำทั้งที่ยังซุกหน้าแนบอกกว้าง
"ในรอบสองปีมานี้ ท่านเดินทางผ่านป่าสีทองหลายครั้ง ทุกครั้งที่ท่านรินสุราและโปรยข้าวเปลือก คำอธิษฐานของท่านจะเป็นเช่นเดิมมิเคยเปลี่ยน จนถึงครั้งหลังสุดข้ากำลังเล่นกับเพื่อนอยู่ ก็...กำลังคิดอยากหนีท่านแม่ด้วย เมื่อได้ยินคำอธิษฐานของท่าน ข้าก็เลยอธิษฐานอยู่ในใจเช่นกัน ว่าหากท่านเดินเข้ามาในป่าแล้วเราพบกัน ข้าจะตามท่านมา ปรากฎว่าท่านเข้ามาในป่าจริง ๆ"

เมื่อหยางหลงอธิษฐานอย่างมั่นคง แล้วลู่รับคำอธิษฐานนั้นมา แต่ทำไม่ได้จึงต้องขอร้องให้เทพเสือโคร่งภูผาผู้เป็นบิดาช่วยสานต่อให้เสร็จสิ้น
แต่มากไปกว่านั้นก็คือ มีสัตว์เทพหลายตนในป่าได้ยินคำอธิษฐานของหยางหลง และรู้ว่าคำขอนั้นเป็นเรื่องใหญ่เกินไปจึงไม่มีผู้ใดออกมารับ ขณะที่เจ้ากวางทองผู้นี้รู้ทั้งรู้มาตั้งแต่แรกว่าตนเองทำไม่ได้ กลับอธิษฐานซ้ำเข้าไปเสียอีก

หยางหลงเองก็รู้สึกผิดสังเกตที่เดินเข้าไปในป่าสีทองวันนั้นแล้วพบสัตว์หลายชนิด อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน
"ทุกคราเข้าไปในป่า จะได้ยินแต่เสียงนกร้อง แต่ในวันนั้นพบหลายตัวมาก จนยังนึกแปลกใจ กระทั่งได้พบเจ้า"
ลู่เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตางดงามวาววับด้วยความเจ้าเล่ห์ "การพบกันอาจเป็นเรื่องบังเอิญ"
"แต่เรื่องนี้มิใช่เรื่องบังเอิญ" หยางหลงก้มลงจูบที่ริมฝีปากนุ่ม
จูบแรกเป็นเพียงจูบที่มิได้เปิดริมฝีปาก แต่เมื่อลู่ขยับริมฝีปาก หยางหลงก็ไล่ตามดูดริมฝีปากหวานนั้น
เป็นความหวานที่เมื่อได้ชิมแล้วยิ่งต้องการลิ้มรสมากกว่าเดิม จนกระทั่งลู่หอบน้อย ๆ หยางหลงถึงได้ถอนริมฝีปากออก แล้วแนบหน้าผากไว้

หยางหลงรู้อยู่แก่ใจ ว่าลู่คือเทพผู้มาจากป่าสีทอง แต่ตนเองเป็นมนุษย์ ความใกล้ชิดที่เป็นอยู่ในเวลานี้ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหากเทพเสือโคร่งภูผากลับมาแล้วรู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ อาจถูกลงโทษถึงแก่ชีวิต
แต่หยางหลงมิเกรงกลัวการถูกลงโทษนั้น
สิ่งที่กังวลกลับเป็นความรู้สึกของลู่ ที่อาจมองว่าตนเองเป็นคนฉวยโอกาส
"นอนเถิด ข้าจะอยู่ที่นี่จนกว่าเจ้าจะหลับ"
ลู่พยักหน้า แล้วเอนกายลงนอน หยางหลงรอจนกระทั่งลู่หลับไปแล้ว จึงกลับไปที่เรือนพักของตนเอง

....จบบทที่ห้า....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2017 07:11:58 โดย MyTeaMeJive »

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #125 เมื่อ15-01-2017 06:11:43 »

เพิ่งเห็นว่าเปิดเรื่องใหม่ ดีใจอะ

 :o12: :o12:


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #126 เมื่อ15-01-2017 10:46:46 »

บางทีก็อยากให้ลู่แสดงอิทธิฤทธิ์ซะบ้าง
ว่าแต่ท่านเจ้าเมืองไปจูบลู่คิดจะรับลู่เป็นฮูหยินรองหรือไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #127 เมื่อ15-01-2017 11:54:53 »

 :o8:
เค้าจุบกันเเล้ววววว :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #128 เมื่อ15-01-2017 12:39:47 »

เรื่องราวจะลงเอยแบบไหนนะ  :m28: :m28:

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #129 เมื่อ15-01-2017 12:57:17 »

ลู่ยอมให้จูบเสียแล้ว รู้สึกหวงเล็กน้อย :o211: :o211:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
« ตอบ #129 เมื่อ: 15-01-2017 12:57:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #130 เมื่อ15-01-2017 13:26:38 »

เรื่องมีภรรยาหลายคนนับว่าเป็นสิ่งธรรมดา เพราะน้องชายของหยางหลงต่างก็มีอนุภรรยาหลายคนทั้งนั้น ก็คงถือว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของเมืองและเป็นสภาพสังคมในฉากของเรื่องนี้ แต่การที่ได้ทำอะไรลับลมคมในกับลู่เช่นนี้ อาจนำมาซึ่งเรื่องเศร้าในอนาคต และถ้าหากว่าเรื่องราวมันคลี่คลายออกมาในทางที่ดี คือไม่เกิดสงครามระหว่างเมืองเหอกับเมืองหลวง ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับป่าสีทอง ดิฉันก็ยังคิดว่า ลู่กับหยางหลงจะดำเนินความสัมพันธ์ที่เริ่มขึ้นนี้ต่อไปใช่หรือไม่ แล้วหยางหลงจะรับลู่เข้ามาเป็นอนุใช่หรือไม่

ความจริงแล้วหลิวเพ่ยหลิงเป็นคนใจกว้าง และเห็นความผาสุขของครอบครัวเป็นใหญ่กว่าความรู้สึกตน อย่างนี้คล้ายกับลักษณะของเมียเอกของขุนนางไทยสมัยโบราณเลยค่ะ ก็คงไม่มีปัญหาใดหากลู่จะเข้ามาสู่ตระกูลหยางแห่งเมืองลั่วในฐานะ 'สะใภ้' ชื่อตอนของตอนนี้ดิฉันว่าตรงกับลักษณะความรักความหวังดีที่ผลิบานเป็นดอกไม้เล็กๆ และสวยงามในใจของใครหลายคนเลยค่ะ ทั้งของหยางหลง ลู่ หยางติง หยางไห่ หยางเฉิง และสำคัญที่สุด ดิฉันเห็นดอกไม้งามบานในใจของหลิวเพ่ยหลิง นับว่าตอนนี้อบอุ่นจริงๆ ค่ะ

...แต่ก็ยังหวั่นๆ อยู่ว่า เหอหลินจื้อจากเมืองเหอจะนำความทุกข์ร้อนใจใดๆ มาสู่เมืองลั่วหรือไม่

ขอบคุณคุณไจฟ์กับน้องทีมากๆ เลยนะคะ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #131 เมื่อ15-01-2017 14:05:38 »

ทำไมเราถึงมีความรู้สึก(อีกละ)ว่าหลิวเพ่ยหลิงเป็นคน น้ำนิ่งไหลลึกล่ะ ไม่มีเมียคนไหนหรอกที่จะใจกว้าง เห็นสามีตัวเองเอาอกเอาใจคนอื่น ถึงแม้จะเป็นลูกกวางน้อยก็เหอะ...พวกอนุทั้งหลายยังเขม่นชิงดีกันเลย...แล้วที่นางบอกสามีว่า เห็นซูเหยาเข้าๆออกๆหาแม่สามี มันดูขัดๆกับนิสัยเงียบๆใจเย็น ของนางยิ่งนัก (อืม หวังว่าเรื่องนี่การคิดวิเคราะห์ของข้าพเจ้าจะถูกบ้างนะ)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #132 เมื่อ15-01-2017 20:42:14 »

รู้สึกตั้งแต่ที่กล่าวถึงเพ่ยหลินครั้งแรกว่า นางไม่ได้เป็นเมียของหยางหลงทางพฤตินัย
เหมือนสองคนนี้อยู่ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ (ในทางที่ดีนะ)

เพ่ยหลิงดูมีเรื่องอะไรปกปิด และตั้งมั่นจะไม่ทำให้หยางหลงลำบากใจไม่ว่าเรื่องใด

หยางหลง จูบลู่ได้ไง! ฉันอิจฉา !

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #133 เมื่อ15-01-2017 20:48:00 »

หยางหลง ลู่ ใจตรงกัน
กอดรัด สัมผัสจูบกัน จับมือจนลู่หลับ
ดูแล้วช่างเป็นความน่ารัก อ่อนโยน
แต่หยางหลงมีภรรยา มีลูกแล้วด้วย
ลู่ ก็รู้ด้วยตัวเอง 
หรือเพราะว่าแค่รู้สึกดีๆต่อกัน
หรือเพราะคิดว่าไม่ได้จะอยู่ที่นี่ตลอดไป
พี่ชายเหอชินรุ่ย มีปัญหาแน่ๆ
ลู่ น่าจะถูกดึงเข้าไปเกี่ยวด้วย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #134 เมื่อ15-01-2017 22:31:21 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #135 เมื่อ15-01-2017 22:45:53 »

ดูบรรดาสะใภ้บ้านนี้ไม่น่าไว้ใจซักคน

ออฟไลน์ piggyfree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #136 เมื่อ16-01-2017 16:42:38 »

ขอบคุณนะคะ คุณไจฟ์ กะ น้องน้ำชา

ตัวเองคงไม่โอเคกับการต้องแบ่งความรักจากสามี...โชคดีที่ยังไม่มีสามี 555
แต่บางวัฒนธรรม บางสังคมอาจจำเป็น เพราะเหตุผลทางการเมือง ทางสังคม ฯลฯ
และการที่ผู้หญิงอยู่ด้วยกันเยอะ เรื่องก็เยอะตามมาด้วย แถมแต่ละคนมีแบคอัพดีๆ  ยุ่งเหยิงแน่ๆ
แต่อย่ามายุ่งลามปาม แตะต้องน้องลู่นะ มีเคือง  :serius2:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #137 เมื่อ17-01-2017 10:11:28 »

ก็นะเพราะลู่รู้ว่าหยางหลงรู้สึกอย่างไร ดังนั้นนี่จึงยิ่งผูกมัดบทพิสูจน์ความรักนี้ของหยางหลงด้วย
รอบทต่อไปอย่างจดจ่อค่ะ  :pig4:


ว่าแต่ ส่งคาถาบูชาเมียให้หยางหลงท่องให้ลู่น้อยฟังทุกวันดีไหม   :laugh3:



ออฟไลน์ Chrith

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #138 เมื่อ18-01-2017 16:37:09 »

นี่ยังคงสงสัยอยู่ว่า ลูกๆของหยางหลงนี่ ใช่ลูกแท้ๆหรือเปล่า
ไฉนเมียดูมีลับลมคมใน

แล้วหนูลู่นี่แบบ ดี๊ดี ยอมหมดเลย
พี่เข้าใจนะว่าหนูไม่เด็กแล้ว
แต่หนูไปประสาเอาเสียเลย
พี่กลัวหนูจะเสียใจเสียจริงๆ

แต่ก็นั่นล่ะนะ
ยามชอบ ยามหลง อะไรมันก็หอมหวานเสมอ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #139 เมื่อ22-01-2017 02:41:04 »

 :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
« ตอบ #139 เมื่อ: 22-01-2017 02:41:04 »





ออฟไลน์ Ornon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #140 เมื่อ24-01-2017 06:07:53 »

มาส่องรอตอนต่อไป

 :mew3:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #141 เมื่อ25-01-2017 02:56:32 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ lilowria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #142 เมื่อ25-01-2017 07:24:55 »

ขอบคุณครับ สงสารลู่จัง เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับลู่

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #143 เมื่อ25-01-2017 16:23:51 »


ก๊อกๆๆๆๆ รออยู่จ้า มาเต๊อะ   :กอด1:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #144 เมื่อ25-01-2017 22:28:36 »

เหมือนหยางหลงแอบมาอยู่บ้านเล็กยังไงก็ไม่รู้ ฮ่าๆๆ
รู้สึกว่าเป็นที่ที่หยางหลงแสดงความเอาแต่ใจออกมาบ้าง
ดีกว่าตอนอยู่กับเมีย อะไรก็ได้ อะไรก็ดีหมด
แอบมาจุ๊บลูกเขาขนาดนี้ ระวังอย่าให้แม่และเมียทำร้ายกวางน้อยของเราได้นะคะ
ไม่งั้นหยางหลงเจอดีแน่ หึหึ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #145 เมื่อ26-01-2017 00:38:48 »

ท่านแม่เข้าใจท่านพ่อผิดใหญ่แล้วหรือเปล่า

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #146 เมื่อ26-01-2017 14:19:48 »

กินเด็กอย่างซับซ้อน  :katai2-1:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #147 เมื่อ26-01-2017 18:21:03 »

 :m15:อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว

ออฟไลน์ noteno

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #148 เมื่อ26-01-2017 21:20:12 »

 :z13: :z13:

มาจิ้มนักเขียน....

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sunrise in the forest บทที่5 (P5-150160)
«ตอบ #149 เมื่อ28-01-2017 18:19:26 »

มารอ~~~

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด