(คำเตือน** เรื่องนี้มีคำพูดไม่สุภาพ เนื้อหาไร้สาระตามใจคนเขียน)
ภารกิจที่ 1 : เปิดตัวจุนถอนใจมองเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขากับเขียวถือฤกษ์งามยามดีวันที่ที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นวันเปิดประเดิมแผนการ
เพราะถือคติยิ่งเร็วยิ่งดี
“มึงจะสั่นอะไรหนักหนาวะเขียว”
“กูว่าเรากลับไปคิดกันใหม่ไหมจุน”
“ปอดแหกอย่างมึงวาเลนไทน์หน้าก็หาแฟนไม่ได้ สูดหายใจลึกๆ เข้าไว้”
“เดี๋ยวจุน แล้วทำไมเราต้องมาทำที่คณะด้วยวะมึงไม่กลัวโดนกระทืบเหรอ เราเอาไว้ไปหาโชแปงกับพี่มิ้นที่คณะเขาแทน
ดีกว่าไหม” เขียวยังกล้าๆ กลัวๆ บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยชกต่อยกับใครและไม่คิดว่าจะสู้ใครได้อีกเหมือนกัน
“โชแปงกับพี่มิ้นอยู่กันคนละคณะมึงจะเสียเวลาร่อนไปทั่วทำไม อีกอย่างเปิดตัวแบบนี้มันแสดงความจริงใจโว้ย ว่าอย่างเราใจ
กล้าหน้าทนรักจริงหวังกก แมนๆ กันไป” เขียวกังวลว่าไม่ใช่ถิ่นหรอกที่จะโดนเหยียบหน้าพวกเขานี่แหละที่จะจมเท้ารุ่นพี่
“เอาไง เอาไง” จุนเร่งเพื่อน เขารู้อยู่แล้วว่าถึงอย่างไรสุดท้ายเขียวก็ต้องยอมทำตาม
“เอาก็เอา” เขียวยกพระที่สวมอยู่ขึ้นมาไหว้ สวดนะโมเสียสามจบตามด้วยบูชาพระรัตนตรัยขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง
“เหี้ยเขียวมึงทำอะไร” จุนร้องลั่นเมื่อเพื่อนยกสองมือขึ้นจับศีรษะเขาก่อนเป่าลมกึ่งน้ำลายมาเต็มกระหม่อม
“เชื่อกูปลอดภัยไว้ก่อน”
“เวรเอ๊ย” จุนยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายเพื่อนออก จัดทรงผมอีกทีให้แน่ใจในความหล่อก่อนพยักหน้าให้เพื่อนรัก
“ไป ได้เวลาแล้ว”
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“สวัสดีครับพิ่มิ้น โชแปง” เขียวปราดตัวลงนั่งตรงข้ามสาวสวยที่เขาหมายตาเอาไว้ วางแก้วน้ำใบโตที่ดันด้นไปซื้อมาจากร้าน
กาแฟชื่อดังลงตรงหน้า
“ชาเขียวปั่นหวานน้อยสำหรับคนสวยครับ”
“เรารู้จักกันเหรอ” มิ้นพยามนึกแต่เธอไม่คุ้นกับหน้าชายหนุ่มสองคนนี้เอาเสียเลย
“ไม่รู้จักครับแต่ผมเห็นพี่มิ้นกับโชแปงเกือบทุกวันเลยอยากมาทำความรู้จัก ผมชื่อจุนเรียนอยู่วิศวะฯปีสอง นี่เพื่อนผมชื่อเขียว”
“สวัสดีครับพี่มิ้น สวัสดีครับโชแปงนี่น้ำครับ” เขียวค่อยๆ เลื่อนแก้วที่ถือประคองมาอย่างดีไปตรงหน้าโชแปง
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจ” เขียวยิ้มหวานให้โชแปงแต่โดนจุนกระทุ้งสีข้างจนสะดุ้งโหยงรีบหุบยิ้มทันที เขียวลืมไปว่าจุนสั่งห้าม
เขายิ้มหวานเพราะหน้าจะสวยกว่าผู้หญิง
“พี่มิ้นครับจะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอ....”
“ขอตัวกลับก่อนครับ แล้วเจอกันใหม่” เขียวโพล่งแซงจุน ลุกพรวดขึ้นยืนจนสองสาวตกใจ
“อะไรวะ”
“ไป..ไปกันเถอะมึง สวัสดีครับโชแปง พี่มิ้น” เขียวไม่ฟังเสียงค้านลากแขนเพื่อนทู่ลู่ทูกังออกไปจนได้
“อะไรของมึงวะเขียว กูกำลังจะขอเบอร์กับไลน์พี่มิ้นเสียโอกาสหมด”
“พ่อมึงมาไม่เห็นเหรอ” เขียวพยักพเยิดให้จุนหันกลับไปมองที่โต๊ะ ถึงเห็นว่ากลุ่มซุปตาร์กำลังเดินเข้ามานั่ง
“แม่งเอ๊ยไหนว่าเลิกเที่ยงตรงไงวะ ทำไมลงมาเร็วฉิบหาย” จุนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน เขาอุตส่าห์
เช็คมาอย่างดีว่าทางสะดวก
“อ้าว เหี้ย!”
“อะไรของมึงจุน” เขียวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ เพื่อนก็อุทานออกมา
“มึงก็ดูเอาเองสิวะ” เขียวหันกลับไปมองอีกครั้ง ถึงเห็นว่าคนที่ยกชาเขียวที่สู้อุตส่าห์ไปซื้อกันมาขึ้นดื่มคือทิเบตและอินทรีย์
“พ่องมึงตาย แดกค่าข้าวกูสองวันอร่อยเลย เบอร์ยังไม่ได้สักตัว”
“กว่ามึงจะได้ครบสิบตัวต้องแดกแกลบกันก่อนหรือเปล่าวะ” เขียวชักสงสัย ด้วยทุนทรัพย์อันน้อยนิดที่มีติดตัว เขาจะใช้เปย์สาว
ไปได้อีกสักกี่ครั้ง
“กูขอแช่งให้ท้องเสีย ขอให้นมบูด ชาเขียวค้างปี ขอให้น้ำไม่สะอาด ขอให้..”
“มึงแช่งพี่มิ้นเหรอ” เขียวหันไปถามเพื่อน เพราะตอนนี้คนที่ดูดชาเขียวอยู่คือพี่มิ้นที่จุนหมายปอง
“สัสแดกโชว์กูไม่พอ จูบกันทางอ้อมอีก”
“ชาเขียวสื่อรักไงมึง” โป๊ก!! โอ๊ย! เขียวคลำหัวป้อยๆ แค่พูดผิดนิดเดียวเพื่อนถึงกับใจร้ายกับเขา
“แล้วจะเอายังไงต่อ”
“ตาม เดี๋ยวคงพากันไปโรงอาหารอย่างน้อยก็น่าจะมีโอกาสตอนแยกกันซื้อข้าว”
“เอาไงก็เอา” เขียวยอมเดินตามเพื่อนแต่โดยดี ค้านไปก็เท่านั้นมีหรือจุนจะฟังเขา
“ไปซื้อข้าวก่อนเถอะว่ะกูหิวแล้ว มึงจ้องเขากินข้าวจนหมดไปครึ่งจานยังไม่เห็นตัวจะแยกจากกันเลย” เขียวบ่นอุบเพราะตั้งแต่
ย่างกรายเข้ามาในโรงอาหารผู้หญิงที่พวกเขาหมายตาก็เดินตามติดกลุ่มซุปตาร์เหมือนใครเอากาวไปทาไว้ ไม่มีช่องหรือโอกาส
ให้พวกเขาเข้าไปทักทาย
“ถ้ามึงไปซื้อข้าวแล้วมีโอกาสขึ้นมาจะทำยังไง”
“กูก็อดคุยกับสาวแต่ได้แดกข้าวให้ท้องอิ่มไงมึง”
“พยาธิมึงเยอะขนาดไหนวะเขียว ตัวก็นิดเดียวแดกอยู่ได้ทั้งวัน” จุนบ่นเพื่อนแต่ก็พยักหน้าให้เขียวไปซื้อข้าวได้ ไม่ใช่อะไรเขา
จะได้ฝากด้วยหิวจนท้องร้องมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
“เฮ้ย!เขียว กลับมาก่อน” จุนหันไปเรียกเพื่อนแต่ไม่ทัน เขาจึงต้องหันมาเผชิญหน้ากับสายตาคมกริบที่จ้องมาเพียงลำพัง
“เหี้ยเอ๊ย ตอนมีเพื่อนอยู่เสือกไม่มองมามามองเอาอะไรตอนนี้วะ” สิ่งที่เขียวเห็นเมื่อครู่คือมิ้นชี้ให้ทิเบตหันมามองเขา
สายตาที่จ้องมาไม่เป็นมิตรเลยสักนิด โธ่ นึกว่าจะกลัวหรือวะ
เออ กูไปซื้อน้ำก็ได้เมื่อกี้ลืมสั่งเขียวมันไป จุนรีบลุกขึ้นยืน หันหลังจ้ำอ้าวตามเพื่อนไปด้วยความรวดเร็ว คนอะไรวะตาดุฉิบหาย
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
จุนดูดน้ำเก๊กฮวยด้วยความเก๊กซึม เขากับเขียวไม่ได้กลับไปนั่งที่เดิมอีกปลีกวิเวกออกมานั่งไกลปืนเที่ยง รีบกินรีบเดินกลับมาที่คณะ
“กูบอกมึงแล้วว่าไม่สำเร็จ เปลี่ยนเป้าหมายเถอะ”
“ไม่” จุนยังยืนยันคำเดิม ไม่ใช่ว่าเขาชอบพี่มิ้นมากมายอะไร แต่เมื่อลั่นปากแล้วก็ต้องทำตามคำที่พูด
“ปากดี แค่พี่เบตมองมามึงยังหนีเขากระเจิง”
“กูไม่ได้หนี กูหิวน้ำ”
“เออ คิดอย่างนั้นแล้วสบายใจก็เรื่องของมึง เอ้าหิวนักกูยกให้” เขียวยื่นขวดโอเลี้ยงที่ซื้อติดมือมาจากโรงอาหารให้จุน
“ขอบใจ” มีหรือจุนจะปฏิเสธ
“กูคิดว่าก่อนอื่นเราต้องทำให้พี่มิ้นกับโชแปงเห็นข้อเสียของสองคนนั้น” จุนดูดโอเลี้ยงเข้าปาก เขากำลังครุ่นคิดถึงแผนการขั้นต่อไป
“กูว่าไม่ได้ผลหรอก”
“ทำไม” จุนหน้าบูด ขัดใจที่เพื่อนเอาแต่ขัดคอ
“เพราะขนาดกูยังไม่เห็นข้อเสียของพี่เบตกับพี่อินสักข้อแล้วมึงจะเอาข้อเสียที่ไหนไปให้พี่มิ้นกับโชแปงเห็น”
“มึงจะชมคู่แข่งเพื่อ?!!”
“กูพูดความจริง ไหนถ้ามึงว่ามีลองสาธยายให้กูฟังหน่อย”
“ได้อยู่แล้ว” จุนกระแอมกระไอ มีหรือเขาจะหาไม่ได้ในโลกนี้ไม่มีใครที่เพอร์เฟ็คไปหมดทุกอย่างหรอก
“หนึ่ง สองคนนั่นแม่งหน้าตาดีเกินไป”
“เหี้ยจุน”
“อ้าวมึงฟังกูก่อน หน้าตาดีเกินไปทำให้มีสาวมาติดเยอะ ผู้หญิงมีแต่จะเสียใจ”
“เรื่องนั้นเขารู้อยู่แล้วไหมมึงไม่ต้องเสล่อไปบอกผู้หญิงเขาหรอก”
“งั้นก็ไปต่อข้อสอง สูงเกินไปไม่เหมาะสม เดินด้วยลำบากกอดก็ยาก” เสียงถอนใจดังๆ ของเขียวเป็นคำตอบที่ดี จุนจึงไปต่อ
ข้อสามทันที
“........”
“ไงล่ะมึง คิดไม่ออกใช่ไหม ถ้ามึงคิดออกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มซุปตาร์เหรอ”
“ขอกูกลับไปคิดก่อน กูไม่เชื่อว่าไอ้พี่เบตจะไม่มีข้อเสีย” จุนยังคงเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง
“ เป็นอะไรวะทำไมทำหน้าอย่างกับเห็นผี” จุนแปลกใจที่เห็นเพื่อนทำตาเบิกโต เขาไม่รอให้เขียวตอบรีบหันหลังไปดูด้วยตา
ของตนเอง จึงพบว่าผีของเขียวมีชื่อว่าทิเบตและอินทรีย์
“ตะ..ตายแน่เลยมึง ตรงมานี่แล้วเอายังไงดีวิ่งหนีกันไหม”
“ไม่ต้องกลัว”
“มึงสู้ได้เหรอวะ”
“เปล่า กูเห็นอาจารย์นั่งอยู่โต๊ะโน้น” เขียวหันไปมองหาอาจารย์ให้แน่ใจ เมื่อเห็นว่านั่งอยู่จริงจึงถอนใจออกมา แต่ถึงอย่างนั้น
ใจของเขาก็ยังเต้นรัว ตายแน่เลยกูไม่น่าหลงเชื่อไอ้บ้าจุนเลย
“มะ..มาแล้ว”
“มึงเห็นอย่างที่กูเห็นไหม” จุนหันไปมองหน้าเพื่อนเพื่อขอความมั่นใจ เมื่อพายุที่คิดว่าลูกใหญ่ได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อย
“เห็นอะไรวะกูไม่เห็นมีอะไร อย่าเพิ่งคุยกูขอไปห้องน้ำก่อนกลัวจนฉี่จะแตก”
“เดี๋ยว” จุนดึงแขนเขียวเอาไว้ไม่ยอมให้ไปง่ายๆ
“เมื่อกี้มึงเห็นใช่ไหมว่าไอ้พี่เบตมันเดินเฉียดหัวกูไปโดยไม่มองสักนิด”
“เห็น โชคดีของมึงแล้วที่พี่เขาไม่เอาเรื่องที่มึงไปเต๊าะเด็กเขา กูกลัวเขาจะมาเตะมึงตายตั้งแต่ตอนที่พี่มิ้นเล่า” เขียวหมายถึง
เหตุการณ์ที่จุนเห็นมิ้นสะกิดให้ทิเบตหันมามอง
“มึงปล่อยกูได้หรือยัง กูปวดฉี่จริงๆ นะโว้ย”
“เดี๋ยว กูคิดข้อสามออกแล้ว หยิ่ง ไม่เห็นหัวคนอื่น ไอ้พวกหลงตัวเอง” ทำเป็นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาไม่คิดว่าเป็นคู่แข่ง
เขาจะทำให้ดูว่าม้ามืดหน้าตาเป็นอย่างไร
“ข้อนี้อาจจะจริงของมึง แต่ไปเข้าห้องน้ำกันก่อนเถอะ”
“เออๆ กูไปด้วย” จุนลุกตามเขียว ที่ไม่รั้งเพื่อนไว้อีกเพราะเมื่อครู่เขาก็ลุ้นอยู่ไม่ใช่น้อย
✪✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✣✤✥✦✧✪
“หึหึ หึหึ”
“จุน”
“หึหึ หึหึ”
“ไอ้จุน! มึงถูกเมินแค่นี้ถึงกับเป๋เลยเหรอวะ ยืนหัวเราะเป็นคนบ้าอยู่ได้” เขียวปวดหนักจึงเข้าไปในห้องน้ำเดินออกมาเจอเพื่อนยืน
หัวเราะอยู่คนเดียว
“เขียว” จุนจับบ่าเพื่อนทั้งสองมือ เขาอยากหัวเราะให้ก้องโลก ทำไมเขาถึงได้ฉลาดขนาดนี้
“กูคิดออกแล้วว่าจะจัดการสองคนนั่นยังไง”
“ยังไงวะ”
“เมื่อกี้กูเจอพริตตี้กับเชอเบล” พริตตี้กับเชอเบลคือชายหนุ่มที่อยากเป็นหญิงสาว อาชีพหลักคือส่องผู้ชายหล่อในคณะ
อาชีพรองคือเรียนวิศวะฯคอม
“แล้ว? ” เขียวล้างมือในอ่างเขายังไม่เข้าใจประเด็นที่จุนพูด
“พวกนั้นเถียงกันว่าเดือนคณะวิทยาฯเป็นเกย์หรือเปล่า”
“เออกูก็ได้ยินดังไปถึงในส้วม แล้วยังไงวะกูไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับพี่เบตพี่อิน”
“เกี่ยวสิวะ ถ้ามีข่าวออกมาว่าสองคนนั้นเป็นเกย์ล่ะ” ป๊าบ!! เขียวทนไม่ไหวตบหัวจุนทั้งที่มือยังเปียก
“พี่เขาแดกผู้หญิงไปครึ่งมหาลัยแล้วมั้งจะเป็นเกย์ได้ยังไงวะ” เขียวรู้ว่าเขาพูดเกินจริงไปหน่อยแต่ต้องการให้เพื่อนรักเห็นภาพได้ชัดเจน
“เป็นไบก็ได้เอ้า อย่างพี่มิ้นกับโชแปงคงรับไม่ได้หรอก ทีนี้ผู้หญิงก็จะชิ่งหนี เปิดโอกาสให้เราเข้าไปรักษาแผลใจ”
“แต่พี่เขาไม่ได้เป็น ถึงมึงปล่อยข่าวลือไปก็ไม่มีใครเชื่อมึง”
“หึหึ กูคิดแล้วว่ามึงต้องพูดอย่างนี้ แต่กูมีแผน หึหึ หึหึ” ยิ่งเพื่อนของเขาหัวเราะหนักเท่าไหร่ เขียวก็รู้สึกว่าชะตาชีวิตเขาไม่ปลอดภัยเท่านั้น
“กูตั้งชื่อแผนนี้ว่าแผนดิสเครดิต ซุปตาร์ก็ซุปตาร์เถอะวะกูจะสอยร่วงให้ดู”
เอื๊อกกก เสียงกลืนน้ำลายแบบฝืดคอคือคำตอบของเขียวที่มีให้เพื่อน สิ่งเดียวที่เขียวภาวนาตอนนี้คือขอให้เขายังมีชีวิตรอด
จนได้ขึ้นเรียนปีสาม เขียวไม่หวังอะไรมากไปกว่านี้จริงๆ
“หึหึ สนุกแน่มึง”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE