Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี Ch.18 (P.11)(28-9-2016) [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี Ch.18 (P.11)(28-9-2016) [จบแล้ว]  (อ่าน 193452 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
5555 ไนท์ปากสุดยอด 2 คนนี้ใครปากร้ายกว่ากันน้าาาาาาาาา  :hao7:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พระเอกจะมีมุมดีมั้ยคะ...

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
สงสารไทม์ 

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ทำไมไม่เปลี่ยนพระเอกซะเลยนะเนี่ย เอาพี่อิฐเป็นแทนได้มั้ยยยยยย :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ไทน์ไม่ได้เป็นน้องแท้ๆของทัศป่ะ แบบเก็บมาเลี้ยงหรือไม่ก็พ่อมีเมียน้อยงี้ ถึงได้ไม่รักไทน์ อ่านแล้วหงุดหงิดจริงๆอยากจะกระโดดข่วนหน้าแม่จริงๆเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สงสารไทม์จัง  :sad4:  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สงสารไทม์ อยากให้พี่อิฐเป็นพระเอก 5555

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ทัศน์คงไม่ได้ไปไซโคกับเเม่งเรื่องน้องไทม์นะ :katai5:

ออฟไลน์ teng ning ning

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากค่ะ มาต่อเร็วๆน้า รออยู่ :mew1:
ชอบนิสัยนายเอก มองโลกในแง่ดีตลอดเลย

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
BROTHER CH.05 [Up 100%]

 
ทันทีที่เปิดประตูรั้วเข้าบ้าน ก็เห็นใครบางคนยืนกอดอกพิงประตูบ้านมอง

“หึ ไม่สนใจงานบ้านงานเรือน ออกไปเที่ยวแรด ๆ กับผู้ชายอีกล่ะสิ แม่รู้คงผิดหวังแย่”

“ผมไม่ได้ไปแรดที่ไหน แค่ไปกินข้าวกับดูหนังเท่านั้น” ผมตอบแค่นั้น เดินสวนพี่มันเข้าไป แต่พี่ทัศน์รั้งข้อมือผมไว้

“อย่ามาทำตัวงี่เง่านะ อยู่แต่บ้านไปนั่นแหละดีแล้ว เที่ยวเอาตัวไปให้เขาฟัน มันจะมีศักดิ์ศรีไหม”

“คนที่ชอบฟันคนอื่นทิ้งไม่เลือกหน้าอย่างพี่ไม่มีสิทธิ์พูดหรอก ปล่อย จะขึ้นไปพักผ่อน”

“หึ ใช้งานหนักมากรึไง”

ผมถอนหายใจเบา ๆ

“กินข้าวรึยัง” แล้วเสถามไปเรื่องอื่น

“อย่ามานอกเรื่อง!”

“อยากกินอะไร เมื่อวานซื้อของสดมาเพิ่ม อยากกินอะไรทำได้หมด ยกเว้นอาหารฝรั่ง”

“ไทม์!!”

“โอเค รอผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว จะลงมาทำให้กิน”
ผมตัดบทแค่นั้น เดินลิ่ว ๆ ขึ้นห้องไป

ผมวางข้าวของลงบนเตียง เหลือบมองถุงอะไรบางอย่างที่พี่อิฐให้มาก่อนลงจากรถ ไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร ผมหยิบถุงนั้นมาเปิดดูทันที

เป็นเสื้อครับ เสื้อยืดแขนยาว เสื้อตัวนี้ผมเห็นในหุ่นก่อนเดินเข้าห้องน้ำ เมียงมองอยู่พักเพราะเห็นว่ามันเท่ดี (ในหุ่นกล้ามอย่างเท่อ่ะ) แต่ไม่คิดจะซื้อหรอก ไม่คิดว่าพี่อิฐจะแอบซื้อมาให้ ผมยิ้มนิด ๆ คงซื้อตอนผมเข้าห้องน้ำแน่ ๆ

ผมพลิกป้ายราคาดู

โอ้โห แพงจัง!

รู้สึกเกรงใจขึ้นมาทันที

แต่เอาเถอะ เขาอุตส่าห์ซื้อให้ ผมดึงป้ายราคาออก ถอดชุดนักเรียนสวมเสื้อตัวนั้นทันที หมุนซ้ายหมุนขวามองตัวเองในกระจก

ขมวดคิ้ว ทำไมมันไม่เท่เหมือนในหุ่นนะ ในหุ่นแขนยาวแค่ข้อมือ แต่ผมยาวจนคลุมหลังมือ ในหุ่นโชว์กล้ามอก แต่ของผมมันย้วยจนเห็นหน้าอกเหมือนกัน แต่ไม่มีกล้ามจะโชว์

โห คล้ายผู้หญิงจัง แม่เห็นจะด่าไหมเนี่ย

ผมถอนหายใจแรง เดินไปรื้อหากางเกงใส่ มีแต่กางเกงวอร์มกับกางเกงหลวม ๆ ตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น ไม่มีตัวไหนเข้ากันเลย

เอาไงดี…

ผมนิ่งคิด ก่อนนึกได้ว่าแนนเคยให้เสื้อผ้ามาถุงหนึ่ง เป็นเสื้อผ้าของลูกพี่ลูกน้องแนนเอง เพิ่งเคลียร์ตู้เสื้อผ้าเลยแบ่งมาให้ผมส่วนหนึ่ง ตั้งแต่ได้มาผมก็ยังไม่ได้เปิดดูเลย ผมรีบตรงไปยังถุงเสื้อผ้าที่ยัดไว้มุมหนึ่งของห้อง แกะปากถุง เททั้งหมดบนลงบนเตียง เลือกหาเฉพาะกางเกงมาดู มีหลายตัวเลย ผมหยิบสีที่ชอบก่อน ขาสั้นไปนิดแต่ท่าทางน่าจะใส่สบาย ผมรีบใส่ทันที

ใส่สบายจริง ๆ ด้วย เสียแต่ขาสั้นไปหน่อยจริง ๆ เกิดมายังไม่เคยใส่ขาสั้นกับเขาเลย (เวลานอนผมก็ใส่กางเกงวอล์มครับ)

จะว่าไปมันก็โล่งขาดี ผมรีบหยิบมือถือมากดถ่าย ส่ง sms ไปให้พี่อิฐดูทันทีพร้อมข้อความกำกับ

‘ขอบคุณสำหรับชุดนะครับ ไม่เท่เหมือนในหุ่น แต่พอดูได้’

พี่อิฐตอบกลับมาทันที

‘ขอบคุณที่ใส่ ไทม์ใส่แล้วน่ารักมาก’’

เอิ่ม...

จะภูมิใจดีไหมเนี่ย มีคนมาชมว่าน่ารักเนี่ย ผมวางมือถือลง เดินออกจากห้องลงไปในครัว

ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงได้ชอบใส่ขาสั้นกันนัก ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะมันใส่แล้วสบายแบบนี้นี่เอง ผมฮัมเพลง หยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม เสียบปลั๊กอุ่นข้าว เปิดตู้เย็นหยิบของออกมาเตรียมไว้เพื่อทำไข่เจียวหมูสับ

ทำอย่างเดียวก็พอมั้ง

ผมเปิดแก๊ส เทน้ำมันใส่กระทะ พอร้อนได้ที่ก็เทไข่ใส่ลงไป

“อ๊ะ!”
น้ำมันกระเด็นมาถูกแว่น ดีนะที่ใส่แว่น ไม่งั้นคงเข้าตาแน่ ๆ ผมรีบถอดออกวางไว้ข้าง ๆ พลิกไข่ไปอีกด้าน พอสุกก็ตักใส่จานวางไว้ใกล้ ๆ แว่น ปิดแก๊ส เอากระทะไปล้าง

“หึ เดี๋ยวนี้หัดแต่งตัวยั่วผู้ชายแล้วรึไง”

ผมสะดุ้งเฮือกหันไปมอง เผลอปัดจานไข่ที่วางไว้ตกพื้น หนำซ้ำยังกวาดเอาแว่นที่วางไว้ข้างกันตกด้วย ผมรีบยกเท้าหนีด้วยความตกใจก่อนเหยียบลงไปอีกครั้ง

“แกรก!!”
เสียงนั้นทำเอาผมแหกปากร้องลั่น รีบดีดตัวหนี

แต่ช้าไปแล้ว...

แว่นนั้นแตกกระจาย ผมรีบก้มหยิบขึ้นมาดู

“โธ่ แว่นผม”
ผมเบะหน้าทำท่าจะร้องไห้

ไม่ใช่สิ…

แล้วไข่เจียวพี่ทัศน์ล่ะ!!

ผมก้มมองพื้นอีกรอบ ไข่เจียวพี่ทัศน์นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น   

“โธ่ ไข่เจียวพี่ทัศน์...”
อุตส่าห์ทำ ผมถอนหายใจแรง ลุกหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาด หันไปมองคนตัวสูง

“รอก่อนนะ จะรีบทำให้ใหม่”
ผมหันไปลงมือทำอีกรอบ รู้สึก  เหมือน ๆ กำลังถูกมอง ผมหันไปมองพี่อีกที

“มีอะไร อยากกินอะไรก็บอกสิ ยืนมองแบบนั้นจะรู้ไหม”

พี่เปลี่ยนสีหน้า ทำท่าอึกอัก

“อยากกินอะไร”
ผมถามอีกรอบ ตอกไข่ลงถ้วย สับหมูปรุงเครื่องแล้วทอดอีกรอบ กลิ่นไข่เจียวหอมคลุ้ง พอมันเหลืองกรอบได้ที่ก็ตักใส่จานวางไว้บนโต๊ะ พี่ทัศน์ยังไม่ขยับไปไหน ผมหันไปมองอีกที

“อยากได้อะไรเพิ่มไหม”

เขาจ้องหน้าผมนิ่ง ๆ จนผมรู้สึกแปลก ๆ

หรือว่ามีอะไรติดหน้า?

ผมลองจับ ๆ ดู

อ๋อ หน้าโล่งเพราะไม่มีแว่นนี่เอง แปลกนักรึไง

“มองมาก เดี๋ยวความขี้เหร่ก็กระเด็นใส่หรอก”
ข้าวดีดพอดี ผมหันไปตักข้าวใส่จานวางไว้บนโต๊ะ เตรียมน้ำเตรียมท่า

“ตามสบายนะ เดี๋ยวดึก ๆ จะลงมาล้าง”
ผมเก็บของเข้าที่ ถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ที่เดิม กำลังจะก้าวผ่านพี่ทัศน์แต่วงแขนใหญ่ข้างหนึ่งเกี่ยวเอวผมไว้ ผมเงยหน้ามองเจ้าของวงแขนนั้นงง ๆ

“มีอะไร”

พี่ทัศน์จ้องหน้าผมนิ่ง ๆ

“พี่ทัศน์” ผมเรียกอีกรอบ

“อยากกินหมูทอด”

ผมหน้าหงิก

“แล้วเมื่อกี้ก็ไม่บอก”
ผมดันตัวออก หยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่ใหม่ เปิดตู้เย็นหยิบหมูออกมาหั่นเป็นชิ้นขนาดเท่ายางลบเด็กอนุบาล ปรุงรสอย่างรวดเร็ว

สงสัยกันไหมว่าทำไมผมกับข้าวเก่งจัง เพราะตั้งแต่เล็กจนโต ผมขลุกอยู่แต่กับแม่บ้านจนทำเป็นทุกอย่าง แม้แต่พ่อแม่ยังติดใจฝีมือผมเลย ไม่งั้นตอนออกมาพี่ทัศน์ไม่ลากผมออกมาอยู่ด้วยหรอก

“ไปซื้อชุดนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ไม่ได้ซื้อเอง พี่อิฐซื้อให้”

พี่ทัศน์หน้าหงิกทันที

“หึ ให้ผู้ชายซื้อเสื้อผ้าให้ รู้ความหมายหรือเปล่าว่าเขาซื้อให้เพราะอะไร”

“ไม่รู้ แค่อยากซื้อให้มั้ง”

“เพราะเขาต้องการถอดชุดนั้นด้วยตัวเองต่างหาก”

ผมถอนหายใจแรง ทำหน้าหน่าย เทน้ำมันใส่กระทะ

“อย่าเอาบรรทัดฐานความคิดตัวเองไปปรักปรำคนอื่นสิ คงไม่มีใครคิดแต่เรื่องใต้สะดือแบบพี่หรอก”
ผมใช้ตะหลิวเขี่ยหมูในถ้วยลงกระทะ เสียงทอดดังซู่

“หึ พูดเหมือนรู้จักผู้ชายดี ผ่านมากี่คนแล้วล่ะ”

อยากเอาตะหลิวแนบหน้าจริง ๆ

“เรื่องของผม”
ขี้เกียจจะเถียงว่าไม่ใช่แล้ว อยากเข้าใจแบบไหนก็ตามใจ ผมเกลี่ยหมูให้กระจายออกจากกัน   

“จะบอกแม่”

ผมถอนหายใจแรงอีกรอบ

“พี่นี่นอกจากจะเจ้าชู้แล้วยังขี้ฟ้องอีกนะ แต่ก่อนจะฟ้องอะไรช่วยสืบจากศพว่าเรื่องไหนจริงไม่จริงสักนิดก็ดี”
หมูสุกพอดี ผมปิดแก๊ส ตักหมูใส่จาน ล้างกระทะ เก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง หันไปมองคนที่ยืนหน้าบูดเป็นตูดเป็ดอยู่ 

“ผมเบื่อเหมือนกันกับคำขู่พวกนี้ จริงก็โดนด่า ไม่จริงก็โดนด่า จนขี้เกียจจะแก้ตัวแล้ว ถ้าพี่กับแม่จะมองว่าผมแย่ เห็นว่าเป็นตุ๊ดแรดร่านยังไงก็มองไปเถอะ ผมไม่เถียงแล้ว”
ผมยิ้มให้นิดหนึ่ง กำลังจะเดินจากไป แต่หยุดขาไว้ หันเสี้ยวหน้าไปมอง

“แต่อีกไม่นานหรอก ผมจะออกไปจากชีวิตพี่กับแม่แล้ว” พูดเองก็เจ็บเอง เดินไม่ทันไรก็ถูกคว้าแขนไว้อีกรอบ

ทำไมช่วงนี้โดนจับบ่อยจัง

“จะไปไหน ไปอยู่กับใคร ไอ้อิฐรึไง หึ มันขอคบแล้วเหรอหรือว่าจะหนีตามผู้ชายคนอื่นไป”

ผมยิ้ม

“ไม่ได้ไปอยู่กับใครทั้งนั้น ชีวิตผม ผมจัดการเองได้”
ผมดึงมือออก เดินกลับห้องไป


ผมกลับมาอาบน้ำ นั่งทำโปสการ์ดต่อจนถึงห้าทุ่ม ปิดคอมลงไปชั้นล่างเพื่อล้างจานที่พี่กินไว้ แปลกใจนิดหน่อยที่บนโต๊ะกินข้าวว่างเปล่า จานชามถูกล้างแล้วเรียบร้อย ผมมองขึ้นไปยังห้องพี่ชายที่ถูกปิดสนิท

พี่ทัศน์ล้างจานเอง สงสัยวันนี้ฝนจะตก
 
แล้วฝนก็ตกลงมาจริง ๆ

ผมนั่งมองสายฝนที่กำลังโปรยปรายจากทางหน้าต่าง แสงไฟสะท้อนเม็ดฝนแลดูแพรวพราวราวกับเพชร ผมลุกหยิบกล้องมากดถ่ายอย่างอดใจไม่ไหว ก่อนวิ่งลงไปชั้นล่างเพื่อหาภาพสวย ๆ ต่อ

ในสวนจะมีเสาหินประดับตุ๊กตาดินปั้นไว้ ภายในมีหลอดไฟให้แสงสว่างแบบกันน้ำอยู่ อยากถ่ายภาพนั้นมาก ผมคว้าร่มเดินดุ่ย ๆ ออกไปทันที ไม่ต้องกลัวว่ากล้องจะเปียก เพราะเป็นแบบกันน้ำ

ผมกดถ่ายไปเรื่อย ๆ จากมุมหนึ่งไปอีกมุม สักพักร่มเริ่มเกะกะ ผมโยนทิ้งแล้วถ่ายมันทั้งเปียก ๆ นั่นแหละ

คนเป็นช่างภาพห้ามกลัวฝน

อยากได้ภาพตุ๊กตาหมีริมหน้าต่างท่ามกลางสายฝนแฮะ

ห้องผมไม่มีตุ๊กตาหมีแบบที่ต้องการเลย แต่ห้องพี่มี ผมเงยหน้ามองหน้าต่างห้องพี่ ไฟยังเปิดอยู่แปลว่าพี่น่าจะยังไม่นอน

เอาไงดี ไม่อยากรบกวนเลย แต่ก็อยากได้ภาพมาก

เงินนะเงิน ผมบอกตัวเอง

ผมตัดสินใจวิ่งเข้าบ้านตรงขึ้นบันไดไปเคาะห้องพี่ทัศน์ ไม่นานบานไม้ก็แง้มเปิดออก พี่มันมองผมอึ้ง ๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ขอยืมตุ๊กตาหมีกับหน้าต่างหน่อย”

พี่ทัศน์มองงง ๆ ผมไม่รอให้เขาปฏิเสธ แทรกตัวเข้าไป หยิบตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลไปวางไว้บนขอบหน้าต่าง กดถ่ายอย่างรวดเร็ว ปรับเปลี่ยนมุมมองอีกนิดให้ภาพดูเศร้า ๆ หยิบตุ๊กตาหมีอีกตัวไปวางไว้เคียงกัน กดถ่ายอีกรอบ พอเสร็จก็เอาตุ๊กตาไปคืน หันไปมองเจ้าของห้องที่มองผมอยู่

“ขอโทษที่ทำให้ห้องเปียก จะรีบมาทำความสะอาดให้”
กำลังจะก้าวออกจากห้อง แต่พี่ทัศน์รั้งไว้จนผมเซไปปะทะอกแกร่ง ผมเงยหน้ามอง พี่เขาไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องหน้านิ่ง ๆ เท่านั้น

“มีอะไรหรือเปล่า”

สายตาแบบนั้นทำเอาผมรู้สึกอึดอัดยังไงพิกล

“พี่ทัศน์”

“ทำไมตัวเปียก”

“ไปตากฝนถ่ายรูปมา ปล่อย”
ผมดึงตัวออกเบา ๆ เดินกลับเข้าห้อง เปลี่ยนเป็นชุดสไตล์เดิม คว้าไม้ถูพื้นกลับไปทำความสะอาดห้องให้

 




ผมกลับมาทิ้งตัวลงนอน ล้วงหยิบสมุดบัญชีใต้เตียงขึ้นมาเปิดดู

หึ ๆ เก่งเหมือนกันน้า ทำได้เยอะแล้ว ตั้งสองแสนแน่ะ ผมนอนมองยอดเงินในบัญชียิ้ม ๆ ก่อนซ่อนมันไว้ที่เดิม ดับไฟลง

“อีกไม่นานก็จะไม่อยู่ให้แม่กับพี่รำคาญแล้ว”
ผมยิ้มแล้วเข้าสู่ภวังค์หลับใหลไป

[ UP 50%]

อืม เช้านี้ คงเป็นเช้าที่สดชื่นที่สุดสำหรับผม ผมคว้ากระเป๋าเรียน กล้องและกระเป๋าโน้ตบุ๊กเดินลิ่ว ๆ ลงมาข้างล่าง มุ่งตรงเข้าครัว หวังทำอาหารให้พี่ทัศน์กิน เลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นใครบางคนมานั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา วันนี้พี่มีเรียนเช้าก็จริง แต่ไม่เคยเห็นตื่นเช้าแบบนี้มาก่อน ผมไม่สนใจ วางกระเป๋าไว้ เดินเข้าไปทำอาหาร

“ทำไมไม่ใส่แว่น มีแค่อันเดียวรึไง” พี่ทัศน์เดินเข้ามาถาม ผมหันไปมอง

ยุ่งอะไรด้วยเนี่ย

“มีหลายอัน แต่ขี้เกียจใส่แล้ว”

“ทำไม สายตาสั้นไม่ใช่รึไง”

“เปล่า”

“แล้วใส่ทำไม”

ผมไม่ตอบคำถาม ทำกับข้าวไปเงียบ ๆ จนเสร็จ ปกติผมจะรีบกินก่อนแล้วเก็บไว้ให้พี่ทาน แต่วันนี้คงต้องกินด้วยกัน ผมนั่งกินไปเงียบ ๆ ไม่มองหน้าใครอีกคนที่นั่งมองผมอยู่

ไม่รู้หรอกนะว่าพี่มองเพื่อจ้องจับผิดอะไรอีก ผมรีบกิน พออิ่มก็ยกจานไปล้าง พี่ทัศน์กินเสร็จพอดี ผมรับมาล้างด้วย เช็ดมือ คว้ากระเป๋าเดินออกจากบ้านไป

ผมเดินไปตามทางเพื่อขึ้นรถเมล์ ได้ยินเสียงแตรดังขึ้น ผมหันไปมอง เลิกคิ้วแปลกใจเพราะเป็นรถของพี่ทัศน์ ผมเดินเข้าไปใกล้ ก้มมองกระจกที่กำลังลดลง

“มีอะไร”

พี่มันทำท่าอึดอัดเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ก่อนเลื่อนกระจกขึ้น กระชากตัวรถจากไปโดยไม่พูดไม่จาอะไร

“อะไรของเขา”
ผมมองงง ๆ ยังไม่ทันได้ก้าวเดินก็มีเสียงมือถือดังขึ้น ผมล้วงหยิบมาดูเบอร์

พี่อิฐ ผมรีบกดรับทันที

“ออกจากบ้านหรือยังครับ”

“ครับ กำลังจะถึงป้ายรถเมล์แล้ว”

“ยืนรออยู่ตรงนั้นแหละ พี่จะไปรับ”

ผมเลิกคิ้วสูง ยังไม่ทันได้พูดอะไรพี่อิฐก็กดตัดสาย ผมยืนรอ สักพักรถพี่อิฐก็ขับมาจอดตรงหน้า เขาก้าวลงจากรถเข้ามาใกล้

“จำเกือบไม่ได้แน่ะ”

“ทำไมครับ”
ผมถามด้วยความสงสัย พี่อิฐยิ้ม

“พอไม่ใส่แว่นแล้วน่ารักขึ้นเป็นกอง”

ผมแก้มร้อนผ่าว

“ผมเป็นผู้ชายนะพี่อิฐ มาชมแบบนี้ได้ไง”

“ความน่ารักมันไม่แบ่งเพศหรอกนะ”
ก็จริง จะว่าไปแล้วในโรงเรียนผมก็มีผู้ชายน่ารักเยอะเหมือนกัน พี่อิฐเปิดประตูให้

โห สุภาพบุรุษสุด ๆ ผมยิ้ม ขึ้นไปนั่ง พี่อิฐกลับไปนั่งประจำที่ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงเรียน

“นั่งอยู่เฉย ๆ นะ”
พี่อิฐสั่ง เปิดประตูก้าวลงจากรถ ผมมองงง ๆ พี่อิฐเดินอ้อมมาเปิดประตูให้

“เชิญครับ”
โอ้โห อะไรจะสุภาพบุรุษขนาดนั้น ผมก้าวลงจากรถเขิน ๆ

“ขอบคุณครับ แต่ครั้งหน้าไม่ต้องก็ได้ ผมเป็นผู้ชายนะพี่”

“ชายหญิงไม่สำคัญ สำคัญแค่พี่อยากทำให้เท่านั้นก็พอ”

ผมมองคนตรงหน้าอย่างชื่นชม

“ตอนเย็นว่างไหม”

“ทำไมครับ”

“พี่จะขอมารับ”

“ไม่เป็นไรครับพี่ เกรงใจ”

“พี่เต็มใจ”

ผมหน้าร้อนผ่าว พยักหน้ารับ ก้มสวัสดีหันหลังเดินเข้าตึกเรียนไป

“แหม ๆ ใครมาส่งน่ะ”
แนนวิ่งเข้ามาทักทันที

“พี่อิฐ เพื่อนพี่ทัศน์ เจ้านายคนใหม่เราเอง”

แนนเลิกคิ้วสูง

“พี่เขาให้เราไปทำความสะอาดห้องที่คอนโดให้”

“ท่าทางเขาจะชอบไทม์นะ”

“บ้า เราเป็นผู้ชายนะ”
ผมพูดกลบเกลื่อน แนนยู่หน้า

“สมัยนี้เรื่องพวกนี้เขาเปิดกว้างกันมากแล้ว แล้วอีกอย่าง ถ้าแนนพูดไทม์ห้ามโกรธแนนนะ”

ผมพยักหน้า

“ไทม์เป็นผู้ชายก็จริง แต่หน้าหวานมาก จริง ๆ มีคนแอบมองไทม์เยอะนะ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะไทม์ค่อนข้างปิดตัว พอไม่ใส่แว่นแบบนี้ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่”

“น่ารักน่าเริกอะไรกันเล่า รีบเข้าห้องกันเถอะ”
ผมตัดบทเพื่อนเอาดื้อ ๆ
 


วันนี้มีการบ้านให้ทำหลายวิชา ยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะนั่นหมายถึงผมจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วงหลัง ๆ แนนจะอยู่ช่วยตลอด แนนเป็นคนทำการบ้าน ส่วนผมคัดลอก เพราะแนนปลอมลายมือไม่เป็น


“เรียบร้อย”
ผมวางการบ้านเล่มสุดท้ายลง ก่อนเอาไปยัดไว้ในเก๊ะของเพื่อน ๆ   

“ไปกินติมกัน” แนนชวน

“ไทม์อยากเก็บเงินง่า”
แนนรู้ว่าผมอยากเก็บเงินเพื่ออะไร

“แนนเลี้ยงน่า”

“ไม่เอา เดี๋ยวเราก็กลายเป็นเพื่อนจอมงกกันพอดี”

“ไม่หรอก แนนอยากมีเพื่อนกินจริง ๆ นี่นา กินคนเดียวไม่อร่อย”
แนนทำหน้าหงอย ผมจำต้องพยักหน้า แล้วเราสองคนก็พากันนั่งรถไปยังร้านไอศกรีมเจ้าอร่อย   

จริง ๆ ร้านนี้คนแน่นมาก ต้องรอคิวนาน แต่วันนี้มีที่ว่างเหลืออยู่ที่หนึ่ง เราสองคนรีบวิ่งไปจับจองทันที เป็นเก้าอี้แบบโซฟานั่งสบาย เรานั่งกันคนละฝั่ง พนักงานเดินมายื่นเมนูให้ แต่แนนโบกมือปฏิเสธเพราะรู้สิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว เราสั่งแบบถ้วยใหญ่มานั่งกินด้วยกันสองคน

“อีกคำนะคะพี่ทัศน์”

หูผมกระดิกทันทีหันขวับไปมอง ตอนแรกคิดว่าเป็นใครสักคนที่ชื่อเหมือนกัน แต่พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นพี่ทัศน์จริง ๆ นั่งอยู่โต๊ะในสุด ข้างกันเป็นสาวสวยหุ่นน่าฟัด พี่ทัศน์นั่งหน้าเรียบ แต่ผมดูออกว่ากำลังอยู่ในโหมดรำคาญสุด ๆ ผมหันกลับมาที่เดิม ไม่รู้พี่เห็นผมรึยัง เมื่อกี้ก็ไม่ได้สังเกต

“ย้ายร้านกันไหมแนน”

“ไม่ทันแล้ว”
แนนบุ้ยปากไปยังพนักงานที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมถ้วยไอศกรีม ผมเม้มปากแน่น แนนคงเข้าใจว่าทำไม

ผมลอบมองพี่ทัศน์อีกครั้ง เขามองผมอยู่เหมือนกัน ผมหันกลับมาที่เดิมไม่สนใจคนด้านหลังอีก นั่งกินไปเงียบ ๆ

“อีกคำนะคะ”
สาวนางออดอ้อนอีกรอบ เธอคิดผิดแล้วที่บังคับพี่ทัศน์แบบนั้น เพราะรายนั้นโคตรจะไม่ชอบของหวานเลย

เสียงเมสเสจดังเบา ๆ ผมล้วงหยิบขึ้นมอง เป็นข้อความจากพี่ทัศน์นั่นแหละ ผมกดเปิดอ่าน

‘สองพันเอาให้ขาด’

สั้น…แต่ได้ใจความ

ผมถอนหายใจแรง วางช้อนลง แนนมองงง ๆ ผมยื่นข้อความให้ดู แนนพยักหน้าเข้าใจ ผมขยับลุกยืน ปรับสีหน้าใหม่

“อ้าว พี่ทัศน์มาอู้อะไรอยู่แถวนี้ครับ วันนี้มีนัดติวสอบให้พวกไทม์นะ”
ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ กอดแขนแกร่งไว้ แกล้งทำตัวเหมือนตุ๊ดจริง ๆ อย่างที่พี่เขาเคยต่อว่ามา พี่ทัศน์คงรู้สึกขยะแขยง แต่ช่วยไม่ได้ ให้หาวิธีอื่นตอนนี้คิดไม่ออกจริง ๆ หลอกหน้างานไปก่อนละกัน

สาวนางมองผมตาเขียว

“นายเป็นใคร!”

“เป็น…”
ผมยิ้มยั่ว กอดแขนพี่ทัศน์แน่นขึ้น ซบหัวกับไหล่กว้าง “คนสำคัญ…”

สาวนางอ้าปากค้าง ผมฉุดพี่ทัศน์ลุกยืนทันที

“เรารีบไปกันดีกว่า แนนรออยู่ เอาบิลไปเคลียร์ด้วยเลย” ผมคว้าบิลบนโต๊ะมาถือ “กลับเองได้ใช่ไหม พรุ่งนี้เรามีสอบ พี่ทัศน์คงไปส่งไม่ได้”
ผมยิ้มหวาน บังคับให้หล่อนกลับเอง สองแขนผมยังกอดพี่ทัศน์แน่น หัวซบไม่ปล่อย ให้หล่อนไปคิดเอาเองว่าผมเป็นอะไรกับพี่ทัศน์กันแน่

“พี่ทัศน์!”
นางเรียกความสนใจ

“โทษที”
พี่ทัศน์ตอบแค่นั้นไม่พูดอะไรอีก สาวนางดีดตัวลุกยืน คว้ากระเป๋าเดินตุปัดตุป่องออกไป พอพ้นสายตา ผมคลายมือออก ยื่นบิลคืน แบมือขอเงิน

“ไม่ได้พกเงินสดมา กลับไปเอาที่บ้านละกัน”

ผมพยักหน้าเข้าใจ เดินกลับไปนั่งที่เดิม ไม่สนใจพี่มันอีก พี่ทัศน์เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ แต่ผมทำเป็นไม่เห็น แนนเงยหน้ามอง

“เอ่อ…ไทม์”
แนนคงอยากบอกให้รู้ว่าเขามายืนอยู่ข้าง ๆ แล้ว แต่ผมทำเป็นไม่เห็นเหมือนเดิม

“เอ่อ พี่ทัศน์นั่งก่อนซิคะ”
แนนคงกลัวเสียมารยาท ขยับไปชิดด้านใน ผมเงยหน้ามอง พี่ทัศน์มองแนนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม กำลังจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แนน แต่ผมคว้าแขนแกร่งไว้ ดึงมานั่งข้าง ๆ ตัวเองแทนทันที

งานนี้ขอปกป้องเพื่อนตัวเองก่อนละกัน

to be con..
หน่วงเนอะ #ทัศน์ไทม์ #พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี #เม้นท์โหน่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2016 17:07:10 โดย memew »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ไทม์สู้ๆ จะได้ไปจากบ้านนี้ซะที!!!
อิพี่ทัศน์ขี้หวงยังทำซึนอีกกก :katai1:

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เก่งแฮะ ตัวแค่นี้เก็บเงินได้ตั้ง2แสนแหนะ
กอดน้อง1ที  :กอด1:

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อีตาทัศน์ หลง น้อง แล้วอ่ะ ดี๊  :z6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไทม์ ไม่ใช่น้องจริงๆ เด็กเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่า
ดูการเลี้ยงดู การปฏิบัติ ระหว่างทัศน์ ไทม์ ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ปฏิบัติกับพี่เหมือนเทวดา กับน้องเหมือนคนใช้ :katai1:
งง กับพ่อแม่ไทม์ :m16:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เอ่ออออออ

คาาดว่าถ้าพล็อตธรรมดา จะมีคนเจอสมุดบัญชีแล้วซ่อนเปล่านะ??
หรือน้องจะออกจากบ้านได้!??

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
น้องไทม์จะได้ไปไหมนะ. เกลียดอีทัศน์จริงๆ

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ไทน์รีบเลยนะ รีบเลยยยย
รำอิพี่ทัศผู้ชายอะไรปากคอเราะร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ GMJeam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สู้ๆ นะไทม์

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
รออีก50%อ่ะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ teng ning ning

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอนะคะ :call:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
>>>>ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 5 ครึ่งหลังก่อนนะคะ พอดีลืมอัพที่นี่ (ขออภัย T^T)<<<<ขอบคุณคุณ teng ning ning ที่ติงมานะคะ

BROTHER CH.06

และตลอดเวลาที่นั่งอยู่ด้วยกัน พี่ทัศน์พยายามชวนแนนคุยตลอด จนผมต้องหาจังหวะลากคนตัวสูงออกไปคุยกันข้างนอก
 
“พี่คิดจะทำอะไร”
 
“ทำอะไร”
 
“อย่ามาทำรุ่มร่ามกับเพื่อนผมนะ แนนเขาเป็นคนดี เป็นคนบริสุทธิ์”
 
“ทีนายยังยุ่งกับเพื่อนฉันเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันห้ามแล้ว”
 
“มันคนละประเด็นกัน ผมคบกับพี่อิฐเพราะจริงใจไม่ได้หวังฟันแบบพี่”
 
“คนนี้ฉันอาจจริงจังก็ได้”
 
“รอให้ฟ้าถล่มก่อนเถอะพี่ถึงคิดจะจริงจังกับใคร”
 
“อย่ามาดูถูก!”
 
“งั้นพี่ก็ต้องเลิกดูถูกผมเหมือนกัน” ผมแหงนหน้าคอตั้งเถียง
 
“ฉันจะจีบใครมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย”
 
“แต่คนคนนั้นต้องไม่ใช่แนน”
 
“ถ้าอยากปกป้องนักก็ทำไป แต่ทำให้ได้ละกัน”
 
ผมมองพี่ทัศน์ด้วยแววตาแค้นเคือง พอกลับถึงโต๊ะ ผมตามประกบเขาแจ
 
“ตอนแรกคิดว่าพี่ทัศน์จะเย็นชากว่านี้ซะอีก ตัวจริงน่ารักมากเลยค่ะ”
 
“บางทีไทม์เขาก็มองพี่ในแง่ร้ายเกินไป” หัวข้อสนทนาเริ่มวกกลับมาที่การนินทาผม ผมไม่โทษเพื่อนหรอกเพราะรู้ว่าแนนตามเล่ห์เหลี่ยมของพี่ชายไม่ทัน
 
“เอ้า ของโปรดพี่” ผมแกล้งตักไอศกรีมคำโตไปจ่อไว้ใกล้ปาก ยิ้มหวานสำทับบังคับให้กิน ผมรู้ว่าพี่ไม่ชอบ แต่ต่อหน้าเหยื่อพี่มักทำตัวเชื่องเสมอ
 
เขามองอึ้ง ๆ ผมแกล้งยิ้มหวานมากกว่าเดิม ทำตาเชื่อม ๆ บังคับให้กิน พี่ทัศน์ทำท่าอึกอัก คงแทบอ้วก แต่ก็รับเข้าปากโดยดี ตามติดด้วยกาแฟเข้ม ๆ เพื่อล้างปาก ผมหัวเราะหึ ๆ อยู่ในใจ
 
ได้ยินเสียงมือถือดังเบา ๆ ผมหยิบมากดรับ
 
“อยู่ไหนครับ พี่มารับแล้ว”
 
ผมตาโต
 
“ขอโทษ! ผมลืมไปเลยว่านัดพี่ไว้ ตอนนี้อยู่ร้านไอศกรีมฟูลลี่เลิฟกับเพื่อน”
 
“น่าน้อยใจจัง ถูกลืม”
 
“ขอโทษจริง ๆ ครับ มาด้วยกันไหม เดี๋ยวผมเลี้ยงโทษฐานลืมนัด”
 
“เปลี่ยนเป็นพี่เลี้ยงไทม์กับเพื่อนแทนได้ไหม”
 
“จริง ๆ มื้อนี้เพื่อนผมเขารับเลี้ยงไปแล้วล่ะครับ”
 
“งั้นพี่ขอเป็นเจ้ามืออีกทอด”
 
ผมหัวเราะ
 
“ได้ครับ”
 
“ใครอ่ะไทม์” แนนถามทันทีที่ผมกดวางสาย
 
“พี่อิฐ จะมาทานด้วย”
 
พี่ทัศน์หน้าหงิกทันที ไม่นานพี่อิฐก็โผล่ ทำหน้าแปลกใจที่เห็นเพื่อนตัวเองมานั่งอยู่ด้วย
 
“มาได้ไง” พี่อิฐถาม ผมลุกไปนั่งข้างแนน ปล่อยให้พี่อิฐนั่งข้างเพื่อนตัวเองไป
 
“บังเอิญผ่านมา” พี่ทัศน์ตอบแค่นั้น ทำหน้าบอกบุญไม่รับตามเดิม
 
ผมแนะนำให้เพื่อนกับพี่อิฐรู้จักกัน พี่อิฐสั่งไอศกรีมมากินด้วยถ้วยหนึ่ง เล็ก ๆ รสช็อกโกแลตชิพ
 
“ไทม์ชอบกินรสอะไร”
 
“สตรอว์เบอรี่ครับ”
 
“อืม พี่จะได้จำไว้”
 
ผมยิ้มเขินไปกับดวงตาหวาน ๆ นั้น ขนาดผมเป็นผู้ชายแท้ ๆ ใจยังชักแกว่ง ๆ สงสัยไอศกรีมจะทำให้ดวงตาคนกินหวานขึ้น พี่ทัศน์หน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม หันไปทางแนน
 
“แนนเอาอะไรเพิ่มอีกไหม”
 
“อ้วนนะแนน” ผมสกัดดาวรุ่ง แนนรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
 
“ขอบคุณคะพี่ทัศน์ แต่แนนพอแล้ว”
 
เรานั่งคุยกันต่อ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผมนั่งคุยกับพี่อิฐมากกว่า แล้วก็ชวนแนนคุยด้วยเพื่อไม่ให้พี่ทัศน์มีโอกาสได้คุยกับแนนมากเกินไป
 
เห็นว่าเย็นมากแล้ว พวกเราเลยยกโขยงกันไปหาข้าวเย็นกิน พี่อิฐเป็นเจ้ามือทั้งหมด ก่อนพากันแยกย้าย พี่อิฐอาสาจะไปส่งผมเหมือนเดิมแต่พี่ทัศน์ดักทางไว้
 
“ไทม์ต้องไปทำงานบ้านกูวันนี้”
ผมไม่ตอบโต้อะไร ดีแล้วที่พี่ทัศน์อาสาแบบนี้ เพราะถ้าพี่อิฐไปส่งผม นั่นหมายถึงพี่ทัศน์ต้องไปส่งแนนแน่ ๆ ซึ่งผมคงไม่ยอม พี่ทัศน์คงกลัวว่าผมจะล่อลวงพี่อิฐไปทำอะไรลับหลังแน่ ๆ
 
“ป่ะ เดี๋ยวไปส่งขึ้นแท็กซี่” ผมบอกแนน
 
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ไปส่งแนนให้เอง” พี่อิฐอาสา ผมยิ้มดีใจ
 
“ขอบคุณครับพี่อิฐ ฝากเพื่อนผมด้วยนะ”
 
พี่อิฐยิ้มแก้มบาน ผมเดินไปส่งแนนกับพี่อิฐที่รถ พอพี่อิฐขับจากไปผมก็เดินตามพี่ทัศน์ไปที่รถบ้าง แต่ยังไม่ทันที่มือผมจะได้สัมผัสกับประตูรถ พี่ทัศน์ก็สตาร์ทเครื่อง ขับเคลื่อนหนีไปทันที 
 
ผมยิ้มใส่ตัวเอง
 
หวังอะไรไทม์ ก็รู้ ๆ นิสัยพี่มันอยู่
 
ผมเดินไปขึ้นรถเมล์เหมือนเดิม ไม่นานก็กลับถึงบ้าน พี่คงกลับมาถึงก่อนหน้านานแล้ว ผมเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ ลงมาทำความสะอาดบ้านต่อ ทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากนั้นก็กลับขึ้นห้องไปนั่งทำโปสการ์ดต่อ
 
“หึ เอาใจผู้ชายเก่งดีนี่ เคยทำบ่อยล่ะสิ”
 
ผมสะดุ้งโหยงหันไปมอง
 
“พี่ทัศน์…”
เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ดีนะ ไม่ได้นั่งทำภาพพี่เขาอยู่
 
“เข้ามาได้ไง”
 
“ก็ไม่ไง เคาะแล้ว แต่ไม่ได้ยินเอง”

เคาะตอนไหน ไม่เห็นได้ยินเลย
 
พี่ทัศน์กวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ไม่ต้องมองมากหรอก เพราะไม่มีอะไรให้มอง ทั้งห้องมีเพียงเตียงขนาดคนเดียวนอนด้านซ้ายติดกำแพง หน้าต่างแบบบานเดียวเล็ก ๆ โต๊ะเล็ก ๆ ไว้อ่านหนังสือ ไม่มีตู้เสื้อผ้าเพราะมันคงใหญ่ไป มีแค่ชั้นพลาสติกใส่เสื้อผ้าแบบลิ้นชักสี่ชั้นราคาสองร้อยสี่เก้าบาทอยู่ปลายเตียง
 
“ขอโทษ คงตั้งใจทำงานมากไปหน่อย”
 
“งานอะไร”
 
“ออกแบบโปสการ์ดขาย”
 
พี่ทัศน์มองโปสการ์ดที่ผมกำลังทำอยู่
 
“ขายไปทำไม”
 
ผมถอนหายใจเบา ๆ หันไปมอง ยิ้มเหงาให้นิดหนึ่ง
 
“พี่คงลืมไปแล้วมั้ง ว่าผมได้เงินเดือนเดือนละสามพันไม่ใช่สามหมื่นแบบพี่ แค่ซื้อกับข้าวเข้าบ้านก็หมดแล้ว”
ข้อนี้พี่ทัศน์คงไม่รู้ เพราะนอกจากค่าน้ำค่าไฟแล้ว ที่เหลือแม่ให้ผมเป็นคนดูแลเองทั้งหมด พี่ทัศน์เปลี่ยนสีหน้าทันที
 
“ผมคิดว่าบ้านใหญ่เป็นคนออกซะอีก”
 
“ตอนแรกก็บ้านใหญ่นั่นแหละ แต่แม่บอกให้ผมดูแลเรื่องนี้แทน เลยไม่อยากเถียงอะไรมาก”
 
พี่ทัศน์มองหน้าผมอึ้ง ๆ
 
“ได้เงินเท่าไหร่กันพวกนี้”
 
“สิบยี่สิบบาท แล้วแต่ความยากง่ายของงาน” ผมบอกก่อนหันกลับไปเขียนโปสการ์ดต่อ สักพักพี่ทัศน์ก็ก้มหน้าลงมาแทบชิด ผมรีบเอียงหน้าหนี
 
“ฝีมือห่วยชะมัด”
 
“ก็มือสมัครเล่น แต่ห่วยยังไงก็มีคนซื้อละกัน”
 
“ตาต่ำน่ะสิ”
 
“คงงั้น” ผมไม่สนใจคำด่าว่าพวกนั้น
 
“ห้องแคบแค่นี้ อยู่ไปได้ไง”
 
“คิดอะไรมาก มีที่ซุกหัวนอนก็ดีแค่ไหนแล้ว”
ผมบอกด้วยน้ำเสียงขมขื่นนิด ๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ พี่ไม่เคยเข้ามาข้างในแบบนี้หรอก
 
พอออกแบบเสร็จ ผมก็หันไปหาคนที่ยังยืนอยู่ด้านหลัง
 
“มีอะไรหรือเปล่า”
 
“ทำไมไม่ขอเงินแม่เพิ่ม”
 
ผมยิ้มเพียงนิด
 
“ไม่อยากให้แม่ด่าว่าดูแลตัวเองไม่ได้ หรือเอาเงินไปปรนเปรอผู้ชายหมดน่ะ”
 
“มันจะไปพอใช้อะไรแค่สามพัน”
 
“ไม่พอไง ถึงต้องทำงานเพื่อหาเงินเพิ่ม”
 
พี่ทัศน์เงียบไปพัก
 
“ทำอะไรบ้าง” ก่อนถามต่อ ผมถอนหายใจเบา ๆ อีกรอบ
 
แล้วจะรู้ไปทำไมเนี่ย
 
“รับทำการบ้านบ้าง ล้างรถ ทำความสะอาดบ้าน ทำของชำร่วย มีงานอีเว้นท์ก็ไป ทำโปสการ์ดขาย ขายพวกกิ๊ฟช็อปบ้าง สอนการบ้านเด็ก ดูแลเด็กอ่อน ดูแลคนแก่ จริง ๆ ใครจ้างให้ทำอะไรก็ทำได้หมดแหละ”
ผมเว้นไว้นิด ไม่ได้บอกว่าแอบถ่ายรูปพี่ไปขายด้วย ขืนบอกไปคงโดนเตะ 
 
“ทำคนเดียวหมดเลยเหรอ”
 
ผมพยักหน้า จะมาสอบสวนอะไรวะเนี่ย
 
“แล้วคอมนี่ใครซื้อให้ ไอ้อิฐล่ะสิ”
 
ผมถอนหายใจแรง
 
“เก็บเงินซื้อเอา”
ได้จากค่าถ่ายภาพพี่นั่นแหละ
 
“เครื่องละเท่าไหร่”
 
“มือสอง ห้าพันกว่า ๆ”
ของพี่เป็นแมค ราคาร่วมแสนได้ แค่พี่บอกว่าอยากได้ แม่ก็รีบประเคนมาให้แล้ว ส่วนผมน่ะเหรอ อย่าบอกว่าอยากได้อะไรเชียว จะโดนด่ามากกว่า แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป

 
ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น นั่งทำงานต่อจนถึงห้าทุ่มถึงได้ลงไปข้างล่างเพื่อหานมกินก่อนนอน(อยากสูงครับ ต้องกินนมเยอะ ๆ) เห็นพี่ทัศน์นั่งเอกเขนกถือแก้วเหล้าเขย่าเบา ๆ อยู่บนโซฟา ผมไม่สนใจเดินไปหยิบนมดื่ม ก่อนเดินกลับห้อง
 
“เดี๋ยว” พี่ทัศน์เบรกไว้ ผมหันไปมอง
 
“ไม่รู้สึกแย่บ้างรึไง”
 
“เรื่อง?”
 
“กับทุกเรื่อง”
 
ผมยิ้ม
 
“ถ้าคิดว่ามันแย่มันก็แย่ ถ้าคิดว่ามันไม่แย่ก็ไม่แย่ ผมคิดจนเลิกคิดแล้วเพราะยังไงก็ต้องอยู่กับมัน จนกว่าจะถึงเวลา…”
 
“เวลาอะไร!”
พี่แกกระชากถามเสียงเข้ม ผมไม่ได้ตอบ เดินกลับขึ้นห้องไป








วันนี้ผมส่งเมสเสจไปบอกพี่ทัศน์ว่าจะกลับดึก เพราะต้องมาช่วยพี่โจอี้ล้างรถที่อู่ ได้คันละสองร้อย ถือว่าเยอะอยู่
 
ผมใส่ชุดหมีสีเหลืองคัสตาร์ด ขัด ๆ ถู ๆ ไปทั่วทั้งคัน รถพวกนี้เป็นรถแข่งแรลลี่ ออกต่างจังหวัดกันแทบทุกเดือน พอกลับมาทีผมก็เปรมที พี่โจอี้ชอบจ้างผมเพราะผมล้างได้สะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม
 
ผมถือคติทำอะไรก็ต้องทำให้เต็มที่ งานจะได้มีมาไม่ขาดสาย วันนี้มีรถยี่สิบคัน แบ่งกันคนละสิบคัน รวมทิปด้วยก็น่าจะได้เฉียด ๆ สามพัน เหนื่อย แต่ไม่ท้อ
 
ได้ยินเสียงริงโทนดังเบา ๆ ผมกดรับทั้งที่ยังขัดล้อรถอยู่
 
“ไปอ่อยผู้ชายอยู่ที่ไหน”
 
“อ่อยนักแข่งอยู่ที่อู่ซอย 10 นี่แหละ”
 
“หึ คงได้หลายตังค์เลยล่ะสิ”
 
“อืม สองสามพันได้มั้ง”
แล้วพี่ทัศน์ก็วางสายไป ผมจิ๊ปากใส่มือถือ
 
“มีอะไรหรือเปล่า”
พี่โจอี้หันมาถาม พี่แกล้างรถอยู่เหมือนกัน
 
“ไม่มีอะไรครับพี่โจอี้ คุยกับพวกกบในกะลาน่ะ”
 
พี่โจอี้มองงง ๆ ผมไม่สนใจอธิบาย ตั้งหน้าตั้งตาล้างต่อไป ก่อนขยับมุดลงไปล้างใต้ท้องรถ
 
ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด เสียงล้อบดถนนดังเอี๊ยด ผมหันไปมอง คนขับเปิดประตูก้าวลงมา เป็นคนที่ผมรู้จักดีซะด้วย
 
พี่ทัศน์
 
มาทำไม หรือว่าจะเอารถมาซ่อม พี่โจอี้วางมือทันทีเดินไปหา
 
“เชิญครับ ไม่ทราบต้องการให้เราดูแลเรื่องอะไรครับ”
 
“ทำอะไรกันอยู่”
 
“ตอนนี้ล้างรถครับ”
 
“รถแข่งเหรอ”
 
“ครับ”
 
“แล้วพวกนักแข่งล่ะ”
 
“อ๋อ ไม่อยู่รอหรอกครับ เอารถมาส่งเสร็จก็กลับเลย พรุ่งนี้มารับ”
 
“แล้ว…”
พี่ทัศน์หยุดคำ หันมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นผมหรอกเพราะหัวอยู่ใต้ท้องรถ
 
“เฮ้ย! ไทม์น้ำล้นแล้ว”
มาเรียกกันทำไมเนี่ย ว่าจะอยู่เงียบ ๆ แล้วเชียว พี่ทัศน์มองมาทางผมทันที
 
“ปิดให้หน่อยดิเฮีย ขัดพุงเฮียนพอยู่”
ผมตะโกนออกไป
 
“คอยสักครู่นะครับ”
พี่โจอี้บอกพี่ทัศน์ วิ่งไปปิดน้ำ ลากสายยางไปไว้ในอ่างพักอีกที ผมไม่ได้สนใจออกไปทักทาย ขัดต่อไปเรื่อย ๆ พี่โจอี้วิ่งกลับมาเป็นเวลาเดียวกับที่ผมขัดพุงเฮียนพเสร็จพอดี ผมค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากใต้ท้องรถ ปาดคราบเปื้อนออกจากแก้ม มองคนที่มองผมอยู่เหมือนกัน แต่เราก็ไม่คิดจะทักทายกันหรอก
 
“ขออภัยที่ต้องให้รอ แล้วตกลงคุณลูกค้าต้องการให้เราบริการเรื่องอะไรครับ”
พี่โจอี้ถามต่อ 
 
“ล้างรถให้หน่อย”
 
“เอาไปเข้าศูนย์ไม่ดีกว่ารึไง”
ผมบอกแทรก
 
“นายให้พนักงานพูดกับลูกค้าแบบนี้รึไง”
 
“ขอโทษครับ ไทม์ขอโทษลูกค้าเร็ว”
 
“ขอโทษครับ ผมแค่เป็นห่วง”
 
“เอาน่า ลูกค้าให้ความไว้วางใจก็ดีแล้ว ขอโทษจริง ๆ ครับ”
พี่ทัศน์ไม่พูดอะไร ยื่นกุญแจให้ พี่โจอี้รับมาถือแล้วโยนมาให้ผมอีกที ตอนแรกก็ว่าจะให้พี่โจอี้ล้างเอง แต่รู้ว่าแกมีงานอื่นให้ต้องไปทำต่อ
 
“เชิญคุณลูกค้าตามสบายนะครับ หรือจะไปนั่งรอในห้องรับรองก็ได้”
 
พี่ทัศน์พยักหน้ารับ พี่โจอี้เดินกลับไปล้างรถต่อ ส่วนผมถือกุญแจเดินไปที่รถ
 
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ได้สัมผัสกับกุญแจดอกนี้หรือแม้กระทั่งรถคันนี้ เพราะปกติพี่ทัศน์ไม่ยอมให้ผมแตะหรอก
 
“ขับเป็นรึไง”
 
“ทำงานที่อู่รถก็ต้องทำเป็นทุกอย่าง”
 
“ใครสอน”
 
“พี่โจอี้”
ผมขับรถเข้าประจำตำแหน่ง แล้วลงมือล้างทันที ห่างจากพี่โจอี้หน่อย ถึงไม่รู้ว่าเรากำลังคุยอะไรกันอยู่
 
“ได้คันละเท่าไหร่”
พี่ทัศน์ยืนกอดอกถามต่อ
 
“ห้าสิบถึงสองร้อย แล้วแต่ขนาดของรถ”
 
“วันหนึ่งได้กี่คัน”
 
“แล้วแต่วัน บางทีก็สอง บางทีก็ยี่สิบ”
ฟองกระเด็นใส่หน้าจนเกือบเข้าตา ผมใช้แขนปาดออก ก่อนยืนตะลึงเพราะพี่ทัศน์หยิบผ้าเช็ดหน้ามายื่นให้
 
“เช็ดซะ ตาบอดมาทำรถฉันเสียหมด”
 
ผมชั่งใจ ก่อนรับมาเช็ดหน้าดี ๆ ยื่นคืนให้
 
“ทิ้งไปเลย สกปรก”
ผมไม่ได้ทิ้งอย่างที่เขาบอกหรอก ยัดใส่กระเป๋าเสื้อ แอบดีใจหน่อย ๆ ที่พี่ทัศน์ทำแบบนี้
 
ถึงจะเพื่อรถก็เถอะ
 
“เดือน ๆ หนึ่งได้เงินเท่าไหร่ แล้วเอาไปทำอะไรหมด”
 
“เก็บ”
 
“เก็บทำไม”
ทำไมพี่ถามเป็นเจ้าหนูจำไมจัง ผมหันไปเผชิญหน้า
 
“เพื่ออนาคตไง กะว่าถ้างวดนี้ขอทุนเรียนไม่ได้ก็ยังมีเงินเรียนมหา’ลัยดี ๆ ที่อยากเรียนได้”
 
พี่ทัศน์มองอึ้ง ๆ
 
“แค่เรียนมหา’ลัยดี ๆ ที่บ้านก็ส่งได้”
 
“ถ้าเป็นพี่คงไม่ยาก แต่สำหรับผม แม่คงไม่ส่งให้เรียนมหา’ลัยแพง ๆ แน่ ดีไม่ดีไม่ให้เรียนด้วยซ้ำ ผมมีมหา’ลัยที่อยากเข้าอยู่ ซึ่งค่าเทอมมันค่อนข้างแพง กลัวแม่จะไม่ให้”
 
พี่ทัศน์นิ่งไป เพิ่งรู้รึไง
 
“นั่นเพราะนายมันโง่เองจนแม่ไม่อยากส่งเสียให้เปลืองเงินต่างหาก” 
 
ผมยิ้ม
 
“คงงั้น เพราะงั้นถึงต้องลองขอทุนดูเพื่อพิสูจน์ตัวเองไง”
แล้วผมก็เงียบไป ล้างรถต่อไปเรื่อย ๆ กระทั่งเสร็จ ตลอดเวลาที่ล้างพี่ทัศน์ก็ยืนมองอยู่ตลอด
 
ไม่รู้จะมองไปทำไม
 
“เรียบร้อยครับ” ผมเช็กความสะอาดครั้งสุดท้าย ยื่นกุญแจคืน “จ่ายเงินที่พี่โจอี้นะ ต้องไปล้างคันอื่นต่อ” แล้วผมก็เดินจากไป
 
 
“โห ไทม์นี่ฝีมือแน่นอนจริง ๆ” พี่โจอี้ชม ยื่นแบงค์ห้าร้อยมาให้
 
“ค่าอะไรครับ”
 
“ทิปจากลูกค้าคนเมื่อกี้”
 
ผมเลิกคิ้วสูง
 
“เยอะนะ นี่แหละน้าคนเก่ง” พี่โจอี้ตบบ่าผมเบา ๆ
 
ไม่รู้พี่ทัศน์คิดอะไรอยู่ แต่ผมอดดีใจไม่ได้จริง ๆ
 _____B.T._____
ปุจฉา : คิดว่าพี่ทัศน์คิดอะไรกับน้องไทม์ยัง??
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2016 20:45:13 โดย memew »

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ลงตอนไม่ครบหรือเปล่าคะ รุ้สึกว่าตอนก่อนหน้านี้หายไปอ่ะคะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่ทัศน์ปากเสียมากอ่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ teng ning ning

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนที่5 น่าจะเหลืออีก50% นะคะคนเขียน เหมือนมันขาดๆหายๆยังไงไม่รู้ค่ะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เค้าจะไปรักกันได้ยังไงนะ
ก่อนจะฟินขอตบพี่ทัศน์ก่อน 555555
 :z6:  :z6:  :z6:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เหมือนตอนที่ 3 จะกลายเป็นตอนที่ 5  ค่ะะะะ  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด