สมัยเด็กๆผมเคยคิดว่าคงจะดีถ้าไม่มีป้านวลที่คอยกดวาดให้ต่ำอยู่แบบนั้น ผมคิดว่าถ้าตอนนั้นไม่มีป้านวลจริงๆ วาดก็คงเป็นเด็กชายวาดไว้ที่แสนสดใส เป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัวผม ไม่ใช่คนที่เฉยชากับความเป็นครอบครัวแต่ลึกๆในใจก็เรียกร้องอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
“ อิน " หันไปตามเสียงเรียกที่วิ่งเข้ามา ไอ้โรมอยู่ในชุดอยู่บ้านต่างจากชุดทำงานที่เห็นกันประจำ ใส่แค่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดธรรมดา
“ โรม " ยืนขึ้นตอนที่เรียกชื่อมัน ขาที่เข้าใกล้มันก้มลงไหว้แม่ผม
“ สวัสดีครับ "
“ ครับ " แม่รับเสียงเบาๆ ท่านหันมาผม ก่อนจะหันไปแอบยิ้มทางอื่น
“ มึงมาได้ไงวะ " สมองเบลอๆของผมถามมันออกไป ไอ้โรมขมวดคิ้วก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้ดู
“ มึงรายงานกูเองนะ แล้วน้องมึงเป็นยังไงบ้าง "
“ พ่อกับพี่กูผ่าตัดให้อยู่ " เอื้อมมือมาจับไหล่ผมไว้ โรมดึงผมเข้าไปกอด
“ โอเคนะ กูเข้าใจอยู่ถ้าอลิซต้องผ่าตัดจะแค่เล็บขบกูก็คงห่วง "
“ ผ่าตัดเล็บขบนี่นะเหรอ " ขมวดคิ้วให้มัน ผมหลุดยิ้มกับเรื่องสมมุติของมัน " ไอ้บ้า เล็บขบที่ไหนที่ต้องผ่าตัด "
“ ยิ้มแล้วก็ดี " หยิกแก้มผมก่อนจะเลื่อนมาขยี้หัว มันนั่งลงตรงเก้าอี้ผมก็นั่งข้างๆมัน
“ แล้วอลิซละ "
“ หลับ กูรีบออกมาหามึงก่อน ให้ป้าแมวอยู่เป็นเพื่อนไปก่อน เดี๋ยวจะกลับไปรับ วันนี้กูสัญญาจะพาไปเที่ยว "
“ เที่ยว เที่ยวที่ไหน "
“ สวนสัตว์มั้ง "
“ อย่าลืมเอาผ้าปิดปากไปด้วยละ " เตือนมันแบบนั้น ไอ้โรมก็ขมวดคิ้ว
“ กูไม่ได้มาบอกมึงเฉยๆนะอิน แต่กูจะมาชวนมึงไปด้วยกัน "
“ น้องกูไม่สบายอยู่นะเว้ย " พูดไปแบบนั้นแต่ฟันก็ขบกันแน่น ผมอยากยิ้มบางทีก็รู้สึกเหมือนตัวเองอายุสิบกว่าปีรู้สึกหัวใจเต้นแรงเหมือนตอนโดนจีบครั้งแรกยังไงอย่างงั้น ทั้งๆที่ใจก็ห่วงวาด ไม่ได้อยากจะไปไหนแต่ตอนนี้พอมันชวนก็รู้สึกอยากไปขึ้นไปแบบไม่ทราบสาเหตุ “ ไปกันสามคนเหรอวะ "
“ อื้ม "
“ เหรอ " ยิ่งเป็นแบบนั้นก็ยิ่งอยากไป ตอนนี้ใจมันลอยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว
“ รอดูอาการน้องก่อนแล้วกัน " พยักหน้าให้กัน ผมหันไปหาแม่ที่เหลือบตามามองเป็นระยะ ผมรู้ครับว่าเธอคงอยากจะรู้
“ แม่ครับ "
“ ว่าไง " ทำเสียงนิ่งๆ แต่ปากก็อมยิ้มไม่หยุด
“ นี่โรม โรมนี่แม่กู " ไอ้โรมยกมือไหว้ท่าน แม่ก็ยิ้มรับ " โรม เป็นเพื่อนอิน "
“ เหรอ " เหมือนไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับ " แล้วโรมทำงานอะไรละจ้ะ มาเป็นเพื่อนอินได้ยังไง "
“ ผมทำงานเป็นหัวหน้าวิศวะครับ พาลูกสาวมาตรวจกับหมออินบ่อยๆเลยรู้จักกัน " แม่ลดยิ้มลงนิดหน่อยตอนที่มันแนะนำตัวแบบนั้น แต่ไอ้โรมก็ยังยิ้มกว้าง
“ แล้วลูกสาวเป็นอะไรละ "
“ โรคหอบ แล้วก็ภูมิแพ้ในเด็กครับ " ผมตอบ แม่ก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปทางห้องฉุกเฉินเหมือนเดิม ไม่ใช่แค่แม่ที่สงสัยในตัวมันหรอกครับเพราะผมเองก็สงสัย โรมเป็นผู้ชายที่มีลูกแต่มันมาจีบผมที่เป็นผู้ชาย ถึงจะเหมือนกับไฟท์แต่ต่างกันตรงที่ว่า กับไฟท์ถ้าไม่ใช่ผมมันจะไม่ไปเอากับใครเหมือนเรามีอะไรกันเพราะเราอยาก แต่ไอ้โรมดูท่าทางของมันผมว่ามันคงไม่เป็นแบบนั้น ยิ่งผมไม่รู้เรื่องแม่แท้ๆอลิซ และยิ่งมันใกล้ชิดผมมากเท่าไหร่ ในใจลึกๆมันก็ยิ่งอยากจะรู้ ว่าเธอเป็นใคร
ประตูเลื่อนของห้องฉุกเฉินถูกเลื่อนออกมา พ่อเดินออกมาก่อนจะยิ้ม พยักหน้าให้แม่ที่เดินเข้าไปหา " เรียบร้อยแล้วละ ตินเย็บแผลอยู่ "
“ ไม่ตื่นขึ้นมาตอนผ่าตัดใช่มั๊ยคุณ "
“ ไม่เลย แต่ดูท่าทางไม่นานคงตื่น "
“ อย่างงั้นเหรอค่ะ ท่าทางจะเหนื่อยกว่าเครสใหญ่นะคุณ " แม่แซว พ่อก็พยักหน้ารับ
“ ผ่าตัดคนที่ตัวเองรัก ยากกว่าผ่าตัดคนอื่นเป็นสิบเท่า " พ่อเว้นเสียงไปก่อนจะมามองไอ้โรมที่อยู่ข้างผม “ แล้วนั่น..”
“ แฟนอิน "
“ แม่!! “ ผมพูดโพร่งออกไป " แค่เพื่อนครับ แฟนอะไรกันเล่า "
“ หงุดหงิดใหญ่แล้ว ฮ่าๆ ไปรอกันที่ห้องพิเศษเลยเดี๋ยวเสร็จก็คงถูกเข็นกลับไปพักที่นู้น " พ่อเดินกลับเข้าไปในห้อง แต่ผมกับโรมก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แม่เดินไปที่ห้องพิเศษเพื่อรอวาดแล้ว
“ พ่อกับแม่มึงเก่งวะ รู้ด้วยว่าเราเป็นอะไรกัน "
“ เป็นเชี้ยอะไร ก็แค่เพื่อน "
“ เป็นเพื่อนก็ดีนะ เป็นเพื่อนกับมึงทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง "
“ ไอ้เชี่ยโรม "
“ แล้วเป็นยังไงบ้าง กับเพื่อนคนนั้นเมื่อวานจะถามแต่ลืม " เสียงนิ่งๆของมันถามผม ทั้งๆที่มองออกไปด้านหน้า ไม่ได้สบตากันต่างคนต่างก็กุมมือของตัวเองไว้แน่น
“ ก็เหมือนเดิม "
“ เหมือนเดิมแล้วเหรอว่ะ "
“ ไม่เชิงแบบนั้นหรอก "
“ ยังไงกันแน่ " มันหันมามองผมพิงหลังตัวเองกับเบาะของเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน " ตกลงเหมือนเดิมกันแล้ว หรือยังไม่เหมือนเดิม "
“ แล้วถ้าเหมือนเดิม มึงจะทำอะไร "
“ ไปให้ไกลจากมึงมั้ง ก็เพราะถ้ามึงเหมือนเดิมกับเค้าแล้ว กูจีบไปยังไงก็ไม่ติด " น่าแปลกที่พอฟังคำนั้น หัวใจมันก็ชาวาบ ' ไปให้ไกลจากผม โรมจะไปให้ไกลจากผม และผมก็จะไม่ได้เห็นมันแล้ว อย่างงั้นเหรอ '
“ แต่ยังไงอลิซก็ต้องให้กูรักษาอยู่ดี มึงจะไปไกลจากกูสักแค่ไหนกัน "
“ หมอเด็กไม่ได้มีคนเดียวในประเทศไทยนี่หว่า " เหลือบมองมันที่มองตรงไปข้างหน้า แผ่นหลังที่ก้มลงผมเห็นแนวสันหลังของมันนูนขึ้นมาจากเสื้อที่ใส่ ทำไมรู้สึกกลัวขึ้นมาตอนที่มันพูดคำนั้น เหมือนใจมันมีแต่คำพูดที่ว่า อย่าไปไหนนะมึง อย่าไปเด็ดขาดเลยนะ
“ มึงแม่งปัญญาอ่อนวะ เรื่องแค่นั้น ทำไมวะเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เลยรึไง "
“ เพื่อนกูมีเยอะแล้วอิน เพราะงั้นถ้าการที่กูเห็นมึงแล้วจะทำให้กูเจ็บปวด งั้นเราจะเจอกันไปทำไมวะ สู้ไม่เจอกันแล้วเราก็ค่อยๆลืมกันไปน่าจะดีกว่า " ทำไมโหดร้ายกับความรู้สึกของกูขนาดนี้วะโรม ผมอยากจะพูดคำนี้ออกไปในตอนนั้น แต่ก็ทำได้แค่เงียบไว้ " อิน ..”
“ กูแม่ง รอให้ถึงวันที่กูจะไม่เห็นมึงไม่ไหวแล้ววะ แต่เพราะกูกับไฟท์ยังไม่เหมือนเดิม เพราะงั้น กูเลยต้องทนเห็นมึงไปอีกนานแน่ๆ " ลุกขึ้นยืนตอนที่รู้สึกว่าเสียงของผมมันเริ่มจะสั่น " น่าเบื่อจริงๆคนแบบมึงรู้มั๊ย บางทีกูเบื่อที่จะเห็นหน้ามึงสัดๆ "
“ อย่างงั้นเหรอ " ใบหน้านิ่งๆที่กูเบื่อ คำพูดกวนตีนแบบนั้นที่กูรำคาญ ท่าทางที่ทำเหมือนรู้ดีเรื่องกูทุกเรื่อง เสมอหน้าปลอบกูก่อนใคร แล้วการจีบควายๆที่ไม่มีคำหวานๆ
“ เออนะสิ เพราะงั้นไม่ว่าจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ หรือจะอีกหลายๆวันข้างหน้า ก็ต้องมาให้กูเห็นนะโรม เพราะกูอยากรู้สึกเบื่อขี้หน้ามึงแบบนี้ " ไปอีกนาน
“ ทำไมคำด่ามึง ถึงฟังแล้ว ชื่นใจขนาดนี้ " เดินมากอดคอผม เรากำลังเดินไปที่ห้องพิเศษของวาด
“ ทำไมกูเห็นแก่ตัวแบบนี้วะ "
“ จะด่าตัวเองทำไม แค่นี้ยังมีคนด่าไม่พออีกเหรอ เหลือตัวเองไว้ให้กำลังใจตัวเองบ้างเถอะ เพราะถ้าขนาดตัวเองยังด่าตัวเองแล้วจะมีใครมาให้กำลังใจมึงอีก "
“ ครับผม ครับ " ตอบรับแค่นั้น ก่อนจะเคาะประตูห้องพิเศษ คนป่วยที่ผมเป็นห่วงตื่นขึ้นมาจากยาสลบกำลังส่งยิ้มสดใสพูดคุยกับหมอสองคนที่เพิ่งผ่าตัดให้
“ อิน มาพอดีวาดเพิ่งฟื้น "
“ ยังมึนๆจากยาสลบอยู่เลย " ตินว่ามันลูบหัววาดที่ยิ้มออกมา " ยิ้มได้แล้วรึไงเรา เมื่อกี้ยังร้องงอแงอยู่เลย "
“ วาดร้องไห้ด้วยเหรอ " แม่ถามมันก็พยักหน้า
“ ตินบอกว่าจะบล๊อคหลังจะได้รู้ว่างานของพ่อกับพี่เป็นยังไง แค่นั้นละน้ำตาคลอใหญ่ โวยวายงอแงลั่นห้อง "
“ วาดไม่เจ็บเลยพ่อกับพี่ตินผ่าวาดเบามากเลย ไม่เจ็บสักนิด "
“ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องเจ็บแล้วนะ " พ่อก้มลงหอมแก้มวาดมันก็ยิ้มกว้าง " พ่อผ่าไม่เจ็บจริงๆเหรอ "
“ ไม่เจ็บเลยครับ "
“ งั้นเรียกพยาบาลมาเอาเลือดไปตรวจหน่อย " ผมบอกมันก็ขมวดคิ้ว
“ อื้ออ ไม่เอาพยาบาล วาดกลัวเจ็บ " ตอนที่มันเด็กๆเพราะเส้นเลือดมันหายาก เวลาเข้าโรงพยาบาลมันร้องไห้จ้าทุกครั้งเพราะพยาบาลจะชอบเจาะแล้วควานหาเส้นเลือดให้ ตั้งแต่นั้นมันก็กลัวการเจาะเลือดมาตลอด
“ นี่ วันนี้พี่อินพาแขกพิเศษมาเยี่ยมวาดด้วยนะ " หันมามองหน้าผมก่อนจะมองทะลุไปด้านหลัง ไอ้โรมที่ยืนอยู่ แม่ยิ้มก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่หูวาด " แฟนพี่อิน "
“ แม่..”
“ ไม่แนะนำให้รู้จักกันหน่อยเหรอ " ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ทุกคนมองมาที่มัน ไอ้ตินทำหน้าเหี้ยที่สุดเพราะทั้งขมวดคิ้วและจ้องแบบจะฆ่าไอ้โรม คงคิดว่ามีดผ่าตัดกูอยู่ไหน
“ นี่โรม เพื่อนอิน ส่วนโรมนี่พ่อ แม่ แล้วก็ตินพี่ชายกู แล้วก็คนนี้นอนยิ้มกวนตีนกูอยู่บนเตียงไม่สมคนป่วย ชื่อวาดไว้ น้องชายกู "
“ สวัสดีครับ "
“ ทำงานอะไร " คำถามสั้นๆจากติน มันมองไอ้โรมจากหัวจรดเท้า
“ พี่ตินอย่าทำหน้าแบบนั้นครับ พี่โรมไม่กล้าตอบ "
“ เงียบไปเลย " โดนดุไปในที่สุดมันหันมามองโรมที่มองมันแล้วยิ้ม
“ เป็นหัวหน้าวิศวะกรครับ " ตอบแบบสั้นๆ ไอ้โรมเดินเข้ามาใกล้เตียงมันจับที่ปลายเตียง " หายไวๆนะครับน้องวาด "
“ ขอบคุณครับพี่โรม " ยกมือไหว้คนที่อวยพร ในแว๊บนึงที่วาดมองหน้าผมด้วยสายตาเศร้าๆของมัน ขมวดคิ้วสงสัยอยากจะถามแต่แม่ก็ขัดขึ้นมาก่อน
“ แม่ว่าอย่ากวนวาดเลย กลับไปทำงานได้แล้ว คุณก็กลับไปพักซะนะ ส่วนตินก็ไปทำงานต่อ แล้วอินกับโรมก็ไปเดทกันได้แล้ว แม่จะอยู่ดูวาดเองวันนี้แม่ไม่เข้าเวร "
“ ดีจังเลยครับ "
“ งั้นก็นอนได้แล้ว เดี๋ยวพอตื่นขึ้นมาจะได้กินข้าวไง "
“ ครับ " ตอบรับแม่แค่นั้น ผมเดินเข้าไปหามันตอนที่พ่อกับตินออกไปจากห้อง รวมถึงไอ้โรมด้วย มองหน้ามันก่อนจะจับมือ " พี่อิน "
“ ว่าไง มีอะไร "
“ ไม่ไปหาพี่ไฟท์เหรอ " คำถามที่ทำให้ผมนิ่ง มองหน้ามันในแววตาไม่มีอะไรนอกจากความเศร้า " พี่ไฟท์รอพี่อินให้ไปหาอยู่นะ "
“ เหรอ "
“ อื้ม " พยักหน้าแบบนั้น วาดยิ้มให้ผมมือที่จับผมแน่น ผมรู้ว่ามันคงอยากจะพูดมากกว่านี้แต่เพราะแม่ยังอยู่ใกล้ๆเลยพูดอะไรมากไม่ได้
“ นอนได้แล้วเดี๋ยวพี่กลับมาแล้วจะมาหา " ลูบหัวมัน วาดก็หลับตาลง
“ เที่ยวให้สนุกนะครับ "
ทางเดินของผมมีสองทาง แยกที่ผมต้องเลือก ว่าจะขวา หรือ ซ้าย
ก็อยากไปทั้งสองทาง เลยไม่รู้ว่า จะไปทางไหนดี
......................................................
หมอชินดนัย ชื่อเล่นหมอเซฟ ชื่อคุ้นๆนะ เด็กผู้ชายแทงพี่เทมไง คนที่มาจีบไฟ คนเดียวกัน
แต่หมอเซฟมาเป็นหมอได้ไงนั้น #เฉลยอยู่ในตอนพิเศษบีทีเอส แต่บอกได้สั้นๆว่า เซฟมันตรอมใจมา
ส่วนพี่โรม คิดว่าพี่โรมใจร้ายรึเปล่าที่พูดแบบนั้นกับหมอ พูดว่าถ้าไม่เลือกพี่โรม พี่โรมคงไปให้ไกลจากหมอ
หนมว่าถึงห่ามๆตามสไตส์พี่โรมไปหน่อย แต่ความจริงไม่ร้ายเท่าคำโกหกหรอก
เลยคิดว่าพี่โรมไม่ใจร้ายเลยนะ ก็เราเข้ามาจีบ ถ้าจีบแล้วไม่ติดเจอหน้ากันก็ทำให้เจ็บปวดเปล่าๆ
ห่างหายกันไปดีกว่า ระยะห่างจะได้ทำให้อีกคนทำใจได้มากขึ้น
คราวนี้ก็อยู่ที่หมออินจะเลือกเดินทางไหน เจอกันตอนหน้าจ้า
ฝากแท็ก #choiceไฟท์อิน ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ คร่าาา