
เมื่อเช้าที่บ้านผมไปทำบุญกันมาครับ
อิ่มบุญ...อิ่มใจ...จิตใจผ่องใส
ผมจึงเอา"บุญ"มาฝากทุกคนครับผม

เฮียมี่มีกิ๊ก....4 (จบ)
ผมนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นานมาก
เวลามันจะหมุนจะเคลื่อนเลื่อนผ่านไปนานเท่าไหร่
ผมก็ไม่ได้สนใจ
อยากจะนั่งอยู่เฉยๆจนมันสว่างเลยด้วยซ้ำ
เฉย นิ่ง สงบ เยือกเย็น ข่มใจ อดทน อดกลั้น
ผมหายใจเข้าออกลึกๆ
(ดีนะห้องน้ำสะอาด..แหะๆ)
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ผมจะแก้ปัญหาอย่างไรเหรอครับ
มาดูกัน....
ถ้าผมอายุยี่สิบ
ผมจะยืนกระทืบเท้า ร้องกรี๊ดๆ
แล้วตะโกนสาดถ้อยคำแรงๆ
ถ้าผมอายุยี่สิบห้า
ผมจะเข้าไปกระชากคอเสื้อเฮียมี่
แล้วตะคอกถาม
ถ้าผมอายุสามสิบ
ผมจะเชิดหน้าทำปั้นปึ่ง
จิกสายตา รอคำแก้ตัว
ถ้าผมอายุสามสิบห้า
ผมจะยืนสง่า มือเท้าเอว
แล้วชี้หน้าถาม
แต่ตอนนี้
เวลานี้
อายุของผม...แตะหลักสี่หมาดๆ(แสลงจายยยย)
ผมเลือกที่จะสงบปากสงบคำ
แล้วรอ

มารู้ตัวอีกที...เหน็บกินขาจนชา
แต่ขาที่ชายังถือว่าจิ๊บๆครับ
เมื่อเทียบกับหัวใจของผม
ในอกฟีบๆของผมตอนนี้
มันทื่อๆชาๆ หน่วงๆหนักๆ
จะว่าไม่รู้สึกเจ็บปวด..มันก็ไม่ใช่
จะว่าเจ็บแสบ...มันก็ไม่เชิง
มันแปลบปลาบ ยอกๆ อยู่ภายในอก
หรือว่า..
เป็นอาการเริ่มแรกของ
“โรคหัวใจ”
แย่แล้ว....
โรคหัวใจ..เมื่อวัยแตะหลักสี่
ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ของผมจะเป็นอย่างไรล่ะเนี่ย
คุณภาพชีวิตที่มี ต้องลดน้อยถอยลงไปแน่ๆ
ต้องงดกิจกรรมเสียเหงื่อ....ที่ทำให้ตื่นเต้น
ต้องงดเสพสิ่งบันเทิง....ที่จะทำให้โลหิตสูบฉีดแรง
โถๆ...เท่านี้ชีวิตผมมันก็พังทลายสิครับ
ไม่หลงเหลืออะไรอีกแล้ว ผมจะอยู่ไปเพื่ออะไร
ในเมื่อต้อง
งด....
อดดู....
ตายๆ ไอ้หน่อยเหี่ยวแห้งหัวโตแน่
ทีนี้เฮียจะมีกิ๊กผมก็ไม่มีสิทธิห้ามแล้วสิครับ
ทำหน้าที่ศรีภรรยาไม่ได้ ก็ต้องยอม...

เฮ๊ยยยย
ยังไม่ขนาดนั้นนี่นา..มโนไปไกลเกิน
กลับมาๆๆๆ
ผมนั่งอยู่บนโถชักโครกอยู่เกือบยี่สิบนาที
ดูเวลาจากนาฬิกาในห้องน้ำครับ
ไม่อยากออกไปข้างนอกเลยอ่ะ
จะเรื่องจริง เรื่องแก้ตัว ผมก็ไม่อยากฟังทั้งนั้น
ผมทำใจอีกนิด แล้วก็ฝืนใจ เดินออกมาจากห้องน้ำ
เฮียยังนอนเล่นมือถือ...
นานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วมั๊งครับ
เพราะก่อนผมจะตื่นมาเข้าห้องน้ำ
ไม่รู้ว่าเล่นมือถือมากี่นาทีแล้ว
“นานจัง”
เฮียมี่ทักผมแล้วปิดมือถือในมือ
แกเอามือถือวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
วางไว้ชนิดที่ว่าใกล้มาก ชิดมาทางเตียงมาก
เหมือนพร้อมจะหยิบฉวยได้ทุกเวลาที่ต้องการ
ทุกการกระทำดูมันมีพิรุธว่ามั๊ยครับ
ผมล้มตัวลงนอนอย่างห่อเหี่ยว ไร้เรี่ยวแรง
แล้วพลิกตัวหันหลังให้เฮียมี่แทบจะทันที
“ผมร้อน ง่วง”
ผมไม่กระดุกกระดิกแม้แต่น้อย
แต่ภายใน หัวใจเต้นโครมคราม
ตอนที่เฮียมี่เข้ามาสวมกอดผมจากทางด้านหลัง
ผมรู้สึกรังเกียจอ้อมกอดของเฮียจัง
มันผ่าวร้อนเกินกว่าจะอบอุ่น
ผมรู้สึกขยะแขยงมือที่เล่นมือถือของเฮียเหลือเกิน
มันหยาบกร้านมากกว่านุ่มนวล
ผมเกลียดริมฝีปากที่ยกยิ้มเวลาอ่านข้อความในไลน์เสียจริง
มันดูเป็นรอยยิ้มที่แสยะมากกว่าอ่อนหวาน
เฮียมี่คลายอ้อมแขนที่กอดผมออก
แล้ว...พลิกตัวกลับไปนอนหงาย
แล้ว....หลับลงอย่างง่ายดาย
ลมหายใจสม่ำเสมอ
คล้ายคนที่ไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆมาแผ้วพาน
ผม..นอนไม่หลับ
สองแขนผอมๆของผมกอดรอบตัวผม ที่กำลังสั่นสะท้าน
ร่างกายของผมมันไม่ได้หนาว
แต่จิตใจผม...เวลานี้...มันว้าเหว่...วูบโหวง...ว่างเปล่า
ในเมื่อนอนไม่หลับ
ผมก็ลองคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆ
ตอนผมลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมพูดว่า
“เฮีย ทำไรเนี่ย”
เหมือนเฮียจะตอบอะไรสักอย่างที่ผมไม่ได้รอฟัง
ทำไมผมไม่หยุดฟังนะ
หรือผมกลัวความจริงกันแน่

*************************************************
“นิว...พักนี้เฮียมี่แกเล่นมือถือทั้งวันเลยอ่ะ
เฮียว่าแกต้องกำลังคุยกับใครอยู่แน่ๆ ทำไงดีล่ะนิว”
ผมโทรไปหาไอ้นิว
เอาความคิดถึงหลานบังหน้า
คุยเรื่องน้องแอนฟีลด์สักพัก
สบโอกาส
ผมก็เข้าประเด็นหลักที่ทำให้ผมโทรไปหามัน
“เฮียมี่เล่นไลน์ล่ะมั๊งเฮียหน่อย เดี๋ยวนี้ใครๆเขาก็เล่นกันนะเฮีย
คิดมากไปป่าวเนี่ย เฮียมี่ไม่มีใครหรอก เชื่อนิวเหอะ”
ไอ้นิวมันตอบผมอย่างชิวๆ ชัวร์ๆ
“แต่เฮียมี่เล่นมือถืออย่างนานอ่ะ”
ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้น้องมันฟังดี
ด้วยผมไม่อยากให้ไอ้นิวรู้สึกไม่ดีกับเฮียมี่
ยังไงมันก็เป็นเรื่องภายใน
ระหว่างผมกับเฮียแค่สองคน
“เฮียมี่เขาคงมีกลุ่มโน้นนี้นั้นมากมายล่ะ
เฮียแกมีสังคมมากกว่าคนอื่นจิ๊ดนึง
อย่าคิดมากเลยเฮียหน่อย
เดี๋ยวริ้วรอยถามหา หน้าจะชะแรแก่ชราน้า”
ไอ้นิวมันเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลก
เอ...หรือผมจะระแวง คิดมากไปเองนะ
แต่ทั้งหมดเรื่องที่ผมรับไม่ได้คือ
เล่นมือถือตอนตีสาม
“บร้า..ปากเสีย”
ว่าอื่นพอหยวนๆ ว่าเรื่องก่งเรื่องแก่มันจี๊ดดดด
“เออ..นิว เฮียว่าเฮียหมอแกคุยกับใครแน่ๆเลยอ่ะ”
ผมพูดประโยคนี้...วนไปมา....รอบนี้เป็นรอบที่สี่
“เฮ้อ...เฮียหน่อยนะเฮียหน่อย
เอางี้ เฮียลองบอกนิวมาสิว่า
ที่เฮียหน่อยคิดว่าเฮียมี่คุยกับคนอื่น
เฮียหน่อยเห็นเอง หรือไปฟังคนอื่นเม้าท์มา”
ไอ้น้องนิวดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผมอีก
จริงๆผมอยากปรึกษาเจ๊นิดมากกว่าไอ้นิวครับ
ปรึกษาน้องมันดูอ่อนด๋อยอ่ะครับ
แต่เจ๊นิดแกอยู่ไกล ผมไม่อยากให้แกกังวล
และอีกอย่าง
ผมกลัวแกโทรข้ามทวีปมาวีนเฮียมี่
“ก็..ก็เฮียมี่เล่นไลน์บ่อย เล่นมากเล่นนานผิดสังเกตุอ่ะ”
เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆ...
ผมคิดจะบอกความจริงที่คาใจมานาน
“เฮียหน่อย เวลาเฮียหน่อยเล่นเฟสเล่นคอม
มันก็ไม่เหมือนคนทั่วไปอยู่แล้วนะครับ
เฮียตัดสินว่าเฮียมี่เล่นนาน
รวมๆแล้วที่เฮียมี่แกเล่นวันนึง
ถึงครึ่งของเฮียหน่อยป่าว”
แป่ว..มาเป็นชุด ไอ้เด็กเวร
“โด่..มันเทียบกันไม่ด้ายยยยย
ชั้นอ่ะพิมพ์นิยาย อุ๊บส์”
แล่วๆๆๆๆ หลุดเลยกรู

วงศาคณาญาติมีแค่สองคนที่รู้ว่าผมเขียนนิยาย
คือเฮียมี่กับเจ๊แจ๋มลูกกู๋จิว(ที่ผมยึดไอดีแกมานั่นแหละครับ)
“ว๊าวๆๆๆ ไหนๆเรื่องไร อ่านหน่อยดิ”
ตุ๊ดแตกเลยนะน้อง
ให้แกอ่านชั้นได้ถูกเนรเทศออกจากวงศ์ตระกูลแหงมๆ
“เอาไว้แต่งได้เยอะๆก่อนดินิว รับรองแกได้อ่านแน่”
ฝันไปเหอะไอ้นิว วันนั้นจะไม่มีวันมาถึง
“อะไรกัน ได้ข่าวว่านั่งหน้าคอมวันละ7-8ชั่วโมง
เขียนได้นิดเดียว นิวไม่เชื่อเฮียหน่อยหรอก”
“บร้า7-8ชั่วโมงอารายกาน คนเขาก็ทำงานมั่งเหอะ”
มันรู้ได้ไงนะ ใครบอก??
“พอๆ แกอย่ามาอำชั้น มาพูดเรื่องเฮียมี่ก่อน”
เปลี่ยนเรื่องเหอะ ชักเข้าตัว
“อ่ะอ่ะ เท่าที่เฮียหน่อยว่ามา นิวว่าข้อมูลไม่แน่น
กล่าวหาไม่มีมูล ยกฟ้องครับ”
แกเป็นตุลาการรึไงฟ๊ะ
“ก็เมื่อคืนอ่ะดิ ชั้นลุกมาฉิ๊งฉ่องตอนตีสาม
เฮียแกก็นอนเล่นมือถืออยู่
ตีสามนะนิว
แบบนี้มันคอมม่อนอีกมั๊ยแก”
ฟ้องๆๆๆ ผมฟ้องไอ้นิว..เพื่อ...
“เมื่อคืน...ตีสามเหรอ”
ไงล่ะ งงดิ
ทีนี้จะแก้ตัวแทนพี่เขยสุดเลิฟของแกยังไงได้อีกไอ้น้องนิว
“นิวก็เล่น”
อ้าวไหงงั้น
แก...แกมีกิ๊กเหมือนกันเหรอ
“นิว...ไอ้นิว...โธ่เอ๋ยลูกแกยังไม่ทันจะขวบ
แกก็ริมีกิ๊กอีกคนแล้วเหรอ
แกอย่าทำตัวแบบพ่อสิ
แกก็รู้ครอบครัวที่แตกแยก ลูกๆจะเป็นยังไง
นิว...เฮียขอล่ะ...แกอย่าคิดมี.....”
จะทันมั๊ย ให้ข้อคิด
มันจะมีสติกลับตัวกลับใจทันรึป่าว
“ยู๊ดดดด หยุดเลยเฮียหน่อย
มโนไปโน่น...
เมื่อคืนตีสาม นิวเช็คผลบอลครับผม”
เวรกรรม
กรูมันกู่ไม่กลับแย้ว หึงหน้ามืดตามัว
“ไงเฮียหน่อย สบายใจยัง”
เสียงไอ้นิวเหนื่อยเหมือนมันเพิ่งวิ่งมาราธอนมา
“อืมมม”
“เฮ๊ยยย ยังๆ ยังอ่ะนิว”
การรบยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพลูกกระสุน เอ๊ย ศพทหารครับ
“ไรอีกคร้าบบบบ
เฮียหน่อยชักไม่มั่นใจในตัวเฮียมี่แล้วเหรอครับ
คนอย่างเฮียมี่อ่ะ นิวดูแป๊บเดียวก็รู้ว่าเฮียแกรักเฮียหน่อยจริงจัง
ถึงแม้เฮียของนิวจะขี้เกียจ เอาแต่ใจ
ไร้สาระ เอาแต่เที่ยว
ดูหนังมันทุกเรื่อง คลั่งป๊อบคอร์น
กินแต่สตรอว์เบอร์รี่ เล่นคอมอึด
รักหมาแต่ไม่ค่อยดูแล บลาๆๆๆๆ”
ทั้งหมดที่มันว่าผม เป็นจริงทุกข้อ คริคริ
“พอๆ อย่ามาลามปามพี่เชื้อ
ได้ค่าทิปจากเฮียมี่มาเยอะสิแก
เข้าข้างแต่คนอื่นนะไอ้นิว”
น้อยใจไม่เท่าไหร่ แต่ผมอายมัน
“เฮียหน่อยอย่าดูถูกนิวนะ...สองร้อยนิวก็ยอมแล้ว
อ่ะ นิวล้อเล่นครับ
เฮียหน่อยอย่าระแวงให้เหนื่อย เสียเซลฟ์ป่าวๆ
เฮียมี่ไม่มีคนอื่นหรอก เชื่อนิวเหอะ”
ไอ้นิวมันรักเฮียมี่ครับ
แกเป็นเหมือนพี่ชายคนโตของพวกเรา
แต่
พี่ชายอาราย...คิดไม่ซื่อจ้องจะเล่น(น้องหน่อย)อยู่เรื่อยเลย..อร๊ายบ้าบอ

“นิว..ตานี้เอาดีๆนะ คือ...”
“อ้าว มาบอกนิวมัยอ่ะ
เรื่องบนเตียงเฮียก็ตกลงกันเองดิ
จะอะไรยังไงก็บอกกัน
ท่านี้โดนท่านี้ไมเวิร์คก็ว่ากันไป”
เอิ่ม...มันเข้าใจไปโน่น
“ว๊ากกกก แกหุบตูดไปเลย”
กรูอายนะเฟ้ย ไอ้น้องเลว
“โต๊ดดดคร้าบบบ อย่าเครียดน้า นิวเป็นห่วง”
เออ จากไม่ค่อยเครียด ชักจะเครียดกับไอ้นิวนี่แหละครับ
“เออๆ เลิกไร้สาระได้ล่ะ คืองี้
เฮียมี่แกหวงมือถืออ่ะนิว
แต่แปลกเครื่อง iPhone แกก็ไม่หวง
หวงแต่เครื่อง Sumsung
แตะไม่ได้เลย เก็บแอบตลอดๆ”
ฟ้องนิว ฟ้องนิว ฟ้องนิว
“อืมมม แล้วเฮียหน่อยส่วนใหญ่
ชอบเล่นมือถือของเฮียมี่ป่าวล่ะ”
ดูไอ้นิวมันจะไขปัญหา แบบมีหลักการเนอะ
อ้อ..ลืมเล่าอีกเรื่องครับ
ผมไม่กล้าเข้าไปเปิดอ่านไลน์ของเฮียมี่
เพราะถ้าอ่านแล้วแกจะรู้ทันทีว่าผมแอบเปิดดูมือถือแก
“ทีแรกเฮียก็ไม่ได้สนใจหรอก
แต่หลังๆบางทีมือถือเฮียแบตหมดบ้างไรบ้าง
เฮียก็ยืมเล่นของเฮียมี่มั่ง
ถึงได้รู้ไงว่าแกหวง”
“เฮียยืมเครื่องไหน หรือทั้งสองเครื่อง”
ใครจะใช้มือถือทีเดียวสองเครื่อง ถามได้..บ้าบอ
“ก็ต้องยืม Sumsungดิ iPhone มันไม่ชินมือ”
วู๊....ไม่รู้รึไงฟ๊ะ...ว่าผมโลว์เทคโนฯ
“อืมมม เดี๋ยวนะเฮีย นิวขอประมวลผลแป๊บนึง”
เออ...หัวใช้สมองเก่งๆให้เป็นประโยชน์แก่พี่มั่ง
“ฮะ ฮะ ฮ่า”
ไอ้นิวหัวเราะใส่มือถือ
ไอ้เด็กเวร ขี้หูกรูกระจายหมด
“ไรอะนิว แกหัวเราะอะไร”
มันใช่เรื่องตลกมั๊ย..ปั๋วมีกิ๊กเนี่ย
“นิวรู้ล่ะ ว่าทำไมเฮียมี่หวงมือถือ Sumsung”
“เวลาเฮียหน่อยยืมมือถือมาเล่น
เฮียหน่อยรู้มั๊ย ว่ามือเฮียหน่อยเป็นไง
นิวยังไม่อยากให้เฮียหน่อยยืมมือถือนิวเลย”
อ้าวๆ คนอ่านยังว่ามือผมสวยเลยอ่ะ คริคริ
“ไรวะ...หวงมือถือนี่มันเป็นโรคติดต่อเหรอนิว”
ผมพลาดตรงไหนนะ
“เฮียหน่อยค่อยๆคิดตามนิวนะ”
“เออ”
ลีลาท่ามากจริงไรจริง
“เฮียหน่อยเป็นคนที่ผิวขาวผิวบาง
แล้วเฮียหน่อยก็เป็นคนดูแลตัวเองอย่างดีใช่ไหมล่ะ”
“อืมมม แล้วไง เกี่ยวไร”
ผมไม่ได้ทำตัวง่ายๆเหมือนไอ้นิวมันครับ
“ผิวพรรณเป็นจุดขายจุดเด่นอย่างเดียวที่เฮียมีใช่ป่ะ”
“เยส”
มันชมรึมันว่าผมมีดีแค่นี้รึป่าวนะ
“เฮียหน่อยชอบทาโลชั่นตลอดๆ”
“แล้วไง ผิดเหรอ คนเขาผิวแห้งนิ”
ผมอยู่ห้องแอร์แทบทั้งวัน
คนอยู่แอร์ผิวมันก็แห้ง
ตำราไหนๆเขาก็บอกให้หมั่นทาครีมบำรุงผิว
“ไม่ผิดหรอกเฮียหน่อยไม่ผิดเลย
แต่เฮียหน่อย...ทาเยอะม๊วกกก
ทาโลชั่นทุกสองชั่วโมง เฮียหน่อยไม่ผิดเลย
ทาโลชั่นทุกครั้งหลังล้างมือเฮียหน่อยก็ไม่ผิดเลย”
“ช่ายยย บอดี้โลชั่นอ่ะนะต้องทาบ่อยๆ
ถ้าออกข้างนอกก็ต้องแบบมีกันแดด
ล้างมือแล้วก็ต้องทาแฮนค์ครีม ฟิงเกอร์ครีม เนลครีม”
ใครๆเขาก็ทำกัน..รึป่าวนะ
“ช่ายยยย ไม่ผิดเลยครับ
ถ้าเฮียหน่อยทาแล้วไม่ได้ไปเล่นมือถือของเฮียมี่”
อิ๊ อ๊ะ อุ๊ย

“หมาย..หมายความว่า...”

“ช่ายยย มือเฮียหน่อยมันมีแต่พวกครีมพวกโลชั่นเหนียวหนึบ
พอมาเล่นมือถือ มือถือมันก็เหนียวเป็นคราบมัน
หน้าจอก็ลื่นๆเลอะๆมัวๆหมองๆ
เฮียหน่อยไม่สังเกตเหรอ
พีซีของเฮียหน่อยเอย โน๊ตบุ๊คเอย
เฮียมี่แกแทบจะไม่แตะ
เพราะคีย์บอร์ดมันเหนียวหนุบหนับ”
ไอ้น้องนิวได้ที ร่ายยาว
“แล้ว...แล้วนิวรู้ได้ไง”
ผมอึ้งไปเบยกับสิ่งที่ไอ้นิวบอก
“ก็ตอนนั้น อืมมม หลังเฮียกลับจากดูงานล่ะมั๊ง
เฮียมี่แกโทรมาหานิว
แกถามนิวว่า นิวๆแฟนนิวชอบทาโลชั่นบ่อยๆป่าว
นิวก็งงเฮียจะถามทำไม”
“แล้ว...”
“แล้วเฮียมี่แกก็บ่นว่า
แกต้องคอยแอบเช็ดมือถือเวลาเฮียหน่อยเอาไปใช้
จะเช็ดต่อหน้าก็กลัวจะโกรธหาว่าเฮียมี่รังเกียจ”

เคลียร์เรื่องหวงมือถือไปแล้วหนึ่งข้อหา
ผมเป็นคนติดโลชั่นครับ
ชอบซื้อครีมบำรุง ทาทุกส่วนของร่างกาย
บางทีหลังอาบน้ำ ทาโลชั่นแล้วไปนั่งพิงเฮีย
เฮียมี่จะบ่นเบาๆว่า
“เหนียว”
ไอ้ผมก็ได้ยินว่า
“เสียว”
เลยต้องรีบลุกหนีแกไป

ข้อหาเล่นมือถือบ่อยเล่นนาน
ผมไม่ถามเฮียมี่หรอกครับ
ไอ้น้องนิวมันวิเคราะห์เหตุผล
มาให้ผมเลือกเอาตามใจชอบ ดังนี้
เฮียเล่นไลน์กลุ่มที่มีมากมายสารพัด....
กลุ่มเอ๊กซ์(เรย์)แมน
กลุ่มแพทย์
ชมรมแพทย์
ชมรมสถาบัน
ชมรมจังหวัด
ทีมคุณภาพโรงพยาบาล
ชมรมโรงพยาบาล
กลุ่มผู้ป่วยนอก
กลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉิน
ชมรมพี่ปอ พี่ร่วม
ก๊วนกอล์ฟ (อันนี้มีหลายก๊วน)
โอยยยย อีกมากมาย
ที่เหลือก็อ่านข่าว
อ่นบทความใหม่ๆทางการแพทย์
ผลงานทางวิชาการ
ดูผลกีฬาแทบทุกประเภท
ช่วงนี้ก็ดูรีรันฟุตบอล
วิเคราะห์การเล่น
สารพัดจะดู...
ไอ้น้องนิว...มัน(บังอาจ)เตือนผมด้วยความหวังดีว่า
ถ้าผมไม่ยอมเปิดอกคุยกับเฮีย
(ทะลึ่งอ่ะไอ้นิว...บ้าบอ)
ผมก็ต้องทำใจยอมรับ
แล้ว
ชักชวนเฮียทำกิจกรรมอื่นแทนการเล่นไลน์
และ
ผมเอง..ก็ต้องเพลาๆการนั่งอยู่หน้าจอลงบ้าง
จะได้พบกันคนละครึ่งทาง

นี่แหละครับเรื่องราวทั้งหมด
แต่ผมคงไม่เปิดอกคุยกับเฮียมี่หรอกครับ
กลัวแกเหนื่อยเหรอ คริคริ
ม่ายช่าย
ผมว่า...เฮียจะเสียความรู้สึกครับ
ที่ผมระแวงไม่เชื่อใจเฮีย
อีกอย่าง
เดี๋ยวแกเข้ามาอ่าน แกก็จะรู้เองครับ
“เฮียมี่...ตัวเองสนใจเค้าหน่อยจิ”
“ไม่งั้น...เค้าจาฟ้องคนอ่านน้า”

หลังจากนั้น...
ผมไม่รู้ว่าไอ้นิวมันกระซิบบอกเฮียมี่หรือป่าวนะครับ
สองสามวันหลังจากที่ผมโทรฯคุยกับมัน
เฮียมี่ก็ดูไม่หวงมือถือ
เล่นมือถือน้อยลง
โดยที่ผม....
ไม่ได้ถาม ไม่ได้พูดถึง ไม่ได้คุย
เรื่องที่
ผมมโนไปเองว่า
"เฮียมี่มีกิ๊ก"
*****************************************************
ไม่หน่วงแล้วนะครับ
เรื่องเม้าท์เรื่องนี้ไม่หนุกเลยครับ
พิมพ์ไปจุกอกไป
คิดว่าจะ...
บ้านแตก เตียงแยก เสาเรือนคลอน เสียแล้วครับ
สุดท้าย
ก็มิมีอะไร
ไอ้หน่อยมโนไปเองล้วนๆครับผม
