:: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5  (อ่าน 63821 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ดโดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


จิ้มเบาๆ ที่นี่
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2012 20:08:32 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมเคยคิดมาตลอดนะครับ ว่าการรอคอยและความหวังนี่ช่างเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริงๆ ทั้งที่เป็นคำๆ เดียวกัน แต่หากมันเกิดขึ้นกับต่างคนต่างวาระแล้วล่ะก็ ความหมายของมันและสิ่งที่มันนำมา ก็สามารถแตกต่างกันและมีความหลากหลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าเรารอคอยที่จะได้ไปเที่ยวที่ไหนสักที่ เราก็คงจะรู้สึกไม่ค่อยต่างกันสักเท่าไหร่ นั่นคือตื่นเต้นและเฝ้ารอให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ ถ้าหากว่าเด็กน้อยคนหนึ่งรอคอยรถไอศครีมที่จะวิ่งผ่านหน้าบ้านทุกๆ วันในหน้าร้อน ก็คงจะรอคอยด้วยความหวังและความสุขที่จะได้ลิ้มรสไอศศรีมเย็นๆ ที่ตัวเองโปรดปราน หรือถ้าหากว่าเด็กคนเดียวกันรอที่จะได้พบกับพ่อที่ไม่ได้เจอมานานเพราะต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เขาก็คงจะรอคอยด้วยความตื่นเต้น ความกระวนกระวาย ความหวังที่จะได้ของฝาก และความสุขที่จะได้เจอหน้าพ่ออันเป็นที่รัก แต่ถ้าหากไปถามเด็กที่กำลังรอผลสอบเอ็นทรานซ์ คำตอบก็คงจะเป็นกดดัน กระวนกระวาย จนบางคนอาจจะถึงขั้นทุกข์ใจก็เป็นได้

แล้วถ้าเป็นการรอคอยใครสักคนในเรื่องของความรักล่ะ โดยทั่วไปแล้วคนอื่นเขาจะรู้สึกอย่างไรกันบ้าง เขาจะรออย่างมีความหวัง กระวนกระวายใจ หรือทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกันแน่

ผมในตอนนี้ก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบกับความรู้สึกและความสับสนเหล่านี้อยู่เหมือนกัน และผมก็อยู่กับพวกมันมาเป็นเวลาปีกว่าแล้วด้วย เพียงแต่ว่า ความรักที่ผมเฝ้ารอคอยอยู่นั้นมันคือมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เริ่มจะดูเหินห่างออกไปทุกทีๆ เพราะความผิดที่ผมก่อขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจและขาดความยั้งคิดถึงผลที่อาจจะตามมา

ถ้าจะให้เล่าเรื่องราวความรักของผม ผมก็คงต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่สมัยที่ผมเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว ในช่วงรับน้อง ผมได้รู้จักกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลายมาเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทของผมที่สุดในเวลาต่อมา

ในตอนแรก กลุ่มเล็กๆ ของเราก็มีกันอยู่แค่สามคนเท่านั้น ได้แก่ไอ้แพนด้า ผู้ชายตัวเล็ก ยิ้มหวาน อัธยาศัยดี ขี้เล่น และมีชื่อเสียงทั้งในหมู่เพื่อนและรุ่นพี่ติดอันดับต้นๆ จนถูกเสนอชื่อให้เป็นเดือนของคณะในเวลาต่อมา
ไอ้เอ หนุ่มหน้าเข้มลูกชายเศรษฐีจากต่างจังหวัดที่มาพักอยู่กับญาติและน้องชายของมันที่กรุงเทพฯ มันเป็นคนพูดน้อย ยิ้มน้อย ต่อยหนัก แต่ก็หน้าตาดีและหัวดีไม่เบาเหมือนกัน ที่สำคัญ มันยังเป็นคนที่จริงใจและรักเพื่อนมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยรู้จักมาอีกด้วย

ส่วนคนสุดท้ายก็คือผมเอง ไอ้กีตาร์ หรือที่เพื่อนๆ รวมทั้งรุ่นพี่เรียกกันว่า ไอ้ต้า ซึ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนอีกสองคนแล้ว ผมก็คงเรียกได้ว่าเป็นคนธรรมดาแบบที่สุดที่หาเจอได้ทั่วไปตามท้องถนน ผมไม่ได้หน้าตาดีแบบไอ้ด้า ไม่ได้มีเงินแบบไอ้เอ แต่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ ของผมจะเคยชมผมอยู่บ้างว่าผมเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวเองค่อนข้างสูง แต่ผมก็คิดว่าพวกมันคงจะพูดแซวผมไปอย่างนั้นมากกว่า เพราะว่าผมยังไม่เคยเห็นเลยว่าตัวเองมีเสน่ห์อย่างที่พวกมันว่ากันตรงไหน

ในตอนแรกผมก็รู้สึกสนิทกับเพื่อนของผมแค่สองคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ ที่จริง ผมต้องยอมรับด้วยซ้ำว่าเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากจนแม้แต่ผมเองก็ยังเคยแอบชอบไอ้ด้าไปด้วยเลยเหมือนกัน แต่ทว่าผมก็รู้นิสัยของมันดีพอที่จะรีบเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสีย เพราะผมไม่อยากจะเสียเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่งไป จนเมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มของเราก็เริ่มใหญ่มากขึ้นโดยคนที่เข้ามาเพิ่มเติมก็คือผู้หญิงอีกสองคนชื่อ ฝนกับนก และรูมเมทของไอ้ด้าที่มันรู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะมาสนิทกับผมเสียอีก ชื่อว่าไอ้อาร์ม

ไอ้อาร์มก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หน้าตาดีมาก ที่บ้านมีเงิน และเป็นคนที่ผมเห็นว่ามีเสน่ห์มากอย่างแท้จริงคนหนึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเองก็จะรู้ตัวดีด้วยเหมือนกันนี่สิ ว่าตัวเองหน้าตาดีและมีเสน่ห์ เพราะว่าผมได้ยินชื่อเสียงเรื่องความเป็นเพลย์บอยของไอ้หมอนี่มาตั้งแต่ก่อนมันจะเริ่มเข้ามาสนิทกับกลุ่มของเราแล้วด้วยซ้ำ

พูดง่ายๆ เลยก็คือ ก่อนที่ผมจะมีโอกาสได้รู้จักกับมันอย่างจริงๆ จังๆ ผมยังเคยรู้สึกไม่ค่อยชอบมันเสียเท่าไหร่ด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นผมคิดไปเองว่ามันคงจะเป็นคนที่เจ้าชู้ กะล่อน และคงจะหยิ่งพอตัว แต่เมื่อเราเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ผมก็จำต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อมันไปโดยปริยาย เพราะที่จริงแล้ว มันเป็นคนที่จริงใจ ร่าเริง เปิดเผย ช่างเอาใจคนอื่น และไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาให้ผมได้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

“เฮ้ย ไอ้ต้า นี่ตกลงมึงเป็นเกย์จริงๆ เหรอวะ” ไอ้อาร์มถามผมขึ้นในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่เรานั่งทำงานรอเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ในห้องสมุดด้วยกันแค่สองคน

ผมไม่ใช่คนแสดงออก และไม่คิดที่จะป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ใครต่อใครรู้กันจนทั่ว แต่ผมก็ไม่อยากที่จะโกหกและปิดบังเพื่อนสนิทของผมด้วยเหมือนกัน ดังนั้นไอ้ด้ากับไอ้เอจึงเป็นสองคนแรกในมหาวิทยาลัยที่รู้เรื่องนี้ ตามมาด้วยคนอื่นๆ ในกลุ่มที่เหลือกับเพื่อนนอกกลุ่มที่ผมไว้ใจได้อีกแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น

“เออ ก็จริงอะดิ เรื่องแบบนี้มันจะโกหกกันไปทำไมวะ แล้วที่สำคัญ ทำไมมึงถึงเพิ่งจะมาถามอะไรกูแบบนี้เอาป่านนี้วะ ไอ้อาร์ม มึงเองก็รู้มาตั้งแต่แรกๆ แล้วนะเว้ย”

“เปล่าๆ กูก็แค่สงสัยขึ้นมาไง นั่งๆ มองหน้ามึงแล้วจู่ๆ กูก็คิดขึ้นมาอะ เพราะมึงมันก็หน้าตาดี สาวๆ เค้าก็ชอบมึงเยอะอยู่ กูคิดแล้วเสียดายแทนพวกผู้หญิงว่ะ เนอะ” มันฉีกยิ้มกว้าง

“เฮ้ยยย คนอย่างกูไม่ได้มีคนมาชอบเยอะแยะเหมือนมึงหรอก ไอ้เหี้ย ใครมันจะมาชอบกูวะ กูไม่เห็นเคยได้ยินสักคนเหอะ” ผมปฏิเสธ

“มึงเข้าใจผิดแล้วว่ะ ไอ้ต้า กูอะ อาจจะมีคนเอาไปคุยกันว่ากูหล่อ หน้าตาดี อะไรอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่ง เออ กูก็ยอมรับว่ากูหล่อจริง...”

“ถุ๊ยยย”

“หึๆ แต่ว่าที่จริงแล้วไม่ได้มีคนมาชอบหรือมาจีบกูเยอะแยะหรอกนะเว้ย คนอื่นแม่งเห็นกูเป็นคนเจ้าชู้กันหมดจนไม่มีใครเข้ามาคุยกับกูแล้ว” มันก้มลงมองดินสอกดที่หมุนไปมาอยู่ในมือ

“อ้าว แล้วมึงไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอวะ” ผมพูดติดตลก

“เห็นมะ ขนาดมึงยังเข้าใจกูว่าเป็นอย่างนั้นเลย” ไอ้อาร์มเอนหลังบิดขี้เกียจ “แต่ก็โทษมึงไม่ได้อะนะ เพราะว่ากูมันก็เสือกหน้าตาดีจริงๆ นี่หว่า” มันหันมายักคิ้วให้ผม

“ยังปากดีไม่เลิกไม่เท่าไหร่ แต่ทำหน้าตากวนตีนนักนะมึง!” ผมตบหัวมันเบาๆ “รีบๆ หางานต่อได้แล้ว ไอ้ห่า เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมาแล้วเห็นงานไม่เดิน มึงกับกูก็จะโดนด่าตายห่าเอา”

“ใครวะ จะมาด่าเรา ไอ้เอรึไง ไอ้เหี้ยนั่นมันเคยด่าคนอื่นด้วยเหรอวะ”

“มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว ไอ้เอน่ะ มันไม่ค่อยด่าใครก็จริง แต่ถ้ามันพูดขึ้นมาล่ะก็ เจ็บกันเป็นแถบๆ นะเว้ย แต่คนที่กูกำลังพูดถึงเนี่ย คือไอ้นกกับไอ้ฝนต่างหาก”

“เออ ฉิบหาย! กูลืมว่าไอ้นกมันก็จะมาด้วยนี่หว่า!” ไอ้อาร์มดีดตัวกลับมานั่งหลังตรง และเริ่มพลิกหน้าหนังสือต่อทันที
ในตอนนั้นผมก็รู้สึกสงสัยสิ่งที่มันพูดอยู่เหมือนกันนะ มันกำลังพยายามบอกผมว่าที่คนอื่นคุยกันว่ามันเป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงมาติดเยอะแยะนั้น ไม่เป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น แล้วความจริงมันเป็นอย่างไรกันแน่ล่ะ ผมคิดที่จะลองถามมันต่อดู แต่ปรากฏว่าเพื่อนๆ ของเราก็เดินเข้ามาหาเราเสียก่อน ทำให้โอกาสของผมหมดลงไป

เวลาต่อมาในตอนเย็น หลังจากที่เราแยกย้ายกันออกจากห้องสมุดแล้ว ผมกับไอ้เอก็ไปกินข้าวกันสองคนที่ร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัย ไอ้ฝนกับไอ้นกจะไปเดินเล่นกันต่อแถวสยาม ส่วนไอ้ด้ากับไอ้อาร์มก็กลับหอของมันไป ผมที่ยังคงสงสัยเรื่องที่ไอ้อาร์มพูดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับไอ้เอ

“เรื่องไอ้อาร์มน่ะเหรอวะ... กูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของมันเท่าไหร่หรอก”

“นั่นน่ะสิวะ มึงเองก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันใช่มั้ยล่ะ แล้วแบบนี้ใครมันจะรู้วะ ไอ้ด้ามั้ง”

“ก็อาจจะนะ แต่ไอ้ด้าเองมันก็ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบถามอะไรคนอื่นอยู่แล้วอีกนั่นแหละ”

“ก็จริงของมึง” ผมพยักหน้า

ไอ้เอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม “แล้วทำไมจู่ๆ มึงถึงสงสัยเรื่องของไอ้อาร์มมันวะ ไอ้ต้า”

“ไม่ใช่ว่าจู่ๆ กูก็สงสัยเว้ย คือไอ้อาร์มมันพูดแบบนี้กับกูไง กูก็เลยรู้สึกเอะใจน่ะสิ...” จากนั้นผมก็เล่าเรื่องที่ผมคุยกับมันให้ไอ้เอฟัง

“แต่ถ้าแบบนั้น มันก็พูดถูกของมันอยู่นะ” ไอ้เอตอบกลับหลังจากที่ผมเล่าจบ

“ยังไงวะ ไอ้เอ”

“ก็เรื่องที่ไม่ได้มีใครมาชอบมันมากมาย กับเรื่องที่คนมาชอบมึงยังเยอะกว่าน่ะสิวะ”

“เฮ้ย! จริงเหรอวะ กูเนี่ยนะ!”

“ก็เออน่ะสิ มึงน่ะคงไม่รู้ตัว แต่เท่าที่พวกกูรู้และได้ยินมาเนี่ย ก็มีผู้หญิงในคณะเราอยู่สี่คนแล้วนะเว้ย ที่เค้าแอบปลื้มมึงอะ ส่วนไอ้อาร์มน่ะ มีรุ่นพี่ที่ชื่อหญิงมาชอบแบบจ้องจะแดกจริงๆ แค่คนเดียวแค่นั้นเอง”

“ทำไมเป็นงั้นวะ กูนึกว่าสาวๆ จะชอบมันเยอะซะอีก” ผมสงสัย

“กูว่าก็คงอย่างที่มันบอกนั่นแหละ ว่าเพราะมันดูเป็นคนขี้เล่น เพลย์บอย ใครๆ ก็เลยได้แค่มองว่ามันหล่อดี แต่ไม่มีใครอยากเอาไง กูว่าเรื่องนี้มึงไปถามไอ้นกกับไอ้ฝนดูจะดีกว่ามั้ง ยังไงพวกมันก็เป็นผู้หญิง คงให้คำตอบที่ดีกว่ากูอะว่ะ”

“เออ ก็จริงของมึง งั้นสรุป มึงคิดว่าไอ้อาร์มไม่ใช่คนเจ้าชู้จริงๆ เหรอวะ สรุปคือมันไม่ใช่คนเจ้าชู้หรอกเหรอวะเนี่ย กูจำได้ว่ากูได้ยินเค้าพูดกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักมันอีกนะ”

“คนมันจะพูด มันก็พูดกันไป” ไอ้เอตอบพร้อมกับรวบช้อนส้อมอย่างเรียบร้อย “แต่เท่าที่กูรู้ กูก็ยังไม่เคยเห็นไอ้อาร์มมันควงใครอยู่นะ มันอาจจะเป็นคนอัธยาศัยดีก็จริง แต่คนที่มันจริงจังด้วย กูก็ยังไม่เคยได้ยินหรือเห็นว่ามีสักคน สิ่งที่กูรู้มาก็มีแค่มันเคยคบกับแฟนเก่าของมันมาตั้งแต่ม. 4 เท่านั้นเอง”

“ม. 4 เหรอวะ!” ผมตกใจ “งั้นมันก็คบกับแฟนมันมาตั้ง 3 ปีเลยอะดิ”

“ก็งั้นแหละ เพราะงั้นกูว่ามันก็อาจจะไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไรอย่างที่ข่าวลือว่าก็ได้มั้ง ใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วทำไมมันถึงเลิกกันล่ะวะ มึงรู้รึเปล่า”

“กูก็ไม่รู้ถึงขนาดนั้นหรอกเว้ย กูก็บอกไปแล้วไงว่ากูเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของมันเท่าไหร่หรอก”

และแล้ว ในที่สุดบทสนทนาของเราก็จบลงแค่ตรงนั้น เมื่อไอ้เอเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องรายงานของเรากันแทน
จะบอกว่าผมเป็นคนช่างสงสัยก็ได้นะ เพราะผมก็รู้สึกสนใจอยากรู้เรื่องของไอ้อาร์มมากจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเพิ่งเข้ากลุ่มเรามาทีหลังคนอื่นก็ได้ล่ะมั้ง ในตอนนั้นผมถึงยังไม่ได้สนิทกับมันเหมือนอย่างที่ผมสนิทกับไอ้เอและไอ้ด้า และเท่าที่ฟังดูจากไอ้เอแล้ว ดูเหมือนว่ามันเองก็คงจะยังไม่ได้รู้จักไอ้อาร์มดี ไม่ต่างจากผมสักเท่าไหร่


ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หลังจากที่พวกเราใช้ห้องสมุดเป็นสถานที่นัดรวมพลทำรายงานด้วยกันมาได้ราวๆ อาทิตย์หนึ่ง ไอ้อาร์มก็เสนอให้พวกเราไปรวมกลุ่มทำรายงานที่บ้านของมันแทน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องติดปัญหาทั้งเรื่องเวลาเปิดปิดของห้องสมุด ของกิน ความสะดวกสบาย สถานที่ที่ไม่เป็นส่วนตัว อินเตอร์เน็ตที่ช้าจนน่าหงุดหงิด และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะว่าหอของมันกับไอ้ด้าก็คงจะแคบเกินไป โต๊ะและเก้าอี้ก็มีไม่พอ แถมพวกมันยังบอกว่าอินเตอร์เน็ตที่นั่นก็ล่มบ่อยมากอีกต่างหาก แต่ถ้าไปบ้านของมันแทน นอกจากสถานที่จะดีกว่าแล้ว มันยังพูดติดตลกว่าที่บ้านมันมีของกินอยู่เยอะแยะชนิดที่กินกันยังไงก็ไม่หมดรอพวกเราอยู่ด้วย เราไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกเลย ซึ่งมันจะเป็นคนขับรถรับส่งให้แก่พวกเราทุกคนเอง มันถึงขนาดเสนอให้ผมกับไอ้เอนอนที่บ้านของมันได้ด้วยซ้ำถ้าหากว่าจำเป็น แต่ไอ้ฝนกับไอ้นกที่เป็นผู้หญิงก็คงจะไม่สะดวกเรื่องต้องค้างคืนอยู่แล้ว รวมไปถึงไอ้ด้าที่ต้องสอนพิเศษในวันศุกร์กับเสาร์ก็จะไม่สามารถมาร่วมทำงานกับพวกเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ตอนแรก ผมกับไอ้เอก็รู้สึกเกรงใจมันมากอยู่เหมือนกัน แต่ว่าไอ้อาร์มก็ยืนยันกับพวกเราว่าบ้านของมัน ทั้งพ่อ แม่ และน้องชายของมันต้องพร้อมและยินดีต้อนรับพวกเราแน่นอน

“พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก พ่อแม่กูใจดีจะตายห่า” มันบอกกับพวกเรา “บ้านกูอะ อารมณ์ดีกันทั้งบ้านอยู่แล้ว พวกมึงไม่ต้องเกรงใจเลย ดีซะอีก กูจะได้พาเพื่อนๆ ไปให้พ่อแม่รู้จักด้วยสักที พ่อกับแม่กูเค้าก็เคยเจอแค่ไอ้ด้าคนเดียวตอนเค้าไปหากูที่หอแค่นั้นเอง”

“แล้วพวกกูเป็นผู้หญิงสองคนแต่ไปถึงบ้านมึงเนี่ย พ่อกับแม่มึงเค้าจะไม่เข้าใจผิดเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนถาม

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้ฝน เพราะพ่อแม่กูเค้ารู้จักลูกชายเค้าดีพอว่ากูไม่มีทางคิดอะไรกับมึงแน่นอน” มันหัวเราะ

“อีเหี้ย! คนอย่างกูมันไม่สวยไม่น่าเอาตรงไหนวะ!”

“ก็ทุกตรงนั่นแหละ!” ทั้งผมและไอ้อาร์มพูดขึ้นพร้อมกัน

“และที่สำคัญ มึงก็ไม่ได้ไปนอนบ้านกูเหมือนไอ้สองคนนี้สักหน่อย เดี๋ยวเย็นๆ กูจะมาส่งพวกมึงที่หอเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ากูจะห่วงน่ะ กูก็ห่วงแค่อย่างเดียวว่ามึงจะมาชอบน้องชายกูเข้ารึเปล่าน่ะสิวะ ไอ้อ้วนแม่งยิ่งหน้าตาดีๆ อยู่ด้วย”

“เหรอๆ น้องชายมึงหล่อเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้นกถามขึ้นทันที

“ก็หน้าคล้ายๆ กูนั่นแหละมั้ง แต่ถึงไงก็ยังคงหล่อน้อยกว่ากูอยู่ดีอะว่ะ” มันหัวเราะ ก่อนจะหันมาหาผม “แต่ไม่แน่นะเว้ย ไอ้อ้วนมันอาจจะสเป๊กไอ้ต้าก็ได้นาาาา”

“ครวยเถอะ ไอ้เชี่ยอาร์ม กูไม่สนใจเด็กหรอกนะ และที่สำคัญ มึงรู้รึไงว่าสเป๊กกูเป็นแบบไหนน่ะ”

“กูจะไปรู้ได้ไงล่ะวะ” มันยังคงหัวเราะอยู่

“แล้วทำไมมึงพูดเหมือนน้องมึงเป็นเกย์เลยวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้เอถาม

“เปล่าๆ ไอ้เชี่ยอ้วนมันไม่ได้เป็นเกย์หรอก..... หรือมันเป็นกูก็ไม่รู้อะว่ะ เพราะกูก็ไม่เคยเห็นมันคุยกับผู้หญิงคนไหนสักคน แต่ก็ไม่น่าจะเป็นหรอกนะ ไอ้เหี้ย แม่งบ้ากีฬาจะตายห่า ถ้าแม่งเป็นเกย์กูว่าก็คงจะตลกดีอะว่ะ”

“แล้วมึงล่ะ ไอ้ด้า” ไอ้เอหันไปหาไอ้ด้าที่นั่งเงียบ เอาแต่ยิ้มน้อยๆ อยู่คนเดียว “มึงไปไม่ได้นี่หว่า ตกลงมึงเลื่อนสอนไม่ได้จริงๆ ใช่มั้ยวะ”

“ไม่ได้ว่ะ ขอโทษจริงๆ เว้ย แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกมึงไปกันเหอะ จะให้กูทำงานอะไรส่วนไหนก็บอกกูไว้ก็แล้วกัน และยังไงตอนเย็นหลังจากกูกลับจากสอนแล้ว กูออนเอ็มคุยกับพวกมึงไปด้วยทำงานไปด้วยก็ได้”

“ถ้างั้นสรุปว่า พรุ่งนี้กูมารับพวกมึงสี่คนที่คณะนะ เก้าโมงเช้า ห้ามสาย ห้ามเบี้ยว โอเค๊” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับเก็บรวบรวมสิ่งของบนโต๊ะลงกระเป๋า “แล้วมึงสองคน อย่าลืมเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยล่ะ ผ้าเช็ดตัวมีให้ใช้ แต่กางเกงในไม่มีการขอยืม”

“เออออออ กูรู้แล้วน่ะ!”

“โอเค แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าเว้ย กูรีบกลับบ้านไปเก็บห้องก่อน พวกมึงก็อย่ากลับกันดึกนักแล้วกัน” ไอ้อาร์มลุกขึ้นยืนก่อนจะโบกมือบอกลาพวกเราแล้วจึงเดินจากไป

แต่ปรากฏว่าในคืนนั้น ไอ้เอดันโทรมาบอกผมว่ามันคงไปค้างที่บ้านของไอ้อาร์มกับผมด้วยไม่ได้ เพราะว่ามันมีปัญหาเรื่องที่บ้านนิดหน่อย ทำให้ต้องกลับมาจัดการสะสางธุระให้เสร็จ ซึ่งผมก็ไม่ได้เซ้าซี้ว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรกันแน่ เพราะผมพอจะรู้นิสัยมันดีว่าถ้าหากมันอยากจะให้ผมรู้แล้วล่ะก็ มันคงจะบอกออกมาเองเลยมากกว่า

“อ้าว ไอ้เอ! มึงไปนอนไม่ได้เหรอวะ!” ไอ้อาร์มโวยขึ้นเล็กน้อยในวันรุ่งขึ้น “ไอ้เหี้ยยย มึงผิดสัญญานะเนี่ยยยย”

“ขอโทษทีว่ะ น้องชายกูแม่งเสือกไปสร้างเรื่องกับเพื่อนมันน่ะสิ แล้วอากูเค้าก็ไม่ค่อยจะพอใจ กูเลยต้องอยู่บ้านว่ะ”

“เออ ว่าแต่เรื่องใหญ่มากมั้ยวะ ไอ้เอ” ผมถาม

“ไม่หรอกว่ะ แต่กูก็ต้องดูแลน้องกูอะ ไม่อยากให้แม่งทะเลาะกัน”

“แบบนี้กูไม่นอนด้วยก็ได้นะเว้ย ไอ้อาร์ม กูเกรงใจว่ะ”

“ไม่ได้!” มันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง “กูอุตส่าห์จัดห้อง และแม่กูเค้าก็อุตส่าห์เตรียมทำกับข้าวมื้อใหญ่แล้ว เพราะงั้นยังไงมึงก็ต้องรับผิดชอบแทนไอ้เอด้วยเลย ไอ้เชี่ยต้า”

“นี่ๆ แล้วสรุปวันนี้น้องชายของแกอยู่บ้านมั้ยวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนถาม

“อยู่ ทำไมวะ”

“เปล่า กูก็แค่ถามดูเฉยๆ”

“อีนี่คันล่ะสิ จ้องจะแดกน้องชายอีอาร์มมันใช่มั้ยล่ะ!”

“อะไร อีนก! เดี๋ยวกูตบเลย อีนี่พูดจา!”

“พอๆๆ พวกมึงจะทะเลาะเหี้ยอะไรกันตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถวะเนี่ย” ไอ้อาร์มหัวเราะเบาๆ “เอ้าไปๆ ขึ้นรถๆ จะได้รีบไปทำงานกันสักที”

ตอนที่อยู่ในรถ ผมก็นึกกังวลอยู่นิดหน่อย ว่าไอ้อาร์มมันจะคิดอะไรเรื่องที่ผมมานอนบ้านของมันคนเดียวหรือเปล่า แต่ทว่ามันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ออกมาเลย มันยังคงคุยเล่น เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ และตอบคำถามเกี่ยวกับครอบครัวของมันให้พวกเราฟังไปตามประสา

พวกเรามาถึงบ้านของมันตอนสิบโมงกว่าๆ และหลังจากที่เราลงจากรถแล้ว ไอ้อาร์มก็พาเราเข้าไปไหว้พ่อกับแม่ของมันในบ้าน ก่อนจะพาขึ้นไปนั่งทำงานบนห้องของมันกัน

เมื่อพวกเรานั่งทำงานกันจนถึงเวลาเที่ยงกว่า คนรับใช้บ้านมันก็มาเคาะประตูเรียกให้เราลงไปกินข้าวกลางวันพร้อมกับครอบครัวของมันที่ชั้นล่าง และในที่สุดพวกเราก็ได้เห็นหน้าของไอ้อ้วนหรือไอ้ออกัส น้องชายของไอ้อาร์มมันเสียที ซึ่งน้องมันก็หน้าตาดีอย่างที่ไอ้อาร์มบอกจริงๆ นั่นแหละ และถึงแม้ไอ้อาร์มจะบอกว่าน้องมันกับมันหน้าคล้ายกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าไอ้อาร์มหล่อกว่าอยู่ดี

ระหว่างกินข้าวกลางวัน พวกเราทั้งสี่คนก็ได้เห็นกันวันนั้นแหละว่าครอบครัวของไอ้อาร์มนี่เป็นครอบครัวตัวฮาจริงๆ โดยเฉพาะน้องชายของมันที่ทั้งตลก ทั้งร่าเริง พูดเก่ง และยังกวนโอ๊ยยิ่งกว่าพี่ชายของมันไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ทำให้ผมรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ขึ้นมาทันที แต่ผมก็ไม่ได้คิดกับน้องมันเกินเลยหรอกนะ เพราะก็อย่างที่ผมเคยบอกมันไปนั่นแหละว่าผมไม่ได้รู้สึกสนใจคนที่อายุน้อยกว่าหรอก ผมชอบคนอายุเท่าๆ กัน หรือแก่กว่านิดหน่อยมากกว่า

“น้องชายมึงน่ารักว่ะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนพูดขึ้นหลังจากที่พวกเรากลับขึ้นมาบนห้องแล้ว

“ใช่ๆๆ แต่แม่งกวนตีนกว่าพี่มันร้อยเท่าได้อะ มึงคิดดูดิว่ามันกล้าเรียกกูว่า ‘ป้า’ อะ!! กรี๊ดดดดด!!” ไอ้นกกรีดร้อง “น้องมึงมันเพิ่งจะอยู่ม. 4 ใช่มั้ยวะ ทำไมมันปากดีแบบเนี้ย!”

“ฮ่าๆๆ เออ ไอ้เชี่ยอ้วนมันเป็นเด็กพูดเก่งแล้วก็อารมณ์ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่จริงๆ มันแอบดื้อเงียบนะเว้ย”

“ไม่เหมือนพี่มันใช่มะ ที่แม่งดื้อแสดงออก ดื้อเสียงดังมาตั้งแต่เด็กอะ” ผมแซว

“ครวยเถอะ ไอ้ต้า กูออกจะว่านอนสอนง่าย” มันหัวเราะ

“เชื่อก็เหี้ยแล้วมึง เมื่อกี้แม่มึงยังเพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าตอนม. ปลายมึงติดเพื่อนจะตายห่าอะ”

“แถมยังเจ้าชู้ด้วย” ไอ้ฝนพูดเสริม

“โอ๊ยยยยยย! พวกมึงนี่เคยมองกูในแง่ดีกันมั่งมั้ยวะเนี่ย! พอๆๆ มาทำงานได้แล้ว เดี๋ยวพอพวกมึงกลับกันไปแล้วก็ไม่เสร็จหรอก ยังไงวันนี้ก็เอาให้ได้เยอะที่สุดก่อนก็แล้วกัน และเดี๋ยวตอนกลางคืนกูกับไอ้ต้าจะช่วยกันทำต่อเท่าที่ได้เอง”

“แหมมมม เว้ยยย ไอ้อาร์ม กูเพิ่งจะเคยเห็นมึงเอาการเอางานโคตรๆ ก็วันนี้นี่แหละวะ” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“กูอะ เอาการเอางานมานานแล้วเว้ยย แต่กูแค่ไม่แสดงออก ฮ่าๆๆ” มันหันมายักคิ้วให้ผมแล้วยิ้มที่มุมปากน้อยๆ
ผมส่ายหน้าเบาๆ อดคิดในใจไม่ได้ว่ามันเป็นคนที่ดูกะล่อนแต่ก็มีเสน่ห์จริงๆ นั่นแหละ

หลังจากนั้นพวกเราก็ทำงานกันต่อจนกระทั่งถึงห้าโมงเย็น ซึ่งเพื่อนของเราสามคนที่เหลือก็ได้เวลากลับกันแล้ว ตอนแรกผมก็จะนั่งรถไปส่งพวกมันที่มหาวิทยาลัยกับไอ้อาร์มด้วยอยู่หรอก เพื่อที่ว่าขากลับมันจะได้มีเพื่อนนั่งรถกลับมาด้วย แต่มันก็ยืนยันว่าให้ผมรออยู่ที่บ้านจะดีกว่า เพราะว่ามันจะต้องไปทำธุระที่อื่นต่ออีกนิดหน่อย

“ไม่เป็นไรหรอกเว้ย ถ้าเบื่อมึงก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องกูไปนั่นแหละ หรือจะไปนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่กูอยู่ข้างล่างก็ได้” ไอ้อาร์มพูดกับผมก่อนที่มันจะขึ้นรถไป

“ไอ้เหี้ย กูเกร็งนะเว้ย ให้ไปคุยกับแม่มึงอะ มันเขินๆ ชอบกลว่ะ”

“มึงไม่ต้องเกร็งหรอกน่า ทำตัวตามสบายเว้ย มึงเป็นคนน่ารักออก ไอ้เชี่ยต้า แม่กูเค้าก็ชอบมึงเหอะ”

ผมรู้สึกเขินขึ้นทันที “จริงดิ แม่มึงเค้าพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอวะ แล้วแม่มึงเค้าพูดตอนไหนวะ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“เปล่า ยังไม่ได้พูดหรอก แต่กูคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นไง เอาน่าาาาา ทำตัวตามสบายเว้ย เดี๋ยวพอกูส่งไอ้พวกเหี้ยนี่เสร็จ รีบทำธุระเสร็จแล้ว กูจะรีบกลับมาหามึงเลย โอเคปะ” มันตบบ่าผมเบาๆ พร้อมกับยักคิ้วข้างขวาหนึ่งที ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถแล้วปิดประตูลง

“นี่ๆ ไอ้ต้า” ไอ้ฝนเลื่อนกระจกรถลงแล้วชะโงกหน้าออกมาพูดกับผม “คืนนี้มึงอย่าแอบย่องเข้าห้องน้องอ้วนนะเว้ย”

“ไอ้เหี้ยยย!” ผมชูนิ้วกลางให้พวกมันที่กำลังหัวเราะชอบใจกันอยู่ จากนั้นรถของไอ้อาร์มก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านไป

ผมเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปนั่งค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตรอไอ้อาร์มอยู่บนห้องต่อ หลังจากที่ผมเริ่มต้นทำงานได้แค่ไม่กี่นาที เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ผมจึงลุกออกจากโต๊ะไปเปิดประตูออกอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก

“อ้าว พี่ต้า แล้วไอ้อาร์มกับพี่คนอื่นๆอะ ไปกันหมดแล้วเหรอ” ไอ้อ้วน น้องชายของไอ้อาร์มถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง

“โถ่เอ๊ยยย ไรว้าาาาาา แม่งไปไม่บอกเลย”

“ทำไมอะ อ้วนจะเอาอะไรรึเปล่าล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ กัสแค่จะเข้ามาถามอะไรมันนิดหน่อยอะ แล้วก็จะเอาเสื้อกัสคืนจากมันด้วย แต่รอให้มันกลับมาก่อนก็แล้วกัน ไม่อยากไปรื้อตู้มันอะ เดี๋ยวแม่งบ่นเอาอีก”

“อ่อออ โอเคๆ ว่าแต่ว่า นี่พี่ควรจะเรียกเราว่าอะไรดีล่ะเนี่ย จะให้เรียกว่า อ้วน หรือว่า กัส ดี”

“เรียกอะไรก็ได้พี่ เรียกอ้วนตามไอ้อาร์มก็ได้ เพื่อนกัสที่โรงเรียนส่วนมากก็เรียกว่าอ้วนเหมือนกัน”

“แล้วว่าแต่ทำไมพ่อกับแม่เราเค้าต้องตั้งชื่อให้เราสองชื่อด้วยล่ะ ตอนนั้นตกลงกันไม่ได้รึยังไง”

“เปล่าหรอกพี่ ก็แค่พ่ออยากให้ชื่อออกัสตามเดือนเกิด ส่วนแม่ดันอยากให้ชื่ออ้วนอะ เพราะเรียกง่ายดี และสงสัยตอนเด็กๆ กัสคงจะอ้วนกลมน่ารักถูกใจเค้าล่ะมั้ง”

“อ๋ออออ” ผมพยักหน้า

“แล้วว่าแต่พี่ทำไรอยู่อะเนี่ย ทำไมไอ้อาร์มมันปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวแบบนี้ได้อะ แม่ง ไม่ไหวเล้ยยย”

“มันบอกว่าพอไปส่งพวกนั้นเสร็จแล้วมันจะไปธุระต่อน่ะ ไปหาเพื่อนหรืออะไรสักอย่างอะมั้ง พี่ก็ไม่รู้มันเหมือนกัน”

“อ๋ออออ งั้นสงสัยมันต้องไปหาพี่นิ้งแน่ๆ เลยว่ะ”

“ใครวะ แฟนมันเหรอ”

“โอ๊ยยยย ไม่ใช่หรอกพี่ ถ้าใช่ก็ดีอะดิ”

“อ้าว ทำไมอะ”

“เรื่องมันยาวว่ะพี่ จะยืนคุยกันแบบนี้ก็ยังไงๆ อยู่ ไปๆ เราเข้าไปนั่งคุยในห้องมันดีๆ กันดีกว่า” ไอ้อ้วนผลักประตูออกแล้วเดินสวนผมเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของไอ้อาร์ม “มาๆ ปิดประตูแล้วมาคุยกันพี่ ไม่ต้องเกรงใจ”

ผมหัวเราะเบาๆ ดูท่าทางเด็กคนนี้มันจะเป็นเด็กช่างพูดและอารมณ์ดีกว่าที่ผมคิดเยอะทีเดียวนะเนี่ย

“ถ้าพี่เข้าใจไม่ผิด รู้สึกว่าไอ้อาร์มมันจะเคยมีแฟนแล้วเพิ่งเลิกกันไปไม่นานนี้ใช่ปะ ก็คือคนชื่อนิ้งคนนี้น่ะเหรอ”

“ไม่ช่ายยยยย ไม่ใช่ๆ พี่ แฟนเก่าไอ้อาร์มอะ ชื่อพี่ตุ๊กตา หมายถึงคนที่คบกันจริงๆ จังๆ ตั้งแต่มันอยู่ม. 4 นั่นใช่ปะ”

“ก็คงงั้นมั้ง แล้วมันมีคบแบบไม่จริงจังด้วยเหรอวะ”

“ก็พูดยากว่ะพี่ คือไอ้อาร์มมันก็หล่อไง พูดเก่ง คารมดี สาวๆ ก็ติดมันเยอะอะ แต่มันก็คบกับพี่ตุ๊กตาคนเดียวมานานนะ เว้นแต่ก็แบบ เออ มีทะเลาะกันบ้าง คบๆ เลิกๆ บ้างตามประสาอะ ส่วนไอ้เรื่องที่มันไปกิ๊กๆ กับใครระหว่างที่งอแงๆ กัน มันก็คงมีบ้างแหละมั้ง อันนี้กัสก็ไม่รู้มันเหมือนกัน มันไม่ค่อยเล่าให้ฟังหรอก นานๆ ทีก็จะเห็นมันบอกไปดูหนังกับ ‘เพื่อน’ สองคนบ้างไรบ้าง แต่ก็นานๆ ทีจริงๆ น่ะนะ”

“อ้าว แล้วคนชื่อนิ้งที่พูดมาเมื่อกี้อะ มันยังไง” ผมสงสัย

“อ๋อออ คือพี่นิ้งอะ เป็นคนที่มันชอบมากกกก!! ชอบมาตั้งแต่ก่อนคบพี่ตุ๊กตาอีก แต่เค้าไม่ได้ชอบมันไง แล้วแม้แต่ตอนที่มันคบกับพี่ตุ๊กตา มันก็ยังชอบพี่นิ้งอยู่เลย ตอนนี้ก็ยังชอบ ไม่รู้ว่ะพี่ คงอารมณ์แบบ ‘รักมาก แต่ไม่ได้ครอบครอง’ ล่ะมั้ง”

“เฮ้ยยยย มันเป็นไปได้เหรอวะ ที่คนเราจะรักใครสองคนพร้อมๆ กันอะ”

“ก็เป็นไปแล้วนี่ไงพี่” ไอ้อ้วนยักไหล่

“หืมมมม...”

“โอ๊ยยย ถ้าให้เล่าเรื่องของพี่นิ้งนะ เล่ายังไงก็ไม่จบหรอก เพราะมันตามจีบเค้า ทำนั่นทำนี่ให้เค้าเยอะแยะตั้งแต่สมัยมันอยู่ม. 4 แล้ว แต่ประเด็นคือเค้าไม่รับรักมันไง ขนาดกัสเองยังเคยเห็นมันร้องไห้ตอนมันรู้ว่าพี่นิ้งไปคบกับคนอื่นเลยด้วยซ้ำ”

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไอ้อาร์มเนี่ยนะ ร้องไห้เพราะเรื่องผู้หญิง” ผมรู้สึกประหลาดใจ เพราะภาพของไอ้อาร์มที่ต้องเสียน้ำตาเพราะโดนผู้หญิงหักอกนี่ช่างดูไม่เข้ากับสิ่งที่ผมและคนอื่นๆ ในคณะเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

“ช่ายเลยพี่ กว่ามันจะคบกับพี่ตุ๊กตาก็ปาไปตอนจะจบม. 4 เทอม 2 แล้วนู่นแน่ะ”

“แล้วคนชื่อนิ้งนี่เค้ารู้มั้ยวะ ว่าไอ้อาร์มมันชอบอะ”

“รู้ดิพี่ แถมนอกจากนั้นก็ยังรู้กันทั้งโรงเรียนด้วยแหละ” ไอ้อ้วนหัวเราะ “ไอ้อาร์มมันเรียนที่เดียวกับกัสไง ก็โรงเรียนชายล้วนอะพี่ คนรู้จักมันชอบมันก็เยอะ ทั้งเกย์ ทั้งกะเทย แล้วมันก็ดังด้วย เพราะเป็นนักดนตรีไรงี้อีก แล้วพี่นิ้งก็อยู่หญิงล้วน แถมสวยมากๆ ทั้งเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ทั้งเรียนเก่ง แล้วโรงเรียนพี่เค้ากับโรงเรียนของกัสมันก็คลิกกันบ่อยๆ อะ เพราะงั้นพอไอ้อาร์มมันไปชอบใครที คนก็เลยรู้กันไปทั่วแหละ”

“อ้อออ” ผมพยักหน้าหงึกๆ นี่ผมได้ความรู้ใหม่ๆ จากน้องมันเยอะเลยนะเนี่ย

“นี่ยังน้อยพี่ ตอนนั้นที่มันอกหักนะ โอ๊ยยย กัสนะ ทั้งสงสารมันทั้งสมเพชมัน เพราะมันอะ ถ้ารักใครขึ้นมาแล้วก็โคตรจะรักจริงเลย ตอนนั้นพ่อกับแม่ยังเป็นห่วงมันเลยด้วย กลัวว่ามันจะเกเร ซึ่งจริงๆ มันก็หลุดไปหน่อยนึงแล้วเหมือนกันแหละ ถ้าพี่อยากรู้นะ กัสเล่าให้ฟังก็ได้ สนปะล่ะ”

“จะดีเหรอวะ มันจะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของมันไปป่าว” ผมถามทั้งๆ ที่ก็รู้สึกสนใจอยากรู้ใจแทบขาด

“ไม่หรอกพี่ต้า เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย เพราะมันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก ก็อย่างที่บอกไงว่าคนในโรงเรียนเค้าก็รู้กันหมดแหละ ทุกวันนี้พวกเพื่อนๆ ของมันก็ยังแซวๆ มันอยู่บ้างเลย ไอ้อาร์มมันไม่ได้เป็นคนมีความลับอะไรเท่าไหร่หรอก และถ้าอันไหนมันเรื่องใหญ่จริงๆ เรื่องส่วนตัวจริงๆ กัสก็จะไม่เล่า แต่ให้พี่ไปถามมันเอาเอง แบบนี้โอเคปะ พี่จะได้ไม่นั่งเบื่ออยู่คนเดียวไง กัสมานั่งเผาไอ้อาร์มให้พี่ฟังเล่นๆ ดีกว่า”

“อะ ถ้าอ้วนพูดขนาดนั้นแล้วก็ จัดมาเลย!” ผมหัวเราะ

หลังจากนั้น น้องมันก็เล่าเรื่องของแฟนและผู้หญิงที่ไอ้อาร์มเคยชอบสมัยตอนเรียนมัธยมปลายให้ผมฟังอย่างละเอียดเท่าที่น้องมันจะรู้ ซึ่งผมที่นั่งฟังก็ยังอดรู้สึกทึ่งๆ กับวีรกรรมและความทุ่มเทของไอ้อาร์มที่มีต่อผู้หญิงคนที่มันรักไม่ได้ เพราะผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มท่าทางเจ้าเล่ห์ขี้เล่นของมันนั้น จะมีความรักที่บริสุทธิ์และความซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองขนาดนี้ซ่อนเอาไว้อยู่ด้วย เพราะก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าด้วยบุคลิกและท่าทางของมันแล้ว ทำให้มันดูเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์พราวเสน่ห์ตัวพ่อคนหนึ่งเลยทีเดียว

พอหลังจากที่จบเรื่องของไอ้อาร์ม ผมก็นั่งคุยเรื่องอื่นๆ กับไอ้อ้วนต่ออีกพักใหญ่ ยิ่งผมได้รู้จักเด็กคนนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตากับมันมากขึ้นเท่านั้น เพราะนอกจากที่มันจะเป็นคนร่าเริงและคุยเก่งแล้ว ผมคิดว่ามันยังเป็นเด็กที่มีหัวคิดมากอีกคนหนึ่งเลยด้วย

“คุยกันสนุกเลยนะพวกมึง” เสียงของไอ้อาร์มดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก “กูได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมึงดังไปถึงข้างนอกนั่นแน่ะ”

“อ้าว กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะมึง” ผมหันไปถามมัน “แล้วธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอวะ”

“มึงไปหาพี่นิ้งมาเหรอ อาร์ม” ไอ้อ้วนถาม

“เปล่า ไปหาตุ๊กตามา” มันตอบพร้อมกับโยนกุญแจรถลงบนเตียง “ว่าแต่มึงเข้ามาทำอะไรห้องกูเนี่ย ไอ้อ้วน”

“ก็กูจะเข้ามาเอาเสื้อ แล้วก็จะมาถามมึงเรื่องรายงานของอาจารย์คนนั้นที่เราเคยคุยกันอะ”

“เออๆ กูลืมไปเลยนะเนี่ย”

“แต่ยังไม่เอาก็ได้วะ มึงคุยกับพี่ต้าไปก่อนเหอะ ทิ้งแขกไว้ให้รอคนเดียวได้ไงวะ สาดดดด เอาล่ะ กูกลับห้องก่อนละ” ไอ้อ้วนลุกออกจากเก้าอี้

“อ้าว มึงจะไปแล้วเหรอวะ”

“เออ กูมานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ต้าเฉยๆ ไง มึงมาแล้วกูก็ไปดิ ไปนั่งโหลดเพลงต่อดีกว่า เมาท์นานจนคอแห้งแล้ว”

“แล้วพวกมึงคุยเรื่องอะไรกันนักหนาวะ”

“ก็เรื่องของมึงกับพี่นิ้งและพี่ตุ๊กตาไง จะเรื่องอะไรซะอีก” ไอ้อ้วนหัวเราะ ส่วนผมนั่งตัวแข็ง เพราะกลัวว่าไอ้อาร์มมันจะไม่พอใจเอา

“ไอ้เหี้ยยย! บังอาจเมาท์เรื่องของกูซะงั้นเนี่ยนะ!” ไอ้อาร์มยกเท้าขึ้นทำท่าจะถีบน้องชายของตัวเอง แต่ใบหน้านั้นกลับกำลังยิ้มกว้าง “สาระแนจริงๆ เลยนะมึง ไอ้เชี่ยอ้วน!”

“เหี้ยไรล่ะ ก็มันเรื่องจริงนี่หว่า แถมเป็นหัวข้อเมาท์ที่เล่ากี่ทีก็สนุกเหอะ” ไอ้อ้วนตัวแสบหัวเราะก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่น้องมันปิดประตูลงแล้ว ไอ้อาร์มก็ส่ายหน้าพร้อมกับบ่นกับตัวเองเบาๆ ถึงเรื่องความสามารถในการพูดมากของน้องชายของตัวเอง

“เฮ้ย กูขอโทษทีว่ะ ไอ้อาร์ม กูไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของมึงหรอกนะเว้ย” ผมพูด

“เอ๊า คิดมากไปได้มึง กูได้ว่าอะไรมึงหรอก แล้วที่สำคัญ กูก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นความลับอะไรนักหรอกว่ะ เรื่องพวกนี้ไอ้ด้าเองมันก็รู้ เพราะกูก็เคยเล่าให้มันฟังอยู่เหมือนกัน”

“แต่ว่าไอ้ด้ามันก็รู้จากปากมึงไง แต่นี่กูดัน....”

“ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากไง มึงนี่เว้ย” มันเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ “แล้วไงวะ หิวข้าวรึยัง เมื่อกี้ตอนกูเดินขึ้นมา แม่กูเค้าบอกว่าอีกแป๊บนึงข้าวเย็นก็จะพร้อมแล้ว รอไหวมั้ยวะมึง”

“ไหวๆ ไม่เป็นไร กูยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก”

“แน่ใจนะ ถ้ามึงหิวมึงก็บอกได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ หรือจะกินขนมรองท้องไปก่อนเลยก็ได้ แค่เหลือท้องไว้กินกับข้าวฝีมือแม่กูหน่อยเท่านั้นก็พอ” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก “เดี๋ยวกูว่ากูจะอาบน้ำสักหน่อยว่ะ มึงอะ จะอาบน้ำก่อนเลยรึเปล่า รึจะกินข้าวก่อน”

“เดี๋ยวกูค่อยอาบก่อนนอนก็ได้ว่ะ มึงไปอาบเหอะ กูว่ากูนั่งทำงานต่ออีกหน่อยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา”

“เออๆ ดีๆ ไงฝากมึงด้วยแล้วกันเว้ย หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเดี๋ยวกูมาช่วยทำต่อ โทษทีว่ะที่กูเสียเวลานานไปหน่อย”

“แล้วว่าแต่ตกลงมึงไปไหนมาวะ”

“ก็ไป.....” มันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “เอาไว้เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้มึงฟังตอนนอนทีเดียวก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้คะยั้นคะยอหรือพูดอะไรต่อ ไอ้อาร์มก็หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำและเสื้อผ้าเดินออกจากห้องไป ส่วนผมก็หันกลับมาสนใจงานที่เหลือค้างอยู่ในคอมพิวเตอร์ต่อ


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ผมว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นพอสมควรเลยนะ พอมีเรื่องอะไรที่ผมสงสัยขึ้นมา ผมก็มักจะถามจนกว่าผมจะได้คำตอบ แต่ก็ยังโชคดีที่เวลาทำงานอะไรแล้วผมจะสามารถจดจ่ออยู่กับงานนั้นๆ ได้อย่างมีสมาธิ ไม่วอกแวก นั่นคือผมสามารถที่จะบังคับตัวเองได้ในระดับหนึ่งเลยว่า เรื่องไหนที่ยังไม่ใช่เวลาคิด ผมก็จะไม่คิดถึงมันเลย ดังนั้นในระหว่างที่ผมทำงานรอไอ้อาร์มมันอยู่นั้น ผมก็ไม่ได้พะวงอยู่กับเรื่องที่มันบอกว่าจะเล่าให้ผมฟังเลยแม้แต่นิดเดียว ผมจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าจนรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้อาร์มมันเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วนั่นแหละ

“กูอาบเสร็จแล้วนะเว้ย โทษทีว่ะ นานไปหน่อย แม่งขี้ไม่ค่อยจะออก” มันหัวเราะ

“ไอ้แสรส รายละเอียดไม่ต้องก็ได้ แม่งงง ว่าแต่....” ผมก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ “นี่มึงอาบนานแล้วเหรอวะ มึงออกจากห้องไปตั้งแต่กี่โมงวะเนี่ย”

“ก็เกือบ 45 นาทีอะว่ะ”

“45 นาทีเลยเหรอวะ!”

“ช่ายย แต่ปกติกูก็อาบน้ำแต่งตัวนานอยู่แล้วด้วยไง” มันเดินผิวปากไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออก “มึงก็ไปอาบน้ำได้แล้ว ไอ้ต้า”

“เออๆ งั้นมึงมาทำงานต่อจากกูหน่อยแล้วกัน” ผมกวักมือเรียกมัน

“หือออ มึงเริ่มทำสไลด์แล้วเหรอวะเนี่ย” ไอ้อาร์มชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เออ กูก็เริ่มเลือกข้อมูลที่สำคัญๆ มาใส่บ้างแล้วอะว่ะ” กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ จากผิวของมันลอยเข้ามาแตะจมูกของผม ใบหน้าด้านข้างของมันเน้นให้ผมเห็นว่าจมูกของมันโด่งและสวยได้รูปยิ่งกว่าที่ผมเคยคิดเสียอีก

หือออ... ทำไมจู่ๆ ผมถึงได้รู้สึกแปลกๆ แบบนี้นะ

“แล้วไง มึงจะให้กูทำอะไรบ้าง” จู่ๆ มันก็หันขวับมามองหน้าผม

ผมสะดุ้งเบาๆ แล้วรีบหันกลับไปมองที่หน้าจอทันที “เออ ก็พอมึงแต่งตัวเสร็จแล้วมึงก็มาอ่านข้อมูลที่ไอ้พวกนั้นมันหาไว้ที หัวข้อที่กูอ่านและเลือกว่าใช้ได้ กูจะเขียนบอกเอาไว้ให้แล้ว มึงก็อ่านอันที่เหลือแล้วกัน โดยเฉพาะที่มันเป็นภาษาอังกฤษอะ มึงเก่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ช่วยดูให้ทีก็แล้วกัน”

“โอเค ได้ๆ เดี๋ยวกูแต่งตัวเสร็จแล้วกูจะรีบมาดูให้เลย”

“งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมลุกออกจากเก้าอี้ หยิบสัมภาระของตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องของไอ้อาร์มตรงไปยังห้องน้ำ

ผมใช้เวลาอาบน้ำแค่เพียงประมาณสิบกว่านาทีก็เสร็จเรียบร้อย เพราะผมเป็นคนที่อาบน้ำเร็วอยู่แล้ว และหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ซึ่งผมก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่ามันกำลังนั่งอ่านงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเหมือนเมื่อตอนก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องไปไม่มีผิด

“อ้าวเฮ้ย ไอ้อาร์ม ทำไมมึงยังไม่แต่งตัวอีกวะ”

“กูก็นั่งอ่านงานให้มึงอยู่ไง” มันตอบโดยไม่ได้หันกลับมามองผม

“แล้วนั่งแก้ผ้าอยู่อย่างนี้เนี่ยนะ เดี๋ยวก็หวัดแดกหรอกมึง”

“ไม่แดกหรอก เพราะกูเช็ดตัวแห้งแล้ว” มันหันมาหาผม “คือกูแต่งตัวช้าไง ไหนกว่าจะทาครีมนั่นนี่อีก กูก็กลัวว่ากูจะมัวแต่ทาครีมเสริมหล่ออยู่แล้วจะไม่ทันได้ทำงานให้มึงก่อนมึงจะอาบน้ำเสร็จอะดิ เพราะมึงแม่งยิ่งอาบน้ำไวๆ อยู่”

“มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็นคนอาบน้ำไว”

“ไอ้เอมันเคยบอกกู” มันยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ผม “มาๆ มึงมาดูนี่ กูอ่านผ่านๆ ให้แล้วนะว่าอันไหนน่าจะใช้ได้อะ” มันหันกลับไปที่คอมพิวเตอร์เหมือนเดิมแล้วเลื่อนเมาส์ไปคลิกที่ไฟล์งานพร้อมกับอธิบายให้ผมฟังไปด้วย “ก็มีอันนี้ อันนี้ แล้วก็นี่ด้วย... แต่กูยังอ่านไม่จบแล้วก็ยังไม่ได้อ่านละเอียดมากนะเว้ย ก็มึงแม่งเสือกอาบน้ำไวเกินอะ”

“โอเคๆ ไม่เป็นไร งั้นมึงไปแต่งตัวก่อนเหอะว่ะ เดี๋ยวกูทำที่เหลือรอไปพลางๆ เอง”

“โอเค” มันตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน ส่วนผมก็นั่งลงบนเก้าอี้แทนที่มัน “ถ้าไงเดี๋ยวมึงส่งไฟล์เข้าเมลกูนะ แล้วเดี๋ยวกูนั่งเปิดอ่านในไอแพ็ดกูเองก็ได้”

“เออ”

ไอ้อาร์มเดินผิวปากไปยังตู้เสื้อผ้าอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมก็ไม่ได้หันกลับไปสนใจมันเลยว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปสักสิบนาที ผมถึงได้เห็นว่ามันก็ยังคงนั่งอยู่หน้ากระจกในสภาพเดิม

“อ้าวเฮ้ย! ทำไมมึงยังไม่แต่งตัวอีกวะ!”

“กูเพิ่งทาครีมที่หน้าเสร็จ ตอนนี้กำลังรอครีมมันซึมอยู่”

“มึงทาครีมที่หน้าเนี่ยนะ ใช้เวลาสิบนาที”

“เออสิ มึงมาดูดิ๊ว่ากูมีครีมที่ต้องทากี่ตัว สาดดด”

“เออๆ กูรู้แล้วว่าเยอะ กูรู้แล้วว่ามึงมันหล่อ ต้องดูแลหนังหน้าดีๆ ไม่งั้นจะไม่มีสาวมาเอา”

“โอ๊ยยยย ปากจัดอะ คนเป็นเกย์ปากจัดอย่างนี้ทุกคนมั้ยเนี่ย” มันทำเสียงล้อเลียน

“เดี๋ยวกูเดินไปเตะตูดให้เลย ไอ้เหี้ยนี่”

“อย่ามายุ่งกับตูดกูนะ กูหวงนะเว้ย” มันหัวเราะ

“ครวยเถอะ! เชิญมึงแต่งหน้าของมึงต่อไปเหอะ ไอ้สัตว์ กูทำงานต่อละ กูชักง่วงแล้วเนี่ย”

“แหมๆ ทำงอน ไอ้ตูด เดี๋ยวกูทาครีมอีกห้านาที แต่งตัวแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วน่า”

“เหอ ทาครีมเหี้ยอะไรอีกห้านาทีวะ เมื่อกี้มึงเพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าเพิ่งทาครีมเสร็จไปไม่ใช่รึไง”

“อ้าว ก็ทาผิวอีกไงมึง”

นี่แหละครับ ความสำอางของมันที่ผมเพิ่งเคยได้รู้และเจอกับตัวเป็นครั้งแรก

หลังจากนั้นเราสองคนก็ลงไปกินข้าวเย็น กลับขึ้นห้องมานั่งปรึกษาและช่วยกันทำงานอยู่อีกพักใหญ่ๆ จนเวลาผ่านไปถึงเที่ยงคืนกว่า พวกเราก็ตัดสินใจว่าควรจะถึงเวลานอนพักกันสักที

เมื่อไฟทุกดวงในห้องถูกปิดลงจนหมดแล้ว ผมกับไอ้อาร์มก็ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรออกมาก่อน ผมคิดว่ามันเองก็คงกำลังเรียบเรียงสิ่งที่มันบอกผมว่าจะเล่าให้ฟังก่อนนอนอยู่แน่ๆ ส่วนผมเองที่ถึงแม้จะอยากรู้เรื่องนั้นมากแค่ไหน ก็กำลังนึกถึงเรื่องๆ หนึ่งที่รู้สึกคาใจมาตั้งแต่ตอนก่อนมาที่บ้านของมันแล้วอยู่ด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ย” เราสองคนประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน.....

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ลืม สำหรับคนที่ไม่รู้จัก love is ลองอ่าน เรื่องราวของ ออกัสกับแพนด้า ได้ที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27818.0.html นะครับ

:)

เรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องอ่านต่อกันครับ อ่านเรื่องไหนก่อนก็ได้ เข้าใจเหมือนๆ กันแน่นอน

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
อาร์มนี่แอบมีลับลมคมในนะ
แอบชอบต้ารึเปล่าเนี่ย
ทำมาเนียนชวนเค้าค้าง
 :laugh:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
มาแล้ววววววว
เรื่องนี้จะแฮปปี้หรือเปล่าคะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
มาลงชื่ออ่านจ้า

น้องกัสยังน่ารักเหมือนเดิม 

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
แฮปปี้มั้ย.... ต้องลองอ่านครับ ยังไงความรักก็มีหลายรสชาติอยู่แล้วเนอะ อิอิ

แต่บอกจริงๆ ว่า ในบรรดา love is ทั้ง 3 เรื่อง ผมชอบอันนี้ที่สุดนะ แบบว่ามันโดนนนนนนนน 55555

มีเสี้ยวนึงที่มาจาก ปสก จริงของผมด้วยล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
ต่ออีก

อย่าจบเศร้านะ  อยากให้แฮปปี้


ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เอ๋ นี่ใช่แพนด้ากับออกัส จาก love is เรื่องก่อนหรือเปล่าครับ

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
เหมือนเรื่องนี้ น่าจะเกิดก่อน ออกัสกะแพนด้ารึป่าว
.
.
ท่าทางจะไม่เศร้า แต่ก็ไม่ได้คู่กัน หน่วงๆ !!?

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
เข้ามาเจิมเรื่องใหม่ค่า

ว่าแต่ง. อาร์มนี่เป็นผู้ชายสำอางค์ที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยนะนี่

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
น่ารัก   มาก ๆ  ^^"   มา รอ ตอนต่อไปครับ และ มา จอง love is 3 ด้วยนะ พี่ต้น

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
เมื่อไฟทุกดวงในห้องถูกปิดลงจนหมดแล้ว ผมกับไอ้อาร์มก็ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรออกมาก่อน ผมคิดว่ามันเองก็คงกำลังเรียบเรียงสิ่งที่มันบอกผมว่าจะเล่าให้ฟังก่อนนอนอยู่แน่ๆ ส่วนผมเองที่ถึงแม้จะอยากรู้เรื่องนั้นมากแค่ไหน ก็กำลังนึกถึงเรื่องๆ หนึ่งที่รู้สึกคาใจมาตั้งแต่ตอนก่อนมาที่บ้านของมันแล้วอยู่ด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ย” เราสองคนประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน

“อ้าว มึงจะพูดอะไรวะ” ผมหันไปถามมัน

“ไม่ดิ มึงนั่นแหละที่จะพูดอะไร” มันเองก็หันมาถามผม

“ไม่อะว่ะ กูรอได้ มึงพูดมาก่อนเหอะ”

“เออๆ คือก็ไม่มีอะไรหรอก กูแค่จะเล่าเรื่องของตุ๊กตาให้มึงฟังไง แล้วก็จะขอโทษมึงด้วยที่วันนี้กูเบี้ยวงานออกไปจนต้องทิ้งให้มึงอยู่คนเดียวอะ”

“นั่นดิ แล้วสรุปมึงไปทำอะไรมาวะ น้องชายมึงมันเล่าให้กูฟังว่ามึงยังคบกับคนนี้เป็นแฟนอยู่ใช่ปะ แล้วทำไมตอนก่อนนี้มึงถึงเคยบอกรุ่นพี่ว่ามึงไม่มีแฟนวะ ไอ้อาร์ม”

“คือกูก็ยังคบกันเป็นแฟนแหละเว้ย แต่ว่ามันก็รักๆ เลิกๆ อะ กูรู้สึกว่าบางทีเค้าก็อยากจะเลิกกับกู บางทีก็อยากจะยื้อกูไว้ อะไรยังไงกูก็บอกไม่ค่อยถูกเหมือนกัน”

“แล้วมึงรักเค้าปะวะ”

“รักสิเว้ย กูเองก็ไม่อยากเลิกหรอก กูทำใจไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะเว้ย ถ้ากูทนอะไรได้ กูก็จะทน ถ้ากูทำอะไรให้เค้าได้ กูก็จะทำให้ถึงที่สุด กูจะไม่เลิกเลยจนกว่าเค้าจะบอกว่าหมดรักกูแล้ว หรือว่ามีคนอื่นไปแล้ว อะไรแบบนั้นน่ะ”

“อือออ แล้วตกลงวันนี้มึงไปหาเค้าเรื่องไรวะ”

“ก็เค้าโทรมาหากู บอกว่าเครียด มีปัญหากับที่บ้าน กูก็เลยไปหาเค้าที่หออะ ไปนั่งฟังที่เค้าระบาย....”

“แล้วมึงอะ ได้ ‘ระบาย’ อะไรออกไปมั่งมะ”

“ครวยเหอะ! ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย ไอ้สาดดด กูไม่ได้ไปมีอะไรกับเค้าเว้ย แค่ไปนั่งคุยกันเฉยๆ จริงๆ เชี่ยนี่แม่งลามกจริงว่ะ!”

“จ้าาา พ่อคนไม่ลามก พ่อคนใสซื่อบริสุทธิ์... ถุ๊ยย!” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“อ้าว มึงอย่ามาทำประชดกู ความรักกูอะ ทั้งใสและทั้งบริสุทธิ์นะว้อยยยย”

“เออคร้าบบบ ถ้าอย่างนั้นแล้วระหว่างคนชื่อนิ้งกับแฟนมึงเนี่ย มึงรักใครมากกว่ากันวะ ความรักของคนไหนที่บริสุทธิ์กว่ากัน”

ไอ้อาร์มนิ่งไปเล็กน้อย “...กูรักทั้งคู่ว่ะ พูดจริงๆ กูว่ากูรักเท่าๆ กันนั่นแหละ แต่มันคนละแบบ”

“จริงอะ เอาจริงๆ นะเว้ย ไอ้อาร์ม มันเป็นไปได้ด้วยเหรอวะ การที่มึงจะรักใครสองคนพร้อมๆ กันอะ”

“ก็กูนี่ไง ที่รักคนสองคนพร้อมกัน แต่มึงต้องเข้าใจว่ามันเป็นความรักที่ไม่เหมือนกันเว้ย คนนึงกูรักแบบแฟน กูหึงหวง กูห่วงใยและต้องการให้เค้ารักกูคนเดียวเหมือนกัน ส่วนอีกคน มันเป็นความรักฝ่ายเดียวอะว่ะ กูห่วงใย กูแคร์เค้ามาก แต่กูไม่ได้ต้องการให้เค้ารักกูตอบ กูขอแค่เค้ามีความสุขก็พอ แบบเนี้ยอะว่ะ”

“มึงจะบอกว่า มึงไม่อยากได้นิ้งมาเป็นแฟนเลยสักนิดเหรอวะ”

“ถ้าเกิดว่ามันมีโอกาสหนึ่งในร้อยที่เค้าจะเลือกกูอะ กูก็ดีใจเว้ย แต่นั่นต้องหมายถึงตอนนั้นกูไม่มีใคร และเค้าเองก็รักกูจริงๆ หรอกนะ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกว่ะ เพราะว่าเค้าเองก็มีแฟนอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกูเองนี่แหละ กูเคยฝากให้เพื่อนกูดูแลเค้าไปแล้ว เพราะงั้นแค่กูรู้ว่าเค้ามีความสุขดี แค่นี้กูก็โอเคแล้วเว้ย”

“โอโหเว้ย กูไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่ามาดผู้ชายเจ้าชู้อย่างมึง จะมีมุมแบบนี้อยู่ด้วยน่ะ”

“ครวยเถอะ ไอ้เหี้ย กูไม่ได้เจ้าชู้อะไรขนาดนั้นหรอกนะเว้ย แต่กูอะ แค่เจ้าชู้เงียบเฉยๆ ฮ่าๆๆ”

“นั่นไง กูว่าแล้ว!”

“สาดดด กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น กูอะรักเดียวใจเดียว แต่กูก็รู้ตัวเว้ยว่าถ้ากูจะกะล่อน กูก็ทำได้เหมือนกัน เพราะนิสัยกูมันเป็นแบบนี้อะ กูว่าคนอื่นก็คงมองว่ากูเป็นคนเจ้าสำราญ ร่าเริง ปากหวาน หน้าตาดี มีเงิน แม่งก็เลยคิดกันไปว่ากูเจ้าชู้ใช่มั้ยล่ะ แต่ก็จริงไง กูยอมรับ เรื่องนี้ต้องโทษพ่อกับแม่กูว่ะ ที่ปั๊มกูออกมาหน้าตาดีแบบนี้และยังเลี้ยงกูมาบ้าๆ บอๆ แบบนี้อะ มึงก็เห็นใช่มั้ยล่ะว่าบ้านกูแม่งก็อารมณ์ดีกันทั้งบ้าน โดยเฉพาะไอ้น้องชายกูนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย”

“เออ จริง กูยอมรับว่าบ้านมึงเป็นบ้านหรรษาจริงๆ อะวะ โดยเฉพาะน้องมึงนี่แม่งพูดเก่งเวอร์ๆ ยิ่งกว่ามึงอีก กูว่าดูแม่งเป็นเด็กที่รั่วโคตรๆ ท่าทางคนจะรักจะชอบมันเยอะนะเนี่ย”

“อ้าวๆ เอาแล้วไง มึงชักสนใจน้องกูแล้วรึไงวะ”

“ไอ้เหี้ย! ถึงกูจะเป็นเกย์ แต่กูก็ไม่ได้คิดจะเอาผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้กูนะเว้ย”

“ฮ่าๆๆ กูล้อเล่นๆ กูรู้ว่ามึงเป็นคนยังไงน่า ไอ้ต้า ไม่งั้นกูก็คงไม่มาสนิทกับมึงหรอก”

“หือออ กูนึกว่ามึงจะสนิทกับไอ้ด้ามากกว่าซะอีก”

“ก็ใช่ กูสนิทกับมันก็จริง แต่ที่กูพูดเมื่อกี้กูหมายถึง ‘พวกมึงทุกคน’ ต่างหาก และที่สำคัญ ถ้าจะพูดเปรียบเทียบระหว่างไอ้ด้ากับมึงเนี่ยนะ กูว่ามึงอะ ดูเปิดเผยกว่าไอ้ด้าอีก กูอยู่หอเดียวกับมัน กูก็พอจะรู้อะว่ามันดูเหมือนจะมีความลับนิดๆ อยู่นะ แต่มึงแม่งไม่มีไง มึงมันเป็นคนซื่อๆ อะว่ะ แล้วก็ดูซื่อตรงกับความรู้สึกดี ขนาดเป็นเกย์ยังกล้าบอกพวกกูเลย”

“ก็กูไม่อยากจะโกหกเพื่อนที่กูสนิทและไว้ใจนี่หว่า...” ผมตอบ “เออ พูดถึงเรื่องนี้ กูก็มีเรื่องอยากจะถามมึงเหมือนกัน ไอ้อาร์ม”

“เรื่องอะไรวะ”

“คือ... ก็เรื่องที่กูเป็นเกย์นี่แหละว่ะ คือว่า...” ผมอึกอัก

“คืออะไรของมึงวะ ไอ้ต้า”

“ไม่รู้ดิ คือตอนแรกไอ้เอมันก็จะมานอนกับพวกเราด้วยใช่มั้ยล่ะ กูก็เลยไม่ได้คิดอะไรไง แต่นี่พอมันมาไม่ได้ กูก็เลยคิดอะว่า... ว่ามึงจะลำบากใจมั้ย ที่ต้องนอนกับกูแค่สองคนอะ”

“ลำบากใจเนี่ยนะ ลำบากใจเรื่องอะไรวะ” มันหันมามองหน้าผม “อ๋อออ ลำบากใจเพราะมึงเป็นเกย์ อะไรเงี้ยอะนะ”

“ก็... เออ ประมาณนั้นอะว่ะ”

“ไอ้ทุยเอ๊ยยยยย! กูจะไปคิดแบบนั้นทำไมวะ! กูเพื่อนมึงนะเว้ย และมึงก็เพื่อนสนิทกู กูรู้น่าว่ามึงไม่ทำอะไรแบบนั้นกับกูหรอก”

“เออ กูขอบใจมึงว่ะ”

“จะมีแต่กูนี่แหละ ที่จะทำมึง”

“เฮอะ! ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ” ผมหันขวับไปหามันทันที

“ก็ทำแบบนี้ไง!!” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับกระโจนเข้ามากอดและซุกลงบนซอกคอของผม

“อ๊ากกกกก!! ไอ้เหี้ยยยย!!!”

“แบบนี้ๆๆๆ!!” มันถูหน้าไปมาและเอามือจี้เอวผมไปด้วย

“ปล่อยกู!! ไอ้เหี้ย!! ฮ่าๆๆๆ!!” ผมดิ้นอย่างคนเสียสติ

“เออ ปล่อยก็ได้” มันผละออกจากตัวของผมแล้วกลิ้งลงไปนอนที่เดิม

“มึงเล่นครวยไรของมึงเนี่ย!” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วเหยียดขาออกไปถีบสะโพกของมัน

“อะไร หวงตัวเหรอวะ ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะ

“ไอ้เหี้ยยยย!!” ผมยังรู้สึกขนลุกไม่หาย

“ฮ่าๆๆๆ กูแค่จะแสดงให้มึงเห็นไง ว่ากูไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับมึงเลย ไอ้ต้า กูอะ อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตั้งแต่เด็กแล้ว กูชินกับการมีเพื่อนเป็นเกย์เว้ย  และที่สำคัญ กูก็เล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวใกล้ชิดกับเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วยเหมือนกัน”

“แล้วมึงต้องแสดงออกด้วยวิธีนี้รึไงวะ ไอ้เชี่ย!!”

โชคดีที่ในห้องมันมืด ไอ้อาร์มจึงไม่มีทางเห็นว่าผมกำลังเขินจนหน้าแดงมากแค่ไหน และมันก็คงไม่มีทางรู้ด้วยเหมือนกันว่าในคืนนั้นผมแทบจะนอนไม่หลับเลยแม้แต่นิดเดียว

นั่นคือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของไอ้อาร์ม และได้สัมผัสถึงความมีเสน่ห์ของมัน หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกเลยว่าทำไมคนถึงได้ชอบมองชอบพูดถึงมันกันนัก ทำไมใครๆ ถึงได้แอบชอบมัน และทำไม... จู่ๆ ผมถึงได้เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้มันมากขึ้นเรื่อยๆ


golfgab

  • บุคคลทั่วไป
มา นอน รอ ตอนต่อไปนะครับ ^^"
พี่ต้น.....คิดถึงจังเลย

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
คนแรก พี่ต้น น่ารักที่สุด ขอบคุณนะครับ สำหรับ love is  ดี ๆ   แบบนี้

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
โฮะๆๆ  ตาร์เริ่มมีความรู้สึกดีๆ กับอาร์มมากขึ้นเรื่อยๆ แอบรักเพื่อนสนิท เก็บไว้มิดๆ บอกไม่ได้ 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
จัดว่าจะเป็น มาม่าระดับเส้นอืดแหงๆ !!!

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
เค้าเริ่มรู้สึกดีๆกันแล้วอ่ะตัวเอง
แต่อาร์มมันก็น่ารักจริงๆนะ ผู้ชายแบบนี้อ่ั

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
อยากรู้ว่าอาร์มมีความรู้สึกในใจอะไรแบบต้าบ้างไหมอะ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หลังจากนั้นมา ผมก็กลายเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับไอ้อาร์มไปด้วยอีกคน เราสองคนสนิทกันมากขึ้นจนเรากล้าที่จะเล่าเรื่องราวของกันและกันแบบไม่มีความลับใดๆ อีกเลย เวลาที่มันมีปัญหากลุ้มใจอะไรเรื่องของแฟนหรือคนที่ชื่อนิ้ง มันก็จะโทรมาหาผมเป็นคนแรกๆ เสมอ และเวลาที่ผมมีปัญหาไม่สบายใจอะไร มันก็จะคอยรับฟังและให้คำปรึกษาแก่ผมได้เสมอเช่นกัน ซึ่งยิ่งผมได้รู้จักมันมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งได้เห็นว่าแท้จริงแล้วมันเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมาก ไม่สมกับบุคลิกหรือสิ่งที่คนอื่นๆ เข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวมันเลย

ในที่สุด เมื่อผมกับไอ้อาร์มสนิทกันมากขึ้น ได้ใช้เวลาไปไหนต่อไหนด้วยกันสองคนมากขึ้น ผมก็มีโอกาสได้เจอและรู้จักกับทั้งนิ้งและตุ๊กตาจนได้ในที่สุด สำหรับคนชื่อนิ้งนั้นผมก็ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีและน่ารักจริงๆ นั่นแหละ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไอ้อาร์มจะหลงรักผู้หญิงคนนี้มาได้หลายปี แต่กับตุ๊กตาแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะยิ้มแย้มและปฏิบัติกับผมดีมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังคงส่งความรู้สึกไม่เป็นมิตรมาให้ผมบ้างในบางครั้ง ซึ่งผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอรู้สึกหึงหวงในตัวของไอ้อาร์มมันก็เป็นได้ล่ะมั้ง

เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเทอมที่สองในรั้วมหาวิทยาลัยของพวกเรา และก็เป็นเทอมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มของพวกเรามากที่สุดด้วย เรื่องแรกเลยก็คือการที่ไอ้เอมันต้องเผชิญกับความเครียดที่น้องชายของมันก่อปัญหาขึ้น และปัญหาที่ว่าก็คือการที่น้องของมันดันเป็นเกย์และมีปัญหาเรื่องผู้ชายเกิดขึ้น ไอ้เอที่ถึงแม้จะยอมรับกับการมีเพื่อนเป็นเกย์ได้ กลับต้องเผชิญกับความลำบากใจเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของมันเอง

เรื่องที่สองก็คือผมเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังถลำลึกไปกับความรู้สึกที่มีต่อไอ้อาร์มมากขึ้นจนเกินไป ดังนั้นผมจึงได้เริ่มเปิดใจคุยและลองคบกับรุ่นพี่ต่างคณะคนหนึ่งเพื่อที่จะได้คิดเรื่องของไอ้อาร์มให้น้อยลง ซึ่งถึงผมจะเพิ่งเริ่มคุยกับพี่เขาได้ไม่นาน แต่กลับดูเหมือนว่าปฏิกิริยาที่ได้รับตอบมาจากเพื่อนๆ ในกลุ่มของผมจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และถึงแม้พวกมันจะไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่ผมก็พอจะรู้สึกได้อยู่ดี จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราทุกคนกำลังกินข้าวกลางวันด้วยกันโดยมีพี่อาร์ท พี่ที่ผมเพิ่งเรียกว่าแฟนไปนั่งอยู่ด้วย...

“กูไม่ชอบมัน” ไอ้อาร์มพูดขึ้นหลังจากที่พี่อาร์ทขอตัวกลับไปก่อน

“เฮ้ยยย ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนส่งเสียงปราม

“อ้าว จะทำไมอะ ก็กูไม่ชอบมันจริงๆ นี่หว่า”

“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้ฝน กูก็พอรู้สึกได้แหละว่าพวกมึงไม่น่าจะชอบพี่เค้าอะ”

“ถ้ามึงรู้แบบนั้นแล้วมึงจะยังคบกับมันอยู่ทำไมวะ” ไอ้อาร์มหันมานิ่วหน้าใส่ผมอย่างไม่พอใจ

“อ้าว อะไรวะ นี่กูจะคุยกับใคร กูต้องขออนุญาตจากพวกมึงก่อนด้วยเหรอวะเนี่ย”

“เฮ้ยยย ไอ้ต้า มึงใจเย็นเว้ย ไอ้อาร์ม มึงก็เหมือนกัน”

“ไม่เว้ย ไอ้นก กูไม่ได้โกรธอะไรเลย จริงๆ ไม่เป็นไรหรอก พวกมึงบอกมาเถอะว่ามึงไม่ชอบพี่เค้าตรงไหน”

“คือ.... พวกกูก็ไม่ได้ไม่ชอบพี่เค้าหรอกเว้ย แต่กูแค่รู้สึกว่ามันเข้ากับพวกเราไม่ได้ยังไงไม่รู้อะว่ะ แล้วกูก็....”

“คือพวกกูเคยคุยๆ กันน่ะ ไอ้ต้า ว่าดูเหมือนมึงเองก็ใช่ว่าจะเข้ากับพี่มันได้ดีแบบว่าร้อยเปอร์เซ็นต์นะเว้ย” ไอ้ฝนพูดต่อ “แบบว่า มึงงงง คือกูเห็นมึงเองก็กลุ้มๆ เรื่องที่พี่มันเที่ยวเก่ง แล้วก็มีทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่บ้างด้วยไม่ใช่เหรอวะ”

“กูรู้ว่ากูกับพี่เค้าไม่ได้จะเข้ากันได้แบบ ‘คลิก’ กันสุดๆ รักกันหวานกันปานจะกลืนอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ของแบบนี้มันก็ปรับตัวเข้าหากันได้ไม่ใช่เหรอวะ”

“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ...” ไอ้ฝนหันไปมองหน้ากับไอ้นก

“แล้วพวกมึงล่ะ ไอ้เอ ไอ้ด้า” ผมหันไปหาเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ริมสุด “มึงก็ไม่ชอบพี่เค้าเหมือนกันรึเปล่า”

“กูเฉยๆ ว่ะ...” ไอ้เอตอบ “ถ้ามึงมีความสุขดี กูก็โอเค แค่นั้นแหละ”

“กูก็เหมือนกัน” ไอ้ด้าพูดต่อ “ถ้าเอาจริงๆ กูก็รู้สึกเหมือนกับที่พวกไอ้ฝนมันพูดเหมือนกันนั่นแหละว่ามึงเองก็ดูไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น ดูมึงฝืนๆ อะ แต่ถ้ามึงอยากจะลองปรับตัว ลองให้เวลากันอีกสักหน่อย กูก็โอเค”

“แต่กูไม่โอเค” ไอ้อาร์มยังคงยืนกรานเสียงแข็ง “มันไม่ถูกชะตากูเลยว่ะ แถมกูยังไม่เห็นว่ามึงจะเข้ากับมันได้ตรงไหนด้วย กูเห็นมึงบ่นๆ ว่ามันไม่ค่อยใส่ใจมึงมาสักพักแล้วนะ ไอ้อาร์ม แล้วมึงจะทนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เหรอวะ”

“บางทีกูก็อาจจะเรียกร้องอะไรมากจนเกินไปเองไง มึงก็ต้องเข้...”

“ไม่อะ กูไม่เข้าใจหรอก”  ไอ้อาร์มพูดขัดผม “คือมึงต้องฟังกูบ้างนะเว้ย ไอ้ต้า กูว่าไอ้เชี่ยอาร์ทอะไรเนี่ย แม่งไว้ใจไม่ได้เลยนะเว้ย ดูมันเป็นคนกะล่อนๆ อะ แถมแม่งยังดูหื่นๆ ชอบกล นี่มึงเคยมีอะไรกับมันไปรึยังวะ”

“เฮ้ยยยย! มึงถามเหี้ยอะไรเนี่ย!”

“ก็แล้วมึงเคยมีไปรึยังล่ะวะ”

“ครวยเหอะ ยังไม่มีเว้ย!”

“เออ แบบนั้นก็ดีแล้ว”

“ทำไมวะ ไอ้อาร์ม ทำไมมึงถึงได้คิดว่าพี่อาร์ทเค้ากะล่อนอะไรแบบนั้นอะ” ไอ้ฝนถาม

“ลางสังหรณ์มั้ง...” มันเบ้ปาก

“อ้าวไอ้เหี้ย! นี่มึงจะบอกว่ามึงแค่ใช้ลางสังหรณ์ตัดสินว่ากูควรจะคบหรือไม่ควรคบใครเลยเหรอวะ”

“กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย”

“กูรู้ว่ามึงเป็นห่วงกู แต่มึงก็ต้องเคารพสิทธิ์การตัดสินใจของกูบ้างสิวะ”

“พอๆ พวกมึงสองคนพอได้แล้ว” ไอ้เอพูดขึ้น “ไอ้ต้า มึงจะคบจะคุยกับใครอะนะ พวกกูไม่มีใครว่าอะไรหรอกเว้ย มันเป็นสิทธิ์ของมึง พวกกูน่ะ ขอแค่มึงมีความสุขดีก็พอแล้ว อย่างไอ้อาร์มก็เหมือนกัน ที่มันพูดก็เพราะมันเป็นห่วงมึงแค่นั้นแหละ ส่วนมึงนะ ไอ้อาร์ม พวกกูรู้ว่ามึงเป็นคนพูดจาตรงๆ และพวกกูก็รู้ว่ามึงเป็นห่วงไอ้ต้ามันมาก แต่ มึงก็ต้องให้เวลามันด้วยเว้ย มึงต้องเคารพการตัดสินใจของมันและคอยช่วยเหลือมันสิวะ นี่มันก็เพิ่งจะคบกับพี่เค้ามาได้แค่เดือนเดียวเอง”

“เออ...” ไอ้อาร์มตอบกลับด้วยเสียงขุ่นๆ

ผมล่ะไม่เข้าใจมันจริงๆ ว่ามันจะเป็นห่าอะไรกับพี่อาร์ทนัก ทำไมมันถึงได้อคติกับพี่เขาขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มันเองก็ใช่ว่าจะรู้จักเขาหรือได้เคยเห็นด้านดีๆ ของเขาอย่างผมสักหน่อย

มันก็จริงอย่างที่พวกเพื่อนๆ ของผมพูดว่าบางทีผมก็มีรู้สึกน้อยใจบ้าง ที่พี่เขาค่อนข้างจะติดเพื่อนจนบางครั้งดูเหมือนไม่ค่อยมีเวลาให้กับผม แต่เราเองก็เพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน และพี่เขาเองก็บอกผมแล้วด้วยว่าเขาจะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อย่างเช่นในวันนั้นเขายังมานั่งกินข้าวกับพวกเราด้วยเลยใช่มั้ยล่ะ

“ไอ้อาร์มมันเป็นเหี้ยอะไรของมันวะ ทำไมมันต้องไม่พอใจขนาดนั้นด้วย” ผมพูดกับไอ้เอขณะที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพังในตอนเย็นของวันเดียวกัน

“กูก็บอกไปแล้วไงว่ามันเป็นห่วงมึงมาก แล้วมันก็คงไม่ถูกชะตากับไอ้พี่อาร์ทจริงๆ นั่นแหละ มันก็เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่วะ ชอบอะไรก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ มึงก็รู้ อย่าไปถือสาอะไรมันเลย”

“เรื่องนั้นกูก็รู้ แต่...” ผมเว้นช่วงไป “แต่ ไอ้เอ มึงก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่ากูแอบชอบมันอยู่น่ะ”

“กูรู้...”

“ใช่ มึงรู้...” ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ “และมึงลองคิดดูสิวะว่ายิ่งมันทำแบบนี้ มันจะยิ่งไม่เป็นการทำให้กูรู้สึกแย่หนักเข้าไปใหญ่เหรอวะ มันทำตัวจนแทบจะเหมือนกับว่ามัน ‘หึง’ กูขนาดนั้นเลยนะเว้ย และถ้ากูไม่รู้จักที่จะลองไปคุยกับคนอื่นดูบ้าง กูจะหนี จะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ต้องชอบมันฝ่ายเดียวได้เมื่อไหร่ล่ะวะ”

“ไอ้ต้า บอกตรงๆ นะเว้ย ว่ากูก็ไม่ค่อยจะเข้าใจไอ้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่นักหรอก แต่กูว่ามึงเองก็เป็นคนนึงที่น่าจะเข้าใจไอ้อาร์มมันดี ไม่แพ้กับที่มันเข้าใจมึง ซึ่งถ้าต่างคนต่างก็เข้าใจและเป็นห่วงความรู้สึกของกันและกันมากแบบนั้นแล้ว ทำไมพวกมึงถึงยังจะต้องผิดใจกันอยู่ได้อีกล่ะวะ”

คำพูดของมันทำผมอึ้งไปทันที

“กูว่ามึงลองใจเย็นๆ ดูเถอะว่ะ ทั้งเรื่องของไอ้อาร์ม แล้วก็เรื่องของพี่อาร์ทด้วยเหมือนกัน...”

คืนนั้น หลังจากที่กลับถึงบ้าน ผมก็คิดถึงคำพูดของไอ้เออยู่นาน จนในที่สุดก็ตัดสินใจส่งเมสเสจไปบอกไอ้อาร์มว่า “ขอโทษ” ซึ่งหลังจากนั้นแค่ไม่กี่นาที มันก็ส่งกลับมาว่า “เหมือนกัน”

เชื่อมั้ยว่าแค่ข้อความสั้นๆ ห้วนๆ แค่นี้ก็ทำให้ผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวได้แล้ว

หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของผมกับไอ้อาร์มก็กลับมาดีเหมือนเดิม พร้อมๆ กับความสัมพันธ์ของผมกับพี่อาร์ทที่เริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ไอ้อาร์มพูดถึงเรื่องของพี่อาร์ทน้อยลง ไม่มีคำพูดแรงๆ หรือประชดประชันให้ผมได้ยินอีก และพี่อาร์ทเองก็เริ่มเที่ยวกับเพื่อนน้อยลง แถมยังแสดงความใส่ใจผมมากขึ้น ทุกอย่างดูจะเริ่มไปได้ด้วยดีซึ่งก็ทำให้ผมมีความสุขขึ้นมาก เพียงแต่ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเลยว่า ความสุขนั้นจะคงอยู่ได้อีกแค่ไม่นาน เพราะปัญหาที่สามของพวกเรากำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าแล้ว

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
น้องต้าปิ้งปลาประชดแมวแบบนี้ไม่ดีนะลูก
เดี๋ยวไอ้พี่อาร์ทมันหื่นๆขึ้นมาโดนปล้ำจะทำยังไง๊
รักเค้าชอบเค้าก็บอกไปเถอะ
ดีกว่าเสียใจทีหลังนะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
ปัญหที่ว่า มันคืออะไร อย่าให้เก้อน่ะคับ คนเขียนๆๆ อยากอ่านต่อๆ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
อ่านแล้วชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องของกัสกับพี่ด้านะ 
เป็นกำลังใจให้จ้า

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
เรื่องนี้ก็กำลังหนุก แต่เรื่องออกัสกะแพนด้า น่ารักมากๆ น่าจะทำเป็นเรื่องยาว อ่านไม่จุใจเท่าไหร่ อยากอ่านต่อจากนั้นอ่ะ นักเขียนช่วยแต่งเพิ่มได้ไหมเนี่ยๆ น่ารักสุดๆอ่ะ ถ้าเรื่องนี้ได้จัดพิมพ์ ขอจองเป็นคนแรกเลยน่ะ แต่ถ้าพิมพ์ไปแล้วคงเสียดายอ่ะ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร มีแต่อ่านก็นอนอินตามบท ^^

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ปัญหาที่สาม ??? รอลุ้นในตอนต่อไปดีกว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด