พร้อมนะ
ตอนที่ 19ทูลงมาเปิดประตูบ้านให้เฟียตเข็นรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่โรงรถ แล้วพากันเดินปัดมาที่บ้านหลังเล็ก พอเปิดประตูเข้าไปในบ้านได้ เฟียตก็ทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา
“สัด กูบอกแล้วว่าอย่ากินเยอะ นี่ถ้าเจอตำรวจมึงโดนแน่” ทูบ่นไปเรื่อย “มึงนอนนี่นะ กูจะไปอาบน้ำ”
“ทูมาแล้วหรือลูก” แม่ทักก่อนที่ตัวจะมาถึง “อ้าวเฟียต เมาหรือ”
“เมาสิ บอกแล้วว่า อย่ากินเยอะเพราะต้องมาส่ง เสือกกินซะ” ทูตั้งท่าบ่นใหม่อีกรอบ แม่ตีที่ต้นแขนเบาๆ
“อย่างกับตัวเองไม่เมา ไปอาบน้ำลูกจะได้เข้านอน”
“ครับ”
ทูเดินออกมาส่งแม่ที่หน้าบ้านใหญ่อีกรอบ
“ให้คุณย่าไปวันซ้อมใหญ่หรือวันรับจริงดีทู”
“ไม่ต้องก็ได้แม่ คนเยอะ ยังไงก็ถือชุดกลับบ้านอยู่แล้ว นั่งถ่ายรูปสวยๆ ใจเย็นๆดีกว่า”
“กลัววุ่นวายเหมือนคราวพี่วรรณหรือไง”
ทูนึกถึงตอนที่พี่วรรณรับปริญญาแล้วต้องถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ทั้งญาติทั้งเพื่อน ทั้งคนงานโรงพิมพ์มากมายเสียจนมาคราวตัวเอง อยากถือครุยขึ้นรถแท็กซี่ออกไปรับปริญญาคนเดียวมากกว่า
“พ่อกับแม่ไป 2 คนพอ ถ้าพี่วรรณไป พี่เขยก็ต้องไปด้วย ลากพวกเด็กๆไปด้วย แค่คิดก็ไม่ไหวละ”
“เอางั้นเหรอ งั้นให้พี่เขยเราเขาขับรถให้ละกันนะขับไปส่งพ่อแม่ไปถ่ายรูปด้วยแล้วกลับเลย”
“ตามนั้น เสร็จแล้วผมนั่งแท็กซี่กลับคนเดียว ได้ไม่ต้องตามหากัน”
เดินมาส่งถึงบ้านใหญ่ ทูก้มลงหอมแก้มแม่ ยืนรอจนแม่ขึ้นบันไดไปห้องนอนถึงได้กลับออกมาที่บ้านหลังเล็ก
พอเปิดประตูเฟียตก็ลุกนั่ง
“แม่คอยทุกคืนที่มึงไปเมาเลยเหรอ”
“อือ มึงสร่างเมาแล้วก็กลับเหอะ”
ทูเดินผ่านไปอาบน้ำ กลับออกมา เห็นเฟียตนอนกางแขนกางขาเต็มเตียงนอน
“กูนึกแล้ว มึงมีแผน”
เฟียตลืมตามองส่งยิ้มหวานดวงตาเชื่อม
“มึงไม่ได้เมาก็กลับบ้าน กูขี้เกียจตอบคำถามตอนเช้า” ทูยืนเท้าเอวมอง
“ขออาบน้ำก่อนได้มั้ย”
“ไม่ได้ กลับเดี๋ยวนี้เลย”
“แต่ระดับแอลกอฮอล์ กูไม่ผ่านแน่ๆ”
“เรื่องของมึงเหอะ เถียงกูได้ฉอดๆขนาดนี้ ก็กลับได้แล้ว”
แต่เฟียตผุดลุกขึ้น รวบเอวทูลงมานอนบนเตียง พริบตาเดียว เฟียตกำลังส่งยิ้มจากในระยะไม่ถึงคืบ
“สัดเอ๊ย มึงนี่มันเหลือ กะ...”
เฟียตบดจูบ เบียดลิ้น ดูดริมฝีปาก พร้อมกับฝ่ามือที่บีบที่อกบาง ความพยายามต่อต้าน ทั้งถีบตัวหนี จิกข้อมือ เบี่ยงหน้าหลบจูบ ล้วนแต่ไม่มีผล
“เหนื่อยชิบหาย” ทูบอกหอบๆ เมื่อเฟียตเลื่อนจูบ ลงมาใต้ใบหู
“นั่นสิ ไม่รู้ว่ามึงจะสู้ไปทำไม” แต่ไอ้คนนี้สิที่ตาหวานเชื่อม ดึงเสื้อนอนขึ้นแล้วก้มลงดูดยอดอกสีอ่อน
ทูถึงกับห่อตัวสูดปาก
เฟียตเลือบตาขึ้นมอง แล้วดูดแรงกว่าเดิม
“อึ้ก”
มือใหญ่ลูบแก่นกายจนโป่งนูน เฟียตจูบไล่ลงมาหา
“เฮ้ย เดี๋ยว กูไม่มีอุปกรณ์”
“อ้าว แล้วที่กูซื้อมาคราวก่อนตั้งกล่อง” บอกไปแต่มือใหญ่ๆก็ล้วงรูดอยู่อย่างนั้น
“กู ทิ้ง ไป แล้ว”
“งั้นสด”
“เหี้ยละไง”
ทูทั้งผลักทั้งถีบ สู้สุดฤทธิ์จนเฟียตต้องกดข้อมือลงกับเตียง คนที่หอบเหนื่อยคือทู
ส่วนไอ้เฟียต พูดนิ่งๆ ตามเคย “ก็มึงไม่มี ถ้ากูขี่รถออกไปซื้อ มึงล็อคบ้าน กูนอนหน้าระเบียงแน่ๆเลย”
ทูหลุดยิ้ม “สัด เสือกรู้ทัน”
เฟียตยักคิ้ว ยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นขอข้างนอกก็ได้”
“มึงต้องทำให้ได้หรือไง” บอกตามตรงว่า คุณชายทู ทฤษฎีรู้สึกเหนื่อยใจกับไอ้ตี๋โย่งเหลือเกิน
“ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว”
“สัดมึงรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่ามึงเอาแต่ใจมากขนาดไหน กูว่ากูเอาแต่ใจแล้วนะ ยังไม่ถึงครึ่งของมึงเลย”
เฟียตปล่อยข้อมือที่กดอยู่ เลื่อนลงมาครอบริมฝีปากที่แก่นกายของทูทันที ทั้งลิ้นโลมเลีย ทั้งริมฝีปากดูดแรง มือก็บีบนวดไปทั่ว กระทั่งกรีดนิ้วตามร่องสะโพก แล้วแทรกนิ้วที่ด้านหลัง
ทูยกตัวส่งเสียงเหมือนจุกปนเจ็บ
“แมร่ง ในลิ้นชัก กางเกงใน”
เฟียตผละออก เปลี่ยนเป็นใช้มือรูดให้ “ไหนว่าทิ้ง”
“ก็....ทิ้งไปเดี๋ยวมีคนมือบอนรื้อดู” คนที่หน้าแดงจัดตอบไม่ค่อยเต็มเสียง
เฟียตลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้ อยากถามเหมือนกันว่า บ้านมึงอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นขนาดนั้นเลยหรือไง แต่เดี๋ยวจะพาลต่อไปเรื่อยๆ
ท่าทางจะกลัวคนรู้จริงๆ เพราะทูซุกไว้ในสุดของลิ้นชัก
หันกลับมาเห็นทูกลืนน้ำลาย แล้วหันไปมองทางอื่น
เฟียตเดินเข้ามาคร่อมตัว ช้อนจูบทูเนิ่นนาน จูบและจูบไปทั่วใบหน้า ลำคอ มือใหญ่รูดให้ช้าๆ แล้วจับพลิกคว่ำ บีบเจลให้ จูบทั่วแผ่นหลัง ขณะที่นิ้วมือสอดเตรียมพร้อม
ทูจิกหมอนแน่น ส่งเสียงครางหวาน แทบกลั้นหายใจเมื่อเฟียตดึงนิ้วออก เพื่อมาสวมถุงให้ตัวเอง กดเข้าหาช้าๆ
“อะ อะ....”
เฟียตก้มลงขบเบาๆที่ไหล่แล้วจูบไล่
ทูหันกลับมารับจูบ หลับตาแลกลิ้น
จากเชื่องช้ากลายเป็นเร่งเร้า ปล่อยให้ความรุ่มร้อนทั้งหมดระเบิดออกมาแล้วทิ้งตัวลงมานอนข้างกัน
เฟียตจ้องมอง ใบหน้าของคนที่นอนข้าง ยกมือเกลี่ยนิ้วที่เปลือกตาคม คิ้วเข้ม
“รักกูบ้างหรือเปล่า”
ทูลืมตามองแล้วลุกไปล้างตัว พอออกมาก็ออกคำสั่งทันที
“ไปอาบน้ำเหอะ”
เมื่อเฟียตอาบน้ำกลับออกมา คนที่ยังไม่หลับก็ออกคำสั่งอีกครั้ง “กางเกงนอนอยู่ปลายเตียง”
ท่ามกลางความมือเฟียตยิ้มกว้าง ใส่กางเกงแล้วมานอนลงข้างๆ
ทูพลิกหันหลังให้ แล้วคว้าข้อมือเฟียตเข้ามากอด
คำสั่งสุดท้ายของคืนนี้
“จะสนใจอะไรว่ากูคิดยังไง ในเมื่อมึงบอกว่าจับกูได้แล้ว จะไม่ปล่อยกูง่ายๆ ก็ทำให้ได้อย่างที่พูดละกัน”
ตื่นเช้าเพราะพี่วรรณมาเคาะประตูเรียกก่อนนาฬิกาจะปลุกเสียอีก เดินออกมาที่บ้านใหญ่ เห็นไอ้ตี๋โย่งยังนั่งคุยอยู่กับคุณย่า
“อ้าว ยังไม่ไปอีกเหรอ”
“ดูมัน” พี่วรรณหันไปพยักพเยิดกับแม่แล้วหันมาเรียก “มากินข้าวพร้อมย่า”
พอนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว ทูยังไม่เลิกถาม “ทำไมยังไม่กลับบ้าน”
“ก็ออกมา เห็นย่ากำลังใส่บาตร”
“ย่าบอกให้อยู่รอกินข้าวกับย่าก่อนแล้วค่อยกลับ” ย่าบอก
“มึงตื่นเช้าขนาดทันย่าใส่บาตรเลยเหรอ” ทูถึงกับทึ่ง
“ก็มึงบอกให้กูรีบกลับแต่เช้า”
ไม่ต้องหันไปมอง ย่า พ่อกับแม่ พี่สาวและพี่เขยที่กำลังร่วมโต๊ะอยู่ก็พอรู้ว่า แต่ละคนกำลังดุทางสายตา
ทูเบะปาก “เออ งั้นกินเสร็จก็กลับเลยนะ”
“ไอ้เค็ม!” พี่วรรณดุ
กินข้าวเสร็จทูเดินออกมาส่งถึงรถมอเตอร์ไซค์ เฟียตหันไปมองข้างหลัง แล้วกระซิบถาม
“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
ทูหน้าแดงแปร๊ด “เจ็บสิสัด”
“กูบอกพี่วรรณแล้วว่า ไม่ต้องไปปลุกมึง แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร”
ทูพยักหน้าส่งๆ “เออ มึงกลับเหอะ เกิดนายฝรั่งเขาเรียกคุยขึ้นมาได้มีงานทำ”
“มึงก็อย่าลืมกินยาแล้วนอนพัก”
“คงได้นอนหรอก” ทูหันไปมองพ่อกับพี่สาว ที่เดินออกมาจากบ้านไปที่ทำงาน ส่วนพี่เขยเขาเป็นผู้จัดการบริษัทอีกบริษัทหนึ่ง ไม่ได้เข้ามายุ่งกับงานโรงพิมพ์
“ไว้กูมาหามึงอีกได้มั้ย”
“มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย อ้อนแปลกๆแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนละ” ทูกอดอกถาม สีหน้ามีแต่ความสงสัย
“กูไม่ถาม มึงก็ว่ากูหน้าด้านเอาแต่ใจ พอกูถามมึงก็ว่าแปลก”
“ย้อนนะย้อน เดี๋ยวต่อยหน้าแหก”
“แล้วกูมาได้มั้ยล่ะ”
ทูยังไม่ทันจะถาม พี่วรรณที่เดินมากับพ่อก็บอกซะก่อน
“มาเหอะ ถ้าไอ้เค็มมันหวงไม่ให้นอนบ้านมัน ก็มานอนบ้านใหญ่นี่ก็ได้”
“โห.....”
....โยนเนื้อเข้าปากจระเข้เนี่ย รู้หรือเปล่าเหอะ ว่าไอ้หน้าด้านนี่มันกำลังคิดอะไรอยู่...
ทูหันมามองคนที่ส่งยิ้มกว้าง แถมด้วยการยักคิ้วกวนตรีน “พี่วรรณอนุญาตแล้ว”
จนสายเมื่อทูเดินกลับเข้าออฟฟิศอีกครั้ง กำลังจะขึ้นไปชั้น 4 ฝังตัวอยู่ในห้องทำงานเล็กๆเหมือนเคย ก็ต้องเลี้ยวกลับมาที่ห้องทำงานชั้น 2 ของพี่วรรณ เมื่อเห็นว่าเพิ่งคุยกับลูกค้าคนหนึ่งเสร็จ แล้วพี่วรรณลุกออกมาส่ง
“ไง มีอะไรไอ้เค็ม”
ทูไม่ตอบมองหน้าพี่สาวนิ่งๆแล้วเดินสวนเข้าไปในห้องทำงาน
2 มือล้วงกระเป๋ามองเอกสาร หนังสือตัวอย่างเรียงรายเต็มตู้ติดผนังรอบตัว
ทูนิ่งเฉยจนพนักงานที่ด้านนอก หันมามองด้วยความอยากรู้ พี่วรรณเลยเดินมาปิดประตูห้องทำงาน
คนตาคมหันกลับไปมองที่หนังสือในตู้เหมือนเดิม
“เรื่องไอ้เฟียตน่ะ”
“อือ มีอะไร”
“มัน.....”
“มันติดยาหรือไง”
“เปล่า”
“ติดเหล้า”
“เปล่า”
“ติดพนัน”
“เปล่า”
“ขี้ขโมย”
“เปล่า”
“งั้นอะไร”
“ก็...ที่มันมานอนเมื่อคืน..”
“มันเป็นเพื่อนแก”
พี่วรรณบอกเสียงนิ่งๆ จนทูหันมามอง
“สำหรับชั้น พ่อ แม่ หรือย่า มันคือเพื่อนแกเหมือนอ๋อม เหมือนโอที่มันมาเมาค้างอยู่ที่บ้านน่ะแหละ”
“พี่รู้ว่ามันไม่เหมือน” ทูรู้สึกตัวว่ามือเย็นเฉียบ ทั้งที่คิดเตรียมคำพูดจะบอกพี่สาวมาร่วมชั่วโมง
“ก็รู้ เพราะมันทนให้แกด่าได้มากกว่าคนอื่นๆ เอาใจแกมากกว่าคนอื่น”
ทูถอนหายใจแรงๆ “ไม่อยากให้แม่รู้เลย แม่เสียใจแน่ๆ”
“แกมีเพื่อนเพิ่มมาอีกคนแม่จะเสียใจทำไม”
พี่วรรณย้ำอีกครั้ง ทำให้ทูเข้าใจว่าครอบครัวไม่พร้อมที่จะยอมรับเรื่องนี้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้กีดกันขัดขวาง
“เอางี้นะทู เราพี่น้องกันเห็นกันมาตลอด รู้ว่าแกเป็นยังไง ส่วนตัวแล้วเนี่ยชั้นคิดว่าแก...ติดอ๋อมมาก เพราะอะไรๆก็อ๋อม แต่มาวันหนึ่งเห็นไอ้คนนี้ขี่มอเตอร์ไซค์มารับมาส่งถึงบ้านชั้นก็คิดว่า เค้าน่าจะเป็นคนที่แกวางใจ”
“พี่น่ะแหละที่ชวนเค้าเข้าบ้าน ผมน่ะไล่ตลอด”
“เรียกเข้าบ้านยังดีกว่าปล่อยแก 2 คนไปไหนไม่รู้” พี่วรรณบอกแล้วนึกขึ้นมาได้ “นี่อย่ามาบอกนะว่าจะขอออกไปอยู่กัน 2 คนน่ะ”
“ไม่ใช่” ทูรีบบอก “แค่อยากรู้ว่า พี่รับได้มั้ย”
“ชั้นจะไปรังเกียจเพื่อนแกทำไมล่ะ”
ทูมองหน้าพี่สาวนิ่งๆ
“ย้ำครั้งสุดท้ายไอ้เค็ม สำหรับชั้นแล้ว พวกแกคือเพื่อนสนิท”
ทูยิ้มที่มุมปาก ทำให้พี่สาวพลอยยิ้มตามไปด้วย “สบายใจขึ้นมั้ย”
“ฮื่อ”
“แต่ก็ขออีกอย่าง ในวงเล็บเป็นที่รู้กัน แกมีหลานหลายคน พี่เลี้ยงเด็ก ไอ้นุชคนดูแลย่า คนงานบ้าน คนงานที่นี่อีก จะทำอะไรอย่าให้มันประเจิดประเจ้อ คิดถึงย่า คิดถึงพ่อกับแม่ด้วย”
“ก็เพราะคิดไง ถึงได้ไล่แล้วไล่อีก แต่ทำไมดูทุกคนจะถูกใจมันนักไม่รู้”
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” พี่สาวตอบเหมือนนักเลง “อาจเพราะมันเข้าทางย่า พอย่าชอบมันทุกคนก็เลยชอบมันไปด้วย”
“ท่าทางมันออกจะเหมือนนักเลงคุมบ่อน”
“แล้วแกพามันเข้าบ้านทำไม”
“ผมเปล่า พี่วรรณต่างหากที่ให้มันเข้าบ้าน” ทูยักคิ้วเดินไปที่ประตูห้องทำงาน
“แล้วตกลงกันยังไง”
“ก็ไม่ได้ตกลงกัน จะเอาอะไรกับเพื่อนสนิท”
“ทู”
“ฮื่อ”
“ดูแลตัวเองดีๆนะ”
ทูหันมามองพี่สาวแล้วส่งยิ้มกว้างจนเห็นฟันเกือบหมดปาก
“แน่นอน”
ใช่มั้ย นี่คือทางเลือกของหลายครอบครัวที่มีเกย์เป็นสมาชิก
ไม่ยอมรับ แค่ไม่พูดถึง แล้วก็ไม่ได้ขับไล่ให้ออกจากบ้าน
ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนี่นา
========จบตอนที่ 19===========
นี่ไม่ใช่เรื่องเล่านะครับไม่มีอะไรสักอย่างที่เป็นเรื่องของผมกับน้อง ส่วนที่คุณอยากให้เราเขียนเรื่องเล่าก็ทำไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่า มันจะจบลงในความยาวไม่ถึงหน้า A4 เพราะผมไม่มีึความสามารถในการจำคำพูด คือถ้าเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แล้วอยากเล่าอยากคุยผมจะไปเขียนไว้ในทู้หนึ่งที่ห้องพูดคุย เป็นเรื่องๆไป ถึงอย่างนั้นเวลาจะพิมพ์ยังต้องใช้คำว่า "พูดกันประมาณว่า...."
วันนี้ตัวหนังสือสีฟ้า คงมาบ่ายๆ เพราะน้องมีเรียนเช้า ไว้แวะมาอ่านวันจันทร์เลยก็ได้ครับ
ทำงานหนัก เรียนหนัีก รักษาสุขภาพกันนะครับ
ไจฟ์กับทีครับ
กอดรวบถ้วนทั่ว คิดถึงผมผมก็คิดถึงคุณ...มากกว่าล้านเท่า 555
ลิงกินผักๆ รถติดชมัดเหอะ แต่ช่วงระหว่างรอผม รอคอน ป๋านั่งเขียนตอนพิเศษเรื่องนี้จบได้ละกัน ส่วนตอนจบเรื่องนี้ผมกำลังพยายามอยู่ มันยากจริงอะไรจริง
อันดับสุดท้ายสำคัีญมาก พี่ๆ ที่ "กอด" ผม รบกวนมากอดกัน อย่าฝากมา เพราะคนชอบอ้างเป็นผู้รับฝากเค้าชอบทวง หมาแก่นิสัยเสีย