ผมก็โด๊น -ไปเยอะแล้วด้วยเหอะ!! เหมือนจะมีคนหมั่นใส้
เดี๋ยวก็สวยกระแสโดยการให้กดลบหรอก เอาแบบให้ติดลบเป็นร้อยๆเลย เท่ดี!
ชาวบ้านเค้าบวกกัน แต่เรามีเครื่องหมายพิเศษอยู่ข้างหน้า คงจะแหวกมิใช่น้อยเลย
เอาล่ะ เตรียมตัวตั้งสมาคม "บวกกันเองแห่งไทยบอย" ไว้ได้เลออ~
ป่ะ มาอ่านกัน
++++++
ไม่เข้าใจ...?เป้?
เป้มีเบอร์เราได้ไงกันล่ะเนี่ย....
หลังจากที่มีเบอร์แปลกโทรเข้าเครื่องท่านเซียนเมื่อครู่ พอรับสายปลายสายก็พูดแสดงตัวทันทีว่าฝ่ายที่โทรมาเป็นใคร
"ฮัลโฟลพี่เซียน นี่เป้เองนะพี่"
ถึงกับงงไปเหมือนกัน จำได้ว่าตัวเองเคยม่อเป้อยู่ก็จริงแต่ไม่เคยถึงขั้นให้เบอร์แบบนั้นนี่.. หรือเบอร์จะหลุดไปตอน
ให้ลายเซ็นต์รุ่นน้อง แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะตั้งแต่เปิดเทอมมาท่านเซียนยังไม่ได้เซ็นต์ให้ใครเลย
แล้วเป้มีเบอร์ตัวเองได้ไง??
สงสัยเมียรักให้เป้ไว้ล่ะมั๊ง.. จำได้ว่าตอนไปเลือกของขวัญ เป้ระแวงเรื่องตัวเองกับเมียรักนี่นา นึกขึ้นได้นัยน์ตาก็สั่นคลอน
ทันที
"ว่าไงเป้"
..คงไม่ได้โทรมาจับผิดอะไรใช่มั๊ย เรื่องความสัมพันธ์เกินเพื่อนระหว่างตัวเองกับ ..แฟนของเป้
ท่านเซียนกลืนน้ำลาย คิดคำพูดแทบจะไม่ออก ถ้าเกิดเป้ถามอะไรขึ้นมา ..เขาจะตอบว่าอย่างไรดี ระแวงเว่ย...
"คือเป้มีเรื่องจะคุยกับพี่เซียน พี่เซียนออกมาเจอเป้หน่อยได้มั๊ยครับ"
เอาแล้วไง...
พอหันกลับไปมองเมียรักที่เมื่อกี้ยังเขินจนสมองค้าง ..อูย จ้องมาตาแข็งเชียว คาดไม่ถึงว่าท่านเจี้ยวจะหึงแรงได้ขนาดนี้
แต่ไม่รู้ว่าหึงเป้ หรือว่าหึงตัวเอง คิดแล้วมันก็พาลให้คิดมากจริงๆ
"เออได้สิ"
ท่านเซียนรับคำ ก่อนที่เป้จะนัดสถานที่และเวลามา เอาแล้วไง.. จะถูกจับผิดอะไรบ้างล่ะเนี่ย
"อื้มๆ ดีครับ"
แล้วท่านเซียนก็กดวางสายไป หันหน้าไปสบตากับเมียอีกที ..เย็นวาบที่หลังขึ้นมาเลย เล่นจ้องซะตาแข็งโป้ก แค่พักเดียว
ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเหนื่อยอ่อน
"โอเคๆ เลิกๆ"
? เลิกอะไร? งงนะเนี่ย??
"อะไร เลิกอะไร?"
ท่านเซียนย้อนถามด้วยความสงสัย
"กูเลิกกับไอ้เป้แล้ว เลิกกันตั้งนานแล้วด้วย"
หน้าท่านเซียนดูมีสีขึ้นมาเยอะ เผลอลอบยิ้มออกมาอย่างดีใจ ..งั้นก็ไม่ต้องระแวงเรื่องเป้แล้วสิ
งั้น.. ที่เป้บอกอยากจะคุยด้วย มันเรื่องอะไรกันล่ะ?
"งั้นบอกกูได้มั๊ยว่าเมื่อกี้คุยอะไรกัน"
เมียรักถาม .. โอย หัวใจพองโตขึ้นมานิด รู้สึกเหมือนคนตรงหน้านี้จะหวงท่านเซียนเข้าไปทุกที ไว้ให้หายก่อนเถอะ
คงมีฉลองกระชับความสัมพันธ์เป็นจังหวะบรรเลงขับเสียงประสานกันบน...
"เป้มันโทรมานัดไปคุยธุระอะไรไม่รู้ ตอนแรกกูก็ระแวงคิดว่ามันจะจับผิดเรื่องกูกับมึงซะอีก"
ท่านเซียนระบาย ก่อนจะย้อนถาม
"แล้วมึงเลิกกับมันเมื่อไหร่"
"ก็..."
คนตอบเสหน้าหนี ..สังเกตุจากมุมนี้เห็นชัดๆว่าหูท่านเจี้ยวกำลังแดงอีกแล้ว
"วันที่ .. มึงร้องเพลงของอิลสลิกให้กูฟังไง"
.. อา วันนั้น จำได้ว่ามันออกไปกันสองคนนี่นะ คาดว่าเป็นเดทแรกด้วย ..แต่เดี๋ยวก่อน แล้ว....?
"ใครเป็นคนบอกเลิก?"
"เป้"
อ่าว.. ทำไมที่ดีใจอยู่เมื่อครู่มันถึงงได้ร่วงวูบลงแบบนี้ล่ะ ก่อนที่ท่านเจี้ยวจะก้มหน้าก้มตาพูดต่อ
"มันบอกว่ามันดูออก.." ก้มลงอีก "..ว่ากูคิดอะไรกับ มึง"
พยางค์สุดท้ายเบาลงจนเกือบไม่ได้ยิน แต่ดีที่ในบ้านมีแค่สองคนและโทรทัศน์ก็ไม่ได้เปิดดังนัก ทำให้คนฟัง
ได้ยินอย่างชัดเจน นั่นเรียกรอยยิ้มจากท่านเซียนได้ทันที
"ฮะฮะ"
ท่านเซียนหัวเราะป้องปากมองอดีตเพื่อนนั่งก้มหน้าหงุด น่ารักแปลกๆแฮะ.. ไม่เคยเห็นท่านเจี้ยวแสดงท่าทีแบบ
นี้มาก่อน ตั้งแต่รู้จักกันมา นี่เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าเมียรักทำตัวน่ากอดจริงๆ
"อืม ..สงสัยคงจะเรียกไปถามเรื่องกูกับมึงนั่นแหละ หรือไม่ก็เรียกมึงไปจ่ายค่าเสียหายแทน"
"เสียหาย อะไรเสียหาย? นี่อย่าบอกนะว่า..."
ว่าไอ้เจี้ยวไปทำไอ้เป้มันจนป่วยแบบที่ตัวเองทำ... หึ๋ย คิดแล้วมัน...!!!
"ก็วันที่กูวิ่งฝ่าฝนมาหามึง ไอ้เป้มันบังคับให้กูเลี้ยงข้าวเย็นมัน ยังไม่ทันลงมือกินเลย กูก็วิ่งมาหามึงก่อนนี่แหละ
ค่าอาหารมื้อนั้นไอ้เป้มันเลยต้องจ่ายเอง แล้วจะมาเก็บคูณสองที่กูทีหลัง"
ท่านเจี้ยวค่อยๆอธิบายอย่างใจเย็น ผิดกับท่านเซียนที่โมโหไปแล้ว แต่พอได้ฟังแค่นี้ก็เหมือนยกอะไรออกจากใจ
โล่งขึ้นมาในทันที
"เห๊ออ.. นึกว่าเรื่องอะไร ถ้าเป็นเรื่องแค่นั้นกูจ่ายให้เองก้ได้ ให้กูเลี้ยงมึงทั้งชีวิตยังได้เลยไอ้เจี้ยว"
คนพูดยิ้มหวาน.. แต่คนฟังนี่ดิ.. ก้มหัวจนคอแทบพับ
"ไอ้เหี้ย..........."
นี่เป็นคำแก้อาการเขินประจำตัวเมียรักรึไงกันนะ?
"จะไปก็รีบไปดิ นัดมันเมื่อไหร่ล่ะ"
พอเงยหน้าก็ช้อนตาพูด .. โอ้ย ตาท่านเจี้ยวก็เยิ้มๆอยู่แล้ว ยิ่งมองแบบนี้แล้วมัน .. อดไม่ได้
"อ...อื้อ!!"
ไวกว่าการบรรยายครั้งไหนๆ.. ท่านเซียนพุ่งเข้าไปจูบเมียอย่างเต็มรัก สอดแทรกเกี่ยวพันตวัดควานหาความหวาน
ตามซอกฟันและดพรงปาก ก่อนจะละปากออก
"รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวเอาโจ๊กมาป้อนแล้วจะได้กินยา"
คนถูกจูบหน้าแดงอีกแล้ว..
"แล้ว..แล้วไอ้เป้มันนัดเมื่อไหร่ล่ะ"
"คืนนี้ตอนสามทุ่มที่ร้านไอ้เตี้ย ตอนนี้เพิ่งสี่โมง.."
ก้มลงกระซิบหูเมีย ทำเอาคนฟังใจหล่นวูบ
"กว่าจะสามทุ่ม.. คงได้อยู่กับมึงอีกตั้งหลายชั่วโมง.. หึหึ"พูดจบก็เดินหายเข้าไปในครัว.. ทิ้งคนฟังให้หน้าแดงหูแดงตาค้างอีกแล้ว
..
.. เห๊อ ทั้งโมโหง่าย ทั้งแสดงอารมณ์ง่าย เดี๋ยวนี้กูเป็นอะไรกันวะเนี่ยเจี้ยวเอ๊ยเจี้ยว ..
++++++++++++++++
พอป้อนโจ๊กป้อนยากันเสร็จเรียบร้อยท่านเซียนก็อุ้มพยุงท่านเจี้ยวขึ้นไปนอนบนห้อง อยากจะอุ้มท่าเจ้าหญิงเหมือน
กันแต่โดนเมียรักด่าใส่หน้าว่าเว่อร์เกินไป แล้วยังกระแหนะกระแหนว่าตัวแห้งๆจะอุ้มไหวเร๊อ .. หึหึ ไหวไม่ไหวก็มี
เรี่ยวแรงซอยได้ทั้งคืนแล้วกัน
พออุ้มคนเป็นเมียถึงเตียง ก็จัดแจงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ป้อนน้ำอุ่นให้กินหวังว่าร่างกายเมียรักจะฟื้นตัวในเร็ววัน ไม่รู้ว่า
เพราะเป็นห่วง หรือต้องการจะใช้งานอีกกันแน่ พักเดียวเท่านั้นที่ท่านเซียนคอยลูบกระหม่อมบางๆของเมียรักพลาง
เป่าลมเบาๆท่านเจี้ยวก็ผลอยหลับไป ท่านเซียนที่เพลียๆไม่ได้นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนก็ค่อยๆขยับตัวขึ้นไปนอนด้วย
ก่อนจะจับร่างเมียที่หลับแล้วเข้ามาแนบอก เอาใบหน้าไถข้างแก้มนิ่มใสของเมียรัก ..
คนเป็นเก้งแม้จะรุกหรือรับก็มีนิสัยอย่างหนึ่งคือสะอาด จะในกลุ่มน้อยหรือกลุ่มใหญ่ท่านเจี้ยวและท่านเซียนก็จัดอยู่
ในประเภทนั้นเหมือนกัน ฉะนั้นใบหน้าและผิวพรรณเมียรักถึงได้ขาวเนียนจับตรงไหนก็น่าสัมผัสไปหมด เอาหน้ามา
ไถข้างแก้มท่านเจี้ยว อื้ม.. นิ่มละมุนจริงๆ
ก่อนที่ท่านเซียนจะผลอยหลับตามไปทั้งแบบนั้น...
+++++++++++++++++
แว๊กกกก
สองทุ่มห้าสิบแล้ว ท่านเซียนที่ตื่นมาในสภาพงัวเงียพอเห็นหน้าปัดนาฬิกาชี้บอกเวลาเท่านั้นแหละถึงกับตาสว่าง
อีกสิบนาทีบอกเวลาว่าจะเข้าสามทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่นัดกับเป้ไว้ พอนึกได้ก็รีบสปริงตัวขึ้นจากเตียงทันทีดดยลืมนึก
ไปว่าเมียที่นอนอยู่จะสะเทือนจะตื่นตามรึเปล่า พอนึกขึ้นได้ตัวเองก็ลุกออกมาจากเตียงเสียแล้ว หันหลังกลับไป
อืม.. เมียยังนอนหลับดีอยู่ ท่าทางเมื่อกี้คงไม่สะเทือนอะไรหรอก นึกได้ดังนั้นจึงหันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกชุดทันที
ผ้าไปราวๆห้านาทีเห็ฯจะได้ ท่านเซียนก็มาถึงร้านไอ้เตี้ยเป็ฯที่เรียบร้อย มองหาเด็กเป้ในร้านคาดว่าคงมารอก่อนเวลา
อยู่แล้ว ..และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เป้นั่งอยู่มุมของร้าน บนโต๊ะมีเบียร์ขวดเขียววางอยู่ พร้อมจานกับแกล้มอีกสองจาน พอท่านเซียนเดินมาถึงก็นั่งลง
"มีอะไรเป้"
ท่านเซียนเปิดประเด็น คนตรงหน้ายังคีบเม็ดมะม่วงหิมพานต์เข้าปากอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร
"แล้วพี่คิดว่าเป้จะเรียกมาคุยอะไรล่ะครับ"
ท่าทีหยิ่งยโสแบบนี้.. ผิดไปกับวันที่มาขอถ่ายรูปจริงๆ วันนั้นยังกลัวจนตัวสั่น แล้วท่าทีวันนี้มันอะไรกัน?
"มีอะไรก็บอกมาสิ พี่ไม่ชอบอ้อมค้อมว่ะ"
ท่านเซียนพูด.. ก็แอบกลัวเมียตามมาหึงเหมือนกัน ก็คุณเมียรักเล่นหึงโหดซะขนาดนั้น... แม้เป้จะเคยนอนกับ
ท่านเจี้ยวมาแล้ว แต่ก็ไม่น่าไว้วางใจพายุใต้ทะเลแบบท่านเจี้ยวเหมือนกัน กลัวเมียจะหึงไม่ลืมหูลืมตา
คนฟังยกขวดเขียวกระดกกรอกปาก แต่ตายังไม่ลดละไปจากใบหน้าท่านเซียน
จำได้ว่าเมื่อก่อน ท่านเซียนเคยไปม่ออยู่หนสองหน เด็กนี่ก็ทำทีเหมือนจะเล่นด้วย กำลังจะตกลงไปนอนกัน
แต่แล้วก็ดันไปนอนกับท่านเจี้ยวเสียก่อน ..เป็นคนยังไงกันแน่นะ ...เด็กเป้นี่
"มาทวงตังค์ที่ไอ้เจี้ยวบอกจะเลี้ยงข้าวเย็นเมื่อวานแงะ เท่าไหร่อ่ะ พี่จ่ายเอง"
คนฟังไม่พุดอะไร .. แต่ตานี่สิ ยังจดจ้องไม่ได้ละไปไหน แม้มือจะควานหาเม็ดมะม่วงหิมพานต์หยอดใส่ปาก
พลางบีบริมฝีปากตัวเองเล่นไปด้วย ท่านเซียนกลืนน้ำลายเอืกทันที
"ว่าไงล่ะ เท่าไหร่"
ท่าไม่ดีแล้วแฮะ..
"ก็.. สองเท่าของค่าอาหาร"
แล้วเป้ก็พุดมันออกมาเป็นประโยคแรกของการนัดพบครั้งนี้ ท่านเซียนไม่ว่าอะไรก้มหน้าหยิบกระเป๋าสตางค์
แล้วเปิดอ้า ก่อนที่มือเย็นเฉียบชื้นจะสัมผัสเข้าบนมือท่านเซียนที่กำลังจะหยิบเงิน..
"พี่ให้ผมพูดตรงๆใช่มั๊ยฮะ"
".."
??
"เรื่องเงินช่างมันเถอะ..."
"..."
"พี่ตอบผมก่อน ว่าพี่เซียนกับพี่เจี้ยวเป็นอะไรกัน"
เพื่อน.. ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะพูดมันออกไปทันที แล้วตอนนี้ล่ะ.. เป็นอะไร จะบอกว่าท่านเจี้ยวเป็นเมียตัวเองงั้นหรอ?
ตอนแรกที่ท่านเจี้ยวบอกกับท่านเซียนว่า ปิดสถานะต่อไป จะได้เป็นรุกด้วยกันทั้งคู่ นั่นคง..หมายถึง
ท่านเจี้ยวเองก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองมารับให้เพื่อนสนิทหรอกมั๊ง..
"ว่าไงครับพี่เซียน"
คนพูดยังไม่ปล่อยมือที่แปะอยู่บนหลังมือท่านเซียน
อา.. คำถามนี้ตอบยากแฮะ เพราะยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดเลย
"พี่ไม่ตอบ..งั้นผมจะเข้าใจไปเองนะ"
"???"
"งั้นแปลว่าพี่โสด...."
เคยชอบคำนี้มาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้.... ชักไม่อยากจะโสดอีกแล้ว
"งั้นผมขอพูดตรงๆอีกที.."
มันกำลังจะพูดอะไร???
...
...
"ผมอยากได้พี่เซียนบ้างอ่าครับ"!!!!
"คืนนี้ไปนอนกับผมซักคืนสิ....."+++++++
เดี๋ยวไปอัพเรื่องนู้นก่อนนะ ที่บอกว่าอัพยากเพราะพล็อตมันตีกันนั่นเอง
ผมก็อยากได้ + นะ
ใครยังไม่ได้ไปอ่าน Intro เรื่อง Not Plan รีบไปอ่านกันนะ เดี่ยวตามเนื้อเรื่องๆนี้ไม่ทัน อิอิ