เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกกับเขาแล้วค่ะ~~~~
สวัสดีค่ะวันนี้มีเรื่องมาแจ้งค่ะ อยากบอกว่า คู่นั้น เลิกกันแล้วค่ะ จิพยายามยื้อสุด ๆ เพื่อให้ไม่เลิกกัน แต่มันก็มาถึงเวลาที่ต้องเลิกกันแล้วมั้งค่ะ มันคงไม่เหมือนเดิมอย่างที่ชินเขียนค้างไว้นั้นล่ะค่ะ
เรื่องราวจริง ๆ มันเริ่มจากงาน ๆ หนึ่ง งานภาคกลางวันเสร็จ พวกมันก็ไปต่อกัน จนเมา แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไร ตัวเล็กมันก็เก็บไว้ไม่บอก
พอวันที่ 29 ก.พ. อยู่ ๆ ตัวเล็กก็โทรมาบอกให้ลองโทรหาชินสิ ทำไมไม่รับสาย พอจิโทรไปมันก็ไม่รับ หรือรับก็เหมือนมือไปกดโดน ให้ฟังเสียงอะไรไม่รู้ จากนั้น ตัวเล็กมันก็เริ่มโมโห จริง ๆ มันจากความระแวงนั้นล่ะค่ะ จากเหตุการณ์เก่าที่กล่าวมาข้างต้น เหตุการณ์ก็เลยวุ่นวาย เพราะตัวเล็กมันไม่ฟังเสียงใคร มีการประชุม 3 สาย แล้วมันก็พูดมาว่า “ป้าไม่เกี่ยววางหูไปเลย” เลยบอกไปว่า “แกไม่ให้ฉันยุ่ง แต่ชินมันให้ยุ่ง เพราะฉะนั้นฉันไม่วาง” จริง ๆ มันพาลไปหลายคนเลยนะค่ะ เรื่องมันจบลงด้วยมีการบอกเลิกกัน อย่าเดาค่ะว่าใครบอกเลิกใคร เพราะมีการผิดได้ค่ะ เพราะครั้งนี้ เจ้าชินบอกเลิกค่ะ และเจ้าตัวเล็กเป็นคนยื้อ 555+ ตอนไปเล่าให้พี่สาวของพวกเราฟัง เจ๊แกก็บอก อีกแระ 555+ ก็เลยบอกว่า ไม่ๆๆ ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะว่า ไอ้ตัวใหญ่บอกเลิกไอ้ตัวเล็ก เจ๊แกก็อุทาน อ้าวเหรอ
มันบอกตัวเล็กแบบนี้ค่ะ “ตอนนี้ที่รู้สึกกับตัวเล็ก มันคือความผูกพัน ไม่ใช่ความรัก” แต่ทั้งจิและตัวเล็กก็งงว่า ความผูกพันกับความรักต่างกันตรงไหน?
หลังจากการบอกเลิก มันก็ทำให้จิเป็นแบบนี้
ฝั่ง ตัวเล็ก โทรมาคุยกับจิทุกคืน ถึง ตี 3 แต่จิต้องทำงาน งานส่วนนั้นค่อยข้างเยอะ แล้วนอนไม่พอ จิก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน แล้วมันไม่ฟังอะไรเลย จนจิต้องเหวี่ยงใส่ ฮ่าๆๆ
ฝั่ง เจ้าชิน ต้องทำโปรเจคจบ วุ่นวายก็กลับไปเก็บข้อมูลที่บ้าน แต่ก็มีแอบพูดเรื่องนี้ แต่พอพูดเครียดปุ๊บมันตัดบทเลย แอบมาถามโปรเจคบ้าง อยากบอก เอ่อ เรียนคนละคณะจ๊ะ
พอวันที่ 5 มี.ค. มันก็เริ่มคุยกันใหม่ เห็นบอก เกือบ 2 ชั่วโมง แล้วมันทำข้อตกลงอะไรบางอย่าง ซึ่งพอมันวางสายมีการแย่งกันโทรมาหา ตัวเล็กไวกว่าจะ แต่ขอโทษ อยู่งานแต่งค่ะ น้องที่ทำงานแต่งงาน ก็เลยบอก”วางสายไปก่อน เดี๋ยวโทรกลับ”
สรุปที่มันคุยกัน ณ ตอนนั้น ก็คือ ลองอีกสักเดือนนึง ว่าจะอย่างไง
จิขอเล่าในการคุยทั้งสองฝั่งนะค่ะ ก่อนที่จะเลิกกันจริง ๆ ก่อนนะคะ ขอเริ่มที่ฝั่งเจ้าชินก่อน น่าจะสั้นกว่า
การคุยกับชิน มันจะวุ่นวายกับโปรเจคของมัน มันจะพยายามไม่สนใจ หรือพยายามที่จะไม่ติดต่อกับตัวเล็ก มันจะขอให้เรียนจบอย่างเดียว (บางคนบอกว่ามันเป็นการเห็นแก่ตัว) วันที่มันคุยกันวันที่ 5 สัญญาว่า ชินจะกลับบ้านมาทุกวันที่สามารถกลับได้ แต่มันก็วุ่นวายขอมีสมาธิกับโปรเจคของมัน แต่มันก็โดนไอ้ตัวเล็กขู่นั้นนี่นู้นไปเลย
ฝั่งตัวเล็ก อย่างที่บอก โทรมาหา แล้วก็พรั่น (เป็นอาการที่จิหมายถึง พร่ำเพ้อ ) ถึงตี 3 ทุกวัน มีการขู่นู้นนี่นั้นเจ้าชินให้ฟัง จนมันถึงวันที่จิทนไม่ไหว วีนกลับ ฮ่าๆๆ ไม่ดีเลยนะคะ แต่มันทนไม่ไหวแระ จิเลยวีนกลับไปแบบนี้ค่ะ
“ถ้าคิดจะทำอะไรบ้าง ไม่ต้องโทรมาหาก่อนจะทำนะ ขี้เกียจขึ้นโรงพักขี้เกียจฟัง แล้วคิดไหมว่าที่ถ้าพ่อแม่ได้ยินที่แกพูด เขาจะรู้สึกอย่างไง จริง ๆแล้ว ฉันจะไม่สนใจแกก็ได้ จำได้ไหมว่าวันนั้นเป็นอย่างไง (ถึงตอนนี้มันก็บอกว่าอย่ารื้อฟื้นสิ) ก็เลยบอกว่า ไม่ได้รื้อฟื้นนะ แต่พูดให้ฟัง รู้ไหมวันนั้นทำผิดอะไรบ้าง”
มันก็บอกมาว่า “ใจร้อน เหวี่ยงใส่ทุกคน” เลยบอกว่า รู้ตัวก็ดีแล้ว ถ้าคนเขาไม่สนใจ ไม่แคร์ เขาหนีแกไปหมดแล้ว แล้วไปขอโทษ....ด้วย (คนที่มาเป็นคนกลางวันเกิดเหตุวันที่ 29 นั้นล่ะค่ะ) ตัวเล็กบอกว่า “ส่ง sms ไปขอโทษแล้ว เขาโทรกลับมา แต่ไม่ได้รับ รู้สึกผิด” เลยบอกว่า “โทรกลับไปหาเขา แล้วขอโทษเขาอีกครั้งเลย เขาไม่โกรธหรอก ถ้าโกรธก็คงไม่รีบโทรกลับมา”
หลังจากนั้น ด้วยเพราะพฤติกรรมไม่อยากรับรู้ของเจ้าชิน จิก็พยายามไม่โทรไปกวนมัน ให้มันไปทำงาน ไป แต่ตัวเล็กมันโทรมาหาทุกวัน (ยิงมาหรือบอกทางเฟซว่าให้โทรกลับ)
ในสายตาของจิ และที่ปรึกษา (จริง ๆ บางทีมันเครียดต้องหาที่ระบายบ้าง)
1. ชินมันไม่ได้อยากเลิก แต่เพราะมันต้องการเรียนให้จบ ต้องรีบทำโปรเจค จริง ๆ เพราะมันอยากกลับมา แต่มันกลัวตัวเล็กเป็นเหมือนเดิม
2. ตัวเล็กมันอยากกลับไป พยายามทำทุกวิธี แต่บางวิธีน่ากระทืบก็ตาม ฮ่าๆๆๆ
3. ชินมันสลิด (มันได้ยิน เพราะด่าให้ฟังกันเลย มันบอก อุ้ยป้า ด่าภาษาเหนือเลยเนอะ 555+) อยากกลับแต่ปากแข็ง
หลังจากนั้นตอนเวลาที่คุยกันกับตัวเล็ก มันก็ดูทำใจ และเข้าใจอะไรขึ้น เวลามันพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แง่บวก ป้ามันก็พูดแง่ลบ พอมันพูดแง่ลบ ป้ามันก็พูดแง่บวก มันก็บ่น ก็เลยบอกว่า ไม่อยากให้รู้สึกสุดโต่ง ให้รู้สึกว่า มันอาจจะเกิดได้ทุก ๆ ทาง 555+
จนวันที่ 15 มีนาคม มันก็ถึงจุดแตกหัก ตัวเล็กมันบอกไม่รอแล้ว ประมาณถ้ารอแล้วมันกลับมาบอกเลิกกับเรา เราต้องเสียใจอีกเหรอ เอ่อ จริงของมันนะจิว่า มันบอก ไม่รอแระ 555 (สถานการณ์พลิก เพราะว่าเหมือนไอ้ตัวเล็กกลับเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ชินมันบอกว่า ไม่นะ เราตั้งหากบอกเลิก เหอๆๆ ไม่รู้ตัว) มันก็ซึมไปทั้ง 2 ฝ่าย จริง ๆ ไอ้ตัวเล็กมันกินไม่ได้ตั้งแต่ 29 แล้วล่ะ มีอาการเก็บตัวจนที่บ้านมันผิดสังเกตแล้วโทรกลับมาหามันทั้ง 2 ฝ่าย แม่ตัวเล็กรักชินนะคะ เขาบอกว่า ถ้าไม่ได้เป็นแฟนกัน ก็อาจเป็นพี่น้อง เพื่อนกันได้ ซึ่งจริง ๆ มันคงเป็นในระยะอันใกล้นี้ไม่ได้หรอกค่ะ มันก็ทำใจลำบากนะค่ะ เกือบ 5 ปี ส่วนคนที่ดูว่าจะไม่มีอาการ กลับเหมือนเป็นเยอะ ทำโปรเจคไม่ได้ 555+ มันก็ต้องรู้สึกกันบ้าง
ตอนนี้ตัวเล็กเข้มแข็งมาก ๆ ค่ะ เก่งมากกกกก แต่ชิน จิไม่ค่อยได้โทรไป เพราะโทรไปทีไรคุณเธอนอนหลับตลอด
มีคำพูดจากเพื่อนของจิพูดว่า “ถ้ามันคู่กันมันก็กลับมาคู่กันเองล่ะ “ 555+ คิดเหมือนกันเลย แต่จิเคารพการตัดสินของทั้งคู่ค่ะ เป็นแค่ที่ระบาย ที่ให้คำปรึกษาก็เท่านั้นเองค่ะ ^^
สุดท้ายขอนำคำพูดของพี่ชายที่จิเคารพมาก ๆ คนหนึ่ง พี่เขาพูดไว้อย่างนี้
“ถ้าเรารักใครจริงๆสักคน มันไม่มีคำว่านานหรอก ความรักที่แท้จริงมันไม่เคยตายหรือว่าหายไปไหน คนที่หมดรัก คือคนที่หลงคิดว่าตัวเองรัก แต่คนที่มีความรักเขาจะรู้ว่า ความรักมันไม่มีวันตายมันจะอยู่กับเขาไปจนนิรันดร์”
มาถึงจุดนี้ ก็คงต้องขอปิดเรื่องราวทั้งหมด ไปพร้อมกับความรักของทั้งสองคนเลยนะคะ จิไม่โทษว่าเรื่องนี้ใครผิดใครถูก ใครทำให้เลิกกัน ใครบอกใครเลิกใครก่อน เพราะจริง ๆ โดนด่าทั้งคู่ค่ะ
ขอบคุณที่ตามเรื่องราวของทั้งสองคนมาตลอด
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กับทั้งสองคนเวลาที่มันทะเลาะกัน
ขอบคุณมาก ๆค่ะ ขอบคุณแทนทั้งสองคนนั้นด้วยนะคะ
ปล. สองคนนั้นถ้ามาอ่าน ห้ามโวยวายอะไรทั้งสิ้น เพราะให้ฉันเป็นเขียนเอง ฉันจะเล่าอย่างไงก็ได้