ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0...............................................................................
...............................................................................
ห้ามยังไง...ก็จะรักขอแนะนำตัวก่อนนะครับ (โดนคุณชายบังคับ)
นาย เอกณรินทร์ ชื่อเล่น เอก
วัน เดือน ปี เกิด : 4 เม.ย. 2530
ส่วนสูง : 173 ซม.
น้ำหนัก : 65 กก.
นิสัย : น่ารัก
อาชีพ : นักศึกษา
สไตล์การแต่งตัว : เสื้อเชิร์ต กางยีนส์ หรือ แสลค รองเท้าผ้าใบ รองเท้าคัทชู
แนวเพลงที่ชอบ : ได้ทุกแนวขอให้เพราะเป็นใช้ได้
ภาพยนตร์ที่ชอบ : ดราม่า คอมมันดี้
สีที่ชอบ : ขาว ดำ
สัตว์เลี้ยง : สุนัขพันธุ์ ชิสุ ชื่อ Se’nor
อาหารที่ชอบ : ขนมจีนแกงเขียวหวาน
สิ่งที่เกลียด : เวลาคุณชายหนีเที่ยวกลางคืน
นาย สิทธิพงษ์ ชื่อเล่น ตั้ม
วัน เดือน ปี เกิด : 8 เม.ย. 2530
ส่วนสูง : 175 ซม.
น้ำหนัก : 60 กก.
นิสัย : เอาแต่ใจ ขี้อ้อน หลงตัวเอง ใจร้อน ชอบคิดมาก ไม่ค่อยแคร์คน ขี้ประชด มั่นใจในตัวเองสูง (เขียน 3 วันก็ไม่จบ) แต่ก็รักครอบครัว
อาชีพ : พนักงานบริษัทโฆษณา
สไตล์การแต่งตัว : เสื้อตามแฟนชั่น เค้าจะมีทุกแนว กางเกงยีนส์ ไม่ค่อยชอบใส่แสลค เพราะบ่นว่าเก็บของลับยาก แต่ทียีนส์ขาเดฟละใส่เอาๆ
แนวเพลงที่ชอบ : ทุกแนว โดยเฉพาะอินดี้ จะชอบเป็นพิเศษ วงที่ชื่นชอบมาก คือ Tattoo Colour กับ Mild
ภาพยนตร์ที่ชอบ : ทุกประเภท แต่เน้นที่หนังไทย
สีที่ชอบ : ส้ม เขียวอ่อน ถ้าเป็นสดๆแล้วจะชอบมาก
สัตว์เลี้ยง : สุนัขพันธุ์ ไซบีเรี่ยน ฮัสกี้ ชื่อ Devil กับ พุดเดิ้ล ชื่อ Angle
อาหารที่ชอบ : กาแฟ
สิ่งที่เกลียด : รองเท้ามีกลิ่นอับ (แต่ไม่เคยซักเองเลย)
ที่ผมมาเขียนเรื่องนี้ขึ้น เพื่อให้คนที่ติดตามเรื่องที่คุณชายเขียนอ่านเรื่องนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง แต่เหตุผลหลักจริงๆ ก็คือ ผมพลั้งปากไปรับคำถ้าจากคุณชายเข้า ถ้าไม่เขียนก็กลัวเสียฟอร์ม ผมอาจจะเขียนไม่เก่งเท่าไหร่ แต่ก็พยายามอย่างที่สุดแล้ว มีข้อผิดพลาดประการใดก็ขอติชมกันได้นะครับ
ตอนที่ 1 วันรับน้อง ผมกำลังเดินไปบ้านของนุ่นซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผมไม่ไกลนัก เพราะพ่อผมให้ชวนนุ่นไป รร. พร้อมๆกัน เดี่ยวพ่อจะไปส่ง จริงๆแล้วผมกับนุ่นไม่ได้รู้จักอะไรกันหรอกครับ แค่เห็นหน้าทุกวันแต่ไม่เคยพูดคุยกันซักครั้ง เพราะนุ่นเค้าไปเรียนชั้นประถมใน รร. ที่อยู่ อ.เมือง แต่ผมเรียนอยู่ที่ รร.ใกล้บ้านนี้เอง แต่พ่อแม่เราสองคนรู้จักกันและไปมาหาสู่กันบ่อยๆ
พ่อใช่เวลาขับรถประมาณชั่วโมงกว่าๆก็มาถึง ผมบอกให้พ่อจอดรถหน้า รร. เดี่ยวจะเดินเข้าไปเอง พ่อจะได้ไม่ต้องหาที่เลี้ยวรถให้ยุ่งยาก เมื่อเดินเข้าไปใน รร. เราสองคนก็มุ่งตรงไปยังบอร์ดประกาศ เพื่อจะดูว่าอยู่ห้องไหน แต่เหมือนกับสวรรค์เป็นใจให้ผมและนุ่นอยู่ห้องเดียวกัน เพราะผมเป็นคนเดียวของ รร. เก่า ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้ เลยทำให้ผมไม่มีเพื่อนซักครั้ง แต่ก็ยังดีที่ได้อนยยู่ห้องเดียวกันกับนุ่น
เมื่อรู้ว่าอยู่ห้องไหนแล้ว เราสองคนก็เดินตรงไปยังห้องประชุมทันที เพราะใกล้จะได้เวลาเริ่มประชุมแล้ว การปรพชุมจะมีเฉพาะช่วงเช้า แล้วรุ่นพี่เค้าจะปล่อยให้พักรับประทานอาหารกลางวัน และจะแยกตามห้องเรียนเพื่อจะเข้าฐานรับน้อง ผมกับนุ่นเราเลยเดินไปรอที่เพื่อนๆคนอื่นที่ฐาน 14 เพราะห้องผมจะเริ่มฐานแรกที่ฐานนี้ เราสองคนก็นั่งคุยกันได้สักพัก คนอื่นๆก็ทยอยกันมาที่ฐานที่ละคนสองคนจนครบ จากนั้นรุ่นพี่ก็แนะนำตัวและฐานนี้ต้องทำอะไรบ้าง
“เอาละครับน้องๆ ฐานนี้มันจะเป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรม พี่จะให้น้องจับคู่กันแล้วถามรายละเอียดคนข้างๆ แล้วเดียวพี่จุซุ่มจับมา 5 คู่ ถ้าคู่ไหนตอบผิดจะโดนลงโทษ “ เมื่อพี่เค้าพูดจบผมก็หันไปห่นุ่นทันที แต่พบว่านุ่นมันกันไปจับคู่กับเพื่อนมันอยู่แล้ว ผมหันมาอีกด้านหนึ่งก็พบผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาออกแนวกวนตีน แต่มันก็ดูดีเหมาะกับตีนมาก ผมเห็นเค้าหันซ้ายทีขวาที แต่ไม่ได้สนใจผม ผมเลยตัดสินใจถามออกไปเลย
“นายชื่ออะไร”
“...................” เค้าไม่ตอบกลับมา มัวแต่หันซ้านแลขวาอะไรไม่รู้
“นาย เราถามว่าชื่ออะไร” ผมเพิ่มเสียงให้มันดังกว่าเมื่อกี้ แต่เหมือนจะไม่ได้ผล เพราะไอบ้านั้นยังเงียบอยู่
“เห้ย นาย เราถามว่าชื่อไร” คราวนี้ผมตะโกนใส่หน้าไอบ้านั้น ซึ่งก็ได้ผล เพราะมันชะงัก แล้วหันมาพูดว่า
“เฮ้ย ไรว่ะ หาเรื่องหรือไง” เสียงของมันที่ตอบกลับมานั้นดังจนทำให้ทุกคนหันมามอง ผมเห็นหน้ามันแล้ว น่ากลัวมาก ผมเลยตอบกลับไปแบบจ่อยๆ
“เออ..เออ....เราขอโทษ พอดีพี่เค้าให้ถามประวัติคนใกล้ๆนะ เราเลยถามนาย เดี่ยวพี่เค้าจะซุ้ม เลือกคน แล้วจะถาม ใครตอบคำถามผิด โดนทำโทษ”
“เออ แล้วก็ไม่บอก” เสียงมันเบาลง ผมเลยตัดสินใจถามมันใหม่
“นายชื่ออไร”
“เราชื่อโต้ง”
ผมกับนายคนนั้นนั่งพลัดกันถามอยู่หลายเรื่องมาก เมื่อถามกันเสร็จแล้ว ผมก็เลยเดินมาดูประวัติของนายคนนั้นที่อยู่ในเป้ของผม เพราะเมื่อกี้ในห้องประชุม ผมเป็นคนเก็บรวบรวมแบบฟอร์มประวัติของนักเรียน เลยทำให้ผมรูว่าที่ไอบ้านั้นมันบอกผมล้วนแต่เป็นข้อมูลเท็จทั้งนั้น ผมไม่ได้โกรธเขาหรอกครับ แต่สงสัยมากกว่าว่าเขาทำแบบนั้นไปทำไม ทำไปเพื่ออะไร
รุ่นพี่ได้ซุ่มเลือกที่ละคู่ จนผ่านไปทั้ง 4 คู่แล้วจนมาถึงคู่สุดท้าย พี่เขาเลือกผม ผมก็เลยต้องลุกขึ้น โดยมีไอบ้ามันลุกขึ้นตาม หน้าตาตอนนี้ของมันดูไม่ได้เลย ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ เหมือนมันไม่มีอารมณ์ร่วมยังไงยังงั้น แล้วพี่เขาก็เริ่มคำถามไอบ้าก่อน มันก็ตอบถูกหมดแหละครับ จากนั้นพี่เขาก็หันมาถามผมบ้าง
“เอ้า แล้วเพื่อน้องชื่อเล่นว่าไร” ผมได้ยินคำถาม ก็ส่งยิ้มกวนๆไปให้มันจึกนึง แล้วตอบไปว่า
“เค้า ชื่อ ตั้ม ครับ”
“เห้ย” ไอบ้าอุทาน ออกไปดังมากครับ มันคงสงสัยว่าผมรู้ได้อย่างไร
“เรา ได้ยินสาวๆ เค้าคุยกันนะ” ผมกระซิบบอกมัน แล้วส่งยิ้มให้มันอีกครั้ง ซึ่งคำถามต่อมาผมก็ตอบได้หมด จนมาถึงคำถามสุดท้าย
“Kมันขนาดเท่าไรว่ะ” เมื่อสิ้นสุดคำถาม ผมถึงกับอึ้ง มองหน้าไอบ้าทันที แล้วเสียงกรี๊ด เสียงหัวเราะ ของเด็กทั้งห้องก็ดังขึ้นมาทันที
“......” ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไร แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมก้มลงไปมองเป้ามัน สรุปผมกับไอบ้าก็โดนทำโทษ เพราะผมตอบผิด พอกลับมาที่นั่ง มันก็โวยวายผมใหญ่
“มึงตอบแบบนังได้ไงว่ะ”
“แบบไหน”
“ก็ที่มึงตอบว่า ของกู 2 นิ้ว ตอบมาได้ไง ใช่อะไรคิดว่ะ”
มันบ่นอยู่อย่างนั้น ตลอดเวลา จนกิจกรรมรับน้องเสร็จ พี่ๆก็ปล่อยให้กลับบ้าน ผมเดินตามหานุ่น เพราะว่าจะได้กลับบ้านด้วยกัน แต่หายังไงก็ไม่เจอ ผมเลยเดินออกมาหน้า รร.เพื่อจะกลับบ้าน แต่เจอตั้มกำลังจะเดินออกจาก รร.พอดี ผมเลยเข้าไปทัก เผื่อว่าจะกลับทางเดียวกีน
“นายกลับทางไหน” ผมเดินไปหาตั้ม แล้วถามว่า
“ทำไม” เสียงมันจะห้วนๆ แข็งๆ สงสัยยังไม่หายโกรธผม
“ป่าว ถ้ากลับทางเดียวกัน จะได้กลับพร้อมกัน”
“เรากลับไปทางในเมืองอ่ะ อ๊ะ รถมาแล้ว” รถที่จะไปในเมืองผ่านมาพอดี
“เราไปคนละทางกัน งั้นนายไปเหอะ”
“เออ ไปละ”
“เออ เดี๊ยว ขอเบอร์โทรได้ป่ะ” มันกำลังจะวิ่งไป แต่ผมอยากได้เบอร์โทรติดต่อ เลยขอมัน
“07X-XXXXXX ไปละ”
“แล้ว ว่างๆ จะโทรไป เราไปก่อนนะ แล้ววันจันทร์ เจอกัน” เมื่อพูดจบ ผมก็เดินข้ามถนนไปขึ้นรถฝั่งตกข้ามทันที ตลอดทางผมก็นั่งดูเบอร์โทรที่ตั้มให้มา แล้วนั่งยิ้มคนเดียว ผมเริ่มสงสัยตัวเองว่า ทำไมผมถึงต้องมานั่งยิ้มคนเดียวกับแค่การนั่งมองเบอร์โทรศัพท์
วันนี้มันเป็นวันแรกที่ผมกับตั้มเจอกัน เพราะก่อนหน้านี้ ตอนที่เรียนปรับพื้นฐานผมไม่เคยเจอตั้มมาก่อน เคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ จะว่าไปตั้มมันก็หน้าตาธรรมดานะ ไม่ได้หล่ออะไรหรอก แต่ด้วยความที่มันเป็นคนคุยด้วยสนุก อัธยาศัยดี มีมนุษยสัมพันธ์รอบตัว เลยทำให้มีคนที่ออยากจะเข้าหาเยอะ คุณเคยเจอคนแบบนี้ไม่ครับ คนที่เราพบครั้งแรกแล้วรู้สึกว่า เขามีแรงดึงดูดอะไรบ้างอย่างที่ทำให้เราอยากรู้จักคนๆนั้นจัง นั้นแหละครับ คุณชายของผมเป็นแบบนั้นเลย อันนี้ไม่ใช่ความคิดผมคนเดียวนะครับ ใครหลายๆคนที่ผมรู้จักก็บอกกับผมแบบนั้นเหมือนกัน
My Diary : วันนี้ผมเจอคนๆ นึง เขาเป็นคนที่แปลก แต่เป็นคนดี อยากรู้จักคนๆนี้จัง
.................................................................
.................................................................
เพิ่งจะเขียนเป็นครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
ขอบคุณคุณชายที่ช่วยสอน แต่ขอถามหน่อย ช้าไปป่ะ
รักนะ ตี๋ใหญ่