]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1735384 ครั้ง)

Fill

  • บุคคลทั่วไป

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป

keang

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงนัทแล้วนะ

นนท์จะอาบน้ำกับโจแล้ว

นัทรีบกลับมาเร็ว :m5:

ออฟไลน์ keem

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คนแต่ง แต่งให้นัท ได้กับผมทีซิ อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

son_paryfar

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ อ่านทันซะที เยอะมากมายกว่าจะทันตั้งอาทิตย์นึงแหนะ     ไงก็ทักทายพี่ๆทุกคนค๊าบบบบ  o22 o22 o22

PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวววววว..ลุ้นคร้า

ออฟไลน์ woodong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
หรือว่าวันนี้ไม่ใช่วันพุธ สงสัยเราจำวันผิด

toomztamz

  • บุคคลทั่วไป
วันพุธ กระดุ๊กกระดิ๊ก

มาต่อไวไวเน้ออออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอโทษครับ ฝนตก เน็ตพังทุกวันเลย เซ็งมากๆๆๆ ตอนนี้เลยต้องมาบ้านเพื่อนเพื่อลงนิยายเลยนะเนี่ย

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
b52


คริส


ทุกอย่างไม่ได้กำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ผมเองต่างหาก ที่กำลังเริ่มปรับตัวได้และรู้สึกดีขึ้นกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิต.....

นับตั้งแต่วันที่ผมถูกพ่อไล่ออกจากบ้านมา ชีวิตของผมก็เหมือนตกอยู่ในขุมนรก ผมจมอยู่กับความเศร้า รู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวเองมากที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ถึงแม้ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด ผมก็ยังได้พบกับคนที่ดีที่สุดในชีวิตของผมอีกหลายคนที่พร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผมเอาไว้ วายุและเพื่อนๆทุกคนไม่เคยทิ้งให้ผมต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว อาไคล์กับอาพีก็เสนอที่พักพิงที่ซุกหัวนอนให้ พร้อมทั้งยังดูแลผมอีกมากมาย แฟรงค์และปู่กับย่าก็โทรมาหาผมบ่อยขึ้นเพื่อถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้างและคอยให้คำปรึกษาแก่ผมมาตลอด พวกเขาเหล่านี้ช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวเดินต่อไปได้ แม้ว่าแท้จริงแล้วในใจของผมจะยังคงมีบาดแผลฝังลึกอยู่ แต่ผมก็เรียนรู้ที่จะเคยชินกับมัน และค่อยๆก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เพราะว่าผมไม่อยากที่จะทำให้พวกเขาต้องเสียใจ และไม่อยากที่จะทำลายความหวังดีและความห่วงใยที่พวกเขามีให้แก่ผม

แต่ถ้าหากว่าผมสามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้สักนิดล่ะก็.....

“มึงจะแก้ไขอะไรวะ ไอ้คริส” วายุถามผมกลับหลังจากที่ผมพูดประโยคนั้นออกไปในคืนหนึ่ง

“กูก็คงกลับไปแก้ไขไม่ทำให้พ่อแม่ของกูต้องเสียใจล่ะมั้ง....”

“แล้วมึงจะแก้ไขยังไง มึงจะแก้อะไร แก้โดยไม่เข้าไปเว็บไซท์นั้นเหรอ หรือแก้โดยไม่เปิดคอมทิ้งไว้ แต่นั่นมันก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเลยนะเว้ย ก็แค่ยืดเวลาออกไปอีกหน่อยเท่านั้นเอง หรือมึงจะบอกว่ามึงจะแก้ไขที่ตัวมึงชอบผู้ชาย ซึ่งก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่” เขาพูดอย่างหงุดหงิด “มึงเป็นคนฉลาดนะเว้ย ไอ้คริส ฉลาดมาก ฉลาดกว่ากูไม่รู้กี่เท่า เพราะงั้นมึงอย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้แบบนั้นเลย เลิกคิดแบบนั้นได้แล้ว”

“อืมมม.... กูขอโทษว่ะ ที่มึงพูดมันก็จริงเหมือนกัน กูคงคิดมากเกินไป”

“ไม่ใช่แค่ ‘คง’ หรอก มึงน่ะมันชอบคิดมากเกินไปอยู่ตลอดแหละ ไอ้คริสเอ๊ยยย ตอนนี้อะไรๆมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว มึงไม่ต้องไปคิดมากแล้วเว้ย เดี๋ยวสักวันพ่อแม่มึงเค้าก็จะเข้าใจได้เองนั่นแหละ หรือถ้าไม่ มึงก็ยังมีกู ยังมีพวกกู พวกอาไคล์ ปะป๊า พ่อเล็ก แล้วก็พ่อแม่กูอีกนี่หว่า”

ผมฝืนยิ้มตอบกลับไปให้กับเขา ผมรู้ว่าพวกเขาทุกคนดีกับผมมาก แต่เขาเองก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าถึงแม้พ่อกับแม่ของผมจะโกรธและเกลียดผมมากแค่ไหน ผมก็ยังคงอยากกลับไปเป็นลูกที่ดีคนเดิมของพวกเขา อยากกลับไปอยู่บ้านหลังเดียวกับพวกเขาอยู่ดี ผมหวังอยู่ตลอดเวลาว่าสักวันพวกเราสามคนพ่อแม่ลูกจะกลับไปมีความสุขร่วมกันแบบเดิมได้อีกครั้ง

“คิดแบบนี้ดิวะ ไอ้คริส ก่อนหน้านี้มึงก็เครียดๆเรื่องที่บ้านมาหลายหน พ่อแม่มึงเค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจมึงอยู่แล้ว เพราะงั้นตอนนี้มึงก็ไม่ต้องไปคิดมากเรื่องพวกนั้นแล้วไง อยู่ที่นี่ทำใจให้สบายๆเถอะเว้ย เรื่องเก่าๆก็ช่างแม่ง สนใจแต่เรื่องใหม่ๆดีกว่า แบบนี้ดีมะ” เขาตบบ่าผมเบาๆ

“เมื่อก่อนนี้กูบ่นเรื่องพ่อกับแม่มากขนาดนั้นเลยเหรอวะ....”

ยุดูอึ้งไปทันที “อะ... เอ่ออ..... ก็.....”

“แต่กูก็รักพ่อกับแม่นะเว้ย มึงรู้ใช่มั้ย”

“กูรู้ๆ กูขอโทษที ไอ้คริส กูพูดไปไม่ทันได้คิดว่ะ”

“ที่ผานมากูโทษตัวเองมาตลอดเลยนะเว้ย เพราะทุกๆเรื่องมันก็ความผิดกูเองจริงๆนั่นแหละ ที่ทำไม่ได้อย่างที่พวกเค้าหวังเอาไว้น่ะ กูเกิดมาพิเศษกว่าเด็กคนอื่น พ่อกับแม่ก็ย่อมต้องคาดหวังจากกูมากเป็นธรรมดา แต่กูก็ยังคงเอาแต่ใจ อยากนั่นอยากนี่ จนสุดท้าย.....”

“พอแล้ว! ไอ้คริส! พอได้แล้วเว้ย มึงจะกลับไปทำร้ายตัวเองด้วยความคิดแบบนั้นอีกแล้วเหรอวะ กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนั้นนะเว้ย กูบอกมึงไปกี่ครั้งแล้วว่า ไม่ใช่ว่ามึงไม่ดีพอสำหรับใคร มึงเป็นคนเก่ง มึงเป็นคนจิตใจดี มึงมีค่ามากพอสำหรับทุกคนที่รักมึงนั่นแหละ แต่ถ้าใครที่เค้ายอมรับมึงไม่ได้ คิดว่ามึงทำได้ไม่เท่าที่เค้าคาดหวัง นั่นมันก็เป็นปัญหาของคนพวกนั้นเองแล้ว”

ผมรู้ว่าเขากำลังหมายถึงใคร และผมก็รู้ด้วยเหมือนกันว่าที่จริงแล้วเขาอาจจะพูดถูกก็ได้ ที่บอกว่าก่อนหน้านี้ผมเองก็ใช่ว่าจะมีความสุขกับพ่อแม่อย่างที่ผมเข้าใจไปเองขนาดนั้น เพราะถ้าหากเปรียบเทียบครอบครัวของเราสองคนแล้ว ผมคิดว่า คำว่า “ครอบครัวแสนสุข” นั้นก็แลดูจะเป็นคำพูดที่ค่อนข้างเกินจริงไปเสียหน่อย

ผมย้อนถามตัวเองว่า หรือว่าที่จริงแล้วผมควรจะตัดใจจากพ่อและแม่ไปเลยดี เลิกมองอดีตและอยู่กับคนที่เขาพร้อมจะดูแลผมและยอมรับสิ่งที่ผมเป็นได้จริงอย่างพวกอาไคล์และครอบครัวของยุคนอื่นๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ยากเหลือเกิน และผมก็ทำใจยอมรับมันได้ยากด้วย ในเมื่อผมคือสายเลือดแท้ๆของพ่อและแม่ แต่ทำไมพวกเขาถึงจะไม่ใยดีผมได้ขนาดนั้น แล้วในอนาคตอีกล่ะ ในอีกหนึ่งปี สามปี หรือห้าปี พวกอาไคล์ยังจะรับผมเป็นภาระได้อยู่อีกหรือ และถ้าเกิดว่าจู่ๆพ่อกับแม่ตัดสินใจเลิกส่งเสียผม เลิกส่งเงินค่าใช้จ่ายส่วนของผมมาให้เหมือนที่ทำอยู่ทุกวันนี้ แล้วพวกอาไคล์จะยังยอมรับผมได้อีกมั้ย พวกเขาจะยอมดูแลผมถึงขั้นส่งเสียผมจนเรียนจบมหาวิทยาลัยเลยอย่างนั้นเหรอ

เรื่องเหล่านี้คือสิ่งที่ผมคิดและกังวลอยู่ในใจมาตลอด ซึ่งคนเพียงคนเดียวที่ผมกล้าที่จะเล่าให้เขาฟังก็คือแฟรงค์ พี่ชายของผมนั่นเอง

“มาที่นี่เถอะ คริส” แฟรงค์พูดกับผมผ่านโปรแกรมสไกป์ และเขาก็พูดแบบนี้มาเป็นสิบครั้งแล้วด้วยเหมือนกัน “มาเรียนเทียบต่อที่นี่ อยู่ที่นี่ แล้วลืมเรื่องพ่อกับแม่ไปให้หมดซะ ฉันทำได้มาแล้ว นายก็ต้องทำได้เหมือนกันสิ”

“แต่ฉันไม่ใช่นาย แฟรงค์ ฉันไม่เข้มแข็งขนาดนั้น ฉันทำแบบนั้นไม่ได้”

“นายเอาแต่พูดว่านายทำไม่ได้ แต่นายยังไม่ได้ทำอะไรเลยต่างหาก”

“ไม่ใช่แบบนั้น แต่ฉันมีเพื่อนๆอยู่ที่นี่ มีครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้น..... การที่จะทำแบบที่นายบอก มันไม่ง่ายเลยนะ แฟรงค์ ไม่ง่ายเลยจริงๆ นายต้องเข้าใจฉันบ้างสิ”

“ก็ได้.... แต่ลองคิดดูให้ดีๆก็แล้วกัน คริส ถ้านายมาที่นี่ ฉันจะดูแลนายเอง ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน แล้วไหนยังจะมีปู่กับย่าอีก แถมด้วยสมองระดับนาย มาสอบเทียบที่นี่แล้วเรียนมัธยมปลายอีกปีเดียวก็จบได้แล้ว หรือเผลอๆอาจไม่ต้องเรียนเลยด้วยซ้ำ เข้ามหาวิทยาลัย ใช้เวลาอีกไม่กี่ปี นายก็เป็นอิสระได้แล้วนะเว้ย”

ผมเงียบไปพักหนึ่ง “.....ก็ได้ แล้วฉันจะลองคิดดู ถ้าหากว่าวันใดวันหนึ่งพ่อกับแม่ไม่ต้องการฉันแล้วจริงๆล่ะก็ ฉันอาจจะไปจริงๆก็ได้”

“แล้วนายจะต้องมาแน่ ฉันจะรอนายนะ ไอ้น้องรัก”

ตอนนั้นผมก็ไม่คิดหรอกว่าท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ผมพูดเอาไว้จะกลายเป็นจริง และวันที่ผมจะต้องตัดสินใจว่าจะไปอังกฤษดีหรือไม่ จะมาถึงเร็วขนาดนี้ แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง หลังจากที่ผมกลับมาถึงคอนโดจากการไปกินข้าวกลางวันและไปคุยกับพ่อกับแม่ของยุเรื่องที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันมา ผมก็พบกับแขกที่คาดไม่ถึงที่กำลังนั่งอยู่กับอาพีและอาไคล์ในห้องนั่งเล่น

“แม่!”

“มานั่งก่อนสิ คริส.....” อาไคล์เรียกผม “อากำลังคิดว่าถ้าเรายังไม่กลับมา อาก็จะโทรไปตามอยู่พอดี”

“แม่มาทำอะไรที่นี่ครับ แล้ว.... แล้วแม่มาที่นี่ได้ยังไง” ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม หัวใจของผมเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ ผมคิดว่าผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวออกไปจากตำแหน่งที่ยืนอยู่แม้แต่นิดเดียวด้วยซ้ำ ความทรงจำในคืนสุดท้ายที่ผมเจอหน้าแม่กับพ่อเริ่มย้อนวนกลับเข้ามาในหัวของผม และมันก็ทำให้ร่างกายของผมต้องสั่นเทา

น้ำตาของผมกำลังจะไหลออกมา....

“คริส.....” อาพีลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงเข้ามาโอบไหล่ของผมเอาไว้ “มาครับ เรามีเรื่องสำคัญต้องคุยกัน แม่ของเราเค้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากจะคุยนะครับ”

ผมหันไปมองอาพีด้วยความหวาดหวั่น และอาพีเองก็คงมองเห็นความหวาดกลัวที่ฉายอยู่ในแววตาของผมได้อย่างชัดเจน เพราะเขาบีบหัวไหล่ของผมเบาๆ แล้วจึงโน้มตัวลงมากระซิบที่หูของผม

“ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ....”

ผมหันกลับไปมองแม่ที่ยังคงนั่งตัวตรงอยู่บนโซฟารับแขกเหมือนเดิม แม่ไม่ได้แสดงสีหน้าความรู้สึกใดๆออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

“สุดท้ายแล้ว คนที่ต้องตัดสินใจก็คือคริสสินะครับ” อาไคล์พูดขึ้นหลังจากที่ผมนั่งลงแล้ว “แต่ถ้าถามความเห็นของผมสองคน เราคิดว่าคริสยังเด็กเกินไปที่จะต้องแบกรับภาระและการตัดสินใจแบบนี้นะครับ คุณเองในฐานะของคนเป็นแม่ น่าจะเป็นคนที่เข้าใจลูกของคุณมากที่สุด และเป็นคนที่อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก ไม่ใช่เหรอครับ”

“ขอโทษนะคะ ดิฉันได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกของดิฉันเสมอมา แต่ถ้าผลตอบแทนที่ได้กลับมาคือแบบนี้ นี่ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วที่ควรจะทำ”

“ผลตอบแทนอย่างนั้นเหรอครับ” อาพีพูดขึ้นบ้าง “คุณกำลังจะบอกผมว่าคุณ ‘หวังสิ่งตอบแทน’ จากลูกของคุณอย่างนั้นเหรอ”

“คุณสองคนไม่มีลูก แล้วก็ยังเด็กอยู่ พวกคุณไม่เข้าใจหรอกค่ะ”

“มันก็อาจจะจริงที่พวกผมไม่มีลูก แต่พวกผมก็มีพ่อและแม่เหมือนกันนะครับ” อาพีตอบ “ผมเข้าใจฐานะของคนเป็นลูกดี แล้วก็เข้าใจด้วยว่าพ่อและแม่คาดหวังอะไรจากลูก แต่มันไม่ใช่ ‘สิ่งตอบแทน’ อย่างที่คุณกำลังพูดถึงนี่ครับ”

“ขอโทษค่ะ แต่ดิฉันเข้าใจว่ามันคือสิ่งเดียวกัน” แม่ของผมตอบอย่างเย็นชา ดวงตาจ้องเขม็งไปที่อาพี “แต่น่าแปลกนะคะที่คุณบอกว่าคุณรู้ว่าพ่อแม่ต้องการอะไร ในขณะที่ตัวคุณเองกลับตอบรับความต้องการของพ่อและแม่ไม่ได้ จนต้องละเลยท่านมาเป็นเวลาหลายปี.....”

อาพีจ้องมองแม่ของผมราวกับตนเองเพิ่งถูกตบเข้าที่ใบหน้า

“คุณไปรู้เรื่องนั้นมาจากไหน” อาไคล์ขัดขึ้น

“มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอคะ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ จะต้องอยากรู้ว่าลูกชายของตัวเองไปพักอาศัยอยู่กับคนแบบไหน มีประวัติอย่างไร และดูเหมือนว่า.... การตัดสินใจของดิฉันจะไม่ผิดพลาดนะคะ” แม่พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

ผมงงไปหมดแล้วว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

“ดิฉันคิดถูกแล้วและคิดมาดีแล้วสำหรับข้อเสนอและทางออกที่ดิฉันบอกพวกคุณออกไป นี่แหละค่ะ คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพวกเรา” แม่หันมามองหน้าผม และพูดกับผมเป็นครั้งแรก “คริส อยากจะกลับบ้านรึเปล่า”

ผมไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลย!

“ยะ.... อยากสิครับ แม่”

“ถ้าอย่างนั้นก็เก็บของ แล้วเตรียมตัวไปจากที่นี่วันนี้เลย ตอนเย็นแม่จะมารับ”

ผมหันไปมองหน้าของอาพีกับอาไคล์ด้วยความงุนงง จากนั้นก็หันกลับมามองหน้าของแม่อีกครั้ง “แต่...... แต่ว่า......”

“ไม่มีคำว่าแต่ ลูกเอาแต่ใจตัวเองมามากแล้วนะ เราโตแล้วนะคริส แม่จำไม่ได้ว่าเคยสอนลูกให้คิดและทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจแบบนั้นนะ ถ้าอยากจะกลับบ้าน ก็ไปเตรียมตัวเก็บของออกจากที่นี่ นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้ว”

“เดี๋ยวก่อนครับ” อาไคล์แย้ง “คริสควรจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่คุณ”

“แต่คริสเองก็พูดออกมาแล้วไงว่าอยากจะกลับบ้าน คุณจะมาขัดขวางอะไรอีก” แม่สวนกลับ

“ผมไม่ได้จะขัดขวางอะไรทั้งนั้นแหละครับ แต่คุณเองก็ยังบอกคริสไม่หมดนี่ ว่าถ้าหากคริสกลับบ้านแล้ว คริสจะต้อง....” อาไคล์หันมามองผมด้วยแววตาที่แลดูเศร้าสร้อย

“ผมจะต้อง..... ผมจะต้องอะไรครับ แม่” ผมรีบถามขึ้นทันที

“แม่ผิดเอง ที่คิดว่าให้คริสมาเรียนโรงเรียนแห่งนี้แล้วจะทำให้เราได้เจอสังคมดีๆ เพื่อนดีๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ ลูกเหลวไหลขึ้น ดื้อกับพ่อและแม่ ไม่ยอมพาสชั้นไปเรียนมัธยมปลายเพราะติดเพื่อน และเห็นได้ชัดว่ายังเอาพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาจากเพื่อนที่โรงเรียนอีก ดังนั้น.....”

“พอที” อาพีพูดขัดขึ้น “พอทีเถอะครับ คุณไม่ต้องพูดอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว เลิกโทษคนอื่นสักทีเถอะ ถ้าคุณไม่คิดที่จะเข้าใจอะไรเลย คุณก็แค่บอกเด็กไปเลยครับ ว่าคุณจะให้คริสย้ายโรงเรียนและเลิกติดต่อกับเพื่อนๆ รวมทั้งพวกผมทั้งหมดด้วย”

ผมตาโตทันที “ไม่เอานะครับ! แบบนั้นผมไม่เอานะ! ผมไม่ยอมนะฮะ แม่!”

“ไหนคริสบอกว่าคริสอยากจะกลับบ้านไง! คริสไม่รักพ่อกับแม่เลยใช่มั้ย คริสเห็นเพื่อนๆดีกว่าพ่อกับแม่อย่างนั้นเหรอ!”

“ไม่ใช่นะครับ! ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะฮะ!”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเก็บของแล้วรีบไปจากที่นี่ได้แล้ว!” แม่ออกคำสั่ง

“หรือถ้าคริสไม่อยากไป คริสจะอยู่ที่นี่ก็ได้” อาพียกแขนขึ้นโอบบ่าของผมเอาไว้ราวกับกลัวว่าผมจะลุกออกจากโซฟาไปจริงๆ “ใช่มั้ยครับ คุณบอกพวกเราเมื่อกี้เองนี่”

“ใช่” แม่เม้มปากแน่น ก่อนจะเริ่มพูดต่อ “แต่ถ้าคริส ‘เลือก’ คนพวกนี้ เลือกที่จะอยู่ที่นี่..... เราสองคนก็ไม่ต้องเรียกกันว่าแม่กับลูกอีก พ่อกับแม่จะเลิกส่งเสียคริสและไม่ให้เงินคริสอย่างที่เคยให้มาอีกต่อไป”

ผมรู้สึกราวกับถูกสาดฟ้าฟาดลงบนกลางอก ความเจ็บปวดจากข้างในหน้าอกข้างซ้ายก่อตัวขึ้นและเริ่มผลักดันให้น้ำตาของผมไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างช้าๆ

“คริสจะไปเป็นลูกบุญธรรมอะไรของใครที่ไหนก็ได้ เราจะดูกันว่าเราจะทำอะไรทางกฎหมายได้บ้าง หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรเลย แล้วเรามาคอยดูกันซิว่า ‘คนอื่น’ มันจะรักเราได้เท่ากับคนเป็นพ่อเป็นแม่รึเปล่า”

“แม่ฮะ..... ฮือออ.... ทำไมแม่พูดแบบนั้นล่ะฮะ! ฮืออๆๆ” ผมร้องไห้ “ฮึกก.... แม่ไม่รักผมแล้วจริงๆเหรออ.... แม่ไม่รักผมแล้วจริงๆใช่มั้ยยย!”

“ขอตัวก่อนนะคะ ดิฉันคงหมดธุระที่นี่แล้ว” แม่พูดพร้อมกับยืนขึ้น

“เดี๋ยวครับ คุณยัง.....” อาพีรีบพูดขึ้น

“รบกวนฝากที่เหลือด้วยนะคะ” แม่พูดขัด “ถ้าหากว่าเด็กคนนั้นตัดสินใจอย่างไร ก็รบกวนช่วยโทรมาแจ้งด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

“ผมไม่ไปส่งนะครับ” อาไคล์พูดพร้อมกับเดินอ้อมโซฟามานั่งลงข้างๆผม

ผมมองแม่เดินออกจากคอนโดไปด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย ทำไม....!!

“คริส อย่าเพิ่งร้องนะครับ เรายังมีทางออกอยู่อีกทางนึงนะ” อาไคล์บอกผม

“ใช่ และอาว่าการที่จู่ๆแม่เค้ารีบกลับไปแบบนั้น ก็คงเพราะเค้าทนเห็นเราร้องไห้ไม่ได้นั่นแหละครับ อย่าเพิ่งโกรธแม่หรือน้อยใจว่าแม่ไม่รักเราแล้วเลยนะครับ” อาพีดึงตัวของผมเข้าไปกอด

“ฮึกก..ก.. ฮึกก..... ท.... ทางเลือกอะไรอีกทางเหรอครับ” ผมพูดด้วยเสียงที่แตกพร่า

“ที่จริงอาเองก็ไม่ได้ชอบความคิดนี้หรอกนะครับ แต่อาคิดว่ามันก็อาจจะดีที่สุดสำหรับคริสแล้วจริงๆก็ได้”

“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คริสก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองนะครับ” อาไคล์พูดเสริม

“อะไรเหรอครับ” ผมพยายามกลั้นน้ำตา

“แม่เค้าบอกว่าให้คริสไปอยู่ที่อังกฤษกับปู่แล้วก็ย่าน่ะครับ ไปเรียนที่นั่นให้จบ แล้วหลังจากนั้นจะกลับมาทำงานที่ไทยหรือจะอยู่ที่นั่นเลยก็แล้วแต่ ถ้าแบบนั้นเขาจะยังออกค่าเรียนและส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ แต่พอหลังจากเรียนจบมีงานทำแล้ว คริสยังอยากจะกลับบ้านหรืออยากจะอยู่ตัวคนเดียว ก็เป็นการตัดสินใจของตัวเอง”

“ผมว่าที่จริงแล้วเค้าคงอยากจะให้ปู่กับย่าช่วยกล่อมคริสให้ ‘หาย’ จากการเป็นเกย์มากกว่านะ ไคล์”

“แต่ปู่กับย่าเค้าก็ดูรับเรื่องนี้ได้อยู่นะ อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมคิดว่าเค้าคงจะแค่อยากให้คริสอยู่ห่างจากเพื่อนๆ ห่างจากพวกเรามากกว่าน่ะ แล้วจากนั้นค่อยไป ‘รักษา’ เรื่องเป็นเกย์เอาภายภาคหน้า” อาไคล์พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เชื่อผมเถอะ แค่ผมฟังน้ำเสียงและสิ่งที่เขาพูดตอนแรกๆ ผมก็ดูออกเลย”

“ผมขอตัวก่อนนะครับ อาพี อาไคล์.....” ผมลุกขึ้นยืน

“คริส....”

“ไม่เป็นไรครับ อาพี ผมจะพยายามไม่คิดมากแล้วล่ะครับ ขอบคุณมากนะครับ” ผมพูดก่อนจะรีบเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป

แต่ทว่าถึงผมจะบอกอาพีไปอย่างนั้น หลังจากที่ผมปิดประตูห้องลงแล้ว ผมก็เดินไปทรุดตัวลงบนเตียงแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้งโดยที่ห้ามตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ การตัดสินใจครั้งนี้ของผมจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในอนาคตของผมไปอย่างสิ้นเชิง และไม่ว่าผมจะเลือกเดินไปทางไหน สุดท้ายแล้วผมก็ต้องบอกลาคนที่ผมรักไม่คนใดก็คนหนึ่งไปอยู่ดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 19:40:52 โดย ExecutioneR »

keang

  • บุคคลทั่วไป
^
 l
 l
คนแรก
จิ้มคนแต่ง
 :z13:

beboy

  • บุคคลทั่วไป
คริสน่าสงสารจังเลย

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
สิ่งที่เป็นอยู่นี่ ไม่ใช่โรคระบาด หรือโรคติดต่อนะ
จะได้รักษาให้หายได้
แต่ว่าไปลอนดอนก็ดี อิอิ

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
สงสารคริสแท้หนอ
ความคาดหวังของพ่อแม่บางทีมันก็ทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัวนะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ wisky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-18
โธ่คริสชีวิตมันจะเศร้าไปไหนนักหนา..b51แมท-เคนไม่ใช่เหรอแล้วคริสทำไมb51เหมือนกันล่ะ55+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 17:52:17 โดย wisky »

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทำไมต้องกดดันกันขนาดนั้นด้วย สงสารคริส ยังเด็กอยู่แท้ ๆ

kihaezzzzzz

  • บุคคลทั่วไป
ไปอังกฤษดีกว่าคริส เเล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ต้องสนใจอะไรอีกเเล้วเเหล่ะ

รีบมาต่อนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
อ้าว ชื่อตอนผิดอีกแล้วเหรอครับ ขออำภัย -__-"

tarotman

  • บุคคลทั่วไป
....ไร้คำบรรยาย....
ดีแล้ว ที่เรา เก็บ มันเอาไว้ จนกระทั่ง เรา สามารถ อยู่กับมันได้ในสังคม

golfgab

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าเนอะ บางที ชีวิต เรา ก็ขึ้นอยู่กับคนหลายคน เป็นกำลังใจให้คริสนะ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
คนที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ก็คือคนที่บังคับให้คนอื่นทำตามใจตัวเองมากๆนั่นเอง ใช่ป่ะ

ออฟไลน์ nutabsole

  • Time heals everything.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารคริสอ่า แต่พี่ต้น...ไม่มีฉากเรียกเลือดบ้างหรอ :z1: :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 22:51:10 โดย nutabsole »

Ramika

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ยังคงอึมครึมทั้งตอนหลักและ b-side
เอาใจช่วยทั้งน้องนนท์กับน้องคริสให้ผ่านปัญาไปได้ด้วยดีค่ะ
แอบให้ความสนใจกับน้องพลอยที่ดูเป็นนางร้ายแบบใส ๆ น่าจะแรงกว่านี้อีกนิด  จิจะได้ใช้อีโมนี้ส่งให้น้องพลอยคนงามได้อย่างเต็มใจ :z6:
กอดส่งพลังค่ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0

ออฟไลน์ ღiสุดขอบiღ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-3
โอย~ อ่านเรื่องของคริสแล้วปวดตับมาก

ส่วนฝั่งนนท์ ไม่รู้ทำไม ถึงได้มีลางสังหรณ์ชั่วแวบ ว่าไม่ใครก็ใคร จะหายไปตลอดกาลเลยนะ เฮ้อ....ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย ถึงจะชอบอ่านซีนกระชากอารมณ์ แต่อิเจ๊ไม่นิยมบริโภกมาม่าตอนจบนะคะ TOT

keang

  • บุคคลทั่วไป
คริสไปต่างประเทศเลย
เจอของไซต์ใหญ่กว่าคนเอเชียเยอะ  o17

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด