A 118
“พลอยไม่ได้เป็นคนเริ่มบอกคุณป้าก่อนนะ นนท์”
“อ้าว แล้วมันยังไงอะ ก็แม่นนท์เค้าบอกว่าพลอยเป็นคนบอกเค้าเองนะ” ผมถามด้วยความงุนงง นี่เราสองคนเอาแต่พูดวนไปวนมากันแบบนี้ ไม่ไปถึงไหนสักทีมาได้ราวห้านาทีแล้วนะ
“ก็พลอยบอกแล้วว่าคุณป้าเค้าคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ นนท์ หรือนนท์เองอาจจะเข้าใจผิดไม่ก็ฟังมาไม่ดีเองรึเปล่า” พลอยยืนยัน “พลอยแค่เห็นคุณป้าเค้าเครียดๆ แล้วเค้าก็ถามพลอยเรื่องของโจ แถมยังมาถามๆพลอยเรื่องของนัทด้วยนะ วันนั้นคุณป้าเค้าพูดอะไรงงๆชอบกลน่ะ พลอยก็เลยรู้ว่าเค้าคงมีเรื่องไม่สบายใจ พลอยก็เลยถามไปว่าเป็นเรื่องของนนท์ใช่มั๊ย”
“อ้าว แล้วทำไมพลอยถึงต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องนนท์ด้วยล่ะ”
“แหม ก็นะ นนท์ ใครมาได้ยินแบบพลอย เห็นแบบพลอยตอนนั้น แล้วยังดูไม่ออกว่าคุณป้าเค้ากำลังเครียดเรื่องนนท์ก็โง่เต็มทีแล้วล่ะ”
“อะ.....” ผมสะอึกไปนิดหน่อย “โอเคๆ แล้วไงต่อล่ะ”
“ก็แค่นั้นแหละ ที่เหลือก็อย่างที่พลอยบอกไปแล้วไงว่า คุณป้าเค้าเล่าเรื่องที่ว่าเค้าสงสัยว่านัทจะคิดอะไรกับนนท์รึเปล่า แล้วพลอยเห็นคุณป้าไม่สบายใจ ก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เพราะนัทเค้าก็ดูรักนนท์ดี แค่นั้นเอง”
“แล้วเรื่องจับมือล่ะ”
“ก็นั่นก็ด้วยแหละ คือ พลอยก็ช่วยอธิบายอะ นนท์ ว่านัทเค้าจับมือนนท์เดินด้วยนะ คือแบบ ก็ดูรักกันดี ไรงี้อะ ดูปกป้องนนท์ดี ก็นนท์บอกเองไม่ใช่เหรอว่าตอนนั้นนัทเค้าจับมือนนท์เพราะเพื่อลากนนท์ออกจากคนที่มาขอเบอร์นนท์อะ”
“เรื่องนั้นมันก็จริง......” ผมพูดเบาๆ “แล้วพลอยบอกแม่นนท์ไปอย่างนั้นปะล่ะ”
“ก็บอกนะ......”
“หืออ ‘ก็บอกนะ’ เหรอ”
“ก็ใช่..... แหมมม นนท์ นนท์คิดว่าพลอยจะเชื่อที่นนท์พูดโดยไม่คิดอะไรเลยจริงๆเหรอ พลอยเป็นคนเห็นแบบนั้นเข้ากับตาเลยอะนะ แถมคนเราอะ ถ้าเกิดจะหาเรื่องเดินออกมาจากสถานการณ์แบบนั้นจริง ก็ไม่เห็นจะต้องจับมือเลยเหอะ วิธีอื่นก็มีเยอะแยะไป” พลอยอธิบายด้วยเหตุผลที่ผมเองก็โต้แย้งไม่ได้ “ว่าแต่นนท์เหอะ สรุปว่านนท์เป็นแฟนกับนัทจริงๆรึเปล่า”
ผมอึ้งไปอีกครั้ง และหันไปมองหน้านัทที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาของเราสองคนอยู่อย่างขอความช่วยเหลือ ซึ่งเขาก็ส่ายหน้าให้กับผมเบาๆ
“เปล่า ไม่ได้เป็นจริงๆ”
“แน่ใจนะ..... จะว่าไป แล้วนี่นัทอยู่ไหนเนี่ย อย่าบอกนะว่ากำลังนั่งฟังที่เรากำลังคุยกันอยู่ด้วยเนี่ย เพราะพลอยรู้สึกเหมือนนนท์กำลังเปิดสปี๊คเกอร์เลย”
ผมถึงกับสะดุ้งเบาๆเพราะลางสังหรณ์อันเฉียบคมของพลอย
“เปล่าๆ นนท์เปิดสปี๊คเกอร์อะ จริง เพราะนนท์นอนคุยอยู่บนเตียงไง ไม่อยากถืออะ มันเมื่อย”
“แล้วโจล่ะ ยังอยู่บ้านนนท์อยู่รึเปล่า” น้ำเสียงของพลอยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เปล่า.......” ผมตอบสั้นๆ “เอาเถอะ ถ้าไงนนท์ไปนอนก่อนนะ พลอย นนท์เริ่มปวดหัวแล้วอะ เดี๋ยวว่าจะกินยานอนแล้ว”
“อ้าว นนท์เป็นไรอะ ไม่สบายเหรอ”
ผมลืมไปเสียสนิทว่าพลอยยังไม่รู้เรื่องที่ผมไปนอนโรงพยาบาลมา และผมก็ไม่อยากให้เขารู้ด้วยเหมือนกัน
“เปล่าหรอก ก็แค่เป็นไข้นิดหน่อยอะ ถ้างั้นแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ”
“โอเคๆ ดูแลตัวเองมากๆแล้วกันนะ นนท์”
“อืออ ขอบใจมาก” ผมพูดปิดท้ายก่อนจะกดปุ่มวางสายลง
“คิดว่าไง......” นัทถามขึ้นทันทีที่เสียงของพลอยถูกตัดไป
“ไม่รู้ดิ......” ผมบอกตามตรง “จริงๆมันก็ฟังดูน่าเชื่ออยู่นะ”
“ก็จริง” นัทพยักหน้าเห็นด้วย “แต่นัทก็ยังไม่เห็นเหตุผลจริงๆที่ว่าทำไมพลอยถึงต้องบอกแม่ของนนท์เรื่องของเราเลยว่ะ ไม่รู้ดิ สำหรับนัทมันฟังดูน่าเชื่อในระดับนึงนะ แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดีอะ”
“เฮ้ยยย นัทคิดมากไปป่าวว นัทอาจจะระแวงหรือไม่ไว้ใจพลอยไปเองก็ได้มั๊ง ตัวเองยิ่งชอบคิดมากอยู่แล้วด้วยเหอะ”
“นัทไม่ได้ระแวงเว้ย แต่นัทก็แค่ไม่ชอบใจเท่านั้นเอง เพราะอย่างน้อยๆถ้าพลอยไม่พูดเรื่องของเราออกไป นนท์ก็คงไม่ต้องเป็น...... แบบนั้น”
“แต่ก็เพราะนนท์ทะเลาะกับแม่ไม่ใช่รึไง ที่ถึงได้ทำให้เราสองคนคบกันแบบเปิดเผยต่อหน้าแม่ได้แบบนี้อะ”
“มันก็ใช่ แต่.......” นัทมองหน้าผมด้วยแววตาเศร้าๆ “นัทว่ามันไม่คุ้มเลย”
“นนท์ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ก็นัทเป็นคนบอกเองนี่หว่า” ผมเริ่มนิ่วหน้า
“ก็ใช่ เรื่องนั้นมันก็จริง...... แต่ถ้าเป็นไปได้ นัทก็อยากให้เราเลือกทางเดินที่มันปลอดภัยกว่านี้อะ ไม่ใช่ปล่อยให้นนท์เจอเรื่องแรงๆแบบนั้นโดยที่นัททำอะไรไม่ได้เลย และนี่ยังโชคดีที่นนท์ตื่นขึ้นมาแล้วเป็นปกติดีด้วยนะ ถ้าเกิดว่าหนักกว่านี้ นัทอาจจะเสียนนท์ไปเลยก็ได้ นัทกลัว นัทไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
“แต่นนท์ก็ไม่ได้เป็นไรนี่” ผมกุมมือของเขาเอาไว้ “อย่าคิดมากเลยน่า...... อะไรวะ ทั้งๆที่นนท์ต้องเป็นฝ่ายคิดมากแท้ๆนะเนี่ย”
เขายิ้มเจื่อนๆ “โทษที แต่นัทคิดเพราะเป็นห่วงนนท์จริงๆนะ มันอดไม่ได้นี่หว่า....... ว่าแต่เมื่อกี๊นนท์บอกว่าปวดหัวอะ ปวดจริงรึเปล่า”
ผมพยักหน้า “ก็นิดหน่อยอะนะ”
“งั้นนนท์นอนเถอะ กินยาเข้าไปแล้วเดี๋ยวก็คงง่วงแล้วล่ะ นัทไปนั่งเล่นในห้องนัทดีกว่า จะได้ไม่กวนนนท์”
“ไม่กวนหรอก” ผมรั้งเขาเอาไว้ “นัทรอจนกว่านนท์จะหลับแล้วค่อยไปได้ป่าว”
เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมไม่เคยเบื่อรอยยิ้มเขาเลยจริงๆ
“โอเคๆ”
ผมค่อยๆเอนตัวลงนอนในขณะที่นัทเดินไปปิดไฟ จากนั้นเขาก็เดินกลับมานั่งอยู่ข้างๆเตียงแล้วกุมมือของผมเอาไว้ ผมหลับตาลง แล้วจึงค่อยๆจมดิ่งสู่ความฝันอย่างช้าๆ โดยที่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือของเขาอยู่ตลอดเวลา.......
นัทเดินออกจากห้องของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่เมื่อผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเช้า เขาก็ไม่อยู่ในห้องของผมแล้ว แต่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอนอยู่แล้วล่ะนะ ผมนอนพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลลลลลลล.... อึ๊ดดดดดดดดด อืออออออ......” ผมบิดขี้เกียจใส่คนที่โทรมาปลุกผม
“ตื่นได้แล้ววว นนท์ นอนเยอะไปละนะเว้ย” นัทพูดอย่างอารมณ์ดี “กรุงเทพหายไปค่อนเมืองแล้วเว้ย ลุกๆๆได้แล้ว”
“เว่อร์ๆๆละ สาสสสสส” ผมหัวเราะเบาๆ “และนี่อยู่ไหนเนี่ย”
“อยู่หน้าห้องแล้วเนี่ย เปิดประตูให้หน่อย เร็ว”
“อือๆ” ผมกดวางสายลง จากนั้นก็ลุกออกจากเตียงและเดินไปเปิดประตูรับเขาเข้ามาในห้อง ทันทีที่เขาปิดประตูตามหลังตัวเองลง เขาก็รวบตัวของผมเข้าไปกอดและหอมแก้มผมทันที
“ปวดหัวรึเปล่า”
ผมส่ายหน้า “ไม่อะ ไม่มากแล้ว”
“แปลว่ายังปวดอยู่อะดิ”
“ก็มึนๆนิดนึงอะ”
“นี่มันปวดหัวเพราะไม่สบาย หรือมึนเพราะนอนเยอะไปกันแน่วะเนี่ย” เขาเคาะหัวผมเบาๆ “ไปเหอะ ไปกินข้าว แล้วจะได้กินยา นนท์ต้องกินยาให้ครบสามมื้อนะ”
“อือออ”
“งั้นก็ไป ไปอาบน้ำ” เขาตีก้นผม “แหมมมเว้ยยยย มันเด้งดีจริงๆ!”
“ทะลึ่ง!!” ผมยกขาขึ้นเตะเขา ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องไป
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ เราก็ลงมานั่งกินข้าวด้วยกันที่ชั้นล่าง และเขาก็เล่าให้ผมฟังด้วยว่าเมื่อเช้าวายุโทรมาหาเขา และถามเรื่องไปทะเลว่าจะเอายังไง เขาก็เลยอยากจะปรึกษาผมก่อน ว่าเราจะบอกพวกเขาทุกคนเรื่องที่ผมเขาโรงพยาบาลไปคืนนึงดีมั๊ย แล้วก็จะปรึกษาเรื่องที่จะขอแม่ของผมไปทะเลอีกครั้งด้วยเช่นกัน
“นนท์จะคิดมากมั๊ย จะกังวลรึเปล่า จริงๆเราไม่ต้องบอกพวกมันก็ได้นะเว้ย.......”
ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง เอาจริงๆผมก็รู้สึกอายกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่เหมือนกัน แต่พวกเขาทุกคนก็เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ และเราก็ยังต้องรู้จักกันไปอีกนาน การที่พวกเขารู้เอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้มันก็อาจจะดีกว่าก็ได้
“ไม่เป็นไร บอกไปเถอะ ถ้าแค่พวกเราแค่นี้ ก็ไม่เป็นไรหรอก”
“แน่ใจนะ” เขาถามย้ำอีกครั้ง “ถ้างั้นนนท์อยากจะบอกเองรึเปล่า หรือจะให้นัทเป็นคนพูด”
“นัทพูดไปเหอะ นนท์รู้สึกแปลกๆว่ะถ้าให้พูดเองอะ”
“อือออ ถ้างั้นก็ได้.......” เขาพยักหน้าเบาๆ “เอาจริงๆ เมื่อกี๊พอไอ้ยุมันรู้ว่านัทมานอนอยู่กับนนท์ มันก็งงๆแล้วก็ถามใหญ่เลยว่าอะไรยังไง แต่นัทก็ไม่รู้จะเริ่มอธิบายยังไงอะว่ะ เลยตัดๆสายไป นี่แม่งก็คงกำลังเคืองๆนิดๆแหงๆ หาว่านัทมีอะไรปิดบังมันอะ ถ้าบอกมันไปเลยแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน จะได้สบายใจกันให้หมดทุกคน ว่าแต่นนท์เองเหอะ สบายใจแน่รึเปล่า”
“แน่น่าาาา ก็ถ้าต้องโกหกพวกมัน นนท์ก็คงไม่สบายใจกว่านี้อีกอะว่ะ บอกๆไปเหอะ นนท์ไม่คิดไรหรอก”
แต่พอหลังจากที่นัทบอกวายุเรื่องของผมไปปุ๊บ พอผมรู้ตัวอีกทีในตอนบ่าย ห้องนอนของผมก็อัดแน่นเต็มไปด้วยเพื่อนของเราในกลุ่มแบบครบทุกคนอย่างน่าประหลาดใจ พวกเขาทุกคนนัดรวมตัวกันมาเยี่ยมผมได้อย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ไวและพร้อมหน้ากันขนาดนี้ ใจนึงผมก็รู้สึกดีใจมากอยู่หรอกนะที่เขาเป็นห่วงผมกันมาก แต่อีกใจผมก็รู้สึกอึดอัดอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน เพราะผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองป่วยหรือไม่สบายอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“ว่าแต่นั่นกระเป๋าอะไรวะ ไอ้เคน นี่พวกมึงจะไปไหนต่อหลังจากนี้วะเนี่ย” นัทชี้ไปยังกระเป๋าของเคนที่วางอยู่มุมห้อง
“อ๋อออ เดี๋ยวคืนนี้กูจะไปนอนบ้านไอ้เจย์อะว่ะ”
“ไปทำไมวะ” นัทสงสัย
“ก็อีกสองวันจะถึงวันเกิดพี่แม็ทแล้วไง แต่วันนั้นแม่กูเค้าไม่ว่างไปส่งกูที่บ้านไอ้เจย์อะ พี่เค้าก็เลยชวนกูไปนอนด้วยกันตั้งแต่วันนี้เลย”
“พวกมึงก็ด้วยนะเว้ย วันนั้นก็อย่าลืมไปกันด้วยอะ” เจย์พูด
“ว่าแต่มึงขอแม่ยัง ไอ้นนท์” ตี๋เล็กหันมาถามผม
“ยังเลยว่ะ.......” ผมส่ายหน้า ที่จริงเจย์ก็เคยบอกผมเรื่องงานวันเกิดพี่ชายของเขามาตั้งแต่ก่อนเราจะปิดเทอมแล้วล่ะนะ แต่ผมเห็นว่าผมเพิ่งจะขอแม่ไปเที่ยวทะเลอยู่หยกๆ ก็เลยยังไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกไป และแถมเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมก็เพิ่งจะทะเลาะกับแม่ไปอีก ผมเลยลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท “มันก็อะไรหลายๆอย่างว่ะ กูเลยลืมไปซะสนิทเลย นี่ยังมีเรื่องไปทะเลอีกนะเนี่ย ที่กูยังไม่ได้คำตอบจากแม่เลยอะ”
“เอออ กูว่าแม่มึงเค้าคงจะเป็นห่วงมึงและไม่อยากให้มึงไปยิ่งกว่าเดิมแน่ๆเลยว่ะ ไอ้นนท์...... เอาไงดีวะ พวกมึง” วายุพูดเครียดๆ
“เฮ้ยยย ถ้ากูไปไม่ได้ พวกมึงก็ไปกันเหอะ อย่าเอากูเป็นตัวถ่วงเลย”
“ไม่ได้!” ทุกคนพูดขึ้นพร้อมๆกัน
“มึงไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงอะไรเลย ไอ้นนท์” เจย์หันมาแยกเขี้ยวใส่ผม “เดี๋ยวจะโดนเขกกบาล ไอ้สาสสสสส”
“ช่ายๆๆ เราไปไหนไปด้วยกันเว้ย” ป๊อปเห็นด้วย
“กูว่าแทนที่เราจะมานั่งคิดไปเอง เราลองขอแม่นนท์ดูก่อนจะดีกว่ามั๊ยวะ พอได้คำตอบว่าไม่ได้จริงๆ แล้วค่อยคิดต่อว่าจะเอายังไง” คริสเสนอ
“เออ จริงว่ะ งั้นเย็นนี้เรารอแม่ไอ้นนท์กลับมาแล้วช่วยกันพูดเลยดีมั๊ยวะ พวกมึง” ป๊อปเสนอความคิดขึ้น
“นี่ไง เดี๋ยววันนี้พ่อมึงเค้าจะมารับมึงใช่มั๊ย ไอ้เจย์ มึงก็ให้พ่อมึงลองมาคุยด้วยเลยดิว่ะ” เคนพูด “เรื่องวันเกิดพี่แม็ทด้วยอะ”
“พ่อกูด้วย เดี๋ยววันนี้กูให้ป๊าเมฆลงมาช่วยพูดตอนมารับกูด้วยเลยดีกว่าว่ะ” วายุเสนอขึ้นอีกคน
“เฮ้ยๆๆๆ พวกมึงง มันจะเป็นเรื่องใหญ่ไปป่าววะเนี่ยยย” ผมปราม
“ไม่ใหญ่เว้ย!!” พวกเขาประสานเสียงกันอีกครั้ง
“ลองดูก่อนเว้ย ไอ้นนท์ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลยนี่หว่า ยังไงตอนนี้แม่มึงเค้าก็คงไม่กล้าว่าอะไรมึงอีกแล้วอยู่ดีล่ะวะ กูว่า” ตี๋เล็กพูด
“ช่ายยยย ไปเหอะเว้ยยๆ ไปให้ได้ๆๆ ไปไม่ได้ก็หนีออกจากบ้านแม่งเล้ยยยย” ป๊อปพูดเสริม
“เยอะไปๆ ไอ้ป๊อป สาสสส” วายุแย้ง
“แต่.......”
“ปล่อยพวกมันไปเหอะ นนท์” นัทวางมือลงบนไหล่ของผม ก่อนจะหันไปหาเพื่อนคนอื่นๆ “แต่พวกมึงต้องพูดต้องทำให้มันดีๆนะเว้ย ถ้าใครทำให้นนท์โดนแม่ด่าหรือทะเลาะกับแม่อีกล่ะก็ มึงโดนกูแน่”
“คร้าบบบบ พ่อองค์รักษ์ใหญ่ สาสสสสสส พอแม่ไอ้นนท์รับได้แล้วล่ะก็ออกหน้าออกตาปกป้องลูกสะใภ้เต็มที่เชียวนะ” ป๊อปแซว “เฮ้ยย หรือว่าลูกเขยวะะะะ”
“ส้นตีนแน่ะ!! ไอ้หัวขวด!!!” นัทยกเท้าขึ้นถีบยอดอกป๊อปจนเขากลิ้งตกลงจากเตียงดังโครม!
จะอย่างไรก็ตาม ในตอนเย็น หลังจากที่แม่กลับมาถึงบ้าน พวกเขาเหล่านี้ก็ช่วยกันพูดขออนุญาตทั้งเรื่องไปบ้านของเจย์และเรื่องไปเที่ยวทะเลให้กับผมจริงๆ สำหรับเรื่องไปบ้านของเจย์นั้นแม่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากและยอมตอบตกลงอย่างไม่ยากเย็น แต่พอเราคุยกันถึงเรื่องไปทะเล แม่ก็พูดแสดงความเป็นห่วงออกมาอีกอย่างที่ผมคาดเอาไว้ แต่พอพ่อของเจย์มารับ และช่วยพูดด้วยอีกคน ตบท้ายด้วยปะป๊าของวายุที่มาแนะนำตัวทำความรู้จักกับแม่ ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแม่ว่า ผมและพวกเราทุกคนจะอยู่ในการดูแลของผู้ใหญ่ตลอดเวลาและจะต้องปลอดภัยแน่นอน สุดท้าย แม่จึงอนุญาตให้ผมไปได้จริงๆ
ทั้งผม นัท และทุกคนต่างก็ดีใจกันมากที่ในที่สุดเราทุกคนก็จะได้ไปเที่ยวพร้อมกันอย่างที่หวังเอาไว้ แต่คราวนี้ปัญหาที่เหลืออยู่ในใจของผมที่ทุกคนยังไม่รู้ และแม้แต่ผมยังเคยลืมคิดถึงมันไปช่วงหนึ่ง ก็เหลือเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น......
“นนท์......” แม่เรียกให้ผมหยุดก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนห้องพร้อมกับนัท ซึ่งตอนนี้เพื่อนทุกคนของผมต่างก็กลับไปกันหมดแล้ว “แม่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย แป๊บนึงนะ”
“งั้นนัทขึ้นไปข้างบนก่อนนะ” นัทหันมาพูดกับผม ก่อนจะเดินจากไป
“มีอะไรเหรอครับ” ผมเดินไปหาแม่
“นนท์แน่ใจนะว่านนท์อยากไปกับเพื่อนน่ะ”
ผมก็คิดเอาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นเรื่องนี้ “ครับ.... นนท์อยากไป”
“นนท์ไม่กลัวหรือกังวลอะไรนะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ แม่ นนท์ไม่เป็นไรหรอก นนท์ดูแลตัวเองได้”
แม่ยังมีสีหน้าข้องใจ “แล้วเพื่อนๆรู้รึเปล่า”
ผมส่ายหน้า “......แต่นนท์ตั้งใจว่าจะบอกพวกมันตอนไปนอนที่บ้านเจย์ครับ”